"ถ้าไม่ให้เราทำเงิน ใครหน้าไหนก็อย่าคิดที่จะอยู่เป็นสุขเลย"หลินเฟยมองไปยังชายหญิงชราที่นอนอยู่บนพื้นและยังเกลือกกลิ้งจนเสื้อผ้าสกปรกไปหมดความจริงเด่นชัดแล้วว่ากลุ่มคนแก่ที่มาก่อกวนกลุ่มนี้จะต้องเป็นกลุ่มคนที่พวกนี้หามาอย่างแน่นอนเหมือนหม่าเฉวียนและจ้าวหลิน พวกเเพ้เเล้วพาลแบบนี้มีไม่น้อยเลยเมื่อคิดถึงสิ่งนี้ หลินเฟยก็จ้องมองที่หลิวเซวียนและคนอื่นๆ ด้วยสีหน้าที่ไม่เป็นมิตรสักเท่าไหร่หลิวเซวียนและคนอื่นๆ คิดว่าหลินเฟยกลัว จึงแสดงภาพลักษณ์ด้วยความภาคภูมิใจ"หึ...นึกว่าพวกคุณไม่รู้จักความกลัวซะอีก ในเมื่อรู้ว่าพวกเราเก่งแค่ไหน ก็รีบส่งสูตรยามา ไม่เเน่พวกคุณอาจจะได้กำไรขึ้นมาอีกนิดหน่อยก็เป็นไปได้""มิฉะนั้น ภายใต้การมุ่งเป้าของบริษัทยาสามแห่งของเรา บริษัทยาหนานผิงของคุณอาจอยู่ไม่ถึงวันพรุ่งนี้"เฉินผิงชี้ไปที่หลินเฟย พร้อมกับพูดจาข่มขู่"วันนี้เป็นเพียงคำเตือนเล็กๆ น้อยๆ ตราบใดที่คุณกล้าขายยาในเมือง ไม่ว่าคุณจะขายที่ไหน ก็จะมีคนสร้างปัญหา"จ้าวคังพูดอย่างแปลกประหลาด"บางทีโรงงานยาหรือคลังสินค้าเภสัชกรรมหนานผิงของคุณจะถูกไฟไหม้อย่างหาสาเหตุไม่ได้ และเมื่อวัตถุดิบเย่าไฉและคล
ผู้ที่เห็นแวบเดียวก็รู้ว่าฐานะไม่ธรรมดา และหันสายตาไปหาทันทีในที่นี้มีคนรวยบางคนที่มีฐานะร่ำรวยจำตัวตนของผู้มาได้ในทันที และส่งเสียงตกใจตามๆ กันเหลิ่งชิงซงเพิกเฉยต่อหลิวเซวียนและเฉินผิงที่ตกตะลึงอยู่ในที่นั่นโดยสิ้นเชิงเดินตรงไปที่หน้าหลินเฟย หัวเราะและตบแขนของหลินเฟย"ฉันรู้ว่าเมื่อเร็ว ๆ นี้ยาเสริมความงามที่โด่งดังในเมืองของเรา นอกจากอาจารย์หลินที่ทําได้แล้ว เกรงว่าจะไม่มีใครสามารถทำยาที่มีสรรพคุณวิเศษเช่นนี้ออกมาได้""นายกเทศมนตรีเหลิ่งชมเกินไปแล้ว" หลินเฟยกล่าวด้วยคำสุภาพมองดูหลินเฟยและคิวที่ยาวเป็นหางมังกรนี้ไม่ใช่เรื่องเล็กๆ เหลิ่งชิงซงพูดจาติดตลกกับหลินเฟย"ก่อนหน้านี้อาจารย์หลินยังวางแผนที่จะอยู่อย่างสันโดษในชนบทและใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายไม่ใช่หรือ? ครั้งนี้ตั้งใจจะออกจากภูเขามาทําการใหญ่บ้างแล้ว?"หลินเฟยเมื่อเห็นเหลิ่งชิงซงอารมณ์ดีจึงยักไหล่อย่างช่วยไม่ได้"มีความคิดที่จะทำสิ่งเล็กๆ น้อยๆ แต่น่าเสียดายที่ทำการใหญ่ไม่สำเร็จ เพราะมักจะมีคนจงใจมาสร้างปัญหาก่อกวนเสมอ ให้ฉันทำงานต่อไม่ได้ ดุด่าว่าร้าย นอนชักดิ้นชักงอขอส่วนแบ่งอีก"เมื่อเหลิ่งชิงซงได้ยินคำพูดของหลินเฟย
