เขาดันท่อนเอ็นจนจมมิดตั้งหลายครั้ง จางซินเยว่ตัวสั่นอย่างแรงจนแน่นิ่งไปผลปรากฏว่า จางซินเยว่น้ำลายฟูมปาก ทนไม่ไหวและยอมแพ้ไปก่อน“ซินเยว่ที่รัก เธอพักอยู่ที่ไหน ฉันไปส่งเธอ ฉันก็ควรจะกลับบ้านแล้ว”หลังจากคลอเคลียกันอยู่ครู่หนึ่ง ทั้งสองก็สวมเสื้อผ้า หลินเฟยเป็นฝ่ายเอ่ยปากพูดขึ้นก่อน“หมู่บ้านซีเหอ นายไปส่งฉันที่หน้าหมู่บ้านก็พอ ฉันซื้อบ้านแยกต่างหากที่นั่น……”“นี่คือกุญแจบ้านของฉัน ถ้านายร้อนในไม่มีที่ให้ปลดปล่อย นายก็ขับรถมาหาดับความร้อนที่ฉัน”จางซินเยว่ทั้งเหนื่อยล้าและพึงพอใจจากนั้นก็พูดอย่างเขินอายนี่ไม่ใช่การพูดเป็นนัย แต่เป็นการแสดงออกชัดเจน“ฮ่าฮ่า ได้เลย!”หลินเฟยรับกุญแจมาแล้วใส่ไว้ในกางเกงอย่างสบายใจจากนั้นก็ไปส่งจางซินเยว่ถึงที่หมู่บ้าน ตามเส้นทางที่เธอบอกหลินเฟยก็ขับรถกลับไปที่หมู่บ้านเถาฮวาหนึ่งชั่วโมงต่อมาหลินเฟยกลับมาถึงหมู่บ้านเถาฮวา เขาไปดูสถานการณ์ที่บ้านหลังเก่าก่อนตอนนี้ท้องฟ้ามืดมากแล้วทีมก่อสร้างที่หลิ่วจือจินกลับไปแล้ว แต่บ้านหลังเก่าถูกพวกเขาจัดการจนมองไม่เห็นแล้วมีการขุดร่องในดินเพื่อเตรียมการก่อสร้างฐานราก“พรุ่งนี้ค่อยมาดูก็ได้แล้ว”
“ชิ ฉันไม่ได้ตาบอดสักหน่อย นายยอดเยี่ยมมากต่างหาก”จ้าวลู่ลู่ถูกหลินเฟยพูดจาซี้ซั้ว และก็ขจัดความสงสัยในใจไปได้มาก“งั้นนายบอกว่านายคิดถึงฉันตอนปลดปล่อย นายพูดมาสิ นายคิดถึงฉันตรงไหน?”จ้าวลู่ลู่จับพลัดจับผลูถามขึ้นมากะทันหัน“แน่นอนว่าคิดถึงหน้าอกของพี่ คิดถึงก้นของพี่ คิดถึงลิ้นของพี่ คิดถึงบ่อน้ำพุเล็ก ๆ ของพี่……”หลินเฟยเห็นจ้าวลู่ลู่ไม่ได้โกรธแล้ว จึงถือโอกาสโอบกอดเข้ามา แล้วหอมอย่างบ้าคลั่ง“คนโรคจิต!”“ฉันรู้แล้วว่าในปากของนายไม่มีคำพูดดี ๆ อะไร!”คำพูดของหลินเฟยโจ่งแจ้งเกินไป จ้าวลู่ลู่ทั้งเขินอายทั้งชื่นใจ จากนั้นก็ต่อยหลินเฟยเบา ๆ ในที่สุดก็ไม่จี้ถามหลินเฟยเรื่องน้ำลักแล้ว“เอาเถอะพี่ลู่ลู่ ผมไม่ล้อเล่นกับพี่แล้ว ดึกมากแล้ว ผมไปส่งพี่กลับไปนอนเถอะ”หลินเฟยรู้สึกโล่งอก“คืนนี้ฉันไม่กลับไปแล้ว นอนกับนายที่คลินิกได้ไหม?”จ้าวลู่ลู่สีหน้าออดอ้อนพูดขึ้น“ตรงนั้นของพี่บวมอยู่ไม่ใช่เหรอ กลับไปพักผ่อนไม่ดีเหรอ”“พี่อยู่ที่นี่ไม่กลัวว่าฉันจะทำให้พี่บวมอีกเหรอ?”หลินเฟยถามอย่างกลัดกลุ้ม“อย่าพูดมาก”“เมื่อวานฉันบอกนายแล้วไม่ใช่เหรอ วันพรุ่งนี้ฉันไปร่วมงานเลี้ยงรุ่นที
