"อืม...ขวดละสองหมื่นห้าพันบาทแล้วกัน!" จางหยวนพูดเสียงเคร่งขรึมเว่ยเทียนหมิงพยักหน้าด้วยจิตใต้สำนึก: "สองแสนห้าหมื่นบาทเหรอ งั้นรวมกันแล้วก็หนึ่งล้านห้าแสนบาท! เดี๋ยวก่อน คุณพูดว่าอะไรนะ? สองหมื่นห้าพันบาทหนึ่งขวด? คุณจาง คุณไม่ได้พูดผิดหรอกนะครับ?"ในตอนนี้ ไม่เพียงเว่ยเทียนหมิงที่ตกตะลึงแม้แต่เสียวหม่ากับพนักงานเสิร์ฟสองคน ก็มองจางหยวนด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความตกตลึงเว่ยเทียนหมิงเสนอราคาขวดละหนึ่งแสนห้าหมื่นบาท แต่จางหยวนไม่ยินยอม จากนั้นกลับเสนอราคาขวดละสองหมื่นห้าพันบาทต่อให้จางหยวนเสนอราคาขวดละสองแสนห้าหมื่นบาท ก็ทำให้คนเชื่อถือยิ่งกว่าขวดละสองหมื่นห้าพันบาทซะอีกเมื่อเผชิญหน้ากับสายตาตกตะลึงของทุกคน จางหยวนใบหน้ายังคงยิ้มแย้มเหมือนเดิม"ถูกต้อง ขวดละสองหมื่นห้าพันบาท! ประธานเว่ยคุณจ่ายให้ผมหนึ่งแสนห้าหมื่นบาทก็พอแล้ว!"อันที่จริงเมื่อครู่ตอนเผชิญหน้ากับการเสนอราคาของเว่ยเทียนหมิง จางหยวนรู้สึกหวั่นไหวจริง ๆ ในเมื่อนั่นมันหนึ่งล้านบาทเชียวนะ!ตัวเองขึ้นไปเก็บโสมป่าที่บนเขาด้วยความเหนื่อยยากตั้งหลายครั้ง ก็หาเงินมาได้เพียงหนึ่งล้านบาท!เพียงแค่ตอนนี้เขาตอบตกลงราคาที่
แต่เว่ยเทียนหมิงกลับไม่ได้เกิดความคิดที่จะสนิทสนมกับจางหยวน เพราะสมัยนี้เพียงแค่ฝีมือเก่งกาจอย่างเดียวไม่มีประโยชน์!ลูกศิษย์ออกบวชของวัดเส้าหลินต่างก็ต่อสู้เก่ง แต่ในพวกเขามีกี่คนที่สามารถดิ้นรนจนกลายเป็นเจ้าพ่อได้?ส่วนมากต่างก็เป็นบอดี้การ์ดให้คนอื่นหรือถึงขั้นนักเลงหัวไม้!แต่การควบคุมตัวเองและการมองการณ์ไกลของจางหยวนที่แสดงออกมาในตอนนี้ กลับทำให้เว่ยเทียนหมิงเลื่อมใส!สัญชาตญาณบอกเขาว่า เด็กหนุ่มชนบทที่อยู่ตรงหน้าคนนี้ ในอนาคตจะกลายเป็นบุคคลยิ่งใหญ่อย่างแน่นอน!เมื่อเผชิญหน้ากับสัมพันธไมตรีที่ดีของเว่ยเทียนหมิง จางหยวนลังเลอยู่แวบหนึ่ง แล้วจึงขานรับ"ได้แน่นอนอยู่แล้ว ประธานเว่ย!" จางหยวนพูดเว่ยเทียนหมิงกลับส่ายหน้า และมีสีหน้าจริงจัง"ต่อไปอย่าเรียกฉันว่าประธานเว่ยอะไร ถ้าหากนับถือฉัน ก็เรียกฉันว่าพี่เว่ย!"เสียวหม่าที่อยู่ข้าง ๆ ก็มองเว่ยเทียนหมิงด้วยความตกตะลึงคนของเมืองชิงเหอมากมายขนาดนั้น แต่กลับมีแค่ไม่กี่คนที่สามารถเรียกเว่ยเทียนหมิงว่าพี่เว่ยได้แต่ว่า คนที่เรียกพี่ชายน้องชายกับเว่ยเทียนหมิง นอกจากพวกบุคคลใหญ่โตสองสามคนที่ในเมืองแล้ว ก็มีเพียงวัยรุ่นที่เว่ยเที
