สแตนลีย์ แบตตันได้ให้คำตอบที่สมบูรณ์แบบแก่ไซล่า เควสอีกครั้ง“บอกความจริงกับฉันมานะ นายไม่มีความรู้เรื่องนี้มาก่อนจริง ๆ ใช่ไหม?” ไซล่าดูเหมือนจะสงสัยไม่น้อย“ก็ใช่น่ะสิ” สแตนลีย์ตอบ“นายฉลาดเกินไป ฉันจะคิดว่าตัวเองฉลาดแล้วนะ แต่ก็นับได้ว่ายังช้ากว่านายมากในแง่ของการเรียนรู้” ไซล่ากล่าว“ฉันก็พอได้” สแตนลีย์กล่าวอย่างสงบเช่นปกติ ท่าทีทางสายตาของเขาไม่เปลี่ยนไปเลย“หยุดถ่อมตัวได้แล้ว นายไม่ใช่แค่พอได้ นายน่ะเยี่ยมไปเลย” ไซล่าอดที่จะชูนิ้วโป้งให้กับเขาไม่ได้“โอ้” เขากล่าว“นี่ก็ดึกแล้วนะ วันนี้เราพอแค่นี้ก่อนนะ แล้วพรุ่งนี้...โอ้ ไม่สิ เลยเที่ยงคืนไปแล้วนิ เพราะงั้นนี่เป็นวันใหม่แล้ว เรามาต่อคืนนี้เลยไหม?” ไซล่าเอ่ยถาม“ได้สิ” สแตนลีย์กล่าวก่อนที่จะค่อย ๆ ลุกขึ้นยืนและหยิบเสื้อกันหนาวสีดำ เขาคลุมร่างกายของเธอด้วยเสื้อโค้ทและติดกระดุมให้กับเธอเม็ดหนึ่ง“นี่นายทำอะไรเนี้ย?” ไซล่าถาม“หิมะกำลังตกข้างนอก มันหนาวไง” สแตนลีย์กล่าวก่อนที่จะเดินออกจากห้องไปเมื่อไซล่ามองสแตนลีย์จากข้างหลัง เธอก็รู้สึกอบอุ่นในหัวใจเมื่อหันหลังกลับไป เธอก็สังเกตเห็นว่าด้านนอก หิมะกำลังตกอย่างหนักขณ
สแตนลีย์ แบตตันรีบเดินไปยังรถทันทีที่เข้าไป สายลมหนาวก็พัดเข้าไปในรถแซ็ค แคสซิดี้ที่หลับอยู่ตรงที่นั่งคนขับก็ค่อย ๆ ลืมตาขึ้นแซ็คดันกรอบแว่นทองคำขึ้นบนสันจมูกในทันที หลังจากที่ดูเวลาแล้ว เขาก็เหลือบมองกระจกมองหลังเพื่อมองชายผู้สูงศักดิ์ที่นั่งอยู่เบาะหลัง“นายน้อยห้าครับ คุณผู้หญิงสอนคุณเรื่องการแพทย์แผนจีนตลอดเวลาเลยเหรอครับ?” แซ็คถามด้วยท่าทีที่ไม่อยากเชื่อ“อืม” สแตนลีย์ตอบ“แล้วคุณก็นั่งเป็นเด็กดีและเชื่อฟังเธอตลอดเวลาด้วยเหรอครับ?” แซ็คกำลังสงสัยว่าเขาอยู่ในความฝันหรือไม่แซ็คคิดว่ามันยากที่เห็นภาพนายน้อยห้ากำลังนั่งอยู่ข้าง ๆ ภรรยาเหมือนกับเด็กเรียนเขาเริ่มทำตัวว่าง่ายขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่?“นายมีปัญหากับเรื่องนั้นงั้นเหรอ?” สแตนลีย์ถามขณะที่เลิกคิ้วขึ้นและจ้องมองใบหน้าของแซ็คผ่านทางกระจกมองหลังแซ็ครู้สึกถึงความเย็นยะเยือกแผ่ซ่านลงไปที่กระดูกสันหลัง“ไม่ครับ ผมไม่กล้าหรอก ผมก็แค่สงสัย คุณผู้หญิงสอนอะไรคุณเหรอครับ?” เขาถาม“มอง-ดม-ถาม-ตัด” สแตนลีย์ค่อย ๆ หลับตาและนวดหน้าผากของเขา“ชายที่จัดการกับปัญหามากมายในทุก ๆ วันมานั่งฟังใครสักคนอย่างเงียบ ๆ เป็นเวลานานได้
