ขณะที่หลินเฟยและคนอื่นๆ ได้รอเลขาหลิวและเจิ้งโหย่วเหลียงอย่างใจจดใจจ่ออยู่นั้นทางด้านของหลินเฟย เขาก็ได้พาคุณท่านหวางมายังบ้านที่เพิ่งจะซื้อมาใหม่เพื่อพักผ่อนแล้วในตอนนี้แค่รอตัวยาสมุนไพรที่เหลิ่งหนิงซวงจะนำมาส่งเท่านั้นจากนั้นเขาก็จะสามารถเริ่มการรักษาคุณท่านหวางและจ้าวอู่จี๋ได้แล้วในช่วงเวลานี้ทีมคุ้มกันคุณท่านหวางก็ได้ติดตามมาเป็นจำนวนไม่น้อยอย่างไรก็ตาม พวกเขาเฝ้าอยู่นอกประตูและไม่ได้เข้าไปในห้องนั่งเล่น แม้ว่าหลินเฟยจะเชิญพวกเขาก็ตาม"ดูไม่ออกจริงๆ น้องชายอายุน้อยขนาดนี้ ไม่เพียงทักษะการแพทย์จะยอดเยี่ยมเท่านั้น แม้กระทั่งทักษะกังฟูก็แข็งแกร่งอีกต่างหาก ยอดฝีมือชี่กงที่ยอดเยี่ยมก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของคุณเลยแม้แต่น้อย""ตามที่คาดเอาไว้ เหนือฟ้าก็ยังมีฟ้าอยู่แบบนั้นจริงๆ"คุณท่านหวางนั่งตัวตรงอยู่ที่โซฟา พร้อมกับมองไปยังหลินเฟยด้วยรอยยิ้มบนใบหน้าแม้ว่าเขาจะอายุมากและมีผมขาวไปทั้งศีรษะแต่ทว่าแววตาคู่นั้นกลับสดใสมีความดุดันและความน่าเกรงขามอยู่ในนั้นด้วย"คุณท่านหวางชมเกินไปแล้วครับ ทักษะการแพทย์นี้สืบต่อกันรุ่นต่อรุ่น ตั้งแต่เด็กๆ ผมจะเรียนรู้มาจากรุ่นคุณพ่อแค่ผิวเผ
"ฮ่าฮ่า ต่อไปจ้าวอู๋จี๋ก็จะได้เป็นลูกศิษย์คนแรกของปรมาจารย์ด้านการต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่แล้ว!"เมื่อจ้าวอู๋จี๋ได้ยินว่ามีคนพูดชมหลินเฟยแบบนี้เขาก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเป็นเกียรติและภาคภูมิใจขึ้นมาอีกทั้งยังดูสดชื่นอย่างเห็นได้ชัดอีกด้วย"มันก็จริงอย่างที่พูดเอาไว้ น้องหลินในตอนนี้ขาดแค่เวลาและทักษะเท่านั้นเอง"โจวจื่อหลงหัวเราะ จากนั้นก็คิดอะไรขึ้นมาได้จึงพูดกับหลินเฟยว่า"เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ ฉันก็อยากจะถามสักหน่อยนะ""ไม่รู้ว่าน้องหลินมีความคิดที่จะเรียนศิลปะการต่อสู้สักหน่อยหรือเปล่า?""หากมีความคิดแบบนั้นอยู่แล้วละก็ ฉันมีเทคนิคการฝึกฝนที่เป็นความลับมากมายจากโรงเรียนที่มีชื่อเสียง รวมถึงประสบการณ์ศิลปะการต่อสู้ส่วนตัวด้วย ถ้าน้องหลินไม่รังเกียจแล้วละก็ ฉันก็สามารถให้คนส่งมาให้น้องหลินได้นะ""หากน้องหลินมีตรงไหนไม่เข้าใจ ก็สามารถพูดคุยกับฉันได้ตลอดเวลานะ""ได้เลยครับ การเรียนกังฟูก็เป็นเรื่องดีเหมือนกัน งั้นก็ต้องขอบคุณน้ำใจที่พี่โจวมีให้นะครับ"หลินเฟยไม่คิดว่าโจวจื่อหลงจะใจดีและตรงไปตรงมาขนาดนี้เขาจึงรีบตอบรับในทันทีท้ายที่สุดแล้ว เมื่อเขาต้องต่อสู้กับคนในตอนนี้ นอกจากกา
