แชร์

บทที่ 32

ผู้เขียน: คันธรส สุภาสนันท์
เดิมทีกู้โย่เสวี่ยยังคงเขินอายเล็กน้อย แต่เมื่อเธอได้ยินซูหว่านใส่ร้ายป้ายสีเซียวเป่ยเช่นนี้ สีหน้าของเธอก็เปลี่ยนไปทันที เธอยิ้มอย่างเย็นชาแล้วพูดว่า: “จริงเหรอ? ”

ฉันคิดว่าแพทย์เซียนเซียวค่อนข้างดีเลย อย่างน้อย เขามีความสามารถมากกว่าฉินเฟิงที่อยู่ข้างกายคุณมาก”

ซูหว่านขมวดคิ้ว ระงับความโกรธเอาไว้ในใจ

“เซียวเป่ย ฉันอยากจะคุยกับคุณ”

หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง ซูหว่านก็เอ่ยปากพูดอีกครั้ง

“ระหว่างเราสองคนยังมีอะไรอีกที่ต้องคุยกันอีกเหรอ?” เซียวเป่ยพูดอย่างเฉยเมย

ซูหว่านขมวดคิ้ว และพูดว่า “พวกเราไปคุยกันที่ฝั่งนู้นเถอะ มีคนนอกอยู่ตรงนี้ คงจะไม่สะดวก”

ในขณะที่พูด ซูหว่านก็เดินไปที่พื้นที่พักผ่อนข้างๆ

เมื่อพบว่าเซียวเป่ยไม่ได้ตามมา ซูหว่านก็หยุด สีหน้าดูแย่เล็กน้อย

“คุณหนูกู้ไม่ใช่คนนอก ถ้ามีอะไรจะพูด ก็ให้ตรงนี้ได้เลย” เซียวเป่ยกล่าวด้วยความเย็นชา

กู้โย่เสวี่ยที่อยู่ข้างๆพอได้ยินสิ่งนี้ ในใจก็รู้สึกมีความสุขมาก เธอเอามือเล็กๆไว้ด้านหลัง แลบลิ้นไปที่ซูหว่าน เพื่อโอ้อวด

สิ่งนี้ทำให้ซูหว่านโกรธมาก!

“ต้องเป็นแบบนี้ทำขนาดนี้เลยเหรอ?” ความโกรธของซูหว่านใกล้จะระเบิดออก
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • แค้นรักแพทย์อัจฉริยะ   บทที่ 33

    เซียวเป่ยเงียบไปจากนั้นไม่นาน เขาก็พูดอย่างช่วยไม่ได้ว่า “ศาสตร์การฝังเข็ม ผมจะไม่ให้คุณ”ปฏิเสธแล้วซูหว่านตกตะลึง เธอคิดไม่ถึงเลยว่า เซียวเป่ยจะปฏิเสธตนเองนี่เพิ่งหย่ากันเพียงไม่กี่วัน เขาก็เปลี่ยนไปเหมือนเป็นคนละคนเลย“เซียวเป่ย ในที่สุดฉันก็มองคุณได้ชัดเจนขึ้น!” ซูหว่านพูดด้วยความโกรธ จ้องมองไปที่เซียวเป่ยอย่างเกลียดชัง หันหลังและกำลังจะจากไปน้ำตาในนัยน์ย์ตา ได้ไหลพรากออกมาแล้วแต่เธอจะร้องไม่ได้ จะให้เซียวเป่ยเห็นความอ่อนแอของตนเองไม่ได้เด็ดขาดแต่เดินไปได้เพียงไม่กี่ก้าว เสียงของเซียวเป่ยก็ดังมาจากด้านหลังของซูหว่าน: “แต่ ผมจะจะโพสต์เศาสตร์การฝังเข็มลงบนอินเทอร์เน็ต”ในขณะที่มองดูแผ่นหลังอันเปล่าเปลี่ยวที่ทำให้คนสงสารของซูหว่านแล้ว เซียวเป่ยก็รู้สึกเจ็บปวดเล็กน้อยในใจ“แพทย์เซียนเซียว ทำไมคุณถึงทำแบบนี้ล่ะ? ทำแบบนี้ไม่ได้เป็นการช่วยเธอหรอกเหรอ?” กู้กู่โย่เสวี่ยถามด้วยความสับสนเล็กน้อยถ้าศาสตร์การฝังเข็มถูกโพสต์ลงบนอินเทอร์เน็ต นั่นก็เป็นการช่วยปิงฉิ้นกรุ๊ปในทางอ้อมไม่ใช่เหรอ?หรือว่า ในใจของเซียวเป่ยยังตัดใจจากอดีตภรรยาไม่ได้?เซียวเป่ยพูดอย่างใจเ

