หลี่ซืออินเป็นคนแรกที่เริ่ม พร้อมกับก่นด่าอย่างเดือดดาลขึ้นมา"สัตว์เอ๊ย! ไอ้สัตว์เดรัจฉาน!""อย่าคิดว่าตระกูลเย่มีพลังมาก แล้วมึงจะทำทุกอย่างได้ ไม่เห็นกฎหมายอยู่ในสายตา!""ถ้ามึงกล้าแตะต้องชิงชิง คุณหลินจะต้องไปปล่อยมึงไปอย่างแน่นอน!""คุณหลิน? คุณหลินบ้าบออะไรกัน!""มึงไปบอกมันให้ไสหัวเข้ามา กูจะบดขยี้มันด้วยมือข้างเดียว!""คิดจะขู่กูน่ะเหรอ พวกมึงไม่มีสิทธิ์!"ดวงตาที่เหลือเพียงข้างเดียวของเย่เฟิงเต็มไปด้วยความดุร้าย!ในเมืองนี้ นอกจากตระกูลเจียงและตระกูลอู๋แล้ว ตระกูลเย่ก็ถือว่าเป็นตระกูลใหญ่ลำดับต้นๆ ด้วยเช่นกัน!และเย่เฟิงก็ไม่เคยได้ยินว่ามีตระกูลใหญ่อย่างตระกูลหลินมาก่อน!ฉินหลินและคนอื่นๆ ที่ระงับอารมณ์โกรธมาโดยตลอด เมื่อได้ยินแบบนี้ พวกเขาต่างก็ตะคอกออกมาว่า"สามหาว แค่คุณชายเล็กๆ ในตระกูลเย่คนหนึ่งมีสิทธิ์อะไรถึงมาลามปามผู้หญิงที่คุณหลินชอบแบบนี้?""กระทั่งกล้าที่จะดูถูกเหยียดหยามคุณหลิน ฉันว่าพวกแกตระกูลเย่คงอยากจะหายสาบสูญไปจากเมืองนี้เสียแล้วมั้ง!""จริงด้วย ก็แค่คุณชายกะล่อนๆ คนหนึ่งเท่านั้นเอง!""มาทำให้คุณหลินโกรธแบบนี้ ใครเขาไม่ต้องออกแรงมาก แกก็หายสาบสู
"โอ๊ย ผมลืมเรื่องนี้ไปได้ยังไง!""คุณฉินเอ้อร์ คุณติง คุณเฉิน เชิญครับๆ!""ผมจะให้คนไปเตรียมอาหารและไวน์ดีๆ พวกเรามาต้อนรับคุณหลินด้วยกันนะครับ!"หลังจากนั้นมู่อวิ๋นเฮ่อถึงได้นึกขึ้นมาได้ว่า ด้วยความสัมพันธ์ของมู่ชิงชิงและหลินเฟยในตอนนี้ขอแค่หลินเฟยออกมารับมือ เขาก็จะไม่ต้องเกรงกลัวตระกูลเย่แต่อย่างใด!"ใช่ค่ะ ใช่ค่ะ ฉันจะให้คนไปเตรียมสำรับกับข้าวเดี๋ยวนี้เลยนะคะ!"หลี่ซืออินรีบตอบสนองกลับมา พร้อมกับพูดตามไปด้วย"คุณหลินยังจะมาที่นี่ด้วยตัวเอง? ดี ดี ผู้อำนวยการมู่เชิญเร็วเข้า เราจะมาต้อนรับคุณหลินด้วยกันนะ!"ฉินหลินและคนอื่นๆ มองหน้ากัน แล้วรีบเดินตามมู่อวิ๋นเฮ่อเข้าไปในห้องโถงใหญ่ทันทีพวกเขาคิดว่า ขอแค่หลินเฟยรู้ว่าพวกเขาพยายามปกป้องตระกูลมู่ในคืนนี้!ความประทับใจของหลินเฟยที่มีต่อพวกเขาสามตระกูลจะต้องพุ่งสูงขึ้นมากอย่างแน่นอน!และไม่แน่ว่าบางทีพวกเขายังจะสามารถพัฒนาความสัมพันธ์กับหลินเฟยไปอีกระดับ!โดยนับจากนี้เป็นต้นไป หลินเฟยก็คือแบล็กหลังของพวกเขาสามตระกูลไปโดยปริยาย!……"แกร็กๆ!"ในค่ำคืนบนถนนอันกว้างใหญ่ รถโรลส์รอยซ์แฟนธอมโยกซ้ายโยกขวาไปมา!ทันใดนั้น ก็มีรถยนต