เมื่อแพทย์อาวุโสได้อบรมอย่างเข้มงวดแบบนี้ ทั้งสองจึงไม่กล้าโต้เถียงเป็นธรรมดาและก็ทำได้แค่พยักหน้ายอมรับความผิดของตัวเองอย่างขุ่นเคืองใจเท่านั้นยังดีที่แพทย์อาวุโสไม่ได้พูดอะไรมาก โดยที่หันหลังและเดินออกจากวอร์ดไปแล้ว"เมียจ๋า ครั้งหน้าอย่ายั่วยวนผมอีกนะ เมื่อกี้หมอก็ได้บอกเอาไว้แล้ว หากขืนทำต่อไป ผมก็คงจะตายไปแล้ว…"จ้าวฟู่กุ้ยพูดกับจางอวี้หลานด้วยใบหน้าที่เศร้าสร้อย"ไปให้พ้นเลยนะ ฉันไปยั่วยวนคุณตั้งแต่เมื่อไหร่?""ไม่ใช่เพราะตัวของคุณเองที่ทนไม่ไหวต้องทำเรื่องแบบนี้ลงไปครั้งแล้วครั้งเล่า พอเกิดเรื่องก็จะมาโยนความผิดให้ฉัน? ถุย หน้าด้านจริงๆ เลย!"จางอวี้หลานสาปแช่งด้วยความโกรธต่อให้ทั้งสองจะหน้าหนาสักแค่ไหน เมื่อเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น พวกเขาจะไปให้หลินเฟยรักษาได้อย่างไรกันดังนั้นเมื่อครู่ที่จ้าวลู่ลู่ได้โทรมาจางอวี้หลานก็ทำได้แค่พูดโกหกไปเท่านั้นจ้าวฟู่กุ้ยรู้สึกไม่พอใจเมื่อถูกต่อว่าแบบนี้และคิดอยู่ในใจว่าแม่งเอ๊ย รอให้ฉันออกจากโรงพยาบาลไปได้ก่อนเถอะ ฉันจะไปขอยาเพิ่มใหญ่เพิ่มยาวกับเสี่ยวหลินให้ได้!ฉันจะทำให้เธอลงจากเตียงไม่ได้เลย!ฉันทนคำดูถูกแบบนี้ไม่ได้หรอกนะ
"ท่านนี้คือคุณท่านหวาง ท่านนี้คือคุณหวาง..."หลังจากทราบตัวตนของคุณท่านหวางแล้วจู่ๆ เหลิ่งหนิงซวงก็เบิกตากว้าง และเนื้อตัวที่ละเอียดอ่อนก็ได้สั่นสะท้านจากนั้นเธอก็พูดอย่างเหลือเชื่อว่า"อะไรนะ? ท่านคือหวางเทียนผิง วีรบุรุษผู้ก่อตั้งประเทศ คุณท่านหวาง?""โอ้พระเจ้า นี่ฉัน...เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้มาพบท่าน!""ฉัน...ฉันจะโทรให้พ่อของฉันมาเดี๋ยวนี้เลยค่ะ!"เนื่องจากตื่นเต้นเกินไป เหลิ่งหนิงซวงถึงขั้นกับพูดติดอ่างเลยทีเดียวการที่คุณท่านหวางได้มาเยี่ยมเยือนแบบนี้!ในฐานะนายกเทศมนตรี หากเหลิ่งชิงซงไม่ออกมาต้อนรับแล้วละก็!นั่นก็จะถือว่าเขาละทิ้งต่อหน้าที่ และเกรงว่าใครเขาอาจจะนำมาเป็นข้อต่อรองได้!ในขณะเดียวกันเธอก็รู้สึกสั่นสะท้านอยู่ในใจเอาเสียมากๆนี่หลินเฟยมีโอกาสตรวจรักษาโรคให้กับคุณท่านหวางอย่างนั้นเหรอ!นั่นก็หมายความว่า ต่อไปหลินเฟยมีแนวโน้มว่าจะได้ติดต่อปฏิสัมพันธ์กับคุณท่านหวาง?และโอกาสแบบนี้ คนธรรมดาๆ ไม่อาจพบเจอเลยในชาตินี้!เมื่อเห็นท่าทางของเหลิ่งหนิงซวงดูแปลกไปมากคุณท่านหวางก็โบกมือ และพูดด้วยรอยยิ้มว่า"ฮ่าฮ่า สาวน้อย ตอนนี้ฉันแก่และไม่มีประโยชน์อะไรแล