“ผมไปนอนถูไถในรถสักคืนก็ได้”“คลินิกนี้ไม่เหมือนกับบ้านเก่า ไม่น่าจะมีผี พวกน้าวางใจนอนเถอะ”หลินเฟยพูดจบก็หันหลังเดินออกจากคลินิกแล้วปิดประตูคลินิก“หลินเฟยนายรีบมาที่เบาะหลัง ในนี้พื้นที่กว้างมาก เพียงพอให้พวกเราสองคนนอน”“นายนอนด้านล่าง ฉันนอนด้านบน นายนอนกอดฉัน!”เห็นหลินเฟยออกมา จ้าวลู่ลู่เปิดประตูรถออกด้วยความดีใจ“ได้ แต่พวกเราอีกเดี๋ยวค่อยนอน”“ให้ผมถูไถพี่ก่อน”หลินเฟยก้มตัวมุดเข้ามาในรถ จากนั้นก็ปิดประตูลงเป็นเพราะจ้าวลู่ลู่ ทำให้นอนกอดถังรั่วเสวี่ยกับพานเสี่ยวเหลียนไม่ได้ หลินเฟยยังรู้สึกโมโหอยู่เล็กน้อยต่อให้จ้าวลู่ลู่ตรงนั้นบวม เขาก็คิดที่จะให้จ้าวลู่ลู่ลูบปืน!“ว้าย ไอ้บ้าหลินเฟยฉันรู้อยู่แล้วว่านายไม่มีทางคิดดี!”“ปล่อยฉันให้ฉันกลับบ้าน!”จ้าวลู่ลู่เริ่มเสียใจแล้ว จากนั้นเปิดประตูรถอยากจะหนีไป“พี่อยากอยู่ที่นี่เอง ตอนนี้อยากกลับบ้าน?”“สายไปแล้ว!”หลินเฟยจับเอาไว้ จากนั้นดึงกระโปรงของจ้าวลู่ลู่ออก เผยให้เห็นบั้นท้ายใหญ่ ๆ อวบอิ่มและขาวนวล…………และขณะเดียวกันภายในคลินิกถังรั่วเสวี่ยกับพานเสี่ยวเหลียนนอนลงบนเตียงเดียวกัน ผู้หญิงสองคนพลิกตัวไปมานอน
ครึน!หลังจากได้ยินคำพูดเหล่านั้นของพานเสี่ยวเหลียนแล้วในชั่วพริบตาเดียว ถังรั่วเสวี่ยก็รู้สึกราวกับว่าท้องฟ้ากำลังจะถล่มลงมา!"เสี่ยว...เสี่ยวเหลียน เธอไปนอนกับเสี่ยวเฟยตั้งแต่เมื่อไหร่?""เธอไม่ได้ล้อฉันเล่นใช่ไหม?"ถังรั่วเสวี่ยตัวแข็งทื่อในทันที กระทั่งน้ำเสียงก็สั่นเครือไปหมด!ไม่มีทางที่เธอจะยอมรับเรื่องแบบนี้ได้!"เรื่องมันเกิดมาตั้งนานแล้วค่ะ เป็นเพราะฉันเองที่ไปหลอกล่อเสี่ยวเฟย…"พานเสี่ยวเหลียนก็หลั่งน้ำตาออกมาด้วยเช่นกัน และขอร้องถังรั่วเสวี่ยขณะที่ร้องไห้ว่า"อาเล็กคะ เสี่ยวเฟยเป็นเด็กที่ดี เป็นเพราะฉันเองที่สารเลว คุณอย่าได้โทษเขาเลยนะคะ!""ฉันไม่ได้โทษใคร แต่...แต่เธอเป็นม่าย เธอจะนอนกับเสี่ยวเฟยได้อย่างไร?""หรือว่าเธอไม่เคยคิดถึงผลที่จะตามมาเลยเหรอ?"ถังรั่วเสวี่ยตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นจึงยอมรับความจริงด้วยความยากลำบากแต่ก็ยากเหลือเกินที่เธอจะข่มอารมณ์เสียใจเอาไว้ได้ และน้ำเสียงก็ดังขึ้นมาหลายระดับ!ไม่เป็นไรหากหลินเฟยและจ้าวลู่ลู่จะนอนด้วยกัน เพราะยังไงเสียก็ถือว่าพวกเขานั้นถูกครรลองคลองธรรม!แต่หลินเฟยกลับแอบไปนอนกับพานเสี่ยวเหลียนแม่ม่ายคนนี้โดย
