"เสี่ยวเฟย ต่อไปถ้าเจอเหตุการณ์แบบนี้อีก พวกเราอย่าได้ไปสนใจเลย ทำเป็นไม่ได้ยินก็พอแล้ว""อาเล็กกลัวเหลือเกินว่านายจะเกิดหุนหันพลันแล่น และทำอะไรที่ไม่คำนึงถึงผลที่จะตามมาแบบนั้น"เมื่อลงมาจากทางด่วนแล้วไม่เกินสองนาที รถยนต์ก็ได้แล่นเข้าสู่ตัวเมืองแล้วภาพแรกที่เข้ามาสู่สายตาก็คือตึกรามบ้านช่องที่สูงตระหง่านมากมาย การจราจรที่พลุกพล่าน และสภาพแวดล้อมที่สวยงามแต่ทว่าถังรั่วเสวี่ยกลับไม่ได้มีกะจิตกะใจที่จะดู ตรงกันข้ามกลับเตือนหลินเฟยด้วยความเป็นห่วงแบบนั้นแทน"อาเล็กครับ ผมเข้าใจความหวังดีของอานะ ผมไม่คิดที่จะลงมือทำร้ายคนสักหน่อย"หลินเฟยส่ายหน้าและพูดออกมา"แต่เราไม่ได้เป็นฝ่ายเข้าไปหาเรื่องเสียหน่อย เรื่องมันจะเกิด ถึงจะหลบก็หลบไม่พ้นหรอกนะครับ""ยิ่งเรายอมถอย คนอื่นก็ยิ่งคิดว่าเราถูกรังแกเอาได้ง่ายๆ และต่อไปก็ยิ่งจะรังแกเรามากยิ่งขึ้นด้วยนะครับ""อาเล็กอาลองคิดดูนะ ครอบครัวของหลินชุ่ยไม่ใช่อย่างนั้นเหรอ?""ต่อยไปแค่หมัดเดียว สามารถหลีกเลี่ยงร้อยหมัดที่จะตามมาได้นะครับ""ผมก็เพิ่งจะรู้ตอนนี้เองว่า เมื่อเกิดเรื่องขึ้นแล้ว ก็ต้องริเริ่มที่จะจู่โจมเสียก่อน""จะได้หลีกเลี่ย
หลินเฟยตอบกลับไปด้วยสีหน้าและท่าทางที่เป็นปกติมาก"ไม่ต้องหรอก ทุกทางแยกที่ลงจากทางด่วน พ่อของฉันได้จัดคนไปรอคุณแล้วล่ะ""คุณแค่บอกฉันว่า คุณจะลงจากทางด่วนตรงไหน ฉันจะให้คนไปรับพวกคุณโดยตรง"เจียงเฉินหยู่พูดอย่างกระตือรือร้น"คุณเจียงครับ ผมลงมาจากทางด่วนเฉิงตงนะ"หลินเฟยพูดไปตามความเป็นจริง"ทางด่วนเฉิงตงงั้นเหรอ? โอเค งั้นคุณหาที่จอดรอสักครู่นะ ฉันจะให้คนไปหาคุณเดี๋ยวนี้"พอพูดจบ เจียงเฉินหยู่ก็ได้วางสายไปโดยตรงเมื่อได้ยินเจียงเฉินหยู่พูดแบบนี้แล้วหลินเฟยก็ชะลอรถและจอดตรงที่ทางฉุกเฉินทันทีเมื่อเวลาผ่านไปสองสามนาทีก็มีโรลส์รอยซ์สีดำหลายสิบคันแล่นเข้ามา เป็นขบวนรถหรูที่แม้แต่เลขทะเบียนรถก็เชื่อมต่อกัน ดูแล้วน่าทึ่งเป็นอย่างมากจากนั้นขบวนรถก็ค่อยๆ มาจอดที่ด้านหน้ารถของหลินเฟยและประตูของรถคันแรกก็ได้เปิดออกมาชายวัยกลางคนที่มีรูปร่างหน้าตาค่อนข้างคล้ายกับของเจียงเจี้ยนเย่ได้เดินลงมาที่หน้ารถของหลินเฟย พร้อมสอบถามขึ้นมาว่า "ขอโทษที คุณคือหลินเฟย คุณหลินใช่ไหมครับ?""ใช่ครับ ผมเอง คุณคือคนที่ตระกูลเจียงส่งมาหรือเปล่าครับ?"หลินเฟยเปิดประตูรถแล้วเดินลงมา พร้อมกับพูดด
