“ไม่สนใจครับ”หลินเฟยไม่อยากจะคิดว่าเขาจะส่ายหัวปฎิเสธไปแบบตรงๆ“เธอไม่กล้าหรอ?หรือว่าเธอไม่เข้าใจเลยกลัวว่าจะแพ้เดิมพัน?”กู้เหวินปี้จงใจสร้างปัญหา“ใครบอกว่าผมไม่กล้า”ผมเดิมพันกับคุณแล้วมีอะไรเป็นของรางวัล?“ถ้าเกิดว่าผมชนะจะทำอย่างไร?”หลินเฟยหัวเราหึๆแล้วพูด“ถ้าเกิดว่าคุณสามารถชนะได้ ฉันจะให้คุณเลือกหินหยกและนำเงินจากกระเป๋าของฉันในการซื้อให้กับคุณ”กู้เหวินปี้หัวเราะเสียงดัง ราวกับว่าได้ยินเสียวหัวเราะของสวรรค์เหมือนกันเพราะว่าเขารู้ว่าหลินเฟยไม่เข้าใจคุณภาพของผลิตภัณฑ์ ซึ่งในสายตาของเขาหลินเฟยไม่มีโอกาสชนะเลย และเขาทำงานในโรงงานหยกมา30ปี!“ได้ แต่ว่าให้ฉันตกลงก่อน แม้ว่าฉันแพ้ ฉันก็ไม่มีเงินซื้อหยกให้กับเธอ”หลินเฟยก็หัวเราะเหมือนกัน“เหอะ ไม่ต้องหรอก ถ้าหากว่าคุณแพ้ คุณก็ไสหัวออกไปจากที่นี่ก็พอ!”กู้เหวินปี้เต็มไปด้วยความมั่นใจ“โอเค งั้นเธอเลือกหินสิ ฉันเลือกเสร็จแล้ว”หลินเฟยดูเหมือนสุ่มเลือกหินหยกมา2-3ก้อนเมื่อสักครู่หลินเฟยเห็นว่ามีหินหยกที่คุณภาพไม่ได้แย่อยู่2-3ก้อนเขากำลังปวดหัวกับการนำหินออกไป ในตอนนี้มีคนควักเงินซื้อให้กับเขา หลินเฟยจึงรู้สึกเกรงใ
“เหอะๆ เธอมันก็แค่คนบ้านนอกที่ไม่รู้เรื่องอะไร ยังจะกล้ามาพูดจาไร้สาระทีนี่อีก?”“ไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตาจริงๆ!”“รีบๆตัดหินสามก้อนนี้ออกมาเร็วๆสิ!”กู้เหวินปี้ยิ้มอย่างสว่างเจิดจ้าโชติช่วงรออีกสักครู่หลินเฟยจะอับอายขายขี้หน้าอย่างแน่นอน!“ตัดหินของเขาอย่างละเอียดจะไม่เสียเวลาอย่างแน่นอน”พนักงานหลายคนเริ่มตัดหินหยกของหลินเฟยด้วยท่าทีที่ไม่พอใจหลินเฟยไม่แม้แต่หมดอาลัยตายอยากกับการพูดฉีกหน้าเลยสักนิดแต่ทว่ากลับดีใจจนแสยะปากอีกสักครู่ก็จะได้รับหยกที่คุณภาพที่ดีที่สุดสามก้อนมาอย่างเปล่าประโยชน์ เขาจะเป็นคนที่มีความสุขที่สุด “แคร่กๆ”เพียงแต่ว่าตัดหินลงไปครั้งแรกก็ตัดผ่านบนผิวของหินเพียง1เมตรก็แค่นั้นเอง สายตาของพนักงานเบิกกว้างด้วยความตกใจ“เชี่ยแม่งเป็นสีเขียวจริงๆด้วย”“ภายในเป็นสีเขียวเยอะมาก!”สายตาของกู้เหวินปี้เบิกตากว้าง สีหน้าของเขาดูไม่ดีทันที“หินที่แตกก้อนนี้มีหยกอย่างไม่คาดคิด ก้อนเล็กก้อนนี้โชคดีจริงๆ”“โชคดีใช่หรือไหม รอสักครู่เธอก็จะรู้เองแหละ?”หลินเฟยยิ้มหึๆ“เธอดีใจอะไร บางทีมันอาจจะเป็นหยกที่อยู่บนผิวหินเล็กๆเพียงเท่านั้นเอง”กู้เหวินปี้สงบสติ
