หินเพียงสี่ก้อน แต่มันกลับทำให้ทุกคนมีประสบการณ์ตื่นเต้นราวกับนั่งรถไฟเหาะ เดี๋ยวก็นรก เดี๋ยวก็สวรรค์กระทั่งท้าวมัจจุราชยังสามารถสังเกตได้ว่า ร่างของผู้คนเหล่านี้ต่างก็กะพริบอยู่หน้าประตูราชวังของนรกเสียแล้วและเขาอาจจะมีสีหน้าที่เต็มไปด้วยความประหลาดใจก็เป็นไปได้ซูไห่เทายิ้มเต็มใบหน้า พร้อมกับพูดขึ้นมาว่า"ฉันทำธุรกิจหยกมามากมายขนาดนี้ นี่เป็นครั้งแรกที่รู้สึกท้าทายแบบนี้ หัวใจของฉันแทบจะทนไม่ไหวแล้ว"ซึ่งกู้เหวินปี้ก็เช่นเดียวกัน"บอสซู อย่าว่าแต่คุณเลย ผมก็ไม่ต่างจากคุณหรอกนะ เราจะต้องอดทนเอาไว้ ยังมีความหวังมากอยู่นะครับ"เมื่อมองเห็นหยกมรกตที่แวววาว ซูเฉี่ยนเสวี่ยก็ไม่สนใจภาพลักษณ์เทพธิดาที่เย็นชาของตัวเองอีกต่อไปและเธอก็กำหมัดเอาไว้แน่นพร้อมกับตะโกนไปทางหลินเฟยอย่างตื่นเต้นว่า"หลินเฟย คุณน่าทึ่งจริงๆ สายตาของคุณขั้นเทพจริงๆ…"ซูเฉี่ยนเสวี่ยโอบกอดหลินเฟยด้วยใบหน้าที่ค่อนข้างจะเรียบเฉย แต่ก็ยังมอบจูบที่หอมหวานให้อีกฝ่ายด้วยเช่นกันจูบนี้ไม่ได้ประทับไปที่ใบหน้า แต่กลับเป็นจูบที่ล้ำลึกบนริมฝีปากของหลินเฟยเสียต่างหากด้านหลินเฟยก็โอบกอดเอวของซูเฉี่ยนเสวี่ยอย่างไม่เกร
"ถ้าสมองเสื่อมก็ไปหาหมอ ยังจะมาจัดงานประชุมซื้อขายอะไรกัน หรือว่าเอาหินในโซนเกรดสูงไปวางไว้ที่โซนเกรดต่ำหมดแล้ว? วันนี้ไม่ว่าจะเป็นใคร แม่งเอ๊ย ออกมาอธิบายเดี๋ยวนี้!"จางซื่อเฉวียนซึ่งเดิมทีคิดว่าตัวเองจะต้องชนะอย่างแน่นอน แต่สุดท้ายก็ถูกหลินเฟยแซงหน้าไปเสียแล้วหากไม่ใช่เพราะข้างตัวของเขาไม่มีน้ำ เขาก็อาจจะกินยาเตรียมเอาไว้อยู่แล้ว เมื่อยาออกฤทธิ์เขาก็จะจัดการกับซูเฉี่ยนเสวี่ยตรงนี้เสียเลย เขาเกือบจะกินยานั่นแล้ว แต่ชัยชนะก็ยังไม่ได้ปรากฏออกมาเสียทีจางซื่อเฉวียนแทบจะทะลุขีดอุณหภูมิสีแดงไปแล้วเมิ่งหลานหรูมองดูท่าทางอันธพาลแบบนี้ของจางซื่อเฉวียน กระทั่งยังด่าทอผู้จัดงานเสียด้วยซ้ำ?เธอจึงรีบพูดตักเตือนจางซื่อเฉวียนทันทีว่า"บอสจางคะ กรุณารักษาความสงบด้วยนะคะ อย่าได้ก่อกวนการประชุมซื้อขายของเขา หากคุณยังไม่ฟังคำเตือน พวกเรามีอำนาจที่จะให้คุณออกจากสถานที่นี้ไปนะคะ"อารมณ์ของจางซื่อเฉวียนกำลังคุกรุ่น เขามองไปยังเมิ่งหลานหรูอย่างดุดัน พร้อมกับตะคอกออกมาว่า"ถ้าอย่างนั้นคุณก็อธิบายหน่อยสิว่า ผู้จัดงานได้วางหินเอาไว้อย่างไร?""ทำไมหินในโซนเกรดต่ำถึงเปิดออกมาเป็นหยกที่ล้ำค่าแบบนั้นไ
