ไซล่า เควสวางนิ้วสามนิ้วอันเรียวสวยและอ่อนนุ่มบนข้อมือของเธอก่อนที่จะพูด“การตัดหมายถึงการกดลงไปบนเส้นเลือดตรนะ…” เธอกล่าวหลังจากนั้น ไซล่าก็จดจ่ออยู่กับการอธิบายขั้นตอนพื้นฐานในการตรวจชีพจรของผู้ป่วยขณะที่ก้มมองข้อมือด้วยสายตาที่มุ่งมั่นในขณะที่อธิบายอยู่ เธอขยับสามนิ้วไปรอบข้อมือ ทุกขั้นตอนและแม้คำอธิบายของเธอก็ดูจริงจังไปหมดเธอไม่ละสายตาจากข้อมือเลยหลังจากที่จบหนึ่งส่วนของการอธิบาย เธอจึงค่อย ๆ เงยหน้าขึ้นและพบว่าเก้าอี้ตรงข้ามเธอตอนนี้กลับว่างเปล่าเสียแล้วทันใดนั้น ไซล่าก็ขมวดคิ้วเล็กน้อยและหันหน้าไปรอบ ๆ เพื่อมองหาสแตนลีย์ทันทีที่เธอทำเช่นนั้น หน้าของเธอก็ชนเข้ากับร่างกายอันอบอุ่นร่างหนึ่งกลิ่นที่คลุมเครือของบุหรี่และสะระแหน่ผสมรวมกันเป็นหนึ่ง มันให้ความสดชื่นและไม่คุ้นชินเท่าไหร่อย่างไรก็ตาม เมื่อเธอสังเกตเห็นว่าสิ่งใดอยู่ตรงหน้าเธอ หัวใจของเธอก็เต้นแรงในทันที ทั้งใบหน้าและลำคอของเธอเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่อเขิน!นี่เป็นครั้งที่สองที่เธอชนเข้ากับร่างกายส่วนนี้ของเขาถ้ามีใครบางคนเข้ามาในห้องในตอนนั้น พวกเขาคงคิดว่าเธอกำลังทำอะไรบางอย่างที่ขายขี้หน้าอยู่เป็
หลังจากที่ทำแต่ละจุดที่สำคัญแล้ว ไซล่า เควสก็หยุดเพื่อถามว่ามีอะไรที่สแตนลีย์ แบตตันไม่เข้าใจไหมสแตนลีย์ก็มักจะตอบว่า ไม่มี เสมอทันใดนั้น เวลาเที่ยงคืนก็มาถึงโดยไม่รู้ตัวไซล่าเกือบจะจบการอธิบายพื้นฐานการตรวจชีพจรของคนไข้แล้วหลังจากที่ก้มมองนาฬิกา ไซล่าก็หันหน้ามองสแตนลีย์ตอนนั้น เขากำลังจดจ่ออยู่กับเธอ ถ้าเธอไม่ระมัดระวัง เธออาจหลงเข้าไปในดวงตาสีเข้มที่น่าหลงใหลคู่นั้นก็เป็นได้หลังจากที่เหม่อลอยไปชั่วครู่ ไซล่าก็เรียกสติเธอคืนมา“ฉันอธิบายพื้นฐานสุด ๆ ไปแล้ว นายเข้าใจทั้งหมดไหม?” ไซล่าเอ่ยถาม“เข้าใจ” สแตนลีย์ตอบอย่างชื่นใจ“จริง ๆ เหรอ?” ไซล่ายังคงรู้สึกสงสัยถ้านั่นเป็นความจริง สแตนลีย์คงจะเป็นอัจฉริยะด้านการแพทย์แผนจีน เขาอาจจะเป็นหนึ่งในล้านก็ได้ไม่มีใครในวงการการแพทย์แผนจีนที่มีความสามารถมากกว่าเขาอีกแล้ว“ใช่สิ” สแตนลีย์กล่าว“นาย...นายแน่ใจใช่ไหม?” ไซล่าแสดงท่าทีสงสัย“อืม” เขากล่าว“ถ้างั้น นายลองตรวจชีพจรฉันดูไหมล่ะ?” ไซล่าเอ่ยถามขณะที่วางมือของเธอลงบนโต๊ะสแตนลีย์ไม่ได้เอ่ยอะไรออกมา เขาเอื้อมมือไปขยับใบหน้าของไซล่าเพื่อที่เขาจะมองได้ถนัดตาหัวใจของไซล่