“ใช่สิ ไม่อย่างนั้นฉันจะเลือพวกมันมาทำอะไร?”หลินเฟยพูดอย่างธรรมชาติ“เธอเพ้อฝันให้มันน้อยๆหน่อยๆ หินสองก้อนนี้ไม่มีหยกอย่างแน่นอน!”กู้เหวินปี้กำมัดแน่นและอ้างปากค้างเขาไม่เชื่อเลยว่าสายตาและความโชคดีของหลินเฟยจะดีขนาดนี้!“ตะลึงอะไร?”“ตัดสิ รีบตัดเร็ว!”ครั้งแรกที่ซูเฉียนเสวี่ยวิตกกังวลเป็นอย่างมาก เขาอยากจะดูว่าหินหยกสองก้อนนี้ ดังนั้นเธอจึงสั่งให้เจ้าหน้าที่ใช้แรงในการตัดให้เร็วขึ้น!“แคร่ก!”พนักงานจากที่ได้ยินคำแนะนำจากหลินเฟย จึงตัดไปลงไปอย่างตื้นๆ!ผลลัพธ์ที่ออกมาก็เผยให้เนื้อมรกตสีเขียวมากมาย เนื้อมรกตที่มีพลังเปี่ยมล้ม!เมื่อลอกผิวหินออกมาแล้ว ถือว่าหินก้อนนี้เป็นหยกที่สวยและขนาดใหญ่อย่างไร้ที่ติ!“เชี่ย!ของจริงด้วย!”“ทั้งหมดเป็นหยกหมดเลย!เป็นหยกหมดเลยทั้งทั้งหมด!”“แม่งเอ้ย น้องชายคนนี้คือเทพจริงๆ!”“แม่งเอ้ย ฉันไม่ได้ฝันไปจริงๆใช่ไหม!”พนังงานบ้ากันไปแล้ว!พวกเขาไม่เชื่อในสายตาของตัวเองอย่างสิ้นเชิง!“มีหยกอย่างไม่คาดคิด!”“ไม่...เป็นไปไม่ได้ จะเป็นไปได้อย่างไรกัน!”สีหน้าของกู้เหวินปี้ขาวซีดอย่างไม่มีอะไรสามารถเปรียบเทียบได้ จนกระทั่งเหงื่อเย็นของเขา
“ฉันไม่ได้ปฏิเสธความรับผิดชอบ ทรัพย์สินทั้งหมดของฉัน ยังไม่พอซื้อหยกก้อนหนึ่งเลย......” กู้เหวินปี้ยิ้มเจื่อน ๆ แล้วส่ายหน้าตอนนี้ ในใจของเขาหมดอาลัยตายอยากไปหมดแล้วอยู่ในวงการหยกมาเกือบตลอดชีวิต นึกไม่ถึงว่าจะสะดุดล้มอย่างรุนแรงต่อหน้าเด็กที่ยังไม่โตเป็นผู้ใหญ่เต็มตัว!“ไม่มีเงินคุณพนันกับผีสิ!”หลินเฟยต่อว่าอย่างไม่พอใจนี่ทำให้เขาดีใจสูญเปล่าหรอกเหรอ?“หลินเฟยนายอย่าโมโห เหล่ากู้ไม่ได้มีเงินเยอะขนาดนั้นจริง ๆ นั่นแหละ”“ฉันตัดสินใจเองได้ หยกสามก้อนนี้ยกให้นาย!”ซูเฉี่ยนเสวี่ยรีบพูดออกมาเธอก็ทุ่มหมดหน้าทักแล้ว หินหยกสามก้อนนี้แน่นอนว่ามีมูลค่า แต่เทียบกับหลินเฟย มันไม่มีค่าเลยสักนิด!“เชี่ย ฉันแม่งจะบ้าแล้ว!” เจ้าหน้าที่พนักงานที่รุมล้อมอยู่ ตื่นเต้นจนตัวสั่น!ไม่ถึงครึ่งชั่วโมง เจ้าหนุ่มที่ยังไม่เป็นผู้ใหญ่เต็มตัวคนนี้ กลับได้กำไรถึงหนึ่งพันห้าร้อยล้านบาท!นี่เป็นเงินที่คนธรรมดาทั่วไปไม่สามารถบรรลุถึงได้ตลอดชีวิต!“คุณหนู นี่เป็นความผิดที่ผมทำ คุณไม่ต้องช่วยผมแบกรับผลที่ตามมา”“ผมจะกลับไปขายรถขายบ้านรวบรวมเงินออกมา ถ้าหากไม่พอ ผมค่อย ๆ ชดใช้คืน”กู้เหวินปี้ สีหน