  • แค้นรักแพทย์อัจฉริยะ   บทที่ 34

    นัยน์ย์ตาซูหว่านดูดึงดัน จากนั้นไม่นาน สีหน้าของเธอก็เย็นชาลง โกรธจนนัยน์ย์ตาแดงก่ำ เธอก็พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า: “ได้!เซียวเป่ย คุณช่างเก่ง คุณช่างเก่งจริงๆ!ข่มขู่ฉันใช่มั้๊ย? พวกเราจะได้เห็นดีกัน!”หลี่เซียวหลี่เห็นดังนี้ เหลือบมองฉินเฟิง แล้วเอ่ยปากพูดว่า: “ ประธานซู เรื่องนี้คุณไม่ต้องออกหน้า เมื่อกี้ฉันได้หารือกับประธานฉินเรียบร้อยแล้ว ในเมื่อเซียวเป่ยเราไม่เห็นใจเราม่เมตตากรุณา งั้นพวกเราก็จะไม่ต้องมีคุณธรรมเช่นเดียวกัน! ประธานฉินรู้จักคนมากมาย เราสามารถลงมือพอหอมปากหอมคอ สั่งสอนเซียวเป่ยนั่น เพื่อที่จะทำให้เขาได้รู้ตำแหน่งและสถานะของตัวเองได้อย่างชัดเจน!” เมื่อได้ยินดังนี้ ซูหว่านก็ตัวสั่นเทาเล็กน้อย แล้วถามว่า: “พวกคุณจะทำอะไร?”“ประธานซู คุณไม่ต้องกังวล จะไม่ทำจนถึงขั้นต้องเสียชีวิต แค่ให้เขาได้รับความลำบากเพียงเล็กน้อย นอกจากนี้ เขาไม่ได้เปิดร้านเล็กๆเหรอเขาก็ได้เปิดร้านเล็กๆนี่ หากร้านของเขาถูกไฟไหม้ เขาจะเป็นยังไง?พออับจนหนทาง เขาจะต้องมาขอร้องอ้อนวอนคุณ?” หลี่เซียวลี่กล่าวและยิ้มอย่างเย็นชาฉินเฟิงใช้โอกาสจากสถานการณ์นี้พูดว่า: “ซูหว่าน เรื่องนี้

  • แค้นรักแพทย์อัจฉริยะ   บทที่ 35

    เถาเทียนเหอ! นี่คือเจียงจง ไม่ใช่จินหลิงของคุณ ไม่ใช่ที่ที่คุณจะมาพูดมาก! “คุณเซียวเป็นแขกผู้มีเกียรติของตระกูลของฉัน หากคุณไม่เคารพเขา ก็เท่ากับว่าดูหมิ่นตระกูลกู้ของฉันด้วย! ระวังฉันจะเรียกคนไล่คุณออกไป!”กู้โย่เสวี่ยเปลี่ยนจากนิสัยที่นุ่มนวลก่อนหน้า เปลี่ยนเป็นแข็งกร้าวขึ้นมา !เถาเทียนเหอยักไหล่ และยิ้มอย่างไม่แยแส: “สาวน้อยตระกูลกู้ปากคอเราะร้าย เก่งกาจมาก ”ด้านหลัง ยังมีบอดี้การ์ดสวมชุดสูทและแว่นดำอยู่แถวหนึ่ง สูงใหญ่กำยำ มีรังสีแห่งความดุร้าย ดูดีมีภูมิฐานมาก“หึ!”กู้โย่เสวี่ยทำเสียงฮึดฮัดอย่างเย็นชา ดูดีมีออร่าเป็นอย่างมากฉากนี้ ทำให้เซียวเป่ยเปลี่ยนมุมมองที่มีต่อเธอไปเลยเดิมคิดว่าเธอเป็นคุณหนูบ้านร่ำรวยที่นุ่มนวลอ่อนหวาน แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่า เธอจะเก่งกาจมากเลยทีเดียวอย่าตำหนิเซียวเป่ยเลยเขาอาจไม่เข้าใจว่า กู้โย่เสวี่ยยังมีฉายาในเมืองหลวงว่า ปีศาจสาว!เย็นชาสุดขีด! แม้แต่เจ้าหน้าที่รัฐทั้งสี่ของเมืองหลวงก็ถูกเธอจัดการมาแล้วเธอได้สร้างชื่อเสียงให้กับตนเองในแวดวงธุรกิจในเมืองหลวงตั้งแต่อายุยังน้อย ได้ครอบงครองทรัพย์สินของตระกูลกู้ค