ถึงขั้นกับไม่ได้สงบเสงี่ยม พร้อมกับก่นด่าด้วยสีหน้าที่ดุดันเอาเสียมากๆ"นังแพศยาแกพูดอะไรน่ะ? สถานะของแกคืออะไร?""แกกล้าตะคอกใส่พี่เฉวียนของฉันแบบนี้เหรอ? ไม่อยากจะมีชีวิตอยู่ต่อแล้วใช่ไหม?""ถ้าไม่อยากตายก็รีบไสหัวไปไกลๆ ไม่อย่างนั้นฉันจะพาคนกลุ่มนี้มาจัดการแกให้หนำใจไปเลย"และความเฉียบคมก็ได้ฉายเข้ามาในดวงตาที่สวยงามของผู้หญิงลึกลับเพี้ยะ…พนักงานที่อยู่ข้างๆ ตบหน้าฉินฟางอย่างรุนแรงทันทีพละกำลังที่รุนแรงได้ทำให้ฉินฟางล้มลงไปที่พื้นอย่างหนักหน่วงสีหน้าของพนักงานเย็นชา ดวงตาเต็มไปด้วยแรงอาฆาต"ระวังคำพูดหน่อย อย่าพูดเพ้อเจ้อ ไม่อย่างนั้นจะมีชีวิตกลับไปหรือไม่ยังพูดยาก"ฉินฟางสัมผัสรอยนิ้วมือทั้งห้าที่ชัดเจนบนใบหน้า และรู้ว่าตัวเองไม่ใช่คู่ต่อสู้ของอีกฝ่ายจากนั้นเธอก็โน้มเข้ามาหาจางซื่อเฉวียน ร้องไห้ฟูมฟายพร้อมทั้งเขย่าแขนของจางซื่อเฉวียนไปมา"พี่เฉวียน พี่ดูพวกนั้นสิ... พวกเขารังแกฉัน และยังทุบตีได้แม้กระทั่งผู้หญิง""พี่เฉวียนคะ พี่จะต้องจัดการให้กับฉันนะ จัดการผู้หญิงคนนี้ให้หนัก ขายมันให้กับสลัมในต่างประเทศและปล่อยให้มันได้ลิ้มรสความรู้สึกที่ถูกคนนับพันขี่อยู่แบบนั
เขาในตอนนี้ได้สูญเสียความผ่อนคลายและเย่อหยิ่งอย่างที่เคยเป็นโดยสิ้นเชิง ขอแค่สามารถไม่แพ้การเดิมพันในครั้งนี้ได้ เขาก็พอใจแล้วจางซื่อเฉวียนปลอบใจตัวเองว่า"งั้นก็ดีแล้ว งั้นก็ดีแล้ว""ในเมื่อคุณหลี่พูดแบบนี้แล้ว มันก็ต้องไม่มีปัญหาอยู่แล้วล่ะ"ฉินฟางถูกเจ้าหน้าที่และจางซื่อเฉวียนตบไปคนละฉาด ใบหน้ามืดมน ยืนอยู่ข้างจางซื่อเฉวียนอย่างสงบเสงี่ยมโดยไม่พูดอะไรสักคำโดยสูญเสียความสง่างามไปอย่างสิ้นเชิงและทำได้เพียงระบายความขุ่นเคืองของตัวเองกับพนักงานตัดหินข้างๆ เท่านั้น"เธอหูหนวกเหรอ? ไม่ได้ยินที่พี่เฉวียนพูดหรือไง? รีบเปิดหินสิ ยังจะมัวทำอะไรอยู่?"พนักงานตัดหินกลอกตามองบนด้วยความไม่แยแสเล็กน้อยแต่ก็ยังคงทำการเปิดหน้าหินต่อไปและสายตาของทุกคนก็จับจ้องไปที่หินก้อนสุดท้ายที่หลี่เฉวียนเฟิงได้เลือกเอาไว้ทันทีที่ใบมีดได้ตัดลงไปแสงสีม่วงของคริสตัลก็ได้เผยออกมาทันทีทันใดนั้นพนักงานตัดหินก็ได้อุทานออกมาทันทีว่า"มีของนะ มีสีม่วงออกมาแล้ว"หลี่เฉวียนเฟิงรู้สึกตื่นเต้น ดวงตาเบิกกว้างพร้อมกับพูดเร่งเร้าขึ้นมาว่า"ตัดต่อไป!"และประกายก็กระเซ็นไปทุกที่และหินก้อนสุดท้ายก็ได้เผยร
