ว่ากันว่า สัตวแพทย์ผู้นี้ ระหว่างรักษาวัวที่ขาหัก บังเอิญได้ค้นพบว่า วิชาจัดกระดูกที่สืบทอดกันมาในตระกูล สามารถนำไปใช้กับวัวได้ด้วย!ฉะนั้น ด้วยความพยายามอย่างหนัก เขาจึงได้คิดค้นวิชาจัดกระดูกชุดใหม่ขึ้นมาวิชานี้ นุ่มนวลกว่าและลึกล้ำกว่าวิชาจัดกระดูกที่สืบทอดกันมาในตระกูลยิ่งไปกว่านั้น วิชาจัดกระดูกชุดนี้ ไม่เพียงจะใช้กับวัวได้เท่านั้น แต่ยังใช้กับคนได้ด้วย แม้แต่การจัดกระดูกให้กับวัวที่ดุร้ายที่สุด ก็สามารถทำได้อย่างง่ายดายฉะนั้น สัตวแพทย์ผู้นั้นจึงตั้งชื่อวิชาจัดกระดูกชุดนี้ว่าวิชาฝูหนิวหัวลั่วเมื่อเทียบกับวิชาจัดกระดูกอื่นๆ วิชาฝูหนิวหัวลั่วมีผลที่เห็นได้ชัดคือ ผู้ที่ได้รับการนวดจะไม่รู้สึกเจ็บปวด แต่จะรู้สึกสบายตัวแทนเมื่อครู่ เจิ้งชิวเยว่บอกว่าข้อเท้าของเธอเจ็บมากฉะนั้น จางหยวนจึงใช้วิชาฝูหนิวหัวลั่ว เพื่อป้องกันไม่ให้เจิ้งชิวเยว่รู้สึกเจ็บปวดในป่าลึก หากเขาทำให้เจิ้งชิวเยว่ร้องเจ็บ ภาพนั้นคงดูน่ากลัวทีเดียวขณะที่จางหยวนกำลังนวดให้เจิ้งชิวเยว่ เจิ้งชิวเยว่รู้สึกหวาดกลัวในช่วงแรกทั้งนี้เพราะเธอกลัวเจ็บ และกลัวว่าจางหยวนจะสัมผัสส่วนที่อ่อนไหวของเธอ ทำให้เธอต้องอับ
“หยุด! หยุด! ไม่ต้องนวดแล้ว!” เจิ้งชิวเยว่ พยายามกลั้นเสียงครางและรีบตะโกนออกไป“ห้ะ?” จางหยวนเงยหน้ามองเธอด้วยความประหลาดใจ “พี่ชิวเยว่ เจ็บรึ แต่การนวดวิธีนี้ พี่ไม่น่าจะรู้สึกเจ็บเลยนะ!”พร้อมกันนั้น มือของจางหยวนก็หยุดนวดเจิ้งชิวเยว่รู้สึกโล่งอก ดีแล้วที่ไม่ต้องอับอายต่อหน้าจางหยวนแต่สิ่งที่ตามมาก็คือ เธอรู้สึกว่างเปล่าอย่างบอกไม่ถูกเมื่อครู่จางหยวนนวดสบายมาก ตอนนี้หยุดกะทันหัน เจิ้งชิวเยว่ก็รู้สึกไม่สบายตัวตามไปด้วยเจิ้งชิวเยว่หาข้ออ้างอย่างฝืนๆ ว่า “ไม่รู้เป็นอะไร ข้อเท้าฉันเริ่มรู้สึกไม่สบายแล้ว! อาจ.......อาจจะนวดพอแล้วก็ได้!”จางหยวนขมวดคิ้ว “แต่สภาพพี่ตอนนี้ ถึงจะพักหนึ่งถึงสองวันก็หาย แต่ตอนนี้ยังเดินไม่ได้ แล้วพี่จะกลับบ้านอย่างไรเล่า”เจิ้งชิวเยว่ก็ตกตะลึงเมื่อครู่เธอแค่คิดว่าไม่ให้จางหยวนนวดต่อ เพราะจะทำให้ตัวเองอับอายแต่เธอลืมไปว่า ถ้าไม่นวดข้อเท้า เธอก็เดินลงเขาไม่ได้!“ฉัน......” เจิ้งชิวเยว่พูดไม่ออกไปชั่วขณะถ้าปล่อยให้จางหยวนนวดต่อ เธอแน่ใจว่าอีกไม่ถึงครึ่งนาที เธอคงกลั้นร้องครางออกมาไม่ได้ เพราะข้อเท้าที่บอบบางของเธอรู้สึกเจ็บปวดและสบายตัวในเวลาเด
