“สวัสดีค่ะคุณเชนทร์” ผู้จัดการวัยสี่สิบวิ่งมาทักทายทันที เพราะคิดว่าคเชนทร์กำลังคาดโทษนึกศึกษาฝึกงานแน่ๆ
“ผมไม่ได้เรียกคุณ มีอะไร” คเชนทร์หันไปต่อว่าผู้จัดการทันที“คือ แกเป็นเด็กที่แผนกค่ะ แกทำอะไรผิดหรือเปล่าคะ” “พรุ่งนี้เจอกันเก้าโมง ขึ้นไปบนห้องผม หรือจะห้องพ่อเลี้ยงก็ได้เลือกเอา” คเชนทร์ว่าเสียงเข้มและดุไม่เลิก “เอ่อ ค่ะ” ผู้จัดการรับคำด้วยน้ำเสียงสั่นๆ พลางก้มหน้า หัวใจเต้นตุบๆ เลยทีเดียว เพราะไม่รู้ว่าเจ้านายคนนี้จะพานโกรธอะไรบ้าง และเมื่อเธอรับคำเสร็จ เขาก็ปลีกตัวเดินจากไปทันที ทิ้งความกดดันน่ากลัวเอาไว้ให้ผู้จัดการและ มิลิน“เราทำอะไรเหรอมิลิน”“มิ้ลเปล่าค่ะ มิ้ลแค่เดินชนท่าน” “คงไม่เท่านี้หรอกมั้ง พรุ่งนี้เตรียมตัวเลย” ดุเสร็จผู้จัดการก็เดินหนีไปอีกคน เพื่อจะได้กลับบ้าน ส่วนมิลินน่ะหรือตั้งใจสุดๆ ที่จะออกมาเดินชนคเชนทร์น่ะสิ เพื่อที่จะได้เจอเขาอีกครั้ง แต่ไม่คิดว่าจะเป็นคนดุ ทว่าเซ็กซี่ชะมัดเลยยิ่งดุยิ่งเท่ ไม่รู้“เสียของ อุตส่าห์ตั้งใจทำสุดฝีมือเชียว”“ไม่ได้ เอ่องั้น ชิมไข่เจียวก็ได้ค่ะ ไข่เจียว แก้เค็ม ไม่ต้องกินผัดผักแล้ว” เธอยิ้มออกมาได้บ้าง ก่อนจะนำเสนอไข่เจียว เขาก็ทำตามใจด้วยการตักไข่เจียวเพื่อจะได้มาเบรคความเค็มของผัดเสียก่อน จากนั้นก็ตักใส่ข้าวแล้วเอาเข้าปาก แต่ทันทีที่เคี้ยวไปไม่กี่ครั้งเท่านั้น เขาก็ขมวดคิ้วชักสีหน้าอีกรอบ และทำให้เธอขมวดคิ้วตาม“ไงคะ ไม่เค็มแล้วใช่ไหม” เธอถามแบบลุ้นๆ เขาก็ส่ายหน้าและยิ้ม แล้วก็ตักกินไปเรื่อย เธอก็โล่งใจกินตามทันที จนได้ชิมไข่เจียวตัวเอง พลางมองหน้าเขาอีกรอบ“ขม” เธอว่า ส่วนเขาก็ยักคิ้วและยิ้ม ก่อนจะเอาช้อนพลิกไข่เจียวอีกด้านขึ้นเล็กน้อย ซึ่งมันก็คือด้านที่ไหม้นั่นเอง“พี่เชนทร์ ไหม้นิดหน่อยไม่คิดว่าจะขม เจ้าขาขอโทษ”“ขอโทษเรื่องอะไรครับ”“ไม่ได้เรื่องสักอย่างเลย ไข่เจียวก็ขม ตั้งกระทะไว้นานไปหน่อย”“หึๆ ไม่เป็นไรเลย”“พี่เชนทร์บอกเจ้าตรงๆ สิคะ ไม่ต้องพูดเอาใจ