  • แค้นรักแพทย์อัจฉริยะ   บทที่ 36

    กู้โย่เสวี่ยพยักหน้า ส่งสัญญาณให้คุณแม่บ้าน เชิญปรมาจารย์เซียงเจียงออกมานั่นก็คือชายวัยกลางคนรูปร่างผอมเพรียวคนหนึ่ง จมูกโด่งสันเป็นคม นัยน์ย์ตาคล้ายกระรอกบิน เขาสวมชุดสีน้ำเงิน ในมือถือกล่องหนังแบบสมถะหนึ่งใบ“ผู้นี้ ก็คือปรมาจารย์อู๋ที่มาจากเมืองเซียงเจียง” กู้โย่เสวี่ยแนะนำอย่างยิ้มแย้มทุกคนต่างก็พยักหน้าปรมาจารย์อู๋ยังยกมือขึ้นและยิ้ม: “ทำให้ทุกคนต้องรอนานแล้ว งั้นพวกเราก็เข้าประเด็นกันเลยดีกว่า ก่อนอื่นต้องดูของก่อน"ขณะที่พูด ปรมาจารย์อู๋ก็เปิดกล่องหนังของตนเองออกทันทีภายในกล่อง มีจานหยกขาวทรงกลมเรียบง่ายอยู่หนึ่งชิ้น ฝีมือแกะสลักประณีต เป็นรูปมังกรนกฟีนิกซ์ที่สื่อถึงความอุดมสมบูรณ์และสมปรารถนาทันทีที่เอาออกมาจากกล่อง ทุกคนก็รู้สึกว่าร่างกายโปร่งโล่งเบาสบายใจ และรู้สึกอบอุ่นไปทั้งตัวเจียงจิ้งจือและคนอื่นๆ นัยน์ย์ตาก็เป็นประกายขึ้นมาทันที จ้องมองไปที่จานหยกขาวทรงกลมชิ้นนั้นตาเป็นมัน“ของดีนี่!”หลายคนต่างก็อุทานออกมาวัตถุทางจิตวิญญาณนี้ เป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้พบเห็นหยกชิ้นนี้เพียงอย่างเดียว ก็มีมูลค่ามหาศาลแล้วถ้ามันสามารถปรับฮวงจุ้ย ป

  • แค้นรักแพทย์อัจฉริยะ   บทที่ 37

    “ไอ้เวร!”เฝิงเทียนเหวินโกรธจนคอป่องหน้าแดง และตะโกนด้วยความโกรธว่า “คุณหนูกู้ คนสารเลวที่โง่เขลาพรรค์นี้ ควรจะไล่ออกไปทันที!"คนอื่นๆ ขณะนี้ต่างก็พูดด้วยความดูถูกเหยียดหยามว่า:“หึ! หนุ่มโง่เขลาเบาปัญญา ยังจะกล้ามาโต้เถียงกับปรมาจารย์กัวอีก”“ก็ไม่ได้ดูเลยว่าที่นี่มันที่ไหน ยังกล้ามาพูดจาไร้สาระอีก!”“ตามความเห็นของเขา ปรมาจารย์ที่มาจากเซียงเจียงท่านนี้ ตั้งใจหลอกลวงพวกเรางั้นเหรอ?”แม้ต้องเผชิญกับการประณามด้วยความโกรธแค้นของทุกคน นัยน์ย์ตาของเซียวเป่ยก็ยังเต็มไปด้วยความเฉยเมย“คุณหนูกู้ คุณมัวรออะไรอยู่?คนพรรค์นี้ ควรไล่ออกไปได้แล้ว!” กัวไหลอี้พูดอย่างเร่งเร้า และหงุดหงิดเป็นอย่างมากกู้โย่เสวี่ยขมวดคิ้วที่งดงาม หัวเราะเยาะเย้ยว่า: “คุณมีคุณสมบัติอะไรมาสั่งฉัน?”“ปรมาจารย์กัว ดูเหมือนว่าคุณจะไม่เข้าใจ คุณเซียวเป็นแขกผู้มีเกียรติของตระกูลกู้ของฉัน แม้ว่าฉันจะไล่คุณออกไป ฉันก็จะไม่ไล่เขาออกไปหรอก!”สีหน้าของกัวไหลอี้ ก็เปลี่ยนเป็นบูดบึ้งสุดขีดในทันที !“คุณหนูกู้ อย่างน้อยผมก็เป็นปรมาจารย์ฮวงจุ้ยในจินหลิง! รู้จักคนมากมาย! หากคุณทำเช่นนี้ ทำให้ผมขุ่นเคืองใจ

