ด้วยความใกล้ชิดกันเกือบทุกคืน ทำให้เฟรินทร์เผลอใจหลงรักดัสติน ทั้งที่รู้ว่านั้นมีเหมยหลินอยู่ทั้งคนเธอเองก็ยินดีเป็นคนในความลับของเขา จนกว่าเขาจะเบื่อและไล่เธอไปเอง “หน้าตาดูน่ากินมากค่ะคุณผู้หญิง” “ขอบใจจ้ะเฟย์ทำเผื่อทุกคนด้วยนะคะ อาหารไทยรับรองได้ชิมแล้วจะติดใจ” วันนี้ลงมือทำอาหารให้ดัสติน อยู่บ้านเฉยๆ รู้สึกฟุ้งซ่านตอนนี้เป็นเวลากว่าครึ่งเดือนที่เธออยู่กับเขา ซึ่งดัสตินกลับมานอนที่บ้านทุกคืนเขาไม่เคยออกนอกลูกนอกทางเลยสักครั้ง ซึ่งนิสัยเปลี่ยนจากหน้ามือไปเป็นหลังมือ “ทำอะไร” “คุณมาแล้วเฟย์ทำอาหารไทยให้คุณชิมค่ะ” ดัสตินมองอาหารแปลกตาที่วางอยู่บนโต๊ะ กลิ่นของมันหอมฟุ้งไปทั้งห้องอาหาร มิน่าเห็นลูกน้องดีใจอะไรกัน “เฟย์แบ่งให้ลูกน้องของคุณด้วยค่ะคงจะอิ่มกันแล้ว” “ทำไมต้องให้พี่กินคนสุดท้าย” โกรธที่พวกลูกน้องได้กินอาหารฝีมือของเฟรินทร์ก่อนเขา ใบหน้าของเขาบูดบึ้งเขาต้องเป็นคนแรกในทุกๆ เรื่องของเธอสิถึงจะถูก “เฟย์ตั้งใจทำให้คุณชิมเลยนะคะ” “พี่น้อยใจที่พวกนั้นได้กินอาหารฝีเมียก่อนพี่” “แต่จานนี้พิเศษใส่ใจ
ดัสตินรีบสั่งให้ลี่ถังพาเขากลับบ้านด่วน พอมาถึงเขาสอดตัวเข้าผ้าห่มกอดซุกไซ้หญิงสาวเล้าโลมคนที่หลับสนิท เมื่อได้ยินเสียงครางแผ่วเบา เขายิ้มอย่างพอใจและเริ่มรุกหนักขึ้น หญิงสาวสวมชุดนอนเนื้อลื่นทำให้เขาถอดออกอย่างง่ายดาย ‘อื้อหึ โนบราซะด้วย’ “อื้อออ”เธอรู้สึกรำคาญเมื่อมีคนมากวน คิดว่าตัวเองกำลังฝัน หญิงสาวเปิดเปลือกตาขึ้นมาอย่างช้าๆ เพราะรู้สึกเหมือนอะไรหนักกำลังวุ่นวายตรงหน้าตาของเธอ ภาพที่เห็นคือดัสตินกำลังขึ้นคร่อมเธอ “คุณดัสติน” “อื้อ วันนั้นยังไม่ได้ลองให้ชิมไอติมเลย” “ชิมอะไรตอนนี้คะ?” เวลาตีสองเนี้ยนะที่ชวนเธอไปลองชิมไอติม ใครเขาจะขายเวลานี้ “ไอติมแท่งอุ่นๆ กินแล้วฟินดูดแล้วขึ้นสวรรค์” ยัยหนูเขาหมายถึงเอ็นร้อนของเขาต่างหาก ไม่ได้หมายถึงไอติมแบบนั้น “ไม่เอาค่ะ” “ไม่ทันแล้วมาลองดูดเร็วเดี๋ยวจะติดใจ” “คนทะลึ่ง!” เฟรินทร์มองท่อนเอ็นที่กำลังชี้โด่ตรงหน้า มันใหญ่มากจนเธอกลัวมันจะเข้าปากไม่ได้ “ลองชิมมันดูสิหวานหอมอร่อยตีต่อใจ” เขาไม่พูดเปล่ายกหญิงสาวให้ขึ้นมานอนบนตัวเขา บังคับเธอด้วยสายตาให้ลองชิมไ