“เจ้าทำกับข้าวรอพี่เชนทร์ค่ะ ทำเค็มไปหน่อย แต่พี่เชนทร์ก็ไม่หยุดกินซะทีจนจะหมดอยู่แล้ว” จันทรภาตอบออกมาเสียเลย ถึงว่าเธอดูหม่นๆ แสนลักษณ์คิด และยิ้มด้วยความเอ็นดู“ดื่มน้ำเยอะๆ เดี๋ยวคอแห้ง” พ่อเลี้ยงแซวและยิ้ม“เอาไว้เรามาฝึกทำอาหารด้วยกันนะคะพี่เจ้า” มนัสวีเอ่ยขึ้น อย่างน้อยจะได้ไม่เหงา และถ้าอยากดูแลคเชนทร์จริงๆ ก็ต้องจริงจัง“ช่วงนี้ถ้าเหนื่อยจากงาน ทำอะไรไม่ไหวก็แวะมาฝากท้องที่นี่ ไม่มีใครว่าอะไรสักหน่อย” พ่อเลี้ยงบอกกับคเชนทร์“ไม่เป็นไรครับ ผมทำได้ แค่ไม่อยากให้เจ้าขาลำบาก”“เจ้าไม่ได้ลำบาก เจ้าแค่อยากทำอะไรบ้าง รู้ว่าไม่อร่อย”“มาฝึกกับน้องวีเดี๋ยวก็เก่ง เมื่อก่อนน้องวีก็ไม่ได้เก่งหรอก แต่ขยันทำ” แสนลักษณ์เสริมขึ้น และมองคเชนทร์ด้วยความเอ็นดูเช่นเคย“กินได้แล้ว เลิกงานมาเหนื่อยๆ” แสนลักษณ์เอ่ยกับคเชนทร์อีกครั้ง จากนั้นทุกคนจึงตั้งหน้าตั้งตารับประทาน แน่นอ
งานบ้านงานครัวไม่ได้เรื่อง ทำไม่เป็น คเชนทร์ต้องทำให้ ล้างจานก็แพ้น้ำยาล้างจาน จะไปเป็นแม่บ้านแม่เรือนให้ใครได้ แม้กระทั่งภรรยาพ่อเลี้ยงแสนลักษณ์ยังเก่งกว่าเธอเลย“เฮ้อ” จันทรภาถอนหายใจ จังหวะเดียวกันนั้นก็มีมือหนาเอื้อมมาจับมือเธอเอาไว้ แล้วเปิดก๊อกน้ำเพื่อล้างมือให้ จันทรภาได้แต่หันไปมอง ในขณะที่คเชนทร์วางเฉยเหมือนเป็นเรื่องปกติ ล้างให้เสร็จก็เอาผ้าเช็ดมือมาเช็ดน้ำออกให้ พร้อมกับเอามือลูบตรงฝ่ามือและหลังมือ“มีอะไรคะ พี่เชนทร์เช็กอะไร”“มือแห้งหมด ไม่ต้องทำแล้ว ไปอาบน้ำนะ เดี๋ยวพี่ล้างต่อ”“พี่เชนทร์ไม่ต้องทำทุกอย่างขนาดนี้ก็ได้นะคะ”“ทำไมล่ะ ถ้าพี่จะดูแลเจ้าแบบนี้”“เจ้าไม่ได้รู้สึกดี พี่เชนทร์เข้าใจไหม”“เราค่อยๆ เรียนรู้ ไม่มีใครเก่งไปซะทุกอย่างหรอก อีกอย่างเราต่างที่มา พี่กับเจ้าต่างกันโดนสิ้นเชิง”“ยิ่งพี่เชนทร์พูดแบบนี้ เจ
ยังไม่ได้ทันมองความอวบอิ่มงดงามเสียด้วยซ้ำ เขาก็โอบกอดเธอเอาไว้ทั้งตัว และจูบที่ปากอิ่มอีกครั้ง ทำเอาเนินอกเบียดกับอกเขาแนบแน่นแทบจะเป็นเนื้อเดียว แม้ว่าเขาจะใส่เสื้ออยู่ก็ตาม จูบร้อนยังคงดูดดื่มหนักหน่วง ก่อนจะมอบความหฤหรรษ์ให้กับเธอ ด้วยการถอนจูบและย่อตัวลงช้าๆ พรมจูบลงมาตามเนินอกขณะที่มือของเธอสอดประคองศีรษะเขาเอาไว้และหลับตา เพราะไม่กล้ามอง มันเป็นเซ็กส์ครั้งแรกในชีวิต แต่ไม่คิดว่าตัวเองจะกล้าได้ถึงเพียงนี้ และไม่มีโอกาสได้คิดอะไรอีกแล้ว เมื่อปากร้อนทาบจูบตรงเต้าอวบเต่งตึง ก่อนที่ปากร้อนจะอ้างับที่เม็ดถัน ทั้งดูดดึง โลมเลียหมุนวนหยอกเย้าหนักหน่วง สลับกันไปมาทั้งสองข้าง