  • แค้นรักแพทย์อัจฉริยะ   บทที่ 38

    “ในเมื่อแกยืนกรานว่ามันเป็นของปลอม งั้นปรมาจารย์อย่างฉันก็อยากจะดูว่า แกจะพิสูจน์ได้ยังไง”ปรมาจารย์อู๋หรี่ตาลงและกวาดสายตาไปที่เซียวเป่ย ในใจรู้สึกดูถูกเป็นอย่างมากลำพังแค่เด็กหนุ่มกะโปโลเช่นนี้ แค่คนธรรมดาคนหนึ่ง จะมีความสามารถที่ทำให้คนประหลาดใจอะไรได้แม้แต่วัตถุทางจิตวิญญาณของจริงที่วางไว้ตรงหน้าเขา เขายังดูมันไม่ออกเลย!ดังนั้น ปรมาจารย์อู๋จึงไม่กังวลว่าเซียวเป่ยจะพิสูจน์อะไรได้สำหรับจานหยกขาวนี่ เขามีความมั่นอกมั่นใจมากความลึกลับซับซ้อนในนี้ มีเพียงเขาเท่านั้นที่รู้!เซียวเป่ยส่ายหัวและพูดด้วยรอยยิ้มว่า: “ถ้าเป็นเช่นนี้ งั้นก็ขออภัยด้วย”พูดจบ เซียวเป่ยก็เหลือบมองจานหยกขาวสองครั้ง จากนั้นก็ถอนสายตา เยาะเย้ยเหยียดหยามว่า: “ก็แค่หยกปลอมธรรมดาอันหนึ่ง ทำกลอุบายเล็กๆน้อยๆลงไป ก็สามารถหลอกลวงคนรวยเช่นพวกคุณได้แล้ว ต้องบอกเลยว่า สมองคนรวยอย่างพวกคุณ ไม่ค่อยดีนัก หลอกง่าย”“โอหัง!”“ไอ้เด็กเหลือขอ แกว่าอะไรนะ?”“แม่งเอ๊ยเอ้ย! ไอ้เวรนี่หาว่าพวกเราโง่เหรอ?”ทุกคนที่อยู่ในลานวิลล่า ต่างก็โกรธสุดขีด!เซียวเป่ยคนนี้บ้าบิ่นจริงๆ กล้าเหยียดหยามพวกเขาต่อหน้