สแตนลีย์ แบตตันได้ให้คำตอบที่สมบูรณ์แบบแก่ไซล่า เควสอีกครั้ง“บอกความจริงกับฉันมานะ นายไม่มีความรู้เรื่องนี้มาก่อนจริง ๆ ใช่ไหม?” ไซล่าดูเหมือนจะสงสัยไม่น้อย“ก็ใช่น่ะสิ” สแตนลีย์ตอบ“นายฉลาดเกินไป ฉันจะคิดว่าตัวเองฉลาดแล้วนะ แต่ก็นับได้ว่ายังช้ากว่านายมากในแง่ของการเรียนรู้” ไซล่ากล่าว“ฉันก็พอได้” สแตนลีย์กล่าวอย่างสงบเช่นปกติ ท่าทีทางสายตาของเขาไม่เปลี่ยนไปเลย“หยุดถ่อมตัวได้แล้ว นายไม่ใช่แค่พอได้ นายน่ะเยี่ยมไปเลย” ไซล่าอดที่จะชูนิ้วโป้งให้กับเขาไม่ได้“โอ้” เขากล่าว“นี่ก็ดึกแล้วนะ วันนี้เราพอแค่นี้ก่อนนะ แล้วพรุ่งนี้...โอ้ ไม่สิ เลยเที่ยงคืนไปแล้วนิ เพราะงั้นนี่เป็นวันใหม่แล้ว เรามาต่อคืนนี้เลยไหม?” ไซล่าเอ่ยถาม“ได้สิ” สแตนลีย์กล่าวก่อนที่จะค่อย ๆ ลุกขึ้นยืนและหยิบเสื้อกันหนาวสีดำ เขาคลุมร่างกายของเธอด้วยเสื้อโค้ทและติดกระดุมให้กับเธอเม็ดหนึ่ง“นี่นายทำอะไรเนี้ย?” ไซล่าถาม“หิมะกำลังตกข้างนอก มันหนาวไง” สแตนลีย์กล่าวก่อนที่จะเดินออกจากห้องไปเมื่อไซล่ามองสแตนลีย์จากข้างหลัง เธอก็รู้สึกอบอุ่นในหัวใจเมื่อหันหลังกลับไป เธอก็สังเกตเห็นว่าด้านนอก หิมะกำลังตกอย่างหนักขณ
สแตนลีย์ แบตตันรีบเดินไปยังรถทันทีที่เข้าไป สายลมหนาวก็พัดเข้าไปในรถแซ็ค แคสซิดี้ที่หลับอยู่ตรงที่นั่งคนขับก็ค่อย ๆ ลืมตาขึ้นแซ็คดันกรอบแว่นทองคำขึ้นบนสันจมูกในทันที หลังจากที่ดูเวลาแล้ว เขาก็เหลือบมองกระจกมองหลังเพื่อมองชายผู้สูงศักดิ์ที่นั่งอยู่เบาะหลัง“นายน้อยห้าครับ คุณผู้หญิงสอนคุณเรื่องการแพทย์แผนจีนตลอดเวลาเลยเหรอครับ?” แซ็คถามด้วยท่าทีที่ไม่อยากเชื่อ“อืม” สแตนลีย์ตอบ“แล้วคุณก็นั่งเป็นเด็กดีและเชื่อฟังเธอตลอดเวลาด้วยเหรอครับ?” แซ็คกำลังสงสัยว่าเขาอยู่ในความฝันหรือไม่แซ็คคิดว่ามันยากที่เห็นภาพนายน้อยห้ากำลังนั่งอยู่ข้าง ๆ ภรรยาเหมือนกับเด็กเรียนเขาเริ่มทำตัวว่าง่ายขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่?“นายมีปัญหากับเรื่องนั้นงั้นเหรอ?” สแตนลีย์ถามขณะที่เลิกคิ้วขึ้นและจ้องมองใบหน้าของแซ็คผ่านทางกระจกมองหลังแซ็ครู้สึกถึงความเย็นยะเยือกแผ่ซ่านลงไปที่กระดูกสันหลัง“ไม่ครับ ผมไม่กล้าหรอก ผมก็แค่สงสัย คุณผู้หญิงสอนอะไรคุณเหรอครับ?” เขาถาม“มอง-ดม-ถาม-ตัด” สแตนลีย์ค่อย ๆ หลับตาและนวดหน้าผากของเขา“ชายที่จัดการกับปัญหามากมายในทุก ๆ วันมานั่งฟังใครสักคนอย่างเงียบ ๆ เป็นเวลานานได้