"ไม่...ไม่กล้า ไม่กล้าหรอกครับ!"ส่วนใบหน้าของหลิวเซวียนก็ปวดแสบปวดร้อนด้วยเช่นกัน ราวกับมีหนามทิ่มแทงข้างหลัง ราวกับมีก้างปักอยู่ในลำคออย่างไงอย่างงั้นเขารีบโบกมือไปมาอย่างเงียบๆส่งสัญญาณให้ชายชราและหญิงชราที่กำลังก่อกวนอยู่นั้นให้รีบออกไปหลังจากที่ได้รับคำสั่งจากเจ้านายของตัวเองแล้ว เหล่าบรรดาชายชราและหญิงชราก็รีบหดหัวและออกจากสถานที่นั้นไปทันที"ในที่สุดก็ออกไปได้เสียที!"เมื่อเห็นว่าพวกก่อกวนเหล่านั้นได้ออกไปแล้ว เจ้าหน้าที่ในงานก็สามารถถอนหายใจอย่างโล่งอกออกมาได้เสียทีเพราะขืนยังอาละวาดต่อไปแบบนี้ เกรงว่าจะต้องเสียเวลาไม่น้อยเลยทีเดียวหลิวเซวียนและคนอื่นๆ ก็ไม่กล้าอยู่ต่อหน้าเหลิ่งชิงซงอีกต่อไปด้วยเช่นกัน"เรามามุงดูความตื่นเต้นเท่านั้นครับ ไม่กล้ารบกวนธุระของท่านแต่อย่างใด งั้นพวกเราขอตัวก่อนนะครับ"จ้าวคังและเฉินผิงสองคนนี้ยิ่งเตรียมตัวที่จะวิ่งเผ่นแนบไปแล้วและในเวลานี้เองจู่ๆ เหลิ่งชิงซงก็ตะคอกอย่างเกรี้ยวกราดขึ้นมาว่า"หยุดเดี๋ยวนี้! ฉันให้พวกคุณออกไปแล้วเหรอ?"หลิวเซวียนและอีกสามคนตัวสั่นงันงก ราวกับถูกสะกดด้วยเวทมนตร์ จนพวกเขาถูกตรึงไว้กับที่ ไม่กล้าแม้
เมื่อเหลิ่งชิงซงอยู่ที่นี่ เขาจะยอมปล่อยให้ตัวตลกทั้งสามคนมาดูแคลนหลินเฟยได้อย่างไรกันเขาจึงพูดอย่างเย็นชาทันทีว่า"อาจารย์หลินบอกให้พวกคุณไสหัวออกไป พวกคุณยังไม่ไสหัวออกไปอีก?""ถ้ายังไม่ไสหัวออกไปอีก ระวังฉันจะเรียกให้คนเข้ามา และจัดการกับพวกคุณที่นี่เลย!"ทันทีที่เหลิ่งชิงซงได้โพล่งคำเหล่านี้ออกมา มันก็ได้ผลอย่างเด็ดขาดอยู่แล้วเมื่อเห็นว่าเหลิ่งชิงซงปกป้องหลินเฟยมากขนาดนี้ ทั้งสามคนก็ไม่กล้าปริปากพูดอะไรอีกพวกเขารีบพยักหน้าถี่ๆ โค้งคำนับ พร้อมกับพูดขึ้นมาว่า"ใช่ใช่ใช่ ท่านนายกเทศมนตรีโปรดใจเย็นๆ นะครับ พวกเราจะไสหัวออกไปเดี๋ยวนี้"จากนั้นทั้งสามก็กัดฟัน และรีบเดินออกจากร้านขายยาหนานคังไปทันทีทั้งหมดวิ่งเร็วโดยไม่มีใครรอใครเลยเมื่อเห็นว่าหลิวเซวียนและคนอื่นๆ ได้วิ่งหางจุกตูดไปแล้ว จางซินเยว่และผู้ถือหุ้นคนอื่นๆ ก็สบายใจอย่างหาที่เปรียบไม่ได้และยังตะโกนอย่างตื่นเต้นออกมาว่า"ต้องไสหัวไปไกลๆ หน่อยนะ ไม่อย่างนั้นแล้วไฟจะลามติดก้นได้ ฮ่าฮ่าฮ่า..."หลังจากกลุ่มคนได้จากไปแล้วนั้นก็ไม่มีใครอาละวาดในสถานที่อีกต่อไป และสถานการณ์ก็กลับมาเป็นปกติอีกครั้งหลินเฟยกล่าวขอบคุ