"พ่อครับ ผมยอมไม่ได้จริงๆ พ่อจะต้องช่วยผมแก้แค้นนะครับ!"เย่เฟิงรู้สึกอัดอั้นตันใจแบบสุดๆ และเอาแต่ทุบฝากระโปรงรถอยู่อย่างนั้นและผลลัพธ์ที่ได้ก็คือ เขาได้เผลอทุบไปโดนเศษกระจก เจ็บปวดจนร้องครวญครางออกมา!"เสี่ยวเฟิง ตอนนี้แกอยู่ที่ไหน พ่อจะพาคนไปแก้แค้นแทนแกเอง!""ต่อให้สามตระกูลจะร่วมมือกันมาขวางเอาไว้ พ่อก็จะทวงความยุติธรรมมาให้กับแก!""ไม่อย่างนั้นแล้ว ตระกูลเย่ของเรายังจะมีหน้าอยู่ในเมืองนี้ได้อย่างไรกัน?"เมื่อได้ยินแบบนี้แล้วเย่อู๋เฟิงก็กำหมัดเอาไว้แน่น พร้อมกับถลึงตาโตออกมา!หลังจากทราบที่อยู่ของเย่เฟิงแล้ว เย่อู๋เฟิงก็วางสายโทรศัพท์โดยตรงจากนั้นเขาก็โค้งคำนับเลขาหลิว พร้อมกับบอกเรื่องราวทั้งหมดไป"เลขาหลิวครับ พูดอย่างไม่ปิดบัง ผมได้พบกับเรื่องที่ไม่ยุติธรรมเอาเสียมากๆ ลูกสาวของมู่อวิ๋นเฮ่อไม่เพียงคบชู้ แต่ยังแทงตาของลูกชายผมจนบอดไปข้างหนึ่งอีกต่างหาก ผมอาจจะต้องรบกวนเลขาหลิวช่วยเสียแล้วนะครับ!""สำหรับความร่วมมือของพวกเรา ตระกูลเย่สามารถแบ่งกำไร 80% ให้กับคุณ ถือว่าเป็นสินน้ำใจนะครับ!"เย่อู๋เฟิงไม่ใช่คนโง่ เขารู้ดีกว่าตระกูลเย่ยากที่จะต่อต้านกับสามตระกูลใหญ่แบบน
"เอ่อ...แม้คุณหลินจะอายุไม่มาก แต่จัดการกับสิ่งต่างๆ ได้เด็ดขาดมากเลยนะครับ!"มู่อวิ๋นเฮ่อถอนหายใจพร้อมกับพูดออกมาจากนั้นเขาก็รีบอธิบายให้หลินเฟยฟังว่า"คุณหลินครับ เมื่อกี้เย่เฟิงอะไรนั่นถูกลูกสาวของผมแทงจนตาบอดไปแล้วข้างหนึ่ง เขาคิดจะแก้แค้น แต่ก็ถูกคุณฉินเอ้อร์ รวมถึงคุณติงและคุณเฉินไล่ตะเพิดออกไปแล้วน่ะครับ""ความหมายของลูกสาวผมก็คือ รอให้คุณหลินมาถึงค่อยปรึกษาหารือกันน่ะครับ""อ้อ ที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เอง ต้องขอบคุณคุณฉินเอ้อร์ คุณติงและคุณเฉินมากเลยนะ""ไม่อย่างนั้น กว่าผมจะมาถึง ไม่แน่ว่าเย่เฟิงก็อาจจะตามคนมาแก้แค้นแล้วก็เป็นไปได้"หลินเฟยพยักหน้า พร้อมกับพูดขอบคุณฉินหลินและคนอื่นๆ"ไม่ลำบาก ไม่ลำบากอะไรเลยครับ คุณหลินเกรงใจเกินไปแล้วนะครับ!""มันเป็นเรื่องที่พวกเราควรจะทำอยู่แล้วครับ!""เป็นเกียรติของเราที่ได้ทำงานให้กับคุณหลิน!"ฉินหลินและคนอื่นๆ ปลื้มใจแบบสุดๆ พร้อมกับโบกมือไปมา"เงินพวกนี้น่ากลัวว่าจะเกินหนึ่งหมื่นห้าพันล้านใช่ไหม?""คุณฉินเอ้อร์ พวกคุณช่างมีน้ำใจจริงๆ""งั้นเงินห้าหมื่นล้านผมคงไม่ถามเอากับพวกคุณแล้วนะ ถือว่าเงินจำนวนนี้หักล้างกันไปก็แล้วกัน"