เมื่อได้ยินว่าคุณท่านหวางต้องการร่วมสาบานเป็นพี่น้องกับหลินเฟยทุกคนที่อยู่ตรงนั้นก็ตกตะลึงไปทันที!หากคุณท่านหวางไม่ได้พูดล้อเล่นแล้วละก็ตอนนี้หลินเฟยก็แทบจะกลายเป็นคนที่ดวงดีที่สุดไปแล้ว!ช่างดวงดีเสียจริงๆ!ท้ายที่สุดแล้ว เมื่อมองจากภาพรวมทั่วทั้งประเทศมีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่คุณท่านจะร่วมสาบานเป็นพี่น้องแบบนี้ได้?ต่อให้จะมี แต่มันจะมีใครที่อายุน้อยเท่ากับหลินเฟยคนนี้?ต้องรู้ว่า อายุของคุณท่านหวางและหลินเฟยนั้นต่างกันกว่าแปดสิบปีเลยทีเดียว!มันเป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อจริงๆ!แต่หากจะคิดทบทวนแล้ว มันก็ดูเหมือนว่าจะไม่เกินเลยแต่อย่างใดเพราะท้ายที่สุดแล้ว หลินเฟยก็ได้บอกเอาไว้แล้วว่าเขาไม่เพียงแต่ช่วยคุณท่านหวางฟื้นฟูสภาพร่างกาย แต่ยังทำให้คุณท่านหวางอยู่ต่อไปได้อีกเจ็ดแปดปีเลยทีเดียว!และเจ็ดแปดปีที่เพิ่มเข้ามานั้น มันเป็นสิ่งที่สามารถแลกเปลี่ยนด้วยเงิน ชื่อเสียง ความมั่งคั่ง และอำนาจได้หรือไม่?ไม่ได้อย่างแน่นอน!มันก็เพราะเขามาพบกับหลินเฟย จึงสามารถมีช่วงเวลานั้นเพิ่มเข้ามาได้!"คุณท่านหวางอย่าได้ล้อเล่นกับผมเลยนะครับ ผมแค่เด็กเมื่อวานซืนคนหนึ่งเท่านั้น ไม่ม
เมื่อหลินเฟยพูดแบบนี้ออกไปเขาก็ไม่ได้คิดว่าหากเป็นแบบนี้ ความสัมพันธ์ก็จะยิ่งวุ่นวายเข้าไปใหญ่"ดี งั้นทำตามที่พี่หลินพูดก็แล้วกันนะ!""เขาเรียกปู่ว่าพี่ชาย หนูเรียกเขาว่าพี่ชาย เรียกใครเรียกมันไปเลย!"แต่อย่างไรก็ตาม สิ่งนี้มันสอดคล้องกับความต้องการของหวางเจิงพอดิบพอดีโดยไม่ปล่อยให้คุณท่านหวางได้มีโอกาสพูดหวางเจิงก็พึมพำออกมา และตอบรับไปก่อนแล้ว"อืม..." คุณท่านหวางครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งจากนั้นเขาก็ส่ายหน้าไปมาอย่างเด็ดขาด"ไม่ได้ แบบนี้ เธอก็จะมาเทียบรุ่นกับปู่แล้วนะ?""จะต้องทำตามที่ปู่พูดถึงจะถูก!""หนูไม่เอาหรอก หนูไม่ฟัง หนูไม่ฟัง..."หวางเจิงแลบลิ้นที่ขี้เล่นออกมาเพื่อเป็นการต่อต้าน"หลินเฟยกลายเป็นน้องชายบุญธรรมของคุณท่านหวางไปแล้ว…"ในเวลานี้ จ้าวลู่ลู่ก็ยังอยู่ในความตกตะลึงและเธอก็รู้สึกยินดีกับหลินเฟยอย่างจริงใจแต่ทว่าสายตาที่เหลิ่งหนิงซวงได้มองมายังหลินเฟยนั้น มันกลับดูแปลกๆ อย่างเห็นได้ชัด!มันเหมือนกับว่าจะดูยังไงก็ไม่พออะไรแบบนั้น!"พี่ใหญ่ พวกคุณคุยกันไปก่อนนะครับ ผมจะไปเคี่ยวยา อีกเดี๋ยวพี่กินยานี้แล้ว ร่างกายก็จะฟื้นฟูเกือบจะหายดีแล้วนะครับ"หล
