“บ้าเอ๊ย!”หลินเฟยอดไม่ได้ที่จะก่นด่าออกมา หลังจากวิ่งไปประมาณสี่ห้านาที ทางแยกสามทางก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าเขาหลินเฟยไม่รู้ว่าเครื่องตรวจจับนั่นอยู่ที่ทางแยกไหน ดังนั้นเขาจึงต้องหยุดและถาม“ไปทางไหนล่ะ?”“ฉันจะเดินนำ คุณตามหลัง แค่ตามฉันมาฉันจะพาคุณไปหาเครื่องตรวจจับ!”อลิซพูดพูดด้วยท่าทางราวกับกำลังหยอกล้อ เธอหอบหนักแล้ววิ่งไปที่ทางแยกตรงกลาง“เธอวิ่งช้าแล้วยังจะให้คนอื่นรออีกเหรอ?”หลินเฟยตะคอกอย่างเย็นชาก่อนจะพุ่งเข้าสู่ทางแยกตรงกลางความสามารถของอลิซที่วิ่งมานานเกือบจะถึงขีดจำกัดแล้ว!เธออยากวิ่งไปข้างหน้าเพียงเพราะเธออยากให้หลินเฟยตามหง แล้วหลิเฟยจะทำอะไรได้?เมื่อหลินเฟยวิ่งออกไปหลายสิบเมตร อลิซก็หยุดที่ทางเข้าถ้ำและเยาะเย้ย“อุ๊ยโทษทีนะ ฉันจำผิด เป็นทางเข้าด้านซ้ายต่างหาก!”หลังจากพูดจบ เธอก็ไม่ได้แยแสว่าเขาจะโมโหหรือไม่ แล้ววิ่งเข้าไปในแยกทางด้านซ้าย“ให้ตายสิ นี่เธอแกล้งผมอยุ่เหรอ!”หลินเฟยกัดฟันด้วยความโมโห แล้วหันหลังกลับติดตามอลิซอีกครั้งถึงแม้ว่าจะใช้แรงไม่มากเขาก็ตามอลิซมาจนทัน แต่การถูกแกล้งแบบนี้ทำให้หลินเฟยอยากจะตบเธอแรง ๆ สักที!หากล่าช้าอีกพักมนุษย์ฉลาม
หลินเฟยวางลู่หลีลง จากนั้นก็เข้าไปอุ้มอลิซพร้อมกับก่นด่าออกมา!"ไอ้เด็กสารเลวตะวันออก อย่ามาถูกตัวฉันนะ ฉันจะกัดแกให้ตายไปเลย!"อลิซถูกหลินเฟยอุ้มเอาไว้ โกรธจัดจนตัวสั่น พร้อมกับกัดไหล่ของหลินเฟยเอาไว้!แต่ใครจะรู้ว่า ไหล่ของหลินเฟยนั้นแข็งเกินไป!เธอรู้สึกเหมือนกำลังกัดแผ่นเหล็กอยู่ จนฟันแทบจะหักออกมา!จากนั้นเธอก็นึกขึ้นมาได้ว่า ร่างกายของหลินเฟยนั้นแข็งขนาดที่กระสุนทะลุไปไม่ได้ แล้วฟันจะกัดได้อย่างไร?เธอจึงไม่มีทางเลือก นอกจากจะให้หลินเฟยกอดตามอำเภอใจเท่านั้น"อย่าสนใจเธอเลย พวกเรารีบหนีไปก่อนเถอะ!"ลู่หลีคว้าแขนของหลินเฟยเอาไว้ จากนั้นทั้งสองก็เริ่มวิ่งเข้าไปในทางเดินของสุสานหลังจากวิ่งไปตามทางเดินเป็นเวลาสิบกว่านาที มันก็มีทางแยกสามทางเกิดขึ้นมาอีกครั้งทางเดินในสุสานนี้ดูเหมือนจะไม่มีที่สิ้นสุด ครั้งแล้วครั้งเล่า จนกระทั่งถึงตอนนี้ หลินเฟยก็ไม่รู้ว่าตัวเองได้วิ่งมาไกลแค่ไหนแล้ว!"แม่งเอ๊ย คุณกำลังหลอกพวกเราอีกครั้งแล้วใช่ไหม?"จู่ๆ หลินเฟยก็คิดว่าตัวเองได้กลับมาตำแหน่งเดิมอีกแล้ว เขาก็อดไม่ได้ที่จะตบไปที่บั้นท้ายของอลิซพร้อมกับถามขึ้นมา"ไม่ใช่นะ ครั้งนี้เดินไปตรงก