"แต่เมื่อหลินเฟยแต่งงานแล้ว คุณวางแผนที่จะจัดการความสัมพันธ์ระหว่างคุณและเสี่ยวเฟยแบบไหนหรือคะ?""ฉัน...ฉัน..." ถังรั่วเสวี่ยไม่รู้จะตอบอย่างไรอยู่ครู่หนึ่งไม่ว่าจะเมื่อไหร่ก็ตาม หากให้เธอต้องแยกจากหลินเฟยไป เธอไม่ตอบตกลงอย่างเด็ดขาด"คุณดูสิ พวกเราแตกต่างกันตรงไหน?""คุณเองก็ไม่อยากจะจากเสี่ยวเฟยไป ฉันก็ไม่อยากจะทิ้งเสี่ยวเฟยเอาไว้เหมือนกันนะคะ"พานเสี่ยวเหลียนเช็ดน้ำตา และพูดว่า"แต่ทว่า มันก็แค่สามารถบอกได้ว่า เราต่างก็ได้ทำเรื่องที่ไม่เหมาะไม่ควรลงไปแล้ว พวกเราผิดด้วยกันทั้งนั้น...""คงจะดีไม่น้อยถ้าฉันไม่ใช่อาเล็กของเสี่ยวเฟย เด็กคนนี้ชอบฉันเป็นที่สุด เขาต้องตามไล่จีบฉันเป็นคนแรก และไม่ใช่ยัยเด็กลู่ลู่คนนั้น""เมื่อเสี่ยวเฟยและลู่ลู่แต่งงานกัน ฉัน...ฉันควรทำอย่างไรดี?"เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ ถังรั่วเสวี่ยก็รู้สึกโศกเศร้าเอาเสียมากๆ"อาเล็กคะ คุณอย่าได้กังวลเกินไปเลย พวกคุณไม่มีความสัมพันธ์กันทางสายเลือดสักหน่อย การอยู่ด้วยกันมันก็ไม่ผิดอะไรเลย""ยิ่งไปกว่านั้น เสี่ยวเฟยเด็กคนนั้นก็ชอบคุณมากขนาดนี้""เขาว่ากันว่าชีวิตมันสั้น ในฐานะผู้หญิง อะไรทำให้เรามีความสุขที่สุด?""ม
พอพูดจบ จ้าวลู่ลู่ก็กัดไหล่ของหลินเฟยอย่างโกรธๆแต่ทว่าในตอนนี้ เธอไม่มีเรี่ยวแรงอะไรมากนัก และการกัดนั้นก็ไม่ได้ทำให้หลินเฟยรู้สึกเจ็บแต่อย่างใดแต่เมื่อริมฝีปากที่นุ่มและลื่นสัมผัสไปโดนไหล่ของหลินเฟยนั้น มันยิ่งทำให้เขาฮึกเหิมในการต่อสู้มากยิ่งขึ้น"อุ๊ย ทำไมผมถึงไม่ใช่คนแล้วล่ะ?""พี่ลู่ลู่ คุณจะใจร้ายแบบนี้ไม่ได้นะ""ผมปลุกคุณขึ้นมา ก็เพราะอยากจะให้คุณสัมผัสถึงความสุขไง ไม่อย่างนั้นแล้ว ผมจะพยายามปลุกคุณขึ้นมาทำไมกัน?""คุณ...คุณยังมีเหตุผลอยู่อีกเหรอ?""ฉันว่า คุณแค่สนใจอารมณ์ความสุขของตัวเองเท่านั้น ไม่เคยคิดถึงความเป็นความตายของฉันหรอกนะ!"จ้าวลู่ลู่เตะขาที่เรียวยาวไปอย่างสะเปะสะปะ แต่ก็กลับถูกฝ่ามือใหญ่ของหลินเฟยรวบเอาไว้เสียก่อน!"พี่ลู่ลู่ คุณพูดออกมาเลยว่าคุณมีความสุขหรือเปล่า?""ไม่ หลินเฟย ฉันผิดไปแล้ว ฉันขอร้องล่ะ ได้โปรดไว้ชีวิตฉันด้วย!"……การต่อสู้สับเปลี่ยนหมุนเวียนไป และดวงดาวก็ยังกระจ่างอยู่บนท้องฟ้าในช่วงพริบตาเดียวระยะเวลาก็ได้ผ่านไปค่อนคืนแล้วเมื่อเห็นท่าทางที่เหนื่อยล้าของจ้าวลู่ลู่ หลินเฟยก็กอดเธอเอาไว้แน่นด้วยความพึงพอใจ และในที่สุดก็เริ่มพัก
หลังจากจัดการกับมื้ออาหารง่ายๆ นี้แล้วหลินเฟยทักทายและบอกถังรั่วเสวี่ยและพานเสี่ยวเหลียนว่าจะพาจ้าวลู่ลู่ไปงานปาร์ตี้ด้วยกันในเมือง จากนั้นเขาก็ได้ขับรถออกจากหมู่บ้านเถาฮวาไป"ช่วงนี้เสี่ยวเฟยยุ่งมากขึ้นเรื่อยแล้วนะ แทบจะเข้าไปในเมืองทุกวันเลย…""เฮ้อ นี่ก็คงจะไปเป็นวันอย่างแน่นอน"เมื่อมองเห็นรถยนต์ของหลินเฟยได้ขับออกไปไกลแบบนี้ถังรั่วเสวี่ยและพานเสี่ยวเหลียนก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกไม่พอใจขึ้นมาหากไม่มีหลินเฟยอยู่เคียงข้าง พวกเธอก็ต้องอยู่กันอย่างทุกข์ทรมานอย่างแน่นอน!