ดัสตินมองสิ่งที่อยู่ตรงหน้าของที่เขาอยากได้ตอนนี้กลายเป็นของเขาโดยสมบูรณ์ เขายิ้มอย่างพอใจไม่มีอะไรที่เขาอยากได้แล้วไม่ได้ “ทุกอย่างผมจัดการให้เรียบร้อยแล้วครับ” “นายโอนเงินเข้าบัญชีของเฟรินทร์ด้วยนะ” ถึงแม้หญิงสาวบอกไม่อยากได้ก็ไม่เป็นไร แต่เขาไม่ชอบเอาของใครมาฟรีๆ เฟรินทร์รู้ว่าเขาอยู่ที่ห้องทำงานจึงเดินตรงดิ่งเข้ามา เธอสวนทางกับคนของเขาพอดี ทักทายกันเล็กน้อยชายหนุ่มจึงรีบเดินออกไป มือบางกำลังจะเคาะประตูแต่ได้ยินบทสนทนาพอดี “ดีใจด้วยนะครับ ในที่สุดก็ได้ในสิ่งที่ต้องการแล้ว” โทนี่เหนื่อยกับอารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ ของเจ้านายเวลาที่อยู่กับเฟรินทร์ ดัสตินเปลี่ยนไปโดยที่เขาเองก็ไม่รู้ตัว ‘คนอื่นรู้โลกรู้แต่เจ้าตัวไม่รู้’ ดัสตินยิ้มมุมปากเขามองโฉนดที่ดินที่เคยเป็นชื่อของเฟรินทร์แต่ตอนนี้กลายมาเป็นของเขา ส่วนเรื่องหญิงสาวเขาจะคิดดูอีกทีจะปล่อยไปตอนไหนตอนนี้เขายังไม่เบื่อ“เสียเวลาชีวิตมาก ทำให้ทุกอย่างล่าช้าออกไป”“แล้วคุณเฟรินทร์ล่ะครับ ตอนนี้คุณเฟย์ไม่มีประโยชน์แล้ว”“ฉันยังไม่เบื่อเลย”ดัสตินตอบแบบไม่คิดเพราะเขาไม่อยากพูดเรื่องนี้กับลูกน้อง ถึงเวล
เฟรินทร์น้ำตาไหลพราก ขณะที่เธอนั่งถูกมัดมือมัดเท้าอยู่ในรถตู้คันสีดำ ความหวาดกลัวและความสงสัยเข้าปกคลุมใจ เธอไม่รู้เลยว่าพวกเขาคือใคร หากเป็นคนของดัสติน คงไม่มีทางทำกับเธอแบบนี้รถตู้ขับเคลื่อนต่อไปจนมันเลี้ยวเข้ามาจอดในโกดังแห่งหนึ่ง สถานที่ร้างๆ ที่ดูเหมือนจะอยู่ติดทะเล เพราะเธอสามารถได้ยินเสียงคลื่นกระทบฝั่งดังมาจากที่ไกลๆ เสียงคลื่นที่คุ้นเคยกลับทำให้เธอรู้สึกเคว้งคว้าง และรู้สึกถึงอันตรายที่อาจจะมาเยือนในทุกๆ วินาที “พวกคุณเป็นใครจับฉันมาทำไม” “ถึงเวลาเดี๋ยวก็รู้เอง” หญิงสาวถูกจับลากออกมายังท่าเรือ เธอพยายามขัดขืนแต่สู้แรงคนเหล่านั้นไม่ไหว หากตัวคนเดียวเธอไม่กลัวแต่นี่มีลูกในท้องอยู่ทำให้ความกลัวเกาะกินหัวใจ คนแรกที่นึกถึงคือผู้ชายใจร้ายคนนั้น ดัสตินโมโหที่เขามาช้าไปก้าวเดียวพวกมันได้ตัวเฟรินทร์ไปแล้ว เขาสั่งให้ลูกน้องนับร้อยชีวิตเตรียมตัวบุกไปกระทืบคนที่กล้าทำร้ายเมียของเขา “ตามมันไป” เขามือไม้สั่นภาวนาให้เฟรินทร์ปลอดภัย หญิงสาวร้องไห้เมื่อคนที่เดินออกมาเผชิญหน้ากับเอคือไห่ฉงคนที่เป็นพี่ชาย ไม่เข้าใจว่าเธอไปทำอะไรให้เขาถึงต้องทำขนา