“นายอยากได้เงินเดือนเท่าไหร่ นายเสนอมาได้หมดเลย หรือว่าแปลงเป็นค่าคอมมิชชั่นก็ได้”“ถึงเวลาเหล่ากู้เป็นผู้ช่วยให้นาย”ซูเฉี่ยนเสวี่ยรีบขวางตรงหน้าหลินเฟยแล้วพูดขึ้น“พ่อหนุ่ม ถ้านายไม่รังเกียจ สั่งงานฉันได้ทุกอย่าง”กู้เหวินปี้คราวนี้เกรงใจต่อหลินเฟยเป็นพิเศษ ไม่มีความคิดที่ไม่เคารพก่อนหน้านี้แม้แต่นิด“ผู้จัดซื้อ?”“ฉันได้เงินเยอะแยะขนาดนั้นก็ไม่มีประโยชน์ ไม่เอาดีกว่า”หลินเฟยส่ายหน้าพูดขึ้นเขายังคงคิดว่าได้อยู่ข้างกายพวกถังรั่วเสวี่ยดียิ่งกว่าหนึ่งพันห้าร้อยล้านบาท เพียงพอให้เขาใช้จ่ายได้ทั้งชีวิตแล้ว“นี่......” ซูเฉี่ยนเสวี่ยยังคิดว่าเงื่อนไขที่ตัวเองเสนอออกมายังไม่สามารถโน้มน้าวหลินเฟยได้ เธอรู้สึกร้อนใจทันที“พี่ซู พี่นิสัยดีจริง ๆ เงื่อนไขที่เสนอออกมาก็ยั่วยวนใจอย่างมาก แต่ว่าฉันเป็นอิสระจนเคยชินแล้ว ไม่ชอบถูกควบคุม”“ถ้าพี่ไม่รังเกียจ ต่อไปทุกคนก็คือเพื่อนกัน”“พี่มีตรงไหนที่ต้องการความช่วยเหลือ โทรหาฉันได้ทุกเมื่อ” หลินเฟยยิ้มกริ่มแล้วพูดขึ้น“ได้ ถึงเวลาพี่ซูก็ไม่มีทางให้นายช่วยฟรี ๆ หรอก”หลังจากที่ซูเฉี่ยนเสวี่ยได้รับสัญญาจากหลินเฟย จึงได้รู้สึกโล่งใจเธ
ซูเฉี่ยนเสวี่ยพาหลินเฟยมายังร้านหยก จากนั้นก็เลือกสร้อยคอหยกสี่เส้นที่มีมูลค่ามากกว่าห้าล้านบาทขึ้นไปแต่ละรูปแบบต่างออกแบบด้วยความโดดเด่นและมีความคิดสร้างสรรค์ผู้หญิงทุกคนเห็นแล้วต่างก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกชื่นชอบตอนแรกหลินเฟยยังรู้สึกเกรงใจเล็กน้อยแต่ซูเฉี่ยนเสวี่ยท่าทางแน่วแน่อย่างมาก หลินเฟยไม่รับไว้ไม่ได้!ทำให้พนักงานที่อยู่ด้านในมึนงงอยู่ครู่หนึ่ง!“แม่เจ้า ฉันไม่ได้ฝันไปใช่ไหม!”“นี่เพิ่งออกไปแค่ไม่กี่ชั่วโมงเอง คุณหนูทำไมถึงได้ดีกับเขาขนาดนี้ ยัดเยียดจะมอบหยกให้เขา!”“แม่เจ้า สร้อยหยกสามสี่เส้นพวกนี้ราคาสิบห้าล้านบาท ชาตินี้ฉันยังหาเงินเยอะขนาดนี้ไม่ได้เลย!”ตอนนี้สายตาของแต่ละคนที่มองไปทางหลินเฟย ครุ่นคิดอยู่นานแต่ก็ยังไม่เข้าใจดูท่าทางแบบนี้ หรือว่าคุณหนูของตัวเองชอบหมอนี่แล้วเหรอ?ดูท่าหน้าตาดี ใช้หากินได้จริง ๆ!ออกจากร้านหยก ซูเฉี่ยนเสวี่ยก็กลับมารับบทคนขับรถอีกครั้ง ยืนยันว่าจะไปส่งหลินเฟยกลับหมู่บ้านเถาฮวารถที่เธอขับก็คือรถเบนซ์มายบัคคันหนึ่ง อีกอย่างเป็นรุ่นท็อปด้วย มูลค่าราคาสามสิบล้านบาทหลินเฟยนั่งอยู่ตรงที่นั่งผู้โดยสารข้างคนขับ ไม่ต้องพูดเลยว่าสบา
“ดูท่าความหายของพี่ซู ก็คือคิดว่าฉันเป็นหมอหาเงินได้น้อยสินะ?”“หรือคิดว่าทักษะการแพทย์ของฉันไม่ดีพอ?”หลินเฟยยิ้มกริ่มพูดขึ้น“ความสามารถของคนหนึ่งคนมีจำกัด นายมีฝีมือยอดเยี่ยมในธุรกิจหยกขนาดนั้น ฉันคิดว่าทักษะทางการแพทย์น่าจะไม่ได้ดีเท่าไหร่นัก”ซูเฉี่ยนเสวี่ยก็ยิ้มแล้วพูดขึ้นเช่นเดียวกัน“งั้นเอาแบบนี้ ฉันตรวจดูให้พี่ซูแล้วกัน”หลินเฟยภูมิใจในทักษะทางการแพทย์ของตัวเองมากที่สุดถูกซูเฉี่ยนเสวี่ยบอกว่าตัวเองไม่มีความสามารถ งั้นไม่มีทางยอมรับอยู่แล้ว“นายดูให้ฉันเหรอ?”