โดยมีมือหนาประคองเต้าอวบเอาไว้“ซี๊ด อืม พี่เชนทร์” เธอครางออกมาอย่างแผ่วเบา และทนต่อการปลุกเร้าของเขาไม่ไหว ร่างกายร้อนรุ่มและสั่นเทิ้ม จนอยากจะให้เขาเร่งเร้าครอบครองไปทั้งตัวแต่โดยเร็ว ทว่าราวกับเขาได้ยินเสียงในหัวใจ เพราะปากร้อนขยับทาบจูบลงไปตามหน้าท้อง มือหนาก็รูดกางเกงทั้งหมดลงไปตามปลีน่องช้าๆ เธอรู้สึกเย็บเฉียบไปทั้งบั้นท้าย เมื่อได้สติว่ามันเปลือยเปล่า แ
“เจ็บ เจ็บมากค่ะ แต่พี่เชนทร์ขยับสิคะ” เธอบอกด้วยน้ำเสียงเดียวกัน เขาจึงเริ่มต้นขยับสะโพกเข้าออก บดเบียดเนื้อกายเข้าหากัน“ซี๊ดดดด อืม ทูนหัว” เขากระซิบเสียงพร่าพลางเอาหน้าผากแตะกัน แล้วหยุดขยับนิดหน่อยเพราะกลัวเธอเจ็บ“หายเจ็บหรือยัง”“เจ็บค่ะ ยังเจ็บอยู่ แต่ไม่ฝืดแบบเมื่อกี้แล้ว”“พี่รักเจ้า พี่จะรักเจ้าแล้วนะ”“อืม ค่ะ” เธอตอบเสียงพร่า ขณะที่เขาขยับสะโพกเคลื่อนไหวเข้าออกเส้นทางรัก จากเชื่องช้าเพราะกลัวเธอเจ็บ ค่อยๆ ทยานสู่ความหนักหน่วง เร่าร้อน และกระแทกกระทั้นจนหายใจไม่ทันสะโพกหนาเคลื่อนไหวพาท่อนกายพุ่งทะยานเข้าออกระรัวเร่ง จนทุกอย่างง่ายดายขึ้น ร่างกายหลวมรวมเป็นคนเดียวกัน เคลื่อนไหวตอบรับจังหวะรุนแรงตามด้วยเสียงหายใจหอบกระชั้น และปกปิดเสียงครางเอาไว้ด้วยการบดขยี้จูบ“อืม” เขาครางในลำคอพลางกระแทกสะโพกระรัว จนโซฟาเบดสั่นไหว ร่างน้อยที่โถมทับอยู่ ถึงกับเอามือ
“แล้วพี่เชนทร์ล่ะ” เธอถามกลับด้วยน้ำเสียงเดียวกัน“หิวน้ำหวาน จะลงไปกินให้เกลี้ยงเลย” สิ้นคำเขาจูบที่ปากนุ่มก่อนจะซุกไซ้ใบหน้าตามพวงแก้มและซอกคอ โลมเลียปลายลิ้นสัมผัสลงมาจนถึงเนินอก ขณะที่เธอปล่อยมือจากท่อนเนื้อแกร่งแล้ว เพื่อให้เขาได้ลงไปดูดกินน้ำหวานที่กำลังไหลออกมาจากกลีบกุหลาบช่องามอย่างมากมาย“อืม พี่เชนทร์ขา” เธอครางหวานแผ่วเบา เมื่อเขาส่งปลายลิ้นโลมเลียเต้าอวบสลับกันไปมาทั้งสองข้าง ก่อนจะดุนดันปลายลิ้นเลียเม็ดถัน แล้วจึงอ้าปากโอบอุ้มเม็ดถันเข้าไปไว้เต็มปาก ดูดดึงโลมเลียคำโตจนเธอสะท้านบิดเกร็ง พลางแอ่นกายขึ้นลงด้วยความเสียว เคยเห็นแต่ในคลิปทว่าเกิดมาถึงเคยได้สัมผัส มันเร่าร้อน เสียวจนทนไม่ไหว ทำไมต้องร้องครวญครางไม่หยุดตามด้วยเสียงหายใจหอบ ขณะที่มือเรียวนุ่มกดศีรษะเขาเอาไว้แล้วแอ่นเนินอกให้เขาได้โลมเลียอย่างไม่กระดากอาย ลืมสิ้นไปหมดทุกสิ่งทุกอย่าง และหลับตาล่องลอยไปกับบทรักของเขาด้วยความเต็มใจกระทั่งเขาขยับตัวลงไปจนถึงหน้าท้องแบนราบ ที่ขยับไหวจากแรงหายใจหนัก
