ปลายฟ้าทิ้งท้ายคำพูดไว้พร้อมกับสายตา ก่อนจะเดินนำหน้าเขากลับมาที่รถ หญิงสาวเปิดประตูรถยนต์แล้วโน้มตัวเข้าไปหยิบแก้วกาแฟของตน ในขณะเดียวกันก็ได้ยินเสียงของอีกคน ตะโกนเรียกชื่อของเธอเสียงดังขึ้นมาว่า“ปลาย!...หมอบลง มีคนจะยิงคุณ!”หญิงสาวตื่นตกใจกลัวขณะยัดตัวเข้าไปนั่งขดอยู่ข้างประตูรถ พร้อมกับกรีดร้องจนตัวสั่นด้วยความเสียขวัญอยู่ในนั้น แต่มันกลับไม่มีอะไรสักอย่างตามที่เขาได้ว่าเอาไว้ปลายฟ้าค่อยๆ ลืมตาขึ้นมามอง เมื่อเห็นเจ้าของร่างใหญ่เดินออกมาแล้วนั่นหละ หญิงสาวถึงได้รู้ว่าตัวเองถูกเขาหลอก เธอจึงรีบลุกออกมา พร้อมกับกรีดร้องใส่หน้าคนตัวโตกว่า เพราะรู้สึกโมโหเขาจนตัวสั่น“คนบ้า!...คุณกล้าดียังไงฮะถึงได้มาหลอกฉัน?”“ก็แค่ซ้อม...เพราะผมต้องการจะดูความพร้อมของคุณ....”“คุณคงชอบหลอกเล่นกับความรู้สึกของคนอื่นจนติดเป็นนิสัย”“แล้วแปลกตรงไหน? ในเมื่อคุณยังกล้าหลอกผมเลย คุณหลอกให้ผมรอแล้วก็หนีกลับมาประเทศของคุณ คิดบ้างหรือเปล่าว่าการที่ผม ยอมมารับจ้างเพื่อเป็นคนคุ้มกันให้กับคุณมันเป็นเรื่องที่สนุกน่ะ”อยู่ๆ คิมหันต์ก็พูดเรื่องอดีตของเขากับเธอขึ้นมาโดยไม่บอกกล่าว ทำเอาเจ้าตัวถึงกับหน้าเหวอ จนเผ
“ให้พวกเราตามพวกมันไป ดีไหมครับหัวหน้า?”ลูกน้องที่คอยรอรับคำสั่งเอ่ยถาม แต่คิมหันต์กลับห้ามเอาไว้“ไม่ต้องตามพวกมันไป โทรไปถามคนคุ้มกันของเราที่อยู่บ้านของคุณผู้หญิงกับหลานสาวให้ผมก่อน ว่าทางนั้นยังปลอดภัยดีหรือเปล่า...เร็วเข้า!...รีบไปเช็คให้ผมเดี๋ยวนี้!”ปลายฟ้าสะดุ้งสุดตัว เมื่อได้ยินเขากล่าวถึงคนเป็นมารดากับลูกสาวของตนคนตัวเล็กกว่าหยัดตัวลุกขึ้นยืน ก่อนจะถามอีกฝ่ายกลับไปด้วยน้ำเสียงห้วนตึง และยังดึงสีหน้าใส่เพื่อให้เขาได้รู้ว่าเธอกำลังไม่พอใจ“หมายความว่ายังไง? นี่คุณรู้กระทั่งบ้านพักของคุณแม่ และลูกสาวของฉันด้วยยังงั้นเหรอ?”ชายหนุ่มหันมามองหน้าเธอด้วยสายตาไม่เข้าใจ เขามีความรู้สึกหงุดหงิดอยู่บ้าง ก่อนจะหันมาตอบคำถามเพื่อไขข้อข้องใจทุกอย่างให้กับเธอ“ผมก็ต้องรู้ทุกอย่าง เกี่ยวกับคนที่เป็นนายจ้างของผมสิคุณ...ผมรู้ว่าคุณมีลูกสาวชื่อว่าคุณหนูแป้งร่ำอายุสี่ปีกว่า แต่มีอย่างหนึ่งนะที่ผมไม่รู้..." เจ้าของใบหน้าคมคายละคำพูด ขณะที่ใช้สายตาของตนสะกดอีกคนเอาไว้"ผมยังไม่รู้ว่าผัวใหม่ของคุณ...ที่เป็นพ่อของคุณหนูแป้งร่ำมันคือใคร?”!!!เมื่อได้ฟัง...ปลายฟ้าจึงรีบตั้งสติและบอกกับตัวเองเอาไว้