“มองหาสถานที่ที่มีพื้นที่ประมาณหกสิบถึงเจ็ดสิบตารางเมตร และราคาต่ำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งมันควรอยู่ห่างจากพื้นที่ส่วนกลาง บ้านมือสองก็ได้เหมือนกัน” สแตนลีย์ แบตตันกล่าว“นายน้อยห้าครับ คุณซื้ออสังหาริมทรัพย์ในทำเลทองเท่านั้นไม่ใช่เหรอครับ?” แซ็ค แคสซิดี้รู้สึกว่าเขาไม่รู้จักนายน้อยห้าเหมือนที่เขาเคยรู้จักก่อนหน้านี้อีกต่อไปแล้ว“ก็ใช่” สแตนลีย์พูด“ผมจะจัดการให้เสร็จในวันพรุ่งนี้ครับ” แซ็คกล่าว“ซื้อบ้านหลังนั้นภายในหนึ่งวันและโยนเฟอร์นิเจอร์ทั้งหมดทิ้งไป ฉันอยากให้เป็นของใหม่ทั้งหมด แต่ห้ามเป็นของจากแบรนด์ดังด้วย” สแตนลีย์พูดเสริม“ได้ครับ นายน้อยห้า” แซ็คกล่าว“ตรวจสอบให้แน่ใจว่านายฆ่าเชื้อพื้นที่ทั้งภายในและภายนอกอย่างน้อยสามครั้งด้วย” สแตนลีย์กล่าว“เข้าใจแล้วครับ นายน้อยห้า คุณจะอยู่ที่นั่นเหรอครับ?” แซ็คถาม“...” สแตนลีย์ยังคงเงียบขณะที่จุดบุหรี่ขึ้นมาสูบและมองออกไปยังทิวทัศน์ที่วุ่นวายของเมืองในยามราตรีควันที่ล้อมรอบนิ้วของเขาทำให้นิ้วของเขาดูเรียวยาวและสง่างามยิ่งขึ้น…หลังจากไซล่า เควสมาถึงบ้าน เธอเดินออกไปที่ระเบียงเป็นอย่างแรกและมองไปยังห้องนอนหลักเมื่อเห็นห้องมืดส
ดูเหมือนว่าเจเรมี่ เควสจะจริงจังเรื่องการหย่าร้างแม้ว่ามันทำร้ายเขาอย่างแสนสาหัสมากแค่ไหนไซล่า เควสไม่ได้มีปฏิกิริยาตอบสนองกับเอกสารนั้นมากนัก เธอยังคงควงแขนเจเรมี่ต่อพร้อมกับเดินออกจากประตูไปหลังจากหิมะตกในคืนก่อน สนามกลายเป็นสีขาวโพลนบรรดาคนรับใช้และบอดี้การ์ดกำลังยุ่งอยู่กับการจัดการหิมะหลังจากที่ไซล่าและพาพ่อของเธอทักทายทุก ๆ คนแล้ว พวกเขาก็วิ่งออกจากสนามและวิ่งต่อไปตามช่องทางเดินรถในตอนนั้น หิมะส่วนใหญ่ที่อยู่กลางถนนได้ละลายไปหมดแล้ว กระนั้น หิมะที่อยู่ทั้งสองข้างทางยังคงไม่ละลายไปจนหมด และพนักงานสุขาภิบาลกำลังยุ่งอยู่กับการกวาดหิมะไปด้านข้างแม้ว่าอากาศหนาว พวกเขาทั้งคู่ก็ไม่รู้สึกหนาวเพราะทั้งคู่กำลังออกกำลังกายหลังจากที่วิ่งตามถนนลาดยางด้านนอกบ้านเป็นระยะทางหลายกิโลเมตร ทั้งสองก็เอนตัวพิงต้นซากุระที่ร่วงโรยเพื่อพักผ่อนทั้งสองนั่งหันหลังชนและหอบอย่างหนัก เสื้อผ้าของพวกเขาเปียกโชกไปทั้งตัว“พูดก็พูดเถอะ มันก็รู้สึกดีจริง ๆ นั่นแหละที่ได้วิ่งข้างนอกแบบนี้” เจเรมี่กล่าว“ใช่ค่ะ...คุณพ่อ คุณพ่อรู้สึกดีขึ้นรึยังคะตอนนี้?” ไซล่าถาม“ดีขึ้นมากแล้ว” เขากล่าว“คุณพ่อตั
สำหรับพวกเธอที่ใช้ชีวิตอย่างหรูหราฟุ่มเฟือย ศิลปะการเย็บปักไม่ใช่เรื่องที่คุ้นเคยเลย พวกเธอไม่เคยจับเข็มที่บ้านเลย ถ้ามีบางอย่างเสียหาย พวกเธอก็แค่ทิ้งไปก็สิ้นเรื่อง ดังนั้นเข็มจึงไม่มีความจำเป็นเข็มตำนิ้วพวกเธอ และพวกเธอก็กลัวที่มองแผลนั้นด้วยด้วยความไม่ระมัดระวัง เข็มในมือขวาของเอมิลี่ตำที่นิ้วชี้ซ้ายออกเธออีกครั้งขณะที่ความปวดแสบร้อนกระจายออกไป ความอดทนครั้งสุดท้ายของเธอก็หมดลง เธอโยนกรอบเย็บปักลงพื้นในทันทีพร้อมกับคร่ำครวญและตะโกนว่า “ตอนนี้เราอยู่ในสมัยโบราณรึไง?”