จากนั้นเธอก็ยืนขึ้น แล้วพูดด้วยรอยยิ้มที่ฝืนๆ"พวกคุณสองคนไม่จำเป็นต้องเสแสร้งอีกแล้ว แค่ที่ฉันเจอก็มีคนไข้สองคนแล้วที่ถูกโรงพยาบาลของพวกคุณหลอก""รอให้เราค้นหาเงินของกลางได้ อยากจะพูดอะไร ฉันจะให้พวกคุณพูดได้อย่างเต็มที่แน่"สีหน้าของลู่หลีเคร่งขรึม จากนั้นเธอก็หาที่นั่งเพื่อรอ"หลีกไป อย่ามาขวาง"หลินเฟยยิ่งดูไม่เกรงใจมากยิ่งขึ้นเขาผลักฉู่อวิ๋นหลงไปอีกทาง จากนั้นก็นั่งไขว่ห้างในตำแหน่งที่นั่งของฉู่อวิ๋นหลงฉู่อวิ๋นหลงไม่พูดไม่จา แต่สีหน้าดูน่าเกลียดเอาเสียมากๆพร้อมกับจ้องเขม็งไปที่หลินเฟยแต่ทว่า หลินเฟยไม่มองเขาเสียด้วยซ้ำ เพราะไม่ได้เห็นเขาอยู่ในสายตาเลยแม้แต่น้อย"ที่รักคะ...เราควรทำอย่างไรดี?"เมื่อเห็นว่าหลินเฟยและลู่หลีได้รออยู่อย่างนั้น หลิวฟางก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกกลัวขึ้นมาเธอกดน้ำเสียงให้ต่ำลง และลากฉู่อวิ๋นหลงไปข้างๆ เพื่อถาม"จะทำอะไรได้อีก? ต้องโทษพี่ชายขี้ขลาดของคุณนั่นแหละ ผมให้เขากิน ให้เงินเขาใช้ แม้กระทั่งเข้ามาบอกกล่าวก็ทำไม่เป็น!""นี่แม่งไปสารภาพความผิดของผมต่อสายตรวจเลยแบบนี้!""แม่งเอ๊ย มันน่าโมโหจริงๆ!"ฉู่อวิ๋นหลงพูดสาปแช่งเบาๆ"ในเมื่อสำนั
"พ่อหนุ่ม นายอาจจะจินตนาการไม่ออก เงินหนึ่งพันห้าร้อยล้านมันไม่น้อยแล้วนะ"เมื่อได้ยินแบบนั้นแล้ว ใบหน้าของฉู่อวิ๋นหลงก็แข็งทื่อขึ้นมาทันทีจากนั้นเขาก็หรี่ตาลง และพูดโน้มน้าวขึ้นมาว่า"ต่อให้นายและสารวัตรหญิงท่านนี้จะแบ่งกันคนละครึ่ง แต่มันก็เพียงพอแล้วที่จะจับจ่ายใช้สอยได้อย่างสบายๆ""รถยนต์และวิลล่าหรู แล้วแต่นายจะเลือกหา และจะมีผู้หญิงนับไม่ถ้วนมาเลียแข้งเลียขานาย เรียกนายว่าป๋าจ๋าก็ยังได้""ขอแค่นายพยักหน้าตอบรับ นายก็จะใช้ชีวิตราวกับอยู่ในฝันได้แล้วนะ""ในทางกลับกัน ต่อให้นายจะสามารถจับเราสองคนเข้าคุกได้ แต่สำหรับนาย มันก็ไม่มีประโยชน์อะไรเลยนี่นา""อย่างมากก็ได้รับแค่ชื่อเสียงปลอมๆ เท่านั้นเอง""นายลองคิดดูให้ดีๆ อีกครั้งนะ""จริงด้วย พ่อหนุ่ม นายคิดทบทวนดูให้ดีๆ อย่างไงเสียที่นี่ก็ไม่มีคนอื่น""ไม่มีใครรับรู้ข้อตกลงระหว่างพวกเราหรอก"หลิวฟางลุกขึ้นและพูดสมทบทันที"เหอะๆ แต่ฉันไม่คิดว่าจะต้องมีอะไรให้พิจารณานะ""ชีวิตของฉันในตอนนี้ มันทำให้ใครต่อใครต่างก็พากันอิจฉาอยู่แล้ว""เงินของพวกคุณมันสกปรกจะตายไป ฉันไม่ต้องการ และไม่จำเป็นด้วย"หลินเฟยส่ายหน้าและพูดอย่างไม่