จากนั้น จางหยวนก็คุกเข่าลงและหันหลังให้กับเจิ้งชิวเยว่ “พี่เจิ้งชิวเยว่ ขึ้นมาได้เลย” เมื่อเห็นแผ่นหลังกว้างใหญ่ตรงหน้า เจิ้งชิวเยว่ก็กลืนน้ำลายอย่างอดไม่ได้ นี่เป็นครั้งแรกที่เธอถูกชายอื่นนอกจากสามีของเธออย่างหยางซินแบกเทียบกับหยางซินแล้ว แผ่นหลังของจางหยวนดูจะกว้างใหญ่กว่ามาก! หยางซินหน้าตาใช้ได้ แต่ผอมเกินไป แบกเจิ้งชิวเยว่ได้ไม่นานก็แบกไม่ไหวแล้วเจิ้งชิวเยว่รู้สึกว่า ถ้าหยางซินไม่ผอมเกินไป พวกเขาทั้งสองคนก็คงไม่ต้อง......คิดถึงตรงนี้ เธอจึงรีบส่ายศีรษะ สลัดความคิดที่วนเวียนอยู่ในสมองออกไป ก่อนจะโอบกอดคอของจางหยวนอย่างช้าๆเมื่อแน่ใจว่าเจิ้งชิวเยว่โอบกอดแน่นแล้ว จางหยวนจึงค่อยๆ ลุกขึ้น ขณะลุกขึ้น เขากลัวว่าเจิ้งชิวเยว่จะล้ม จึงเผลอใช้มือประคองขาของเธอไว้โดยไม่รู้ตัว แต่จางหยวนดูเหมือนจะประเมินตำแหน่งผิดไป จึงไม่ได้ประคองขาของเจิ้งชิวเยว่แต่กลับไปประคองส่วนที่อ่อนนุ่มของเธอแทนแม้เจิ้งชิวเยว่จะใช้เวลาส่วนมากอยู่ที่สำนักงานของคณะกรรมการหมู่บ้านเพื่อทำบัญชี แต่ดูเหมือนว่าเธอจะดูแลรูปร่างของตัวเองเป็นอย่างดี มิฉะนั้น ส่วนที่อ่อนนุ่มของเธอก็คงไม่เต่งตึงขนาดนี้ เ
เปลี่ยนเป็นผู้หญิงอื่นก็ยังพอไหว แต่กลับเป็นเจิ้งชิวเยว่ที่รูปร่างดีขนาดนี้แม้จะเป็นผู้หญิงรูปร่างผอม แต่ก็มีเส้นเว้าโค้งที่ไม่แพ้หลี่ชิวจวี๋เลย เมื่อร่างกายของทั้งสองสัมผัสกันก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะเกิดสถานการณ์ที่ทำให้ทั้งคู่รู้สึกเขินอาย ใบหน้าของเจิ้งชิวเยว่แดงก่ำขึ้นมา ถึงขนาดที่เธอรู้สึกเหมือนว่าตอนนี้กำลังทำการนวดอันน่าอับอายให้กับจางหยวนอยู่ ทำให้จางหยวนรู้สึกสบายตัวมาก ที่แท้การแบกผู้หญิงรูปร่างดีเดินก็เป็นความสุขอย่างหนึ่งไม่แปลกใจเลยที่พระเอกในละครจะต้องแบกนางเอกอยู่ตลอด ที่แท้ตอนที่แบกนางเอก พระเอกก็ได้เปรียบมากเหมือนกัน ในที่สุดเจิ้งชิวเยว่ก็ทนไม่ไหวแล้ว รีบเรียกให้จางหยวนหยุด “จางหยวน นาย......นายช่วยเดินช้าลงหน่อยได้หรือไม่”จางหยวนชะลอฝีเท้าลง “พี่ชิวเยว่ ผมก็อยากจะรีบลงจากเขาเหมือนกัน”“แต่นายก็ใจร้อนเกินไปนะ นาย......” เจิ้งชิวเยว่พูดเพียงครึ่งเดียวก็เงียบไปทันใดนั้น เธอก็ไม่รู้จะอธิบายความรู้สึกอึดอัดในตอนนี้ให้จางหยวนฟังอย่างไรดี!“นายเขย่าจนฉันรู้สึกไม่สบายตัวน่ะ”หรือว่า “นายกระแทกจนฉันรู้สึกไม่สบายตัวน่ะ” ไม่ว่าจะพูดแบบไหนก็ดูพูดไม่ออกทั