"ผมคิดว่าคุณหลินจะรู้แล้วเสียอีก""ในเมื่อเฉินหยู่ไม่ได้บอกกับพวกคุณ งั้นเธอจะต้องมีเหตุผลอะไรบางอย่างแน่นอนครับ""เดี๋ยวไปถึงตระกูลเจียงแล้ว คุณหลินก็ถามเฉินหยู่ด้วยตัวเองจะดีกว่านะครับ"เมื่อเห็นสีหน้าที่ตกตะลึงของหลินเฟยและถังรั่วเสวี่ยแล้วนั้นเจียงเจี้ยนกั๋วก็อดไม่ได้ที่จะพูดด้วยความประหลาดใจออกมา"งั้นก็ได้ รอให้ไปถึงบ้านของตระกูลเจียงแล้ว ผมจะไปถามเหตุผลกับคุณเจียงด้วยตัวเองก็แล้วกัน"หลินเฟยรู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อยไม่ใช่ว่าหลินเฟยจะไม่ต้องการหมั้นหมายกับเจียงเฉินหยู่แต่การเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันแบบนี้มันทำให้หลินเฟยไม่สามารถยอมรับได้ในระยะเวลาสั้นๆ แบบนี้กระทั่งหลินเฟยกำลังคิดว่า เป็นเพราะเจียงเฉินหยู่มีปัญหาอะไรหรือเปล่า ดังนั้นเธอก็เลยหมั้นหมายกับเขาอย่างรีบเร่งขนาดนี้?รีบมากเสียจนแม้กระทั่งการหมั้นหมายที่สำคัญมากขนาดนี้เธอกลับไม่ได้บอกเขาล่วงหน้าเลยแม้แต่น้อย?ส่วนถังรั่วเสวี่ยที่ได้ทราบข่าวการหมั้นหมายของหลินเฟยแล้วนั้นความรู้สึกในใจของเธอก็ซับซ้อนเป็นอย่างมากบอกไม่ได้ว่ามีความสุขหรือขมขื่นขึ้นมากันแน่โดยที่ระหว่างทางเธอพูดน้อยมาก……เมื่อหลินเฟยแ
"แม่งเอ๊ย ไอ้ตาบอด ขับรถประสาอะไร?""ไม่เห็นหรือว่าข้างหน้ามีคนอยู่?"ตู้ซ่าวคังตกใจจนขาสั่น หลังจากที่ดึงสติกลับมาได้เขาก็กำหมัดเอาไว้แน่น พร้อมกับตะคอกใส่คนขับรถ!"คุณชายเซียว คุณฉีครับ จู่ๆ คนคนนี้ก็กระโดดมากลางถนน ผมไม่ได้ตั้งใจจะทำให้พวกคุณตกใจจริงๆ…"แต่ทว่า คนขับกลับไม่ได้สนใจต่อเสียงตะโกนของตู้ซ่าวคังแต่อย่างใดตรงกันข้าม เขากลับพูดขอความเมตตาจากชายหนุ่มหญิงสาวที่นั่งอยู่ตรงเบาะหลังด้วยใบหน้าที่หวาดกลัวเสียต่างหาก"ถ้าจู่ๆ เขากระโดดลงมา แกก็ขับรถชนเขาให้ตายไปเลยก็ได้แล้วนี่?""แกรู้ไหมว่าถ้าคุณชายเซียวเป็นอะไรไปแม้แต่ปลายเล็บ ใช้ชีวิตหมาๆ ของแกมาชดเชยสักร้อยชาติก็ยังไม่สาสมเลย"หญิงสาวที่ถูกเรียกว่าคุณฉีแม้ว่าหน้าตาของเธอจะสะสวย แถมรูปร่างก็จัดว่ายอดเยี่ยมอีกต่างหาก แต่ทันทีที่เธอได้อ้าปากต่อว่าคนขับรถขึ้นมา มันก็ดูหยาบคายเป็นอย่างมากกระทั่งการมองตู้ซ่าวคังก็ใช้เพียงหางตาเท่านั้นเองทั้งคำพูดและการกระทำของเธอ มันได้เผยความเย่อหยิ่งออกมาอย่างเห็นได้ชัด"ครับ ครับ คุณฉีสั่งสอนถูกต้องแล้วครับ!""คราวหน้าถ้าเจอสถานการณ์แบบนี้อีก ผมจะขับรถชนเขาในทันที!"คนขับรถไม่ก