ซูไห่เทาและคนอื่นๆ เริ่มกังวลขึ้นมาเล็กน้อยกู้เหวินปี้พูดด้วยความไม่พอใจขึ้นมาว่า"นี่พวกนั้นเปิดเจอหยกจื่อหลัวหลานงั้นเหรอ ครั้งนี้คงลำบากแน่ๆ แล้ว""ถ้าต้องการชนะพวกเขา ความเป็นไปได้นั้นช่างต่ำจริงๆ"ซูเฉี่ยนเสวี่ยทาบมือทั้งสองข้างไว้ที่หน้าอกของตัวเอง พร้อมกับจ้องมองไปยังหลินเฟยอย่างตึงเครียดและหลินเฟยก็ถามซูเฉี่ยนเสวี่ยอย่างงุนงงว่า"หยกจื่อหลัวหลานมีราคามากกว่าหยกมรกตอย่างงั้นเหรอ?"ไม่รอให้ซูเฉี่ยนเสวี่ยตอบกลับมาผู้หญิงลึกลับที่อยู่ในกลุ่มของคนดูกลับพูดขึ้นมาว่า"ราคาของจื่อหลัวหลานจะน้อยกว่าหยกมรกตเล็กน้อยเท่านั้น เพียงแต่ว่ามันมีความแตกต่างเล็กน้อยมาก""แม้ว่าหยกมรกตที่คุณเปิดก่อนหน้านี้จะมีค่ามาก แต่ปริมาณนั้นถือว่าไม่ค่อยสูง ดังนั้นเมื่อพูดตามภาพรวมแล้ว ราคาก็จะน้อยกว่าหยกจื่อหลัวหลานนั่นอยู่เล็กน้อย"หลังจากที่ได้ยินคำอธิบายของผู้หญิงลึกลับแล้ว ใบหน้าของซูไห่เทา ซูเฉี่ยนเสวี่ย รวมทั้งกู้เหวินปี้ก็ยิ่งซีดมากขึ้นไปอีกหากพวกเขาคิดที่จะชนะ มันมีความเป็นไปได้ที่ต่ำมากพวกเขารู้ดีว่า ด้วยความเข้าใจราคาของหยกในตอนนี้แล้ว แทบไม่มีใครในสถานที่นี้สามารถเข้าใจได้ดีไปกว
"ความสามารถของนายยังไม่พอ แต่เห็นแก่ความสามารถพิเศษของนาน ถ้านายยอมไหว้ฉันเป็นอาจารย์ ฉันก็สามารถขอความเมตตาจากบอสจาง ไม่ให้เขาไม่หักมือและเท้าของนายได้ แค่นายคุกเข่าขอโทษก็พอแล้ว"โชคดีที่หลี่เฉวียนเฟิงไม่ค่อยมีเครา ไม่อย่างนั้นด้วยท่าทางความยิ่งผยองในตอนนี้แล้ว เขาอาจจะทำท่าลูบคลำเคราเหมือนตัวเองเทพมากก็เป็นไปได้จางซื่อเฉวียนที่อยู่ข้างๆขมวดคิ้วไม่ค่อยเต็มใจ เพราะไม่ง่ายที่จะชนะหลินเฟยที่จริงแล้วเขาเคยคิดจะทรมานหลินเฟยเพื่อที่จะแก้แค้นที่เมื่อก่อนเขาถูกตีแต่ตอนนี้ที่เขาสามารถชนะก็เพราะพึ่งพาหลี่เฉวียนเฟิง ซึ่งจะทำให้เขาขุ่นเคืองใจไม่ได้เลยและเมื่อคิดดูดีๆ แล้ว ตอนนี้ความต้องการของเขาคืออยากได้ซูเฉี่ยนเสวี่ย อยากให้เธอเป็นของตัวเองจะได้เล่นดีๆ ส่วนหลินเฟย ทำให้หมอนั่นยอมคุกเข่าขอโทษอย่างอับอายขายหน้า แค่นี้ก็เพียงพอแล้วเขาจึงรับปากอย่างหมดหนทางไปว่า"ก็ได้ ในเมื่อคุณหลี่ก็พูดแบบนี้แล้ว ก็ทำตามที่คุณหลี่ตัดสินใจเถอะ"เมื่อเห็นว่าจางซื่อเฉวียนก็ไม่กล้าพูดอะไรเยอะ ฉินฟางจึงไม่ได้พูดอะไรอีกเพียงแค่ขอว่า"ในเมื่อปรมาจารย์หลี่ก็พูดไปแล้ว เพียงแค่หลินเฟยคุกเข่าขอโทษ ฉันก็ไม่ต
ผู้หญิงลึกลับพยักหน้าอย่างชื่นชม"แม้ว่าหลินเฟยจะต้องแพ้ในรอบนี้ แต่คู่แข่งเป็นหลี่เฉวียนเฟิง เพราะอายุยังน้อย ไม่ค่อยมีความมั่นคงทางจิตใจ แต่เขามีความสามารถและระดับในการคัดหินก็ถือว่าค่อนข้างเก่งแล้วในวงการหยก แม้ว่าแพ้ต่อปรมาจารย์ในวงการหยกอย่างหลี่เฉวียนเฟิงก็ไม่ขายหน้าอะไร ถือว่ามีอนาคตที่สดใส มีศักยภาพสูง""รอหลังการคัดหินเสร็จแล้ว นัดหลินเฟยออกมาคุยดีกว่า คุยดีๆอย่างละเอียด