เธอเป็นแพทย์ที่มีชื่อเสียงของจังหวัด และทักษะการแพทย์ของเธอก็ดีมากหลังจากที่ได้ยินว่ายาเสริมความงามของหลินเฟยนั้นมีประสิทธิภาพที่มหัศจรรย์มากขนาดนี้ เธอก็อดไม่ได้ที่จะนำยาสองสามเม็ดกลับไปทำการวิจัยอย่างละเอียดเสียสักครั้งหลินเฟยมองมู่ชิงชิงขึ้นๆ ลงๆในชั่วขณะ เขาก็กลับจำสถานะของอีกฝ่ายไม่ได้"คุณคือ…"เหลิ่งหนิงซวงโน้มตัวไปคล้องแขนของมู่ชิงชิง จากนั้นก็พูดด้วยรอยยิ้มว่า"ก็ลูกพี่ลูกน้องของฉันน่ะสิ หลินเฟย ดูความจำของคุณสิ""คนที่เคยพนันเรื่องการรักษาอาการป่วยของพ่อฉันไง ที่บอกว่าแพ้แล้วจะร่วมเตียงกับคุณน่ะ...คุณเอาชนะผู้หญิงที่สวยขนาดนี้ได้ ทำไมยังลืมได้ล่ะ?"หลินเฟยคิดออกทันที พร้อมกับเกาหัวกรากๆ"อ๋อ...เธอน่ะเหรอ ผมจำได้แล้ว"มู่ชิงชิงอับอายขายหน้าขึ้นมาทันที เรื่องแบบนี้เหลิ่งหนิงซวงยังพูดต่อหน้าสาธารณชนได้ช่างน่าอายเสียจริงๆและเธอก็อดไม่ได้ที่จะกระทืบเท้าอย่างเคอะเขินและขุ่นเคือง แล้วพูดอย่างโกรธๆ ออกไปว่า"หนิงซวง เธอพูดเรื่องแบบนี้ต่อหน้าคนมากมายขนาดนี้ได้ยังไง? น่าอายจะตายไป ถ้าเธอยังพูดแบบนี้อีก ฉันจะไม่สนใจเธอแล้วนะ""แค่กๆ..."และเหลิ่งชิงซงที่อยู่ข้างๆ ก็ไ
แจ้งให้ทราบว่า ตระกูลเจียงของพวกเขามีแผนที่จะซื้อบริษัทหยกของตระกูลซูสำหรับราคานั้น ซูไห่เทาสามารถตั้งราคาได้ตามใจชอบหากซูไห่เทาไม่มีเงื่อนไขอื่นใดก็สามารถร่วมทำธุรกิจกับตระกูลเจียงของพวกเขาได้สร้างสัมพันธ์ความร่วมมืออย่างมั่นคง และสามารถพัฒนาไปเป็นหุ้นส่วนทางธุรกิจกับตระกูลเจียงได้ในตอนแรก คนของตระกูลซูก็ดูเหมือนจะมีความสุขมากเพราะเชื่อว่าเนื่องจากการประชุมการซื้อขายหินหยกหยาบครั้งที่ผ่านมา ตระกูลซูของพวกเขาก็ได้มีชื่อเสียงไปทั่วทั้งวงการหยกแล้ว และแม้กระทั่งตระกูลเจียงที่ยิ่งใหญ่ทางธุรกิจหยกแบบนี้ก็มองเห็นศักยภาพความแข็งแกร่งของตระกูลซูที่หลบซ่อนเอาไว้ด้วยนั่นไม่ใช่เกียรติที่คนธรรมดาทั่วไปจะได้รับดังนั้นพวกเขาจึงปรึกษาหารือกันโดยซูไห่เทาและคนอื่นๆ ได้ตัดสินใจที่จะร่วมมือกับตระกูลเจียงทันทีเมื่อเจียงเฉินหยู่เห็นว่าเป้าหมายของตัวเองบรรลุแล้ว เธอก็รู้สึกปีติยินดีเป็นธรรมดาจากนั้นก็ได้ลงนามโครงการและสัญญามากมายในความร่วมมือกับซูไห่เทาและคนอื่นๆ ในทันทีในห้องรับแขกของตระกูลซูเมื่อเห็นว่าซูไห่เทาได้ลงนามในสัญญาแบบนี้แล้วนั้นเจียงเฉินหยู่ก็รู้สึกผ่อนคลายลงไปไม่น้อย
และในตอนนี้ พวกเขาก็เพิ่งจะสังเกตเห็นเงื่อนไขข้อนี้ด้วยเช่นกันพวกเขาไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่า เจียงเฉินหยู่จะเสแสร้งทำเป็นมาร่วมมือกับพวกเขา แต่แท้จริงแล้วกลับคิดที่จะใช้ประโยชน์จากเงื่อนไขนี้ในการบังคับให้หลินเฟยมาทำอะไรให้กับตระกูลเจียงเสียมากกว่าวิธีการนี้มันช่างต่ำตมเสียจริงๆและนั่นมันหลายหมื่นล้านเลยนะแม้ว่าด้วยความช่วยเหลือจากหลินเฟยก่อนหน้านี้ ทำให้พวกเขาได้กำไรมาไม่น้อยแต่เงินจำนวนหลายหมื่นล้านนี้ ต่อให้ตระกูลเจียงจะนำทรัพย์ทั้งหมดออกมา มันก็คงจะไม่เพียงพออย่างแน่นอนและมันก็คือสิ่งที่เจียงเฉินหยู่ต้องการนั่นเองซูไห่เทา ซูเฉี่ยนเสวี่ยและคนอื่นๆ ก็มองหน้ากันไปมาด้วยสีหน้าที่ย่ำแย่เอาเสียมากๆทั้งๆ ที่รู้ว่าพวกเขาได้ตกไปในหลุมพรางของเจียงเฉินหยู่เสียแล้ว แต่ธนูที่ปล่อยออกไปแล้ว มันจะนำกลับมาได้อย่างไรกันสิ่งเดียวที่สามารถตำหนิได้ก็คือว่า พวกเขาด่วนตัดสินใจเร็วเกินไปเมื่อต้องเผชิญหน้ากับความล่อใจที่ผ่านเข้ามาเขาไม่ได้อ่านสัญญาอย่างละเอียด ดังนั้นคงต้องยอมรับต่อความพ่ายแพ้นี้ซูไห่เทามองไปยังซูเฉี่ยนเสวี่ยอย่างเสียไม่ได้ พร้อมขอความคิดเห็นจากเธอ"เสียวเสวี่ย ลูกว่า…
หลินเฟยถอนหายใจออกมาอย่างช่วยไม่ได้"เฮ้อ...เรื่องนี้ไม่ตำหนิคุณซูหรอกนะครับ ปัญหามันอยู่ที่เจียงเฉินหยู่ทั้งนั้น""พี่ซูครับ คุณบอกเจียงเฉินหยู่ว่า ผมสามารถตกลงที่จะไปช่วยเธอได้ แต่หลังจากเรื่องนี้แล้ว หวังว่าเธอจะไม่เสียใจในภายหลังก็พอแล้ว"เจียงเฉินหยู่ขยับปากยังอยากที่จะสอบถามอะไรต่อ แต่หลินเฟยที่อยู่ปลายสายกลับวางสายไปเสียแล้วเจียงเฉินหยู่ขมวดคิ้วและท่าทางของหลินเฟยมันเป็นการข่มขู่เธออย่างเห็นได้ชัดหากหลินเฟยใจร้อน โดยไม่ตั้งใจเลือกหินหยกหยาบ หรืออาจจะเลือกแบบสุ่มๆ น่ากลัวว่าจะเกิดเรื่องขึ้นมาได้แต่เมื่อคิดขึ้นมาอีกครั้งสำหรับคำขู่ของหลินเฟยแบบนี้ เจียงเฉินหยู่ก็ไม่ได้กังวลอะไรมากนักเธอเชื่อว่าขอแค่เธอสามารถควบคุมซูไห่เทาและคนอื่นๆ ได้ เธอก็จะควบคุมหลินเฟยได้ด้วยเช่นกันเมื่อถูกคนใช้ประโยชน์แบบนี้แล้ว ซูไห่เทาก็อารมณ์ไม่ดีเป็นธรรมดาจากนั้นก็พูดกับเจียงเฉินหยู่ด้วยสีหน้าที่ไม่ดีว่า"ในเมื่ออาจารย์หลินได้ตอบตกลงที่จะไปแล้ว งั้นก็เชิญคุณเจียงกลับเถอะครับ"เจียงเฉินหยู่ก็รู้อยู่แล้วว่าตัวเองได้ฉวยผลประโยชน์จากคนอื่น แล้วใครเขาจะยังอารมณ์ดีอยู่ได้อย่างไรในเมื่อเป้
ท่ามกลางความสะลึมสะลือ ถังรั่วเสวี่ยก็สัมผัสได้ถึงมือใหญ่ที่อบอุ่นที่แสนจะคุ้นเคยคู่นั้นบนร่างกายของเธอ เป้าหมายของการลูบไล้นั้นชัดเจนเป็นอย่างมากด้วยสัมผัสที่แสนจะคุ้นเคยนี้ มันทำให้ถังรั่วเสวี่ยตื่นขึ้นมาจากความฝัน ทั้งโลภและหลงใหลเป็นอย่างมาก"เสี่ยวเฟย ไม่ได้นะ หยวนหยวนยังอยู่ที่นี่…"ท่ามกลางความมืดในยามราตรี ถังรั่วเสวี่ยมองไม่เห็นหลินเฟย แต่เธอสามารถสัมผัสได้ว่าเป็นหลินเฟยที่อยู่บนตัวเธออุณหภูมิที่ร้อนจัดทำให้ถังรั่วเสวี่ยหายใจถี่ๆ เธอโอบกอดหลินเฟยเอาไว้ และกระซิบเบาๆ ออกมาเดิมทีเธอยังคิดว่าหลินเฟยได้มาตอนกลางวันแล้ว ตอนกลางคืนเขาจะไม่มาเสียอีกคิดไม่ถึงเลยว่าหลินเฟยจะมาตอนดึกดื่นแบบนี้ได้ช่างเป็นหนุ่มน้อยที่บ้าคลั่งเสียจริงๆ..."