จากที่เสร็จสมอารมณ์รักไปล่วงหน้าเขาหนึ่งยก ความต้องการมันก็ก่อเกิดขึ้นอีกครั้ง ทุกจังหวะของการเคลื่อนไหวเข้าออก ทั้งเจ็บและเสียวระคนกัน สองกายหลอมรวมบดเบียดแนบแน่นเป็นเนื้อเดียว พลางกอดรัดกันเอาไว้ราวกับกลัวจะหลุดลอยเมื่อร่างกายเคลื่อนไหวเข้าหากันอย่าหนักหน่วง เสียงหายใจหอบและเสียงร้องครวญครางก็ดังสลับกัน สะโพกแกร่งนำพาท่อนเนื้อพุ่งเข้าออกทางรักระรัว กระแทกกระทั้นจนคนใต้ร่างสั่นไหว เสียวซ่านทุกจังหวะ“ซี๊ด! โอ้ว เจ้าขา พี่เชนทร์เสียวเหลือเกิน” เขาถอนจูบออกมาเอ่ยด้วยความกดกลั้นไม่ไหว“เจ้าขาก็... อ๊ะ! อื้อ” เธอครางออกมาพลางหลับตาเอาไว้ด้วยความขัดเขิน พร้อมกับเอามือกอดเอาเขา กระดกเด้งแอ่นสะโพกเข้าหาแท่งร้อน“มองหน้าพี่ทูนหัว” เขาบอกเสียงหอบพร่า ก่อนจะเอามือประคองใบหน้าเธอให้หันมา ซึ่งเธอก็ลืมตามองเขาเช่นกัน และชั่วครู่เขาก็ก้มลงจูบอีก “พี่รักเจ้า พี่รักเจ้านะคนดี” เป็นครั้งที่เขาเสียวซ่านเกินจะทนแล้วเอ่ยคำรักออกมาให้เธอได้ยิน“เจ้าก็รักพี่เ
“อยากจูบทั้งคืน ไหวไหม หืม” เขากระซิบที่ข้างหู“ทำไมหื่นเลยจังเลยค่ะ” เธอตอบอย่างเอียงอาย“นานๆ มีคนอยากจะหื่นด้วยน่ะ ก็ไหนบอกว่าอยากถูกสัมผัสทั้งคืนไง”“พี่เชนทร์ไม่เหนื่อยเหรอคะ”“ได้ทั้งคืน” สิ้นคำเขาก็พรมจูบที่ไหล่มนๆ อย่างเอาใจ“จะใช้ถุงยางที่ซื้อมาให้หมดเลย”“หึๆ ไม่รีบขนาดนั้นก็ได้ค่ะ”“พี่กลัวหมดอายุน่ะ ว่าแล้วก็อีกรอบสัก” สิ้นคำเขาก็ทำท่าจะขยับ“อุ้ย! พอก่อน ยังเพลียอยู่เลยค่ะ”“แค่นอนเฉยๆ พี่จะจูบเจ้าให้ครางลั่นห้อง ยันเช้าเลย” เขาไม่ได้พูดเล่นหากแต่จูบตรงแก้ม ซอกคอ หัวไหล่ ขณะที่มือหนาก็ลูบไล้ตรงทรวงอก บีบเคล้นอย่างเบามือ ก่อนจะเคลื่อนลงไปลูบไล้ตรงกลีบเสียว นวดคลึงเบาๆ กระตุ้นให้เธอเสียวอีกครั้ง และแน่นอนว่าเขาจะไม่ยอมให้เธอหลับนอน จะบรรจงจูบซับไปทั้งตัว ฝังลิ้นเลียร่องรักให้เธอเสียวจนต้องร้องคราง บ