เพื่อไม่ให้ทั้งสองคนรู้ว่าจางหยวนแบกเธอลงจากเขา เจิ้งชิวเยว่จึงโกหกไปว่าเพิ่งข้อเท้าแพลงตอนใกล้ถึงหน้าประตูบ้าน“ชิวเยว่ เธอน่ะ ทำไมถึงได้ซุ่มซ่ามอย่างนี้” หยางซินอดพูดไม่ได้เหล่าเจิ้งโถวจ้องเขาตาเขม็ง “ยังจะกล้าพูดอีก! หากไม่ใช่เพราะเอ็งไร้ประโยชน์ขนาดเก็บสมุนไพรยังไม่เป็น ชิวเยว่ต้องขึ้นเขาไปเก็บสมุนไพรทำไม”เมื่อถูกพ่อตาตวาด หยางซินจึงรีบก้มหน้าลงเขากลัวพ่อตาคนนี้มาโดยตลอดเจิ้งชิวเยว่ที่ยืนอยู่ข้างๆ รีบเป็นผู้ไกล่เกลี่ยทันที “ท่านพ่อ อย่าโทษหยางซินเลย หยางซิน นายช่วยพยุงฉันกลับห้องพักหน่อย! ตอนนี้ฉันยังไม่หิว ประเดี๋ยวค่อยออกมากินทีหลัง”เมื่อได้ยินเช่นนั้น หยางซินจึงโล่งอกเป็นอย่างมาก รีบพยุงเจิ้งชิวเยว่กลับห้องราวกับกำลังพยุงไทเฮาเมื่อเห็นสองสามีภรรยาหนุ่มสาวเดินกลับห้อง เหล่าเจิ้งโถวก็อดถอนหายใจไม่ได้เขาไม่พอใจลูกเขยแต่งเข้าคนนี้มานานแล้วไม่มีความสามารถอะไรเลย และยังขี้เกียจอีกด้วยหากไม่ใช่เพราะลูกสาวเจิ้งชิวเยว่ไม่สามารถมีบุตรได้ และหยางซินก็ไม่ถือสาเหล่าเจิ้งโถวคงไล่หยางซินออกจากบ้านไปนานแล้วเมื่อนึกถึงเรื่องที่ลูกสาวไม่สามารถมีบุตรได้ เหล่าเจิ้งโถวก็อดถอนห
ในใจของเขาคิดอย่างภาคภูมิใจว่า เงินก้อนนี้ได้หักไว้แล้วครึ่งหนึ่ง เพราะเงินที่จางหยวนให้มากกว่านี้!เห็นใบหน้าของหยางซินที่เขียนคำว่าจางหยวนเป็นคนดีอยู่เต็มหน้า เจิ้งชิวเยว่ก็รู้สึกโมโหขึ้นมาคนที่นายเรียกว่าคนดี เคยทำเรื่องไม่ดีกับภรรยาของนายบนภูเขาเลยนะ!คนเจ้าชู้แบบนี้ จะเป็นคนดีได้อย่างไร?“พอแล้ว! เอาเงินมา! ผู้ชายไม่ควรมีเงินติดตัวมากเกินไร ผู้ชายมีเงินจะเสียคน!” เจิ้งชิวเยว่ยื่นมือออกไปหยางซินส่งเงินห้าร้อยให้เจิ้งชิวเยว่ด้วยท่าทางเสียดาย แต่ในสายตากลับเต็มไปด้วยความหวังเจิ้งชิวเยว่ดูเหมือนจะเข้าใจความหมายของเขาหลังจากรับเงินห้าร้อยมาแล้ว เธอก็หยิบเงินห้าสิบจากกระเป๋าเงินให้เขา“ขอบคุณภรรยา! ภรรยาอายุยืนหมื่นปี!” หยางซินรับเงินห้าสิบไปด้วยความตื่นเต้นเจิ้งชิวเยว่กลอกตาใส่เขา “เสียงเบาหน่อย อย่าให้ท่านพ่อได้ยิน! แล้วก็ ต่อไปนี้เวลากินยาให้ระวังด้วย ครั้งก่อนฉันเห็นท่านพ่อแอบไปโรงพยาบาลในเมือง!”“ท่านพ่อไปโรงพยาบาลในเมืองทำไม?” หยางซินเริ่มรู้สึกกังวลเจิ้งชิวเยว่ถอนหายใจ “จะไปทำอะไรได้อีก นอกจากไปขอดูประวัติการตรวจของฉันครั้งก่อนน่ะสิ! โชคดีที่ฉันได้บอกกับหมอฉินที่
หยางซินทำสีหน้าเคร่งขรึม “ต่อไปนี้ฉันจะระวังตัวให้มากขึ้น จะไม่ให้ท่านพ่อรู้เด็ดขาด”“นายไม่ต้องห่วงมากหรอก ฉันว่าท่านพ่อคงแค่สงสัยน่ะ หมอฉินช่วยเราปกปิดไปได้แล้ว คราวนี้พ่อคงสบายใจแล้วล่ะ” เจิ้งชิวเยว่พูดพร้อมรอยยิ้มหยางซินจึงโล่งใจจากนั้นเขาก็ยิ้มอย่างคลุมเครือ“ที่รัก คืนนี้เราลองกันอีกครั้งดีหรือไม่? สองวันนี้เป็นช่วงไข่ตกของเธอ อาจจะ......