พนักงานเสิร์ฟหญิงสองคนมองตากันเมื่อครู่หม่าหรูหลงไม่ได้พูดกับพวกเธอแบบนี้ แต่ตอนนี้กลับกำชับพวกเธอไม่ให้ละเลยจางหยวนหรือว่า เกี่ยวข้องกับที่เว่ยเทียนหมิงเรียกพี่เรียกน้องกับจางหยวน?จู่ ๆ ทั้งสองคนก็เข้าใจแล้ว ทำไมก่อนหน้านี้จางหยวนปฏิเสธราคาน้ำผึ้งขวดละหนึ่งแสนห้าหมื่นบาท ยืนยันราคาน้ำผึ้งขวดละสองหมื่นห้าพันบาทให้ได้เมื่อครู่พวกเธอสองคนยังพูดในใจว่าจางหยวนโง่ แต่ตอนนี้ดูแล้ว คนที่โง่อย่างแท้จริงก็คือพวกเธอสองคน!จากที่ผู้หญิงทั้งสองคนดู เมื่อครู่ที่จางหยวนทำแบบนั้น ก็เพื่อที่จะทำความสนิทสนมกับเว่ยเทียนหมิงก็เท่านั้นและความจริงก็พิสูจน์แล้วว่าเขาทำสำเร็จ ดังนั้นถึงได้เรียกพี่เรียกน้องกับเจ้าพ่อใหญ่เว่ยเทียนหมิง!ถ้าหากจางหยวนรับรู้ความคิดในใจของผู้หญิงสองคนนี้ คงจะอดส่ายหน้าไม่ได้และพูดกับพวกเธอว่าคิดมากไปแล้วเขาเพียงแค่ไม่อยากเป็นพ่อค้าหน้าเลือดก็เท่านั้น ไม่เคยคิดที่จะประจบสอพลอเว่ยเทียนหมิงเลย!ตั้งแต่ที่เรียกพี่เรียกน้องกับจางหยวน ท่าทางที่เว่ยเทียนหมิงมีต่อเขาก็ยิ่งกระตือรือร้นยิ่งขึ้น บรรยากาศบนโต๊ะเหล้าก็ยิ่งอยู่ยิ่งคึกคักโชคดีที่ความสามารถในการดื่มของจางหยวนก็ไม
ใช่แล้ว คนคนนี้ ก็คือหงส์ขาวคนนั้นที่เพลิดเพลินสนุกสนานหนึ่งคืนกับจางหยวนที่ในถ้ำ!พูดให้ถูกก็คือ เธอเป็นผู้หญิงคนแรกที่จางหยวนเคยมีประสบการณ์ และจนถึงตอนนี้ เป็นผู้หญิงเพียงคนเดียวที่เคยมีความสัมพันธ์กับจางหยวนจางหยวนมองกระจกด้วยความตกตะลึง คิดไม่ถึงว่าจะเจอกับเธอที่นี่ หรือว่าเธอก็มาทานอาหารที่นี่เหรอ?รอให้จางหยวนตั้งสติกลับมาได้ เขารีบเดินไปที่ตรงทางเดิน มองออกไปจนสุดทางเพื่อที่จะหาบุคคลนั้นแต่ที่ในทางเดินไม่มีเงาคนแล้ว!"สุดหล่อ คุณกำลังหาอะไรอยู่เหรอคะ?" พนักงานหญิงน่ารักถามขึ้นด้วยความสงสัยจางหยวนรีบถามพนักงานหญิง: "เมื่อครู่คุณเห็นผู้หญิงหน้าตาสวยมากคนหนึ่งผ่านไปไหม?"ได้ยินแบบนี้พนักงานหญิงน่ารักก็เบะปากเล็กน้อย และตอบกลับผ่าน ๆ"ไม่มีนะคะ! เมื่อครู่ฉันดูที่พื้นอยู่ตลอด ไม่ได้สังเกต!"นึกไม่ถึงว่าจะพูดถึงผู้หญิงคนอื่นต่อหน้าเธอ อย่าว่าแต่เธอไม่เห็นเลย ต่อให้เห็นก็ไม่บอกจางหยวนหรอก!จางหยวนแอบถอนหายใจ หรือว่าเมื่อครู่นั่นเป็นความเข้าใจผิดของเขาเหรอ?อีกอย่าง ต่อให้เขาหาหงส์ขาวตัวนั้นเจอแล้วจะอย่างไรล่ะ?เมื่อคิดถึงการกระทำชั่วร้ายของอีกฝ่ายในตอนแรก จางหยวนก็รู้สึ