“เมื่อก่อนเคยเป็นคุณพ่อที่เป็นคนขอให้ฉันคล้องแขนของท่าน แต่ตอนนี้สถานะของเรามันต่างกัน อีกอย่างคนข้างนอกก็รู้ดีว่าคุณเป็นใคร หรือที่คุณอยากจะให้ฉันทำแบบนี้ เพราะต้องการจะเลื่อนสถานะของตัวเองใช่หรือเปล่า? แล้วคนรักของคุณละ...คุณไม่กลัวว่าเธอจะมาเห็นเข้ารึยังไง?”“คุณควรจะกลัวพ่อของลูกคุณ มาเห็นเข้ามากกว่านะปลาย...”เจ้าของร่างใหญ่พูดจี้ใจดำ จึงทำให้ปลายฟ้าหันขวับมามองหน้าเขาด้วยนัยน์ตาขุ่นขวาง เป็นจังหวะเดียวกันกับที่ชายหนุ่มได้จับเอามือบางของหญิงสาว สอดเข้ามาภายในวงแขนของเขา เท่านั้นยังไม่พอ เจ้าตัวยังเอียงหน้าเข้ามากระซิบเบาๆ ที่ข้างใบหูของเธอต่ออย่างจงใจ“คุณพ่อของคุณเพิ่งจะตายไปได้ไม่นาน คุณอยากจะเดินตัวคนเดียวให้ใครต่อใครเขาเห็นหรือไงว่าคุณไม่มีที่พึ่งพา หรือคุณคิดว่าเหตุการณ์ที่เพิ่งจะเกิดขึ้นมานั่น มันยังไม่หนักหนาสาหัสมากพอ ที่จะทำให้คุณได้รู้จักวิธีการเอาตัวรอดหรือการปกป้องตัวเอง”“แต่มันไม่จำเป็นจะต้องเดินคล้องแขนกันเลยนี่ แล้วฉันไม่เห็นว่าจะมีใครเขาทำกันเลยสักคู่”คิมหันต์ทำเป็นหูทวนลมไม่สนใจ เขาเดินนำพร้อมกับบังคับให้หญิงสาวเดินตามเข้าไปในห้องของการประมูลนั่นพร้อมๆ กัน“
“ลูกสาวของไอ้เจ้าสัวมันมีผัวแล้วเหรอวะ? ทำไมกูถึงไม่เคยได้ยินข่าว?”“ข้อมูลตรงนี้ผมเองก็ไม่รู้เหมือนกันครับเจ้านาย รู้แค่ว่าไอ้หมอนี่มันมาป้วนเปี้ยนอยู่กับเจ้าสัว ตั้งแต่ตอนที่เราจะส่งคนไปเก็บลูกสาวของมันนั่นแหละ แต่หลักๆ ก็มักจะเห็นมันอยู่ใกล้ชิด และตามติดคุณหนูปลายฟ้าตลอดเวลาเลยนะครับเจ้านาย”“ไอ้เจ้าสัวมันคงจะหาผัวให้กับลูกสาว ก่อนหน้าที่ตัวเองจะตายได้แล้วนะสิ...แหม...ไอ้เราก็นึกเสียดายอยู่เหมือนกัน สวยขาวเซ็กซี่แถมยังหุ่นดีน่าฟัดน่าเอาซะขนาดนั้น กูจะเอามันแม่งทั้งวัน จนให้มันคลานลงจากเตียงแทบไม่ได้เลย ฮ่าๆๆ”เสียงหัวเราะชอบใจของเจ้านายกับลูกน้อง ดังก้องประสานกันอย่างไม่คิดจะเกรงใจแขกที่นั่งอยู่ด้วยกันบริเวณนั้นเลยสักนิดถึงแม้ปลายฟ้าจะไม่รู้ว่าพวกมันกำลังพูดคุยเรื่องอะไรกัน แต่คิมหันต์กลับรู้ทุกอย่าง และยังได้ยินทุกคำพูด ที่พวกมันกำลังพูดกันอยู่นั่นหละทั้งที่เพิ่งจะเตือนสติเธอไปแท้ๆ แต่ทว่าความโกรธมันกลับวกเข้ามาหา เมื่อรู้ว่าอีกฝ่ายพูดถึงปลายฟ้าว่ายังไงบ้าง...คิมหันต์ได้สั่งคนของตนที่ปะปนอยู่ในห้องนี้ ติดเครื่องดักฟังเอาไว้ใต้เก้าอี้ตรงตำแหน่งที่นายชลทิศนั่งอยู่ โดยอาศัยเส้นสาย