มู่ชิงชิงหน้าตาสะสวย แถมหุ่นยังดีเยี่ยมอีกต่างหากต่อไปแทนที่จะให้คนอื่นมาร่วมหลับนอน สู้ตัวเองกินเสียก่อนไม่ดีกว่าเหรอ!และเขาก็กอดเอวเล็กๆ ของมู่ชิงชิงเอาไว้อย่างทันควัน พร้อมกับนวดบริเวณเนื้อนุ่มอย่างเปิดเผยหลังจากได้ประกาศออกไปแล้ว สิ่งนี้ก็คืออาณาเขตส่วนตัวของเขาไปโดยปริยาย!"ฮือ...หลินเฟย คุณนี่กะล่อนจริงๆ พ่อกับแม่ของฉันยังอยู่ที่นี่นะ...""รีบเอามือออกไป รอให้ไม่มีคน แล้วแต่คุณจะลูบเลย…"มู่ชิงชิงรู้สึกว่าบั้นท้ายของตัวเองราวกับถูกไฟไหม้เธอร้อนรุ่มไปทั้งตัว พร้อมกับใบหน้าที่แดงก่ำยากจะหาที่เปรียบได้"เหอะๆ ดี ดี งั้นเชิญคุณหลินเข้ามาพักผ่อนก่อนเถอะครับ!"หลังจากที่มู่อวิ๋นเฮ่อและหลี่ซืออินมองหน้ากันแล้ว ไม่เพียงแต่ไม่ได้แสดงความไม่พอใจใดๆ ออกมาในทางตรงกันข้าม พวกเขากลับมีความสุข พร้อมกับเชิญให้หลินเฟยเข้ามาพักในห้องโถงใหญ่อีกต่างหาก"ได้ครับลุงมู่ คุณติดต่อตระกูลเย่โดยตรงเถอะ ให้ตระกูลเย่พาเย่เฟิงมาที่นี่ด้วย""ผมอยากจะฟังคำอธิบายของตระกูลเย่เป็นการส่วนตัวน่ะครับ!"หลินเฟยหรี่ตาลงและพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาในตอนนี้ ในเมื่อหลินเฟยได้ถือว่ามู่ชิงชิงเป็นผู้หญิงขอ
เมื่อคิดถึงชายชู้ของมู่ชิงชิงที่เย่เฟิงได้พูดออกมานั้น มีความเป็นไปได้สูงว่าจะเป็นหลินเฟย!เลขาหลิวก็ถอยหลังออกมาทันที!โดยไม่อยากจะเข้าไปยุ่มย่ามกับเรื่องนี้อีกต่อไป!แต่ในขณะนี้เย่อู๋เฟิงและลูกชายได้เดินเข้าไปในห้องโถงใหญ่ของตระกูลมู่เสียแล้ว!……ในขณะนี้ หลินเฟยก็กำลังนั่งไขว่ห้างอยู่ที่โซฟาพอดีโดยมีมู่ชิงชิงสาวสวยสุดจะน่าทึ่งอยู่ในอ้อมแขนของเขาเธอกำลังลอกเปลือกองุ่นแล้วป้อนไปที่ปากของหลินเฟยด้วยตัวเองด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความสุข!"พ่อครับ มันนี่แหละที่เป็นชายชู้ของมู่ชิงชิง!""อยู่ต่อหน้าเราแบบนี้ ยังจะกล้าหัวเราะต่อกระซิกกันอีก มันช่างตบหน้าตระกูลเย่ของเราชัดๆ!""ต้องให้พวกมันชดใช้อย่างสาสมเลยนะครับ!"เมื่อเห็นฉากนี้แล้ว เย่เฟิงก็แทบจะระเบิดออกมาทันที!กรามของเขาถูกบดจนแทบจะแตกออกมา พร้อมกับตะโกนบอกเย่อู๋เฟิงไปแบบนั้น!"อย่ามาเพ้อเจ้อ ลูกสาวของฉันจะอยู่กับใครก็เป็นสิทธิ์ของเธอ!""อีกอย่าง ลูกสาวของฉันไม่ได้เป็นอะไรกับแกสักหน่อย แล้วจะถือว่ามีชู้ได้อย่างไรกัน?""กลับเป็นแกที่ทำเรื่องแบบนั้น ช่างไร้ยางอายเสียจริงๆ เป็นเย่เฟิงของแกที่จะต้องให้คำอธิบายกับตระกูลเ
เขาจะไม่เข้ามาก็ไม่ได้!หลังจากที่เย่อู๋เฟิงและลูกชายได้เข้ามาแล้ว พวกนั้นจะต้องยกชื่อของเขาออกมากดหลินเฟยและสามตระกูลอย่างแน่นอน!และถ้าเขาไม่เดินออกมาโดยตรง ต่อไปหลินเฟยจะไม่มาคิดบัญชีกับเขาหรอกเหรอ?!หลังจากเห็นหลินเฟยนั่งอยู่ข้างในฝีเท้าของเลขาหลิวก็เบาหวิวขึ้นมาทันที ซึ่งจะเห็นได้ชัดว่าเขานั้นประหม่าสักแค่ไหน!"เลขาหลิว คุณมาได้จังหวะพอดีเลย!""