……ประมาณหนึ่งชั่วโมงต่อมา หลินเฟยก็พาจ้าวลู่ลู่เดินทางมาถึงในเมืองแล้วหลินเฟยเคยพูดเอาไว้แล้วว่าจะพาจ้าวลู่ลู่ไปซื้อเสื้อผ้าเสียก่อน แต่จ้าวลู่ลู่ไม่ยอมให้หลินเฟยฟุ่มเฟือยอย่างเด็ดขาดไม่มีทางเลือกอื่น หลินเฟยก็ไม่สามารถดึงจ้าวลู่ลู่ไปแบบบังคับได้ และทำได้แต่ตามจ้าวลู่ลู่ไปงานปาร์ตี้เพื่อนร่วมชั้นของเธอก่อนเสียเท่านั้นสถานที่จัดงานได้เลือกโรงแรมที่ตกแต่งค่อนข้างจะดีแห่งหนึ่งและมันก็ถูกเรียกว่า ตึกทิงอวี่นั่นเองอย่างไรก็ตาม ธุรกิจของโรงแรมแห่งนี้เฟื่องฟูมากจนหลินเฟยมองไปรอบๆ แต่ไม่พบที่จอดรถหน้าโรงแรมแต
"ไม่อย่างนั้น ฉันก็ไม่เชื่อเหมือนกัน""เธอคบอยู่กับใคร เดี๋ยวพวกนายดูกันเอาเองก็รู้แล้วไม่ใช่เหรอ?"อู๋เมิ่งเมิ่งเป็นหัวหน้าชั้นที่จ้าวลู่ลู่ได้พูดถึง เธอแต่งตัวน่ารักใสๆ ดูแล้วไม่มีพิษมีภัยแต่อย่างใดเธอและจ้าวลู่ลู่อาศัยอยู่ในหอพักเดียวกัน และในความเห็นของจ้าวลู่ลู่ ความสัมพันธ์ของพวกเธอนั้นค่อนข้างจะดีเลยทีเดียว"ช่วงเวลาปิดเทอมฤดูร้อน เธอก็อยู่ที่หมู่บ้านโทรมๆ นั้นมาโดยตลอด แล้วจะไปหาแฟนได้จากที่ไหนล่ะ?""บางทีใครเขาอาจจะรู้ว่าพี่เฮ่าและคนอื่นๆ จะมางานปาร์ตี้ ก็เลยหาคนมาเป็นโล่บังเอาไว้ก็ได้นะ"ถัดจากอู๋เมิ่งเมิ่ง คือเหอเชี่ยนเชี่ยนนักศึกษาที่ย้อมผมสีม่วง แต่งตัวน่ารัก เธอกอดอกพร้อมกับพูดขึ้นมาว่า"แม่งเอ๊ย ฉันไม่สนใจหรอกนะว่าเธอจะหาโล่มาบังหรือเปล่า ผู้หญิงที่จ้าวเฮ่าชอบ ต่อให้จะไม่ตอบรับ ก็ต้องนอนด้วยถึงจะโอเค!""เมื่อเธอมาแล้ว พวกเธอก็ช่วยมอมเหล้าเธอให้เมาหน่อยก็แล้ว!""วันนี้ฉันจะจัดการกับเธอหนักๆ จัดการจนเละเทะไปเลย!""ใครให้เธอเสแสร้งทำเป็นไร้เดียงสาอย่างนั้น!"จ้าวเฮ่าขว้างก้นบุหรี่ในมือออกไป แล้วเหยียบมันอย่างแรงใต้ฝ่าเท้าของเขาในความเป็นจริงแล้ว เขาเป็นคนที่ริ
ท่ามกลางความสะลึมสะลือ ถังรั่วเสวี่ยก็สัมผัสได้ถึงมือใหญ่ที่อบอุ่นที่แสนจะคุ้นเคยคู่นั้นบนร่างกายของเธอ เป้าหมายของการลูบไล้นั้นชัดเจนเป็นอย่างมากด้วยสัมผัสที่แสนจะคุ้นเคยนี้ มันทำให้ถังรั่วเสวี่ยตื่นขึ้นมาจากความฝัน ทั้งโลภและหลงใหลเป็นอย่างมาก"เสี่ยวเฟย ไม่ได้นะ หยวนหยวนยังอยู่ที่นี่…"ท่ามกลางความมืดในยามราตรี ถังรั่วเสวี่ยมองไม่เห็นหลินเฟย แต่เธอสามารถสัมผัสได้ว่าเป็นหลินเฟยที่อยู่บนตัวเธออุณหภูมิที่ร้อนจัดทำให้ถังรั่วเสวี่ยหายใจถี่ๆ เธอโอบกอดหลินเฟยเอาไว้ และกระซิบเบาๆ ออกมาเดิมทีเธอยังคิดว่าหลินเฟยได้มาตอนกลางวันแล้ว ตอนกลางคืนเขาจะไม่มาเสียอีกคิดไม่ถึงเลยว่าหลินเฟยจะมาตอนดึกดื่นแบบนี้ได้ช่างเป็นหนุ่มน้อยที่บ้าคลั่งเสียจริงๆ..."