“ไม่คิดว่าจะมา” แสนลักษณ์เอ่ยเบาๆ“หัวใจของวี หัวใจไม่อยู่วีก็ไม่เป็นอันทำอะไร” “มาซะทีนะไอ้เชนทร์ พ่อมึงสำคัญมาก มึงก็ตัวสำคัญเลย” เสียงตุลยเทพดังขึ้นและด้วยความไว คเชนทร์ก็ดันทุกคนหลบ ขณะที่ตุลยเทพเดินมาหาช้าๆ ลูกน้องที่เหลือก็ตามมา“สาวๆ ไม่ต้องออกแล้ว หลบอยู่นี่” คเชนทร์บอกพร้อมกับสำรวจใบหน้าจันทรภา“เจ้าไหวค่ะ”“พี่มาแล้ว เจ้าไม่ต้องอีกแล้ว ส่วนพ่อน่ะพอแล้ว...” สิ้นคำคเชนทร์ก็มองหน้าแสนลักษณ์ด้วยดวงตาแดงก่ำ พลางสำรวจไปทั้งใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยฟกช้ำเต็มไปหมด ของจันทรภานั้นมีเพียงน้อยนิด เขาจึงใช้มือประคองใบหน้าทั้งสองคนเอาไว้“ดูแลมานาน ผมไม่เคยให้ใครถึงตัวพ่อมาก่อนเลย ไม่เคยให้ใครแตะเนื้อต้องตัว แล้วดูซิ” ไปพลางก็เอามือแตะไปพลางอยู่ๆ ก็น้ำตาคลอ“เมียแกก็ครอบครัวเรา ทำไมจะแลกไม่ได้”“ผมไม่ให้แลก ไม่ให้ใครเจ็บอีก” คเชนทร์เอ่ยเสียงเหี้ยม พลางมองออกที่ตุลยเทพ“มันใช่ไหม ที่กล้าทำให้พ่อกับ
“โอเคค่ะ หัวใจจะวาย” เธอว่าก่อนจะมองไปที่ประตูเป็นระยะทว่าช่วงเวลาเดียวกันนั้น รถเก๋งสีดำหลายคัน แล่นเข้ามาจอดบริเวณใกล้ๆ กับโกดัง พร้อมกับปิดไฟมาแต่ไกลๆ เพื่อไม่ให้เห็นและได้ยินเสียงรถ เมื่อจอดสนิทก็ต้องเดินไปอีกร้อยเมตร ดีหน่อยที่มีหญ้าขึ้นรก ทำให้อำพรางได้“นี่มันด้านข้างของโกดัง คุณวีอยู่ใกล้ผม พี่เกตุคุมหนุ่มๆ อ้อมด้านหน้า ผมจะอ้อมไปด้านหลัง” “โอเค” เกตุวดีรับคำ“เก็บเสียงด้วยนะครับ ทุกคนระวังให้พี่เกตุด้วยเผื่อป้าเค้าสายตาไม่ดี”“ไอ้เชนทร์ จะมากวนประสาทอะไรตอนนี้”“อย่าเพิ่งบ่นไปได้แล้ว” คเชนทร์แซวและก็แยกย้าย แน่นอนว่าเขาให้ทุกคนใช้อุปกรณ์สำหรับเก็บเสียง และทำให้เงียบที่สุด จากนั้นเขาก็ค่อยๆ ย่องมาทางด้านหลัง ตามด้วยมนัสวี“ไอ้พวกหางแถว เป็นขยะสังคม เด็ดไปให้หมดแผ่นดินน่าจะสูงขึ้นนะ” คเชนทร์เอ่ยเสียงเหี้ยมแต่เบา“ได้ครับนาย” ลูกน้องคนหนึ่งรับคำ ภายในโกดังมืดแทบจะไม่มีไฟ อาศัยแสงจากดวงจันทร์เท่านั้นนำทาง
“เฮียเป็นพี่จะกลัวอะไรกับพ่อเลี้ยงล่ะครับ” คเชนทร์แซว“มันด่าเก่ง ไอ้นี่ปากร้ายจะตายขี้เกียจเถียงกับมัน” ที่แท้ก็กลัวปากพ่อเลี้ยงแสนลักษณ์นี่ ก็แหงละเวลาอยู่ด้วยกันฟาดฟันกันตลอด“ว่าแต่ ไม่ให้อั้วะช่วยใช่ไหมเชนทร์”“ไม่ต้องครับ ผมจัดการเองได้เรื่องนี้จิ๊บๆ เด็กๆ ทางนี้มีเยอะ”“เฮ้อ! ไม่ช่วยก็ไม่ช่วย ขอให้ปลอดภัยก็แล้วกันทั้งแฟนลื้อแล้วก็ไอ้แสน