“มองหาสถานที่ที่มีพื้นที่ประมาณหกสิบถึงเจ็ดสิบตารางเมตร และราคาต่ำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งมันควรอยู่ห่างจากพื้นที่ส่วนกลาง บ้านมือสองก็ได้เหมือนกัน” สแตนลีย์ แบตตันกล่าว“นายน้อยห้าครับ คุณซื้ออสังหาริมทรัพย์ในทำเลทองเท่านั้นไม่ใช่เหรอครับ?” แซ็ค แคสซิดี้รู้สึกว่าเขาไม่รู้จักนายน้อยห้าเหมือนที่เขาเคยรู้จักก่อนหน้านี้อีกต่อไปแล้ว“ก็ใช่” สแตนลีย์พูด“ผมจะจัดการให้เสร็จในวันพรุ่งนี้ครับ” แซ็คกล่าว“ซื้อบ้านหลังนั้นภายในหนึ่งวันและโยนเฟอร์นิเจอร์ทั้งหมดทิ้งไป ฉันอยากให้เป็นของใหม่ทั้งหมด แต่ห้ามเป็นของจากแบรนด์ดังด้วย” สแตนลีย์พูดเสริม“ได้ครับ นายน้อยห้า” แซ็คกล่าว“ตรวจสอบให้แน่ใจว่านายฆ่าเชื้อพื้นที่ทั้งภายในและภายนอกอย่างน้อยสามครั้งด้วย” สแตนลีย์กล่าว“เข้าใจแล้วครับ นายน้อยห้า คุณจะอยู่ที่นั่นเหรอครับ?” แซ็คถาม“...” สแตนลีย์ยังคงเงียบขณะที่จุดบุหรี่ขึ้นมาสูบและมองออกไปยังทิวทัศน์ที่วุ่นวายของเมืองในยามราตรีควันที่ล้อมรอบนิ้วของเขาทำให้นิ้วของเขาดูเรียวยาวและสง่างามยิ่งขึ้น…หลังจากไซล่า เควสมาถึงบ้าน เธอเดินออกไปที่ระเบียงเป็นอย่างแรกและมองไปยังห้องนอนหลักเมื่อเห็นห้องมืดส
ดูเหมือนว่าเจเรมี่ เควสจะจริงจังเรื่องการหย่าร้างแม้ว่ามันทำร้ายเขาอย่างแสนสาหัสมากแค่ไหนไซล่า เควสไม่ได้มีปฏิกิริยาตอบสนองกับเอกสารนั้นมากนัก เธอยังคงควงแขนเจเรมี่ต่อพร้อมกับเดินออกจากประตูไปหลังจากหิมะตกในคืนก่อน สนามกลายเป็นสีขาวโพลนบรรดาคนรับใช้และบอดี้การ์ดกำลังยุ่งอยู่กับการจัดการหิมะหลังจากที่ไซล่าและพาพ่อของเธอทักทายทุก ๆ คนแล้ว พวกเขาก็วิ่งออกจากสนามและวิ่งต่อไปตามช่องทางเดินรถในตอนนั้น หิมะส่วนใหญ่ที่อยู่กลางถนนได้ละลายไปหมดแล้ว กระนั้น หิมะที่อยู่ทั้งสองข้างทางยังคงไม่ละลายไปจนหมด และพนักงานสุขาภิบาลกำลังยุ่งอยู่กับการกวาดหิมะไปด้านข้างแม้ว่าอากาศหนาว พวกเขาทั้งคู่ก็ไม่รู้สึกหนาวเพราะทั้งคู่กำลังออกกำลังกายหลังจากที่วิ่งตามถนนลาดยางด้านนอกบ้านเป็นระยะทางหลายกิโลเมตร ทั้งสองก็เอนตัวพิงต้นซากุระที่ร่วงโรยเพื่อพักผ่อนทั้งสองนั่งหันหลังชนและหอบอย่างหนัก เสื้อผ้าของพวกเขาเปียกโชกไปทั้งตัว“พูดก็พูดเถอะ มันก็รู้สึกดีจริง ๆ นั่นแหละที่ได้วิ่งข้างนอกแบบนี้” เจเรมี่กล่าว“ใช่ค่ะ...คุณพ่อ คุณพ่อรู้สึกดีขึ้นรึยังคะตอนนี้?” ไซล่าถาม“ดีขึ้นมากแล้ว” เขากล่าว“คุณพ่อตั