ไม่เป็นไรหรอกครับอาเล็ก เธอหลับไปแล้ว ผมเบาๆ หน่อยก็โอเคแล้วล่ะ""อาเล็ก อาน้ำลายไหลแล้วนะ คงจะกระหายน่าดู ให้ผมช่วยดับกระหายให้นะ"หลินเฟยหัวเราะเบาๆ พร้อมกับเอื้อมมือไปถอดชุดแนบเนื้อของถังรั่วเสวี่ยออกแม้ว่าจะมืดสนิท แต่สำหรับหลินเฟยแล้ว มันไม่ต่างอะไรจากตอนกลางวันใบหน้าที่แดงระเรื่อ รวมไปถึงดวงตาที่พร่าเบลอของถังรั่วเสวี่ยมันยิ่
เพราะต้องการรู้ความลับของโลกซ่อนเร้นจากตัวของพวกเขานั่นเองผู้หญิงที่เป็นผู้นำมาจากตระกูลอาจารย์หยินหยางที่ได้รับความเคารพนับถือมากที่สุดจากทุกคนในประเทศซากุระ ตั้งแต่บุคคลสำคัญไปจนถึงชาวบ้าน!เชียนเย่เจียจื่อจากตระกูลเชียนเย่โดยที่ตัวเธอเองยังเป็นอาจารย์หยินหยางที่มีสถานะสูง ซึ่งสามารถควบคุมพลังของผีและเทพเจ้าได้!"แม้ว่าบางส่วนของร่างกายจะหายไป แต่เขาเต็มไปด้วยความโกรธแค้น เป็นวัตถุดิบในการปลุกศพได้ดีจริงๆ""พวกนายสองคนไปเอาตัวเขาขึ้นมา"เมื่อได้ยินสิ่งที่ผู้ชายที่อยู่ด้านหลังพูด เชียนเย่เจียจื่อก็หรี่ตาที่เรียวเล็ก พร้อมพูดด้วยน้ำเสียงที่ทรงเสน่ห์จากภายในออกมา"รับทราบรับ ท่านเชียนเย่!"ในไม่ช้า ชายทั้งสองก็ได้เดินลงไปช้อนร่างเจียงอู๋เซี่ยวขึ้นมาจากสระ พร้อมหามมาวางที่หน้าของเชียนเย่เจียจื่อ"ให้พวกนายไปตรวจสอบ ได้ความว่าอย่างไรแล้ว?"เชียนเย่เจียจื่อย่อตัวลง มองสำรวจไปยังร่างของเจียงอู๋เซี่ยวโดยไม่รู้สึกกลัวแต่อย่างใดดูเหมือนว่าเธอจะคุ้นเคยกับมันเป็นอย่างดี พร้อมกับถามโดยไม่เงยหน้าออกมา"ตรวจสอบเรียบร้อยแล้วครับท่านเชียนเย่ พรุ่งนี้เช้าสิบโมง ยอดเขาจิ่วหลงซาน พวกจอมยุ
"ในเมื่ออาจารย์ลุงเอ่ยปากออกมาแล้ว อู๋เซี่ยวจะกล้าขัดได้อย่างไรล่ะครับ?""ไม่รู้ว่าอาจารย์ลุงมีเรื่องอะไรที่รบกวนจิตใจอยู่ พูดให้อู๋เซี่ยวฟังหน่อยสิครับ ไม่แน่ว่าอู๋เซี่ยวอาจจะช่วยอาจารย์ลุงแก้ปัญหาได้"ตอนนี้เจียงอู๋เซี่ยวอยู่ในการคุ้มครองของคนอื่น และยังต้องการให้กู่หรูหลงพาเขากลับโลกซ่อนเร้นอีกต่างหากแน่นอนว่าเขาไม่กล้าที่จะปฏิเสธคำชวนของกู่หรูหลงอยู่แล้ว หลังจากที่ครุ่นคิดอยู่สักพัก เขาก็พูดขึ้นมาว่า"เอาไว้คุยกันตอนที่ออกไปนอกโรงแรมแล้ว ที่นี่หูตามันเยอะ เรื่องบางอย่างไม่สะดวกที่จะพูดในตอนนี้"กู่หรูหลงไม่ได้พูดอะไรออกมาสักคำ เขาหันหลังและนำทางอยู่ข้างหน้าเจียงอู๋เซี่ยวเดินตามกู่หรูหลงออกจากโรงแรม จนมาถึงเชิงเขาของจิ่วหลงซานโดยมีสระน้ำที่ลึกจนมองไม่เห็นก้นสระ"อาจารย์ลุงครับ ท่านได้ให้ศิษย์พี่ฮว่าและศิษย์พี่ฉางเล่อไปซื้อยามาให้หลานไม่ใช่เหรอครับ?""