เป็นอะไรขึ้นมาไม่รู้จะทะเลาะกับใครแล้วเนี่ย”“หึๆ ครับเฮียต้น”“อั้วะจะส่งเด็กไปเก็บกวาดให้ไม่ต้องห่วง”“ขอบคุณครับเฮีย แค่นี้ก่อนนะครับผมจะส่งข่าว”“อืม อั้วะจะรอ ดูแลตัวเองก็แล้วกันอย่าเป็นอะไร ไอ้แสนเองมันก็รักลื้อที่สุด” ยิ่งได้ยินอย่างนี้ ก็ยิ่งทำให้คเชนทร์หวาดหวั่นเหลือเกิน ต่างคนต่างไม่อยากให้ใครเจ็บ แต่แสนลักษณ์ก็เสียสละตัวเอง เพื่อเข้าไปอยู่ใกล้จันทรภาเกินไป“ครับเฮีย” สิ้นคำคเชนทร์ก็วางสายก่อน พลางสูดหายใจเข้าลึกๆแล้วรีบเข้าไปเปลี่ยนเสื
ช่วงเวลาเดียวกันนั้น หลังจากที่คเชนทร์วางสายจากนายตุลยเทพแล้วนั้น เขาก็ยืนนิ่งมองหน้าทุกคนที่รอฟังอย่างใจจดใจจ่อ“ใครก็ได้ไปเรียกคุณวีมาที” คเชนทร์สั่งเสียงเรียบ ลูกน้องคนหนึ่งจึงพยักหน้าและกำลังจะไปขึ้นเรียกบนชั้นสองแต่มนัสวีก็ลงมาพอดี“คุณวีครับ คุณเชนทร์เชิญที่ห้องนั่งเล่น”“อาแสนกลับมาแล้วเหรอคะ”“ยังครับ เชิญครับ” ลูกน้องผายมือเชิญ จากนั้นมนัสวีจึงได้เดินตาม เห็นคเชนทร์ยืนนิ่ง ทว่าหางตาของเขาเห็นแล้วว่าเธอมาจากทางขวามือ เขาจึงหันไปมองด้วยสีหน้าหม่น ก่อนจะเดินไปหาเธอช้าๆ พร้อมกับประคองให้เธอเดินมาใกล้ๆ“คุณเชนทร์ มีอะไรคะ” มนัสวีถามเสียงเครียด“พ่อเลี้ยงอยู่กับเจ้าขา” สิ้นคำของคเชนทร์เท่านั้นแหละ มนัสวีก็อึ้งไปและมองหน้าทุกคน เธอต้องตกใจมากน้อยแค่ไหนล่ะ ในเมื่อรู้ว่าสามีเก่ง แต่ก็กลัวอันตรายที่จะเกิดขึ้น“อา... อาแสนถูก...” เธออึกอักพูดไม่ออก“ครับ พ่อเลี้ยงตั้งใจให้เป็นแบบนั้น ถ้าพ่อไม่ตั้งใจใครเลยจะเอาตัวพ่อไปได้ เพราะอยากรู้
“ไง ไอ้ขี้ข้า มีคนอยากคุยด้วยแน่ะ คิดว่าคงจะอยากได้ยินใช่ไหม” สิ้นคำตุลยเทพก็ให้น้ำอิงเอาโทรศัพท์ไปให้แสนลักษณ์คุย ด้วยการแนบหูกับหัวไหล่เพื่อหนีบโทรศัพท์ จากนั้นเธอก็ถอยออกมาให้ห่าง เพราะกลัวโดนเท้ายาวๆ ของแสนลักษณ์เช่นกัน“เชนทร์” แสนลักษณ์เรียกด้วยน้ำเสียงทุ้มนุ่มขึ้น ต่างกับตอนคุยกับ ตลุยเทพโดยสิ้นเชิง เท่านั้นแหละคเชนทร์ตกใจยิ่งกว่าจันทรภาถูกพาตัวไปเสียอีก“พ่อ! พ่อ! อยู่นั่นได้ไง มันเอาตัวพ่อไปได้ยังไง” คำพูดของคเชนทร์ทำให้ทุกคนที่ฟังอยู่ตกใจเช่นกัน“อย่าทำเป็นกระต่ายตูมน่า”“ได้ไง ไอ้สี่คนนั้นปล่อยให้พ่อพาตัวไปได้ยังไง ไอ้ไก่อ่อนนั่นทำอะไรพ่อ”“ฉัน... จะไปสู้ใครได้ เอาปืนมาจี้ก็กลัวตายแล้ว ก็เลยต้องยอมเนี่ย” น้ำเสียงของแสนลักษณ์นุ่มหู แต่กวนประสาทจริงๆ เชียว“พ่ออย่ามาพูดแบบนี้นะ ตรงที่พ่ออยู่คือที่ไหนผมจะรีบไป”“ฟังนะ ฉันปลอดภัย เจ้าขาปลอดภัย ถ้าไม่อยากให้เราสองคนตายก็เตรียมเงินมาแลกก็แล้วกัน บอกเมียพ่อด้วยให้เตรียมพร้อม”