"ระหว่างทางมา ฉันได้คิดวิธีที่จะจัดการกับโม่หลินเอาไว้แล้ว!""คุณฉินเอ้อ พวกคุณรอข่าวดีของผมเถอะ"เจิ้งโหย่วเหลียงหัวเราะเยาะ จากนั้นเขาก็นำกำลังพลมุ่งหน้าไปยังหน่วยสายตรวจในตัวจังหวัดทันทีในเวลาเดียวกัน ฉินหลินก็ได้รับข้อความจากเลขาหลิวแล้ว"ฮ่าฮ่า เลขาหลิวจะมาที่นี่ในครึ่งชั่วโมง""เราสามารถส่งคนไปหาหลินเฟยและเหลิ่งชิงซงได้แล้วนะ!"ติงหรูหลงกำชับลูกน้องที่อยู่ข้างๆ"พวกนายยังยืนเซ่ออะไรอยู่? ยังไม่รีบไปตรวจสอบอีก!"……เวลาผ่านไปไม่ถึงครึ่งชั่วโมงเจิ้งโหย่วเหลียงก็ได้บุกเข้าไปในล็อบบี้ของสำนักงานสายตรวจ พร้อมกับกำลังพลที่มีอาวุธครบมือในขณะนี้ โม่หลินได้รับรู้แล้วว่าถึงเวลาแล้วที่เจิ้งโหย่วเหลียงจะลงมือด้วยตัวเองแบบนี้ดังนั้น การที่เจิ้งโหย่วเหลียงได้บุกเข้ามาแบบนี้ โม่หลินก็ไม่ได้แปลกใจเลยแม้แต่น้อยและเขาก็เพียงแสดงความไม่พอใจออกมาเล็กน้อยเท่านั้นและเจ้าหน้าที่สายตรวจที่เหลือดูไม่ค่อยจะสงบมากนักเพราะพวกเขารู้สึกว่า มันไม่คุ้มค่าเลยที่โม่หลินจะทำให้เจิ้งโหย่วเหลียงขุ่นเคืองเพราะหลินเฟยแบบนี้!ไม่แน่ว่าหน้าที่การงานของโม่หลินก็อาจจะต้องสูญเสียไปแล้วก็ได้!เนื่องจ
"ตลอดระยะเวลาสามปีที่ดำรงตำแหน่ง ผมได้คลี่คลายคดีที่ร้ายแรงเหล่านี้ไปแล้วยี่สิบสี่คดี และจับคนร้ายได้สำเร็จ""ส่วนอีกสามคดีที่ผู้อำนวยการเจิ้งได้พูดมานั้น ผมมีเบาะแสที่แน่ชัดทั้งหมดแล้ว ขอแค่เพียงคุณให้เวลาผมอีกสักหน่อย ผมจะต้องปิดคดีได้อย่างแน่นอน!""ใช่ครับ เราทุกคนต่างเป็นพยานให้กับผู้อำนวยการโม่ได้!""ให้เวลาพวกเราสักหน่อย ผู้อำนวยการโม่จะต้องนำพาพวกเราปิดคดีได้อย่างแน่นอน!"เจ้าหน้าที่สายตรวจที่อยู่ด้านหลังของโม่หลินได้ลุกขึ้นและพูดสมทบหลังจากได้ยินคำพูดของโม่หลินอย่าว่าแต่เจ้าหน้าที่สายตรวจที่อยู่ด้านหลังของโม่หลินจะชื่นชมเขาแม้แต่กลุ่มเจ้าหน้าที่สายตรวจที่มาพร้อมกับเจิ้งโหย่วเหลียงก็อดไม่ได้ที่จะนับถือ และพูดอย่างไม่รู้ตัวออกมาว่า"ผู้อำนวยการโม่ช่างยอดเยี่ยมจริงๆ!""ไม่เพียงมีความซื่อตรง แต่ยังมีความสามารถที่โดดเด่นอีกด้วย…"เมื่อได้ยินแบบนั้นแล้ว เจิ้งโหย่วเหลียงก็โกรธจนหูดับตับไหม้ พร้อมก่นด่าเสียงดังออกมาว่า!"แม่งเอ๊ย พวกแกหุบปากกันให้หมด!""เขาเป็นหัวหน้าของพวกแก หรือฉันเป็นหัวหน้าของพวกแกกันแน่?""รู้หรือเปล่าว่าทำไมฉันถึงให้พวกแกมาที่นี่?""ไอ้พวกไม่เอาไ
ท่ามกลางความสะลึมสะลือ ถังรั่วเสวี่ยก็สัมผัสได้ถึงมือใหญ่ที่อบอุ่นที่แสนจะคุ้นเคยคู่นั้นบนร่างกายของเธอ เป้าหมายของการลูบไล้นั้นชัดเจนเป็นอย่างมากด้วยสัมผัสที่แสนจะคุ้นเคยนี้ มันทำให้ถังรั่วเสวี่ยตื่นขึ้นมาจากความฝัน ทั้งโลภและหลงใหลเป็นอย่างมาก"เสี่ยวเฟย ไม่ได้นะ หยวนหยวนยังอยู่ที่นี่…"ท่ามกลางความมืดในยามราตรี ถังรั่วเสวี่ยมองไม่เห็นหลินเฟย แต่เธอสามารถสัมผัสได้ว่าเป็นหลินเฟยที่อยู่บนตัวเธออุณหภูมิที่ร้อนจัดทำให้ถังรั่วเสวี่ยหายใจถี่ๆ เธอโอบกอดหลินเฟยเอาไว้ และกระซิบเบาๆ ออกมาเดิมทีเธอยังคิดว่าหลินเฟยได้มาตอนกลางวันแล้ว ตอนกลางคืนเขาจะไม่มาเสียอีกคิดไม่ถึงเลยว่าหลินเฟยจะมาตอนดึกดื่นแบบนี้ได้ช่างเป็นหนุ่มน้อยที่บ้าคลั่งเสียจริงๆ..."