ไม่เป็นไรหรอกครับอาเล็ก เธอหลับไปแล้ว ผมเบาๆ หน่อยก็โอเคแล้วล่ะ""อาเล็ก อาน้ำลายไหลแล้วนะ คงจะกระหายน่าดู ให้ผมช่วยดับกระหายให้นะ"หลินเฟยหัวเราะเบาๆ พร้อมกับเอื้อมมือไปถอดชุดแนบเนื้อของถังรั่วเสวี่ยออกแม้ว่าจะมืดสนิท แต่สำหรับหลินเฟยแล้ว มันไม่ต่างอะไรจากตอนกลางวันใบหน้าที่แดงระเรื่อ รวมไปถึงดวงตาที่พร่าเบลอของถังรั่วเสวี่ยมันยิ่
เพราะต้องการรู้ความลับของโลกซ่อนเร้นจากตัวของพวกเขานั่นเองผู้หญิงที่เป็นผู้นำมาจากตระกูลอาจารย์หยินหยางที่ได้รับความเคารพนับถือมากที่สุดจากทุกคนในประเทศซากุระ ตั้งแต่บุคคลสำคัญไปจนถึงชาวบ้าน!เชียนเย่เจียจื่อจากตระกูลเชียนเย่โดยที่ตัวเธอเองยังเป็นอาจารย์หยินหยางที่มีสถานะสูง ซึ่งสามารถควบคุมพลังของผีและเทพเจ้าได้!"แม้ว่าบางส่วนของร่างกายจะหายไป แต่เขาเต็มไปด้วยความโกรธแค้น เป็นวัตถุดิบในการปลุกศพได้ดีจริงๆ""พวกนายสองคนไปเอาตัวเขาขึ้นมา"เมื่อได้ยินสิ่งที่ผู้ชายที่อยู่ด้านหลังพูด เชียนเย่เจียจื่อก็หรี่ตาที่เรียวเล็ก พร้อมพูดด้วยน้ำเสียงที่ทรงเสน่ห์จากภายในออกมา"รับทราบรับ ท่านเชียนเย่!"ในไม่ช้า ชายทั้งสองก็ได้เดินลงไปช้อนร่างเจียงอู๋เซี่ยวขึ้นมาจากสระ พร้อมหามมาวางที่หน้าของเชียนเย่เจียจื่อ"ให้พวกนายไปตรวจสอบ ได้ความว่าอย่างไรแล้ว?"เชียนเย่เจียจื่อย่อตัวลง มองสำรวจไปยังร่างของเจียงอู๋เซี่ยวโดยไม่รู้สึกกลัวแต่อย่างใดดูเหมือนว่าเธอจะคุ้นเคยกับมันเป็นอย่างดี พร้อมกับถามโดยไม่เงยหน้าออกมา"ตรวจสอบเรียบร้อยแล้วครับท่านเชียนเย่ พรุ่งนี้เช้าสิบโมง ยอดเขาจิ่วหลงซาน พวกจอมยุ
"ในเมื่ออาจารย์ลุงเอ่ยปากออกมาแล้ว อู๋เซี่ยวจะกล้าขัดได้อย่างไรล่ะครับ?""ไม่รู้ว่าอาจารย์ลุงมีเรื่องอะไรที่รบกวนจิตใจอยู่ พูดให้อู๋เซี่ยวฟังหน่อยสิครับ ไม่แน่ว่าอู๋เซี่ยวอาจจะช่วยอาจารย์ลุงแก้ปัญหาได้"ตอนนี้เจียงอู๋เซี่ยวอยู่ในการคุ้มครองของคนอื่น และยังต้องการให้กู่หรูหลงพาเขากลับโลกซ่อนเร้นอีกต่างหากแน่นอนว่าเขาไม่กล้าที่จะปฏิเสธคำชวนของกู่หรูหลงอยู่แล้ว หลังจากที่ครุ่นคิดอยู่สักพัก เขาก็พูดขึ้นมาว่า"เอาไว้คุยกันตอนที่ออกไปนอกโรงแรมแล้ว ที่นี่หูตามันเยอะ เรื่องบางอย่างไม่สะดวกที่จะพูดในตอนนี้"กู่หรูหลงไม่ได้พูดอะไรออกมาสักคำ เขาหันหลังและนำทางอยู่ข้างหน้าเจียงอู๋เซี่ยวเดินตามกู่หรูหลงออกจากโรงแรม จนมาถึงเชิงเขาของจิ่วหลงซานโดยมีสระน้ำที่ลึกจนมองไม่เห็นก้นสระ"อาจารย์ลุงครับ ท่านได้ให้ศิษย์พี่ฮว่าและศิษย์พี่ฉางเล่อไปซื้อยามาให้หลานไม่ใช่เหรอครับ?""