เมื่ออ้างตามขั้นตอนปกติ ทุกเรื่องในโรงพยาบาล รวมถึงเรื่องที่ผิดกฎหมายและการทุจริต ควรอยู่ภายใต้การควบคุมโดยตรงของสำนักงานสาธารณสุขนั่นเป็นสาเหตุที่เซี่ยชุนหวาไม่เกรงกลัวลู่หลีกระทั่งเซี่ยชุนหวาได้มาถึงสถานที่นี้แล้ว เขาก็ยังมั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่าจะสามารถไล่ตะเพิดลู่หลีออกไปได้!"โอเค โอเค งั้นผมจะรอต้อนรับผู้อำนวยการเซี่ยนะครับ""รอให้เรื่องนี้สงบลงแล้ว ผมค่อยมอบของขวัญชิ้นใหญ่ให้ผู้อำนวยการเซี่ยก็แล้วกันนะครับ!"ฉู่อวิ๋นหลงถอนหายใจด้วยความโล่งอกและยิ้มให้เซี่ยชุนหวาเซี่ยชุนหวาไม่ได้ตอบอะไรกลับมา และได้ตัดสายไปโดยตรงโดยรีบมุ่งหน้ามาที่โรงพยาบาลประจำอำเภอในทันที"ต่อหน้าตำรวจแบบนี้ คุณยังกล้าที่จะหาคนมาช่วยหลบหนีกฎหมายแบบนี้ ผู้อำนวยการฉู่ คุณจะไม่เห็นกฎหมายอยู่ในสายตามากเกินไปแล้ว!""วันนี้ต่อให้คุณจะไปตามเง็กเซียนฮ่องเต้มา ฉันก็สามารถจับคุณเข้าตารางได้!"ทันทีที่ฉู่อวิ๋นหลงได้วางสาย ลู่หลีก็ได้เดินเข้ามาใกล้มากยิ่งขึ้นจากนั้นก็พูดอย่างเกรี้ยวกราดออกมา!"ท่านสารวัตร ผมคิดว่าบางคำพูดก็อย่างได้เด็ดขาดจนเกินไป หากว่าคุณจับผมไม่ได้แล้วละก็ มันจะไม่เป็นการตบหน้าตัวเองอย่างน
"งั้นก็ยอดเยี่ยมไปเลย!""ไอ้หมอนี่เจ้าหน้าที่ก็ไม่ใช่ อยู่ชี้ไม้ชี้มือตั้งนานสองนานแล้ว ฉันไม่ชอบขี้หน้ามันตั้งนานแล้วล่ะ!"เมื่อได้ยินแบบนี้แล้ว หลิวฟางก็อดไม่ได้ที่จะพูดอย่างตื่นเต้นขึ้นมา"แค่พวกกระจอกๆ เพียงไม่กี่คน คิดจะมาจัดการกับฉันงั้นเหรอ?""ฝันไปเถอะ!"หลินเฟยยิ้มเยาะ และไม่ได้เก็บมาใส่ใจเลยแม้แต่น้อยเวลาผ่านไปประมาณครึ่งชั่วโมงเจ้าหน้าที่สายตรวจที่ลู่หลีส่งไปก็โทรกลับมาโดยแจ้งว่าพวกเขาค้นพบเงินห้าร้อยล้านอยู่ในบ้านของฉู่อวิ๋นหลงรวมถึงตู้เซฟคุณภาพสูงอีกหนึ่งตู้ หลังจากที่งัดออกมาแล้ว ก็พบว่ามีทองคำแท่งอยู่เต็มตู้ โดยยังไม่สามารถประเมินมูลค่าได้ในตอนนี้อย่างน้อยๆ ก็คงไม่ต่ำกว่าสองร้อยห้าสิบล้านลู่หลีขมวดคิ้วแน่น และพูดตอบกลับมา"ในบ้านของฉู่อวิ๋นหลงน่าจะมีทรัพย์สินมากกว่านี้ พวกคุณค้นหาให้ละเอียด"ทันทีที่วางสายโทรศัพท์ก็มีเสียงฝีเท้าที่วุ่นวายได้ดังมาจากข้างนอกคนกลุ่มนี้ได้เดินเข้ามาในห้องทำงานอย่างรีบเร่งซึ่งมีสองคนที่นำมาด้านซ้ายคือชายหัวล้านวัยกลางคนที่สวมเสื้อคลุมสีขาว ซึ่งก็คือโจวเหว่ยหมินผู้อำนวยการโรงพยาบาลเซียเฟียนั่นเองส่วนข้างๆ เขายังมีช