ดัสตินอุ้มหญิงสาวขึ้นฝั่งอย่างทุลักทุเลเขาไม่ยอมให้ใครอุ้มหญิงสาว เขาวางเธอลงและทำ CPR ให้โดยไม่สนใจว่าตัวเองก็บาดเจ็บ ต่อให้เลือดไหลจนหมดตัวเขาก็ไม่สนเพราะคนที่อยู่ตรงหน้าเขานั้นสำคัญกว่า “เฟรินทร์ฟื้นสิ...อย่าทำแบบนี้ไม่เอาตื่นสิ” เขาผายปอดอยู่หลายครั้งจนหญิงสาวสำลักน้ำออกมา “นายใหญ่ผมจัดการเองครับ” “ไม่อย่ามาแตะต้องเมียกู” เขาเสียเลือดมากแต่อยากอยู่รอส่งเฟรินทร์ขึ้นรถไปโรงพยาบาล เมื่อรถเคลื่อนออกไปเขาล้มลงหมดสติ เสียงเครื่องมือการแพทย์ดังเปลี่ยนไปเป็นเสียงที่ไม่คุ้นเคย เมื่อเฟรินทร์เริ่มรู้สึกตัว ขนตามร่างกายขยับขึ้นเล็กน้อยเมื่อเธอสัมผัสถึงความเย็นของผ้าห่มที่ห่อรอบตัว นัยน์ตาของเธอเปิดขึ้นช้าๆ ค่อยๆ ปรับตัวให้คุ้นเคยกับแสงสว่างในห้องเสียงเครื่องตรวจชีพจรดังขึ้นพร้อมกับเสียงของหมอที่กำลังพูดคุยกับพยาบาลที่อยู่ข้างๆ“น้ำ...” เสียงของเธอเบามาก แต่ก็พอให้คนในห้องได้ยินหมอหันมามองเธอและยิ้มอย่างอ่อนโยน “คนไข้ปลอดภัยแล้วนะครับ”พยาบาลข้างๆ รีบเดินมาด้วยน้ำมะนาวสดให้เธอดื่ม “ดื่มน้ำนะคะ”หญิงสาวรับแก้วน้ำในมือ พยายามยกขึ้นดื่ม แม้ว่ามือของเธอยังคงสั่นเล
เหมยหลินกลับมาบ้านด้วยความเจ็บใจทำให้ความโกรธความเกลียดที่มีต่อเฟรินทร์เพิ่มมากกว่าเดิม เขายอมเสี่ยงชีวิตช่วยมันถ้าไม่รักจะเพราะอะไร ระหว่างที่กำลังนั่งเครียดมีตำรวจน้ำดีขอเข้ามาตรวจค้นภายในบ้าน และออกหมายจับไฉ่หงทำให้เหมยหลินแปลกใจว่าพี่ชายไปทำอะไรมา “ผมขอเข้าตรวจค้นในบ้านครับนี่หมายค้น และนี่หมายจับ” “นี่มันอะไรกันผมไม่เข้าใจ” ชิงอีมองหมายค้นในมือตำรวจ เหมยหลินยืนอยู่ด้านหลังของพ่อใจคอเริ่มไม่ดีเมื่อนึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดกับเฟรินทร์ “ไม่จริงลูกชายผมไม่ได้ทำแบบนั้น” “คุณเซี่ยไห่ฉงวางแผนและพยายามฆ่าคุณเฟรินทร์ ซึ่งเรามีหลักฐานในการเอาผิดรวมถึงการค้ายาเสพติดข้ามชาติ” ชิงอีแถมยืนไม่ไหวเมื่อได้ยินแบบนั้นเขาเสียใจมากที่รู้ว่าลูกชายทำแบบนั้น เขาเลี้ยงดูไห่ฉงมาอย่างดีแล้วทำไมถึงไม่รักดีไปทำเรื่องเลวทรามแบบนั้น ไห่ฉงที่แอบฟังได้ยินเลยกำลังจะหนีแต่ตำรวจเห็นเสียก่อน เขาจึงถูกจับร่างกายไม่อำนวยต่อการหนีเท่าไรเพราะคนของดัสตินเล่นงานเขาอย่างหนัก “ผมขอจับคุณเซี่ยไห่ฉงในข้อหาพยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และค้ายาเสพติดคุณมีสิทธิ์ที่จะปฏิเสธ