หลังจากงานประมูลเสร็จสิ้นลง คิมหันต์รู้ว่าปลายฟ้าคงจะเหนื่อยมาก เขาจึงอยากจะอาสาพาหญิงสาวไปหาอาหารมื้อค่ำรับประทานด้วยกัน แต่ไม่ว่าจะขับรถวนไปสักกี่ร้าน สุดท้ายก็ไม่มีร้านไหนที่พอจะมีโต๊ะว่างให้นั่งได้เลยอันที่จริงถ้าเพียงแค่ปลายฟ้าใช้ชื่อเสียง หรือความกว้างขวางที่ตนมี ก็คงจะหาที่นั่งได้อย่างไม่ลำบาก แต่เธอไม่ใช่คนเรื่องมากและไม่อยากทำให้คนอื่นต้องมาเดือดร้อนเพราะตนเองท้ายที่สุดอาหารมื้อค่ำของปลายฟ้าก็คือร้านกระเพาะปลาข้างทาง หญิงสาวเดินไปนั่งที่โต๊ะอย่างไม่รู้สึกเขินอาย ทั้งที่เธอเองก็เป็นคนที่ได้ขึ้นชื่อว่าร่ำรวยจนล้นฟ้าคิมหันต์นั่งมองเสี้ยวหน้าด้านข้างของหญิงสาว ที่กำลังจ้องมองไปที่พ่อค้ากระเพาะปลาอย่างใจจดจ่อ คล้ายกับกำลังรอว่าเมื่อไหร่จะถึงคิว เพราะเธอกำลังหิวมาก และอยากจะกินทุกอย่างที่ขวางหน้าหากว่าทำได้“มองอะไร!? ไม่เคยเห็นคนหรือไง?” ปลายฟ้าหันมาว่าพร้อมกับชักสีหน้าใส่คิมหันต์หัวเราะหึหนักๆ ในลำคอก่อนจะตอบเธอกลับไปด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง“ผมก็แค่รู้สึกประหลาดใจกับสิ่งที่คุณกำลังทำ เพราะเมื่อก่อนตอนที่เราอยู่ด้วยกัน ผมไม่ยักรู้ว่าคุณชอบกินอาหารข้างทาง ถึงขนาดกล้าลงทุนมานั่งรอ
“ผมปรุงให้...แซ่บกว่า...” “......”เขาว่าอีกทั้งยังมองสบตากับปลายฟ้าที่ยังรวบรวมเส้นเสียงของตัวเองไม่ได้...หรืออีกทีก็คิดคำพูดที่จะโต้อีกฝ่ายกลับไปไม่ทัน“นั่นเป็นเพราะผมรู้ว่าคุณชอบกินอาหารรสชาติยังไง....เอาเผ็ดๆ นะ...จะได้ซี้ดดังๆ”“นิ้คุณ!”“ผมปรุงเสร็จแล้ว...กินก่อนเดี๋ยวค่อยโวยวาย...”เขาชิงแทรกขึ้นมาหน้าตาย ก่อนจะเลื่อนชามกระเพาะปลามาวางไว้ให้ตรงหน้าของปลายฟ้า ที่กำลังทำท่าจะแปลงร่างเป็นนางมารร้าย เหมือนกับในละครหลังข่าว แต่ชายหนุ่มก็ไม่ได้สนใจเท่าไหร่นัก นอกจากตักกระเพาะปลาในชามของตนขึ้นมาชิมโดยที่ไม่ได้ปรุงอะไรลงไปเลย ความลำบากในช่วงเวลาที่เขาเคยอยู่ในสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้า มันช่วยสอนให้เขารู้ว่ากินอะไรเข้าไปก็ได้ เพื่อใช้ประทังชีวิตให้อยู่รอดตายไปวันๆ แต่วันนี้สำหรับเขามันกลับพิเศษมากกว่า เพียงเพราะมีเธอนั่งอยู่ตรงหน้า หลังจากที่เขาเฝ้าตามหาเธอมาหลายปี ความดีใจลึกๆ ที่ฝังอยู่ในใจมันเลยทำให้ชายหนุ่มพูดออกมาเบาๆ ราวกับกำลังเผลอตัว “ได้อยู่กับคนที่รัก แค่นี้ก็มีความสุขมากที่สุดแล้ว...”พรวด!แค้ก!ๆๆปลายฟ้าสำลักทันทีที่ได้ยิน จนถูกกระเพาะปลาร้อนๆ นั่นลวกลิ้น เพราะเผลอเอาเข้าป
ชายร่างใหญ่นอนนิ่งไม่ไหวติงอยู่กับพื้น ส่วนแขกโต๊ะอื่นๆ ที่กำลังนั่งกินกัน รีบลุกขึ้นมากรีดร้องโวยวายเสียงดังลั่น ด้วยความตื่นตกใจ คิมหันต์กวาดสายตาดุดัน ขณะเอ่ยถามพวกมันออกไปเสียงห้วนดัง“มีใคร...อยากเจ็บตัวกันอีกบ้างมั้ย? กูจะให้โอกาสพวกมึงได้เลือก ว่าจะกินกันให้เสร็จเสียก่อน หรือจะนอนที่นี่แล้วไปตื่นกันอีกที...ที่โรงพยาบาล...”