ไม่เป็นไรหรอกครับอาเล็ก เธอหลับไปแล้ว ผมเบาๆ หน่อยก็โอเคแล้วล่ะ""อาเล็ก อาน้ำลายไหลแล้วนะ คงจะกระหายน่าดู ให้ผมช่วยดับกระหายให้นะ"หลินเฟยหัวเราะเบาๆ พร้อมกับเอื้อมมือไปถอดชุดแนบเนื้อของถังรั่วเสวี่ยออกแม้ว่าจะมืดสนิท แต่สำหรับหลินเฟยแล้ว มันไม่ต่างอะไรจากตอนกลางวันใบหน้าที่แดงระเรื่อ รวมไปถึงดวงตาที่พร่าเบลอของถังรั่วเสวี่ยมันยิ่
เพราะต้องการรู้ความลับของโลกซ่อนเร้นจากตัวของพวกเขานั่นเองผู้หญิงที่เป็นผู้นำมาจากตระกูลอาจารย์หยินหยางที่ได้รับความเคารพนับถือมากที่สุดจากทุกคนในประเทศซากุระ ตั้งแต่บุคคลสำคัญไปจนถึงชาวบ้าน!เชียนเย่เจียจื่อจากตระกูลเชียนเย่โดยที่ตัวเธอเองยังเป็นอาจารย์หยินหยางที่มีสถานะสูง ซึ่งสามารถควบคุมพลังของผีและเทพเจ้าได้!"แม้ว่าบางส่วนของร่างกายจะหายไป แต่เขาเต็มไปด้วยความโกรธแค้น เป็นวัตถุดิบในการปลุกศพได้ดีจริงๆ""พวกนายสองคนไปเอาตัวเขาขึ้นมา"เมื่อได้ยินสิ่งที่ผู้ชายที่อยู่ด้านหลังพูด เชียนเย่เจียจื่อก็หรี่ตาที่เรียวเล็ก พร้อมพูดด้วยน้ำเสียงที่ทรงเสน่ห์จากภายในออกมา"รับทราบรับ ท่านเชียนเย่!"ในไม่ช้า ชายทั้งสองก็ได้เดินลงไปช้อนร่างเจียงอู๋เซี่ยวขึ้นมาจากสระ พร้อมหามมาวางที่หน้าของเชียนเย่เจียจื่อ"ให้พวกนายไปตรวจสอบ ได้ความว่าอย่างไรแล้ว?"เชียนเย่เจียจื่อย่อตัวลง มองสำรวจไปยังร่างของเจียงอู๋เซี่ยวโดยไม่รู้สึกกลัวแต่อย่างใดดูเหมือนว่าเธอจะคุ้นเคยกับมันเป็นอย่างดี พร้อมกับถามโดยไม่เงยหน้าออกมา"ตรวจสอบเรียบร้อยแล้วครับท่านเชียนเย่ พรุ่งนี้เช้าสิบโมง ยอดเขาจิ่วหลงซาน พวกจอมยุ
"ในเมื่ออาจารย์ลุงเอ่ยปากออกมาแล้ว อู๋เซี่ยวจะกล้าขัดได้อย่างไรล่ะครับ?""ไม่รู้ว่าอาจารย์ลุงมีเรื่องอะไรที่รบกวนจิตใจอยู่ พูดให้อู๋เซี่ยวฟังหน่อยสิครับ ไม่แน่ว่าอู๋เซี่ยวอาจจะช่วยอาจารย์ลุงแก้ปัญหาได้"ตอนนี้เจียงอู๋เซี่ยวอยู่ในการคุ้มครองของคนอื่น และยังต้องการให้กู่หรูหลงพาเขากลับโลกซ่อนเร้นอีกต่างหากแน่นอนว่าเขาไม่กล้าที่จะปฏิเสธคำชวนของกู่หรูหลงอยู่แล้ว หลังจากที่ครุ่นคิดอยู่สักพัก เขาก็พูดขึ้นมาว่า"เอาไว้คุยกันตอนที่ออกไปนอกโรงแรมแล้ว ที่นี่หูตามันเยอะ เรื่องบางอย่างไม่สะดวกที่จะพูดในตอนนี้"กู่หรูหลงไม่ได้พูดอะไรออกมาสักคำ เขาหันหลังและนำทางอยู่ข้างหน้าเจียงอู๋เซี่ยวเดินตามกู่หรูหลงออกจากโรงแรม จนมาถึงเชิงเขาของจิ่วหลงซานโดยมีสระน้ำที่ลึกจนมองไม่เห็นก้นสระ"อาจารย์ลุงครับ ท่านได้ให้ศิษย์พี่ฮว่าและศิษย์พี่ฉางเล่อไปซื้อยามาให้หลานไม่ใช่เหรอครับ?""