"อะไรนะ? เด็กน้อยอย่างแกเนี่ยนะที่จะทำให้ตระกูลตู้ของฉันหายไปได้""ต่อให้จะเป็นตระกูลเจียงที่มีอำนาจมากที่สุดในตัวเมืองก็ไม่กล้าพูดกับฉันแบบนี้เลยนะ!""แม่งช่างอวดเบ่งจริงๆ หรือว่ากำลังฝันหวานอยู่?""ให้ฉันฉี่รดเพื่อปลุกแกให้ตื่นจะดีไหม?"เมื่อได้ยินแบบนี้แล้ว ไม่เพียงแต่ตู้ซ่าวคังไม่กลัว แต่กลับยังพูดเยาะเย้ยด้วยเสียงหัวเราะที่ดังสนั่นไปทั่วอีกต่างหาก"ไอ้ควาย คุณชายเซียวคือเซียวจ้านขวาง หลานชายแท้ๆ ของคุณท่านเซียวหยวน เซียวอวิ๋นอิงผู้ก่อตั้งประเทศ!""และยิ่งเป็นทายาทและผู้ควบคุมตระกูลเซียวในอนาคตอีกด้วย!""ตระกูลตู้ที่แกภูมิใจนักหนา เมื่ออยู่ต่อหน้าคุณชายเซียวก็เป็นแค่หนอนตัวหนึ่งก็เท่านั้นเอง!""ถ้ายังกล้าตะโกนปาวๆ อยู่อย่างนี้อีก ระวังฉันจะทำให้ตระกูลตู้ของนายหายไปจากเมืองนี้ซะ!"ในที่สุดคุณฉีก็ทนไม่ได้อีกต่อไป จึงพูดเปิดเผยตัวตนของคุณชายเซียวออกมา!โดยที่แววตานั้นราวกับมองดูตัวตลก พร้อมพูดกับตู้ซ่าวคังด้วยรอยยิ้มที่เหน็บแนมออกมา"อะไรนะ? เซียวจ้านขวางหลานชายแท้ๆ ของคุณท่านเซียวหยวน""เป็นไปไม่ได้ อย่าคิดว่าการที่ได้สวมตัวตนให้กับไอ้เด็กน้อยคนนี้แล้ว จะสามารถข่มขู่ฉันได
"คนอย่างเจียงเฉินหยู่ไม่คู่ควรที่จะต่อสู้กับคุณ!"เซียวจ้านขวางตบฝ่ามือของฉีฉงเหยาเบาๆเขาดูใจเย็นและสงบ แต่ก็พูดอย่างเด็ดขาดออกมาด้วยพลังของเขาแล้ว การทำเรื่องเหล่านี้มันช่างง่ายเสียจริงๆ"ขอบคุณนะคะคุณชายเซียว การได้อยู่กับคุณ ทำให้ฉันเป็นผู้หญิงที่มีความสุขในโลก!"ฉีฉงเหยาพิงไหล่เซียวจ้านขวางอย่างมีความสุข พร้อมกับพูดออกมาแต่ในใจกลับแอบคิดไปว่า"เจียงเฉินหยู่ ฉันมีคุณชายเซียวเป็นแฟนแบบนี้แล้ว เธอจะเอาอะไรมาเทียบกับฉันได้?""รอถูกฉันเหยียดหยามให้สาแก่ใจเถอะ!""ฉันได้รับความไม่เป็นธรรมมานานหลายปีขนาดนี้ มันก็ควรจะจัดการให้ชัดเจนเสียทีแล้ว"……หลังจากที่รถยนต์ของเซียวจ้านขวางได้ออกตัวไปแล้วนั้นตู้ซ่าวคังก็ได้หายใจหอบๆ อย่างตื่นตระหนก พร้อมพูดพึมพำกับตัวเองว่า"แม่งเอ๊ย คนคนนี้เป็นหลานชายแท้ๆ ของคุณท่านเซียวหยวนหรือนี่!""ยังดีที่เขาไม่เห็นฉันอยู่ในสายตา!""ไม่อย่างนั้นแล้ว ไม่เพียงแต่ฉันที่จะแย่ แม้แต่ตระกูลตู้ก็ต้องพลอยโดนร่างแหไปด้วยแน่ๆ!""อีกอย่าง ฉีฉงเหยาผู้หญิงคนนั้นยังเป็นลูกพี่ลูกน้องของเจียงเฉินหยู่อีก!""ดูท่าทางแล้ว เธอคงพาเซียวจ้านขวางไปตบหน้าเจียงเฉินหย
เมื่อเจียงเจี้ยนกั๋วพาหลินเฟยและถังรั่วเสวี่ยเข้าไปยังกลุ่มวิลล่าของตระกูลเจียงนั้นภายในห้องโถงวิลล่าที่หรูหราและกว้างขวางที่สุดในบรรดากลุ่มวิลล่าทั้งหมดคนรับใช้ได้วิ่งเหยาะๆ ตามมาตลอดทางและรีบเข้าไปหาเจียงเจี้ยนเย่ซึ่งกำลังพูดคุยกับยักษ์ใหญ่ทางธุรกิจและชนชั้นสูงมากมายในทันที พร้อมกับกระซิบขึ้นมาว่า"หัวหน้าตระกูลครับ คุณท่านรองได้พาคุณหลินและคุณถังมาถึงแล้วครับ""คุณท่านจะออกไปต้อนรับสักหน่อยไหมครับ?""