“งั้นก็ได้ นายดูสิว่าฉันมีปัญหาอะไรบ้าง”“แต่ว่า บอกไว้ก่อนนะ พวกเราก็นับว่าเป็นเพื่อน ฉันไม่ให้ค่าตรวจกับนายหรอกนะ”ซูเฉี่ยนเสวี่ยกึ่งล้อเล่นพูดขึ้นสัปดาห์ที่ผ่านมา เธอเพิ่งไปโรงพยาบาลเพื่อตรวจร่างกาย ไม่มีปัญหาอะไรทั้งนั้นเพียงแต่ในเมื่อหลินเฟยอยากตรวจ เธอก็ไม่อยากฝืนปฏิเสธ“พี่ซู อันที่จริงพี่มีปัญหาที่ร้ายแรงมาก แต่ฉันไม่รู้ว่าควรจะบอกพี่หรือไม่”หลินเฟยหลังจากมองดูซูเฉี่ยนเสวี่ยครู่หนึ่ง สีหน้าก็แปลกไปเล็กน้อย แต่ไม่ได้เป็นเพราะรูปร่างของซูเฉี่ยนเสวี่ยดีเกินไปและก็ไม่ใช่เพราะว่าตรงนั้นของเธอสวยม
“พี่ซูนี่เป็นมาตั้งแต่กำเนิดไม่มีทางรักษาหายขาดได้”“นอกจาก……”หลินเฟยครุ่นคิด แต่ก็ยังไม่พูดออกมา“นอกจากอะไร? นายรีบพูดเถอะ!”ซูเฉี่ยนเสวี่ยรู้สึกไม่เป็นตัวของตัวเอง เธอก็ไม่อยากทำตัวเองเหนื่อยทุกวันถึงแม้สบายมาก แต่ก็ไม่ใช่แผนการระยะยาวโดยเฉพาะหลังจากที่ถูกหลินเฟยมองทะลุ เธออยากจะแก้ไขปัญหานี้มากกว่า“นอกจากพี่สามารถหาผู้ชายที่แข็งแรงกำยำได้ พวกพี่สองคนร่วมมือกัน นอนกับพี่ทุกวัน พี่ก็ไม่ต้องทำเองแล้ว”หลินเฟยฝืนพูดขึ้น“ถุย พูดจาไร้สาระ!”“นายก็พูดเองว่าผู้ชายท่ัวไปทำให้ฉันพึงพอใจไม่ได้ ฉันจะไปหาผู้หญิงแข็งแรงกำยำสุดยอดจากที่ไหน?”ซูเฉี่ยนเสวี่ยเหยียบเบรคทันที เธอหายใจรุนแรงหัวข้อการสนทนาแบบนี้เป็นเรื่องส่วนตัวมากเกินไปแล้ว ทำให้เธอขับรถไม่สามารถจดจ่อสมาธิได้”ฉันไงล่ะ……”หลินเฟยเลิกคิ้ว พูดพึมพำเสียงเบาประโยคหนึ่งพานเสี่ยวเหลียนกับจางซินเยว่ถึงแม้จะหน้าตาสวยสุด ๆ รูปร่างก็ดีจนไม่สามารถบรรยายได้ แต่ว่าพวกเธอรับตัวเองไม่ไหวด้วยซ้ำบางครั้งหลินเฟยไม่กล้าออกแรง กลัวจะเกิดอะไรขึ้นแต่ว่า ซูเฉี่ยนเสวี่ยพูดได้ว่าเกิดมาเพื่อจับคู่กับตัวเองโดยเฉพาะบนตัวของเธอมีรัศมีออ
ท่ามกลางความสะลึมสะลือ ถังรั่วเสวี่ยก็สัมผัสได้ถึงมือใหญ่ที่อบอุ่นที่แสนจะคุ้นเคยคู่นั้นบนร่างกายของเธอ เป้าหมายของการลูบไล้นั้นชัดเจนเป็นอย่างมากด้วยสัมผัสที่แสนจะคุ้นเคยนี้ มันทำให้ถังรั่วเสวี่ยตื่นขึ้นมาจากความฝัน ทั้งโลภและหลงใหลเป็นอย่างมาก"เสี่ยวเฟย ไม่ได้นะ หยวนหยวนยังอยู่ที่นี่…"ท่ามกลางความมืดในยามราตรี ถังรั่วเสวี่ยมองไม่เห็นหลินเฟย แต่เธอสามารถสัมผัสได้ว่าเป็นหลินเฟยที่อยู่บนตัวเธออุณหภูมิที่ร้อนจัดทำให้ถังรั่วเสวี่ยหายใจถี่ๆ เธอโอบกอดหลินเฟยเอาไว้ และกระซิบเบาๆ ออกมาเดิมทีเธอยังคิดว่าหลินเฟยได้มาตอนกลางวันแล้ว ตอนกลางคืนเขาจะไม่มาเสียอีกคิดไม่ถึงเลยว่าหลินเฟยจะมาตอนดึกดื่นแบบนี้ได้ช่างเป็นหนุ่มน้อยที่บ้าคลั่งเสียจริงๆ..."