  • แค้นรักแพทย์อัจฉริยะ   บทที่ 39

    ในเวลานี้ ไม่ว่าทุกคนจะโง่เขลาสักแค่ไหน ก็พอมองออกแล้ว“ปรมาจารย์อู๋! จะไปก็ย่อมได้ เอาของวางลง! ก่อนที่จะไป โปรดอธิบายให้ผมฟังด้วย!"เถาเทียนเหอพูดด้วยน้ำเสียงที่ต่ำทุ้ม“ถูกต้อง! หากจานหยกขาวเป็นวัตถุทางจิตวิญญาณจริง ทำไมปรมาจารย์อู๋ต้องรีบไปด้วยล่ะ?” ถังจิ้งจือพูดอย่างเย็นชากล้ามาหลอกลวงตน ถังจิ้งจือจะไม่ปล่อยให้ไปง่ายๆอย่างแน่นอนปรมาจารย์อู๋เหงื่อไหลพราก สีหน้าท่าทางดูแย่มากเขาจ้องมองไปที่เซียวเป่ยด้วยนัยน์ย์ตาเบิกโพลง ความโกรธที่อยู่ในใจทะยานสูงขึ้น!แผนที่ตนเองวางไว้อยากลำบาก กลับถูกไอ้หนุ่มคนนี้เปิดเปิง...เดิมทีคืนนี้สามารถทำเงินได้หลายสิบล้านบาท แต่ตอนนี้กลับถูกเซียวเป่ยทำลาย ในใจจึงรู้สึกโกรธแค้นเป็นอย่างยิ่ง!“ไอ้หนุ่ม! แกใส่ร้ายฉัน!”ปรมาจารย์อู๋เค้นคำพูดออกมาด้วยความกระอักกระอ่วนใจ รังสีอำมหิตบนตัวได้ก็เพิ่มขึ้นทับทวี“ทำไม ปรมาจารย์อู๋เป็นสุนัขจนตรอกไปแล้วเหรอ จึงคิดจะลงไม้ลงมือ?” เซียวเป่ยไม่มีความเกรงกลัวเลย พูดด้วยรอยยิ้มจางๆ“ปรมาจารย์อู๋! นี่คือแผ่นดินใหญ่ หวังว่าคุณจะให้คำอธิบายแก่ฉันได้!"กู้โย่เสวี่ยกล่าวด้วยใบหน้าที่เย็นชา

  • แค้นรักแพทย์อัจฉริยะ   บทที่ 40

    หลังจากที่อู๋เต๋อพูดจบ เขาก็เขย่าน้ำเต้าสีม่วงที่อยู่ในมือ และบริกรรมคาถาอะไรบางอย่างในปากพอบริกรรมคาถาจบ น้ำเต้าสีม่วงอันนั้นก็พ่นหมอกควันสีดำออกมาอย่างต่อเนื่อง หมอกควันเหล่านั้นได้ปกคลุมไปในอากาศ กลายเป็นหน้าผีอันน่าสะพรึงกลัวยิ่งไปกว่านั้น ท่ามกลางหมอกดำยังมีเสียงกรีดร้องอันน่าสังเวช ราวกับปีศาจร้ายที่คลานออกมาจากแดนนรกขุมที่เก้า !“โอ้แม้เจ้า!”“นี่มันคืออะไร? ไสยศาสตร์เหรอ?”“ช่วยด้วย! รีบหนีเร็วเข้า...”ในลานวิลล่า มีคนรวยจำนวนมากตกใจจนต้องกรีดร้องกันอย่างไม่ขาดสาย บ้างก็นอนคว่ำหน้าอยู่บนพื้นด้วยความตื่นตระหนก หรือไม่ก็ซ่อนตัวอยู่ใต้โต๊ะ สั่นเทาไปทั้งตัว กุมขมับ ท่องอมิตาพุทธในใจพวกเขาเหล่านี้เป็นหัวหน้าตระกูลชนชั้นสูงที่มั่งคั่งร่ำรวย ครึ่งชีวิตนี้จึงไม่เคยเห็นอะไรเลยนอกจากเงินและผู้หญิง คงจะไม่เคยเห็นภาพอันน่าสะพรึงกลัวเช่นนี้มาก่อน เพราะมันเกินกว่าจินตนาการของพวกเขา“นี่ นี่คือศาสตร์ควบคุมวิญญาณจากเซียงเจียง…” กัวไหลอี้อุทานออกมา“ปรมาจารย์อู๋คนนี้เก่งกาจมากจริงๆ สามารถควบคุมวิญญาณชั่วร้ายได้ ศาสตร์ฮวงจุ้ยกระจอกๆของฉัน เมื่ออยู่ต่อหน้าเขา เ