มาถึงแล้วเหรอ? ได้สิ ฉันจะไปเดี๋ยวนี้เลย""ทุกท่าน ผมต้องขอตัวสักครู่นะครับ ผมต้องไปต้อนรับแขกคนสำคัญทั้งสองท่านสักหน่อย เดี๋ยวผมจะกลับมานะครับ"เจียงเจี้ยนเย่พยักหน้า และพูดขอโทษกับทุกคนจากนั้นก็จัดระเบียบเสื้อผ้าของตัวเองให้เรียบร้อยและนำเหล่าบรรดาลูกหลานของตระกูลเจียงเดินออกไปต้อนรับหลินเฟยและถังรั่วเสวี่ยในทันทีด้วยการแสดงออกของเจียงเจี้ยนเย่และสมาชิกของตระกูลเจียงคนอื่นๆเหล่าบรรดาแขกเหรื่อคนสำคัญที่มาร่วมงานต่างก็ตกตะลึงกันไปทั่วเพราะพวกเขาไม่เคยเห็นเจียงเจี้ยนเย่ให้ความสำคัญกับใครมากเท่านี้มาก่อนดังนั้น ทันทีที่เจียงเจี้ยนเย่และคนอื่นๆ ออกไปหลังจากนั้นไม่น
แม้แต่โคมไฟส่องสว่างตามทางก็ยังฝังด้วยหยกไปเสียทั้งหมดซึ่งทุกสิ่งทุกอย่างนี้ก็สามารถแสดงให้เห็นถึงความมั่งคั่งของตระกูลเจียงได้เป็นอย่างดี!ในเวลานี้ ความรู้สึกของถังรั่วเสวี่ยนั้นซับซ้อนขึ้นมาอย่างไม่ต้องสงสัยเดิมทีเธอแค่ได้ยินหลินเฟยบอกว่า เจียงเฉินหยู่คือคุณหนูตระกูลเศรษฐีที่ตัวเมืองเพียงเท่านั้นโดยที่เธอไม่สามารถจินตนาการถึงคุณหนูตระกูลเศรษฐีขึ้นมาได้ เลยคิดว่าเป็นแค่คนที่มีเงินมากมายก็เท่านั้นแต่เมื่อมาเห็นกลุ่มวิลล่าของตระกูลเจียง รวมไปถึงออร่าที่น่าเกรงขามของเจียงเจี้ยนเย่แบบนี้แล้วถังรั่วเสวี่ยถึงได้เข้าใจแล้วว่า ตระกูลเจียงนั้นมีเงินมากมายมหาศาลจริงๆ โดยที่คนธรรมดาสามัญไม่สามารถอาจเอื้อมได้เลยแม้แต่น้อย!หลินเฟยเป็นแค่เด็กกำพร้าที่ไร้ที่พึ่งคนหนึ่ง!การที่เขาสามารถเอาชนะจิตใจของเจียงเฉินหยู่คุณหนูตระกูลเศรษฐี และกระทั่งสามารถหมั้นหมายกับเธอได้แบบนี้ มันช่างยากเสียเหลือเกิน!สำหรับคนธรรมดา แม้แต่จะฝันก็ยังไม่มีโอกาสเสียด้วยซ้ำ!แต่หลินเฟยทำได้!แม้กระทั่งหัวหน้าตระกูลเจียงก็ยังสุภาพกับเขาเป็นอย่างมาก!แทนที่จะเย็นชาและเมินเฉย!"เสี่ยวเฟยโตแล้วจริงๆ น่าชื่นชมจร
ท่ามกลางความสะลึมสะลือ ถังรั่วเสวี่ยก็สัมผัสได้ถึงมือใหญ่ที่อบอุ่นที่แสนจะคุ้นเคยคู่นั้นบนร่างกายของเธอ เป้าหมายของการลูบไล้นั้นชัดเจนเป็นอย่างมากด้วยสัมผัสที่แสนจะคุ้นเคยนี้ มันทำให้ถังรั่วเสวี่ยตื่นขึ้นมาจากความฝัน ทั้งโลภและหลงใหลเป็นอย่างมาก"เสี่ยวเฟย ไม่ได้นะ หยวนหยวนยังอยู่ที่นี่…"ท่ามกลางความมืดในยามราตรี ถังรั่วเสวี่ยมองไม่เห็นหลินเฟย แต่เธอสามารถสัมผัสได้ว่าเป็นหลินเฟยที่อยู่บนตัวเธออุณหภูมิที่ร้อนจัดทำให้ถังรั่วเสวี่ยหายใจถี่ๆ เธอโอบกอดหลินเฟยเอาไว้ และกระซิบเบาๆ ออกมาเดิมทีเธอยังคิดว่าหลินเฟยได้มาตอนกลางวันแล้ว ตอนกลางคืนเขาจะไม่มาเสียอีกคิดไม่ถึงเลยว่าหลินเฟยจะมาตอนดึกดื่นแบบนี้ได้ช่างเป็นหนุ่มน้อยที่บ้าคลั่งเสียจริงๆ..."