ทำให้ความสัมพันธ์เราใกล้ชิดขึ้น"เห็นได้ชัดแล้วว่าผู้หญิงลึกลับค่อนข้างชื่นชมความสามารถแท้ของหลินเฟยพร้อมกับเสียงคำรามของเครื่องหินก้อนสุดท้ายของหลินเฟยตัดออกแสงที่เปล่งประกายสายหนึ่งปรากฏจากช่องว่างของหินปรมาจารย์คัดหินซึ่งนั่งอยู่ที่นั่งผู้ชมนั้นจ้องมองหินก้อนนั้นตลอดจู่ๆ เขาก็รู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมาก เกือบจะยืนขึ้นและตะโกนเสียงดังว่า"ไม่ใช่ ไม่ใช่หยกชุนไต้ นี่เป็นหยกเขียวราชันต่างหาก""เป็นหยกเขียวราชันหนา"เพราะตื่นเต้นมาก เขาจึงลุกขึ้นยืนอย่างเร่งรีบ ท่ามกลางความสับสน จู่ๆ เขาก็กำเคราเอาไว้แน่นจนหลุดออกมาสองสามเส้นแต่ไม่รู้สึกเจ็บแม้แต่นิดหนึ่งแม้ว่าจะเป็นตัวเขาเอง ก็คงไม่มีสักกี่คร
เพียงแค่สีที่โดดเด่นไม่ซ้ำกันนี้ ไม่ต้องดูอย่างระมัดระวังก็สามารถชนะหยกทั่วโลกได้แล้วหลี่เฉวียนเฟิงรูปร่างสั่นและเดินโซเซไม่มั่นคง ใบหน้าแดงขึ้นทันทีแดงจนเกือบเลือดไหลออกใบหน้ามาแล้วต้องพึ่งพาอยู่โต๊ะข้างๆจึงยืนได้มั่นคง เกือบจะล้มลงกับพื้นชี้มือไปที่หยกราชันอย่างสั่นๆ พร้อมกับพูดว่า"หยกเขียวราชันที่หายากในร้อยปี คาดไม่ถึงว่าจะเปิดออกมาได้จริงๆ""ครั้งนี้แพ้แล้ว ฉันเปิดหยกจื่อหลัวหลาน แต่คาดไม่ถึงเลยว่าจะแพ้ไปได้""ฮ่าฮ่าฮ่า...แพ้แล้วเหรอ แพ้ไปแล้วจริงๆเหรอ ฟ้าลิขิต ฟ้าลิขิตแท้ๆ..."หลี่เฉวียนเฟิงแทบจะเป็นบ้าไปแล้ว เขาทั้งหัวเราะและร้องไห้ไปในเวลาเดียวกัน ดูแล้วน่าจะได้รับการกระทบกระเทือนเป็นอย่างมากในมุมมองของหลี่เฉวียนเฟิงแล้ว เพื่อที่จะเอาชนะเขา แม้ว่าสมบัติล้ำค่าที่หายากเป็นร้อยปีนั้น พระเจ้าก็วางในภายในโซนหินเกรดต่ำให้กับหลินเฟย ช่องว่างที่แตกต่างกันขนาดนี้ทำให้เขารับไม่ได้เทคนิคของคนธรรมดาแม้ว่ายิ่งดีแค่ไหนแต่ก็เป็นแค่คนธรรมดา จะไปสู้กับพระเจ้าได้อย่างไรหลี่เฉวียนเฟิงเกือบจะบ้าไปแล้วร่างกายที่อ้วนของจางซื่อเฉวียนสั่นเหมือนถูกฟ้าผ่าเข้าที่ร่างกายใบหน้าซีดลง
ท่ามกลางความสะลึมสะลือ ถังรั่วเสวี่ยก็สัมผัสได้ถึงมือใหญ่ที่อบอุ่นที่แสนจะคุ้นเคยคู่นั้นบนร่างกายของเธอ เป้าหมายของการลูบไล้นั้นชัดเจนเป็นอย่างมากด้วยสัมผัสที่แสนจะคุ้นเคยนี้ มันทำให้ถังรั่วเสวี่ยตื่นขึ้นมาจากความฝัน ทั้งโลภและหลงใหลเป็นอย่างมาก"เสี่ยวเฟย ไม่ได้นะ หยวนหยวนยังอยู่ที่นี่…"ท่ามกลางความมืดในยามราตรี ถังรั่วเสวี่ยมองไม่เห็นหลินเฟย แต่เธอสามารถสัมผัสได้ว่าเป็นหลินเฟยที่อยู่บนตัวเธออุณหภูมิที่ร้อนจัดทำให้ถังรั่วเสวี่ยหายใจถี่ๆ เธอโอบกอดหลินเฟยเอาไว้ และกระซิบเบาๆ ออกมาเดิมทีเธอยังคิดว่าหลินเฟยได้มาตอนกลางวันแล้ว ตอนกลางคืนเขาจะไม่มาเสียอีกคิดไม่ถึงเลยว่าหลินเฟยจะมาตอนดึกดื่นแบบนี้ได้ช่างเป็นหนุ่มน้อยที่บ้าคลั่งเสียจริงๆ..."