ทำไมสองวันมานี้ อู๋เซี่ยวถึงไม่ได้เจอศิษย์พี่ฮว่าและศิษย์พี่ฉางเล่อเลยล่ะครับ"เจียงอู๋เซี่ยวเป็นฝ่ายเอ่ยถามกู่หรูหลงก่อน"อ้อ ไอ้สองคนนั้นไม่รู้ว่าไปเถลไถลที่ไหนแล้ว นี่ก็สองวันแล้วยังไม่กลับมาเลย""วันนี้ข้าออกไปตามหาก็
"ผมจะเป็นอะไรไปได้ เสี่ยวหยู่คุณอย่าได้เป็นห่วงเลยนะ""วันนี้คุณออกไปทำงานทั้งวัน เหนื่อยหรือเปล่า?""อยากจะให้ผมบีบๆ นวดๆ ขาให้คุณไหมล่ะ?"เมื่อสัมผัสความเป็นห่วงที่เจียงเฉินหยู่มีต่อเขาหลินเฟยอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมาเขาดึงเจียงเฉินหยู่ไปนั่งบนเตียง พร้อมพูดเอาอกเอาใจ"เฮ้อ ฉันวิ่งวุ่นมาทั้งวัน แม้แต่ข้าวปลาก็ไม่ได้กิน คุณว่าฉันเหนื่อยหรือเปล่าล่ะ?""ถือว่าคุณยังมีจิตสำนึกอยู่ ยังรู้จักเป็นห่วงฉัน""เดี๋ยวตอนนวดคุณเบามือหน่อยนะ ฉันล่ะกลัวว่าคุณจะเผลอนวดจนไหล่ของฉันทรุดไปแล้วจริงๆ"เจียงเฉินหยู่พูดล้อเล่น พร้อมกับหันหลังให้กับหลินเฟย"แหะๆ โอเค รับรองว่าผมจะนวดเบาๆ!"หลินเฟยวิ่งไปล้างมือในห้องน้ำ และกลับมาอย่างรวดเร็วเขาวางมือบนไหล่ของเจียงเฉินหยู่และคลำไปจนถึงคอเสื้อของเธอจากนั้นก็เลื่อนไปตามผิวเรียบเนียนไร้ที่ติ พร้อมกับสอดลึกเข้าไป นวด บีบ และหยอกล้อและมันก็ทำให้เจียงเฉินหยู่คร่ำครวญออกมาอย่างทันที"อืม...คนผีทะเล ฉันเหนื่อยจะตายอยู่แล้วนะ""คุณยังคิดจะมาแกล้งฉันอีก ปล่อยเดี๋ยวนี้ อย่ามาเล่นมั่วๆ!"แต่ทว่ามือของหลินเฟยกลับเอาแต่ใจ พร้อมพูดด้วยรอยยิ้มที่ชั่วร้ายว่
"ทำได้ครับ สิ่งเหล่านี้มันเป็นเรื่องที่ง่ายมาก พวกเราสองปู่หลานทำได้อยู่แล้วครับ"กู่หรูหลงทำมือคารวะอย่างชาญฉลาดรวมไปถึงกู่เยว่อิ๋งที่ยืนกรานอย่างแข็งขันเมื่อครู่ที่ผ่านมา เธอก็ได้เปลี่ยนทัศนคติและพยักหน้าตอบรับอย่างถ่อมตัวในทันที"โอเค ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นพวกนายปู่หลานก็กลับไปที่โรงแรมจิ่วหลงซานก่อนเถอะ รอให้ถึงพรุ่งนี้เช้า""ฉันก็จะไปร่วมประลองจอมยุทธ์ด้วยตัวเอง ถึงตอนนั้น หากฉันมีอะไรให้รับใช้ ค่อยเรียกพวกนายปู่หลานก็แล้วกัน"หลินเฟยรำพันอยู่ในใจว่า 'คำสาบานโลหิต' นั้นมีประโยชน์แบบสุดๆ และในเวลาเดียวกัน เขาก็โบกมือเพื่อส่งสัญญาณให้กู่หรูหลงและกู่เยว่อิ๋งถอยออกไปเสียก่อนซึ่งก็เป็นเวลานี้ที่เขาได้ยินเสียงฝีเท้าที่รีบเร่งได้ดังแว่วมา และนั่นก็คือโอวหยางเยี่ยนและโอวหยางชงที่ได้วิ่งตามมานั่นเองเมื่อเห็นหลินเฟยไม่เป็นอะไรเลยแม้แต่น้อยตรงกันข้ามกับกู่หรูหลงที่จากไปโดยเสียแขนไปหนึ่งข้าง และดูแก่กว่าเดิมเป็นอย่างมากแม้แต่กู่เยว่อิ๋งที่เดิมตามหลังก็ก้มหน้าก้มตาราวกับถูกสูบวิญญาณไปอะไรแบบนั้นและนั่นก็ทำให้พวกเขาสองพ่อลูกตกตะลึงจนหน้าถอดสีเลยทีเดียว!"สหายน้อง หรือว่านายจะ