"แม่งเอ๊ย ฉันไม่กินเลือดของคุณหรอกนะ!"อลิซเบนหน้าหนีอย่างดื้อรั้น เพื่อหลบเลี่ยงนิ้วของหลินเฟยเพราะเธอรู้สึกว่ามันเป็นการดูหมิ่นที่ไม่สามารถอดทนเอาไว้ได้!"คุณคิดว่าผมอยากจะให้คุณกินเลือดของผมนักเหรอ? นี่คือสิ่งล้ำค่าเลยนะ ถ้าไม่มีทางเลือก เลือดสักหยดผมก็ไม่ให้คุณกินหรอก!"หลินเฟยไม่สนใจว่าเธอจะยอมหรือไม่ แต่เขากดศีรษะของเธอ และยัดนิ้วเข้าไปในปากของเธอเสียแล้ว"อืม..."อลิซทั้งอับอายทั้งสิ้นหวัง และก็พยายามดิ้นรนในตอนแรกแต่เมื่ออลิซได้ลิ้มรสความหอมหวานของเลือดสดๆ ของหลินเฟยแล้ว จู่ๆ เธอก็รู้สึกสบายไปทั้งตัว และความเหนื่อยล้าก็หายไปในทันที!ซึ่งรสชาตินั้นอร่อยกว่าเครื่องดื่มราคาแพงที่เธอเคยดื่มมาเสียอีก!"อึก อึก…" อลิซดูดตามสัญชาตญาณ และความแรงในการดูดนั้นก็แข็งแกร่งมาก ราวกับว่าจะดูดเลือดของหลินเฟยจนแห้งไปทั้งตัวอย่างไงอย่างงั้นและใบหน้าที่เดิมทีเต็มไปด้วยความต่อต้าน มันก็กลายมาเป็นความเพลิดเพลินออกมาแล้วลิ้นของเธอกดนิ้วมือของหลินเฟยเอาไว้อย่างเต็มแรง โดยต้องการบีบเลือดสดๆ นั้นเพิ่มออกมา"ยัยบ้า พอประมาณก็พอแล้ว กินให้มันน้อยๆ หน่อย!"หลินเฟยไม่อยากให้อลิซดื่มเลือดมา
อลิซเดินเข้าไปเป็นประตูหินทางทิศตะวันออกเฉียงใต้"ระวังผู้หญิงคนนี้เอาไว้ด้วยนะ คุณเดินตามผมมา"หลินเฟยลดเสียงพูดกับลู่หลีอย่างระมัดระวังจากนั้นพวกเขาก็เดินตามอลิซไป แล้วลัดเลาะไปตามเส้นทางของสุสานแต่ละแห่ง โดยไม่ได้เจอสัตว์ประหลาดที่น่ากลัวเลยตลอดทางซึ่งหลินเฟยก็สัมผัสได้ว่า พวกเขากำลังเดินขึ้นไปแล้วในตอนนี้โดยที่หลินเฟยยังได้ยินเสียงน้ำไหลออกมาอย่างคลุมเครืออีกด้วย"น่าจะออกไปได้แล้วมั้ง?"หลินเฟยคิดกับตัวเองในที่สุด หลังจากเดินออกจากทางเดินสุสานสุดท้ายแล้ว สิ่งที่ปรากฏตรงหน้าเขาคือถ้ำมืดที่อาจกว้างกว่าสิบเมตรเลยทีเดียวภายในถ้ำมีแม่น้ำใต้ดินที่ไหลผ่านอย่างไม่ขาดสาย โดยไม่รู้ว่ามันจะไปยังที่ไหน"มันเหมือนกับแม่น้ำใต้ดินที่เราพบในตอนที่เพิ่งจะเข้ามาในสุสานโบราณนี้เลยนะ…"หลินเฟยคาดเดาในจิตใจ"ตรงนี้ไม่มีทางเดินแล้ว พวกเราจะออกไปได้อย่างไร?"ลู่หลีถามอลิซด้วยความสงสัย"แม่น้ำใต้ดินสายนี้เชื่อมต่อไปยังด้านนอก กระโดดลงไป และเราก็จะออกไปได้แล้วล่ะ""แต่ฉันไม่แน่ใจว่า สถานที่ที่เราออกไปยังจะอยู่ในบริเวณอ่างเก็บน้ำได้หรือไม่"อลิซถือเครื่องตรวจจับเอาไว้ จ้องไปยังแม่น้ำใต