เฟรินทร์นั่งมองรูปอัลตราซาวล์ตอนนี้เธอไม่ได้ตัวคนเดียว กำลังมีอีกหนึ่งชีวิตในท้องเขาเป็นลูกของเธอคนเดียว จะไม่ยอมให้ใครมาแย่งลูกไปจากเธอ“คุณดัสตินติดต่อมาพี่เฟย์จะคุยไหมคะ” มินนี่เห็นสาวรุ่นพี่ไม่ค่อยมีความสุขเลยอยากให้ปรับความเข้าใจกัน“ไม่พี่ไม่อยากคุยกับเขา”“มินนี่พาไปเดินเล่นดีกว่าจะได้หายเครียด”“พี่ขอโทษนะ ที่ทำให้มินนี่รู้สึกไม่ดีไปด้วย” เธอไม่เหลือใครแล้วหากร่างกายแข็งแรงจะรีบกลับเมืองไทยทันที“คุณมินนี่ครับนายให้มาเรียก”มินนี่ออกมาหาแดนนี่ที่กำลังยืนสูบบุหรี่อยู่นอกระเบียง เรื่องนี้เธอกับเขาตกลงกันแล้วว่าให้เขาค่อยๆ เลิกบุหรี่ซึ่งเขาก็ตกลง“ไม่ต้องมาจูบไปปากเหม็น”“ฉันกำลังเลิกอยู่ก็เอาปากมินนี่มาให้ดูดแทนสิ” คนดูดบุหรี่มาตั้งแต่วัยรุ่นจนอายุสามสิบกว่า จะให้เลิกก็ยากแต่มันเลิกได้แต่ต้องใช้เวลาสักนิด จะหักดิบเลยเขาปรับตัวไม่ทัน“อย่ามาหื่นมินนี่จะพาพี่เฟย์ออกไปเดินเล่น”“เดี๋ยวให้คนตามไปห่างๆ อย่านาน” คิดถึงเมียช่วงนี้ชีวิตกำลังสงบสุข หากดัสตินหายเมื่อไรชีวิตคงคงมีสีมันขึ้นมา“เป็นห่วงเหรอคะ?” ตั้งแต่ตกลงคบหาดูใจกันเขาน่ารักขึ้นเยอะ แถมยังตามใจเธอทุกอย่าง“อยากอึ้บเมีย”“คน
หนึ่งสัปดาห์ที่เฟรินทร์เก็บตัวเงียบอยู่ในบ้านไม่ยอมออกไปไหน ชิงอีมารับลูกสาวตัวเองถึงมาเก๊าจนหญิงสาวต้องยอมกลับไป เพราะมั่นใจแล้วว่าไห่ฉงไม่มีทางกลับมาทำร้ายเธอได้อีก ส่วนเหมยหลินนั้นไม่มาวุ่นวายกับเธออีก เรื่องลูกในท้องมีแวบแรกที่เธอคิดอยากทำร้ายเขา เพราะไม่อยากให้ลูกมีชีวิตที่เหมือนเธอ เป็นลูกไม่มีพ่อเธอเคยผ่านความเจ็บปวดนั้นมา และไม่ยอมให้ลูกมีชีวิตแบบเธอเด็ดขาด เธอปรึกษากับหมอเรื่องเอาเด็กออก หมอบอกว่าสามารถทำได้หากเธอไม่พร้อมที่จะมีจริงๆ แต่หมอบอกให้กลับคิดดีๆ ก่อน แต่พอคิดไปคิดมาลูกนั้นเป็นเหมือนตัวแทนความรักของเธอที่มีให้ดัสติน จะใจร้ายทำร้ายเขาลงได้อย่างไรในเมื่อเขาตั้งใจมาเกิดแล้ว “แกท้องได้กี่สัปดาห์แล้วทำไมไม่เห็นท้องโตเลย” เหมยหลินตอนที่รู้ว่าน้องสาวท้องนั้นตกใจไม่น้อย แต่ลึกๆ ก็เห็นใจเฟรินทร์ที่ต้องอุ้มท้องลูกของดัสตินแถมตอนนี้เหมือนว่าความรักจะไปกันไม่รอดอีก เลยเห็นใจในฐานะผู้หญิงด้วยกัน “7 สัปดาห์ค่ะ” “ไม่คิดจะกลับไปหาเขาเหรอ ไม่เห็นเขาจะมาง้อแกเลย” “ไม่ค่ะเฟย์เลี้ยงลูกเองได้” “อย่าหาว่าฉันสอนเลยนะ.