ในเมื่ออีกฝ่ายต้องการให้เขารับเงินหนึ่งแสนห้าหมื่นนี้ให้ได้ จางหยวนก็ไม่ใช่คนเสแสร้งที่จะคืนเงินกลับไปรอให้จางหยวนถือเงินหนึ่งแสนห้าหมื่นบาทกลับไปในบ้าน สองสามีภรรยาเห็นเขาถือเงินมากมายขนาดนี้ ใบหน้าก็เต็มไปด้วยความตกตะลึง"ลูก ลูกขายโสมได้อีกแล้วเหรอ?" จางต้าซานถามอย่างอดไม่ได้หวังฮุ่ยส่ายหน้า: “อาหยวนสองวันนี้ไม่ได้ขึ้นเขาสักหน่อย จะเอาโสมไปขายที่ไหน?”"พ่อ แม่ นี่ไม่ใช่เงินขายโสมครับ นี่เป็นเงินที่ผมรักษาคนอื่น!" จางหยวนยิ้มพูดเมื่อได้รับรู้ว่าจางหยวนรักษาคนแล้วได้เงินมาเยอะขนาดนี้ สองสามีภรรยาทั้งประหลาดใจทั้งดีใจจากนั้นจางหยวนก็เล่าเรื่องที่เอาน้ำผึ้งยาโด๊ปไปรักษาอาการให้เว่ยเทียนหมิงออกมา"แม่เจ้า น้ำผึ้งหนึ่งขวดสามารถขายได้สองหมื่นห้าพันบาท? นี่...ราคานี้สูงเกินไปหน่อยไหม?" หวังฮุ่ยอุทานจางต้าซานพูดด้วยรอยยิ้ม: "ลูกฉันได้ดิบได้ดีแล้ว! ไม่เพียงสามารถรักษาหมูและหาเงินได้ ยังสามารถรักษาคนจนได้เงินมา!"ถ้าหากเป็นเมื่อหนึ่งเดือนก่อน มีคนพูดกับจางต้าซานว่า จางหยวนลูกชายปัญญาอ่อนคนนี้ของเขาในอนาคตสามารถรักษาปศุสัตว์ และก็ยังรักษาคนได้ แถมยังหาเงินได้มากด้วยเหตุนี้ต่อให้
จางหยวนเดินเข้าไปในฟาร์มเลี้ยงผึ้ง เป็นอย่างที่คิดไว้ คนที่กำลังพูดจาก็คือเหล่าเฟิงโถวกับเฟิงเฮ่อลูกชายของเขารูปร่างหน้าตาของเฟิงเฮ่อนั้นคล้ายคลึงกับเหล่าเฟิงโถว แต่ตรงระหว่างคิ้วนั้นมีความชั่วร้ายอยู่เล็กน้อยนอกจากพวกเขาสองคนแล้ว ยังมีชายคนหนึ่งที่ใบหน้าปลิ้นปล้อน"ไสหัวไปซะ! ฟาร์มเลี้ยงผึ้งเป็นน้ำพักน้ำแรงของฉันทั้งชีวิต ฉันไม่มีทางให้นายทำลายมันทิ้งหรอก!" เหล่าเฟิงโถวหน้าตาบึ้งตึงเฟิงเฮ่อยิ้มเยาะแล้วโต้กลับ: "ทำลาย? อะไรที่เรียกว่าทำลาย? ผมขายฟาร์มเลี้ยงผึ้ง เพิ่มทุนเป็นเท่าตัวได้เงินก้อนใหญ่! ถึงเวลาไอ้แก่อย่างแกยังเสวยสุขกับฉันได้ไม่ใช่เหรอ?""จริงด้วย ลุงเฟิง ลูกชายของคุณกตัญญูมากเลยนะ! หาเงินมาได้ยังอยากให้คุณได้เสวยสุข!" ชายหน้าตาปลิ้นปล้อนก็ยิ้มอย่างชั่วร้ายแล้วพูดออกมาเหล่าเฟิงโถวจ้องมองเขาด้วยความโมโหถ้าไม่ใช่เพราะผู้ชายปลิ้นปล้อนคนนี้ เฟิงเฮ่อลูกชายของเขาคงจะยังคิดไม่ได้ว่าจะขายฟาร์มเลี้ยงผึ้งทิ้งซะฟาร์มเลี้ยงผึ้ง เป็นเหมือนชีวิตจิตใจของเหล่าเฟิงโถว!เงินซื้อโลงศพไม่มีแล้วสามารถหาใหม่ได้ ถ้าหากฟาร์มเลี้ยงผึ้งถูกเฟิงเฮ่อนำไปแพ้พนันถึงเวลาเหล่าเฟิงโถวก็ทำได้แ
"ได้! ฉันจะสั่งสอนไอ้คนกตัญญูคนนี้เดี๋ยวนี้!" เหล่าเฟิงโถวพูดด้วยน้ำเสียงโมโหเห็นเพียงแค่เขาเดินไปตรงหน้าเฟิงเฮ่ออย่างรวดเร็ว และหมุนวงแขน ทำท่าทางจะตบหน้าเฟิงเฮ่อแต่ฝ่ามือนี้ สุดท้ายก็ไม่ได้ตบลงไปเหล่าเฟิงโถวทำใจตบลูกชายเพียงคนเดียวคนนี้ไม่ได้!เฟิงเฮ่อกลับเงยหน้าขึ้น ถลึงตาใส่เหล่าเฟิงโถวด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความดุดัน เหมือนกับมั่นใจว่าเหล่าเฟิงโถวไม่กล้าตบเขาจางหยวนที่อยู่ข้าง ๆ ส่ายหน้าอย่างอดไม่ได้เหล่าเฟิงโถวเป็นคนดี แต่กลับไม่ใช่พ่อที่ดีถ้าหากไม่ใช่เพราะเขารักเฟิงเฮ่อมากเกินไป ไม่ยอมตีไม่ยอมต่อว่า เฟิงเฮ่อก็คงไม่กลายเป็นแบบในตอนนี้!