“ก็... มันปากพล่อยแล้วฉันว่าลุง ไอ้แก่ ก็เลยเอ่อ สั่งสอนนิดหน่อยให้รู้จักเด็กรู้จักผู้ใหญ่” แสนลักษณ์ตอบเสียงเรียบ และยิ้มมุมปากนิดๆ ลูกน้องคนหนึ่งจึงวิ่งเข้าไปดู และสัมผัสไปตามเนื้อตัวเพื่อดูว่าสลบหรือไม่“ลูกพี่... ไม่หายใจครับนาย ลูกพี่ตายแล้ว” ลูกน้องเอ่ยขึ้นด้วยความตกใจ“แกเป็นใครเนี่ย” ตุลยเทพถามด้วยความตกใจกลัว พลางมองไปที่ลูกน้อง“เป็นพ่อมึงไง” แสนลักษณ์ตอบเสียงเข้ม เท่านั้นตุลยเทพก็บันดาลโทสะด้วยการต่อยแสนลักษณ์ไปสองทีผัวะ! ผัวะ! แสนลักษณ์หน้าสะบัดก่อนจะหันกลับมาพร้อมกับแววตานิ่ง“อาแสน” จันทรภาเรียก เมื่อเห็นเลือดไหลออกจากปากแสนลักษณ์ ทว่าเขากลับส่ายหน้าให้เธอ แต่ในวินาทีเดียวกันตุลยเทพก็กระชากคอเสื้อแสนลักษณ์แรงๆ“ฉันถามว่าแกเป็นใคร” ตุลยเทพถามอย่างเดือดดาล“เป็นพ่อ... พ่อเลี้ยงแสนลักษณ์ รู้จักหรือยังไอ้หนู” แสนลักษณ์กล่าวและยิ้ม“มันคือพ่อเลี้ยงแสนลักษณ์ นาย เขาเป็น... เจ้าพ่อ” ลูกน้องคนหนึ่งแทรกขึ้น เมื่อจำได้แล้วและต้องตกใ
“ฉันไม่จำเป็นต้องรู้ว่าแกเป็นใคร เพราะถ้าไอ้เชนทร์มันรู้ว่าแกอยู่ที่นี่มันจะวิ่งแจ้นมาทันที” “หึๆ รู้จักกันสักนิดน่า ว่าแต่นายตุลาเป็นยังไง ฟื้นหรือยัง หืม” แสนลักษณ์ถามเสียงเรียบและยิ้มนิด ให้ตายสิ รู้เรื่องพ่ออีก“แสดงว่าพวกแกรวมหัวกับนังนั่น” สิ้นคำตุลยเทพก็หันไปมองจันทรภาก่อนจะเดินเข้าไปใกล้ๆ เธอ“ใครหนุนหลังเธอ รวมหัวกันกี่คนว่ามา ใครที่มันกล้าเปิดทางให้ขึ้นคอนโดขนาดนั้นถ้าไม่ใช่ระดับบิ๊ก ต้องมีตัวใหญ่ มันเป็นใคร” ตุลยเทพถามพลางเอื้อมมือจิกผมจันทรภา แสนลักษณ์เห็นก็ได้แต่กัดฟัน สบตาจันทรภาซึ่งเธอก็สบตากลับและไม่ตอบ“แกมันอ่อนหัดจริงๆ ด้วยไอ้พี่ตุลย์ ไม่รู้จักคนที่ตัวเองลักพาตัวมา นับประสาอะไรจะรู้จักตัวพ่อของที่นี่”“ฉันถามว่าใคร”“ก็ลองไปจับกลุ่มนั่งคิดกันอีกสักรอบ เผื่อจะคิดออกว่าฉันชื่ออะไร ทำไมเจ้าเชนทร์ถึงได้วางหัวใจเอาไว้ที่นี่ วางชีวิตเอาไว้ตรงนี้” แสนลักษณ์บอกเสียงเรียบ“ก็ดีเหมือนกัน ให้เวลาพักผ่อนมองหน้ากันไปก่อนนะ แกตัวใ