ทำไมสองวันมานี้ อู๋เซี่ยวถึงไม่ได้เจอศิษย์พี่ฮว่าและศิษย์พี่ฉางเล่อเลยล่ะครับ"เจียงอู๋เซี่ยวเป็นฝ่ายเอ่ยถามกู่หรูหลงก่อน"อ้อ ไอ้สองคนนั้นไม่รู้ว่าไปเถลไถลที่ไหนแล้ว นี่ก็สองวันแล้วยังไม่กลับมาเลย""วันนี้ข้าออกไปตามหาก็
"ผมจะเป็นอะไรไปได้ เสี่ยวหยู่คุณอย่าได้เป็นห่วงเลยนะ""วันนี้คุณออกไปทำงานทั้งวัน เหนื่อยหรือเปล่า?""อยากจะให้ผมบีบๆ นวดๆ ขาให้คุณไหมล่ะ?"เมื่อสัมผัสความเป็นห่วงที่เจียงเฉินหยู่มีต่อเขาหลินเฟยอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมาเขาดึงเจียงเฉินหยู่ไปนั่งบนเตียง พร้อมพูดเอาอกเอาใจ"เฮ้อ ฉันวิ่งวุ่นมาทั้งวัน แม้แต่ข้าวปลาก็ไม่ได้กิน คุณว่าฉันเหนื่อยหรือเปล่าล่ะ?""ถือว่าคุณยังมีจิตสำนึกอยู่ ยังรู้จักเป็นห่วงฉัน""เดี๋ยวตอนนวดคุณเบามือหน่อยนะ ฉันล่ะกลัวว่าคุณจะเผลอนวดจนไหล่ของฉันทรุดไปแล้วจริงๆ"เจียงเฉินหยู่พูดล้อเล่น พร้อมกับหันหลังให้กับหลินเฟย"แหะๆ โอเค รับรองว่าผมจะนวดเบาๆ!"หลินเฟยวิ่งไปล้างมือในห้องน้ำ และกลับมาอย่างรวดเร็วเขาวางมือบนไหล่ของเจียงเฉินหยู่และคลำไปจนถึงคอเสื้อของเธอจากนั้นก็เลื่อนไปตามผิวเรียบเนียนไร้ที่ติ พร้อมกับสอดลึกเข้าไป นวด บีบ และหยอกล้อและมันก็ทำให้เจียงเฉินหยู่คร่ำครวญออกมาอย่างทันที"อืม...คนผีทะเล ฉันเหนื่อยจะตายอยู่แล้วนะ""คุณยังคิดจะมาแกล้งฉันอีก ปล่อยเดี๋ยวนี้ อย่ามาเล่นมั่วๆ!"แต่ทว่ามือของหลินเฟยกลับเอาแต่ใจ พร้อมพูดด้วยรอยยิ้มที่ชั่วร้ายว่
"ทำได้ครับ สิ่งเหล่านี้มันเป็นเรื่องที่ง่ายมาก พวกเราสองปู่หลานทำได้อยู่แล้วครับ"กู่หรูหลงทำมือคารวะอย่างชาญฉลาดรวมไปถึงกู่เยว่อิ๋งที่ยืนกรานอย่างแข็งขันเมื่อครู่ที่ผ่านมา เธอก็ได้เปลี่ยนทัศนคติและพยักหน้าตอบรับอย่างถ่อมตัวในทันที"โอเค ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นพวกนายปู่หลานก็กลับไปที่โรงแรมจิ่วหลงซานก่อนเถอะ รอให้ถึงพรุ่งนี้เช้า""ฉันก็จะไปร่วมประลองจอมยุทธ์ด้วยตัวเอง ถึงตอนนั้น หากฉันมีอะไรให้รับใช้ ค่อยเรียกพวกนายปู่หลานก็แล้วกัน"หลินเฟยรำพันอยู่ในใจว่า 'คำสาบานโลหิต' นั้นมีประโยชน์แบบสุดๆ และในเวลาเดียวกัน เขาก็โบกมือเพื่อส่งสัญญาณให้กู่หรูหลงและกู่เยว่อิ๋งถอยออกไปเสียก่อนซึ่งก็เป็นเวลานี้ที่เขาได้ยินเสียงฝีเท้าที่รีบเร่งได้ดังแว่วมา และนั่นก็คือโอวหยางเยี่ยนและโอวหยางชงที่ได้วิ่งตามมานั่นเองเมื่อเห็นหลินเฟยไม่เป็นอะไรเลยแม้แต่น้อยตรงกันข้ามกับกู่หรูหลงที่จากไปโดยเสียแขนไปหนึ่งข้าง และดูแก่กว่าเดิมเป็นอย่างมากแม้แต่กู่เยว่อิ๋งที่เดิมตามหลังก็ก้มหน้าก้มตาราวกับถูกสูบวิญญาณไปอะไรแบบนั้นและนั่นก็ทำให้พวกเขาสองพ่อลูกตกตะลึงจนหน้าถอดสีเลยทีเดียว!"สหายน้อง หรือว่านายจะ
