แต่จางหยวนไม่ได้ปล่อยหม่าเหล่าซานไปง่ายๆเขาจ้องหม่าเหล่าซานอย่างเย็นชา: "ขาข้างนี้ของนาย ต้องใช้เงินซื้อ!"“ฉันซื้อ! ฉันจะเอาเงินมาซื้อมัน!” หม่าเหล่าซานรีบตะโกนอย่างรวดเร็วจางหยวนหันไปมองหวังฮุ่ยแม่ของเขากับหลี่ชิวจวี๋: "แม่ครับ พี่สะใภ้ชิวจวี๋ ทั้งสองคนช่วยคำนวณหน่อยว่าไอ้สารเลวพวกนี้ทำลายข้าวของไปกี่ชิ้น! แล้วให้หม่าเหล่าซานจ่ายเงินชดเชยเป็นสามเท่าของมูลค่าสิ่งของ!"สักพักหนึ่ง จางหยวนก็กล่าวต่อว่า: "เมื่อกี้นี้พี่สะใภ้ชิวจวี๋ถูกหม่าเหล่าซาน หม่าเหล่าซานทำให้ตกใจ หม่าเหล่าซานต้องชดเชยค่าสูญเสียทางจิตให้พี่สะใภ้ชิวจวี๋! หนึ่งหมื่นห้าพันบาท!"เมื่อได้ยินคำพูดของจางหยวน หวังฮุ่ยและหลี่ชิวจวี๋ก็อดหัวเราะไม่ได้หม่าเหล่าซานที่อยู่บนพื้นกลับมีสีหน้าที่ซีดเผือดครั้งนี้ฉันจะต้องเสียเงินครั้งใหญ่แล้ว!หลังจากนั้นไม่นาน หวังฮุ่ยและหลี่ชิวจวี๋ก็คำนวณเสร็จข้าวของที่หม่าเหล่าซานทุบเสียหายราคาเกือบหนึ่งหมื่นบาท คิดเป็นเงินสามเท่าก็คือสามหมื่นบาทรวมค่าเสียหายทางจิตใจของหลี่ชิวจวี๋แล้ว ยอดรวมคือสี่หมื่นห้าพันบาทหลังจากที่ได้ยินตัวเลขที่ทั้งสองคนรายงานแล้ว จางหยวนก้มหน้าแล้วมองไปที่
หลี่ชิวจวี๋มองไปที่เงินปึกหนาๆ แล้วรีบโบกไม้โบกมือ“เงินนี้ฉันรับเอาไว้ไม่ได้หรอก! ฉันแค่เข้ามาช่วยก็เท่านั้น ไม่ได้ช่วยอะไรมากเลย”“ไม่ได้! พี่สะใภ้ชิวจวี๋ พี่สมควรได้รับมัน! ถ้าพี่ไม่ได้อยู่ตรงนั้น แม่ของผมอาจจะถูกหม่าเหล่าซานและแก๊งทำให้ตกใจกลัวจนไม่รู้ว่าจะเป็นยังไง!” จางหยวนกล่าวด้วยรอยยิ้มจางต้าซานและหวังฮุ่ยก็พยักหน้าเช่นกัน: "ใช่แล้ว ชิวจวี๋ หนูรับเอาไว้เถอะ!"“แต่นี่มันเยอะเกินไป! ลุงคะ ป้าคะ ครอบครัวของพวกคุณต้องการเงินจำนวนนี้มากกว่าที่หนูอีกนะคะ!” หลี่ชิวจวี๋มองหวังฮุ่ยด้วยสีหน้าที่จริงใจแม้ว่าเธอจะเป็นผู้หญิงตัวคนเดียว ฐานะทางบ้านไม่ค่อยดีแต่หลี่ชิวจวี๋ไม่ใช่คนโลภเงิน!หากเธอเห็นแต่เงินเธอคงจะไปหาคนมีเงิน แล้วเป็นเมียน้อยอีกฝ่ายไปตั้งนานแล้ว!ก่อนหน้านี้คนร่ำรวยหลายคนในหมู่บ้านเคยติดต่อหลี่ชิวจวี๋เป็นการส่วนตัว และบอกว่าอยากจะเลี้ยงดูเธอแต่หลี่ชิวจวี๋ปฏิเสธอย่างหนักแน่นเพราะว่าเธอไม่ใช่ผู้หญิงประเภทที่ขายเรือนร่างเพื่อเงิน!“ไม่มาก! พี่สะใภ้ชิวจวี๋ เก็บไว้เถอะ! ครอบครัวของเรามีเงิน!” จางหยวน นำเงินไปไว้ในมือหลี่ชิวจวี๋โดยไม่เปิดโอกาสให้เธอได้ปฏิเสธเมื่อ