สามตระกูลใหญ่ต้องการเป็นศัตรูกับเรา เพียงเพราะเด็กคนนี้!"แต่ทว่าใบหน้าของเย่อู๋เฟิงกลับเป็นประกาย และรีบเดินเข้ามาพูดด้วย"กำไรทั้งหมดจากที่ดินผืนนั้น ตระกูลเย่ของเราไม่ต้องการเลยสักส่วน ยกให้เลขาหลิวเป็นค่าตอบแทนทั้งหมดนะครับ!""รบกวนคุณช่วยออกมารับหน้า และช่วยเราจัดการกับปัญหานี้หน่อยเถอะครับ!""อุ๊ย...เย่อู๋เฟิงนี่คุณเชิญเลขาหลิวมาเลยหรือนี่!""ดูเหมือนว่า...ถ้าคุณหลินไม่ได้อยู่ที่นี่ ตระกูลมู่ของเราก็คงจะล้มละลายหายไปเสียแล้ว!"เมื่อได้เห็นแบบนี้ มู่อวิ๋นเฮ่อและภรรยาก็รู้สึกกลัวขึ้นมาภายหลัง!พร้อมกับคิดทบทวนอยู่ในใจ"อ้อ ฉันก็ว่าตระกูลเย่ของพวกคุณเอาความกล้ามาจากไหน?""ที่แท้ก็จ้างเลขาหลิวมาหนุนหลังให้นี่เอง!"หลังจาก
"คุณหลินเป็นใครกัน?"ราวกับว่าเลขาหลิวจะค้นพบทางระบายอารมณ์ของตัวเองแล้วเขาชี้หน้าเย่อู๋เฟิง พร้อมก่นด่าออกมาว่า!"สถานะของคุณหลิน คุณไม่คู่ควรที่จะได้รับรู้หรอก!""แต่ฉันสามารถบอกคุณได้อย่างชัดเจนว่า!""อย่าว่าแต่เลขาหลิวเลย ต่อให้จะเป็นรัฐมนตรีอู๋มาด้วยตัวเอง เมื่อเห็นคุณหลินก็ต้องเข้ามาประจบเอาใจอยู่ดี!""แล้วตระกูลเย่เล็กๆ ของพวกคุณ จะกล้ามาเป็นศัตรูกับคุณหลินได้อย่างไร!""ฉันว่าตระกูลเย่ของพวกคุณไม่จำเป็นจะต้องอยู่ในเมืองนี้อีกแล้วล่ะ!"เลขาหลิวก็ต้องโกรธเป็นธรรมดา เพราะหลังจากกลับมาในครั้งนั้นอู๋เจิ้นกั๋วก็ได้กำชับเขาเป็นการส่วนตัวว่า ต่อไปหากมีโอกาสจะต้องผูกมิตรกับหลินเฟยให้ได้!อย่าได้เข้าไปคุกคามเขาอีก!แต่ทว่าในตอนนี้ เย่อู๋เฟิงและลูกชาย จู่ๆ ก็ได้หลอกให้เขามาต่อต้านกับหลินเฟยแบบนี้!และถ้าอู๋เจิ้นกั๋วรู้เรื่องนี้แล้วละก็ การที่ให้เขาลาออกจากการเป็นเลขาก็คงจะเบาที่สุดแล้ว!"อะไรนะ?!""เลขาหลิว...คุณ คุณไม่ได้ล้อเล่นใช่ไหม!"เมื่อได้ยินแบบนี้แล้ว เย่อู๋เฟิงและลูกชายก็รู้สึกราวกับถูกฟ้าผ่า!จากนั้นพวกเขาถึงตระหนักได้ว่า ทำไมสามตระกูลถึงได้มาเป็นศัตรูกับตระกูลเ
ท่ามกลางความสะลึมสะลือ ถังรั่วเสวี่ยก็สัมผัสได้ถึงมือใหญ่ที่อบอุ่นที่แสนจะคุ้นเคยคู่นั้นบนร่างกายของเธอ เป้าหมายของการลูบไล้นั้นชัดเจนเป็นอย่างมากด้วยสัมผัสที่แสนจะคุ้นเคยนี้ มันทำให้ถังรั่วเสวี่ยตื่นขึ้นมาจากความฝัน ทั้งโลภและหลงใหลเป็นอย่างมาก"เสี่ยวเฟย ไม่ได้นะ หยวนหยวนยังอยู่ที่นี่…"ท่ามกลางความมืดในยามราตรี ถังรั่วเสวี่ยมองไม่เห็นหลินเฟย แต่เธอสามารถสัมผัสได้ว่าเป็นหลินเฟยที่อยู่บนตัวเธออุณหภูมิที่ร้อนจัดทำให้ถังรั่วเสวี่ยหายใจถี่ๆ เธอโอบกอดหลินเฟยเอาไว้ และกระซิบเบาๆ ออกมาเดิมทีเธอยังคิดว่าหลินเฟยได้มาตอนกลางวันแล้ว ตอนกลางคืนเขาจะไม่มาเสียอีกคิดไม่ถึงเลยว่าหลินเฟยจะมาตอนดึกดื่นแบบนี้ได้ช่างเป็นหนุ่มน้อยที่บ้าคลั่งเสียจริงๆ..."