เสียงร้องไห้ของเด็กทารกดังขึ้นท่ามกลางความเงียบสงัดของค่ำคืน ราวกับเสียงระฆังเตือนภัยที่ปลุกให้คนเป็นพ่อสะดุ้งตื่นขึ้นจากสภาพกึ่งหลับกึ่งตื่น ดัสตินยันตัวลุกขึ้นจากเตียง มือขยี้ตาที่หนักอึ้งและชุ่มไปด้วยความเหนื่อยล้า ก่อนจะก้าวไปอุ้มร่างน้อยขึ้นมาแนบอก “โอ๋ๆ ไม่ร้องนะครับลูก” เขาพึมพำเสียงแหบพร่า กดจูบเบาๆ บนหน้าผากของเจ้าตัวเล็กที่กำลังสะอื้น ร่างน้อยดิ้นขลุกขลักในอ้อมแขน พยายามผลักอกเขาเล็กน้อยเหมือนไม่พอใจอะไรสักอย่าง เขาถอนหายใจยาวพยายามไกวตัวลูกไปมา หัวของเขาหนักอึ้งราวกับมีหินก้อนใหญ่ทับเอาไว้ ดวงตาแดงก่ำและใต้ตาคล้ำลึกเป็นวง เหมือนหมีแพนด้าที่อดนอนมาสามวันติด เขาลองเปลี่ยนท่าอุ้ม ลองร้องเพลงกล่อม ลองพาเดินวนรอบห้อง แต่ทุกอย่างดูจะไม่เป็นผล เฟรินทร์ตื่นขึ้นมาพอดีจึงได้เห็นภาพนั้นพอดี ผู้ชายตัวโตที่อุ้มลูกไม่ค่อยเป็นกลางคืนเป็นหน้าที่เขาที่ต้องลุกขึ้นมาอุ้มลูกยามที่ลูกร้อง “ทำไมไม่นอนครับลูก…” น้ำเสียงของเขาเจือไปด้วยความอ่อนล้าและสิ้นหวัง ทารกน้อยในอ้อมแขนยังคงแผดเสียงร้องไม่หยุด เวลาผ่านไปเป็นชั่วโมงจนสุดท้าย เมื่อไม่มีแรงแม้แต่จ
เหงื่อซึมทั่วใบหน้าซีดเซียว ดวงตากลมโตเต็มไปด้วยความเจ็บปวด น้ำตาไหลอาบแก้มขณะกำมือแน่นจนเล็บจิกเข้าเนื้อ“อึก...!” เสียงครางลอดออกมาจากลำคอ เธอรู้สึกเหมือนร่างทั้งร่างกำลังจะแตกเป็นเสี่ยง“สูดลมหายใจเข้าไว้! อีกนิดเดียวค่ะคุณแม่!”เสียงปลอบโยนจากหมอและพยาบาลดังก้องในโสตประสาท แต่ทุกอย่างรอบตัวกลับพร่ามัว เธอไม่มีแรงแม้แต่จะตอบรับมืออุ่นของใครบางคนกอบกุมมือเธอไว้แน่น ดวงตาคมเข้มเต็มไปด้วยความเป็นห่วง“อดทนไว้นะเมียจ๋า... พี่อยู่ตรงนี้”เสียงทุ้มต่ำของเขาสั่นเครือ เธอกัดฟันแน่น ก่อนจะเบ่งแรงสุดท้ายเสียงร้องแหลมเล็กดังก้องไปทั่วห้อง พร้อมกับลมหายใจของเธอที่เหมือนถูกดึงกลับมาอีกครั้ง น้ำตาที่เอ่อคลอร่วงเผาะลงข้างแก้ม แต่ครั้งนี้เป็นน้ำตาแห่งความสุข“ลูกของเรา...” เธอพึมพำเสียงแผ่ว ขณะที่พยาบาลวางร่างเล็กๆ ไว้แนบอก“หน้าตาน่าเกลียดน่าชังจัง”หัวใจของเธอเต้นแรง แต่ไม่ใช่เพราะความกลัวหรือความเจ็บปวดอีกต่อไป เป็นเพราะชีวิตน้อยๆ ที่เธออุ้มอยู่ในอ้อมแขนก่อนหน้านี้“อื้ม...!” เสียงครางเบาๆ ทำให้ร่างสูงที่กำลังนั่งเอนหลังอยู่บนโซฟาสะดุ้งสุดตัว เขาหันขวับไปมองคนบนเตียง คนที่กำลังจับท้องตัวเองแ