หวังฮุ่ยไม่ได้สงสัยเรื่องอื่น และกำชับให้จางหยวนตามไปช่วยจางหยวนกลับรู้สึกอึดอัดเล็กน้อยเขาจำได้ว่าตนเองจัดเรียงไว้อย่างเรียบร้อย แล้วทำไมต้องจัดเรียงใหม่?พอทั้งสองคนมาถึงบ้านของหลี่ชิวจวี๋ และเข้าไปในบ้านแล้ว จางหยวนก็เดินไปที่หน้าตู้เย็น เปิดช่องแช่แข็งแล้วตรวจดูอีกครั้ง“ไก่เหล่านี้ถูกวางไว้อย่างเหมาะสมนี่นา! เป็นไปไม่ได้เลยที่จะเอาพวกมันออกมาไม่ได้!” จางหยวนพลางดูพลางกล่าวทันทีที่พูดจบ เขาก็รู้สึกว่ามีร่างกายที่อ่อนนุ่มเหนียวๆกดทับหลังของตน!“เอ๊ะ? จริงเหรอ? แต่พี่คิดว่าการจัดวางไม่เรียบร้อยเลย! อาหยวน จัดเรียงใหม่อีกครั้งไหม?” หลี่ชิวจวี๋พึมพำอยู่ข้างหูของจางหยวนหลังคำพึมพำ กระแสไอร้อนก็พัดเข้าหูของจางหยวนในขณะเดียวกัน กลิ่นหอมอันเย้ายวนก็แทรกซึมเข้าไปในรูจมูกหัวใจของจางหยวนเต้นรัวคราวนี้ถึงได้รู้ว่าหลี่ชิวจวี๋จงใจหาข้ออ้าง เพื่อหลอกตนเองให้มาที่บ้านของเธอ!"อาหยวน ทำไมถึงได้ตะลึงงันไปแล้วล่ะ?"หลี่ชิวจวี๋ที่อยู่ข้างหลังส่ายเอวไปมาสัมผัสที่นุ่มนวลนั้น เริ่มแนบแน่นมากยิ่งขึ้น!จางหยวนกลืนน้ำลายด้วยความยากลำบากในขณะนี้ เขาอยากจะหันหลังกลับจริงๆจากนั้นเขาก็กอ
ถ้าคนอื่นพูดแบบนี้ บางทีจางหยวนอาจจะไม่เชื่อแต่คนที่พูดนี้คือพ่อของเขาจางต้าซา เขาก็เชื่ออย่างแน่นอน!อันที่จริงแล้วพ่อของเขาจางต้าซานมีการรับรสที่ดีมากจริงๆก่อนหน้านี้เขาเคยพาจางหยวนไปกินข้าวที่ร้านอาหารกับเพื่อนร่วมงานตอนที่พ่อครัวกำลังทำอาหาร เพราะใช้เครื่องปรุงรสหมดแล้ว ดังนั้นจึงไม่ได้ใส่เครื่องปรุงรสบางอย่างไปทั้งโต๊ะไม่มีใครลิ้มรสชาติออก มีเพียงจางต้าซานเท่านั้นที่ลิ้มรสชาติออกตอนนั้นทุกคนก็ไม่เชื่อ จนกระทั่งพ่อครัววิ่งออกมาจากครัวทางด้านหลัง แล้วขอให้เถ้าแก่เนี้ยให้คนไปซื้อเครื่องปรุงรสทุกคนต่างก็พากันตกตะลึง จากนั้นก็พบว่าประสาทรับรสของจางต้าซานดีมากจริงๆ!จางหยวนเม้มริมฝีปาก เดินเข้าไปในบ้าน แล้วถามจางต้าซานด้วยน้ำเสียงที่ทุ้มลึก“พ่อครับ เมื่อกี้พ่อบอกว่า ไก่พเนจรที่แม่เลี้ยงเอาไว้ อร่อยกว่าไก่ธรรมดา มันอร่อยกว่ายังไงครับ?”จางหยวนถามจนจางต้าซานไม่รู้ว่าจะตอบยังไงเขาขมวดคิ้วแล้วครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ทันใดนั้นดวงตาของเขาก็เป็นประกาย“ใช่แล้ว! ไก่พเนจรที่แม่ลูกเลี้ยงเอาไว้ มีกลิ่นหอมอยู่ในเนื้อไก่! มันเหมือนกับ... เหมือนกลิ่นหอมของสมุนไพร!” จางต้าซานกล่าวร