พวกอันธพาลที่เหลือเหล่านั้นพากันหน้าซีด ก่อนจะรีบควักเงินจ่ายค่าอาหาร แล้วช่วยกันหามเพื่อนที่นอนสลบเหมือดนั่น ไปส่งโรงพยาบาลทันที...เมื่อเรื่องทุกอย่างสงบลงได้ เถ้าแก่ร้านจึงเดินมาเก็บเงิน ที่พวกมันวางเอาไว้ จากนั้นจึงหันมายกนิ้วหัวแม่มือให้กับคิมหันต์ ขณะที่เอ่ยปากชม“ขอบใจมากนะพ่อหนุ่ม ฉันรำคาญพวกมันเต็มที ไอ้แขกโต๊ะนี้มันมากินกันวันไหน ลูกค้าสาวๆ ของเราก็จะพากันหายไปหมด ดีนะที่วันนี้พวกมัน ดันมาเจอตออย่างพ่อหนุ่มเข้าอย่างจัง วันหน้าวันหลังจะได้ไม่กล้าหาเรื่องกับใคร โดนครั้งนี้เข้าไปก็คงจะเข็ดหลาบกันไปอีกนาน ”ปลายฟ้ายิ้มหน้าบาน ราวกับตนเองเป็นคนที่ถูกเจ้าของร้านชม ทั้งที่ตัวเองนั่นแหละที่เป็นสารตั้งต้น ของเรื่องที่ทำให้คนตีกันจนเกือบตายคนเป็นบอดี้การ์ดไ
ภายในสมองของปลายฟ้าหมุนคว้าง คล้ายกำลังหลุดลอยออกไปอยู่กลางอากาศ เมื่อถูกสัมผัสหนักๆ ที่ขยำลงมาจากฝ่ามือใหญ่ กระทั่งปลายลิ้นพลิ้วไหวก็กำลังหยอกเย้ากับสองเต้าที่เขาโปรดปราน และได้ห่างหายจากมันไปนานหลายปี“อื้อ~~คิมขา...พอเถอะนะคะ..อย่าแกล้งปลาย...อ๊า!”เธอบอกเขาเสียงสั่นพร่าอย่างน่าสงสาร และรู้สึกทรมานจากสัมผัสที่เขากำลังปรนเปรอให้อย่างเผลอใจ ลืมกระทั่งความขุ่นข้องหมองใจที่มี ทั้งยังครองสติได้แค่เพียงครึ่งๆ กลาง แม้แต่เสียงร้องครางแสนหวานก็ยังเรียกหาเขา เหมือนตอนที่ทั้งคู่เคยอยู่ด้วยกันที่อิตาลีไม่มีผิด“ผมอยากได้คุณที่นี่...ได้ยินมั้ยปลาย?” เขาเงยหน้าขึ้นมาบอกเสียงสั่นก่อนจะย้ำคำพูดเดิม “ผมต้องการคุณที่นี่...เดี๋ยวนี้!”ในตรอกแคบๆ นี่นะ หากมีใครผ่านไปผ่านมาแล้วเห็นหรือได้ยินเข้าละ!?“ไม่นะคิม! อย่า..มะ..ไม่..อ๊ะ! อื้อ...”เสียงที่พยายามร้องท้วงของปลายฟ้าขาดๆ หายๆ ไปพร้อมกับที่ริมฝีปากร้ายกาจของเขากดทับลงมาแนบสนิทกับริมฝีปากของเธอก็อย่างที่รู้ๆ กันดีว่าความต้องการของคิมหันต์ มันกำลังบีบบังคับให้หญิงสาวเคลิบเคลิ้มกับสิ่งที่เขาเป็นคนชักนำ เพื่อให้เธอทำตามทุกครั้งอย่างคนที่รู้จังหวะกันด
เมื่อกลับมาถึงบ้านตอนช่วงหัวค่ำ ทั้งสองคนจึงเดินไปส่งแป้งร่ำที่ห้องนอน ก่อนจะอยู่เป็นเพื่อนลูกสาวสักพัก จนเจ้าตัวหลับไปแล้วนั่นแหละ ทั้งสองคนถึงได้พากันกลับมาที่ห้องเพราะคิมหันต์ต้องการทำให้ปลายฟ้าเซอร์ไพรส์ เขาจึงตีเนียนหน้าตาย หลังจากที่เก็บงำความลับนี้ไว้กับตัวมาหลายวัน“คุณไปอาบน้ำพักผ่อนก่อนเถอะ เหนื่อยกับลูกมาทั้งวัน ผมว่าจะไปดูความเรียบร้อยด้านล่างนั่นสักหน่อย เดี๋ยวผมมา”หญิงสาวทำเป็นเมิน ก่อนเดินจ้ำเท้าเข้าห้องไปโดยไม่พูดอะไรออกมาเลยสักคำหลังจากอาบน้ำชำระร่างกาย ปลายฟ้าก็มานั่งแปรงผมอยู่หน้ากระจกเงาราวชั่วโมงกว่าๆ แต่ก็ไม่เห็นทีท่าว่าคนเป็นสามีจะเข้ามาในห้องไวเท่าความคิดเมื่อได้ยินเสียงของลูกบิดประตู ที่ถูกเปิดเข้ามาพร้อมกับคนเป็นสามีและเมื่อได้เห็นใบหน้าของอีกฝ่าย ความรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจที่ถูกกักเก็บเอาไว้ก็ตีตื้นขึ้นมาอีกครั้ง แต่อีกคนก็ยังไม่รู้ตัวงอนผัว!...