บทล่าสุด

  • แค้นรักแพทย์อัจฉริยะ   บทที่ 475

    ซูเทียนห้าวตอบว่า: “ฉันรู้แล้ว! พี่สาวของฉันเป็นยังไงบ้าง?”เสียงเย้าแหย่ดังมาจากอีกด้านของโทรศัพท์: “คุณวางใจได้ ไม่ตายหรอก พอคุณควบคุมบริษัทได้สำเร็จ และได้รับเงินสองร้อยห้าสิบล้านบาทมาเมื่อไหร่ พี่สาวของคุณก็จะกลับไปได้แล้ว”“ได้! แต่ฉันขอเตือนพวกแกนะ อย่าแตะต้องพี่สาวของฉัน!”ซูเทียนห้าวกล่าวอย่างเย็นชาชายฉกรรจ์ที่อยู่อีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์ยิ้มแล้วพูดว่า “ไม่ต้องกังวล พวกเราทำงาน เชื่อถือได้แน่นอน”พูดจบ อีกฝ่ายก็วางสายโทรศัพท์ทันทีซูเทียนห้าวถอนหายใจด้วยความโล่งอก แต่กลับไม่ได้ผ่อนคลายเลย“พี่ครับ ผมขอโทษ... แต่ผมจำเป็นต้องทำแบบนี้! ผมอยากจะพิสูจน์ตนเองว่า ผมไม่ใช่เศษสวะ! ผมมีความสามารถ!” ซูเทียนห้าวกล่าวเบาๆ ความเย็นชาแวบขึ้นมาในนัยน์ตา............ตัดภาพมาที่เซียวเป่ยฮั่วเจิ้งซานอยู่ในร้าน พอมองดูเวลา ก็พบว่าผ่านไปหนึ่งชั่วโมงแล้วเห็นได้ชัดว่าเขากังวลมาก จึงถามว่า: “ปรมาจารย์เซียวเป่ย ไป๋อู๋ฉางนั่นจะกลับมาจริงๆเหรอ?”“ถ้าเธอยังไม่อยากตาย เธอก็จะมา ” เซียวเป่ยพูดอย่างสงบนิ่งทันทีที่พูดจบ ที่ประตูร้านขายของชำ ก็มีร่างลับๆล่อๆร่างหนึ่งปรากฏขึ้น ร่างนั้นเดินโซเซเล็

  • แค้นรักแพทย์อัจฉริยะ   บทที่ 474

    สิ่งที่น่ากลัวยิ่งกว่านั้นก็คือ พิษศพที่อยู่บนมือของชายชราในชุดดำ ในเวลานี้ได้ย้อนกลับ กระจายไปตามแขนของชายชรา และบุกเข้าไปจนถึงหน้าอก!เนื่องจากมีพิษศพอยู่บนร่างกายของเขามากเกินไป ในชั่วพริบตาเดียว ชายชราในชุดดำก็ล้มลงกับพื้น คร่ำครวญไม่สายขาด ผิวหนังทั้งตัวเปลี่ยนไปเป็นสีดำ และเริ่มเปื่อยเน่าทางด้านฝั่งนี้ เมื่อหญิงชราในชุดขาวเห็นเหตุการณ์นี้ ก็ตกใจจนมีสีหน้าที่ซีดเผือด ยังไม่ทันได้ครุ่นคิดอะไร ก็หันหลังกลับและวิ่งหนี!เธอรู้ดีว่า คืนนี้ได้พบกับยอดฝีมือแล้ว“คิดจะหนี มันไม่ง่ายขนาดนั้นหรอก!”เมื่อเซียวเป่ยเห็นหญิงชราในชุดขาวคิดจะวิ่งหนี ก็ยกมือขึ้นแล้วยิงเข็มเงินออกไปอีกสองสามเล่มหญิงชราในชุดขาวตอบสนองกลับแบบมีเงื่อนไข เธอเหวี่ยงไม้อาดูรที่อยู่ในมือ จากนั้นก็เกิดเสียงดังตึกตึกตึก และมีประกายไฟขึ้นมาเล็กน้อยทันทีแม้ว่าเข็มเงินส่วนใหญ่จะถูกสกัดกั้น แต่ก็มีเข็มเงินสองสามเล่มที่เจาะเข้าไปที่หน้าของหญิงชราชุดขาว และมีอีกเข็มหนึ่งในนั้นเจาะไปที่ตาของเธอ ทำให้มีเลือดไหลออกมาทันทีแต่หญิงชราชุดขาวกลับไม่คิดที่จะต่อสู้กลับเลยแม้แต่น้อย หันหลังกลับแล้ววิ่งหนีไป พร้อมกับเสียงดังฟรึ่บ