น้ำเสียงนั้นฟังดูเสียดแทงเอาเสียมากๆ และก็ยังมีความรู้สึกดีใจกับความทุกข์ของคนอื่นปะปนอยู่อีกด้วยพานเสี่ยวเหลียนและคนอื่นๆ หันกลับมามอง ครอบครัวของหลินชุ่ยที่กำลังวิ่งเข้ามา โดยที่ใบหน้าเต็มไปด้วยความยินดีกับความทุกข์ของคนอื่นซึ่งด้านหลัง ยังมีตาเฒ่าผมขาวโพลนคนหนึ่งที่สวมเสื้อกระดุมตะขาบ ซึ่งพลังเหนือกว่าคนธรรมดามากเขาคือจ้าวอู๋จี๋ ปรมาจารย์ศิลปะการต่อสู้ที่เซี่ยเฉวียนเชิญมา เพื่อพูดใส่ร้ายและสาดน้ำสกปรกให้กับหลินเฟยมากยิ่งขึ้นเดิมทีครอบครัวของหลินชุ่ยได้พาจ้าวอู๋จี๋มาเพื่อจัดการกับหลินเฟย แค่คิดไม่ถึงเลยว่า เมื่อมาถึงพวกเขาจะได้ยินว่าหลินเฟยเข้าไปในอ่างเก็บน้ำ และหายสาบสูญมานานสามวันแล้วและพวกเขาก็รีบวิ่งหน้าแจ๋นมาแบบนี้ระหว่างทาง พวกเขาได้ปรึกษาหารือกันเอาไว้แล้วว่า หลินเฟยหายสาบสูญไปสามวันแล้ว จะต้องตายอยู่ใต้อ่างเก็บน้ำนั้นอย่างแน่นอน!ถ้าอย่างนั้นเงินก้อนโตที่หลินเฟยได้ทิ้งเอาไว้ พวกเขาจะต้องคิดหาวิธีที่จะเอามาให้ได้อย่างแน่นอน!ถึงตอนนั้น พวกเขาก็จะแบ่งเงินส่วนหนึ่งให้กับจ้าวอู๋จี๋ โดยไม่ให้เขาต้องลงมาที่หมู่บ้านอย่างเสียเปล่า"พวกเธอมาทำอะไรที่นี่?""ที่นี่ไม่ต้อ
"เมื่อมีผมอยู่ที่นี่ พวกคุณอย่าได้ฝันหวานไปเลย!"โจวกั๋วเฟิงตะคอกออกมาด้วยความเกรี้ยวกราด"ใช่ รีบออกไปจากที่นี่เถอะ มันไม่ใช่ที่ที่พวกคุณควรอยู่!"จูเต๋อหมิงชักสีหน้าและพูดตะคอกออกมาพวกเขาต่างก็เป็นเจ้าหน้าที่สายตรวจที่เต็มไปด้วยประสบการณ์ แค่ดูก็รู้แล้วว่าพวกหลินชุ่ยต้องการที่จะเข้ามายึดทรัพย์สินเงินทองของหลินเฟยเท่านั้นเอง"คือว่า…"หลินชุ่ยและคนอื่นๆ ยังคิดที่จะตอบโต้ แต่กลับถูกโจวกั๋วเฟิงสั่งให้เจ้าหน้าที่สายตรวจเข้ามา และไล่ตะเพิดพวกเธอออกไปเสียแล้ว"ไม่ได้ พวกเราจะออกไปแบบนี้ไม่ได้นะ!""เราเฝ้าอยู่ที่นี่ก่อน เมื่อไหร่ที่หน่วยสายตรวจถอนกำลังออกไปแล้ว พวกเราก็ค่อยเข้าไปเอาเงิน!""ไม่ว่าจะต้องรอนานแค่ไหน ก็ต้องเอาเงินมาให้ได้!"ครอบครัวของหลินชุ่ย รวมถึงจ้าวอู๋จี๋รู้ดีว่า พวกเขาไม่สามารถทำให้สายตรวจขุ่นเคืองใจได้ ดังนั้นจึงทำได้เพียงเฝ้ารอไม่ไกลออกไปเท่านั้น"จริงด้วย เจ้าเด็กคนนั้นมีเงิน อย่างน้อยก็หลายสิบล้าน เอามันมาทั้งหมดเลย!"เซี่ยหยวนเฮ่าเริ่มจินตนาการถึงชีวิตความเป็นอยู่ที่แสนวิเศษหลังจากที่ได้เงินมาแล้ว!การเคลื่อนไหวนี้ มันได้อยู่ในสายตาของพานเสี่ยวเหลียนและ
"อึก อึก..."เหมือนเช่นเคย อลิซได้คว้านิ้วมือของหลินเฟยมาดูดอย่างรุนแรง และใช้ลิ้นบีบรัดเอาไว้ยิ่งดูดสีหน้าของเธอก็ยิ่งดูสบายและเคลิบเคลิ้มมากยิ่งขึ้น ราวกับคนติดยาอย่างไงอย่างงั้นโดยที่หลินเฟยเองก็ยังสงสัยว่า ในปากของเธอมีเครื่องดูดฝุ่นอยู่หรือไม่ เพราะมันรุนแรงจนแทบจะดูดนิ้วของเขาเข้าไปทั้งดุ้นเสียให้ได้เมื่อลู่หลีที่อยู่ข้างๆ มองเห็นอลิซที่ยิ่งดูดยิ่งเพลิดเพลินขึ้นมาเรื่อยๆ แบบนั้น สีหน้าของเธอก็บ่งบอกว่ารับไม่ได้เป็นอย่างยิ่งเพราะหลินเฟยเป็นผู้ชายของเธอ การได้เห็นผู้หญิงคนอื่นเลียนิ้วและกินเลือดของหลินเฟยแบบนี้แล้ว เธอจะรู้สึกยินดีก็คงแปลก"พอได้แล้วมั้ง? รีบไปกับเราเถอะ"หลินเฟยดึงนิ้วออกทันที โดยไม่ให้โอกาสเธอปฏิเสธแต่อย่างใด"เดี๋ยวค่อยไป ฉันขอไปฉี่ก่อน..."