ถ้าอยากจะฝึกฝนพระสูตรกายจิต จะต้องดูดซับแก่นแท้ของแสงจันทร์ในคืนพระจันทร์เต็มดวงถึงจะฝึกฝนได้!เมื่อนับวันแล้ว วันนี้ก็ตรงกับวันขึ้นสิบห้าค่ำตามปฏิทินจันทรคติพอดี!หลังจากที่พ่อแม่ของเขาหลับไปแล้ว จางหยวนก็เดินออกจากประตูอย่างเงียบๆ แล้วเดินตรงไปที่ภูเขาที่อยู่ด้านหลังเมื่อเลือกสถานที่เปิดโล่งบนภูเขาที่อยู่ด้านหลังได้แล้ว จางหยวนก็นั่งขัดสมาธิ และเริ่มฝึกฝนจิตตามพระสูตรกายจิตทันทีไม่นานหลังจากนั้น จางหยวนก็สัมผัสได้ถึงพลังลมปราณ!ด้วยความแปลกประหลาดใจ เขาจึงใช้รีบใช้ความรู้สึกนึกคิดควบคุมพลังงานลมปราณ แล้วหมุนเวียนในร่างกายสักระยะหนึ่งหลังจากผ่านไปได้สักระยะหนึ่ง แสงจันทร์บนท้องฟ้าราวกับว่าถูกดึงดูด ต่างก็พากันผสานเข้าสู่ร่างกายของจางหยวนพอแสงจันทร์เข้าสู่ร่างกาย ส่วนหนึ่งก็หลอมรวมเข้ากับเนื้อและเลือด หล่อเลี้ยงร่างกายของจางหยวนอีกส่วนหนึ่งรวมกันเข้าสู่เส้นลมปราณ ในที่สุดภายในจุดตันเถียนก็สร้างเมล็ดแก่นพลังลมปราณที่ขึ้นมาได้ และค่อยๆเแข็งแกร่งขึ้นทีละเล็กทีละน้อยทุกชั่วเวลานาทีผันผ่านไปจนกระทั่งรุ่งเช้า จางหยวนก็ค่อยๆลืมตาขึ้น จากนั้นแสงในนัยน์ตาของเขาก็หายไปหลังจากฝ
จางหยวนโบกไม้โบกมือ: "แม่ครับ มันไม่เยอะเลย! ไก่สมุนไพรตัวหนึ่งขายได้ในราคาเจ็ดร้อยห้าสิบบาท และไก่ห้าสิบตัวมีขายได้เงินแค่สามหมื่นกว่าบาทเท่านั้น!"เมื่อพูดถึงตรงนี้ เขาก็หยุดพูดกะทันหัน และอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว“ อาหยวน เป็นอะไรไปเหรอ?” เมื่อเห็นดังนี้ จางต้าซานก็ถามด้วยความเป็นห่วงจางหยวนอดไม่ได้ที่จะยิ้มอย่างขมขื่นแล้วพูดว่า: "ไก่พเนจรกว่าจะเติบโตเต็มที่ต้องใช้เวลานานมาก ต้องเลี้ยงครึ่งปีถึงจะเติบโตเต็มที่! ถ้าเป็นอย่างนี้ จะทำเงินได้น้อยเกินไปจริงๆ!"“ช่วยไม่ได้ เนื้อของไก่พเนจรแตกต่างจากไก่เนื้อธรรมดา ไก่เนื้อธรรมดาจะเติบโตเร็ว แต่เนื้อไม่แน่นเลยสักนิด” หวังฮุ่ยกล่าวพร้อมส่ายหัวด้านการเลี้ยงไก่ เธอมีความรู้มากกว่าจางหยวนและจางต้าซานเสียอีกคำพูดของแม่ของเขาหวังฮุ่ยเตือนสติจางหยวนในเมื่อไก่พเนจรเติบโตช้า ทำไมไม่ลองเปลี่ยนจากไก่พเนจรเป็นไก่เนื้อล่ะ?ไก่เนื้อใช้เวลาเพียงแค่หนึ่งเดือนครึ่งก็สามารถเชือดได้แล้ว!อีกอย่างใบสั่งยาเฟิ่งหมิงฉี่สามารถเร่งให้ไก่สมุนไพรเจริญเติบโตเร็วขึ้น ทำให้ระยะเวลาในการเชือดสั้นลง!แต่ถ้าพิจารณาถึงความเหนียวแน่นของเนื้อไก่แล้ว จางหยวนยังคงลัง