ทำไมสองวันมานี้ อู๋เซี่ยวถึงไม่ได้เจอศิษย์พี่ฮว่าและศิษย์พี่ฉางเล่อเลยล่ะครับ"เจียงอู๋เซี่ยวเป็นฝ่ายเอ่ยถามกู่หรูหลงก่อน"อ้อ ไอ้สองคนนั้นไม่รู้ว่าไปเถลไถลที่ไหนแล้ว นี่ก็สองวันแล้วยังไม่กลับมาเลย""วันนี้ข้าออกไปตามหาก็
"ผมจะเป็นอะไรไปได้ เสี่ยวหยู่คุณอย่าได้เป็นห่วงเลยนะ""วันนี้คุณออกไปทำงานทั้งวัน เหนื่อยหรือเปล่า?""อยากจะให้ผมบีบๆ นวดๆ ขาให้คุณไหมล่ะ?"เมื่อสัมผัสความเป็นห่วงที่เจียงเฉินหยู่มีต่อเขาหลินเฟยอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมาเขาดึงเจียงเฉินหยู่ไปนั่งบนเตียง พร้อมพูดเอาอกเอาใจ"เฮ้อ ฉันวิ่งวุ่นมาทั้งวัน แม้แต่ข้าวปลาก็ไม่ได้กิน คุณว่าฉันเหนื่อยหรือเปล่าล่ะ?""ถือว่าคุณยังมีจิตสำนึกอยู่ ยังรู้จักเป็นห่วงฉัน""เดี๋ยวตอนนวดคุณเบามือหน่อยนะ ฉันล่ะกลัวว่าคุณจะเผลอนวดจนไหล่ของฉันทรุดไปแล้วจริงๆ"เจียงเฉินหยู่พูดล้อเล่น พร้อมกับหันหลังให้กับหลินเฟย"แหะๆ โอเค รับรองว่าผมจะนวดเบาๆ!"หลินเฟยวิ่งไปล้างมือในห้องน้ำ และกลับมาอย่างรวดเร็วเขาวางมือบนไหล่ของเจียงเฉินหยู่และคลำไปจนถึงคอเสื้อของเธอจากนั้นก็เลื่อนไปตามผิวเรียบเนียนไร้ที่ติ พร้อมกับสอดลึกเข้าไป นวด บีบ และหยอกล้อและมันก็ทำให้เจียงเฉินหยู่คร่ำครวญออกมาอย่างทันที"อืม...คนผีทะเล ฉันเหนื่อยจะตายอยู่แล้วนะ""คุณยังคิดจะมาแกล้งฉันอีก ปล่อยเดี๋ยวนี้ อย่ามาเล่นมั่วๆ!"แต่ทว่ามือของหลินเฟยกลับเอาแต่ใจ พร้อมพูดด้วยรอยยิ้มที่ชั่วร้ายว่
"ทำได้ครับ สิ่งเหล่านี้มันเป็นเรื่องที่ง่ายมาก พวกเราสองปู่หลานทำได้อยู่แล้วครับ"กู่หรูหลงทำมือคารวะอย่างชาญฉลาดรวมไปถึงกู่เยว่อิ๋งที่ยืนกรานอย่างแข็งขันเมื่อครู่ที่ผ่านมา เธอก็ได้เปลี่ยนทัศนคติและพยักหน้าตอบรับอย่างถ่อมตัวในทันที"โอเค ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นพวกนายปู่หลานก็กลับไปที่โรงแรมจิ่วหลงซานก่อนเถอะ รอให้ถึงพรุ่งนี้เช้า""ฉันก็จะไปร่วมประลองจอมยุทธ์ด้วยตัวเอง ถึงตอนนั้น หากฉันมีอะไรให้รับใช้ ค่อยเรียกพวกนายปู่หลานก็แล้วกัน"หลินเฟยรำพันอยู่ในใจว่า 'คำสาบานโลหิต' นั้นมีประโยชน์แบบสุดๆ และในเวลาเดียวกัน เขาก็โบกมือเพื่อส่งสัญญาณให้กู่หรูหลงและกู่เยว่อิ๋งถอยออกไปเสียก่อนซึ่งก็เป็นเวลานี้ที่เขาได้ยินเสียงฝีเท้าที่รีบเร่งได้ดังแว่วมา และนั่นก็คือโอวหยางเยี่ยนและโอวหยางชงที่ได้วิ่งตามมานั่นเองเมื่อเห็นหลินเฟยไม่เป็นอะไรเลยแม้แต่น้อยตรงกันข้ามกับกู่หรูหลงที่จากไปโดยเสียแขนไปหนึ่งข้าง และดูแก่กว่าเดิมเป็นอย่างมากแม้แต่กู่เยว่อิ๋งที่เดิมตามหลังก็ก้มหน้าก้มตาราวกับถูกสูบวิญญาณไปอะไรแบบนั้นและนั่นก็ทำให้พวกเขาสองพ่อลูกตกตะลึงจนหน้าถอดสีเลยทีเดียว!"สหายน้อง หรือว่านายจะ