  • แค้นรักแพทย์อัจฉริยะ   บทที่ 473

    เซียวเป่ยพยักหน้าเบาๆ และกล่าวว่า “มาเร็วดีนี่”“แกจะตายเอง หรือว่าให้ฉันลงมือ?” ชายชราในชุดดำ ถามด้วยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความดุร้ายในสายตาของเขา จัดการกับเด็กหนุ่มอย่างเซียวเป่ยนั้น เป็นอะไรที่ง่ายมากเดิมคิดว่าจะเป็นยอดฝีมือที่มีความแข็งแกร่งอะไร คิดไม่ถึงว่า จะเป็นเด็กเหลือขอที่อ่อนหัดคนหนึ่งสิ่งนี้ทำให้เฮยไป๋อู๋ฉางที่อยากจะต่อสู้อย่างจริงจัง รู้สึกผิดหวังเป็นอย่างมากเซียวเป่ยยิ้มด้วยสีหน้าที่สงบนิ่งรอยยิ้มนี้ ทำให้เฮยไป๋อู๋ฉางขมวดคิ้วแน่นเด็กคนนี้ กำลังยิ้มเยาะเย้ยอยู่เหรอ?“ดูเหมือนว่า แกจะเลือกให้พวกเราลงมือ” เฮยอู๋ฉางกล่าวด้วยรอยยิ้มที่ชั่วร้าย เผยให้เห็นฟันเหลืองของเขาและในเวลานี้ กู้โย่เสวี่ยที่นั่งคว่ำหน้านอนอยู่บนโต๊ะก็ตื่นขึ้นมา ขยี้ตาอย่างงัวเงีย มองไปที่ร่างของทั้งสองคนที่จู่ๆก็ปรากฏตัวขึ้นในร้าน และถามอย่างงุนงงว่า: “เกิดอะไรขึ้นเหรอ?”ในเวลานี้ เฮยอู๋ฉางก็ลงมือทันที เขาใช้ฝ่ามือ โจมตีเซียวเป่ยผ่านทางอากาศ!ฝ่ามือนี้ ลมที่อยู่ตรงฝ่ามือแฝงไปด้วยหมอกควันสีดำ และมีกลิ่นเหม็นมากระทบมาที่ใบหน้า!กู้โย่เสวี่ยตกใจมากจนร้องเสียงดัง และลืมที่จะหลบหลีกเซียวเป่ย

  • แค้นรักแพทย์อัจฉริยะ   บทที่ 472

    พอรับสาย เสียงซักถามด้วยความเกรี้ยวโกรธของซูหว่านก็ดังมาจากอีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์: “เซียวเป่ย คุณหมายความว่ายังไงกันแน่?”เซียวเป่ยชะงักไป รู้สึกสับสนเล็กน้อย จึงขมวดคิ้วแล้วถามว่า: “ประธานซู ผมไม่เข้าใจว่าคุณกำลังพูดถึงอะไรอยู่?”“ยังแกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้อีกเหรอ?เป่ยเสวี่ยมาส์ก คุณจะอธิบายยังไง!” ซูหว่านซักถามด้วยน้ำเสียงเย็นชาเซียวเป่ยขมวดคิ้วเล็กน้อย แล้วพูดว่า “เป่ยเสวี่ยมาส์ก? มีปัญหาอะไรหรือเปล่า?”“เซียวเป่ย! คุณไม่คิดว่าตนเองในตอนนี้ ไร้ยางอายมากเหรอ?” ซูหว่านโกรธมากตอนนี้การที่เซียวเป่ยแสร้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ มันเหมือนกับว่าเขาจงใจโอ้อวด“ผมไร้ยางอาย?”เซียวเป่ยขมวดคิ้ว และรู้สึกโกรธขึ้นมามาแบบไม่มีปี่มีขลุ่ยเลยซูหว่านกล่าวอย่างเย็นชาว่า: “ยังจำสิ่งที่คุณพูดเอาไว้ก่อนหน้านี้ได้ไหม?คุณบอกว่าตนเองจะไม่พึ่งพาใคร เพื่อจะพิสูจน์ให้ฉันเห็น! แล้วตอนนี้ล่ะ? สุดท้ายคุณก็พึ่งพาคุณหนูตระกูลกู้คนนั้น แล้วแอบทำอะไรกับมาส์กหน้านั่น!”“ไม่อย่างนั้น อาศัยแค่ตัวคุณเอง จะมีคุณสมบัติไปถึงอันดับที่สี่ของรายการยอดขายระดับประเทศเหรอ?”หลังจากได้ยินคำพูดเหล่านี้ เซียวเป่ยก็เพิ่งตอบ