น้ำเสียงของหลินเฟยเผด็จการ และเร่งเร้าอย่างหงุดหงิดเต็มที่"คุณปู่คะ เราจะทำอย่างไรกันดี?""หนูอายุยังน้อย หนูยังไม่อยากตายนะคะคุณปู่ พี่เซียวเฟิงกำลังรอหนูอยู่นะคะ…""เพียงแต่ว่าคุณปู่ หากจะให้หนูยอมเป็นทาสรับใช้เขาแล้วละก็ งั้นหนูก็ยอมตายเสียดีกว่า!"กู่เยว่อิ๋งตื่นตระหนก เธอไม่สามารถตัดสินใจอะไรได้ พร้อมกับร้องไห้สะอึกสะอื้นกับกู่หรูหลง"เยว่อิ๋ง กระบวนท่าที่เจ้าเด็กนั่นใช้ ปู่ไม่เคยพบไม่เคยเห็นมาก่อน ปู่ก็ไร้หนทางด้วยเหมือนกัน""ปู่ก็ไม่อยากจะประนีประนอมเหมือนกัน แต่การมีชีวิตอยู่ ยังไงมันก็ดีกว่าตายเป็นไหนๆ""ยังไงพวกเราก็ยอมๆ ไปเถอะ อย่างแย่ที่สุดต่อไปก็ยังมีโอกาสหลบหนีกลับไปที่โลกซ่อนเร้น และไม่ต้องกลับมาเหยียบที่โลกปัจจุบันอีกก็ได้"และกู่หรูหลงที่เพิ่งจะสำเร็จว่าที่มหาจอมยุทธ์ได้เมื่อครู่ที่ผ่านมา อายุของเขาก็ได้ยืดออกไปกว่าห้าสิบปีแล้วซึ่งในอีกห้าสิบกว่าปีข้างหน้า ไม่แน่ว่าเขาอาจจะมีโอกาสสำเร็จขั้นมหาจอมยุทธ์ก็เป็นไปได้กู่หรูหลงยิ่งไม่อยากตายมากกว่าเดิม เขาลังเลอยู่สักพัก ในที่สุดก็ถอนหายใจหนักๆ ออกมา พร้อมกับกระซิบกับกู่เยว่อิ๋ง"ในเมื่อพวกแกยอมมาเป็นทาสฉัน งั้น
กู่หรูหลงร้องขอความเมตตาอย่างสุดใจ แต่ทว่าหลินเฟยกลับไม่มีความคิดที่จะปล่อยพวกเขาไปแต่อย่างใดล้างแค้นสิบปีก็ยังไม่สาย ความจริงที่แสนจะเรียบง่ายนี้ หลินเฟยยังคงเข้าใจได้ดีแต่อย่างไรก็ตาม หลินเฟยไม่ได้เป็นปีศาจหรือฆาตกร ให้เขาฆ่ากู่หรูหลงและกู่เยว่อิ๋ง เขาก็ทำไม่ได้ด้วยเช่นกัน"พี่สาว งั้นพี่ก็ดูดกำลังภายในของเขาให้หมดสิ้น แล้วผมจะให้ผู้อำนวยการโม่ขังพวกเขาไปตลอดชีวิตก็แล้วกัน"ท้ายที่สุด หลินเฟยก็ถอนหายใจ และพูดตัดสินใจออกมา"ไม่ต้องหรอก คนคนนี้เจ้าโจมตีด้วยตัวเอง""เจ้าก็เก็บเอาไว้เป็นทาสเถอะ""ต่อไปหากพบจอมยุทธ์โบราณที่แข็งแกร่งจริงๆ ถึงตอนนั้นข้าค่อยดูดพลังลมปราณก็ยังไม่สาย""อีกอย่าง ขอแค่เจ้าควบคุมเขาได้ เจ้าก็สามารถสั่งให้เขาไปตามหาหินวิญญาณและหญ้าวิญญาณในโลกซ่อนเร้นได้ แบบนี้จะทำให้เจ้าสามารถบรรลุข้อตกลงกับข้าได้เร็วขึ้นด้วย"สิ่งที่ทำให้หลินเฟยคิดไม่ถึงก็คือ หลงอู่ได้ให้คำตอบแบบนี้ออกมาและในน้ำเสียงนั้น ยังมีการชื่นชมปะปนอยู่ด้วย"ให้ผมรับไว้เป็นทาส? ผมไม่ได้มีบุญคุณกับพวกเขาเหมือนกับโอวหยางเยี่ยนและลูกชายแบบนั้น มีแต่ความแค้นล้วนๆ เลยก็ว่าได้""แล้วพวกเขาจะยอมมาเ
สิ่งนี้ทำให้เขารู้สึกหงุดหงิดและเดือดดาลแบบสุดๆ ในขณะเดียวกัน เขาก็รู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาเรื่อยๆ แล้วในตอนนี้!เพราะวิธีการของหลินเฟย เขาไม่เคยได้พบเห็นมาก่อน!"คุณปู่ คุณปู่รีบถอดเสื้อมาดับไฟเร็วเข้า!"กู่เยว่อิ๋งก็ตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน พร้อมตะโกนเตือนเสียงดังออกไปทันที"ไม่ต้องหรอก ปู่มีวิธีของตัวเอง"กู่หรูหลงถ่ายเทพลังงานลงในแขนที่กำลังลุกไหม้ จากนั้นก็กระทืบเท้าลงไปที่พื้นอย่างเต็มแรงแปร๊ะ แปร๊ะ!แต่ทว่า หลังจากที่กู่หรูหลงได้ดึงแขนออกมา เปลวไฟดวงนั้นก็ยังคงไม่มีทีท่าว่าจะมอดลงไปแต่อย่างใด!กู่หรูหลงถอดเสื้อออก และเปลวไฟก็ไหม้แขนของเขาจนเลือดและเนื้อผสมปนเปกันไปหมด!เมื่อเห็นว่าอีกไม่นาน แขนของเขาก็คงจะไหม้ไปเสียทั้งหมดแล้ว!กู่หรูหลงก็ทำได้เพียงอดกลั้นต่อความเจ็บปวด พร้อมกับดึงมีดออกมาตัดแขนข้างขวาของตัวเองออกไปทั้งหมด!เพราะไม่อย่างนั้นแล้ว เปลวไฟที่แปลกประหลาดนี้ก็จะลามไปทั่วตัวและเผาเขาให้ตายทั้งเป็นอย่างแน่นอน!"ไอ้สารเลว ไอ้เด็กเมื่อวานซืน นี่จริงแกก็ออกมาประจันหน้ากับข้าเลยสิ!""ข้าจะสับแกเป็นชิ้นๆ อย่างแน่นอน!"กู่หรูหลงกุมบาดแผลที่เกิดจากกา
ในขณะนี้ เวลาก็ได้ล่วงเลยมาสองทุ่มกว่าๆ แล้ว ท้องฟ้าไร้ซึ่งดวงจันทร์มีดวงดาวเพียงไม่กี่ดวงที่ส่องแสงกะพริบจางๆ ออกมาภายในภูเขาชิงซาน เมื่อความมืดได้คืบคลานเข้ามา มันจึงทำให้บรรยากาศดูมืดมิดมากยิ่งขึ้นแต่ทว่าความเร็วของหลินเฟยยังไม่ได้ลดลงแต่อย่างใด เขาสามารถหลบหลีกหินที่นูนสูงเหล่านั้นได้อย่างคล่องแคล่วความมืดในยามค่ำคืน ไม่ได้ทำให้ความสามารถในการใช้ตาทิพย์ของเขาลดลงแต่อย่างใดหลินเฟยหันกลับไปมอง และพบว่ากู่หรูหลงไม่ได้เร็วเท่ากับตอนแรกอีกต่อไปหลินเฟยรู้ดีว่า นั่นไม่ใช่เพราะกู่หรูหลงเหนื่อยล้า แต่เป็นเพราะความสามารถในการมองเห็นของกู่หรูหลงลดลงเมื่ออยู่ในตอนกลางคืนนั้นเองส่วนโอวหยางเยี่ยนและลูกชายที่ติดตามมาท้ายสุดก็ถูกสลัดทิ้งโดยไม่เห็นแม้แต่เงาแล้วในตอนนี้!"กู่หรูหลง อย่างน้อยๆ แกก็เป็นถึงว่าที่มหาจอมยุทธ์ ทำไมช้าอย่างกับเต่าแบบนี้?""ขืนแกยังชักช้าอยู่ ฉันก็คงจะเบื่อจนหลับไปแล้วนะ""ด้วยความเร็วแบบนี้ แกยังคิดจะฆ่าฉันอีกงั้นเหรอ? กลับบ้านไปนอนฝันซะดีกว่า!"หลินเฟยตั้งใจชะลอความเร็ว และหันมาพูดเหน็บแนม"ไอ้หนุ่ม แกอย่าได้ชะล่าใจไปเลย แม้ว่าความเร็วของข้าจะสู้แกไม่ได