“คิดว่างานเย็บปักด้วยมือยังคงมีอยู่อีกรึไง! ฉันจะรู้วิธีทำได้ไงวะ?! จะทรมานกันใช่ไหม? ฉันท้องอยู่นะ พวกแกมีสิทธิ์อะไรที่จะมาทรมานฉันจนตายแบบนี้?”“ทำไมงานเย็บปักของคนอื่นมีนิดเดียวในขณะที่ของเรากองท่วมหัวแบบนี้? นางอัปลักษณ์ไซล่า เควสนั่นติดสินบนใครไว้รึไง?”“คุณพ่อจะไม่สนใจเรื่องนี้จริง ๆ ใช่ไหม? แล้วพี่ซัลลิแวน ทำไมเขาถึงไม่สนใจฉัน? ฉันตั้งท้องเด็กของตระกูลซัลลิแวนนะ!”เธอกำลังคลั่ง นับตั้งแต่เธอเข้ามาที่นี่ แม่ของเธอและเธอยังคงทำงานอยู่ตลอดเวลาเหมือนกับว่าพวกเธอเป็นคนที่ยุ่งที่สุดในสถานกักกันแห่งนี้ในวันแร
เมย์เดือดดาล เธอหันไปมองนักโทษหญิงหัวล้านคนนั้นที่ตีเธอ “แกกำลังทำอะไร?”“ฉันจะตี แล้วไงล่ะ? แกถูกขังที่นี่ แต่ก็ยังคิดเรื่องการรังแกคนอื่นตอนที่ออกไปได้อีกนะ เห็นได้ชัดว่าแกมันชั่วตัวแม่เลยนิ”เมย์อยากจะตอบกลับไปว่า ‘แกดีกว่ากันนักรึไง?’อย่างไรก็ตาม เธอสามารถอดทนได้ขณะที่เธอหันหน้าไปอย่างเงียบ ๆ และทำงานของเธอต่อ“ฉันเคยได้ยินเรื่องของพวกแกสองคนมาแล้ว คนหนึ่งคือแม่เลี้ยงแสนร้ายกาจของไซล่า เควส อีกคนคือน้องสาวต่างแม่ตัวร้าย”“ข่าวเกี่ยวกับปัญหาของตระกูลของแกมาถึงหูเราด้วยซ้ำ ทุกคนต่างก็พูดว่าพวกแกสองคนคือคนบงการเบื้องหลังข่าวลือเรื่องอิมพีเรียล ไพรม์มีปัญหานั้น”“พวกหมาหมู่ ไม่ใช่แค่พวกแกจะไม่ยอมสำนึกผิดแล้ว แต่แกยังพยายามที่จะทำร้ายคนอื่นด้วยซ้ำ!”นักโทษหัวล้านคนนั้นม้วนแขนเสื้อขึ้นและยืนขึ้นขณะที่พูดพร้อมกับจ้องมองคู่แม่ลูกอย่างเดือดดาลราวกับว่าเธอต้องการจะฆ่าสองแม่ลูกนั่น“ทำไมแกต้องสนใจเรื่องปัญหาของตระกูลของฉันด้วย? แกสนิทกับไซล่า เควสรึไง?” เอมิลี่รู้สึกเจ็บแปลบขึ้นสมอง เธอเบือนหน้าหนีโดยไม่รู้ตัวและเอ่ยถามอย่างตะกุกตะกัก“ฉันไม่รู้จักหล่อนหรอกนะ แต่ฉันเห็นใบหน้าที่เปรา
ความคิดเห็นในแง่ลบเกี่ยวกับไซล่า เควสเริ่มรุนแรงมากขึ้นในสิบชั่วโมงต่อมา แม้ว่าไซล่าจะไม่แน่ใจว่ามีกี่คนที่ได้รับสินบนเพื่อเขียนเรื่องพวกนี้ขึ้น และมีกี่คนที่เป็นแค่ผู้สังเกตการณ์ เธอก็มั่นใจมากว่าไม่ใช่ทุกคนหรอกที่ได้รับเงินสินบนมา พวกเขาบางคนคงได้รับอิทธิพลจากคนอื่น ๆ ที่เข้าร่วมด้วย ไม่แน่ คนเหล่านี้มักจะวิจารณ์คนอื่นอยู่เสมอและเพียงแค่ใช้โอกาสนี้เพื่อระบายความเกลียดชังก็เท่านั้นก็ได้ พวกเขาก็คงเป็นแฟนคลับของจอช แบตตันเช่นกันเนื่องจากคนต่างประเภทที่เข้ามาเกี่ยวข้องและความคิดเห็นแง่ลบมากมาย