ลองดูแล้วจะท้องก็ได้นะ”เจิ้งชิวเยว่ใบหน้าแดงก่ำ พยักหน้าเบาๆ ถือว่าเป็นการตอบตกลงสองวันมานี้เธอเองก็มีความคิดแบบนั้นแล้วก็......ตอนที่จางหยวนนวดข้อเท้าให้เธอบนหลังเขา ความรู้สึกเสียวซ่านบริเวณที่อ่อนไหวทำให้เจิ้งชิวเยว่รู้สึกคันๆ ในใจ“เท้าเธอเจ็บอยู่ คืนนี้ฉันจะทะนุถนอมเธอเป็นพิเศษนะ” หยางซินพูดต่อเมื่อได้ยินเช่นนั้น ความคิดที่ปะทุขึ้นมาในใจของเจิ้งชิวเยว่ก็ลดลงไปไม่น้อยนอกจากเรื่องที่หยางซินไม่สามารถมีบุตรได้ และความสามารถไม่ค่อยมี เขาก็ถือเป็นสามีที่ดีคนหนึ่งปากหวานเสมอ ทำให้เจิ้งชิวเยว่มีความสุขได้ตลอดเวลาในชีวิตประจำวัน หยางซินก็ดูแลเป็นอย่างดี ทำงานบ้านทุกอย่าง และอ่อนโยนกับเจิ้งชิวเยว่มากพูดได้เต็มปากว่าเขาเป็นพ่
“พี่สะใภ้ซิ่วอวิ๋นลองดื่มดู ดื่มแล้วจะเห็นผลภายในครึ่งชั่วโมง”เสิ่นซิ่วอวิ๋นก้มศีรษะด้วยใบหน้าแดงก่ำ และถามว่า “จะได้ผลจริงๆ หรือ” “แน่นอน! ยานี้ได้ผลดีมาก ผมกังวลว่าพี่จะต้มยาไม่เป็น จึงต้มมาให้เลย” จางหยวนพูดด้วยรอยยิ้ม เสิ่นซิ่วอวิ๋นเงยหน้ามองมาด้วยใบหน้าแดงระเรื่อ และกล่าวด้วยน้ำเสียงขอบคุณ “ขอบคุณพี่หยวนมาก”จางหยวนโบกมือปฏิเสธ “ไม่เป็นไร เราเป็นคนหมู่บ้านเดียวกัน การช่วยเหลือกันเป็นเรื่องธรรมดา”พอเสิ่นซิ่วอวิ๋นดื่มยาหมด จางหยวนก็เก็บกล่องข้าวเตรียมตัวจะกลับ แต่เสิ่นซิ่วอวิ๋นกลับเรียกเขาไว้ด้วยสีหน้าเขินอาย “พี่หยวน ช้าก่อน อย่าเพิ่งไป”จางหยวนหัวใจเต้นตึกตัก กลางดึกแบบนี้ หม้ายสาวสวยกลับเรียกเขาไว้ หรือว่า......จะให้เขาค้างคืน? คิดถึงใบหน้าอันงดงามและรูปร่างสุดเซ็กซี่ของเสิ่นซิ่วอวิ๋น โดยเฉพาะช่วงให้นมบุตร จางหยวนกลืนน้ำลายหนึ่งอึกเขาไม่อยากรังแกหม้ายสาว แต่หากหม้ายสาวเชื้อเชิญเขาเอง เขาจะทำอย่างไรดี? เขาควรปฏิเสธอย่างตรงไปตรงมาหรือไม่?หรือจะยอมตามใจไปเลย ใช้เวลากับหม้ายสาวให้เป็นค่ำคืนแสนโรแมนติก?ยังไม่ทันที่จางหยวนจะได้คิดอะไรต่อ เสิ่นซิ่วอวิ๋นก็พู
เพราะเป็นฟาร์มเลี้ยงไก่มูลค่าหลายแสน มากกว่าทรัพย์สินทั้งหมดของจางหยวนตอนนี้เสียอีก! คิดไปคิดมา จางหยวนก็ยิ่งรู้สึกสับสน สุดท้ายเขาตัดสินใจที่จะไม่คิดอะไรมากแล้วเพราะอย่างไรเสียเขาได้บอกไปกับฉู่เสวี่ยเยี่ยนแล้วว่าขอเวลาคิดสองวัน ก็ใช้เวลาคิดสองวันแล้วค่อยว่ากันทว่าตอนนี้จางหยวนมีเรื่องสำคัญอีกอย่างหนึ่งที่ต้องทำ นั่นก็คือการไปซื้อลูกไก่! เดิมทีจางหยวนตั้งใจว่า ตอนเช้าจะไปช่วยจ้าวเจียซินรักษาเป็ดที่ฟาร์มเลี้ยงเป็ด แล้วตอนบ่ายจะไปซื้อลูกไก่เนื้อที่บ้านของหยวนเต๋อหวัง อารองของหยวนเสวี่ยไก่ฟีนิกซ์ได้ผลตอบรับดีมาก ถึงเวลาที่จะเลี้ยงไก่ฟีนิกซ์รุ่นใหม่เพิ่มแล้วแต่เนื่องจากเมาตั้งแต่เที่ยง