ไม่เป็นไรหรอกครับอาเล็ก เธอหลับไปแล้ว ผมเบาๆ หน่อยก็โอเคแล้วล่ะ""อาเล็ก อาน้ำลายไหลแล้วนะ คงจะกระหายน่าดู ให้ผมช่วยดับกระหายให้นะ"หลินเฟยหัวเราะเบาๆ พร้อมกับเอื้อมมือไปถอดชุดแนบเนื้อของถังรั่วเสวี่ยออกแม้ว่าจะมืดสนิท แต่สำหรับหลินเฟยแล้ว มันไม่ต่างอะไรจากตอนกลางวันใบหน้าที่แดงระเรื่อ รวมไปถึงดวงตาที่พร่าเบลอของถังรั่วเสวี่ยมันยิ่
เพราะต้องการรู้ความลับของโลกซ่อนเร้นจากตัวของพวกเขานั่นเองผู้หญิงที่เป็นผู้นำมาจากตระกูลอาจารย์หยินหยางที่ได้รับความเคารพนับถือมากที่สุดจากทุกคนในประเทศซากุระ ตั้งแต่บุคคลสำคัญไปจนถึงชาวบ้าน!เชียนเย่เจียจื่อจากตระกูลเชียนเย่โดยที่ตัวเธอเองยังเป็นอาจารย์หยินหยางที่มีสถานะสูง ซึ่งสามารถควบคุมพลังของผีและเทพเจ้าได้!"แม้ว่าบางส่วนของร่างกายจะหายไป แต่เขาเต็มไปด้วยความโกรธแค้น เป็นวัตถุดิบในการปลุกศพได้ดีจริงๆ""พวกนายสองคนไปเอาตัวเขาขึ้นมา"เมื่อได้ยินสิ่งที่ผู้ชายที่อยู่ด้านหลังพูด เชียนเย่เจียจื่อก็หรี่ตาที่เรียวเล็ก พร้อมพูดด้วยน้ำเสียงที่ทรงเสน่ห์จากภายในออกมา"รับทราบรับ ท่านเชียนเย่!"ในไม่ช้า ชายทั้งสองก็ได้เดินลงไปช้อนร่างเจียงอู๋เซี่ยวขึ้นมาจากสระ พร้อมหามมาวางที่หน้าของเชียนเย่เจียจื่อ"ให้พวกนายไปตรวจสอบ ได้ความว่าอย่างไรแล้ว?"เชียนเย่เจียจื่อย่อตัวลง มองสำรวจไปยังร่างของเจียงอู๋เซี่ยวโดยไม่รู้สึกกลัวแต่อย่างใดดูเหมือนว่าเธอจะคุ้นเคยกับมันเป็นอย่างดี พร้อมกับถามโดยไม่เงยหน้าออกมา"ตรวจสอบเรียบร้อยแล้วครับท่านเชียนเย่ พรุ่งนี้เช้าสิบโมง ยอดเขาจิ่วหลงซาน พวกจอมยุ
"ในเมื่ออาจารย์ลุงเอ่ยปากออกมาแล้ว อู๋เซี่ยวจะกล้าขัดได้อย่างไรล่ะครับ?""ไม่รู้ว่าอาจารย์ลุงมีเรื่องอะไรที่รบกวนจิตใจอยู่ พูดให้อู๋เซี่ยวฟังหน่อยสิครับ ไม่แน่ว่าอู๋เซี่ยวอาจจะช่วยอาจารย์ลุงแก้ปัญหาได้"ตอนนี้เจียงอู๋เซี่ยวอยู่ในการคุ้มครองของคนอื่น และยังต้องการให้กู่หรูหลงพาเขากลับโลกซ่อนเร้นอีกต่างหากแน่นอนว่าเขาไม่กล้าที่จะปฏิเสธคำชวนของกู่หรูหลงอยู่แล้ว หลังจากที่ครุ่นคิดอยู่สักพัก เขาก็พูดขึ้นมาว่า"เอาไว้คุยกันตอนที่ออกไปนอกโรงแรมแล้ว ที่นี่หูตามันเยอะ เรื่องบางอย่างไม่สะดวกที่จะพูดในตอนนี้"กู่หรูหลงไม่ได้พูดอะไรออกมาสักคำ เขาหันหลังและนำทางอยู่ข้างหน้าเจียงอู๋เซี่ยวเดินตามกู่หรูหลงออกจากโรงแรม จนมาถึงเชิงเขาของจิ่วหลงซานโดยมีสระน้ำที่ลึกจนมองไม่เห็นก้นสระ"อาจารย์ลุงครับ ท่านได้ให้ศิษย์พี่ฮว่าและศิษย์พี่ฉางเล่อไปซื้อยามาให้หลานไม่ใช่เหรอครับ?""ทำไมสองวันมานี้ อู๋เซี่ยวถึงไม่ได้เจอศิษย์พี่ฮว่าและศิษย์พี่ฉางเล่อเลยล่ะครับ"เจียงอู๋เซี่ยวเป็นฝ่ายเอ่ยถามกู่หรูหลงก่อน"อ้อ ไอ้สองคนนั้นไม่รู้ว่าไปเถลไถลที่ไหนแล้ว นี่ก็สองวันแล้วยังไม่กลับมาเลย""วันนี้ข้าออกไปตามหาก็