น้ำเสียงของหลินเฟยเผด็จการ และเร่งเร้าอย่างหงุดหงิดเต็มที่"คุณปู่คะ เราจะทำอย่างไรกันดี?""หนูอายุยังน้อย หนูยังไม่อยากตายนะคะคุณปู่ พี่เซียวเฟิงกำลังรอหนูอยู่นะคะ…""เพียงแต่ว่าคุณปู่ หากจะให้หนูยอมเป็นทาสรับใช้เขาแล้วละก็ งั้นหนูก็ยอมตายเสียดีกว่า!"กู่เยว่อิ๋งตื่นตระหนก เธอไม่สามารถตัดสินใจอะไรได้ พร้อมกับร้องไห้สะอึกสะอื้นกับกู่หรูหลง"เยว่อิ๋ง กระบวนท่าที่เจ้าเด็กนั่นใช้ ปู่ไม่เคยพบไม่เคยเห็นมาก่อน ปู่ก็ไร้หนทางด้วยเหมือนกัน""ปู่ก็ไม่อยากจะประนีประนอมเหมือนกัน แต่การมีชีวิตอยู่ ยังไงมันก็ดีกว่าตายเป็นไหนๆ""ยังไงพวกเราก็ยอมๆ ไปเถอะ อย่างแย่ที่สุดต่อไปก็ยังมีโอกาสหลบหนีกลับไปที่โลกซ่อนเร้น และไม่ต้องกลับมาเหยียบที่โลกปัจจุบันอีกก็ได้"และกู่หรูหลงที่เพิ่งจะสำเร็จว่าที่มหาจอมยุทธ์ได้เมื่อครู่ที่ผ่านมา อายุของเขาก็ได้ยืดออกไปกว่าห้าสิบปีแล้วซึ่งในอีกห้าสิบกว่าปีข้างหน้า ไม่แน่ว่าเขาอาจจะมีโอกาสสำเร็จขั้นมหาจอมยุทธ์ก็เป็นไปได้กู่หรูหลงยิ่งไม่อยากตายมากกว่าเดิม เขาลังเลอยู่สักพัก ในที่สุดก็ถอนหายใจหนักๆ ออกมา พร้อมกับกระซิบกับกู่เยว่อิ๋ง"ในเมื่อพวกแกยอมมาเป็นทาสฉัน งั้น
กู่หรูหลงร้องขอความเมตตาอย่างสุดใจ แต่ทว่าหลินเฟยกลับไม่มีความคิดที่จะปล่อยพวกเขาไปแต่อย่างใดล้างแค้นสิบปีก็ยังไม่สาย ความจริงที่แสนจะเรียบง่ายนี้ หลินเฟยยังคงเข้าใจได้ดีแต่อย่างไรก็ตาม หลินเฟยไม่ได้เป็นปีศาจหรือฆาตกร ให้เขาฆ่ากู่หรูหลงและกู่เยว่อิ๋ง เขาก็ทำไม่ได้ด้วยเช่นกัน"พี่สาว งั้นพี่ก็ดูดกำลังภายในของเขาให้หมดสิ้น แล้วผมจะให้ผู้อำนวยการโม่ขังพวกเขาไปตลอดชีวิตก็แล้วกัน"ท้ายที่สุด หลินเฟยก็ถอนหายใจ และพูดตัดสินใจออกมา"ไม่ต้องหรอก คนคนนี้เจ้าโจมตีด้วยตัวเอง""เจ้าก็เก็บเอาไว้เป็นทาสเถอะ""ต่อไปหากพบจอมยุทธ์โบราณที่แข็งแกร่งจริงๆ ถึงตอนนั้นข้าค่อยดูดพลังลมปราณก็ยังไม่สาย""อีกอย่าง ขอแค่เจ้าควบคุมเขาได้ เจ้าก็สามารถสั่งให้เขาไปตามหาหินวิญญาณและหญ้าวิญญาณในโลกซ่อนเร้นได้ แบบนี้จะทำให้เจ้าสามารถบรรลุข้อตกลงกับข้าได้เร็วขึ้นด้วย"สิ่งที่ทำให้หลินเฟยคิดไม่ถึงก็คือ หลงอู่ได้ให้คำตอบแบบนี้ออกมาและในน้ำเสียงนั้น ยังมีการชื่นชมปะปนอยู่ด้วย"ให้ผมรับไว้เป็นทาส? ผมไม่ได้มีบุญคุณกับพวกเขาเหมือนกับโอวหยางเยี่ยนและลูกชายแบบนั้น มีแต่ความแค้นล้วนๆ เลยก็ว่าได้""แล้วพวกเขาจะยอมมาเ