เขาจึงกลับบ้านในช่วงบ่าย แล้วเตรียมที่จะไปซื้อลูกไก่ที่บ้านของหยวนเต๋อหวังอีกครั้งในวันพรุ่งนี้แต่บางครั้งแผนการก็มักจะไม่เป็นไปตามที่คิดไว้ วันรุ่งขึ้น ตอนที่ฟ้ายังมืดครึ้ม ฝนก็ตกหนัก จะไปซื้อลูกไก่ในเมืองด้วยการสวมเสื้อกันฝนแบบนี้ จางหยวนทำไม่ได้ รถสามล้อไฟฟ้าของเขาเป็นแบบเปิดโล่ง ไม่มีหลังคาบังฝน จึงกันฝนไม่ได้ เมื่อมองไปที่เกาเสี่ยวอวี๋ นักข่าวสาวที่กำลังรายงานพยากรณ์อากาศทางโทรทัศน์
"ฮัลโหล เสี่ยวอวี้? ผมนัดเรียบร้อยแล้ว สำหรับคืนพรุ่งนี้ เธอยืนยันแล้วใช่หรือไม่?” ตู้เหิงเซิงงถามคนในสาย “สบายใจได้ประธานตู้ ประเดี๋ยวฉันจะไปลางานกับหัวหน้าสถานี แล้วคุณว่าคืนพรุ่งนี้ฉันควรใส่ชุดสไตล์ไหนดี?” เกาเสี่ยวอวี้ยิ้มเสียงออดอ้อน ตู้เหิงเซิงงพูดด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูบ้ากาม “แน่นอนว่าต้องเป็นชุดที่คุณใส่เวลาเป็นพิธีกรรายการ! เชื่อฉันสิ ชุดนั้นจะทำให้ผู้ชายเกิดความอยากจะพิชิตใจคุณอย่างแน่นอน! อยากจะฉีกชุดของคุณทิ้งให้หมดในทันทีเลย......” “บ้าน่ะ ประธานตู้พูดตรงเหลือเกิน! งั้นตกลงตามนี้แล้วกัน คืนพรุ่งนี้เจอกัน!” เกาเสี่ยวอวี้พูดจบแล้วก็วางสายทันที ตู้เหิงเซิงยังรู้สึกไม่สะใจเท่าไหร่ “จางหยวนเอ๋ยจางหยวน โชคดีเสียจริงๆ! คืนพรุ่งนี้ต้องโดนจิ้กจอกสาวดูดเอาพลังงานหมดเป็นแน่!” ตอนนี้จางหยวนยังไม่รู้เรื่องอะไรเลย มื้ออาหารที่ตู้เหิงเซิงงชวนเขาไปกินนั้น แทบจะเรียกได้ว่าเป็นการ “เลี้ยงต้อนรับ” ที่เต็มไปด้วยอันตราย! และอาจจะพลาดท่าเสียตัวได้ง่ายๆ! แต่แม้รู้ว่าเป็นกับดัก จางหยวนก็ยังไม่มีเวลาคิดถึงเรื่องนั้นเพราะเขามีเรื่องสำคัญที่ต้องทำรออยู่!เพิ่งวางสายจากตู้เหิงเซิงไปไม่
หากเขาไม่มีความสามารถอะไรเลยเหมือนจินฟานที่สนใจแต่ประชาสัมพันธ์ยาสุดพิเศษ เช่นนั้น แม้จ้าวลี่ซานจะแนะนำเขาให้เพื่อนร่วมอาชีพมากแค่ไหนก็ไม่มีประโยชน์! หลังจากได้ยินเช่นนั้น จางหยวนพยักหน้าอย่างแรง “อาจ้าว ผมเข้าใจความหมายของคุณแล้ว! ขอบคุณที่ช่วยแนะนำคนรู้จักให้ ผมจะไม่ทำให้คุณผิดหวังแน่นอน!" ขณะพูดประโยคนี้ จางหยวนรู้สึกหงุดหงิดอยู่บ้าง งานหลักของเขาควรเป็นแพทย์แผนจีนชัดๆ แต่ทำไมตอนนี้ถึงโด่งดังเพราะเป็นสัตวแพทย์ไปได้? หรือว่า......ต่อไปทุกคนจะคิดว่าเขาเป็นสัตวแพทย์ชื่อดัง ไม่มีใครรู้ว่าเขาเป็นแพทย์แผนจีน?