ไซล่าก็รู้สึกว่าสิ่งที่เธออ่านนั้นช่างน่ารังเกียจมักมีกลุ่มคนในโลกนี้ที่ได้ความสุขมากจากการพูดทำร้ายคนอื่นผ่านความคิดเห็นแง่ลบบนอินเทอร์เน็ตอยู่เสมอสำหรับคนพวกนี้แล้ว คีย์บอร์ดเป็นเหมือนอาวุธชนิดหนึ่งของพวกเขา พวกเขาชอบระบายความรู้สึกแง่ลบผ่านทางทัศนคติและตรรกะที่ถูกจำกัดและขัดเกลามาจากโลกความเป็นจริงหลังจากที่ดูความคิดเห็นผ่าน ๆ ไซล่าก็ออกจากหัวข้อนั้นจากนั้น สายตาของเธอก็หันไปยังพาดหัวข่าวรองบนรายการหัวข้อยอดนิยมสูงสุด ‘#ไซล่าเควสฮี่ฮี่#’...ไซล่ารู้ว่าความคิดเห็นเหล่านั้นจะน่ารังเกีย
“ชื่อคุณเพราะมากเลยค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ” จอร์จจี้ เคลเมนไทน์กล่าว“ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันครับ” มอร์ตี้ เวย์นกล่าว“คุณอายุเท่าไหร่คะ?” จอร์จจี้ถาม“สิบเก้าครับ ตอนนี้ผมกำลังเรียนดนตรีคลาสสิกที่วิทยาลัยดนตรีแอตแลนติส ผมอยู่ปีสามครับ” มอร์ตี้ตอบตามความจริง“เพิ่มเพื่อนกับฉันทางวีแชทได้เลยนะคะ ถ้าคุณเต็มใจมาร่วมงานกับทางเรา คุณสามารถติดต่อฉันผ่านทางวีแชทได้เลยนะคะ ไม่แน่ คุณอาจสงสัยอยู่หลายอย่างเกี่ยวกับบริษัทของเรา คุณสามารถถามเรื่องพวกนั้นผ่านทางวีแชทได้เช่นกันค่ะ เบอร์โทรศัพท์บนนามบัตรของฉันคือหมายเลขวีแชทค่ะ” จอร์จจี้กล่าว“ครับ” มอร์ตี้กล่าวพลางพยักหน้าอย่างว่าง่าย“อีกเดี๋ยว ผมจะแอดคุณไปนะครับ” เขากล่าวและยิ้มอย่างเป็นสุข ลักยิ้มของเขาปรากฏขึ้นอีกครั้ง “ได้ค่ะ งั้นกลับไปทำงานเถอะค่ะ” จอร์จจี้กล่าวพร้อมหัวเราะออกมาเล็กน้อย“เอาละครับ ผมจะต้องไปแล้วตอนนี้ หัวหน้าเคลเมนไทน์” มอร์ตี้พยักหน้าอย่างนอบน้อมให้กับจอร์จจี้อีกครั้งหลังจากกล่าวจบ มอร์ตี้ก็ส่งยิ้มก่อนจะหันหลังจากไปนอกจากรอยยิ้มของจอช แบตตันแล้ว นี่เป็นรอยยิ้มที่งดงามที่สุดที่จอร์จจี้เคยเห็นมอร์ตี้มีรูปร่างท
ขณะที่แมรี่พูด รอยมือบนใบหน้าของเธอก็ยิ่งเห็นได้ชัดขึ้น และก็เริ่มบวมในทันทีอย่างไรก็ตาม ไซล่า เควสไม่สนใจจะทะเลาะกับเธอต่อ ไซล่าดึงมือของจอร์จจี้ เคลเมนไทน์และเริ่มเดินเข้าไปในร้านอาหาร เสียงรองเท้าส้นสูงซึ่งกระทบกับพื้นอย่างชัดเจนได้ประกาศถึงการเดินจากไปของเธอในขณะเดียวกัน แมรี่ก็ตัดสินใจที่จะวิ่งตามพวกเธอไปเมื่อจอร์จจี้เห็นภาพสะท้อนของแมรี่ในผนังกระจก เธอก็รับหันหลังและจ้องแมรี่พร้อมเงื้อหมัดขึ้นแมรี่หยุดในทันทีและไม่วิ่งตามพวกเธออีก กลับกัน เธอกระทืบเท้าบนพื้นอย่างเดือดดาล“ไซล่า เควส แกมันจบสิ้นแล้ว! ฉันล่ะมีความสุขจริง ๆ เลย!” แมรี่ตะโกนอย่างไรก็ตาม ไซล่าก็เมินเธอไปอย่างสิ้นเชิง“ปี๊บ ปี๊บ ปี๊บ一” ทันใดนั้น โทรศัพท์ของแมรี่ก็ดังขึ้น