ไม่เป็นไรหรอกครับอาเล็ก เธอหลับไปแล้ว ผมเบาๆ หน่อยก็โอเคแล้วล่ะ""อาเล็ก อาน้ำลายไหลแล้วนะ คงจะกระหายน่าดู ให้ผมช่วยดับกระหายให้นะ"หลินเฟยหัวเราะเบาๆ พร้อมกับเอื้อมมือไปถอดชุดแนบเนื้อของถังรั่วเสวี่ยออกแม้ว่าจะมืดสนิท แต่สำหรับหลินเฟยแล้ว มันไม่ต่างอะไรจากตอนกลางวันใบหน้าที่แดงระเรื่อ รวมไปถึงดวงตาที่พร่าเบลอของถังรั่วเสวี่ยมันยิ่
เพราะต้องการรู้ความลับของโลกซ่อนเร้นจากตัวของพวกเขานั่นเองผู้หญิงที่เป็นผู้นำมาจากตระกูลอาจารย์หยินหยางที่ได้รับความเคารพนับถือมากที่สุดจากทุกคนในประเทศซากุระ ตั้งแต่บุคคลสำคัญไปจนถึงชาวบ้าน!เชียนเย่เจียจื่อจากตระกูลเชียนเย่โดยที่ตัวเธอเองยังเป็นอาจารย์หยินหยางที่มีสถานะสูง ซึ่งสามารถควบคุมพลังของผีและเทพเจ้าได้!"แม้ว่าบางส่วนของร่างกายจะหายไป แต่เขาเต็มไปด้วยความโกรธแค้น เป็นวัตถุดิบในการปลุกศพได้ดีจริงๆ""พวกนายสองคนไปเอาตัวเขาขึ้นมา"เมื่อได้ยินสิ่งที่ผู้ชายที่อยู่ด้านหลังพูด เชียนเย่เจียจื่อก็หรี่ตาที่เรียวเล็ก พร้อมพูดด้วยน้ำเสียงที่ทรงเสน่ห์จากภายในออกมา"รับทราบรับ ท่านเชียนเย่!"ในไม่ช้า ชายทั้งสองก็ได้เดินลงไปช้อนร่างเจียงอู๋เซี่ยวขึ้นมาจากสระ พร้อมหามมาวางที่หน้าของเชียนเย่เจียจื่อ"ให้พวกนายไปตรวจสอบ ได้ความว่าอย่างไรแล้ว?"เชียนเย่เจียจื่อย่อตัวลง มองสำรวจไปยังร่างของเจียงอู๋เซี่ยวโดยไม่รู้สึกกลัวแต่อย่างใดดูเหมือนว่าเธอจะคุ้นเคยกับมันเป็นอย่างดี พร้อมกับถามโดยไม่เงยหน้าออกมา"ตรวจสอบเรียบร้อยแล้วครับท่านเชียนเย่ พรุ่งนี้เช้าสิบโมง ยอดเขาจิ่วหลงซาน พวกจอมยุ
"ในเมื่ออาจารย์ลุงเอ่ยปากออกมาแล้ว อู๋เซี่ยวจะกล้าขัดได้อย่างไรล่ะครับ?""ไม่รู้ว่าอาจารย์ลุงมีเรื่องอะไรที่รบกวนจิตใจอยู่ พูดให้อู๋เซี่ยวฟังหน่อยสิครับ ไม่แน่ว่าอู๋เซี่ยวอาจจะช่วยอาจารย์ลุงแก้ปัญหาได้"ตอนนี้เจียงอู๋เซี่ยวอยู่ในการคุ้มครองของคนอื่น และยังต้องการให้กู่หรูหลงพาเขากลับโลกซ่อนเร้นอีกต่างหากแน่นอนว่าเขาไม่กล้าที่จะปฏิเสธคำชวนของกู่หรูหลงอยู่แล้ว หลังจากที่ครุ่นคิดอยู่สักพัก เขาก็พูดขึ้นมาว่า"เอาไว้คุยกันตอนที่ออกไปนอกโรงแรมแล้ว ที่นี่หูตามันเยอะ เรื่องบางอย่างไม่สะดวกที่จะพูดในตอนนี้"กู่หรูหลงไม่ได้พูดอะไรออกมาสักคำ เขาหันหลังและนำทางอยู่ข้างหน้าเจียงอู๋เซี่ยวเดินตามกู่หรูหลงออกจากโรงแรม จนมาถึงเชิงเขาของจิ่วหลงซานโดยมีสระน้ำที่ลึกจนมองไม่เห็นก้นสระ"อาจารย์ลุงครับ ท่านได้ให้ศิษย์พี่ฮว่าและศิษย์พี่ฉางเล่อไปซื้อยามาให้หลานไม่ใช่เหรอครับ?""ทำไมสองวันมานี้ อู๋เซี่ยวถึงไม่ได้เจอศิษย์พี่ฮว่าและศิษย์พี่ฉางเล่อเลยล่ะครับ"เจียงอู๋เซี่ยวเป็นฝ่ายเอ่ยถามกู่หรูหลงก่อน"อ้อ ไอ้สองคนนั้นไม่รู้ว่าไปเถลไถลที่ไหนแล้ว นี่ก็สองวันแล้วยังไม่กลับมาเลย""วันนี้ข้าออกไปตามหาก็