"ผมจะเป็นอะไรไปได้ เสี่ยวหยู่คุณอย่าได้เป็นห่วงเลยนะ""วันนี้คุณออกไปทำงานทั้งวัน เหนื่อยหรือเปล่า?""อยากจะให้ผมบีบๆ นวดๆ ขาให้คุณไหมล่ะ?"เมื่อสัมผัสความเป็นห่วงที่เจียงเฉินหยู่มีต่อเขาหลินเฟยอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมาเขาดึงเจียงเฉินหยู่ไปนั่งบนเตียง พร้อมพูดเอาอกเอาใจ"เฮ้อ ฉันวิ่งวุ่นมาทั้งวัน แม้แต่ข้าวปลาก็ไม่ได้กิน คุณว่าฉันเหนื่อยหรือเปล่าล่ะ?""ถือว่าคุณยังมีจิตสำนึกอยู่ ยังรู้จักเป็นห่วงฉัน""เดี๋ยวตอนนวดคุณเบามือหน่อยนะ ฉันล่ะกลัวว่าคุณจะเผลอนวดจนไหล่ของฉันทรุดไปแล้วจริงๆ"เจียงเฉินหยู่พูดล้อเล่น พร้อมกับหันหลังให้กับหลินเฟย"แหะๆ โอเค รับรองว่าผมจะนวดเบาๆ!"หลินเฟยวิ่งไปล้างมือในห้องน้ำ และกลับมาอย่างรวดเร็วเขาวางมือบนไหล่ของเจียงเฉินหยู่และคลำไปจนถึงคอเสื้อของเธอจากนั้นก็เลื่อนไปตามผิวเรียบเนียนไร้ที่ติ พร้อมกับสอดลึกเข้าไป นวด บีบ และหยอกล้อและมันก็ทำให้เจียงเฉินหยู่คร่ำครวญออกมาอย่างทันที"อืม...คนผีทะเล ฉันเหนื่อยจะตายอยู่แล้วนะ""คุณยังคิดจะมาแกล้งฉันอีก ปล่อยเดี๋ยวนี้ อย่ามาเล่นมั่วๆ!"แต่ทว่ามือของหลินเฟยกลับเอาแต่ใจ พร้อมพูดด้วยรอยยิ้มที่ชั่วร้ายว่
"ทำได้ครับ สิ่งเหล่านี้มันเป็นเรื่องที่ง่ายมาก พวกเราสองปู่หลานทำได้อยู่แล้วครับ"กู่หรูหลงทำมือคารวะอย่างชาญฉลาดรวมไปถึงกู่เยว่อิ๋งที่ยืนกรานอย่างแข็งขันเมื่อครู่ที่ผ่านมา เธอก็ได้เปลี่ยนทัศนคติและพยักหน้าตอบรับอย่างถ่อมตัวในทันที"โอเค ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นพวกนายปู่หลานก็กลับไปที่โรงแรมจิ่วหลงซานก่อนเถอะ รอให้ถึงพรุ่งนี้เช้า""ฉันก็จะไปร่วมประลองจอมยุทธ์ด้วยตัวเอง ถึงตอนนั้น หากฉันมีอะไรให้รับใช้ ค่อยเรียกพวกนายปู่หลานก็แล้วกัน"หลินเฟยรำพันอยู่ในใจว่า 'คำสาบานโลหิต' นั้นมีประโยชน์แบบสุดๆ และในเวลาเดียวกัน เขาก็โบกมือเพื่อส่งสัญญาณให้กู่หรูหลงและกู่เยว่อิ๋งถอยออกไปเสียก่อนซึ่งก็เป็นเวลานี้ที่เขาได้ยินเสียงฝีเท้าที่รีบเร่งได้ดังแว่วมา และนั่นก็คือโอวหยางเยี่ยนและโอวหยางชงที่ได้วิ่งตามมานั่นเองเมื่อเห็นหลินเฟยไม่เป็นอะไรเลยแม้แต่น้อยตรงกันข้ามกับกู่หรูหลงที่จากไปโดยเสียแขนไปหนึ่งข้าง และดูแก่กว่าเดิมเป็นอย่างมากแม้แต่กู่เยว่อิ๋งที่เดิมตามหลังก็ก้มหน้าก้มตาราวกับถูกสูบวิญญาณไปอะไรแบบนั้นและนั่นก็ทำให้พวกเขาสองพ่อลูกตกตะลึงจนหน้าถอดสีเลยทีเดียว!"สหายน้อง หรือว่านายจะ