ดังสุภาษิตโบราณที่ว่า รักวัวให้ผูก รักลูกให้ตี!ตอนนี้ดูแล้ว คำพูดนี้มีเหตุผลอยู่บ้างเล็กน้อย!แน่นอนว่า เหตุผลหลักยังเป็นเพราะเฟิงเฮ่อไม่พยายามเองถ้าหากเป็นคนดี ใครจะเอ้อระเหยไปวัน ๆ แถมยังมีพฤติกรรมที่ไม่ดีอย่างการเล่นพนัน?เมื่อเห็นเหล่าเฟิงโถวตบเฟิงเฮ่อไม่ลง ชายหน้าตาปลิ้นปล้อนที่อยู่ข้าง ๆ ก็เดินเข้ามาด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม“ลุงเฟิง ผมแนะนำตัวเองหน่อยนะครับ ผมชื่ออวี๋คุน พวกเราสองคนเป็นคนอาชีพเดียวกัน”ขณะพูดเขาก็หยิบนามบัตรใบ
"ตาเฟิง สถานการณ์ของคุณผมเข้าใจ เงินพวกนี้คุณนำไปใช้เป็นเงินค่าใช้จ่ายในการดำรงชีวิต ต่อไปผมยังจะซื้อน้ำผึ้งบ้านที่คุณอีกระยะยาว! เงินนี้ถือว่าเป็นเงินค่าน้ำผึ้งที่ผมฝากเอาไว้แล้วกัน!" จางหยวนพูดเสียงเข้มเมื่อมองเห็นเงินปึกหนา ๆ ในมือจางหยวน เหล่าเฟิงโถวตะลึงงัน"ไม่ได้ อาหยวน ฉันจะเอาเงินของนายเยอะขนาดนี้ได้อย่างไร! เงินที่นายฝากเอาไว้ครั้งที่แล้ว เพียงพอที่จะซื้อน้ำผึ้งได้สองปีแล้ว! ฉันจะรับเงินของนายอีกได้อย่างไร?" เหล่าเฟิงโถวรีบปฏิเสธจางหยวนพูดด้วยสีหน้าจริงจัง: "ตาเฟิง คุณก็เห็นว่าผมต้องการน้ำผึ้งค่อนข้างเยอะ อันที่จริงผมนำน้ำผึ้งบ้านไปทำเป็นน้ำผึ้งยาจีน จากนั้นขายให้กับผู้ป่วยของผม!""ต่อไปผมยังต้องซื้อน้ำผึ้งจากคุณอีกเยอะ! เงินเหล่านี้ต้องใช้หมดแน่นอน คุณรับไปเถอะ! อย่างน้อย จะกินของเหลวทุกมื้อไม่ได้นะ!"ได้ยินแบบนี้ เหล่าเฟิงโถวลังเลใจ ประโยคสุดท้ายของจางหยวนสะเทือนใจเขาตอนนี้ในมือของเขาไม่มีเงินจริง ๆ นั่นแหละ ในแต่ละวันแทบจะกินโจ๊กแป้งข้าวโพดทั้งสามมื้อมีเพียงแค่มื้อเที่ยงที่ฟุ่มเฟือยหน่อย กินหมั่นโถวที่ตัวเองทำเองคนในชนบทไม่เทียบกับคนในเมือง คนในเมืองนั่งในออฟฟ
เพราะเป็นฟาร์มเลี้ยงไก่มูลค่าหลายแสน มากกว่าทรัพย์สินทั้งหมดของจางหยวนตอนนี้เสียอีก! คิดไปคิดมา จางหยวนก็ยิ่งรู้สึกสับสน สุดท้ายเขาตัดสินใจที่จะไม่คิดอะไรมากแล้วเพราะอย่างไรเสียเขาได้บอกไปกับฉู่เสวี่ยเยี่ยนแล้วว่าขอเวลาคิดสองวัน ก็ใช้เวลาคิดสองวันแล้วค่อยว่ากันทว่าตอนนี้จางหยวนมีเรื่องสำคัญอีกอย่างหนึ่งที่ต้องทำ นั่นก็คือการไปซื้อลูกไก่! เดิมทีจางหยวนตั้งใจว่า ตอนเช้าจะไปช่วยจ้าวเจียซินรักษาเป็ดที่ฟาร์มเลี้ยงเป็ด แล้วตอนบ่ายจะไปซื้อลูกไก่เนื้อที่บ้านของหยวนเต๋อหวัง อารองของหยวนเสวี่ยไก่ฟีนิกซ์ได้ผลตอบรับดีมาก