เฟรินทร์มองหน้าคนที่เข้ามาบุกรุกห้องนอนของเธอ เขากระโดดขึ้นเตียงโดยที่เธอยังไม่ได้อนุญาต ตั้งแต่เกิดเหตุเขาหายเงียบไปสองสัปดาห์ไม่ยอมส่งข่าว ปล่อยให้เธอคิดไปฝ่ายเดียว และวันนี้เข้าโผล่หน้ามาทั้งโกรธทั้งคิดถึงเป็นห่วงเขาสารพัด แต่คนตรงหน้าเหมือนจะไม่รู้สึกผิด “มานอนสิจ๊ะเมียจ๋าไม่คิดถึงผัวเหรอ” “คุณตลกมากเหรอคะคุณดัสติน” เธอทั้งกินไม่ได้นอนไม่หลับเพราะเป็นห่วงเขา แต่เขากลับทำหน้าระรื่นเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น “พี่แค่ปล่อยข่าวลือน่าตอนนี้พี่กลับมาครบ 32” “ไม่ต้องมาจับ!” เธอเบี่ยงตัวหนีไม่ยอมให้เขาแตะต้องตัว “ที่รักขา~ พี่ผิดไปแล้วมาให้พี่ทักทายลูกหน่อย” “เราเลิกกันเถอะค่ะ เฟย์ไม่อยากให้ลูกตกอยู่ในอันตรายแบบคุณ” เธออยากใช้ชีวิตแบบปกติไม่ต้องคอยมีบอดี้การ์ดล้อมหน้าล้อมหลัง ชีวิตอยู่บนเส้นด้ายตลอดเวลา “ไม่เลิกให้ตายก็ไม่เลิก” พยานรักอยู่ในท้องแท้ๆ “นั่นเป็นปัญหาของคุณค่ะเราทำหน้าที่พ่อแม่ก็พอ” “ไม่เลิกพี่ไม่เลิก!” ต่อเอามีดมาจ่อที่คอก็ไม่มีวันเลิกเด็ดขาด “ออกไปค่ะ” “เฟย์ทำไมงี่เง่าจังเลยมันคืองาน
ประตูห้องฉุกเฉินปิดลงดัสตินหัวใจสลายเอาแต่โทษตัวเองว่าเป็นเพราะเขาที่ดูแลเฟรินทร์กับลูกไม่ดี น้ำตาเขาไหลออกมาอย่างไม่อายสายตาของใคร เสื้อเชิ้ตสีขาวเปื้อนไปด้วยเลือดจนเปลี่ยนไป เสียงลมหายใจของเธอหนักขึ้น...เหงื่อเย็นผุดขึ้นเต็มหน้าผากของเฟรินทร์ ขณะที่เธอนอนซมอยู่บนเตียงคนไข้ มือขาวซีดกำผ้าปูแน่น ร่างกายสั่นสะท้านเพราะความเจ็บปวดที่แล่นเข้ามาเป็นระลอก "หมอ...ช่วยลูกฉันด้วย..." เสียงของเธอสั่นเครือ ดวงตาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว หมอไม่พูดอะไรให้เสียเวลา เขาขยับเข้ามาตรวจร่างกายเธออย่างเร่งด่วน สีหน้าเคร่งเครียดขณะมองจอมอนิเตอร์ที่แสดงอาการของทั้งแม่และเด็ก ในขณะที่เฟรินทร์กัดริมฝีปากแน่น น้ำตาเอ่อคลอจากความทรมาน "ยาได้แล้วค่ะ หมอ" พยาบาลส่งเข็มฉีดยาให้ หมอรับมาและรีบฉีดยาเข้าทางสายน้ำเกลือ พลางเฝ้าดูอาการของเธออย่างใกล้ชิด ทุกวินาทีช่างยาวนานเหลือเกิน หญิงสาวรู้สึกได้ถึงความเจ็บที่ค่อยๆ ทุเลาลง หัวใจของเธอเต้นระรัวด้วยความหวัง "ลูก...ลูกปลอดภัยไหมคะ?" หมอยิ้มบางๆ "ปลอดภัยแล้ว แต่อีกไม่กี่วันคุณต้องพักผ่อนให้มาก ห้ามเครี
“สวัสดีค่ะนายหญิงเมื่อคืนหลับสบายดีไหมคะ” “หลับสบายมากเลยค่ะ แต่มีรู้ว่ามีผีที่ไหนมาร้องห่มร้องไห้ทั้งคืน” พูดแล้วหันไปมองคนที่นั่งอยู่หัวโต๊ะ ขอบตาดำยิ่งกว่าหมีแพนด้า “ตายจริงโจรหรือเปล่าคะ” “โจรที่ไหนมันจะกล้าเข้ามาเหยียบที่นี่” แม้แต่แมลงสักตัวไม่อาจบินผ่านเข้ามาได้ ดัสตินนั่งทานอาหารเช้าเงียบๆ เมื่อเช้าดีนะตื่นก่อนหญิงสาวไม่อย่างนั้นคงโวยวายบ้านแตกที่ถูกเขาลวนลามตอนที่เธอหลับ “คุณลี่ถังไปส่งเฟย์ที่โรงแรมx หน่อยค่ะ” วันนี้เธอแต่งตัวสวยเพราะมีงานสำคัญ อย่าคิดว่าไม่รู้เมื่อคืนเขาแอบทำอะไรกับเธอ “ไปทำไม” อยู่ดีๆ จะไปโรงแรมไอ้แดนนี่ “ชิ” เฟรินทร์ไม่ตอบเดินไปรอลี่ลังที่รถดัสตินไม่รอช้ารีบเข้าไปนั่งในรถ จนมาถึงโรงแรมเขาถึงนึกขึ้นได้ว่าวันนี้เป็นงานหมั้นของแดนนี่ เฟรินทร์เดินเข้ามาในห้องจัดเลี้ยงของโรงแรมหรู โดยมีดัสตินเดินตามหลังและลูกน้องของเขาเดินตามเป็นโขยง หลายคนกำลังคิดว่าสาวน้อยคนนี้คงมีความหมายสำหรับเขามากชายหนุ่มดูหวงแหน “มาแล้วเหรอพี่ชาย” “แด๊ดกับหม่ามี้ยังไม่กลับมาจากเที่ยวรอบโลก ไว้งานแต่งท่านต้องม