"เมื่อถึงเวลานั้น คุณจะต้องให้สินน้ำใจตอบแทนผมและผู้อำนวยการจางอย่างงามๆ เลยนะ"ดูเหมือนว่าโดยภาพรวมสถานการณ์จะได้รับการแก้ไขแล้วโจวเหว่ยหมินเดินมาหาฉู่อวิ๋นหลง แล้วหัวเราะเบาๆ ออกมา"ผู้อำนวยการโจววางใจได้ ผมจะไม่ลืมบุญคุณของคุณและผู้อำนวยการจางอย่างแน่นอน""พวกคุณมีเงื่อนไขอะไร ขอแค่คนอย่างฉู่อวิ๋นหลงทำได้ ผมจะพยายามอย่างเต็มที่!"ฉู่อวิ๋นหลงพูดอย่างไม่ปิดบัง"พวกคุณนี่มันน่ารังเกียจจริงๆ..."เมื่อได้ยินแบบนี้แล้ว ลู่หลีก็โกรธจัดจนควันออกหู และหน้าอกของเธอก็กระเพื่อมขึ้นมาอย่างไม่หยุดแต่สิ่งที่จางเฉวียนจื้อพูดนั้นก็ถูกต้อง ฉู่อวิ๋นหลงเป็นคนอำเภอฮว่าเทียน ตอนนี้มีจางเฉวียนจื้อผู้อำนวยการสำนักงานสายตรวจอำเภอฮว่าเทียนอยู่เธอก็ควรจะมอบฉู่อวิ๋นหลงให้กับจางเฉวียนจื้อจัดการถึงจะถูกแต่ไหนเลยที่ลู่หลีจะไม่รู้ว่า ทันทีที่ฉู่อวิ๋นหลงถูกจางเฉวียนจื้อพาตัวไป จะถูกลงโทษหรือไม่ มันก็เป็นเรื่องที่พูดยาก!"ลู่หลี คุณไม่ต้องร้อนใจไปหรอก เขาอยากจะพาฉู่อวิ๋นหลงไปก็ให้เขาพาไปเถอะ"หลินเฟยยืนขึ้นและตบไหล่ของลู่หลีเป็นการปลอบโยน"ก็แค่ผู้อำนวยการสำนักงานสายตรวจอำเภอฮว่าเทียนคนหนึ่งไม่ใช่เห
"อะไรนะ? พรุ่งนี้ผู้อำนวยการโม่จะถูกย้ายไปในตัวเมืองแล้ว?"เมื่อได้ยินดังนั้น สีหน้าของลู่หลีก็เปลี่ยนไปทันทีเรื่องที่โม่หลินกำลังจะถูกย้ายไป ไม่มีใครบอกเธอเลยสักคนและนี่ก็ถือว่าเป็นครั้งแรกที่เธอรู้ มันจึงทำให้เธอตกใจเป็นธรรมดาแต่ทว่าการแสดงออกแบบนี้ จางเฉวียนจื้อกลับคิดเอาเองว่าที่แท้ลู่หลีก็หวาดกลัวเขาแล้วนั่นเอง!"ตำรวจหญิงคนนี้หุ่นดีจริงๆ!""ต่อไปถ้ามีโอกาส จะต้องคว้าเอามาเล่นให้หนำใจให้ได้!"จางเฉวียนจื้อจ้องเขม็งไปที่ลู่หลี พร้อมกับวางแผนในใจขึ้นมา"ไอ้โย่ว ที่แท้ผู้อำนวยการจางก็จะเข้ามาดูแลพื้นที่ของสำนักงานสายตรวจของเราในวันพรุ่งนี้แล้วหรือนี่!""มันช่างยอดเยี่ยมไปเลยนะเนี่ย!""ต่อไปโอกาสที่เราจะดื่มกินและสังสรรค์กันก็คงจะมากขึ้นอีกนะ!"ส่วนโจวเหว่ยหมิน เมื่อได้ยินว่าจางเฉวียนจื้อจะเข้ามาดูแลพื้นที่สำนักงานสายตรวจเขาก็ยิ้มตาหยีแทบจะเป็นเส้นตรง"ผู้อำนวยการจางเพิ่งจะสี่สิบกว่าๆ เอง แต่กลับสามารถดูแลสำนักงานสายตรวจได้สองพื้นที่แล้ว อนาคตช่างสดใสจริงๆ!""ต่อไปจะต้องยังมีพื้นที่ให้เลื่อนขั้นขึ้นไปอีกแน่นอน!"ฉู่อวิ๋นหลงก็อาศัยโอกาสนี้ในการประจบเอาใจจางเฉวียนจื