สำหรับพวกเธอที่ใช้ชีวิตอย่างหรูหราฟุ่มเฟือย ศิลปะการเย็บปักไม่ใช่เรื่องที่คุ้นเคยเลย พวกเธอไม่เคยจับเข็มที่บ้านเลย ถ้ามีบางอย่างเสียหาย พวกเธอก็แค่ทิ้งไปก็สิ้นเรื่อง ดังนั้นเข็มจึงไม่มีความจำเป็นเข็มตำนิ้วพวกเธอ และพวกเธอก็กลัวที่มองแผลนั้นด้วยด้วยความไม่ระมัดระวัง เข็มในมือขวาของเอมิลี่ตำที่นิ้วชี้ซ้ายออกเธออีกครั้งขณะที่ความปวดแสบร้อนกระจายออกไป ความอดทนครั้งสุดท้ายของเธอก็หมดลง เธอโยนกรอบเย็บปักลงพื้นในทันทีพร้อมกับคร่ำครวญและตะโกนว่า “ตอนนี้เราอยู่ในสมัยโบราณรึไง?”“คิดว่างานเย็บปักด้วยมือยังคงมีอยู่อีกรึไง! ฉันจะรู้วิธีทำได้ไงวะ?! จะทรมานกันใช่ไหม? ฉันท้องอยู่นะ พวกแกมีสิทธิ์อะไรที่จะมาทรมานฉันจนตายแบบนี้?”“ทำไมงานเย็บปักของคนอื่นมีนิดเดียวในขณะที่ของเรากองท่วมหัวแบบนี้? นางอัปลักษณ์ไซล่า เควสนั่นติดสินบนใครไว้รึไง?”“คุณพ่อจะไม่สนใจเรื่องนี้จริง ๆ ใช่ไหม? แล้วพี่ซัลลิแวน ทำไมเขาถึงไม่สนใจฉัน? ฉันตั้งท้องเด็กของตระกูลซัลลิแวนนะ!”เธอกำลังคลั่ง นับตั้งแต่เธอเข้ามาที่นี่ แม่ของเธอและเธอยังคงทำงานอยู่ตลอดเวลาเหมือนกับว่าพวกเธอเป็นคนที่ยุ่งที่สุดในสถานกักกันแห่งนี้ในวันแร
เมย์เดือดดาล เธอหันไปมองนักโทษหญิงหัวล้านคนนั้นที่ตีเธอ “แกกำลังทำอะไร?”“ฉันจะตี แล้วไงล่ะ? แกถูกขังที่นี่ แต่ก็ยังคิดเรื่องการรังแกคนอื่นตอนที่ออกไปได้อีกนะ เห็นได้ชัดว่าแกมันชั่วตัวแม่เลยนิ”เมย์อยากจะตอบกลับไปว่า ‘แกดีกว่ากันนักรึไง?’อย่างไรก็ตาม เธอสามารถอดทนได้ขณะที่เธอหันหน้าไปอย่างเงียบ ๆ และทำงานของเธอต่อ“ฉันเคยได้ยินเรื่องของพวกแกสองคนมาแล้ว คนหนึ่งคือแม่เลี้ยงแสนร้ายกาจของไซล่า เควส อีกคนคือน้องสาวต่างแม่ตัวร้าย”“ข่าวเกี่ยวกับปัญหาของตระกูลของแกมาถึงหูเราด้วยซ้ำ ทุกคนต่างก็พูดว่าพวกแกสองคนคือคนบงการเบื้องหลังข่าวลือเรื่องอิมพีเรียล ไพรม์มีปัญหานั้น”“พวกหมาหมู่ ไม่ใช่แค่พวกแกจะไม่ยอมสำนึกผิดแล้ว แต่แกยังพยายามที่จะทำร้ายคนอื่นด้วยซ้ำ!”นักโทษหัวล้านคนนั้นม้วนแขนเสื้อขึ้นและยืนขึ้นขณะที่พูดพร้อมกับจ้องมองคู่แม่ลูกอย่างเดือดดาลราวกับว่าเธอต้องการจะฆ่าสองแม่ลูกนั่น“ทำไมแกต้องสนใจเรื่องปัญหาของตระกูลของฉันด้วย? แกสนิทกับไซล่า เควสรึไง?” เอมิลี่รู้สึกเจ็บแปลบขึ้นสมอง เธอเบือนหน้าหนีโดยไม่รู้ตัวและเอ่ยถามอย่างตะกุกตะกัก“ฉันไม่รู้จักหล่อนหรอกนะ แต่ฉันเห็นใบหน้าที่เปรา