เมื่อแมรี่เห็นว่ามันเป็นหมายเลขที่คุ้นเคย เธอก็รีบขึ้นรถและรับสายด้วยความสงสัย“สวัสดีค่ะ” เธอกล่าว“ผมจัดการทุกอย่างตามที่คุณขอแล้วครับ” เสียงอันเยือกเย็นของผู้ชายคนหนึ่งดังมาจากปลายสาย“เข้าใจแล้ว ฉันจะโอนเงินให้คุณค่ะ” แมรี่กล่าวก่อนจะวางสายทันทีหลังจากที่ไซล่าและจอร์จจี้เข้าไปในร้านอาหาร พวกเธอก็นั่งโต๊ะข้างหน้าต่างมีเปียโนตั้ง
“เธอดูเหมือนกับสาวบริสุทธิ์ แต่ว่านะ เธอทำเรื่องที่น่าขายหน้ามากขนาดนี้ได้ไงเหรอ? เธอทำให้ประชากรหญิงอับอายขายหน้า แม้แต่ตอนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เธอแบบนี้ ฉันยังรู้สึกเลยว่าเธอช่างน่าขยะแขยง โชคยังดีที่โรคซิฟิลิสและเอดส์ไม่ใช่โรคติดต่อทางการหายใจ ไม่อย่างงั้น ฉันคงจะกลัวไปมากกว่า” แมรี่ ซัลลิแวนกล่าวก่อนจะกลอกตาไปยังไซล่า เควสจากนั้น แมรี่ก็ถอยหลังและรีบส่ายหน้าพร้อมกับทำเสียงน่ารำคาญ เมื่อไซล่าเห็นหน้าของแมรี่ เธอก็เริ่มหงุดหงิดขึ้นอีกครั้งแมรี่ไร้ยางอายมากเท่าใดถึงเยาะเย้ยเหยื่อของตัวเองหลังจากที่เป็นต้นเหตุของความทุกข์ทรมานของคนคนนั้นได้นะ? แมรี่ปฏิบัติตัวราวกับว่าเธอไม่ได้ทำอะไรผิดเลย“ถ้ารู้ว่าใครเป็นคนที่ปั้นน้ำเป็นตัวปล่อยข่าวลือเพื่อที่จะทำให้ชื่อเสียงของฉันเสียงหายล่ะก็ ฉันจะให้พวกมันชดใช้เป็นร้อยเท่าเลยค่อยดู” ไซล่ากล่าวอย่างเยือกเย็น“ฮ่าฮ่าฮ่า ข่าวลืองั้นเหรอ? เธอนี่มันตลกจริง ๆ ใครจะเป็นคนคิดข่าวลือแบบนั้นได้?” แมรี่หัวเราะเสียงดังในทันที“ก็เห็นอยู่ตำตาว่ามีคนที่ว่างมากเสียจนไม่มีเรื่องดี ๆ ให้ทำ ฉันเชื่อนะว่าคนใจสกปรกพวกนั้นต้องไม่ตายดีแน่ ๆ เลยแหละ” ไซล่ากล่าวด้วยสาย
“เราต้องรอไปก่อนนะ ฉันคิดว่าคงไม่ใช่แค่แมรี่ ซัลลิแวนบังคับให้คนพวกนั้นแหกปากตะโกนเรื่องพรรค์นั้นออกมาอย่างเดียวหรอก ไม่แน่ อาจไม่ใช่ทุกคนที่โดนนางแมรี่เอาเงินฟาดหัวก็ได้ บางคนอาจไม่ชอบฉันแต่แรก นี่อาจเป็นโอกาสงาม ๆ ที่ทำให้พวกเขาไปเปิดตัวออกมาก็ได้นะ” ไซล่ากล่าวก่อนจะเผยรอยยิ้มแสนขมขื่น“ฟังดูสมเหตุสมผลนะคะ พูดตามตรง คนบางคนเกลียดคนอื่นได้โดยไม่มีเหตุผลด้วยซ้ำ อาจเป็นเพราะว่าคุณดูมีชีวิตแสนสุขสบาย บวกกับชีวิตของคนพวกนั้นไม่ได้ดีอะไรขนาดนั้น คนพวกนั้นก็เลยเลือกคุณเป็นเป้าหมายที่ใช้ระบายอารมณ์พวกเขาก็ได้นะคะ มนุษย์นี่แย่จริง ๆ แม้บางคนจะบอกว่าปีศาจน่าสะพรึงกลัว แต่ฉันกลับคิดว่าหัวใจของมนุษย์ต่างหากที่น่ากลัวที่สุด” จอร์จจี้กล่าว“ใช่ จิตใจของคนมันซับซ้อนจริง ๆ จอร์จจี้ ว่าแต่ เธอกินข้าวเช้ามายัง?” ไซล่าหันไปมองจอร์จจี้“ไม่ค่ะ ฉันยังไม่ได้ทานเลย ไปทานด้วยกันดีไหมคะ? คุณอาจรู้สึกดีขึ้นมาก็ได้นะ” จอร์จจี้กล่าวขณะจับมือของไซล่าไซล่าพยักหน้าก่อนจะขับออกไปเนื่องด้วยความโกลาหลก่อนหน้า ไซล่าจึงอารมณ์ไม่ค่อยดีในตอนนี้เธอรู้สึกว่าจำเป็นต้องระบายอารมณ์แม้ว่าไซล่าจะกลับไปที่สำนักงานในทั