"น้องหลิน? ผู้อำนวยการโม่ครับ น้องหลินคนไหนหรือครับ?"จู่ๆ จางเฉวียนจื้อก็ถามด้วยความสับสนออกมาเขาคิดว่าโม่หลินที่อายุสี่สิบห้าสิบ สหายของเขาก็คงจะมีอายุรุ่นราวคราวเดียวกันเป็นอย่างน้อยๆและก็มองข้ามหลินเฟยไปเสียด้วยซ้ำโจวเหว่ยหมิน รวมไปถึงฉู่อวิ๋นหลงและหลิวฟางต่างก็มองไปรอบๆ ห้องหลังจากกวาดตามองไปที่ตัวของหลินเฟยแล้ว พวกเขาก็กลับเบนสายตาไปทางอื่น"พวกคุณไม่ต้องมองหาอีกแล้วล่ะ นอกจากผมแล้ว ในห้องนี้ไม่มีใครที่ชื่อหลินอีกแล้วล่ะ?"พอพูดจบ หลินเฟยก็เดินเข้าไปทักทายโม่หลินด้วยรอยยิ้ม"ขอแสดงความยินดีกับผู้อำนวยการโม่ได้นะครับ ต่อไปคุณก็จะเป็นผู้อำนวยการสำนักงานสายตรวจในตัวเมืองแล้ว""น้องหลินพูดไปถึงไหนแล้ว ถ้าไม่มีน้องหลิน เกรงว่าฉันก็คงปีนขึ้นไปไม่ถึงตำแหน่งนี้หรอกนะ"โม่หลินพูดด้วยความซาบซึ้งใจ"อะไรนะ? นายกับผู้อำนวยการโม่รู้จักกันจริงๆ?"เมื่อเห็นสถานการณ์เช่นนี้ จางเฉวียนจื้อก็ตกตะลึงและหวาดกลัวขึ้นมาทันที!จากคำพูดของโม่หลินสามารถคาดเดาได้ไม่ยากว่าโม่หลินและหลินเฟยไม่เพียงรู้จักกันเท่านั้น!แม้แต่ตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานสายตรวจในตัวเมืองของโม่หลิน หลินเฟยก็ยังม
หลังจากได้ยินคำพูดของหลินเฟยสีหน้าของหลิวฟางและฉู่อวิ๋นหลงก็ดูตื่นตระหนกมากยิ่งขึ้นราวกับว่าได้กินแมลงวันที่เพิ่งจะบินออกมาจากกองสิ่งปฏิกูลอย่างไงอย่างงั้น!ไม่ใช่ว่าพวกเขาจะไม่อยากหยิ่งผยองและไม่ใช่ว่าจะไม่อยากทำตัวเก่งอีกต่อไปแต่เป็นเพราะมีโม่หลินผู้อำนวยการสำนักงานสายตรวจที่จะเข้าไปรับตำแหน่งในตัวเมืองนั้นอยู่ด้วยแบบนี้เสียต่างหากซึ่งโจวเหว่ยหมินและจางเฉวียนจื้อที่พวกเขาตามมานั้นก็ไม่ได้สำคัญอะไรเลยเมื่ออยู่ต่อหน้าโม่หลินแบบนี้ พวกเขาจึงไม่สามารถเย่อหยิ่งได้อีกต่อไป!"ผู้อำนวยการจาง คุณคิดว่าหลังจากที่ตัวเองสามารถควบคุมสำนักงานสายตรวจทั้งสองแห่งได้แล้วนั้น ก็จะสามารถเพิกเฉยต่อกฎหมาย คิดจะทำอะไรก็ได้อย่างนั้นเหรอ?"และโม่หลินที่ได้รับรู้สถานการณ์ทั้งหมดแล้วนั้นก็ได้ซักถามจางเฉวียนจื้อเป็นคนแรกด้วยใบหน้าที่มืดมน"ผู้...ผู้อำนวยการโม่ครับ ไม่ใช่แบบนั้นนะครับ ความจริงเรื่องนี้จะโทษผมก็ไม่ได้นะครับ…""เป็นเพราะโจวเหว่ยหมินคนนี้ เขาได้ให้เงินจำนวนหนึ่งกับผม เพื่อให้ผมเข้ามาแทรกแซงในเรื่องนี้!"จางเฉวียนจื้อตื่นตระหนกจนตัวสั่นไปทั้งตัวและพยายามปัดความรับผิดชอบทั้งหมด!