แล้วเขาจะรู้ตัวตอนกี่โมง?ด้วยความหมั่นไส้หญิงสาวจึงทำท่าจะเดินหนีเขาไปอีกทาง แต่ถูกเจ้าของร่างใหญ่คว้าตัวมากอดไว้ได้จากทางด้านหลัง“คุณกำลังงอนผมอยู่ใช่มั้ย?” เขาฝังจมูกโด่งไล้ลงตามข้างแก้มของเธอเบาๆ ตอนถาม ส่วนห
ห้องรับรองแขกชัญญ่ายอมคายความลับของพี่ชายให้ปลายฟ้าได้รับรู้ทุกอย่าง กระทั่งสถานะของตนซึ่งรวมไปถึงเหตุผลของการมาที่เกาะปลาดาวแห่งนี้ด้วยเช่นเดียวกัน“ฉันก็แค่อยากเห็นหน้าพี่สะใภ้ ว่าตัวจริงจะสวยงามตามที่พี่คิมเขาเล่าให้ฉันฟังมากแค่ไหน ฉันไม่อยากเห็นพี่ปลายแค่รูปถ่ายนี่นา พอดีว่าพี่คิมเขาอยากได้งาน เขาจึงวางแผนการให้ฉันได้มาที่นี่ ถ้าพี่ปลายจะโกรธพี่คิมก็โกรธไปสิคะ แต่พี่อย่าโกรธฉันเลยนะ...ฉันขอโทษ ”เมื่อโบ้ยความผิดให้คนเป็นพี่ชายเสร็จสรรพ เจ้าตัวก็ขยับเข้าไปใกล้คนที่เรียกว่าพี่สะใภ้ทีละนิดๆ แถมยังเรียกชื่อกันซะสนิทเชียว“แน่ใจนะว่าเป็นแผนของคิมหันต์แค่เพียงคนเดียว เธอไม่ได้มีเอี่ยวด้วยน่ะ” ปลายฟ้าเหลือบมองอีกฝ่ายด้วยหางตาตอนถาม เพราะยังไม่อยากจะเชื่อชัญญ่าตามนั้น“พี่ปลายยังไม่รู้อะไร พี่คิมน่ะเขาเป็นคนเจ้าแผนการจะตายไป พี่คิดว่าเป็นเรื่องบังเอิญหรือไง ที่พี่คิมเขายอมมาเป็นคนคุ้มกันให้กับพี่ ทั้งที่มีผู้ว่าจ้างแถบตะวันออกกลาง ยอมจ่ายค่าตัวให้พี่คิมเขาต่างหาก ซึ่งมันมากถึงเก้าหลักเลยนะพี่ปลาย แต่พี่คิมเขาก็ไม่เอา...”เรื่องนี้คิมหันต์ไม่เคยเล่าให้ปลายฟ้าฟัง อีกทั้งเธอเองก็ยังอยากจะร
เมื่อได้ยินคำถามนั่นชัญญ่าถึงกับทำหน้าตาเลิ่กลั่ก จากนั้นจึงหันซ้ายแลขวาซึ่งดูทีท่าแล้วไม่ค่อยน่าไว้วางใจ ปลายฟ้าต้องการจับคนทั้งคู่ให้มั่น แล้วคั้นให้ตายไปพร้อมกันเลยทั้งสองคนเพราะสิ่งที่เธอกำลังกังวลใจ มันน่าจะมีความเป็นไปได้มากกว่าครึ่ง ซึ่งไม่มีวันที่เธอจะยอมปล่อยผ่านมันไปง่าย ๆ“คุณก็รู้อยู่แก่ใจว่าเรื่องที่พวกคุณแอบไปกินกันลับหลังฉันมันเป็นเรื่องผิด แล้วทำไมพวกคุณยังคิดที่จะทำ เคยนึกถึงความถูกต้องกันบ้างมั้ย อายุขนาดนี้แยกแยะชั่วดีกันไม่ได้เลยหรือไง”ยิ่งได้ว่าออกไปมันก็ยิ่งทำให้ปลายฟ้า ของขึ้นเสียจนอยากจะฆ่าทั้งสองคนให้ตกตายตามกันไป“เดี๋ยวนะคะ ในเมื่อมันเป็นเรื่องงาน ทำไมคุณจะต้องโกรธขนาดนั้นด้วยละคะ คุณไม่ดีใจเหรอที่สามีของคุณทำหน้าที่ของเขาได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง”ชัญญ่ามองใบหน้าของปลายฟ้า ที่แสดงความเจ็บปวดผ่านทางสายตาออกมาให้เห็น เช่นเดียวกันกับคำพูดของเธอซึ่งฟังดูแล้วมันคล้ายกับกำลังดูหนังคนละม้วน ชวนพูดคนละเรื่องเดียวกันยังไงยังงั้นเลย...