สิ่งนี้ทำให้เขารู้สึกหงุดหงิดและเดือดดาลแบบสุดๆ ในขณะเดียวกัน เขาก็รู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาเรื่อยๆ แล้วในตอนนี้!เพราะวิธีการของหลินเฟย เขาไม่เคยได้พบเห็นมาก่อน!"คุณปู่ คุณปู่รีบถอดเสื้อมาดับไฟเร็วเข้า!"กู่เยว่อิ๋งก็ตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน พร้อมตะโกนเตือนเสียงดังออกไปทันที"ไม่ต้องหรอก ปู่มีวิธีของตัวเอง"กู่หรูหลงถ่ายเทพลังงานลงในแขนที่กำลังลุกไหม้ จากนั้นก็กระทืบเท้าลงไปที่พื้นอย่างเต็มแรงแปร๊ะ แปร๊ะ!แต่ทว่า หลังจากที่กู่หรูหลงได้ดึงแขนออกมา เปลวไฟดวงนั้นก็ยังคงไม่มีทีท่าว่าจะมอดลงไปแต่อย่างใด!กู่หรูหลงถอดเสื้อออก และเปลวไฟก็ไหม้แขนของเขาจนเลือดและเนื้อผสมปนเปกันไปหมด!เมื่อเห็นว่าอีกไม่นาน แขนของเขาก็คงจะไหม้ไปเสียทั้งหมดแล้ว!กู่หรูหลงก็ทำได้เพียงอดกลั้นต่อความเจ็บปวด พร้อมกับดึงมีดออกมาตัดแขนข้างขวาของตัวเองออกไปทั้งหมด!เพราะไม่อย่างนั้นแล้ว เปลวไฟที่แปลกประหลาดนี้ก็จะลามไปทั่วตัวและเผาเขาให้ตายทั้งเป็นอย่างแน่นอน!"ไอ้สารเลว ไอ้เด็กเมื่อวานซืน นี่จริงแกก็ออกมาประจันหน้ากับข้าเลยสิ!""ข้าจะสับแกเป็นชิ้นๆ อย่างแน่นอน!"กู่หรูหลงกุมบาดแผลที่เกิดจากกา
ในขณะนี้ เวลาก็ได้ล่วงเลยมาสองทุ่มกว่าๆ แล้ว ท้องฟ้าไร้ซึ่งดวงจันทร์มีดวงดาวเพียงไม่กี่ดวงที่ส่องแสงกะพริบจางๆ ออกมาภายในภูเขาชิงซาน เมื่อความมืดได้คืบคลานเข้ามา มันจึงทำให้บรรยากาศดูมืดมิดมากยิ่งขึ้นแต่ทว่าความเร็วของหลินเฟยยังไม่ได้ลดลงแต่อย่างใด เขาสามารถหลบหลีกหินที่นูนสูงเหล่านั้นได้อย่างคล่องแคล่วความมืดในยามค่ำคืน ไม่ได้ทำให้ความสามารถในการใช้ตาทิพย์ของเขาลดลงแต่อย่างใดหลินเฟยหันกลับไปมอง และพบว่ากู่หรูหลงไม่ได้เร็วเท่ากับตอนแรกอีกต่อไปหลินเฟยรู้ดีว่า นั่นไม่ใช่เพราะกู่หรูหลงเหนื่อยล้า แต่เป็นเพราะความสามารถในการมองเห็นของกู่หรูหลงลดลงเมื่ออยู่ในตอนกลางคืนนั้นเองส่วนโอวหยางเยี่ยนและลูกชายที่ติดตามมาท้ายสุดก็ถูกสลัดทิ้งโดยไม่เห็นแม้แต่เงาแล้วในตอนนี้!"กู่หรูหลง อย่างน้อยๆ แกก็เป็นถึงว่าที่มหาจอมยุทธ์ ทำไมช้าอย่างกับเต่าแบบนี้?""ขืนแกยังชักช้าอยู่ ฉันก็คงจะเบื่อจนหลับไปแล้วนะ""ด้วยความเร็วแบบนี้ แกยังคิดจะฆ่าฉันอีกงั้นเหรอ? กลับบ้านไปนอนฝันซะดีกว่า!"หลินเฟยตั้งใจชะลอความเร็ว และหันมาพูดเหน็บแนม"ไอ้หนุ่ม แกอย่าได้ชะล่าใจไปเลย แม้ว่าความเร็วของข้าจะสู้แกไม่ได