ท่ามกลางความสะลึมสะลือ ถังรั่วเสวี่ยก็สัมผัสได้ถึงมือใหญ่ที่อบอุ่นที่แสนจะคุ้นเคยคู่นั้นบนร่างกายของเธอ เป้าหมายของการลูบไล้นั้นชัดเจนเป็นอย่างมากด้วยสัมผัสที่แสนจะคุ้นเคยนี้ มันทำให้ถังรั่วเสวี่ยตื่นขึ้นมาจากความฝัน ทั้งโลภและหลงใหลเป็นอย่างมาก"เสี่ยวเฟย ไม่ได้นะ หยวนหยวนยังอยู่ที่นี่…"ท่ามกลางความมืดในยามราตรี ถังรั่วเสวี่ยมองไม่เห็นหลินเฟย แต่เธอสามารถสัมผัสได้ว่าเป็นหลินเฟยที่อยู่บนตัวเธออุณหภูมิที่ร้อนจัดทำให้ถังรั่วเสวี่ยหายใจถี่ๆ เธอโอบกอดหลินเฟยเอาไว้ และกระซิบเบาๆ ออกมาเดิมทีเธอยังคิดว่าหลินเฟยได้มาตอนกลางวันแล้ว ตอนกลางคืนเขาจะไม่มาเสียอีกคิดไม่ถึงเลยว่าหลินเฟยจะมาตอนดึกดื่นแบบนี้ได้ช่างเป็นหนุ่มน้อยที่บ้าคลั่งเสียจริงๆ..."ไม่เป็นไรหรอกครับอาเล็ก เธอหลับไปแล้ว ผมเบาๆ หน่อยก็โอเคแล้วล่ะ""อาเล็ก อาน้ำลายไหลแล้วนะ คงจะกระหายน่าดู ให้ผมช่วยดับกระหายให้นะ"หลินเฟยหัวเราะเบาๆ พร้อมกับเอื้อมมือไปถอดชุดแนบเนื้อของถังรั่วเสวี่ยออกแม้ว่าจะมืดสนิท แต่สำหรับหลินเฟยแล้ว มันไม่ต่างอะไรจากตอนกลางวันใบหน้าที่แดงระเรื่อ รวมไปถึงดวงตาที่พร่าเบลอของถังรั่วเสวี่ยมันยิ่
เพราะต้องการรู้ความลับของโลกซ่อนเร้นจากตัวของพวกเขานั่นเองผู้หญิงที่เป็นผู้นำมาจากตระกูลอาจารย์หยินหยางที่ได้รับความเคารพนับถือมากที่สุดจากทุกคนในประเทศซากุระ ตั้งแต่บุคคลสำคัญไปจนถึงชาวบ้าน!เชียนเย่เจียจื่อจากตระกูลเชียนเย่โดยที่ตัวเธอเองยังเป็นอาจารย์หยินหยางที่มีสถานะสูง ซึ่งสามารถควบคุมพลังของผีและเทพเจ้าได้!"แม้ว่าบางส่วนของร่างกายจะหายไป แต่เขาเต็มไปด้วยความโกรธแค้น เป็นวัตถุดิบในการปลุกศพได้ดีจริงๆ""พวกนายสองคนไปเอาตัวเขาขึ้นมา"เมื่อได้ยินสิ่งที่ผู้ชายที่อยู่ด้านหลังพูด เชียนเย่เจียจื่อก็หรี่ตาที่เรียวเล็ก พร้อมพูดด้วยน้ำเสียงที่ทรงเสน่ห์จากภายในออกมา"รับทราบรับ ท่านเชียนเย่!"ในไม่ช้า ชายทั้งสองก็ได้เดินลงไปช้อนร่างเจียงอู๋เซี่ยวขึ้นมาจากสระ พร้อมหามมาวางที่หน้าของเชียนเย่เจียจื่อ"ให้พวกนายไปตรวจสอบ ได้ความว่าอย่างไรแล้ว?"เชียนเย่เจียจื่อย่อตัวลง มองสำรวจไปยังร่างของเจียงอู๋เซี่ยวโดยไม่รู้สึกกลัวแต่อย่างใดดูเหมือนว่าเธอจะคุ้นเคยกับมันเป็นอย่างดี พร้อมกับถามโดยไม่เงยหน้าออกมา"ตรวจสอบเรียบร้อยแล้วครับท่านเชียนเย่ พรุ่งนี้เช้าสิบโมง ยอดเขาจิ่วหลงซาน พวกจอมยุ