ไม่เป็นไรหรอกครับอาเล็ก เธอหลับไปแล้ว ผมเบาๆ หน่อยก็โอเคแล้วล่ะ""อาเล็ก อาน้ำลายไหลแล้วนะ คงจะกระหายน่าดู ให้ผมช่วยดับกระหายให้นะ"หลินเฟยหัวเราะเบาๆ พร้อมกับเอื้อมมือไปถอดชุดแนบเนื้อของถังรั่วเสวี่ยออกแม้ว่าจะมืดสนิท แต่สำหรับหลินเฟยแล้ว มันไม่ต่างอะไรจากตอนกลางวันใบหน้าที่แดงระเรื่อ รวมไปถึงดวงตาที่พร่าเบลอของถังรั่วเสวี่ยมันยิ่
เพราะต้องการรู้ความลับของโลกซ่อนเร้นจากตัวของพวกเขานั่นเองผู้หญิงที่เป็นผู้นำมาจากตระกูลอาจารย์หยินหยางที่ได้รับความเคารพนับถือมากที่สุดจากทุกคนในประเทศซากุระ ตั้งแต่บุคคลสำคัญไปจนถึงชาวบ้าน!เชียนเย่เจียจื่อจากตระกูลเชียนเย่โดยที่ตัวเธอเองยังเป็นอาจารย์หยินหยางที่มีสถานะสูง ซึ่งสามารถควบคุมพลังของผีและเทพเจ้าได้!"แม้ว่าบางส่วนของร่างกายจะหายไป แต่เขาเต็มไปด้วยความโกรธแค้น เป็นวัตถุดิบในการปลุกศพได้ดีจริงๆ""พวกนายสองคนไปเอาตัวเขาขึ้นมา"เมื่อได้ยินสิ่งที่ผู้ชายที่อยู่ด้านหลังพูด เชียนเย่เจียจื่อก็หรี่ตาที่เรียวเล็ก พร้อมพูดด้วยน้ำเสียงที่ทรงเสน่ห์จากภายในออกมา"รับทราบรับ ท่านเชียนเย่!"ในไม่ช้า ชายทั้งสองก็ได้เดินลงไปช้อนร่างเจียงอู๋เซี่ยวขึ้นมาจากสระ พร้อมหามมาวางที่หน้าของเชียนเย่เจียจื่อ"ให้พวกนายไปตรวจสอบ ได้ความว่าอย่างไรแล้ว?"เชียนเย่เจียจื่อย่อตัวลง มองสำรวจไปยังร่างของเจียงอู๋เซี่ยวโดยไม่รู้สึกกลัวแต่อย่างใดดูเหมือนว่าเธอจะคุ้นเคยกับมันเป็นอย่างดี พร้อมกับถามโดยไม่เงยหน้าออกมา"ตรวจสอบเรียบร้อยแล้วครับท่านเชียนเย่ พรุ่งนี้เช้าสิบโมง ยอดเขาจิ่วหลงซาน พวกจอมยุ
"ในเมื่ออาจารย์ลุงเอ่ยปากออกมาแล้ว อู๋เซี่ยวจะกล้าขัดได้อย่างไรล่ะครับ?""ไม่รู้ว่าอาจารย์ลุงมีเรื่องอะไรที่รบกวนจิตใจอยู่ พูดให้อู๋เซี่ยวฟังหน่อยสิครับ ไม่แน่ว่าอู๋เซี่ยวอาจจะช่วยอาจารย์ลุงแก้ปัญหาได้"ตอนนี้เจียงอู๋เซี่ยวอยู่ในการคุ้มครองของคนอื่น และยังต้องการให้กู่หรูหลงพาเขากลับโลกซ่อนเร้นอีกต่างหากแน่นอนว่าเขาไม่กล้าที่จะปฏิเสธคำชวนของกู่หรูหลงอยู่แล้ว หลังจากที่ครุ่นคิดอยู่สักพัก เขาก็พูดขึ้นมาว่า"เอาไว้คุยกันตอนที่ออกไปนอกโรงแรมแล้ว ที่นี่หูตามันเยอะ เรื่องบางอย่างไม่สะดวกที่จะพูดในตอนนี้"กู่หรูหลงไม่ได้พูดอะไรออกมาสักคำ เขาหันหลังและนำทางอยู่ข้างหน้าเจียงอู๋เซี่ยวเดินตามกู่หรูหลงออกจากโรงแรม จนมาถึงเชิงเขาของจิ่วหลงซานโดยมีสระน้ำที่ลึกจนมองไม่เห็นก้นสระ"อาจารย์ลุงครับ ท่านได้ให้ศิษย์พี่ฮว่าและศิษย์พี่ฉางเล่อไปซื้อยามาให้หลานไม่ใช่เหรอครับ?""ทำไมสองวันมานี้ อู๋เซี่ยวถึงไม่ได้เจอศิษย์พี่ฮว่าและศิษย์พี่ฉางเล่อเลยล่ะครับ"เจียงอู๋เซี่ยวเป็นฝ่ายเอ่ยถามกู่หรูหลงก่อน"อ้อ ไอ้สองคนนั้นไม่รู้ว่าไปเถลไถลที่ไหนแล้ว นี่ก็สองวันแล้วยังไม่กลับมาเลย""วันนี้ข้าออกไปตามหาก็