น้ำเสียงของหลินเฟยเผด็จการ และเร่งเร้าอย่างหงุดหงิดเต็มที่"คุณปู่คะ เราจะทำอย่างไรกันดี?""หนูอายุยังน้อย หนูยังไม่อยากตายนะคะคุณปู่ พี่เซียวเฟิงกำลังรอหนูอยู่นะคะ…""เพียงแต่ว่าคุณปู่ หากจะให้หนูยอมเป็นทาสรับใช้เขาแล้วละก็ งั้นหนูก็ยอมตายเสียดีกว่า!"กู่เยว่อิ๋งตื่นตระหนก เธอไม่สามารถตัดสินใจอะไรได้ พร้อมกับร้องไห้สะอึกสะอื้นกับกู่หรูหลง"เยว่อิ๋ง กระบวนท่าที่เจ้าเด็กนั่นใช้ ปู่ไม่เคยพบไม่เคยเห็นมาก่อน ปู่ก็ไร้หนทางด้วยเหมือนกัน""ปู่ก็ไม่อยากจะประนีประนอมเหมือนกัน แต่การมีชีวิตอยู่ ยังไงมันก็ดีกว่าตายเป็นไหนๆ""ยังไงพวกเราก็ยอมๆ ไปเถอะ อย่างแย่ที่สุดต่อไปก็ยังมีโอกาสหลบหนีกลับไปที่โลกซ่อนเร้น และไม่ต้องกลับมาเหยียบที่โลกปัจจุบันอีกก็ได้"และกู่หรูหลงที่เพิ่งจะสำเร็จว่าที่มหาจอมยุทธ์ได้เมื่อครู่ที่ผ่านมา อายุของเขาก็ได้ยืดออกไปกว่าห้าสิบปีแล้วซึ่งในอีกห้าสิบกว่าปีข้างหน้า ไม่แน่ว่าเขาอาจจะมีโอกาสสำเร็จขั้นมหาจอมยุทธ์ก็เป็นไปได้กู่หรูหลงยิ่งไม่อยากตายมากกว่าเดิม เขาลังเลอยู่สักพัก ในที่สุดก็ถอนหายใจหนักๆ ออกมา พร้อมกับกระซิบกับกู่เยว่อิ๋ง"ในเมื่อพวกแกยอมมาเป็นทาสฉัน งั้น
กู่หรูหลงร้องขอความเมตตาอย่างสุดใจ แต่ทว่าหลินเฟยกลับไม่มีความคิดที่จะปล่อยพวกเขาไปแต่อย่างใดล้างแค้นสิบปีก็ยังไม่สาย ความจริงที่แสนจะเรียบง่ายนี้ หลินเฟยยังคงเข้าใจได้ดีแต่อย่างไรก็ตาม หลินเฟยไม่ได้เป็นปีศาจหรือฆาตกร ให้เขาฆ่ากู่หรูหลงและกู่เยว่อิ๋ง เขาก็ทำไม่ได้ด้วยเช่นกัน"พี่สาว งั้นพี่ก็ดูดกำลังภายในของเขาให้หมดสิ้น แล้วผมจะให้ผู้อำนวยการโม่ขังพวกเขาไปตลอดชีวิตก็แล้วกัน"ท้ายที่สุด หลินเฟยก็ถอนหายใจ และพูดตัดสินใจออกมา"ไม่ต้องหรอก คนคนนี้เจ้าโจมตีด้วยตัวเอง""เจ้าก็เก็บเอาไว้เป็นทาสเถอะ""ต่อไปหากพบจอมยุทธ์โบราณที่แข็งแกร่งจริงๆ ถึงตอนนั้นข้าค่อยดูดพลังลมปราณก็ยังไม่สาย""อีกอย่าง ขอแค่เจ้าควบคุมเขาได้ เจ้าก็สามารถสั่งให้เขาไปตามหาหินวิญญาณและหญ้าวิญญาณในโลกซ่อนเร้นได้ แบบนี้จะทำให้เจ้าสามารถบรรลุข้อตกลงกับข้าได้เร็วขึ้นด้วย"สิ่งที่ทำให้หลินเฟยคิดไม่ถึงก็คือ หลงอู่ได้ให้คำตอบแบบนี้ออกมาและในน้ำเสียงนั้น ยังมีการชื่นชมปะปนอยู่ด้วย"ให้ผมรับไว้เป็นทาส? ผมไม่ได้มีบุญคุณกับพวกเขาเหมือนกับโอวหยางเยี่ยนและลูกชายแบบนั้น มีแต่ความแค้นล้วนๆ เลยก็ว่าได้""แล้วพวกเขาจะยอมมาเ