แต่สมุนไพรที่พบบ่อยที่สุดเหล่านี้ สามารถให้ผลที่น่าอัศจรรย์ได้แต่ใช้เภสัชวิทยามาวิเคราะห์ใบสั่งยานี้ ก็มักจะได้ข้อสรุปแบบเดียวกับแพทย์แผนจีนเฒ่าคนนี้นั่นก็คือ ใบสั่งยานี้บ้าบอกคอแตกมาก!“แค่กแค่ก! ท่านผู้เฒ่า เรื่องนี้ท่านไม่ต้องยุ่งหรอก! แค่จัดยาตามใบสั่งยาให้ผมก็พอแล้ว! ไม่ใช่ว่าผมจะไม่จ่ายเงินสักหน่อย!” จางหยวนพูดพร้อมไอแห้งๆสองครั้ง“ฮึ่ม!นี่นาย ตอนเปิดออเดอร์เขียนหมายเหตุเอาไว้ด้วยว่า ใบสั่งยานี้ใช้สำหรับไก่!เดี๋ยวเกิดเรื่องอะไรขึ้นมาในภายหลัง จะส่งผลกระทบต่อพวกเรา!” แพทย์แผนจีนเฒ่าพ่นทำเสียงฮึดฮัดพนักงานรีบพยักหน้า จากนั้นก็จัดยาตามใบสั่งยาเสียแต่โดยดีหลังจากจัดยาเสร็จแล้ว จางหยวนก็ควักเงินหนึ่งพันบาทออกมาจ่ายอย่างไม่ลังเลนี่คือสมุนไพรที่ไก่สมุนไพรห้าสิบตัวต้องการเป็นเวลาครึ่งเดือน!ครั้งหน้าตอนที่จางหยวนมาซื้อยา จะต้องเพิ่มขนาดยาเป็นสองเท่าครึ่งเดือนแรกยังเป็นลูกไก่อยู่ แต่ครึ่งเดือนหลังไก่เหล่านี้ก็คงจะโตขึ้นมาเป็นไก่ที่ใหญ่พอสมควรแล้ว ดังนั้นปริมาณยาจะต้องเพิ่มขึ้นเป็นธรรมดา!หลังจากรับสมุนไพรและใบเสร็จรับเงินจากพนักงานร้านขายยาแล้ว จางหยวนก็กวาดสายตามองอยู่ครู
แต่ในขณะที่ไอ้หัวทองกำลังจะจับบั้นท้ายที่ทำให้คนชื่นชอบเป็นอย่างมากอันนั้นมือใหญ่ที่แข็งแกร่งข้างหนึ่ง ก็คว้าข้อมือของเขาไว้แน่น!ชายหัวทองรู้สึกราวกับว่ามือของตนถูกคีมเหล็กหนีบเอาไว้ และขยับไม่ได้อีกต่อไป!ยิ่งไปกว่านั้นมือใหญ่ข้างนั้นยังบีบข้อมือของเขาอย่างแรง จนทำให้เขารู้สึกเจ็บชายหัวทองจึงอดไม่ได้ที่จะกรีดร้องเสียงนี้ดึงดูดความสนใจของคนที่อยู่บริเวณรอบๆทันทีหญิงสาวที่เกือบจะถูกชายหัวทองแต๊ะอั๋งเมื่อสักครู่นี้ ก็หันกลับมาตามสัญชาตญาณคิดไม่ถึงว่า ทันทีที่เธอหันกลับมา จางหยวนกำลังพลิกมือจับชายหัวทองกดตรึงไว้บนพื้นพอดีบังเอิญว่า แขนของเขาฟาดไปบนตัวของหญิงสาวเข้าพอดี!และดันไปถูกจุดที่สำคัญ!หญิงสาวจึงร้องด้วยความเจ็บปวด กุมส่วนที่ถูกฟาดเอาไว้แล้วถอยหลังไปสองก้าวพอเห็นส่วนที่เธอถูกแขนของจางหยวนฟาด สีหน้าท่าทางของทุกคนที่อยู่ตรงนั้นก็เริ่มพิลึกกึกกือขึ้นมาทันใดนั้นพวกเขาก็รู้สึกเป็นเดือดเป็นร้อนแทนหญิงสาว เพราะว่าเธอเป็นผู้หญิงถ้าหากว่าเป็นผู้ชาย ข้อศอกเมื่อสักครู่นั้นของจางหยวน คงจะสามารถทำให้อีกฝ่ายได้ฝึกฝนคัมภีร์วรยุทธ์ดอกทานตะวันไปแล้ว!ชายหัวทองที่ถูกจางหยวนก