ทันทีที่เสียงเร่งเร้าของหลินเฟยได้ดังขึ้น อลิซก็กุมท้อง แสดงสีหน้าที่อดกลั้นเอาไว้อย่างเต็มที่"คุณคงไม่คิดจะใช้โอกาสนี้ในการหลบหนีหรอกใช่ไหม?"หลินเฟยหัวเราะเยาะ พร้อมกับพูดออกมา"ฉันปวดฉี่จริงๆ ถ้าคุณไม่วางใจ คุณก็ไปกับฉันก็ได้นะ"อลิซกะพริบตาโต และมองไปยังหลินเฟยด้วยท่าทางที่น่าสงสารเป็นอย่างยิ่งหลังจากถ
อลิซตอบกลับมาอย่างลำบากใจ ในขณะที่ตัวเองยังคงอยู่ในท่าการฉี่อยู่แบบนั้นซึ่งเธอก็ไม่ได้โกหกแต่อย่างใด แต่มันเป็นเพราะเธอถูกน้ำใต้ดินซัดไปมานานเกินไปจนเป็นตะคริวนั่นเองและการดื่มเลือดของหลินเฟยก็ไม่สามารถแก้ปัญหาในส่วนนี้ได้แต่ทว่าชุดชั้นในเจ้ากรรมกลับติดอยู่ที่ข้อพับของขา เมื่อเป็นตะคริว เธอก็ไม่สามารถดึงขึ้นมาได้แต่อย่างใดและเธอก็ทำได้เพียงปล่อยให้ลมพัดอยู่ตลอดเวลา จนรู้สึกหนาวสั่นขึ้นมาแล้ว"หลินเฟย ขาของเธอเป็นตะคริว เราจะทำอย่างไรดี?"เมื่อเห็นว่าอลิซดูเหมือนจะไม่โกหก ลู่หลีจึงถามหลินเฟยอย่างไม่มีทางเลือกมือขาวหยกของเธอยังคงปิดตาของหลินเฟยอยู่ตลอด โดยไม่ยอมปล่อยออกแต่อย่างใด"ตะคริวที่ขา...ตามปกติ หาตำแหน่งที่เป็นตะคริวให้เจอ และนวดสักพักก็จะหายแล้วล่ะ"หลินเฟยแสร้งทำเป็นว่ามองไม่เห็นอะไร พร้อมกับตอบกลับมา"ฉันทำไม่เป็น...ไม่อย่างนั้น คุณมาจัดการจะดีกว่านะ ฉันปิดตาคุณเอาไว้ คุณก็ไปช่วยเธอ"ลู่หลีคิดทบทวนอยู่สักพัก จากนั้นก็พูดอย่างประนีประนอมขึ้นมา"โอเค" หลินเฟยรู้สึกกังวลใจเล็กน้อย และรีบที่จะกลับไปยังหมู่บ้านและอลิซที่กำลังขาเป็นตะคริวนั้นเป็นภาระอย่างเห็นได้ชั
ท่ามกลางความสะลึมสะลือ ถังรั่วเสวี่ยก็สัมผัสได้ถึงมือใหญ่ที่อบอุ่นที่แสนจะคุ้นเคยคู่นั้นบนร่างกายของเธอ เป้าหมายของการลูบไล้นั้นชัดเจนเป็นอย่างมากด้วยสัมผัสที่แสนจะคุ้นเคยนี้ มันทำให้ถังรั่วเสวี่ยตื่นขึ้นมาจากความฝัน ทั้งโลภและหลงใหลเป็นอย่างมาก"เสี่ยวเฟย ไม่ได้นะ หยวนหยวนยังอยู่ที่นี่…"ท่ามกลางความมืดในยามราตรี ถังรั่วเสวี่ยมองไม่เห็นหลินเฟย แต่เธอสามารถสัมผัสได้ว่าเป็นหลินเฟยที่อยู่บนตัวเธออุณหภูมิที่ร้อนจัดทำให้ถังรั่วเสวี่ยหายใจถี่ๆ เธอโอบกอดหลินเฟยเอาไว้ และกระซิบเบาๆ ออกมาเดิมทีเธอยังคิดว่าหลินเฟยได้มาตอนกลางวันแล้ว ตอนกลางคืนเขาจะไม่มาเสียอีกคิดไม่ถึงเลยว่าหลินเฟยจะมาตอนดึกดื่นแบบนี้ได้ช่างเป็นหนุ่มน้อยที่บ้าคลั่งเสียจริงๆ..."