ไม่เป็นไรหรอกครับอาเล็ก เธอหลับไปแล้ว ผมเบาๆ หน่อยก็โอเคแล้วล่ะ""อาเล็ก อาน้ำลายไหลแล้วนะ คงจะกระหายน่าดู ให้ผมช่วยดับกระหายให้นะ"หลินเฟยหัวเราะเบาๆ พร้อมกับเอื้อมมือไปถอดชุดแนบเนื้อของถังรั่วเสวี่ยออกแม้ว่าจะมืดสนิท แต่สำหรับหลินเฟยแล้ว มันไม่ต่างอะไรจากตอนกลางวันใบหน้าที่แดงระเรื่อ รวมไปถึงดวงตาที่พร่าเบลอของถังรั่วเสวี่ยมันยิ่
เพราะต้องการรู้ความลับของโลกซ่อนเร้นจากตัวของพวกเขานั่นเองผู้หญิงที่เป็นผู้นำมาจากตระกูลอาจารย์หยินหยางที่ได้รับความเคารพนับถือมากที่สุดจากทุกคนในประเทศซากุระ ตั้งแต่บุคคลสำคัญไปจนถึงชาวบ้าน!เชียนเย่เจียจื่อจากตระกูลเชียนเย่โดยที่ตัวเธอเองยังเป็นอาจารย์หยินหยางที่มีสถานะสูง ซึ่งสามารถควบคุมพลังของผีและเทพเจ้าได้!"แม้ว่าบางส่วนของร่างกายจะหายไป แต่เขาเต็มไปด้วยความโกรธแค้น เป็นวัตถุดิบในการปลุกศพได้ดีจริงๆ""พวกนายสองคนไปเอาตัวเขาขึ้นมา"เมื่อได้ยินสิ่งที่ผู้ชายที่อยู่ด้านหลังพูด เชียนเย่เจียจื่อก็หรี่ตาที่เรียวเล็ก พร้อมพูดด้วยน้ำเสียงที่ทรงเสน่ห์จากภายในออกมา"รับทราบรับ ท่านเชียนเย่!"ในไม่ช้า ชายทั้งสองก็ได้เดินลงไปช้อนร่างเจียงอู๋เซี่ยวขึ้นมาจากสระ พร้อมหามมาวางที่หน้าของเชียนเย่เจียจื่อ"ให้พวกนายไปตรวจสอบ ได้ความว่าอย่างไรแล้ว?"เชียนเย่เจียจื่อย่อตัวลง มองสำรวจไปยังร่างของเจียงอู๋เซี่ยวโดยไม่รู้สึกกลัวแต่อย่างใดดูเหมือนว่าเธอจะคุ้นเคยกับมันเป็นอย่างดี พร้อมกับถามโดยไม่เงยหน้าออกมา"ตรวจสอบเรียบร้อยแล้วครับท่านเชียนเย่ พรุ่งนี้เช้าสิบโมง ยอดเขาจิ่วหลงซาน พวกจอมยุ
"ในเมื่ออาจารย์ลุงเอ่ยปากออกมาแล้ว อู๋เซี่ยวจะกล้าขัดได้อย่างไรล่ะครับ?""ไม่รู้ว่าอาจารย์ลุงมีเรื่องอะไรที่รบกวนจิตใจอยู่ พูดให้อู๋เซี่ยวฟังหน่อยสิครับ ไม่แน่ว่าอู๋เซี่ยวอาจจะช่วยอาจารย์ลุงแก้ปัญหาได้"ตอนนี้เจียงอู๋เซี่ยวอยู่ในการคุ้มครองของคนอื่น และยังต้องการให้กู่หรูหลงพาเขากลับโลกซ่อนเร้นอีกต่างหากแน่นอนว่าเขาไม่กล้าที่จะปฏิเสธคำชวนของกู่หรูหลงอยู่แล้ว หลังจากที่ครุ่นคิดอยู่สักพัก เขาก็พูดขึ้นมาว่า"เอาไว้คุยกันตอนที่ออกไปนอกโรงแรมแล้ว ที่นี่หูตามันเยอะ เรื่องบางอย่างไม่สะดวกที่จะพูดในตอนนี้"กู่หรูหลงไม่ได้พูดอะไรออกมาสักคำ เขาหันหลังและนำทางอยู่ข้างหน้าเจียงอู๋เซี่ยวเดินตามกู่หรูหลงออกจากโรงแรม จนมาถึงเชิงเขาของจิ่วหลงซานโดยมีสระน้ำที่ลึกจนมองไม่เห็นก้นสระ"อาจารย์ลุงครับ ท่านได้ให้ศิษย์พี่ฮว่าและศิษย์พี่ฉางเล่อไปซื้อยามาให้หลานไม่ใช่เหรอครับ?""