"ผมจะเป็นอะไรไปได้ เสี่ยวหยู่คุณอย่าได้เป็นห่วงเลยนะ""วันนี้คุณออกไปทำงานทั้งวัน เหนื่อยหรือเปล่า?""อยากจะให้ผมบีบๆ นวดๆ ขาให้คุณไหมล่ะ?"เมื่อสัมผัสความเป็นห่วงที่เจียงเฉินหยู่มีต่อเขาหลินเฟยอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมาเขาดึงเจียงเฉินหยู่ไปนั่งบนเตียง พร้อมพูดเอาอกเอาใจ"เฮ้อ ฉันวิ่งวุ่นมาทั้งวัน แม้แต่ข้าวปลาก็ไม่ได้กิน คุณว่าฉันเหนื่อยหรือเปล่าล่ะ?""ถือว่าคุณยังมีจิตสำนึกอยู่ ยังรู้จักเป็นห่วงฉัน""เดี๋ยวตอนนวดคุณเบามือหน่อยนะ ฉันล่ะกลัวว่าคุณจะเผลอนวดจนไหล่ของฉันทรุดไปแล้วจริงๆ"เจียงเฉินหยู่พูดล้อเล่น พร้อมกับหันหลังให้กับหลินเฟย"แหะๆ โอเค รับรองว่าผมจะนวดเบาๆ!"หลินเฟยวิ่งไปล้างมือในห้องน้ำ และกลับมาอย่างรวดเร็วเขาวางมือบนไหล่ของเจียงเฉินหยู่และคลำไปจนถึงคอเสื้อของเธอจากนั้นก็เลื่อนไปตามผิวเรียบเนียนไร้ที่ติ พร้อมกับสอดลึกเข้าไป นวด บีบ และหยอกล้อและมันก็ทำให้เจียงเฉินหยู่คร่ำครวญออกมาอย่างทันที"อืม...คนผีทะเล ฉันเหนื่อยจะตายอยู่แล้วนะ""คุณยังคิดจะมาแกล้งฉันอีก ปล่อยเดี๋ยวนี้ อย่ามาเล่นมั่วๆ!"แต่ทว่ามือของหลินเฟยกลับเอาแต่ใจ พร้อมพูดด้วยรอยยิ้มที่ชั่วร้ายว่
"ทำได้ครับ สิ่งเหล่านี้มันเป็นเรื่องที่ง่ายมาก พวกเราสองปู่หลานทำได้อยู่แล้วครับ"กู่หรูหลงทำมือคารวะอย่างชาญฉลาดรวมไปถึงกู่เยว่อิ๋งที่ยืนกรานอย่างแข็งขันเมื่อครู่ที่ผ่านมา เธอก็ได้เปลี่ยนทัศนคติและพยักหน้าตอบรับอย่างถ่อมตัวในทันที"โอเค ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นพวกนายปู่หลานก็กลับไปที่โรงแรมจิ่วหลงซานก่อนเถอะ รอให้ถึงพรุ่งนี้เช้า""ฉันก็จะไปร่วมประลองจอมยุทธ์ด้วยตัวเอง ถึงตอนนั้น หากฉันมีอะไรให้รับใช้ ค่อยเรียกพวกนายปู่หลานก็แล้วกัน"หลินเฟยรำพันอยู่ในใจว่า 'คำสาบานโลหิต' นั้นมีประโยชน์แบบสุดๆ และในเวลาเดียวกัน เขาก็โบกมือเพื่อส่งสัญญาณให้กู่หรูหลงและกู่เยว่อิ๋งถอยออกไปเสียก่อนซึ่งก็เป็นเวลานี้ที่เขาได้ยินเสียงฝีเท้าที่รีบเร่งได้ดังแว่วมา และนั่นก็คือโอวหยางเยี่ยนและโอวหยางชงที่ได้วิ่งตามมานั่นเองเมื่อเห็นหลินเฟยไม่เป็นอะไรเลยแม้แต่น้อยตรงกันข้ามกับกู่หรูหลงที่จากไปโดยเสียแขนไปหนึ่งข้าง และดูแก่กว่าเดิมเป็นอย่างมากแม้แต่กู่เยว่อิ๋งที่เดิมตามหลังก็ก้มหน้าก้มตาราวกับถูกสูบวิญญาณไปอะไรแบบนั้นและนั่นก็ทำให้พวกเขาสองพ่อลูกตกตะลึงจนหน้าถอดสีเลยทีเดียว!"สหายน้อง หรือว่านายจะ