ไม่เป็นไรหรอกครับอาเล็ก เธอหลับไปแล้ว ผมเบาๆ หน่อยก็โอเคแล้วล่ะ""อาเล็ก อาน้ำลายไหลแล้วนะ คงจะกระหายน่าดู ให้ผมช่วยดับกระหายให้นะ"หลินเฟยหัวเราะเบาๆ พร้อมกับเอื้อมมือไปถอดชุดแนบเนื้อของถังรั่วเสวี่ยออกแม้ว่าจะมืดสนิท แต่สำหรับหลินเฟยแล้ว มันไม่ต่างอะไรจากตอนกลางวันใบหน้าที่แดงระเรื่อ รวมไปถึงดวงตาที่พร่าเบลอของถังรั่วเสวี่ยมันยิ่
เพราะต้องการรู้ความลับของโลกซ่อนเร้นจากตัวของพวกเขานั่นเองผู้หญิงที่เป็นผู้นำมาจากตระกูลอาจารย์หยินหยางที่ได้รับความเคารพนับถือมากที่สุดจากทุกคนในประเทศซากุระ ตั้งแต่บุคคลสำคัญไปจนถึงชาวบ้าน!เชียนเย่เจียจื่อจากตระกูลเชียนเย่โดยที่ตัวเธอเองยังเป็นอาจารย์หยินหยางที่มีสถานะสูง ซึ่งสามารถควบคุมพลังของผีและเทพเจ้าได้!"แม้ว่าบางส่วนของร่างกายจะหายไป แต่เขาเต็มไปด้วยความโกรธแค้น เป็นวัตถุดิบในการปลุกศพได้ดีจริงๆ""พวกนายสองคนไปเอาตัวเขาขึ้นมา"เมื่อได้ยินสิ่งที่ผู้ชายที่อยู่ด้านหลังพูด เชียนเย่เจียจื่อก็หรี่ตาที่เรียวเล็ก พร้อมพูดด้วยน้ำเสียงที่ทรงเสน่ห์จากภายในออกมา"รับทราบรับ ท่านเชียนเย่!"ในไม่ช้า ชายทั้งสองก็ได้เดินลงไปช้อนร่างเจียงอู๋เซี่ยวขึ้นมาจากสระ พร้อมหามมาวางที่หน้าของเชียนเย่เจียจื่อ"ให้พวกนายไปตรวจสอบ ได้ความว่าอย่างไรแล้ว?"เชียนเย่เจียจื่อย่อตัวลง มองสำรวจไปยังร่างของเจียงอู๋เซี่ยวโดยไม่รู้สึกกลัวแต่อย่างใดดูเหมือนว่าเธอจะคุ้นเคยกับมันเป็นอย่างดี พร้อมกับถามโดยไม่เงยหน้าออกมา"ตรวจสอบเรียบร้อยแล้วครับท่านเชียนเย่ พรุ่งนี้เช้าสิบโมง ยอดเขาจิ่วหลงซาน พวกจอมยุ
"ในเมื่ออาจารย์ลุงเอ่ยปากออกมาแล้ว อู๋เซี่ยวจะกล้าขัดได้อย่างไรล่ะครับ?""ไม่รู้ว่าอาจารย์ลุงมีเรื่องอะไรที่รบกวนจิตใจอยู่ พูดให้อู๋เซี่ยวฟังหน่อยสิครับ ไม่แน่ว่าอู๋เซี่ยวอาจจะช่วยอาจารย์ลุงแก้ปัญหาได้"ตอนนี้เจียงอู๋เซี่ยวอยู่ในการคุ้มครองของคนอื่น และยังต้องการให้กู่หรูหลงพาเขากลับโลกซ่อนเร้นอีกต่างหากแน่นอนว่าเขาไม่กล้าที่จะปฏิเสธคำชวนของกู่หรูหลงอยู่แล้ว หลังจากที่ครุ่นคิดอยู่สักพัก เขาก็พูดขึ้นมาว่า"เอาไว้คุยกันตอนที่ออกไปนอกโรงแรมแล้ว ที่นี่หูตามันเยอะ เรื่องบางอย่างไม่สะดวกที่จะพูดในตอนนี้"กู่หรูหลงไม่ได้พูดอะไรออกมาสักคำ เขาหันหลังและนำทางอยู่ข้างหน้าเจียงอู๋เซี่ยวเดินตามกู่หรูหลงออกจากโรงแรม จนมาถึงเชิงเขาของจิ่วหลงซานโดยมีสระน้ำที่ลึกจนมองไม่เห็นก้นสระ"อาจารย์ลุงครับ ท่านได้ให้ศิษย์พี่ฮว่าและศิษย์พี่ฉางเล่อไปซื้อยามาให้หลานไม่ใช่เหรอครับ?""ทำไมสองวันมานี้ อู๋เซี่ยวถึงไม่ได้เจอศิษย์พี่ฮว่าและศิษย์พี่ฉางเล่อเลยล่ะครับ"เจียงอู๋เซี่ยวเป็นฝ่ายเอ่ยถามกู่หรูหลงก่อน"อ้อ ไอ้สองคนนั้นไม่รู้ว่าไปเถลไถลที่ไหนแล้ว นี่ก็สองวันแล้วยังไม่กลับมาเลย""วันนี้ข้าออกไปตามหาก็