“ไซล่า เควส แกคิดว่าฉันจะฆ่าแกไม่ได้ใช่ไหม?” ฉับพลัน หญิงสาวคนหนึ่งก็ตะโกนขณะที่วิ่งมาข้างหน้าและชี้หน้าของไซล่าหลังจากนั้น หญิงคนนั้นก็เงื้อมือขึ้นและจะตบไซล่า กระนั้น ไซล่าก็คว้ามือของผู้หญิงคนนั้นทันเวลาและทุ่มเธอลงกับพื้นข้ามไหล่เธอไปโดยไม่พูดอะไรหรือมีท่าทีที่เปลี่ยนไปแต่อย่างใดการกระทำของไซล่าทำให้คนรอบ ๆ ตัวเธอเริ่มหวาดกลัว พวกเขาพากันตกตะลึงกับสิ่งที่เธอทำ มันเกิดขึ้นเร็วมากจนหญิงสาวคนนั้นไม่สามารถตอบสนองได้อย่างทันท่วงทีในตอนที่หญิงสาวคนนั้นตั้งสติได้ เธอก็เริ่มปวดไปทั่วร่างกาย“แก...แกกล้าดียังไงมาทำร้ายฉัน?” เธอชี้ไซล่าขณะพยายามดันตัวเองขึ้น“นั่นเรียกว่าการป้องกันตัว เธอไม่มีปัญญาฆ่าฉันหรอก” ไซล่ากล่าวขณะก้มมองหญิงสาวคนนั้นอย่างสงบ“มีใครอยากจะทำร้ายฉันอีกไหม? เข้ามาสิ ฉันพร้อมสู้พวกคุณคนไหนก็ได้” ไซล่ากล่าวพร้อมขึ้นเสียงขณะจ้องมองดูคนรอบ ๆ ตัวเธออย่างมั่นใจในขณะเดียวกัน คนเหล่านั้นก็สูดหายใจเข้าลึก ๆ ไม่มีใครกล้าขยับด้วยซ้ำ“พวกขี้ขลาดเอ๊ย” จอร์จจี้ เคลเมนไทน์เปล่งเสียงทางจมูกอย่างเยือกเย็น“วี้หว่อ วี้หว่อ วี้หว่อ一”ในตอนนั้น เสียงไซเรนของรถตำรวจก็ดังขึ้นโดย
เมื่อไซล่า เควสได้ยินคำหยาบมากมาย เธอก็รู้สึกเหมือนกับว่าคนพวกนี้กำลังปล่อยหมัดใส่ศีรษะเธอไม่ยั้งขณะมองไปยังใบหน้าที่โหดเหี้ยมรอบ ๆ ตัว เธอก็คิดว่ามันคงไร้ประโยชน์ที่จะปกป้องตัวเองด้วยสิ่งที่เรียกว่าหลักเหตุและผลความรู้สึกเช่นนี้ทำให้ไซล่าอึดอัดไม่มีเหตุผลที่จะต้องอธิบายตัวเองให้กับคนพวกนี้เพราะพวกเขาไม่ใช่คนปกติดีดังนั้น ไซล่าดันจอร์จจี้ไปข้าง ๆ ก่อนจะยืนตรงหน้าหญิงวัยกลางคนนั้น“มีกล้องวงจรปิดด้านหน้าทางเข้าของบริษัทของเรา วิดีโอจะแสดงให้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างชัดเจน รถของฉันไม่ได้ราคาถูก แค่กระโปรงรถอย่างเดียวมีค่าอย่างน้อยก็หลายแสนดอลลาร์ คุณจะจ่ายฉันด้วยเงินสด หรือจะให้ฉันฟ้องเรียกค่าเสียหายก่อนล่ะ?” ไซล่าถามหญิงวัยกลางคนนั้นตกตะลึงเมื่อได้ยินสิ่งที่ไซล่ากล่าว“หลายแสนดอลลาร์งั้นเหรอ? แกจะปล้นฉันรึไง? จ่ายเงินให้แกงั้นเหรอ? ไม่มีวัน” หญิงคนนั้นกล่าวหลังจากกลืนน้ำลาย“ก็ได้ค่ะ งั้นก็ไม่เป็นไร พอคุณติดคุกแล้ว ฉันจะปล่อยให้กฎหมายจัดการทั้งหมดต่อเอง นอกจากจะต้องติดคุกแล้ว คุณก็จะติดบัญชีดำด้วย ในตอนนั้น ทุกอย่างที่คุณทำในประเทศนี้จะได้รับผลกระทบ คิดให้ดี ๆ นะคะ” ไซล่ากล่