ดัสตินพาหญิงสาวกลับมาที่เซฟเฮาส์ในมาเก๊าเขาค่อยๆ วางหญิงสาวลงบนเตียงกลัวว่าคนตัวเล็กจะตื่น เขานั่งมองใบหน้าของเธอและหอมแก้มทั้งว้ายและขวาเวลานี้อะไรก็ยอมทุกอย่างขอแค่หญิงสาวไม่หนีไปจากเขาก็พอ เขาเดินมาส่องกระจกหน้าแดงบวมแดงแต่ไม่คิดโกรธเมีย“ผมเอายามาให้ครับ”“อื้อ ขอบใจ”“ทานยาแก้ปวดก่อนดีกว่าครับ”ดัสตินยอมทานยาเพราะตอนนี้เขาปวดแผลมาก ตอนที่อุ้มเมียไม่รู้สึกเจ็บเท่าไร เขานั่งลงนั่งมองออกไปนอกหน้าต่าง“โทนี่”“ครับ”“นายทำงานกับฉันมากี่ปีแล้ว?”“14 ปีแล้วครับ” ถามแบบนี้คงไม่คิดจะให้กันออกใช่ไหม รู้สึกเสียวสันหลังวาบ“ตอนนี้นายอายุ 36 แล้วหนิ...” เขาเว้นจังหวะการพูด “นายง้อผู้หญิงยังไงวะ นายอายุเยอะกว่าฉันน่าจะมีประสบการณ์มาก่อน”ไอ้โทนี่เป็นขี้ข้ารับใช้นายตั้งแต่เรียนจบจนอายุปูนนี้ยังไม่มีเมียตัวเป็นตน เขาไม่เคยจีบสาวมาก่อนและจะตอบคำถามเจ้านายยังไง“ถ้าตอบว่าไม่เคยจีบสาวมาก่อนเสียชาติเกิดมาก”แรงมาก แล้วตัวเองไม่เคยจีบสาวมาก่อนเหมือนกัน ถึงได้ทุกข์ระทมตกนรกแสนหมื่นล้านครั้งแบบนี้ ทำงานถวายหัวจะเอาเวลาที่ไหนไปจีบสาว“ผม...”“มึงตอบดีๆ” เขาคาดหวังกับคำตอบของโทนี่มาก จะได้ตามง้อเฟรินทร
หนึ่งสัปดาห์ที่เฟรินทร์เก็บตัวเงียบอยู่ในบ้านไม่ยอมออกไปไหน ชิงอีมารับลูกสาวตัวเองถึงมาเก๊าจนหญิงสาวต้องยอมกลับไป เพราะมั่นใจแล้วว่าไห่ฉงไม่มีทางกลับมาทำร้ายเธอได้อีก ส่วนเหมยหลินนั้นไม่มาวุ่นวายกับเธออีก เรื่องลูกในท้องมีแวบแรกที่เธอคิดอยากทำร้ายเขา เพราะไม่อยากให้ลูกมีชีวิตที่เหมือนเธอ เป็นลูกไม่มีพ่อเธอเคยผ่านความเจ็บปวดนั้นมา และไม่ยอมให้ลูกมีชีวิตแบบเธอเด็ดขาด เธอปรึกษากับหมอเรื่องเอาเด็กออก หมอบอกว่าสามารถทำได้หากเธอไม่พร้อมที่จะมีจริงๆ แต่หมอบอกให้กลับคิดดีๆ ก่อน แต่พอคิดไปคิดมาลูกนั้นเป็นเหมือนตัวแทนความรักของเธอที่มีให้ดัสติน จะใจร้ายทำร้ายเขาลงได้อย่างไรในเมื่อเขาตั้งใจมาเกิดแล้ว “แกท้องได้กี่สัปดาห์แล้วทำไมไม่เห็นท้องโตเลย” เหมยหลินตอนที่รู้ว่าน้องสาวท้องนั้นตกใจไม่น้อย แต่ลึกๆ ก็เห็นใจเฟรินทร์ที่ต้องอุ้มท้องลูกของดัสตินแถมตอนนี้เหมือนว่าความรักจะไปกันไม่รอดอีก เลยเห็นใจในฐานะผู้หญิงด้วยกัน “7 สัปดาห์ค่ะ” “ไม่คิดจะกลับไปหาเขาเหรอ ไม่เห็นเขาจะมาง้อแกเลย” “ไม่ค่ะเฟย์เลี้ยงลูกเองได้” “อย่าหาว่าฉันสอนเลยนะ.