พอคิดว่าอนาคตข้างหน้าเวลาเดินไปบนถนน เจอใครก็ทักมายและเรียกเขาว่าหมอจางอย่างสนิทสนม จางหยวนก็อดขนลุกไม่ได้ ทว่าตามคำกล่าวที่ว่าของผู้ใหญ่ให้ก็ต้องรับ ความหวังดีของจ้าวลี่ซาน จางหยวนก็ย่อมปฏิเสธไม่ได้เมื่อจางหยวนกลับไปที่ฟาร์มเลี้ยงผึ้ง ปัญหาอีกอย่างก็ตามมา! ตู้เหิงเซิงโทรมา “รบกวน” อีกครั้ง! พอเห็นเบอร์โทรศัพท์ของเขา จางหยวนแทบอยากโยนโทรศัพท์ทิ้งเมื่อคืนเขาบอกตู้เหิงเซิงชัดเจนแล้วว่า เขาจะไม่ผิดสัญญา ตู้เหิงเซิงคนนี้ทำไมถึงตื้อไม่เลิกเช่นนี้?จางหยวนรับสายทันท
พ่อลูกตระกูลจ้าวพยายามโน้มน้าวจางหยวนให้รับซองแดง แต่จางหยวนยืนกรานไม่รับสุดท้ายเมื่อไม่มีทางอื่น ทั้งสองจึงต้องยอมแพ้ แต่ไม่นานดวงตาของจ้าวลี่ซานก็เป็นประกาย เขาคิดหาวิธีตอบแทนจางหยวนได้แล้ว! “พี่หยวน ไม่รับซองแดงก็ไม่เป็นไร แต่อาจ้าวขอเชิญเอ็งไปกินข้าว เอ็งต้องห้ามปฏิเสธนะ!” จ้าวลี่ซานพูดพร้อมรอยยิ้ม จางหยวนพยักหน้ายิ้ม “กินข้าวได้อยู่แล้ว ต้องสั่งอาหารเพิ่มสักสองอย่างนะ ผมกินเยอะ! ฮ่าๆ” คำพูดที่ตรงไปตรงมาทำให้คนทั้งสามถึงกับหัวเราะลั่น เมื่อถึงเวลามื้ออาหารกลางวัน จางหยวนก็รู้ว่าทำไมจ้าวลี่ซานถึงเชิญเขาไปกินข้าว ถึงจะบอกว่าเชิญไปกินข้าว แต่เป้าหมายที่แท้จริงของจ้าวลี่ซานคือการแนะนำคนรู้จักให้จางหยวน! เขาเชิญเจ้าของฟาร์มเลี้ยงสัตว์หลายรายในเมืองมาด้วยกัน และแนะนำให้รู้จักกับจางหยวน พร้อมทั้งเล่าเรื่องที่จางหยวนเอาชนะจินฟานเมื่อเช้าให้ฟัง เมื่อเหล่าเจ้าของฟาร์มได้ยินว่าจางหยวนสามารถรักษาสัตว์ป่วยที่แม้แต่ช่างเทคนิคจากโรงงานผลิตยาสัตว์ก็รักษาไม่ได้ พวกเขาจึงรู้สึกอยากรู้จักจางหยวนกันมากขึ้นทันทีที่จางหยวนเข้าใจเจตนาของจ้าวลี่ซาน เขาก็เล่าเรื่องที่เคยรักษาโรคอหิวาต
ยิ่งสองพ่อลูกตระกูลโจวชมเชยจางหยวนมากใด สีหน้าของจินฟานก็ยิ่งแย่ลงเท่านั้นเป็ดสองตัวที่เดินเล่นอยู่บนพื้น ราวกับฝ่ามือที่ตบหน้าจินฟานอย่างแรงไม่เพียงเสียงดังฟังชัด และยังเจ็บปวดมาก!ยาของจางหยวนรักษาเป็ดให้หายดี ซึ่งพิสูจน์แล้วว่า กาฬโรคเป็ดที่จินฟานพูดถึงก่อนหน้านั้นเป็นเรื่องโกหกหมด!เมื่อจ้าวลี่ซานลุกขึ้นยืน เขามองจินฟานด้วยสายตาที่ไม่พอใจ“ช่างเทคนิคจิน ผมต้องการคำอธิบายจากคุณ! ก่อนหน้านี้คุณบอกว่าเป็ดของผมเป็นกาฬโรคเป็ด แล้วให้ผมซื้อยาจากต่างประเทศ ตอนนี้เป็นเช่นนี้ คุณจะอธิบายอย่างไร”สีหน้าของจินฟานเปลี่ยนไปเล็กน้อย แต่เขาก็ยังฝืนยิ้มออกมา“เถ้าแก่จ้าว คนเราย่อมผิดพลาดกันได้ ครั้งนี้ถือว่าผมดูผิดไป!”“จริงหรือ? อย่าคิดว่าคนอื่นโง่กันหมดนะ ช่างเทคนิคจิน ผมว่าต่อไปนี้คุณไม่จำเป็นต้องมาขายยาในเมืองของเราอีกแล้ว! ให้บริษัทของคุณส่งช่างเทคนิคคนอื่นมาแทนเถอะ ผมจะบอกกับคนอื่นๆ ในเมืองด้วย!” จ้าวลี่ซานพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาเหตุผลที่เขาเชื่อฟังจินฟาน เพราะเขามีความเชื่อมั่นในช่างเทคนิคของโรงงานผลิตยาเกินไปแต่จินฟานกลับใช้ความไว้วางใจของเขา พูดจาหลอกลวงจ้าวลี่ซาน จ้าวลี่ซาน