แล้วชัญญ่าก็ยังไม่คิดที่จะเฉลยให้อีกฝ่ายได้ฟัง ว่ากำลังเข้าใจอะไรผิดๆ และคงปล่อยให้ปลายฟ้าคิดไปเองตามนั้น“เอาแบบนี้ดีกว่านะคะคุณปล
เช้าวันต่อมาคิมหันต์ตื่นนอนตั้งแต่ฟ้ายังไม่ทันสว่าง เพราะเขามีงานบางอย่างที่จำเป็นต้องไปจัดการ และทำให้เสร็จทันก่อนที่จะถึงวันสำคัญของตัวเอง“เดี๋ยวผมขอตัวเข้าไปทำธุระที่ฝั่งโน้นสักหน่อยนะ สัญญาว่าจะรีบกลับมาให้ทันมื้อค่ำของเรา”คิมหันต์บอกกับปลายฟ้า ที่ยังไม่ทันจะหายจากอารมณ์หงุดหงิด แต่แล้วสามีก็ยังคิดจะทิ้งเธอกับลูกไป ทั้งที่งานสำคัญจะมีขึ้นในวันพรุ่งนี้“คุณจะไปที่ไหน? กับใคร? แล้วธุระที่ว่านั่นมันคือธุระอะไร? และสำคัญกับคุณแค่ไหนเหรอ? ”เธอซักไซ้เขาราวกับว่าอีกฝ่าย ได้กลายเป็นนักโทษที่อยู่ในเรือนจำ ทำเอาเจ้าตัวถึงกับไปไม่เป็น “อ่า...ผมแค่จะไปคุยธุระกับคนที่รู้จักกันแค่นั้นเอง” คิมหันต์ตอบไม่ตรงประเด็น และปลายฟ้าก็เห็นว่าเขาไม่ยอมสบตากับเธอตอนพูด“ไม่ต้องห่วงเรื่องงานในวันพรุ่งนี้นะ เดี๋ยวผมจะให้ออแกไนซ์มาคุยรายละเอียดเรื่องงานกับคุณ เธอชื่อ ชัญญ่า ผมฝากคุณด้วยละกัน”เขาฝากฝังปลายฟ้าเรื่องงาน หรือฝากให้เธอดูแลออแกไนซ์นั่นกันแน่...แถมเรียกแม่นั่นว่า ชัญญ่า อย่างสนิทสนมเจอกันแค่เพียงวันเดียว แต่สามีกลับฝากฝังผู้หญิงคนนั้น ไว้กับเธอได้อย่างหน้าตาเฉย เธอก็เลยตอบเขากลับไปว่า“ได้ค
เช้าวันรุ่งขึ้นคิมหันต์มองเรือลำใหญ่ที่วิ่งออกมาจากชายฝั่งผ่านกล้องส่องทางไกล จนกระทั่งเรือลำนั้นได้เข้ามาจอดเทียบท่าที่เกาะปลาดาวซึ่งคนที่อยู่บนเรือลำดังกล่าว ก็คือคณะที่มาจากบริษัทจัดทำออแกไนซ์ และเวลานี้ทุกคนต่างก็ช่วยกันขนของ ทยอยลงมาจากเรือลำที่เขาเป็นคนส่งให้ไปรับมาจากอีกฝั่งรูปร่างบอบบางของหญิงสาวเชื้อสายจีน-อิตาลี ได้ก้าวเท้าลงมายืนอยู่ที่บนพื้นทราย ขณะกวาดสายตามองหาใครบางคน จนได้พบกับเป้าหมายจากนั้นจึงเดินเข้าไปหาเจ้าของร่างใหญ่ พร้อมกับกล่าวคำทักทายซึ่งคล้ายกับคนคุ้นเคย“สวัสดีค่ะรุ่นพี่ สบายดีไหมคะ?”“สบายดีแล้วเราล่ะชัญญ่า ไม่เจอกันนานโตขึ้นเยอะเลยนะเรา” คิมหันต์เอ่ยทักและถามอีกฝ่ายกลับไปเช่นเดียวกัน“ฉันสบายดีค่ะ แล้วก็มีบางอย่างที่ฉันตั้งใจจะเอามาฝากพี่ด้วยนะ ไม่รู้ว่าพี่จะสนใจไหม?”ประโยคบอกเล่ากึ่งคำถามทำให้อีกคนต้องหันซ้ายแลขวา เหมือนกับกลัวว่าใครจะเห็นเข้าจากนั้นเจ้าของร่างสูงก็เดินจูงมือหญิงสาวปริศนา แล้วพาไปพูดคุยกันในมุมลับตาแต่ไม่ว่าคิมหันต์จะขยับตัวไปทางไหน มันก็ยังอยู่ในสายตาของใครบางคน ปลายฟ้าได้เห็นการกระทำของคนทั้งคู่จากบนอาคารที่อยู่สูงสุด เธอถึงกับส