น้ำเสียงของหลินเฟยเผด็จการ และเร่งเร้าอย่างหงุดหงิดเต็มที่"คุณปู่คะ เราจะทำอย่างไรกันดี?""หนูอายุยังน้อย หนูยังไม่อยากตายนะคะคุณปู่ พี่เซียวเฟิงกำลังรอหนูอยู่นะคะ…""เพียงแต่ว่าคุณปู่ หากจะให้หนูยอมเป็นทาสรับใช้เขาแล้วละก็ งั้นหนูก็ยอมตายเสียดีกว่า!"กู่เยว่อิ๋งตื่นตระหนก เธอไม่สามารถตัดสินใจอะไรได้ พร้อมกับร้องไห้สะอึกสะอื้นกับกู่หรูหลง"เยว่อิ๋ง กระบวนท่าที่เจ้าเด็กนั่นใช้ ปู่ไม่เคยพบไม่เคยเห็นมาก่อน ปู่ก็ไร้หนทางด้วยเหมือนกัน""ปู่ก็ไม่อยากจะประนีประนอมเหมือนกัน แต่การมีชีวิตอยู่ ยังไงมันก็ดีกว่าตายเป็นไหนๆ""ยังไงพวกเราก็ยอมๆ ไปเถอะ อย่างแย่ที่สุดต่อไปก็ยังมีโอกาสหลบหนีกลับไปที่โลกซ่อนเร้น และไม่ต้องกลับมาเหยียบที่โลกปัจจุบันอีกก็ได้"และกู่หรูหลงที่เพิ่งจะสำเร็จว่าที่มหาจอมยุทธ์ได้เมื่อครู่ที่ผ่านมา อายุของเขาก็ได้ยืดออกไปกว่าห้าสิบปีแล้วซึ่งในอีกห้าสิบกว่าปีข้างหน้า ไม่แน่ว่าเขาอาจจะมีโอกาสสำเร็จขั้นมหาจอมยุทธ์ก็เป็นไปได้กู่หรูหลงยิ่งไม่อยากตายมากกว่าเดิม เขาลังเลอยู่สักพัก ในที่สุดก็ถอนหายใจหนักๆ ออกมา พร้อมกับกระซิบกับกู่เยว่อิ๋ง"ในเมื่อพวกแกยอมมาเป็นทาสฉัน งั้น
กู่หรูหลงร้องขอความเมตตาอย่างสุดใจ แต่ทว่าหลินเฟยกลับไม่มีความคิดที่จะปล่อยพวกเขาไปแต่อย่างใดล้างแค้นสิบปีก็ยังไม่สาย ความจริงที่แสนจะเรียบง่ายนี้ หลินเฟยยังคงเข้าใจได้ดีแต่อย่างไรก็ตาม หลินเฟยไม่ได้เป็นปีศาจหรือฆาตกร ให้เขาฆ่ากู่หรูหลงและกู่เยว่อิ๋ง เขาก็ทำไม่ได้ด้วยเช่นกัน"พี่สาว งั้นพี่ก็ดูดกำลังภายในของเขาให้หมดสิ้น แล้วผมจะให้ผู้อำนวยการโม่ขังพวกเขาไปตลอดชีวิตก็แล้วกัน"ท้ายที่สุด หลินเฟยก็ถอนหายใจ และพูดตัดสินใจออกมา"ไม่ต้องหรอก คนคนนี้เจ้าโจมตีด้วยตัวเอง""เจ้าก็เก็บเอาไว้เป็นทาสเถอะ""ต่อไปหากพบจอมยุทธ์โบราณที่แข็งแกร่งจริงๆ ถึงตอนนั้นข้าค่อยดูดพลังลมปราณก็ยังไม่สาย""อีกอย่าง ขอแค่เจ้าควบคุมเขาได้ เจ้าก็สามารถสั่งให้เขาไปตามหาหินวิญญาณและหญ้าวิญญาณในโลกซ่อนเร้นได้ แบบนี้จะทำให้เจ้าสามารถบรรลุข้อตกลงกับข้าได้เร็วขึ้นด้วย"สิ่งที่ทำให้หลินเฟยคิดไม่ถึงก็คือ หลงอู่ได้ให้คำตอบแบบนี้ออกมาและในน้ำเสียงนั้น ยังมีการชื่นชมปะปนอยู่ด้วย"ให้ผมรับไว้เป็นทาส? ผมไม่ได้มีบุญคุณกับพวกเขาเหมือนกับโอวหยางเยี่ยนและลูกชายแบบนั้น มีแต่ความแค้นล้วนๆ เลยก็ว่าได้""แล้วพวกเขาจะยอมมาเ