"ผมจะเป็นอะไรไปได้ เสี่ยวหยู่คุณอย่าได้เป็นห่วงเลยนะ""วันนี้คุณออกไปทำงานทั้งวัน เหนื่อยหรือเปล่า?""อยากจะให้ผมบีบๆ นวดๆ ขาให้คุณไหมล่ะ?"เมื่อสัมผัสความเป็นห่วงที่เจียงเฉินหยู่มีต่อเขาหลินเฟยอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมาเขาดึงเจียงเฉินหยู่ไปนั่งบนเตียง พร้อมพูดเอาอกเอาใจ"เฮ้อ ฉันวิ่งวุ่นมาทั้งวัน แม้แต่ข้าวปลาก็ไม่ได้กิน คุณว่าฉันเหนื่อยหรือเปล่าล่ะ?""ถือว่าคุณยังมีจิตสำนึกอยู่ ยังรู้จักเป็นห่วงฉัน""เดี๋ยวตอนนวดคุณเบามือหน่อยนะ ฉันล่ะกลัวว่าคุณจะเผลอนวดจนไหล่ของฉันทรุดไปแล้วจริงๆ"เจียงเฉินหยู่พูดล้อเล่น พร้อมกับหันหลังให้กับหลินเฟย"แหะๆ โอเค รับรองว่าผมจะนวดเบาๆ!"หลินเฟยวิ่งไปล้างมือในห้องน้ำ และกลับมาอย่างรวดเร็วเขาวางมือบนไหล่ของเจียงเฉินหยู่และคลำไปจนถึงคอเสื้อของเธอจากนั้นก็เลื่อนไปตามผิวเรียบเนียนไร้ที่ติ พร้อมกับสอดลึกเข้าไป นวด บีบ และหยอกล้อและมันก็ทำให้เจียงเฉินหยู่คร่ำครวญออกมาอย่างทันที"อืม...คนผีทะเล ฉันเหนื่อยจะตายอยู่แล้วนะ""คุณยังคิดจะมาแกล้งฉันอีก ปล่อยเดี๋ยวนี้ อย่ามาเล่นมั่วๆ!"แต่ทว่ามือของหลินเฟยกลับเอาแต่ใจ พร้อมพูดด้วยรอยยิ้มที่ชั่วร้ายว่
"ทำได้ครับ สิ่งเหล่านี้มันเป็นเรื่องที่ง่ายมาก พวกเราสองปู่หลานทำได้อยู่แล้วครับ"กู่หรูหลงทำมือคารวะอย่างชาญฉลาดรวมไปถึงกู่เยว่อิ๋งที่ยืนกรานอย่างแข็งขันเมื่อครู่ที่ผ่านมา เธอก็ได้เปลี่ยนทัศนคติและพยักหน้าตอบรับอย่างถ่อมตัวในทันที"โอเค ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นพวกนายปู่หลานก็กลับไปที่โรงแรมจิ่วหลงซานก่อนเถอะ รอให้ถึงพรุ่งนี้เช้า""ฉันก็จะไปร่วมประลองจอมยุทธ์ด้วยตัวเอง ถึงตอนนั้น หากฉันมีอะไรให้รับใช้ ค่อยเรียกพวกนายปู่หลานก็แล้วกัน"หลินเฟยรำพันอยู่ในใจว่า 'คำสาบานโลหิต' นั้นมีประโยชน์แบบสุดๆ และในเวลาเดียวกัน เขาก็โบกมือเพื่อส่งสัญญาณให้กู่หรูหลงและกู่เยว่อิ๋งถอยออกไปเสียก่อนซึ่งก็เป็นเวลานี้ที่เขาได้ยินเสียงฝีเท้าที่รีบเร่งได้ดังแว่วมา และนั่นก็คือโอวหยางเยี่ยนและโอวหยางชงที่ได้วิ่งตามมานั่นเองเมื่อเห็นหลินเฟยไม่เป็นอะไรเลยแม้แต่น้อยตรงกันข้ามกับกู่หรูหลงที่จากไปโดยเสียแขนไปหนึ่งข้าง และดูแก่กว่าเดิมเป็นอย่างมากแม้แต่กู่เยว่อิ๋งที่เดิมตามหลังก็ก้มหน้าก้มตาราวกับถูกสูบวิญญาณไปอะไรแบบนั้นและนั่นก็ทำให้พวกเขาสองพ่อลูกตกตะลึงจนหน้าถอดสีเลยทีเดียว!"สหายน้อง หรือว่านายจะ