เอมิลี่พยักหน้า “หนูคิดว่างั้นนะคะ หนูขยับไม่ได้!”“กลับไปทำงาน! ถึงกระดูกของแกจะหัก ก็ต้องทำงาน!” นักโทษหัวล้านคนนั้นพูดอย่างเย็นชาอีกครั้งเธอรังเกียจคนที่รังแกคนที่อ่อนแอ ครั้งหนึ่ง เธอถูกผู้จัดการโรงงานบังคับจับตัวไปซ้ำแล้วซ้ำเล่าเพราะเธออ่อนแอเพื่อที่จะได้ทำงานต่อ เธอจึงอยู่เงียบ ๆ มาโดยตลอดและเพราะว่าเธอโดนรังแกได้ง่าย ชายคนนั้นเริ่มหนักข้อขึ้นและถึงกับใช้กำลังรุนแรงกับเธอต่อหน้าลูกสาวของเธอเองลูกสาวของเธอตามไปและชกชายคนนั้น แต่เขาผลักเด็กกระเด็นออกไป หัวของเด็กกระแทกเข้ากับกลอนประตู และท้ายที่สุด เธอก็เสียชีวิตคาที่ตรงนั้นเพราะเหตุนี้ เธออดไม่ได้ที่จะฆ่าคนสารเลวนั่นเธอเกลียดพวกคนที่ชอบรังแกคนอื่นที่สุด!“เร็วเข้า!!!” นักโทษหัวล้านคนนั้นคำรามอีกครั้งหลังจากที่เพิ่งจะทรมานกับความเจ็บปวด เอมิลี่ไม่กล้าสู้กลับ เธอกลับไปที่ที่นั่งของเธออย่างว่าง่าย เธอรู้สึกถึงบางอย่างแทงลึกเข้าไปในแก้มก้นขวาของเธอในตอนที่เพิ่งจะนั่งลงความเจ็บปวดอย่างรุนแรงทำให้เธอหน้าซีดในทันที“อ๊ากก!!” เธอกรีดร้องและเด้งตัวขึ้นในทันที และหันไปมองยังบริเวณที่เธอถูกทิ่มมีเข็มสีเงินแทงลึกอยู่ด้านใ
ในยามเย็น อาทิตย์อัสดงได้ย้อมเมืองแอตแลนติสเป็นสีทองพระอาทิตย์ตกดินและทั้งโลกก็หนาวเย็นขึ้นอีกครั้งตึกของเอ็กซ์เอ็นเตอร์เทนเมนต์กำลังสว่างไสวในยามพระอาทิตย์ตกดินภายในห้องทำงานที่แสนอบอุ่น หลังจากที่ไซล่าทำงานเสร็จในวันนี้ เธอจ้องห้องส่วนตัวที่ร้านอาหารตะวันตก วิธยู อีกครั้งและบอกกับไฟฟ์ แบตตันทางวีแชทต่อมา เธอแต่งหน้าอย่างสบาย ๆ และปล่อยผมลอนผมสีดำขนาดใหญ่ที่นุ่มสลวยคู่กับการแต่งหน้าอย่างเป็นธรรมชาติทำให้เธอดูราวกับเทพธิดาเสื้อสีขาวสะอาดของเธอเข้าคู่กับกางเกงครอปสีฟ้าอ่อนและเสื้อขนสัตว์สีฟ้าอ่อนตอกย้ำถึงความรู้สึกราวกับสานุศิษย์พระเจ้ารองเท้ารัดส้นสีเงินเน้นย้ำเรียวขาและข้อเท้าอันเรียวยาวสวยของเธอ….อีกด้านหนึ่ง ภายในห้องเก็บไวน์สามชั้นของการ์เด้น แมนชั่น สแตนลีย์ แฮรี่ เซบาสเตียนและแกรี่หันหน้าเข้าไปที่เคาน์เตอร์ไม้โรสวูด แต่ละคนมีแก้วไวน์แดงอยู่ตรงหน้าแสงไฟสลัวภายในห้องเก็บไวน์ได้เน้นย้ำถึงอารมณ์อันเยือกเย็นของสแตนลีย์เฮนรี่ เซบาสเตียน และแกรี่กำลังดื่มอยู่ แต่มีแค่แก้วไวน์ของสแตนลีย์เท่านั้นที่ยังไม่ถูกแตะขณะที่เขาจดจ่ออยู่กับการอ่านข้อความวีแชทที่ไซล่าส่งมาหา