น้ำเสียงของหลินเฟยเผด็จการ และเร่งเร้าอย่างหงุดหงิดเต็มที่"คุณปู่คะ เราจะทำอย่างไรกันดี?""หนูอายุยังน้อย หนูยังไม่อยากตายนะคะคุณปู่ พี่เซียวเฟิงกำลังรอหนูอยู่นะคะ…""เพียงแต่ว่าคุณปู่ หากจะให้หนูยอมเป็นทาสรับใช้เขาแล้วละก็ งั้นหนูก็ยอมตายเสียดีกว่า!"กู่เยว่อิ๋งตื่นตระหนก เธอไม่สามารถตัดสินใจอะไรได้ พร้อมกับร้องไห้สะอึกสะอื้นกับกู่หรูหลง"เยว่อิ๋ง กระบวนท่าที่เจ้าเด็กนั่นใช้ ปู่ไม่เคยพบไม่เคยเห็นมาก่อน ปู่ก็ไร้หนทางด้วยเหมือนกัน""ปู่ก็ไม่อยากจะประนีประนอมเหมือนกัน แต่การมีชีวิตอยู่ ยังไงมันก็ดีกว่าตายเป็นไหนๆ""ยังไงพวกเราก็ยอมๆ ไปเถอะ อย่างแย่ที่สุดต่อไปก็ยังมีโอกาสหลบหนีกลับไปที่โลกซ่อนเร้น และไม่ต้องกลับมาเหยียบที่โลกปัจจุบันอีกก็ได้"และกู่หรูหลงที่เพิ่งจะสำเร็จว่าที่มหาจอมยุทธ์ได้เมื่อครู่ที่ผ่านมา อายุของเขาก็ได้ยืดออกไปกว่าห้าสิบปีแล้วซึ่งในอีกห้าสิบกว่าปีข้างหน้า ไม่แน่ว่าเขาอาจจะมีโอกาสสำเร็จขั้นมหาจอมยุทธ์ก็เป็นไปได้กู่หรูหลงยิ่งไม่อยากตายมากกว่าเดิม เขาลังเลอยู่สักพัก ในที่สุดก็ถอนหายใจหนักๆ ออกมา พร้อมกับกระซิบกับกู่เยว่อิ๋ง"ในเมื่อพวกแกยอมมาเป็นทาสฉัน งั้น
กู่หรูหลงร้องขอความเมตตาอย่างสุดใจ แต่ทว่าหลินเฟยกลับไม่มีความคิดที่จะปล่อยพวกเขาไปแต่อย่างใดล้างแค้นสิบปีก็ยังไม่สาย ความจริงที่แสนจะเรียบง่ายนี้ หลินเฟยยังคงเข้าใจได้ดีแต่อย่างไรก็ตาม หลินเฟยไม่ได้เป็นปีศาจหรือฆาตกร ให้เขาฆ่ากู่หรูหลงและกู่เยว่อิ๋ง เขาก็ทำไม่ได้ด้วยเช่นกัน"พี่สาว งั้นพี่ก็ดูดกำลังภายในของเขาให้หมดสิ้น แล้วผมจะให้ผู้อำนวยการโม่ขังพวกเขาไปตลอดชีวิตก็แล้วกัน"ท้ายที่สุด หลินเฟยก็ถอนหายใจ และพูดตัดสินใจออกมา"ไม่ต้องหรอก คนคนนี้เจ้าโจมตีด้วยตัวเอง""เจ้าก็เก็บเอาไว้เป็นทาสเถอะ""ต่อไปหากพบจอมยุทธ์โบราณที่แข็งแกร่งจริงๆ ถึงตอนนั้นข้าค่อยดูดพลังลมปราณก็ยังไม่สาย""อีกอย่าง ขอแค่เจ้าควบคุมเขาได้ เจ้าก็สามารถสั่งให้เขาไปตามหาหินวิญญาณและหญ้าวิญญาณในโลกซ่อนเร้นได้ แบบนี้จะทำให้เจ้าสามารถบรรลุข้อตกลงกับข้าได้เร็วขึ้นด้วย"สิ่งที่ทำให้หลินเฟยคิดไม่ถึงก็คือ หลงอู่ได้ให้คำตอบแบบนี้ออกมาและในน้ำเสียงนั้น ยังมีการชื่นชมปะปนอยู่ด้วย"ให้ผมรับไว้เป็นทาส? ผมไม่ได้มีบุญคุณกับพวกเขาเหมือนกับโอวหยางเยี่ยนและลูกชายแบบนั้น มีแต่ความแค้นล้วนๆ เลยก็ว่าได้""แล้วพวกเขาจะยอมมาเ