ถึงเวลาที่จะเลี้ยงไก่ฟีนิกซ์รุ่นใหม่เพิ่มแล้วแต่เนื่องจากเมาตั้งแต่เที่ยง เขาจึงกลับบ้านในช่วงบ่าย แล้วเตรียมที่จะไปซื้อลูกไก่ที่บ้านของหยวนเต๋อหวังอีกครั้งในวันพรุ่งนี้แต่บางครั้งแผนการก็มักจะไม่เป็นไปตามที่คิดไว้ วันรุ่งขึ้น ตอนที่ฟ้ายังมืดครึ้ม ฝนก็ตกหนัก จะไปซื้อลูกไก่ในเมืองด้วยการสวมเสื้อกันฝนแบบนี้ จางหยวนทำไม่ได้ รถสามล้อไฟฟ้าของเขาเป็นแบบเปิดโล่ง ไม่มีหลังคาบังฝน จึงกันฝนไม่ได้ เมื่อมองไปที่เกาเสี่ยวอวี๋ นักข่าวสาวที่กำลังรายงานพยากรณ์อากาศทางโทรทัศน์
"ฮัลโหล เสี่ยวอวี้? ผมนัดเรียบร้อยแล้ว สำหรับคืนพรุ่งนี้ เธอยืนยันแล้วใช่หรือไม่?” ตู้เหิงเซิงงถามคนในสาย “สบายใจได้ประธานตู้ ประเดี๋ยวฉันจะไปลางานกับหัวหน้าสถานี แล้วคุณว่าคืนพรุ่งนี้ฉันควรใส่ชุดสไตล์ไหนดี?” เกาเสี่ยวอวี้ยิ้มเสียงออดอ้อน ตู้เหิงเซิงงพูดด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูบ้ากาม “แน่นอนว่าต้องเป็นชุดที่คุณใส่เวลาเป็นพิธีกรรายการ! เชื่อฉันสิ ชุดนั้นจะทำให้ผู้ชายเกิดความอยากจะพิชิตใจคุณอย่างแน่นอน! อยากจะฉีกชุดของคุณทิ้งให้หมดในทันทีเลย......” “บ้าน่ะ ประธานตู้พูดตรงเหลือเกิน! งั้นตกลงตามนี้แล้วกัน คืนพรุ่งนี้เจอกัน!” เกาเสี่ยวอวี้พูดจบแล้วก็วางสายทันที ตู้เหิงเซิงยังรู้สึกไม่สะใจเท่าไหร่ “จางหยวนเอ๋ยจางหยวน โชคดีเสียจริงๆ! คืนพรุ่งนี้ต้องโดนจิ้กจอกสาวดูดเอาพลังงานหมดเป็นแน่!” ตอนนี้จางหยวนยังไม่รู้เรื่องอะไรเลย มื้ออาหารที่ตู้เหิงเซิงงชวนเขาไปกินนั้น แทบจะเรียกได้ว่าเป็นการ “เลี้ยงต้อนรับ” ที่เต็มไปด้วยอันตราย! และอาจจะพลาดท่าเสียตัวได้ง่ายๆ! แต่แม้รู้ว่าเป็นกับดัก จางหยวนก็ยังไม่มีเวลาคิดถึงเรื่องนั้นเพราะเขามีเรื่องสำคัญที่ต้องทำรออยู่!เพิ่งวางสายจากตู้เหิงเซิงไปไม่
หากเขาไม่มีความสามารถอะไรเลยเหมือนจินฟานที่สนใจแต่ประชาสัมพันธ์ยาสุดพิเศษ เช่นนั้น แม้จ้าวลี่ซานจะแนะนำเขาให้เพื่อนร่วมอาชีพมากแค่ไหนก็ไม่มีประโยชน์! หลังจากได้ยินเช่นนั้น จางหยวนพยักหน้าอย่างแรง “อาจ้าว ผมเข้าใจความหมายของคุณแล้ว! ขอบคุณที่ช่วยแนะนำคนรู้จักให้ ผมจะไม่ทำให้คุณผิดหวังแน่นอน!" ขณะพูดประโยคนี้ จางหยวนรู้สึกหงุดหงิดอยู่บ้าง งานหลักของเขาควรเป็นแพทย์แผนจีนชัดๆ แต่ทำไมตอนนี้ถึงโด่งดังเพราะเป็นสัตวแพทย์ไปได้? หรือว่า......ต่อไปทุกคนจะคิดว่าเขาเป็นสัตวแพทย์ชื่อดัง ไม่มีใครรู้ว่าเขาเป็นแพทย์แผนจีน?