ทันใดนั้น จ้าวลี่ซานรีบวิ่งไปหาเป็ด แล้วนั่งยองตรวจสอบอ้วกของเป็ด ไม่นาน เขาก็เห็นพยาธิเม็ดเลือดสีแดงอยู่ด้านใน พยาธิตัวนั้นยาวประมาณเล็บนิ้วก้อย แต่บางมาก บางราวกับเชือก “นี่......นี่คือพยาธิเม็ดเลือดหรือ? หรือว่าเป็ดในฟาร์มของฉันจะติดโรคพยาธิเม็ดเลือดในเป็ดจริงๆ?” จ้าวลี่ซานพูดด้วยความตกตะลึง ทันทีที่จ้าวลี่ซานพูดจบ จินฟานก็เดินตรงเข้ามา มองจ้าวลี่ซานด้วยสายตาเย้ยหยัน “เถ้าแก่จ้าว คุณเป็นคนมากประสบการณ์ ทำไมถึงโดนหลอกด้วยเล่ห์เหลี่ยมแบบนี้ได้!”จ้าวลี่ซานเงยหน้าขึ้นอย่างประหลาดใจ “เล่ห์เหลี่ยม? เล่ห์เหลี่ยมอะไร?” “คำตอบง่ายมาก! พยาธิสีแดงตัวเล็กๆ เหล่านี้ถูกเป็ดอาเจียนออกมาจริง! แต่คุณอย่าลืมว่าเมื่อครู่เป็ดดื่มอะไรเข้าไป! พยาธิสีแดงตัวเล็กๆ เหล่านี้ที่อาจถูกป้อนเข้าไปตอนนั้นก็เป็นได้!” จินฟานพูดด้วยรอยยิ้มเยาะเย้ย เขาไม่เคยเชื่อว่าจางหยวนจะสามารถระบุอาการป่วยของเป็ดได้ ดังนั้นเขาจึงไม่เชื่อในสิ่งที่จางหยวนพูด เมื่อได้ยินเช่นนั้น จ้าวเจียซินก็ถอนหายใจออกมาพร้อมกับพูดว่า “เมื่อครู่ฉันยังคิดว่าคุณไม่ใช่คนโง่ แต่ตอนนี้ฉันรู้แล้วว่าฉันคิดผิด!” จินฟานขมวดคิ้วมองเขา “ค
จินฟานฮึดฮัดออกมา โดยไม่ได้พูดอะไรต่อแผนการรักษาของเขาก็เป็นแบบนี้แม้ว่าจะมียาสำหรับสัตว์ที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันแล้วก็ตาม เป็ดที่รอดชีวิตได้ก็เป็นเพียงเป็ดที่ร่างกายแข็งแรงที่สุดเท่านั้นส่วนพวกเป็ดที่ป่วยหนัก ก็ต้องปล่อยให้รอความตายไปจ้าวลี่ซานคิดครุ่นดูแล้วก็เห็นด้วย จึงให้จ้าวเจียซินไปจับเป็ดป่วยมาแต่จินเฟินกลับอาสาเสียเอง เดินไปที่โรงเลี้ยงเป็ด แล้วจับเป็ดป่วยหนักที่สุดมาสองตัวสิ่งที่จินเฟินอยากเห็นที่สุดก็คือ จางหยวนฆ่าเป็ดทั้งสองตัวตายคาที่เช่นนั้น เขาก็จะใช้โอกาสนี้ให้จ้าวลี่ซานสั่งซื้อยาสำหรับสัตว์เพิ่มอีกสองกล่องได้เมื่อเห็นเป็ดทั้งสองตัวที่ป่วยจนแทบไม่มีแรงดิ้น จ้าวลี่ซานก็ทำหน้าแปลกๆจ้าวเจียซินกลับยิ้มเย้ยหยัน “จับเป็ดป่วยที่ใกล้ตายมาใช่หรือไม่ แต่ไม่เป็นไรหรอก! พี่หยวนจะรักษาเป็ดทั้งสองตัวให้หายได้......ใช่หรือไม่”พูดถึงตรงนี้ จ้าวเจียซินก็รู้ตัวว่าพูดออกไปเช่นนี้อาจไม่เหมาะ จึงรีบหันไปถามความเห็นของจางหยวนจางหยวนพยักหน้ายิ้ม “ไม่เป็นไร ตราบใดที่เป็ดทั้งสองตัวยังไม่ตาย ก็ยังมีความหวังที่จะรักษาให้หายได้!”จากนั้นเขาใช้ช้อนเล็กตักยาจากอ่างลายครามหน