ทำไมสองวันมานี้ อู๋เซี่ยวถึงไม่ได้เจอศิษย์พี่ฮว่าและศิษย์พี่ฉางเล่อเลยล่ะครับ"เจียงอู๋เซี่ยวเป็นฝ่ายเอ่ยถามกู่หรูหลงก่อน"อ้อ ไอ้สองคนนั้นไม่รู้ว่าไปเถลไถลที่ไหนแล้ว นี่ก็สองวันแล้วยังไม่กลับมาเลย""วันนี้ข้าออกไปตามหาก็
"ผมจะเป็นอะไรไปได้ เสี่ยวหยู่คุณอย่าได้เป็นห่วงเลยนะ""วันนี้คุณออกไปทำงานทั้งวัน เหนื่อยหรือเปล่า?""อยากจะให้ผมบีบๆ นวดๆ ขาให้คุณไหมล่ะ?"เมื่อสัมผัสความเป็นห่วงที่เจียงเฉินหยู่มีต่อเขาหลินเฟยอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมาเขาดึงเจียงเฉินหยู่ไปนั่งบนเตียง พร้อมพูดเอาอกเอาใจ"เฮ้อ ฉันวิ่งวุ่นมาทั้งวัน แม้แต่ข้าวปลาก็ไม่ได้กิน คุณว่าฉันเหนื่อยหรือเปล่าล่ะ?""ถือว่าคุณยังมีจิตสำนึกอยู่ ยังรู้จักเป็นห่วงฉัน""เดี๋ยวตอนนวดคุณเบามือหน่อยนะ ฉันล่ะกลัวว่าคุณจะเผลอนวดจนไหล่ของฉันทรุดไปแล้วจริงๆ"เจียงเฉินหยู่พูดล้อเล่น พร้อมกับหันหลังให้กับหลินเฟย"แหะๆ โอเค รับรองว่าผมจะนวดเบาๆ!"หลินเฟยวิ่งไปล้างมือในห้องน้ำ และกลับมาอย่างรวดเร็วเขาวางมือบนไหล่ของเจียงเฉินหยู่และคลำไปจนถึงคอเสื้อของเธอจากนั้นก็เลื่อนไปตามผิวเรียบเนียนไร้ที่ติ พร้อมกับสอดลึกเข้าไป นวด บีบ และหยอกล้อและมันก็ทำให้เจียงเฉินหยู่คร่ำครวญออกมาอย่างทันที"อืม...คนผีทะเล ฉันเหนื่อยจะตายอยู่แล้วนะ""คุณยังคิดจะมาแกล้งฉันอีก ปล่อยเดี๋ยวนี้ อย่ามาเล่นมั่วๆ!"แต่ทว่ามือของหลินเฟยกลับเอาแต่ใจ พร้อมพูดด้วยรอยยิ้มที่ชั่วร้ายว่
"ทำได้ครับ สิ่งเหล่านี้มันเป็นเรื่องที่ง่ายมาก พวกเราสองปู่หลานทำได้อยู่แล้วครับ"กู่หรูหลงทำมือคารวะอย่างชาญฉลาดรวมไปถึงกู่เยว่อิ๋งที่ยืนกรานอย่างแข็งขันเมื่อครู่ที่ผ่านมา เธอก็ได้เปลี่ยนทัศนคติและพยักหน้าตอบรับอย่างถ่อมตัวในทันที"โอเค ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นพวกนายปู่หลานก็กลับไปที่โรงแรมจิ่วหลงซานก่อนเถอะ รอให้ถึงพรุ่งนี้เช้า""ฉันก็จะไปร่วมประลองจอมยุทธ์ด้วยตัวเอง ถึงตอนนั้น หากฉันมีอะไรให้รับใช้ ค่อยเรียกพวกนายปู่หลานก็แล้วกัน"หลินเฟยรำพันอยู่ในใจว่า 'คำสาบานโลหิต' นั้นมีประโยชน์แบบสุดๆ และในเวลาเดียวกัน เขาก็โบกมือเพื่อส่งสัญญาณให้กู่หรูหลงและกู่เยว่อิ๋งถอยออกไปเสียก่อนซึ่งก็เป็นเวลานี้ที่เขาได้ยินเสียงฝีเท้าที่รีบเร่งได้ดังแว่วมา และนั่นก็คือโอวหยางเยี่ยนและโอวหยางชงที่ได้วิ่งตามมานั่นเองเมื่อเห็นหลินเฟยไม่เป็นอะไรเลยแม้แต่น้อยตรงกันข้ามกับกู่หรูหลงที่จากไปโดยเสียแขนไปหนึ่งข้าง และดูแก่กว่าเดิมเป็นอย่างมากแม้แต่กู่เยว่อิ๋งที่เดิมตามหลังก็ก้มหน้าก้มตาราวกับถูกสูบวิญญาณไปอะไรแบบนั้นและนั่นก็ทำให้พวกเขาสองพ่อลูกตกตะลึงจนหน้าถอดสีเลยทีเดียว!"สหายน้อง หรือว่านายจะ