พอคิดว่าอนาคตข้างหน้าเวลาเดินไปบนถนน เจอใครก็ทักมายและเรียกเขาว่าหมอจางอย่างสนิทสนม จางหยวนก็อดขนลุกไม่ได้ ทว่าตามคำกล่าวที่ว่าของผู้ใหญ่ให้ก็ต้องรับ ความหวังดีของจ้าวลี่ซาน จางหยวนก็ย่อมปฏิเสธไม่ได้เมื่อจางหยวนกลับไปที่ฟาร์มเลี้ยงผึ้ง ปัญหาอีกอย่างก็ตามมา! ตู้เหิงเซิงโทรมา “รบกวน” อีกครั้ง! พอเห็นเบอร์โทรศัพท์ของเขา จางหยวนแทบอยากโยนโทรศัพท์ทิ้งเมื่อคืนเขาบอกตู้เหิงเซิงชัดเจนแล้วว่า เขาจะไม่ผิดสัญญา ตู้เหิงเซิงคนนี้ทำไมถึงตื้อไม่เลิกเช่นนี้?จางหยวนรับสายทันท
พ่อลูกตระกูลจ้าวพยายามโน้มน้าวจางหยวนให้รับซองแดง แต่จางหยวนยืนกรานไม่รับสุดท้ายเมื่อไม่มีทางอื่น ทั้งสองจึงต้องยอมแพ้ แต่ไม่นานดวงตาของจ้าวลี่ซานก็เป็นประกาย เขาคิดหาวิธีตอบแทนจางหยวนได้แล้ว! “พี่หยวน ไม่รับซองแดงก็ไม่เป็นไร แต่อาจ้าวขอเชิญเอ็งไปกินข้าว เอ็งต้องห้ามปฏิเสธนะ!” จ้าวลี่ซานพูดพร้อมรอยยิ้ม จางหยวนพยักหน้ายิ้ม “กินข้าวได้อยู่แล้ว ต้องสั่งอาหารเพิ่มสักสองอย่างนะ ผมกินเยอะ! ฮ่าๆ” คำพูดที่ตรงไปตรงมาทำให้คนทั้งสามถึงกับหัวเราะลั่น เมื่อถึงเวลามื้ออาหารกลางวัน จางหยวนก็รู้ว่าทำไมจ้าวลี่ซานถึงเชิญเขาไปกินข้าว ถึงจะบอกว่าเชิญไปกินข้าว แต่เป้าหมายที่แท้จริงของจ้าวลี่ซานคือการแนะนำคนรู้จักให้จางหยวน! เขาเชิญเจ้าของฟาร์มเลี้ยงสัตว์หลายรายในเมืองมาด้วยกัน และแนะนำให้รู้จักกับจางหยวน พร้อมทั้งเล่าเรื่องที่จางหยวนเอาชนะจินฟานเมื่อเช้าให้ฟัง เมื่อเหล่าเจ้าของฟาร์มได้ยินว่าจางหยวนสามารถรักษาสัตว์ป่วยที่แม้แต่ช่างเทคนิคจากโรงงานผลิตยาสัตว์ก็รักษาไม่ได้ พวกเขาจึงรู้สึกอยากรู้จักจางหยวนกันมากขึ้นทันทีที่จางหยวนเข้าใจเจตนาของจ้าวลี่ซาน เขาก็เล่าเรื่องที่เคยรักษาโรคอหิวาต
ยิ่งสองพ่อลูกตระกูลโจวชมเชยจางหยวนมากใด สีหน้าของจินฟานก็ยิ่งแย่ลงเท่านั้นเป็ดสองตัวที่เดินเล่นอยู่บนพื้น ราวกับฝ่ามือที่ตบหน้าจินฟานอย่างแรงไม่เพียงเสียงดังฟังชัด และยังเจ็บปวดมาก!ยาของจางหยวนรักษาเป็ดให้หายดี ซึ่งพิสูจน์แล้วว่า กาฬโรคเป็ดที่จินฟานพูดถึงก่อนหน้านั้นเป็นเรื่องโกหกหมด!เมื่อจ้าวลี่ซานลุกขึ้นยืน เขามองจินฟานด้วยสายตาที่ไม่พอใจ“ช่างเทคนิคจิน ผมต้องการคำอธิบายจากคุณ! ก่อนหน้านี้คุณบอกว่าเป็ดของผมเป็นกาฬโรคเป็ด แล้วให้ผมซื้อยาจากต่างประเทศ ตอนนี้เป็นเช่นนี้ คุณจะอธิบายอย่างไร”สีหน้าของจินฟานเปลี่ยนไปเล็กน้อย แต่เขาก็ยังฝืนยิ้มออกมา“เถ้าแก่จ้าว คนเราย่อมผิดพลาดกันได้ ครั้งนี้ถือว่าผมดูผิดไป!”“จริงหรือ? อย่าคิดว่าคนอื่นโง่กันหมดนะ ช่างเทคนิคจิน ผมว่าต่อไปนี้คุณไม่จำเป็นต้องมาขายยาในเมืองของเราอีกแล้ว! ให้บริษัทของคุณส่งช่างเทคนิคคนอื่นมาแทนเถอะ ผมจะบอกกับคนอื่นๆ ในเมืองด้วย!” จ้าวลี่ซานพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาเหตุผลที่เขาเชื่อฟังจินฟาน เพราะเขามีความเชื่อมั่นในช่างเทคนิคของโรงงานผลิตยาเกินไปแต่จินฟานกลับใช้ความไว้วางใจของเขา พูดจาหลอกลวงจ้าวลี่ซาน จ้าวลี่ซาน