เนื่องจากไซล่า เควสไม่สามารถเผชิญหน้ากับคนเหล่านี้ได้ เธอจึงตัดสินใจจะเลี่ยงพวกเขาแทน ขณะที่ไซล่ากำลังจะสตาร์ทเครื่องยนต์ ทันใดนั้น หญิงวัยกลางคนอ้วนคนหนึ่งก็ปรากฏตัวขึ้นหน้ารถเธอและเริ่มใช้ไม้ยาวทุบฝากระโปรงรถ“ปัง ปัง ปัง…”“ไซล่า เควส นางผู้หญิงหน้าไม่อาย แกกล้าดียังไงมาแตะต้องหนุ่มคนโปรดของฉัน แกคิดว่าแกเป็นใครกัน? ฉันจะฆ่าแก นางแพศยา! ฉันจะฆ่าแก!” หญิงคนนั้นโวยวายขณะที่ยังคงทุบรถของไซล่าต่อไปรอยบุบเริ่มปรากฏขึ้นบนฝากระโปรงรถของไซล่าไซล่าอ้าปากค้างกับภาพที่ได้เห็น แม้ว่าเธอประสบพบเจอคนที่ประสาทไม่ดีมากมาย แต่เธอก็แทบไม่เคยเห็นคนแบบนี้มาก่อนเลยเมื่อไซล่าเห็นท่าสีหน้าที่เดือดดาลและเย่อหยิ่งของผู้หญิงคนนั้น เลือดของเธอก็เริ่มเดือด “นี่มันบ้าอะไรกันเนี่ย? หล่อนมาจากไหน? โรงพยาบาลบ้างั้นเหรอ?” จอร์จจี้ เคลเมนไทน์สาปส่งภายใต้ลมหายใจของเธอในขณะเดียวกัน ไซล่าไม่พูดอะไร สีหน้าของเธอเริ่มเยือกเย็น เธอค่อย ๆ ลงจากรถและเข้าหาผู้หญิงคนนั้นรูปลักษณ์ที่ขัดกันของพวกเธอทำให้ภายนั้นดูโดดเด่นเป็นพิเศษแม้ไซล่าจะดูนิ่ง แต่สายตาของเธอกลับเยือกเย็นมาก“ใครเป็นคนส่งคุณมาทำเรื่องแบบนี้? คุ
หลังจากรับประทานมื้อเช้าเสร็จ ไซล่า เควสก็ขึ้นรถมาเซราติคันสีแดงและขับไปยังสำนักงานใหญ่ของเควส กรุ๊ปเธอเห็นได้ถึงบรรดาชายและหญิงจำนวนนับไม่ถ้วนที่รวมตัวกันหน้าทางเข้าหลักของสำนักงานจากระยะไกลคนกลุ่มนั้นมีโปสเตอร์คัตเอาต์ขนาดใหญ่ที่มีคำว่า ‘คว่ำบาตรไซล่า เควส’ เขียนไว้ในทุกป้าย“ไซล่า เควส ออกมาอธิบายกับพวกเราเดี๋ยวนี้นะ” พวกเขาตะโกนขณะชูโปสเตอร์ขึ้นกลางอากาศไซล่าคาดไม่ถึงเลยว่าเรื่องนี้จะเกิดขึ้นไม่ว่าเรื่องแย่ ๆ อยู่ในอินเทอร์เน็ตมากเท่าใดก็ตาม แต่ไซล่าก็คงไม่ประหลาดใจ แต่กระนั้น ไซล่ารู้สึกมึนงงกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งส่งผลกระทบต่อชีวิตจริงของเธอ มันเห็นได้ชัดว่า แมรี่ ซัลลิแวนได้ติดสินบนคนส่วนใหญ่เหล่านี้เพื่อสร้างความวุ่นวายที่นี่แมรี่ไม่มีความสามารถพอที่จะทำให้เรื่องมาไกลขนาดนี้ด้วยกลุ่มของแฟนคลับพวกนั้นเพียงอย่างเดียว ในตอนแรก ไซล่าคิดว่ามันคงจะวุ่นวายแค่ในอินเทอร์เน็ต เธอไม่เคยคิดเลยว่าเรื่องต่าง ๆ จะเลวร้ายจนถึงขั้นเกี่ยวข้องกับโลกแห่งความจริงเช่นนี้เมื่อเห็นความคิดเห็นแง่ลบและเห็นเรื่องพวกนี้เกิดขึ้นกับตัวเอง ช่างเป็นสองอย่างที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิงเมื่อ