"ผมจะเป็นอะไรไปได้ เสี่ยวหยู่คุณอย่าได้เป็นห่วงเลยนะ""วันนี้คุณออกไปทำงานทั้งวัน เหนื่อยหรือเปล่า?""อยากจะให้ผมบีบๆ นวดๆ ขาให้คุณไหมล่ะ?"เมื่อสัมผัสความเป็นห่วงที่เจียงเฉินหยู่มีต่อเขาหลินเฟยอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมาเขาดึงเจียงเฉินหยู่ไปนั่งบนเตียง พร้อมพูดเอาอกเอาใจ"เฮ้อ ฉันวิ่งวุ่นมาทั้งวัน แม้แต่ข้าวปลาก็ไม่ได้กิน คุณว่าฉันเหนื่อยหรือเปล่าล่ะ?""ถือว่าคุณยังมีจิตสำนึกอยู่ ยังรู้จักเป็นห่วงฉัน""เดี๋ยวตอนนวดคุณเบามือหน่อยนะ ฉันล่ะกลัวว่าคุณจะเผลอนวดจนไหล่ของฉันทรุดไปแล้วจริงๆ"เจียงเฉินหยู่พูดล้อเล่น พร้อมกับหันหลังให้กับหลินเฟย"แหะๆ โอเค รับรองว่าผมจะนวดเบาๆ!"หลินเฟยวิ่งไปล้างมือในห้องน้ำ และกลับมาอย่างรวดเร็วเขาวางมือบนไหล่ของเจียงเฉินหยู่และคลำไปจนถึงคอเสื้อของเธอจากนั้นก็เลื่อนไปตามผิวเรียบเนียนไร้ที่ติ พร้อมกับสอดลึกเข้าไป นวด บีบ และหยอกล้อและมันก็ทำให้เจียงเฉินหยู่คร่ำครวญออกมาอย่างทันที"อืม...คนผีทะเล ฉันเหนื่อยจะตายอยู่แล้วนะ""คุณยังคิดจะมาแกล้งฉันอีก ปล่อยเดี๋ยวนี้ อย่ามาเล่นมั่วๆ!"แต่ทว่ามือของหลินเฟยกลับเอาแต่ใจ พร้อมพูดด้วยรอยยิ้มที่ชั่วร้ายว่
"ทำได้ครับ สิ่งเหล่านี้มันเป็นเรื่องที่ง่ายมาก พวกเราสองปู่หลานทำได้อยู่แล้วครับ"กู่หรูหลงทำมือคารวะอย่างชาญฉลาดรวมไปถึงกู่เยว่อิ๋งที่ยืนกรานอย่างแข็งขันเมื่อครู่ที่ผ่านมา เธอก็ได้เปลี่ยนทัศนคติและพยักหน้าตอบรับอย่างถ่อมตัวในทันที"โอเค ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นพวกนายปู่หลานก็กลับไปที่โรงแรมจิ่วหลงซานก่อนเถอะ รอให้ถึงพรุ่งนี้เช้า""ฉันก็จะไปร่วมประลองจอมยุทธ์ด้วยตัวเอง ถึงตอนนั้น หากฉันมีอะไรให้รับใช้ ค่อยเรียกพวกนายปู่หลานก็แล้วกัน"หลินเฟยรำพันอยู่ในใจว่า 'คำสาบานโลหิต' นั้นมีประโยชน์แบบสุดๆ และในเวลาเดียวกัน เขาก็โบกมือเพื่อส่งสัญญาณให้กู่หรูหลงและกู่เยว่อิ๋งถอยออกไปเสียก่อนซึ่งก็เป็นเวลานี้ที่เขาได้ยินเสียงฝีเท้าที่รีบเร่งได้ดังแว่วมา และนั่นก็คือโอวหยางเยี่ยนและโอวหยางชงที่ได้วิ่งตามมานั่นเองเมื่อเห็นหลินเฟยไม่เป็นอะไรเลยแม้แต่น้อยตรงกันข้ามกับกู่หรูหลงที่จากไปโดยเสียแขนไปหนึ่งข้าง และดูแก่กว่าเดิมเป็นอย่างมากแม้แต่กู่เยว่อิ๋งที่เดิมตามหลังก็ก้มหน้าก้มตาราวกับถูกสูบวิญญาณไปอะไรแบบนั้นและนั่นก็ทำให้พวกเขาสองพ่อลูกตกตะลึงจนหน้าถอดสีเลยทีเดียว!"สหายน้อง หรือว่านายจะ