ทันใดนั้น จ้าวลี่ซานรีบวิ่งไปหาเป็ด แล้วนั่งยองตรวจสอบอ้วกของเป็ด ไม่นาน เขาก็เห็นพยาธิเม็ดเลือดสีแดงอยู่ด้านใน พยาธิตัวนั้นยาวประมาณเล็บนิ้วก้อย แต่บางมาก บางราวกับเชือก “นี่......นี่คือพยาธิเม็ดเลือดหรือ? หรือว่าเป็ดในฟาร์มของฉันจะติดโรคพยาธิเม็ดเลือดในเป็ดจริงๆ?” จ้าวลี่ซานพูดด้วยความตกตะลึง ทันทีที่จ้าวลี่ซานพูดจบ จินฟานก็เดินตรงเข้ามา มองจ้าวลี่ซานด้วยสายตาเย้ยหยัน “เถ้าแก่จ้าว คุณเป็นคนมากประสบการณ์ ทำไมถึงโดนหลอกด้วยเล่ห์เหลี่ยมแบบนี้ได้!”จ้าวลี่ซานเงยหน้าขึ้นอย่างประหลาดใจ “เล่ห์เหลี่ยม? เล่ห์เหลี่ยมอะไร?” “คำตอบง่ายมาก! พยาธิสีแดงตัวเล็กๆ เหล่านี้ถูกเป็ดอาเจียนออกมาจริง! แต่คุณอย่าลืมว่าเมื่อครู่เป็ดดื่มอะไรเข้าไป! พยาธิสีแดงตัวเล็กๆ เหล่านี้ที่อาจถูกป้อนเข้าไปตอนนั้นก็เป็นได้!” จินฟานพูดด้วยรอยยิ้มเยาะเย้ย เขาไม่เคยเชื่อว่าจางหยวนจะสามารถระบุอาการป่วยของเป็ดได้ ดังนั้นเขาจึงไม่เชื่อในสิ่งที่จางหยวนพูด เมื่อได้ยินเช่นนั้น จ้าวเจียซินก็ถอนหายใจออกมาพร้อมกับพูดว่า “เมื่อครู่ฉันยังคิดว่าคุณไม่ใช่คนโง่ แต่ตอนนี้ฉันรู้แล้วว่าฉันคิดผิด!” จินฟานขมวดคิ้วมองเขา “ค
จินฟานฮึดฮัดออกมา โดยไม่ได้พูดอะไรต่อแผนการรักษาของเขาก็เป็นแบบนี้แม้ว่าจะมียาสำหรับสัตว์ที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันแล้วก็ตาม เป็ดที่รอดชีวิตได้ก็เป็นเพียงเป็ดที่ร่างกายแข็งแรงที่สุดเท่านั้นส่วนพวกเป็ดที่ป่วยหนัก ก็ต้องปล่อยให้รอความตายไปจ้าวลี่ซานคิดครุ่นดูแล้วก็เห็นด้วย จึงให้จ้าวเจียซินไปจับเป็ดป่วยมาแต่จินเฟินกลับอาสาเสียเอง เดินไปที่โรงเลี้ยงเป็ด แล้วจับเป็ดป่วยหนักที่สุดมาสองตัวสิ่งที่จินเฟินอยากเห็นที่สุดก็คือ จางหยวนฆ่าเป็ดทั้งสองตัวตายคาที่เช่นนั้น เขาก็จะใช้โอกาสนี้ให้จ้าวลี่ซานสั่งซื้อยาสำหรับสัตว์เพิ่มอีกสองกล่องได้เมื่อเห็นเป็ดทั้งสองตัวที่ป่วยจนแทบไม่มีแรงดิ้น จ้าวลี่ซานก็ทำหน้าแปลกๆจ้าวเจียซินกลับยิ้มเย้ยหยัน “จับเป็ดป่วยที่ใกล้ตายมาใช่หรือไม่ แต่ไม่เป็นไรหรอก! พี่หยวนจะรักษาเป็ดทั้งสองตัวให้หายได้......ใช่หรือไม่”พูดถึงตรงนี้ จ้าวเจียซินก็รู้ตัวว่าพูดออกไปเช่นนี้อาจไม่เหมาะ จึงรีบหันไปถามความเห็นของจางหยวนจางหยวนพยักหน้ายิ้ม “ไม่เป็นไร ตราบใดที่เป็ดทั้งสองตัวยังไม่ตาย ก็ยังมีความหวังที่จะรักษาให้หายได้!”จากนั้นเขาใช้ช้อนเล็กตักยาจากอ่างลายครามหน