"ในเมื่ออาจารย์ลุงเอ่ยปากออกมาแล้ว อู๋เซี่ยวจะกล้าขัดได้อย่างไรล่ะครับ?""ไม่รู้ว่าอาจารย์ลุงมีเรื่องอะไรที่รบกวนจิตใจอยู่ พูดให้อู๋เซี่ยวฟังหน่อยสิครับ ไม่แน่ว่าอู๋เซี่ยวอาจจะช่วยอาจารย์ลุงแก้ปัญหาได้"ตอนนี้เจียงอู๋เซี่ยวอยู่ในการคุ้มครองของคนอื่น และยังต้องการให้กู่หรูหลงพาเขากลับโลกซ่อนเร้นอีกต่างหากแน่นอนว่าเขาไม่กล้าที่จะปฏิเสธคำชวนของกู่หรูหลงอยู่แล้ว หลังจากที่ครุ่นคิดอยู่สักพัก เขาก็พูดขึ้นมาว่า"เอาไว้คุยกันตอนที่ออกไปนอกโรงแรมแล้ว ที่นี่หูตามันเยอะ เรื่องบางอย่างไม่สะดวกที่จะพูดในตอนนี้"กู่หรูหลงไม่ได้พูดอะไรออกมาสักคำ เขาหันหลังและนำทางอยู่ข้างหน้าเจียงอู๋เซี่ยวเดินตามกู่หรูหลงออกจากโรงแรม จนมาถึงเชิงเขาของจิ่วหลงซานโดยมีสระน้ำที่ลึกจนมองไม่เห็นก้นสระ"อาจารย์ลุงครับ ท่านได้ให้ศิษย์พี่ฮว่าและศิษย์พี่ฉางเล่อไปซื้อยามาให้หลานไม่ใช่เหรอครับ?""ทำไมสองวันมานี้ อู๋เซี่ยวถึงไม่ได้เจอศิษย์พี่ฮว่าและศิษย์พี่ฉางเล่อเลยล่ะครับ"เจียงอู๋เซี่ยวเป็นฝ่ายเอ่ยถามกู่หรูหลงก่อน"อ้อ ไอ้สองคนนั้นไม่รู้ว่าไปเถลไถลที่ไหนแล้ว นี่ก็สองวันแล้วยังไม่กลับมาเลย""วันนี้ข้าออกไปตามหาก็
"ผมจะเป็นอะไรไปได้ เสี่ยวหยู่คุณอย่าได้เป็นห่วงเลยนะ""วันนี้คุณออกไปทำงานทั้งวัน เหนื่อยหรือเปล่า?""อยากจะให้ผมบีบๆ นวดๆ ขาให้คุณไหมล่ะ?"เมื่อสัมผัสความเป็นห่วงที่เจียงเฉินหยู่มีต่อเขาหลินเฟยอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมาเขาดึงเจียงเฉินหยู่ไปนั่งบนเตียง พร้อมพูดเอาอกเอาใจ"เฮ้อ ฉันวิ่งวุ่นมาทั้งวัน แม้แต่ข้าวปลาก็ไม่ได้กิน คุณว่าฉันเหนื่อยหรือเปล่าล่ะ?""ถือว่าคุณยังมีจิตสำนึกอยู่ ยังรู้จักเป็นห่วงฉัน""เดี๋ยวตอนนวดคุณเบามือหน่อยนะ ฉันล่ะกลัวว่าคุณจะเผลอนวดจนไหล่ของฉันทรุดไปแล้วจริงๆ"เจียงเฉินหยู่พูดล้อเล่น พร้อมกับหันหลังให้กับหลินเฟย"แหะๆ โอเค รับรองว่าผมจะนวดเบาๆ!"หลินเฟยวิ่งไปล้างมือในห้องน้ำ และกลับมาอย่างรวดเร็วเขาวางมือบนไหล่ของเจียงเฉินหยู่และคลำไปจนถึงคอเสื้อของเธอจากนั้นก็เลื่อนไปตามผิวเรียบเนียนไร้ที่ติ พร้อมกับสอดลึกเข้าไป นวด บีบ และหยอกล้อและมันก็ทำให้เจียงเฉินหยู่คร่ำครวญออกมาอย่างทันที"อืม...คนผีทะเล ฉันเหนื่อยจะตายอยู่แล้วนะ""คุณยังคิดจะมาแกล้งฉันอีก ปล่อยเดี๋ยวนี้ อย่ามาเล่นมั่วๆ!"แต่ทว่ามือของหลินเฟยกลับเอาแต่ใจ พร้อมพูดด้วยรอยยิ้มที่ชั่วร้ายว่
"ทำได้ครับ สิ่งเหล่านี้มันเป็นเรื่องที่ง่ายมาก พวกเราสองปู่หลานทำได้อยู่แล้วครับ"กู่หรูหลงทำมือคารวะอย่างชาญฉลาดรวมไปถึงกู่เยว่อิ๋งที่ยืนกรานอย่างแข็งขันเมื่อครู่ที่ผ่านมา เธอก็ได้เปลี่ยนทัศนคติและพยักหน้าตอบรับอย่างถ่อมตัวในทันที"โอเค ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นพวกนายปู่หลานก็กลับไปที่โรงแรมจิ่วหลงซานก่อนเถอะ รอให้ถึงพรุ่งนี้เช้า""ฉันก็จะไปร่วมประลองจอมยุทธ์ด้วยตัวเอง ถึงตอนนั้น หากฉันมีอะไรให้รับใช้ ค่อยเรียกพวกนายปู่หลานก็แล้วกัน"หลินเฟยรำพันอยู่ในใจว่า 'คำสาบานโลหิต' นั้นมีประโยชน์แบบสุดๆ และในเวลาเดียวกัน เขาก็โบกมือเพื่อส่งสัญญาณให้กู่หรูหลงและกู่เยว่อิ๋งถอยออกไปเสียก่อนซึ่งก็เป็นเวลานี้ที่เขาได้ยินเสียงฝีเท้าที่รีบเร่งได้ดังแว่วมา และนั่นก็คือโอวหยางเยี่ยนและโอวหยางชงที่ได้วิ่งตามมานั่นเองเมื่อเห็นหลินเฟยไม่เป็นอะไรเลยแม้แต่น้อยตรงกันข้ามกับกู่หรูหลงที่จากไปโดยเสียแขนไปหนึ่งข้าง และดูแก่กว่าเดิมเป็นอย่างมากแม้แต่กู่เยว่อิ๋งที่เดิมตามหลังก็ก้มหน้าก้มตาราวกับถูกสูบวิญญาณไปอะไรแบบนั้นและนั่นก็ทำให้พวกเขาสองพ่อลูกตกตะลึงจนหน้าถอดสีเลยทีเดียว!"สหายน้อง หรือว่านายจะ
น้ำเสียงของหลินเฟยเผด็จการ และเร่งเร้าอย่างหงุดหงิดเต็มที่"คุณปู่คะ เราจะทำอย่างไรกันดี?""หนูอายุยังน้อย หนูยังไม่อยากตายนะคะคุณปู่ พี่เซียวเฟิงกำลังรอหนูอยู่นะคะ…""เพียงแต่ว่าคุณปู่ หากจะให้หนูยอมเป็นทาสรับใช้เขาแล้วละก็ งั้นหนูก็ยอมตายเสียดีกว่า!"กู่เยว่อิ๋งตื่นตระหนก เธอไม่สามารถตัดสินใจอะไรได้ พร้อมกับร้องไห้สะอึกสะอื้นกับกู่หรูหลง"เยว่อิ๋ง กระบวนท่าที่เจ้าเด็กนั่นใช้ ปู่ไม่เคยพบไม่เคยเห็นมาก่อน ปู่ก็ไร้หนทางด้วยเหมือนกัน""ปู่ก็ไม่อยากจะประนีประนอมเหมือนกัน แต่การมีชีวิตอยู่ ยังไงมันก็ดีกว่าตายเป็นไหนๆ""ยังไงพวกเราก็ยอมๆ ไปเถอะ อย่างแย่ที่สุดต่อไปก็ยังมีโอกาสหลบหนีกลับไปที่โลกซ่อนเร้น และไม่ต้องกลับมาเหยียบที่โลกปัจจุบันอีกก็ได้"และกู่หรูหลงที่เพิ่งจะสำเร็จว่าที่มหาจอมยุทธ์ได้เมื่อครู่ที่ผ่านมา อายุของเขาก็ได้ยืดออกไปกว่าห้าสิบปีแล้วซึ่งในอีกห้าสิบกว่าปีข้างหน้า ไม่แน่ว่าเขาอาจจะมีโอกาสสำเร็จขั้นมหาจอมยุทธ์ก็เป็นไปได้กู่หรูหลงยิ่งไม่อยากตายมากกว่าเดิม เขาลังเลอยู่สักพัก ในที่สุดก็ถอนหายใจหนักๆ ออกมา พร้อมกับกระซิบกับกู่เยว่อิ๋ง"ในเมื่อพวกแกยอมมาเป็นทาสฉัน งั้น
กู่หรูหลงร้องขอความเมตตาอย่างสุดใจ แต่ทว่าหลินเฟยกลับไม่มีความคิดที่จะปล่อยพวกเขาไปแต่อย่างใดล้างแค้นสิบปีก็ยังไม่สาย ความจริงที่แสนจะเรียบง่ายนี้ หลินเฟยยังคงเข้าใจได้ดีแต่อย่างไรก็ตาม หลินเฟยไม่ได้เป็นปีศาจหรือฆาตกร ให้เขาฆ่ากู่หรูหลงและกู่เยว่อิ๋ง เขาก็ทำไม่ได้ด้วยเช่นกัน"พี่สาว งั้นพี่ก็ดูดกำลังภายในของเขาให้หมดสิ้น แล้วผมจะให้ผู้อำนวยการโม่ขังพวกเขาไปตลอดชีวิตก็แล้วกัน"ท้ายที่สุด หลินเฟยก็ถอนหายใจ และพูดตัดสินใจออกมา"ไม่ต้องหรอก คนคนนี้เจ้าโจมตีด้วยตัวเอง""เจ้าก็เก็บเอาไว้เป็นทาสเถอะ""ต่อไปหากพบจอมยุทธ์โบราณที่แข็งแกร่งจริงๆ ถึงตอนนั้นข้าค่อยดูดพลังลมปราณก็ยังไม่สาย""อีกอย่าง ขอแค่เจ้าควบคุมเขาได้ เจ้าก็สามารถสั่งให้เขาไปตามหาหินวิญญาณและหญ้าวิญญาณในโลกซ่อนเร้นได้ แบบนี้จะทำให้เจ้าสามารถบรรลุข้อตกลงกับข้าได้เร็วขึ้นด้วย"สิ่งที่ทำให้หลินเฟยคิดไม่ถึงก็คือ หลงอู่ได้ให้คำตอบแบบนี้ออกมาและในน้ำเสียงนั้น ยังมีการชื่นชมปะปนอยู่ด้วย"ให้ผมรับไว้เป็นทาส? ผมไม่ได้มีบุญคุณกับพวกเขาเหมือนกับโอวหยางเยี่ยนและลูกชายแบบนั้น มีแต่ความแค้นล้วนๆ เลยก็ว่าได้""แล้วพวกเขาจะยอมมาเ