สิ่งนี้ทำให้เขารู้สึกหงุดหงิดและเดือดดาลแบบสุดๆ ในขณะเดียวกัน เขาก็รู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาเรื่อยๆ แล้วในตอนนี้!เพราะวิธีการของหลินเฟย เขาไม่เคยได้พบเห็นมาก่อน!"คุณปู่ คุณปู่รีบถอดเสื้อมาดับไฟเร็วเข้า!"กู่เยว่อิ๋งก็ตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน พร้อมตะโกนเตือนเสียงดังออกไปทันที"ไม่ต้องหรอก ปู่มีวิธีของตัวเอง"กู่หรูหลงถ่ายเทพลังงานลงในแขนที่กำลังลุกไหม้ จากนั้นก็กระทืบเท้าลงไปที่พื้นอย่างเต็มแรงแปร๊ะ แปร๊ะ!แต่ทว่า หลังจากที่กู่หรูหลงได้ดึงแขนออกมา เปลวไฟดวงนั้นก็ยังคงไม่มีทีท่าว่าจะมอดลงไปแต่อย่างใด!กู่หรูหลงถอดเสื้อออก และเปลวไฟก็ไหม้แขนของเขาจนเลือดและเนื้อผสมปนเปกันไปหมด!เมื่อเห็นว่าอีกไม่นาน แขนของเขาก็คงจะไหม้ไปเสียทั้งหมดแล้ว!กู่หรูหลงก็ทำได้เพียงอดกลั้นต่อความเจ็บปวด พร้อมกับดึงมีดออกมาตัดแขนข้างขวาของตัวเองออกไปทั้งหมด!เพราะไม่อย่างนั้นแล้ว เปลวไฟที่แปลกประหลาดนี้ก็จะลามไปทั่วตัวและเผาเขาให้ตายทั้งเป็นอย่างแน่นอน!"ไอ้สารเลว ไอ้เด็กเมื่อวานซืน นี่จริงแกก็ออกมาประจันหน้ากับข้าเลยสิ!""ข้าจะสับแกเป็นชิ้นๆ อย่างแน่นอน!"กู่หรูหลงกุมบาดแผลที่เกิดจากกา
ในขณะนี้ เวลาก็ได้ล่วงเลยมาสองทุ่มกว่าๆ แล้ว ท้องฟ้าไร้ซึ่งดวงจันทร์มีดวงดาวเพียงไม่กี่ดวงที่ส่องแสงกะพริบจางๆ ออกมาภายในภูเขาชิงซาน เมื่อความมืดได้คืบคลานเข้ามา มันจึงทำให้บรรยากาศดูมืดมิดมากยิ่งขึ้นแต่ทว่าความเร็วของหลินเฟยยังไม่ได้ลดลงแต่อย่างใด เขาสามารถหลบหลีกหินที่นูนสูงเหล่านั้นได้อย่างคล่องแคล่วความมืดในยามค่ำคืน ไม่ได้ทำให้ความสามารถในการใช้ตาทิพย์ของเขาลดลงแต่อย่างใดหลินเฟยหันกลับไปมอง และพบว่ากู่หรูหลงไม่ได้เร็วเท่ากับตอนแรกอีกต่อไปหลินเฟยรู้ดีว่า นั่นไม่ใช่เพราะกู่หรูหลงเหนื่อยล้า แต่เป็นเพราะความสามารถในการมองเห็นของกู่หรูหลงลดลงเมื่ออยู่ในตอนกลางคืนนั้นเองส่วนโอวหยางเยี่ยนและลูกชายที่ติดตามมาท้ายสุดก็ถูกสลัดทิ้งโดยไม่เห็นแม้แต่เงาแล้วในตอนนี้!"กู่หรูหลง อย่างน้อยๆ แกก็เป็นถึงว่าที่มหาจอมยุทธ์ ทำไมช้าอย่างกับเต่าแบบนี้?""ขืนแกยังชักช้าอยู่ ฉันก็คงจะเบื่อจนหลับไปแล้วนะ""ด้วยความเร็วแบบนี้ แกยังคิดจะฆ่าฉันอีกงั้นเหรอ? กลับบ้านไปนอนฝันซะดีกว่า!"หลินเฟยตั้งใจชะลอความเร็ว และหันมาพูดเหน็บแนม"ไอ้หนุ่ม แกอย่าได้ชะล่าใจไปเลย แม้ว่าความเร็วของข้าจะสู้แกไม่ได