เห็นเช่นนั้น จางหยวนก็ยิ้มออกมา “โปรดรอสักครู่! อาจ้าวและผู้เชี่ยวชาญจินท่านนี้ อย่ารีบร้อนไปเลย การสั่งซื้อก็ไม่ต้องรีบร้อนหรอก! จะลองดูหรือไม่ว่าผมจะรักษาเป็ดพวกนี้อย่างไร?”“หึ! ไม่สนใจ! ผมไม่อยากเสียเวลากับคนที่ไม่รู้เรื่องรู้ราว!” จินฟานพูดด้วยน้ำเสียงดูถูกจางหยวนจ้องมองจินฟาน “อาจ้าวตัดสินใจจะสั่งซื้อยาของคุณแล้ว อย่างไรเสียผู้เชี่ยวชาญจินจะไม่ให้เกียรติแม้แต่น้อยเลยหรือ?” จ้าวเจียซินเข้าใจและพูดต่อ “ใช่! ซื้อยาของคุณ แล้วคุณยังไม่ให้เกียรติขนาดนี้ ประเดี๋ยวผมจะลองติดต่อบริษัทยายี่ห้ออื่นทางออนไลน์ พวกเขาคงจะนำเข้ายาจากต่างประเทศได้เช่นกัน!”สีหน้าของจินฟานเปลี่ยนไปเล็กน้อยหากเป็นอย่างที่จ้าวเจียซินพูดจริงๆ และไปหาบริษัทยายี่ห้ออื่น วันนี้เขาคงจะมาเสียเที่ยว “เอาล่ะ! ถ้าเช่นนั้น ผมจะเห็นแก่หน้าเถ้าแก่จ้าว!” จินฟานพูดด้วยท่าทางใจกว้างจากนั้น ทุกคนก็เดินไปยังอ่างที่จางหยวนเตรียมไว้ เมื่อเห็นยาสมุนไพรในอ่าง และปูนขาวที่โรยอยู่ด้านบน จ้าวลี่ซานอดถามไม่ได้ว่า “พี่หยวน ข้างในนี้คืออะไรหรือ?”จางหยวนตอบด้วยรอยยิ้มว่า “อันนี้คือยาสมุนไพรบดเป็นผง ประกอบด้วยไฉหู เทียนหมา
แม้ว่าเขาจะพยายามกระซิบเสียงเบา แต่ทั้งจางหยวนและจ้าวเจียซินก็ยังได้ยินสิ่งที่เขาพูดอยู่ดี ทั้งสองสบตากัน แล้วต่างก็เห็นรอยยิ้มในสายตาของกันและกัน ที่แท้ก็เป็นแบบนี้เอง ที่แท้จินฟานก็เป็นแค่คนเขลาแต่จ้าวลี่ซานกลับตกใจกับคำพูดของจินฟาน รีบถามเขาเหมือนจะคว้าเอาหญ้าแพรกมาเป็นที่ยึดเหนี่ยว “ผู้เชี่ยวชาญจิน คุณมีวิธีรักษาโรคระบาดในเป็ดได้หรือไม่ หากเป็ดของผมตายหมด ผมคงขาดทุนมากแน่!” เมื่อเห็นว่าหลอกล่อจ้าวลี่ซานได้ จินฟานก็ยิ้มออกมา “จริงๆ แล้ว การรักษาโรคระบาดในเป็ดก็ไม่ยาก! บริษัทของเรานำเข้ายาสำหรับสัตว์ชนิดหนึ่งมาจากต่างประเทศ! สามารถเพิ่มภูมิคุ้มกันของเป็ดได้มากเลย!” “ถึงแม้ว่าราคาจะค่อนข้างสูง แต่หากเป็ดได้รับยานี้ เชื่อว่าน่าจะมีเป็ดรอดชีวิตจำนวนมาก!” จ้าวลี่ซานรีบถามว่า “แล้วตอนนี้มียาหรือไม่” “ตอนนี้ยังไม่มี! แต่หากคุณจ้าวลี่ซานโอนเงินเข้าบริษัทวันนี้ ผมสามารถให้บริษัทเร่งจัดส่งได้ภายในวันเดียวกัน!” จินฟานพูดพร้อมรอยยิ้ม แผนของเขาเรียบง่ายมากคือต้องการให้จ้าวลี่ซานซื้อยาที่ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันของเป็ดชุดนั้น จินฟานไม่ได้โอ้อวด ยานั้นสามารถเพิ่มภูมิคุ้มกันของเป็ดไ