สิ่งนี้ทำให้เขารู้สึกหงุดหงิดและเดือดดาลแบบสุดๆ ในขณะเดียวกัน เขาก็รู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาเรื่อยๆ แล้วในตอนนี้!เพราะวิธีการของหลินเฟย เขาไม่เคยได้พบเห็นมาก่อน!"คุณปู่ คุณปู่รีบถอดเสื้อมาดับไฟเร็วเข้า!"กู่เยว่อิ๋งก็ตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน พร้อมตะโกนเตือนเสียงดังออกไปทันที"ไม่ต้องหรอก ปู่มีวิธีของตัวเอง"กู่หรูหลงถ่ายเทพลังงานลงในแขนที่กำลังลุกไหม้ จากนั้นก็กระทืบเท้าลงไปที่พื้นอย่างเต็มแรงแปร๊ะ แปร๊ะ!แต่ทว่า หลังจากที่กู่หรูหลงได้ดึงแขนออกมา เปลวไฟดวงนั้นก็ยังคงไม่มีทีท่าว่าจะมอดลงไปแต่อย่างใด!กู่หรูหลงถอดเสื้อออก และเปลวไฟก็ไหม้แขนของเขาจนเลือดและเนื้อผสมปนเปกันไปหมด!เมื่อเห็นว่าอีกไม่นาน แขนของเขาก็คงจะไหม้ไปเสียทั้งหมดแล้ว!กู่หรูหลงก็ทำได้เพียงอดกลั้นต่อความเจ็บปวด พร้อมกับดึงมีดออกมาตัดแขนข้างขวาของตัวเองออกไปทั้งหมด!เพราะไม่อย่างนั้นแล้ว เปลวไฟที่แปลกประหลาดนี้ก็จะลามไปทั่วตัวและเผาเขาให้ตายทั้งเป็นอย่างแน่นอน!"ไอ้สารเลว ไอ้เด็กเมื่อวานซืน นี่จริงแกก็ออกมาประจันหน้ากับข้าเลยสิ!""ข้าจะสับแกเป็นชิ้นๆ อย่างแน่นอน!"กู่หรูหลงกุมบาดแผลที่เกิดจากกา
ในขณะนี้ เวลาก็ได้ล่วงเลยมาสองทุ่มกว่าๆ แล้ว ท้องฟ้าไร้ซึ่งดวงจันทร์มีดวงดาวเพียงไม่กี่ดวงที่ส่องแสงกะพริบจางๆ ออกมาภายในภูเขาชิงซาน เมื่อความมืดได้คืบคลานเข้ามา มันจึงทำให้บรรยากาศดูมืดมิดมากยิ่งขึ้นแต่ทว่าความเร็วของหลินเฟยยังไม่ได้ลดลงแต่อย่างใด เขาสามารถหลบหลีกหินที่นูนสูงเหล่านั้นได้อย่างคล่องแคล่วความมืดในยามค่ำคืน ไม่ได้ทำให้ความสามารถในการใช้ตาทิพย์ของเขาลดลงแต่อย่างใดหลินเฟยหันกลับไปมอง และพบว่ากู่หรูหลงไม่ได้เร็วเท่ากับตอนแรกอีกต่อไปหลินเฟยรู้ดีว่า นั่นไม่ใช่เพราะกู่หรูหลงเหนื่อยล้า แต่เป็นเพราะความสามารถในการมองเห็นของกู่หรูหลงลดลงเมื่ออยู่ในตอนกลางคืนนั้นเองส่วนโอวหยางเยี่ยนและลูกชายที่ติดตามมาท้ายสุดก็ถูกสลัดทิ้งโดยไม่เห็นแม้แต่เงาแล้วในตอนนี้!"กู่หรูหลง อย่างน้อยๆ แกก็เป็นถึงว่าที่มหาจอมยุทธ์ ทำไมช้าอย่างกับเต่าแบบนี้?""ขืนแกยังชักช้าอยู่ ฉันก็คงจะเบื่อจนหลับไปแล้วนะ""ด้วยความเร็วแบบนี้ แกยังคิดจะฆ่าฉันอีกงั้นเหรอ? กลับบ้านไปนอนฝันซะดีกว่า!"หลินเฟยตั้งใจชะลอความเร็ว และหันมาพูดเหน็บแนม"ไอ้หนุ่ม แกอย่าได้ชะล่าใจไปเลย แม้ว่าความเร็วของข้าจะสู้แกไม่ได