สิ่งนี้ทำให้เขารู้สึกหงุดหงิดและเดือดดาลแบบสุดๆ ในขณะเดียวกัน เขาก็รู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาเรื่อยๆ แล้วในตอนนี้!เพราะวิธีการของหลินเฟย เขาไม่เคยได้พบเห็นมาก่อน!"คุณปู่ คุณปู่รีบถอดเสื้อมาดับไฟเร็วเข้า!"กู่เยว่อิ๋งก็ตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน พร้อมตะโกนเตือนเสียงดังออกไปทันที"ไม่ต้องหรอก ปู่มีวิธีของตัวเอง"กู่หรูหลงถ่ายเทพลังงานลงในแขนที่กำลังลุกไหม้ จากนั้นก็กระทืบเท้าลงไปที่พื้นอย่างเต็มแรงแปร๊ะ แปร๊ะ!แต่ทว่า หลังจากที่กู่หรูหลงได้ดึงแขนออกมา เปลวไฟดวงนั้นก็ยังคงไม่มีทีท่าว่าจะมอดลงไปแต่อย่างใด!กู่หรูหลงถอดเสื้อออก และเปลวไฟก็ไหม้แขนของเขาจนเลือดและเนื้อผสมปนเปกันไปหมด!เมื่อเห็นว่าอีกไม่นาน แขนของเขาก็คงจะไหม้ไปเสียทั้งหมดแล้ว!กู่หรูหลงก็ทำได้เพียงอดกลั้นต่อความเจ็บปวด พร้อมกับดึงมีดออกมาตัดแขนข้างขวาของตัวเองออกไปทั้งหมด!เพราะไม่อย่างนั้นแล้ว เปลวไฟที่แปลกประหลาดนี้ก็จะลามไปทั่วตัวและเผาเขาให้ตายทั้งเป็นอย่างแน่นอน!"ไอ้สารเลว ไอ้เด็กเมื่อวานซืน นี่จริงแกก็ออกมาประจันหน้ากับข้าเลยสิ!""ข้าจะสับแกเป็นชิ้นๆ อย่างแน่นอน!"กู่หรูหลงกุมบาดแผลที่เกิดจากกา
ในขณะนี้ เวลาก็ได้ล่วงเลยมาสองทุ่มกว่าๆ แล้ว ท้องฟ้าไร้ซึ่งดวงจันทร์มีดวงดาวเพียงไม่กี่ดวงที่ส่องแสงกะพริบจางๆ ออกมาภายในภูเขาชิงซาน เมื่อความมืดได้คืบคลานเข้ามา มันจึงทำให้บรรยากาศดูมืดมิดมากยิ่งขึ้นแต่ทว่าความเร็วของหลินเฟยยังไม่ได้ลดลงแต่อย่างใด เขาสามารถหลบหลีกหินที่นูนสูงเหล่านั้นได้อย่างคล่องแคล่วความมืดในยามค่ำคืน ไม่ได้ทำให้ความสามารถในการใช้ตาทิพย์ของเขาลดลงแต่อย่างใดหลินเฟยหันกลับไปมอง และพบว่ากู่หรูหลงไม่ได้เร็วเท่ากับตอนแรกอีกต่อไปหลินเฟยรู้ดีว่า นั่นไม่ใช่เพราะกู่หรูหลงเหนื่อยล้า แต่เป็นเพราะความสามารถในการมองเห็นของกู่หรูหลงลดลงเมื่ออยู่ในตอนกลางคืนนั้นเองส่วนโอวหยางเยี่ยนและลูกชายที่ติดตามมาท้ายสุดก็ถูกสลัดทิ้งโดยไม่เห็นแม้แต่เงาแล้วในตอนนี้!"กู่หรูหลง อย่างน้อยๆ แกก็เป็นถึงว่าที่มหาจอมยุทธ์ ทำไมช้าอย่างกับเต่าแบบนี้?""ขืนแกยังชักช้าอยู่ ฉันก็คงจะเบื่อจนหลับไปแล้วนะ""ด้วยความเร็วแบบนี้ แกยังคิดจะฆ่าฉันอีกงั้นเหรอ? กลับบ้านไปนอนฝันซะดีกว่า!"หลินเฟยตั้งใจชะลอความเร็ว และหันมาพูดเหน็บแนม"ไอ้หนุ่ม แกอย่าได้ชะล่าใจไปเลย แม้ว่าความเร็วของข้าจะสู้แกไม่ได