เกาะปลาดาวช่วงต้นเดือนกุมภาพันธุ์ครอบครัวของปลายฟ้า ก็มักจะพากันมาจัดงานรำลึกถึงผู้วายชนม์ นั่นก็คือคนเป็นบิดาของเธอในทุกๆ ปี และสถานที่จัดงานก็คือเกาะปลาดาวเหมือนที่ผ่านมาแต่ปีนี้ปลายฟ้าต้องการทำบรรยากาศของงานให้มีความสนุกครึกครื้นเพิ่มขึ้นมาบ้าง ซึ่งระยะหลังก็สามารถทำใจกันได้แล้วนั่นแหละส่วนตัวของคิมหันต์เองก็ได้กลายเป็นคุณพ่อติดลูก ซึ่งความผูกพันธ์อันนี้ที่ทำให้เขาตัดสินใจ ลาออกจากองค์กรของบอดี้การ์ดและนักฆ่า ซึ่งเขาคิดว่าคงจะไม่กลับเข้าไปทำอาชีพนั้นอีกแล้วคิมหันต์ไม่ต้องการเสี่ยงอันตราย แล้วทำให้คนในครอบครัว ต้องมาคอยเป็นห่วงเป็นใยในตัวเขาเหมือนที่ผ่านมาการจัดงานครั้งนี้คิมหันต์จึงเสนอปลายฟ้า ให้เธอว่าจ้างบริษัทที่รับจัดงานออแกไนซ์ แล้วหลังจากที่ตกลงกันได้ เขาจึงนำโบชัวร์มาให้เธออ่านถึงรายละเอียดต่างๆ พลางปล่อยให้เธอเลือกเอา ตามที่ใจของเธอต้องการหญิงสาวนั่งอ่านมันอย่างขะมักเขม้น ก่อนเหลือบไปเห็นคนเป็นสามีจ้องมองมาที่เธอ ด้วยสายตาที่เจ้าตัวอ่านเขาได้ไม่ยากนักหากแต่ทำเป็นสนใจกับเอกสารตรงหน้า ขณะที่สายตาก็คอยชำเลืองมองสามีของตัวเองเป็นระยะๆ“คุณกำลังคิดอะไรอยู่เหรอคะ?”ก็รู้แห
คิมหันต์เคยผ่านร้อนผ่านหนาว ผ่านความเป็นความตายมาแล้วนับครั้งไม่ได้ เรื่องความเจ็บปวดมากมายที่เคยได้รับ มันไม่เท่ากับความเจ็บปวดในครั้งนี้ หากเขาจะต้องพลัดพราก จากคนที่รักมากไปถึงสองคนถ้าเขายอมปล่อยมือจากเธอไป เขาคงเจ็บปวดเจียนตาย ถึงแม้จะอยู่ได้ แต่มันก็เหมือนกับคนที่ตายทั้งเป็น“ผมไม่อยากไปไหน ผมอยากอยู่กับคุณและลูกของเรา ผมอยากสัมผัสกับคำว่าครอบครัวที่ผมไม่เคยมี ผมจะไม่ยอมเป็นผู้ชายหน้าโง่คนนั้นอีกแล้ว และผมจะทำทุกวิถีทาง เพื่อให้คุณกับแป้งร่ำได้อยู่กับผมตลอดไป ต่อให้ผมต้องขังคุณไว้ ผมก็จะทำ!...”มันเป็นคำง้องอน เชิงข่มขู่ที่ดูแข็งกระด้าง อย่างที่ไม่น่าให้อภัย แต่มันก็ทำให้ปลายฟ้า เผลอยิ้มออกมาได้ทั้งน้ำตาเลยนั่นหละคิมหันต์หยัดตัวลุกขึ้นยืน พร้อมกับอุ้มลูกสาวเอาไว้ข้างหนึ่งจากนั้นจึงรั้งร่างของปลายฟ้าเข้ามากอดเอาไว้แนบกาย ก่อนจะเช็ดน้ำตาออกให้พ่อแม่ลูก...จึงได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันอีกครั้ง...“คุณห้ามทำให้ฉันเสียใจแล้วก็ผิดหวังอีกนะคะ เพราะฉันไม่ใช่ผู้หญิงปัญญาอ่อน ที่จะยอมให้ผู้ชายอย่างคุณมาหลอกครั้งแล้วครั้งเล่า ถ้ามีครั้งต่อไปฉันจะหาผู้ชายคนใหม่ ที่มีคุณสมบัติครบถ้วนดีก