เฟรินทร์นั่งมองรูปอัลตราซาวล์ตอนนี้เธอไม่ได้ตัวคนเดียว กำลังมีอีกหนึ่งชีวิตในท้องเขาเป็นลูกของเธอคนเดียว จะไม่ยอมให้ใครมาแย่งลูกไปจากเธอ“คุณดัสตินติดต่อมาพี่เฟย์จะคุยไหมคะ” มินนี่เห็นสาวรุ่นพี่ไม่ค่อยมีความสุขเลยอยากให้ปรับความเข้าใจกัน“ไม่พี่ไม่อยากคุยกับเขา”“มินนี่พาไปเดินเล่นดีกว่าจะได้หายเครียด”“พี่ขอโทษนะ ที่ทำให้มินนี่รู้สึกไม่ดีไปด้วย” เธอไม่เหลือใครแล้วหากร่างกายแข็งแรงจะรีบกลับเมืองไทยทันที“คุณมินนี่ครับนายให้มาเรียก”มินนี่ออกมาหาแดนนี่ที่กำลังยืนสูบบุหรี่อยู่นอกระเบียง เรื่องนี้เธอกับเขาตกลงกันแล้วว่าให้เขาค่อยๆ เลิกบุหรี่ซึ่งเขาก็ตกลง“ไม่ต้องมาจูบไปปากเหม็น”“ฉันกำลังเลิกอยู่ก็เอาปากมินนี่มาให้ดูดแทนสิ” คนดูดบุหรี่มาตั้งแต่วัยรุ่นจนอายุสามสิบกว่า จะให้เลิกก็ยากแต่มันเลิกได้แต่ต้องใช้เวลาสักนิด จะหักดิบเลยเขาปรับตัวไม่ทัน“อย่ามาหื่นมินนี่จะพาพี่เฟย์ออกไปเดินเล่น”“เดี๋ยวให้คนตามไปห่างๆ อย่านาน” คิดถึงเมียช่วงนี้ชีวิตกำลังสงบสุข หากดัสตินหายเมื่อไรชีวิตคงคงมีสีมันขึ้นมา“เป็นห่วงเหรอคะ?” ตั้งแต่ตกลงคบหาดูใจกันเขาน่ารักขึ้นเยอะ แถมยังตามใจเธอทุกอย่าง“อยากอึ้บเมีย”“คน
เหมยหลินกลับมาบ้านด้วยความเจ็บใจทำให้ความโกรธความเกลียดที่มีต่อเฟรินทร์เพิ่มมากกว่าเดิม เขายอมเสี่ยงชีวิตช่วยมันถ้าไม่รักจะเพราะอะไร ระหว่างที่กำลังนั่งเครียดมีตำรวจน้ำดีขอเข้ามาตรวจค้นภายในบ้าน และออกหมายจับไฉ่หงทำให้เหมยหลินแปลกใจว่าพี่ชายไปทำอะไรมา “ผมขอเข้าตรวจค้นในบ้านครับนี่หมายค้น และนี่หมายจับ” “นี่มันอะไรกันผมไม่เข้าใจ” ชิงอีมองหมายค้นในมือตำรวจ เหมยหลินยืนอยู่ด้านหลังของพ่อใจคอเริ่มไม่ดีเมื่อนึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดกับเฟรินทร์ “ไม่จริงลูกชายผมไม่ได้ทำแบบนั้น” “คุณเซี่ยไห่ฉงวางแผนและพยายามฆ่าคุณเฟรินทร์ ซึ่งเรามีหลักฐานในการเอาผิดรวมถึงการค้ายาเสพติดข้ามชาติ” ชิงอีแถมยืนไม่ไหวเมื่อได้ยินแบบนั้นเขาเสียใจมากที่รู้ว่าลูกชายทำแบบนั้น เขาเลี้ยงดูไห่ฉงมาอย่างดีแล้วทำไมถึงไม่รักดีไปทำเรื่องเลวทรามแบบนั้น ไห่ฉงที่แอบฟังได้ยินเลยกำลังจะหนีแต่ตำรวจเห็นเสียก่อน เขาจึงถูกจับร่างกายไม่อำนวยต่อการหนีเท่าไรเพราะคนของดัสตินเล่นงานเขาอย่างหนัก “ผมขอจับคุณเซี่ยไห่ฉงในข้อหาพยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และค้ายาเสพติดคุณมีสิทธิ์ที่จะปฏิเสธ