น้ำเสียงของหลินเฟยเผด็จการ และเร่งเร้าอย่างหงุดหงิดเต็มที่"คุณปู่คะ เราจะทำอย่างไรกันดี?""หนูอายุยังน้อย หนูยังไม่อยากตายนะคะคุณปู่ พี่เซียวเฟิงกำลังรอหนูอยู่นะคะ…""เพียงแต่ว่าคุณปู่ หากจะให้หนูยอมเป็นทาสรับใช้เขาแล้วละก็ งั้นหนูก็ยอมตายเสียดีกว่า!"กู่เยว่อิ๋งตื่นตระหนก เธอไม่สามารถตัดสินใจอะไรได้ พร้อมกับร้องไห้สะอึกสะอื้นกับกู่หรูหลง"เยว่อิ๋ง กระบวนท่าที่เจ้าเด็กนั่นใช้ ปู่ไม่เคยพบไม่เคยเห็นมาก่อน ปู่ก็ไร้หนทางด้วยเหมือนกัน""ปู่ก็ไม่อยากจะประนีประนอมเหมือนกัน แต่การมีชีวิตอยู่ ยังไงมันก็ดีกว่าตายเป็นไหนๆ""ยังไงพวกเราก็ยอมๆ ไปเถอะ อย่างแย่ที่สุดต่อไปก็ยังมีโอกาสหลบหนีกลับไปที่โลกซ่อนเร้น และไม่ต้องกลับมาเหยียบที่โลกปัจจุบันอีกก็ได้"และกู่หรูหลงที่เพิ่งจะสำเร็จว่าที่มหาจอมยุทธ์ได้เมื่อครู่ที่ผ่านมา อายุของเขาก็ได้ยืดออกไปกว่าห้าสิบปีแล้วซึ่งในอีกห้าสิบกว่าปีข้างหน้า ไม่แน่ว่าเขาอาจจะมีโอกาสสำเร็จขั้นมหาจอมยุทธ์ก็เป็นไปได้กู่หรูหลงยิ่งไม่อยากตายมากกว่าเดิม เขาลังเลอยู่สักพัก ในที่สุดก็ถอนหายใจหนักๆ ออกมา พร้อมกับกระซิบกับกู่เยว่อิ๋ง"ในเมื่อพวกแกยอมมาเป็นทาสฉัน งั้น
กู่หรูหลงร้องขอความเมตตาอย่างสุดใจ แต่ทว่าหลินเฟยกลับไม่มีความคิดที่จะปล่อยพวกเขาไปแต่อย่างใดล้างแค้นสิบปีก็ยังไม่สาย ความจริงที่แสนจะเรียบง่ายนี้ หลินเฟยยังคงเข้าใจได้ดีแต่อย่างไรก็ตาม หลินเฟยไม่ได้เป็นปีศาจหรือฆาตกร ให้เขาฆ่ากู่หรูหลงและกู่เยว่อิ๋ง เขาก็ทำไม่ได้ด้วยเช่นกัน"พี่สาว งั้นพี่ก็ดูดกำลังภายในของเขาให้หมดสิ้น แล้วผมจะให้ผู้อำนวยการโม่ขังพวกเขาไปตลอดชีวิตก็แล้วกัน"ท้ายที่สุด หลินเฟยก็ถอนหายใจ และพูดตัดสินใจออกมา"ไม่ต้องหรอก คนคนนี้เจ้าโจมตีด้วยตัวเอง""เจ้าก็เก็บเอาไว้เป็นทาสเถอะ""ต่อไปหากพบจอมยุทธ์โบราณที่แข็งแกร่งจริงๆ ถึงตอนนั้นข้าค่อยดูดพลังลมปราณก็ยังไม่สาย""อีกอย่าง ขอแค่เจ้าควบคุมเขาได้ เจ้าก็สามารถสั่งให้เขาไปตามหาหินวิญญาณและหญ้าวิญญาณในโลกซ่อนเร้นได้ แบบนี้จะทำให้เจ้าสามารถบรรลุข้อตกลงกับข้าได้เร็วขึ้นด้วย"สิ่งที่ทำให้หลินเฟยคิดไม่ถึงก็คือ หลงอู่ได้ให้คำตอบแบบนี้ออกมาและในน้ำเสียงนั้น ยังมีการชื่นชมปะปนอยู่ด้วย"ให้ผมรับไว้เป็นทาส? ผมไม่ได้มีบุญคุณกับพวกเขาเหมือนกับโอวหยางเยี่ยนและลูกชายแบบนั้น มีแต่ความแค้นล้วนๆ เลยก็ว่าได้""แล้วพวกเขาจะยอมมาเ