สิ่งนี้ทำให้เขารู้สึกหงุดหงิดและเดือดดาลแบบสุดๆ ในขณะเดียวกัน เขาก็รู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาเรื่อยๆ แล้วในตอนนี้!เพราะวิธีการของหลินเฟย เขาไม่เคยได้พบเห็นมาก่อน!"คุณปู่ คุณปู่รีบถอดเสื้อมาดับไฟเร็วเข้า!"กู่เยว่อิ๋งก็ตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน พร้อมตะโกนเตือนเสียงดังออกไปทันที"ไม่ต้องหรอก ปู่มีวิธีของตัวเอง"กู่หรูหลงถ่ายเทพลังงานลงในแขนที่กำลังลุกไหม้ จากนั้นก็กระทืบเท้าลงไปที่พื้นอย่างเต็มแรงแปร๊ะ แปร๊ะ!แต่ทว่า หลังจากที่กู่หรูหลงได้ดึงแขนออกมา เปลวไฟดวงนั้นก็ยังคงไม่มีทีท่าว่าจะมอดลงไปแต่อย่างใด!กู่หรูหลงถอดเสื้อออก และเปลวไฟก็ไหม้แขนของเขาจนเลือดและเนื้อผสมปนเปกันไปหมด!เมื่อเห็นว่าอีกไม่นาน แขนของเขาก็คงจะไหม้ไปเสียทั้งหมดแล้ว!กู่หรูหลงก็ทำได้เพียงอดกลั้นต่อความเจ็บปวด พร้อมกับดึงมีดออกมาตัดแขนข้างขวาของตัวเองออกไปทั้งหมด!เพราะไม่อย่างนั้นแล้ว เปลวไฟที่แปลกประหลาดนี้ก็จะลามไปทั่วตัวและเผาเขาให้ตายทั้งเป็นอย่างแน่นอน!"ไอ้สารเลว ไอ้เด็กเมื่อวานซืน นี่จริงแกก็ออกมาประจันหน้ากับข้าเลยสิ!""ข้าจะสับแกเป็นชิ้นๆ อย่างแน่นอน!"กู่หรูหลงกุมบาดแผลที่เกิดจากกา
ในขณะนี้ เวลาก็ได้ล่วงเลยมาสองทุ่มกว่าๆ แล้ว ท้องฟ้าไร้ซึ่งดวงจันทร์มีดวงดาวเพียงไม่กี่ดวงที่ส่องแสงกะพริบจางๆ ออกมาภายในภูเขาชิงซาน เมื่อความมืดได้คืบคลานเข้ามา มันจึงทำให้บรรยากาศดูมืดมิดมากยิ่งขึ้นแต่ทว่าความเร็วของหลินเฟยยังไม่ได้ลดลงแต่อย่างใด เขาสามารถหลบหลีกหินที่นูนสูงเหล่านั้นได้อย่างคล่องแคล่วความมืดในยามค่ำคืน ไม่ได้ทำให้ความสามารถในการใช้ตาทิพย์ของเขาลดลงแต่อย่างใดหลินเฟยหันกลับไปมอง และพบว่ากู่หรูหลงไม่ได้เร็วเท่ากับตอนแรกอีกต่อไปหลินเฟยรู้ดีว่า นั่นไม่ใช่เพราะกู่หรูหลงเหนื่อยล้า แต่เป็นเพราะความสามารถในการมองเห็นของกู่หรูหลงลดลงเมื่ออยู่ในตอนกลางคืนนั้นเองส่วนโอวหยางเยี่ยนและลูกชายที่ติดตามมาท้ายสุดก็ถูกสลัดทิ้งโดยไม่เห็นแม้แต่เงาแล้วในตอนนี้!"กู่หรูหลง อย่างน้อยๆ แกก็เป็นถึงว่าที่มหาจอมยุทธ์ ทำไมช้าอย่างกับเต่าแบบนี้?""ขืนแกยังชักช้าอยู่ ฉันก็คงจะเบื่อจนหลับไปแล้วนะ""ด้วยความเร็วแบบนี้ แกยังคิดจะฆ่าฉันอีกงั้นเหรอ? กลับบ้านไปนอนฝันซะดีกว่า!"หลินเฟยตั้งใจชะลอความเร็ว และหันมาพูดเหน็บแนม"ไอ้หนุ่ม แกอย่าได้ชะล่าใจไปเลย แม้ว่าความเร็วของข้าจะสู้แกไม่ได