เห็นเช่นนั้น จางหยวนก็ยิ้มออกมา “โปรดรอสักครู่! อาจ้าวและผู้เชี่ยวชาญจินท่านนี้ อย่ารีบร้อนไปเลย การสั่งซื้อก็ไม่ต้องรีบร้อนหรอก! จะลองดูหรือไม่ว่าผมจะรักษาเป็ดพวกนี้อย่างไร?”“หึ! ไม่สนใจ! ผมไม่อยากเสียเวลากับคนที่ไม่รู้เรื่องรู้ราว!” จินฟานพูดด้วยน้ำเสียงดูถูกจางหยวนจ้องมองจินฟาน “อาจ้าวตัดสินใจจะสั่งซื้อยาของคุณแล้ว อย่างไรเสียผู้เชี่ยวชาญจินจะไม่ให้เกียรติแม้แต่น้อยเลยหรือ?” จ้าวเจียซินเข้าใจและพูดต่อ “ใช่! ซื้อยาของคุณ แล้วคุณยังไม่ให้เกียรติขนาดนี้ ประเดี๋ยวผมจะลองติดต่อบริษัทยายี่ห้ออื่นทางออนไลน์ พวกเขาคงจะนำเข้ายาจากต่างประเทศได้เช่นกัน!”สีหน้าของจินฟานเปลี่ยนไปเล็กน้อยหากเป็นอย่างที่จ้าวเจียซินพูดจริงๆ และไปหาบริษัทยายี่ห้ออื่น วันนี้เขาคงจะมาเสียเที่ยว “เอาล่ะ! ถ้าเช่นนั้น ผมจะเห็นแก่หน้าเถ้าแก่จ้าว!” จินฟานพูดด้วยท่าทางใจกว้างจากนั้น ทุกคนก็เดินไปยังอ่างที่จางหยวนเตรียมไว้ เมื่อเห็นยาสมุนไพรในอ่าง และปูนขาวที่โรยอยู่ด้านบน จ้าวลี่ซานอดถามไม่ได้ว่า “พี่หยวน ข้างในนี้คืออะไรหรือ?”จางหยวนตอบด้วยรอยยิ้มว่า “อันนี้คือยาสมุนไพรบดเป็นผง ประกอบด้วยไฉหู เทียนหมา
แม้ว่าเขาจะพยายามกระซิบเสียงเบา แต่ทั้งจางหยวนและจ้าวเจียซินก็ยังได้ยินสิ่งที่เขาพูดอยู่ดี ทั้งสองสบตากัน แล้วต่างก็เห็นรอยยิ้มในสายตาของกันและกัน ที่แท้ก็เป็นแบบนี้เอง ที่แท้จินฟานก็เป็นแค่คนเขลาแต่จ้าวลี่ซานกลับตกใจกับคำพูดของจินฟาน รีบถามเขาเหมือนจะคว้าเอาหญ้าแพรกมาเป็นที่ยึดเหนี่ยว “ผู้เชี่ยวชาญจิน คุณมีวิธีรักษาโรคระบาดในเป็ดได้หรือไม่ หากเป็ดของผมตายหมด ผมคงขาดทุนมากแน่!” เมื่อเห็นว่าหลอกล่อจ้าวลี่ซานได้ จินฟานก็ยิ้มออกมา “จริงๆ แล้ว การรักษาโรคระบาดในเป็ดก็ไม่ยาก! บริษัทของเรานำเข้ายาสำหรับสัตว์ชนิดหนึ่งมาจากต่างประเทศ! สามารถเพิ่มภูมิคุ้มกันของเป็ดได้มากเลย!” “ถึงแม้ว่าราคาจะค่อนข้างสูง แต่หากเป็ดได้รับยานี้ เชื่อว่าน่าจะมีเป็ดรอดชีวิตจำนวนมาก!” จ้าวลี่ซานรีบถามว่า “แล้วตอนนี้มียาหรือไม่” “ตอนนี้ยังไม่มี! แต่หากคุณจ้าวลี่ซานโอนเงินเข้าบริษัทวันนี้ ผมสามารถให้บริษัทเร่งจัดส่งได้ภายในวันเดียวกัน!” จินฟานพูดพร้อมรอยยิ้ม แผนของเขาเรียบง่ายมากคือต้องการให้จ้าวลี่ซานซื้อยาที่ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันของเป็ดชุดนั้น จินฟานไม่ได้โอ้อวด ยานั้นสามารถเพิ่มภูมิคุ้มกันของเป็ดไ