น้ำเสียงของหลินเฟยเผด็จการ และเร่งเร้าอย่างหงุดหงิดเต็มที่"คุณปู่คะ เราจะทำอย่างไรกันดี?""หนูอายุยังน้อย หนูยังไม่อยากตายนะคะคุณปู่ พี่เซียวเฟิงกำลังรอหนูอยู่นะคะ…""เพียงแต่ว่าคุณปู่ หากจะให้หนูยอมเป็นทาสรับใช้เขาแล้วละก็ งั้นหนูก็ยอมตายเสียดีกว่า!"กู่เยว่อิ๋งตื่นตระหนก เธอไม่สามารถตัดสินใจอะไรได้ พร้อมกับร้องไห้สะอึกสะอื้นกับกู่หรูหลง"เยว่อิ๋ง กระบวนท่าที่เจ้าเด็กนั่นใช้ ปู่ไม่เคยพบไม่เคยเห็นมาก่อน ปู่ก็ไร้หนทางด้วยเหมือนกัน""ปู่ก็ไม่อยากจะประนีประนอมเหมือนกัน แต่การมีชีวิตอยู่ ยังไงมันก็ดีกว่าตายเป็นไหนๆ""ยังไงพวกเราก็ยอมๆ ไปเถอะ อย่างแย่ที่สุดต่อไปก็ยังมีโอกาสหลบหนีกลับไปที่โลกซ่อนเร้น และไม่ต้องกลับมาเหยียบที่โลกปัจจุบันอีกก็ได้"และกู่หรูหลงที่เพิ่งจะสำเร็จว่าที่มหาจอมยุทธ์ได้เมื่อครู่ที่ผ่านมา อายุของเขาก็ได้ยืดออกไปกว่าห้าสิบปีแล้วซึ่งในอีกห้าสิบกว่าปีข้างหน้า ไม่แน่ว่าเขาอาจจะมีโอกาสสำเร็จขั้นมหาจอมยุทธ์ก็เป็นไปได้กู่หรูหลงยิ่งไม่อยากตายมากกว่าเดิม เขาลังเลอยู่สักพัก ในที่สุดก็ถอนหายใจหนักๆ ออกมา พร้อมกับกระซิบกับกู่เยว่อิ๋ง"ในเมื่อพวกแกยอมมาเป็นทาสฉัน งั้น
กู่หรูหลงร้องขอความเมตตาอย่างสุดใจ แต่ทว่าหลินเฟยกลับไม่มีความคิดที่จะปล่อยพวกเขาไปแต่อย่างใดล้างแค้นสิบปีก็ยังไม่สาย ความจริงที่แสนจะเรียบง่ายนี้ หลินเฟยยังคงเข้าใจได้ดีแต่อย่างไรก็ตาม หลินเฟยไม่ได้เป็นปีศาจหรือฆาตกร ให้เขาฆ่ากู่หรูหลงและกู่เยว่อิ๋ง เขาก็ทำไม่ได้ด้วยเช่นกัน"พี่สาว งั้นพี่ก็ดูดกำลังภายในของเขาให้หมดสิ้น แล้วผมจะให้ผู้อำนวยการโม่ขังพวกเขาไปตลอดชีวิตก็แล้วกัน"ท้ายที่สุด หลินเฟยก็ถอนหายใจ และพูดตัดสินใจออกมา"ไม่ต้องหรอก คนคนนี้เจ้าโจมตีด้วยตัวเอง""เจ้าก็เก็บเอาไว้เป็นทาสเถอะ""ต่อไปหากพบจอมยุทธ์โบราณที่แข็งแกร่งจริงๆ ถึงตอนนั้นข้าค่อยดูดพลังลมปราณก็ยังไม่สาย""อีกอย่าง ขอแค่เจ้าควบคุมเขาได้ เจ้าก็สามารถสั่งให้เขาไปตามหาหินวิญญาณและหญ้าวิญญาณในโลกซ่อนเร้นได้ แบบนี้จะทำให้เจ้าสามารถบรรลุข้อตกลงกับข้าได้เร็วขึ้นด้วย"สิ่งที่ทำให้หลินเฟยคิดไม่ถึงก็คือ หลงอู่ได้ให้คำตอบแบบนี้ออกมาและในน้ำเสียงนั้น ยังมีการชื่นชมปะปนอยู่ด้วย"ให้ผมรับไว้เป็นทาส? ผมไม่ได้มีบุญคุณกับพวกเขาเหมือนกับโอวหยางเยี่ยนและลูกชายแบบนั้น มีแต่ความแค้นล้วนๆ เลยก็ว่าได้""แล้วพวกเขาจะยอมมาเ