เมื่อคิมหันต์มองผ่านทะลุกระจกบานกว้าง ก็ได้เห็นว่าปลายฟ้ากำลังพาลูกสาวขึ้นไปนั่งบนรถโดยสาร เพื่อมุ่งหน้าไปยังเครื่องบินที่กำลังจอดรออยู่ไม่ไกล พอเห็นอย่างนั้นคิมหันต์จึงรีบพุ่งตัว วิ่งตามออกไปทันที โดยที่ไม่สนใจว่า ประตูทางฝั่งขาเข้ากำลังจะปิดลงเจ้าของร่างสูงวิ่งตามรถมินิบัสที่บรรทุกผู้โดยสาร ขณะเดียวกันเขาก็พยายามโบกมือไปมา เพื่อร้องขอให้รถคันนั้นหยุดรอ พอเป็นอย่างนั้น แป้งร่ำที่มองเห็นคนเป็นลุงกำลังวิ่งไล่ตามมาในระยะที่ไม่ใกล้ไม่ไกล เธอจึงรีบทุบกระจกบานใส ที่กั้นอยู่ทางด้านหลังของคนขับ พร้อมกับตะโกนออกไปว่า “จอดรถก่อนได้มั้ยคะ? คนลุงของหนูมาตามหนูแล้ว ช่วยจอดรถให้คุณลุงหนูก่อนได้ไหมคะ?...หนูขอร้อง...ฮึกๆ ”“แป้งร่ำ! หนูอย่าพูดอย่างนั้นนะ เขาไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเรา ทำไมหนูจะต้องเป็นห่วงใยเขาขนาดนั้นด้วยลูก”“ไม่ห่วงได้ยังไงละคะ ในเมื่อคุณยายบอกกับหนูว่า คุณลุงเป็นพ่อของหนู...ฮื่อๆ ”เด็กหญิงรีบแย้งกลับไป พร้อมกับร้องไห้ออกมาตามประสาหัวใจของปลายฟ้าร่วงลงไปกองรวมกันอยู่ที่ตาตุ่มทันทีที่ได้ยินที่แท้แล้วพ่อและแม่ของเธอรู้เรื่องนี้ มาตั้งนานแล้วนั่นแหละ แต่กลับไม่มีใครยอมบอกเธอน
เสียงสะอื้นไห้ของคนเป็นมารดา ทำให้แป้งร่ำรู้สึกเสียใจไม่ต่างกัน สองวันแล้วที่ปลายฟ้า พาแป้งร่ำมานอนอยู่ที่บ้านพักตากอากาศในแถบชานเมือง เพราะไม่ต้องการให้แป้งร่ำรู้เรื่องรู้ราวของพวกผู้ใหญ่ เธอจึงไม่ได้บอกอะไรลูกสาว ทำได้ก็แค่ร้องไห้ออกมาราวใจจะขาด กับภาพบาดตาบาดใจ ที่ปลายฟ้าได้เห็นว่าจูลี่ กำลังนั่งคร่อมอยู่บนตัวตน ของอีกคนที่นั่งเอนหลังอยู่บนโซฟาแถมใบหน้าของคนทั้งคู่ ก็คล้ายกำลังจูบกันอยู่ อีกทั้งมือใหญ่ก็ยังสอดเข้าไปรั้งเอวบางเข้ามากอดแนบกาย นั่นยิ่งทำให้ปลายฟ้ามั่นใจว่าความสัมพันธ์ของคนทั้งคู่ ไม่ใช่แค่เพียงคนรู้จักกันในแบบธรรมดา ทั้งที่หญิงสาวควรจะเชื่อตัวเองให้มากกว่าใคร แต่กลับปล่อยตัวปล่อยใจให้ต้องเจ็บช้ำเพราะน้ำมือของเขา เธอรู้สึกสมน้ำหน้าตัวเองเอามากๆ ที่ไม่รู้จักหลาบจำได้สักที“ทำไมคุณแม่ต้องร้องไห้หนักขนาดนี้ด้วยละคะ ตอนที่คุณแม่เดินเข้าไปในบ้าน แล้วรีบวิ่งออกมาคุณแม่ไปเจออะไรเข้าหรือคะ?”แป้งร่ำเอ่ยถามคนเป็นมารดา ด้วยความอยากรู้ตามประสา แต่ปลายฟ้าก็รีบปฏิเสธกลับไปว่า“ไม่มีอะไรหรอกจ้ะลูก ไม่ต้องสนใจแม่หรอกนะ แม่มันโง่เอง แต่ตอนนี้แม่รู้แล้วว่าความรักความภักดีมันไม่มีอยู