ใช้เวลาประมาณสิบนาที แสนลักษณ์ก็เดินกลับออกมา สายตาก็เหลือบมองไปที่ต้นทางนิดหน่อย ก่อนจะเดินมาที่รถทว่ากลับยืนหันหลังให้รถ พร้อมกับล้วงเอาบุหรี่ออกมาจุดสูบเสียก่อน ราวกับว่ากำลังเครียดหรือรออะไรบางอย่าง ลูกน้องทั้งหมดก็อารักขาเจ้านายเป็นอย่างดี ไม่ถามสักนิดว่าพ่อเป็นอะไรหากพ่อไม่เป็นคนเอ่ยออกมาเองแสนลักษณ์ก็พ่นควันบุหรี่ออกมาอย่างสบายใจ พลางหลับตา ทว่าจังหวะเดียวกันนั้นเขาเอี้ยวตัวหันกลับไปจะขึ้นรถ ก็ต้องชะงักและหนุ่มๆ ก็มีอาการเช่นเดียวกัน ตกใจเล็กน้อยแต่ก็ต้องนิ่งเข้าไว้ จะไม่ให้ชะงักได้อย่างไรในเมื่อเอาปืนเล็งมาขนาดนี้แถมยังมากันหลายคนอีก แต่แสนลักษณ์ยืนนิ่ง มือข้างหนึ่งแนบบุหรี่เข้าปาก อีกข้างยกขึ้นเพื่อให้รู้ว่าไม่สู้ ขณะที่สายตาไม่ได้มองชายหนุ่มที่เอาปืนจ่อเลย“สูบบุหรี่แปบ” แสนลักษณ์เอ่ยอย่างยียวน“ให้ไว อย่าลีลา” ชายแปลกหน้าสวมโม่งกล่าว“เอ่อ รีบสูบรีบเสร็จมันจะฟินอะไรวะ” แสนลักษณ์ตอบกลับ เท่านั้นแหละชายหนุ่มที่คิดว่าน่าจะเป็นลูกพี่ ก็เดินเข้ามาใกล้ๆ เล็งปลายกระบอกปืนแทบจะจ่อหน้าผาก ลูกๆ ของแสนลักษณ์ทำได้แค่กัดฟั
“ผมไม่ให้ แต่ผมจะทำให้จำชื่อผมและพ่อเลี้ยงเอาไว้ให้แม่น”“มันนัดอีกเมื่อไหร่” เกตุวดีถามด้วยน้ำเสียงที่เข้มขึ้นเมื่อปรับอารมณ์ได้แล้ว“ก็คงจะพรุ่งนี้ครับ รอรับสาย”“พี่จะไม่ยอมอยู่เฉย แกต้องให้พี่ไปด้วย พี่เป็นสาเหตุให้เจ้าขาถูกพาตัวไป พี่ไม่ดูแล”“ไม่หรอกครับ พี่ไม่ใช่คนรับใช้ซะหน่อย จะให้ตามติดกันตลอดเวลาก็ไม่ใช่ เลิกรู้สึกผิดนะครับ ทำใจให้สบายรอฟังสัญญาณจากผม”“โอเค” แม้ปากจะพูดว่าโอเค แต่ภายในใจยังรู้สึกผิดที่ทำให้จันทรภาถูกพาตัวไป เพราะไม่เฝ้าระวัง ทว่าอย่างที่คเชนทร์บอก จะตามติดตลอดเวลาราวกับนักโทษก็ไม่ใช่“เซ็นงานกองนี้ให้เสร็จนะ ผมมาบอกเท่านี้ แล้วเดี๋ยวออกไปเจอกันที่บ้านพ่อ อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จผมจะไปรอที่นั่น หารือกันอีกทีรอพ่อมา”“จ้ะ” เกตวดีรับคำน้ำเสียงหวั่นๆ ความรู้สึกแย่มันยังคงมีอยู่ คำพูดของคเชนทร์ไม่สามารถปลอบใจได้ ถ้าออกไปดูจันทรภาสักนิดก็คงจะไม่เป็นแบบนี้“ไอ้ผู้ชายเฮงซวยคนนั้น อย่าให้ฉันเจอนะ ท