สิ่งนี้ทำให้เขารู้สึกหงุดหงิดและเดือดดาลแบบสุดๆ ในขณะเดียวกัน เขาก็รู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาเรื่อยๆ แล้วในตอนนี้!เพราะวิธีการของหลินเฟย เขาไม่เคยได้พบเห็นมาก่อน!"คุณปู่ คุณปู่รีบถอดเสื้อมาดับไฟเร็วเข้า!"กู่เยว่อิ๋งก็ตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน พร้อมตะโกนเตือนเสียงดังออกไปทันที"ไม่ต้องหรอก ปู่มีวิธีของตัวเอง"กู่หรูหลงถ่ายเทพลังงานลงในแขนที่กำลังลุกไหม้ จากนั้นก็กระทืบเท้าลงไปที่พื้นอย่างเต็มแรงแปร๊ะ แปร๊ะ!แต่ทว่า หลังจากที่กู่หรูหลงได้ดึงแขนออกมา เปลวไฟดวงนั้นก็ยังคงไม่มีทีท่าว่าจะมอดลงไปแต่อย่างใด!กู่หรูหลงถอดเสื้อออก และเปลวไฟก็ไหม้แขนของเขาจนเลือดและเนื้อผสมปนเปกันไปหมด!เมื่อเห็นว่าอีกไม่นาน แขนของเขาก็คงจะไหม้ไปเสียทั้งหมดแล้ว!กู่หรูหลงก็ทำได้เพียงอดกลั้นต่อความเจ็บปวด พร้อมกับดึงมีดออกมาตัดแขนข้างขวาของตัวเองออกไปทั้งหมด!เพราะไม่อย่างนั้นแล้ว เปลวไฟที่แปลกประหลาดนี้ก็จะลามไปทั่วตัวและเผาเขาให้ตายทั้งเป็นอย่างแน่นอน!"ไอ้สารเลว ไอ้เด็กเมื่อวานซืน นี่จริงแกก็ออกมาประจันหน้ากับข้าเลยสิ!""ข้าจะสับแกเป็นชิ้นๆ อย่างแน่นอน!"กู่หรูหลงกุมบาดแผลที่เกิดจากกา
ในขณะนี้ เวลาก็ได้ล่วงเลยมาสองทุ่มกว่าๆ แล้ว ท้องฟ้าไร้ซึ่งดวงจันทร์มีดวงดาวเพียงไม่กี่ดวงที่ส่องแสงกะพริบจางๆ ออกมาภายในภูเขาชิงซาน เมื่อความมืดได้คืบคลานเข้ามา มันจึงทำให้บรรยากาศดูมืดมิดมากยิ่งขึ้นแต่ทว่าความเร็วของหลินเฟยยังไม่ได้ลดลงแต่อย่างใด เขาสามารถหลบหลีกหินที่นูนสูงเหล่านั้นได้อย่างคล่องแคล่วความมืดในยามค่ำคืน ไม่ได้ทำให้ความสามารถในการใช้ตาทิพย์ของเขาลดลงแต่อย่างใดหลินเฟยหันกลับไปมอง และพบว่ากู่หรูหลงไม่ได้เร็วเท่ากับตอนแรกอีกต่อไปหลินเฟยรู้ดีว่า นั่นไม่ใช่เพราะกู่หรูหลงเหนื่อยล้า แต่เป็นเพราะความสามารถในการมองเห็นของกู่หรูหลงลดลงเมื่ออยู่ในตอนกลางคืนนั้นเองส่วนโอวหยางเยี่ยนและลูกชายที่ติดตามมาท้ายสุดก็ถูกสลัดทิ้งโดยไม่เห็นแม้แต่เงาแล้วในตอนนี้!"กู่หรูหลง อย่างน้อยๆ แกก็เป็นถึงว่าที่มหาจอมยุทธ์ ทำไมช้าอย่างกับเต่าแบบนี้?""ขืนแกยังชักช้าอยู่ ฉันก็คงจะเบื่อจนหลับไปแล้วนะ""ด้วยความเร็วแบบนี้ แกยังคิดจะฆ่าฉันอีกงั้นเหรอ? กลับบ้านไปนอนฝันซะดีกว่า!"หลินเฟยตั้งใจชะลอความเร็ว และหันมาพูดเหน็บแนม"ไอ้หนุ่ม แกอย่าได้ชะล่าใจไปเลย แม้ว่าความเร็วของข้าจะสู้แกไม่ได