สิ่งนี้ทำให้เขารู้สึกหงุดหงิดและเดือดดาลแบบสุดๆ ในขณะเดียวกัน เขาก็รู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาเรื่อยๆ แล้วในตอนนี้!เพราะวิธีการของหลินเฟย เขาไม่เคยได้พบเห็นมาก่อน!"คุณปู่ คุณปู่รีบถอดเสื้อมาดับไฟเร็วเข้า!"กู่เยว่อิ๋งก็ตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน พร้อมตะโกนเตือนเสียงดังออกไปทันที"ไม่ต้องหรอก ปู่มีวิธีของตัวเอง"กู่หรูหลงถ่ายเทพลังงานลงในแขนที่กำลังลุกไหม้ จากนั้นก็กระทืบเท้าลงไปที่พื้นอย่างเต็มแรงแปร๊ะ แปร๊ะ!แต่ทว่า หลังจากที่กู่หรูหลงได้ดึงแขนออกมา เปลวไฟดวงนั้นก็ยังคงไม่มีทีท่าว่าจะมอดลงไปแต่อย่างใด!กู่หรูหลงถอดเสื้อออก และเปลวไฟก็ไหม้แขนของเขาจนเลือดและเนื้อผสมปนเปกันไปหมด!เมื่อเห็นว่าอีกไม่นาน แขนของเขาก็คงจะไหม้ไปเสียทั้งหมดแล้ว!กู่หรูหลงก็ทำได้เพียงอดกลั้นต่อความเจ็บปวด พร้อมกับดึงมีดออกมาตัดแขนข้างขวาของตัวเองออกไปทั้งหมด!เพราะไม่อย่างนั้นแล้ว เปลวไฟที่แปลกประหลาดนี้ก็จะลามไปทั่วตัวและเผาเขาให้ตายทั้งเป็นอย่างแน่นอน!"ไอ้สารเลว ไอ้เด็กเมื่อวานซืน นี่จริงแกก็ออกมาประจันหน้ากับข้าเลยสิ!""ข้าจะสับแกเป็นชิ้นๆ อย่างแน่นอน!"กู่หรูหลงกุมบาดแผลที่เกิดจากกา
ในขณะนี้ เวลาก็ได้ล่วงเลยมาสองทุ่มกว่าๆ แล้ว ท้องฟ้าไร้ซึ่งดวงจันทร์มีดวงดาวเพียงไม่กี่ดวงที่ส่องแสงกะพริบจางๆ ออกมาภายในภูเขาชิงซาน เมื่อความมืดได้คืบคลานเข้ามา มันจึงทำให้บรรยากาศดูมืดมิดมากยิ่งขึ้นแต่ทว่าความเร็วของหลินเฟยยังไม่ได้ลดลงแต่อย่างใด เขาสามารถหลบหลีกหินที่นูนสูงเหล่านั้นได้อย่างคล่องแคล่วความมืดในยามค่ำคืน ไม่ได้ทำให้ความสามารถในการใช้ตาทิพย์ของเขาลดลงแต่อย่างใดหลินเฟยหันกลับไปมอง และพบว่ากู่หรูหลงไม่ได้เร็วเท่ากับตอนแรกอีกต่อไปหลินเฟยรู้ดีว่า นั่นไม่ใช่เพราะกู่หรูหลงเหนื่อยล้า แต่เป็นเพราะความสามารถในการมองเห็นของกู่หรูหลงลดลงเมื่ออยู่ในตอนกลางคืนนั้นเองส่วนโอวหยางเยี่ยนและลูกชายที่ติดตามมาท้ายสุดก็ถูกสลัดทิ้งโดยไม่เห็นแม้แต่เงาแล้วในตอนนี้!"กู่หรูหลง อย่างน้อยๆ แกก็เป็นถึงว่าที่มหาจอมยุทธ์ ทำไมช้าอย่างกับเต่าแบบนี้?""ขืนแกยังชักช้าอยู่ ฉันก็คงจะเบื่อจนหลับไปแล้วนะ""ด้วยความเร็วแบบนี้ แกยังคิดจะฆ่าฉันอีกงั้นเหรอ? กลับบ้านไปนอนฝันซะดีกว่า!"หลินเฟยตั้งใจชะลอความเร็ว และหันมาพูดเหน็บแนม"ไอ้หนุ่ม แกอย่าได้ชะล่าใจไปเลย แม้ว่าความเร็วของข้าจะสู้แกไม่ได