น้ำเสียงของหลินเฟยเผด็จการ และเร่งเร้าอย่างหงุดหงิดเต็มที่"คุณปู่คะ เราจะทำอย่างไรกันดี?""หนูอายุยังน้อย หนูยังไม่อยากตายนะคะคุณปู่ พี่เซียวเฟิงกำลังรอหนูอยู่นะคะ…""เพียงแต่ว่าคุณปู่ หากจะให้หนูยอมเป็นทาสรับใช้เขาแล้วละก็ งั้นหนูก็ยอมตายเสียดีกว่า!"กู่เยว่อิ๋งตื่นตระหนก เธอไม่สามารถตัดสินใจอะไรได้ พร้อมกับร้องไห้สะอึกสะอื้นกับกู่หรูหลง"เยว่อิ๋ง กระบวนท่าที่เจ้าเด็กนั่นใช้ ปู่ไม่เคยพบไม่เคยเห็นมาก่อน ปู่ก็ไร้หนทางด้วยเหมือนกัน""ปู่ก็ไม่อยากจะประนีประนอมเหมือนกัน แต่การมีชีวิตอยู่ ยังไงมันก็ดีกว่าตายเป็นไหนๆ""ยังไงพวกเราก็ยอมๆ ไปเถอะ อย่างแย่ที่สุดต่อไปก็ยังมีโอกาสหลบหนีกลับไปที่โลกซ่อนเร้น และไม่ต้องกลับมาเหยียบที่โลกปัจจุบันอีกก็ได้"และกู่หรูหลงที่เพิ่งจะสำเร็จว่าที่มหาจอมยุทธ์ได้เมื่อครู่ที่ผ่านมา อายุของเขาก็ได้ยืดออกไปกว่าห้าสิบปีแล้วซึ่งในอีกห้าสิบกว่าปีข้างหน้า ไม่แน่ว่าเขาอาจจะมีโอกาสสำเร็จขั้นมหาจอมยุทธ์ก็เป็นไปได้กู่หรูหลงยิ่งไม่อยากตายมากกว่าเดิม เขาลังเลอยู่สักพัก ในที่สุดก็ถอนหายใจหนักๆ ออกมา พร้อมกับกระซิบกับกู่เยว่อิ๋ง"ในเมื่อพวกแกยอมมาเป็นทาสฉัน งั้น
กู่หรูหลงร้องขอความเมตตาอย่างสุดใจ แต่ทว่าหลินเฟยกลับไม่มีความคิดที่จะปล่อยพวกเขาไปแต่อย่างใดล้างแค้นสิบปีก็ยังไม่สาย ความจริงที่แสนจะเรียบง่ายนี้ หลินเฟยยังคงเข้าใจได้ดีแต่อย่างไรก็ตาม หลินเฟยไม่ได้เป็นปีศาจหรือฆาตกร ให้เขาฆ่ากู่หรูหลงและกู่เยว่อิ๋ง เขาก็ทำไม่ได้ด้วยเช่นกัน"พี่สาว งั้นพี่ก็ดูดกำลังภายในของเขาให้หมดสิ้น แล้วผมจะให้ผู้อำนวยการโม่ขังพวกเขาไปตลอดชีวิตก็แล้วกัน"ท้ายที่สุด หลินเฟยก็ถอนหายใจ และพูดตัดสินใจออกมา"ไม่ต้องหรอก คนคนนี้เจ้าโจมตีด้วยตัวเอง""เจ้าก็เก็บเอาไว้เป็นทาสเถอะ""ต่อไปหากพบจอมยุทธ์โบราณที่แข็งแกร่งจริงๆ ถึงตอนนั้นข้าค่อยดูดพลังลมปราณก็ยังไม่สาย""อีกอย่าง ขอแค่เจ้าควบคุมเขาได้ เจ้าก็สามารถสั่งให้เขาไปตามหาหินวิญญาณและหญ้าวิญญาณในโลกซ่อนเร้นได้ แบบนี้จะทำให้เจ้าสามารถบรรลุข้อตกลงกับข้าได้เร็วขึ้นด้วย"สิ่งที่ทำให้หลินเฟยคิดไม่ถึงก็คือ หลงอู่ได้ให้คำตอบแบบนี้ออกมาและในน้ำเสียงนั้น ยังมีการชื่นชมปะปนอยู่ด้วย"ให้ผมรับไว้เป็นทาส? ผมไม่ได้มีบุญคุณกับพวกเขาเหมือนกับโอวหยางเยี่ยนและลูกชายแบบนั้น มีแต่ความแค้นล้วนๆ เลยก็ว่าได้""แล้วพวกเขาจะยอมมาเ
สิ่งนี้ทำให้เขารู้สึกหงุดหงิดและเดือดดาลแบบสุดๆ ในขณะเดียวกัน เขาก็รู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาเรื่อยๆ แล้วในตอนนี้!เพราะวิธีการของหลินเฟย เขาไม่เคยได้พบเห็นมาก่อน!"คุณปู่ คุณปู่รีบถอดเสื้อมาดับไฟเร็วเข้า!"กู่เยว่อิ๋งก็ตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน พร้อมตะโกนเตือนเสียงดังออกไปทันที"ไม่ต้องหรอก ปู่มีวิธีของตัวเอง"กู่หรูหลงถ่ายเทพลังงานลงในแขนที่กำลังลุกไหม้ จากนั้นก็กระทืบเท้าลงไปที่พื้นอย่างเต็มแรงแปร๊ะ แปร๊ะ!แต่ทว่า หลังจากที่กู่หรูหลงได้ดึงแขนออกมา เปลวไฟดวงนั้นก็ยังคงไม่มีทีท่าว่าจะมอดลงไปแต่อย่างใด!กู่หรูหลงถอดเสื้อออก และเปลวไฟก็ไหม้แขนของเขาจนเลือดและเนื้อผสมปนเปกันไปหมด!เมื่อเห็นว่าอีกไม่นาน แขนของเขาก็คงจะไหม้ไปเสียทั้งหมดแล้ว!กู่หรูหลงก็ทำได้เพียงอดกลั้นต่อความเจ็บปวด พร้อมกับดึงมีดออกมาตัดแขนข้างขวาของตัวเองออกไปทั้งหมด!เพราะไม่อย่างนั้นแล้ว เปลวไฟที่แปลกประหลาดนี้ก็จะลามไปทั่วตัวและเผาเขาให้ตายทั้งเป็นอย่างแน่นอน!"ไอ้สารเลว ไอ้เด็กเมื่อวานซืน นี่จริงแกก็ออกมาประจันหน้ากับข้าเลยสิ!""ข้าจะสับแกเป็นชิ้นๆ อย่างแน่นอน!"กู่หรูหลงกุมบาดแผลที่เกิดจากกา
ในขณะนี้ เวลาก็ได้ล่วงเลยมาสองทุ่มกว่าๆ แล้ว ท้องฟ้าไร้ซึ่งดวงจันทร์มีดวงดาวเพียงไม่กี่ดวงที่ส่องแสงกะพริบจางๆ ออกมาภายในภูเขาชิงซาน เมื่อความมืดได้คืบคลานเข้ามา มันจึงทำให้บรรยากาศดูมืดมิดมากยิ่งขึ้นแต่ทว่าความเร็วของหลินเฟยยังไม่ได้ลดลงแต่อย่างใด เขาสามารถหลบหลีกหินที่นูนสูงเหล่านั้นได้อย่างคล่องแคล่วความมืดในยามค่ำคืน ไม่ได้ทำให้ความสามารถในการใช้ตาทิพย์ของเขาลดลงแต่อย่างใดหลินเฟยหันกลับไปมอง และพบว่ากู่หรูหลงไม่ได้เร็วเท่ากับตอนแรกอีกต่อไปหลินเฟยรู้ดีว่า นั่นไม่ใช่เพราะกู่หรูหลงเหนื่อยล้า แต่เป็นเพราะความสามารถในการมองเห็นของกู่หรูหลงลดลงเมื่ออยู่ในตอนกลางคืนนั้นเองส่วนโอวหยางเยี่ยนและลูกชายที่ติดตามมาท้ายสุดก็ถูกสลัดทิ้งโดยไม่เห็นแม้แต่เงาแล้วในตอนนี้!"กู่หรูหลง อย่างน้อยๆ แกก็เป็นถึงว่าที่มหาจอมยุทธ์ ทำไมช้าอย่างกับเต่าแบบนี้?""ขืนแกยังชักช้าอยู่ ฉันก็คงจะเบื่อจนหลับไปแล้วนะ""ด้วยความเร็วแบบนี้ แกยังคิดจะฆ่าฉันอีกงั้นเหรอ? กลับบ้านไปนอนฝันซะดีกว่า!"หลินเฟยตั้งใจชะลอความเร็ว และหันมาพูดเหน็บแนม"ไอ้หนุ่ม แกอย่าได้ชะล่าใจไปเลย แม้ว่าความเร็วของข้าจะสู้แกไม่ได