  • แค้นรักแพทย์อัจฉริยะ   บทที่ 471

    “หัวหน้าตระกูลฮั่ว คุณเข้าใจอะไรผิดไปหรือเปล่า? เศษสวะอย่างไอ้เซียวเป่ยเนี่ยนะ ช่วยชีวิตคุณ?”ฉินเฟิงถามด้วยความประหลาดใจทันใดนั้นสีหน้าของฮั่วเจิ้งซานก็เปลี่ยนไปเป็นแย่มากทันที และกล่าวอย่างไม่พอใจว่า: “ประธานฉินใช่ไหม ผมจะเตือนคุณเป็นครั้งสุดท้ายนะ ได้โปรดให้เกียรติปรมาจารย์เซียวด้วย!”พูดจบ ฮั่วเจิ้งซานก็เฉยเมยต่อสีหน้าที่ประหลาดใจของฉินเฟิง และกล่าวกับเซียวเป่ยว่า: “ปรมาจารย์เซียว พวกเราไปกันเถอะ”เซียวเป่ยพยักหน้า เดินตามฮั่วเจิ้งซานไปขึ้นรถแล้วจากไปซูหว่านกับฉินเฟิงยืนอยู่ที่เดิม ด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยงุนงงสงสัย“แม่งเอ๊ย! ทำเป็นวางมาด? ไม่รู้ว่าใช้วิธีการสกปรกอะไรในการหลอกลวงหัวหน้าตระกูลฮั่ว!” ฉินเฟิงบ่นอย่างไม่พอใจสายตาของซูหว่าน มองดูรถที่กำลังจากไปอยู่ตลอดเวลา และรู้สึกอึดอัดอยู่ใจเป็นอย่างมากไม่รู้เป็นเพราะอะไร พอเห็นท่าทีที่ฮั่วเจิ้งซานมีต่อเซียวเป่ย ทำให้ซูหว่านรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมากตนเองเป็นคนผิดอย่างนั้นเหรอ?ตนรู้สึกเกรงใจและชื่มชมฮั่วเจิ้งซาน แต่เขากลับเคารพนบนอบต่อเซียวเป่ยเป็นอย่างมาก“หว่านเอ๋อร์ เป็นอะไรไปเหรอ?”เมื่อฉินเฟิงเห็นซูหว่านจ้องมองรถที

  • แค้นรักแพทย์อัจฉริยะ   บทที่ 470

    “พ่อหนุ่มคิดว่า ยาอายุวัฒนะแค่เม็ดเดียว สามารถพูดคำเหล่านี้ต่อหน้าฉันฉินเทียนหู่ได้อย่างนั้นเหรอ?”ในขณะนี้พอหลิวเซียนเหนียงได้ยินคำพูดของเซียวเป่ย ก็ขมวดคิ้วอันสวยงาม และรู้สึกว่าเซียวเป่ยใจกล้าเกินไปแล้วสีหน้าของเซียวเป่ยไร้ซึ่งความหวาดกลัว แล้วกล่าวว่า: “พักนี้ท่านฉินรู้สึกแน่นหน้าอกตลอดเวลาใช่ไหม ตอนกลางคืนก็นอนไม่หลับเป็นเวลานาน?”ฉินเทียนหู่ขมวดคิ้ว แล้วกล่าวอย่างเย็นชาว่า: “ช่างนี้ฉันนอนไม่หลับ มีปัญหาอะไรไหม?”เซียวเป่ยส่ายหัวแล้วกล่าวว่า: “ท่านฉิน นี่ไม่ใช่อาการนอนไม่หลับ แต่เป็นเพราะพลังงานรั่วไหล และสูญเสียพลังชีวิต ถ้าผมดูไม่ผิด ท่านฉินไม่เพียงแต่นอนไม่หลับเท่านั้น แต่ยังรู้สึกชาที่แขนขาด้วย บางครั้งอาจจะเป็นลมหมดสติไปชั่วขณะ”ทันทีที่พูดคำเหล่านี้ออกมา สายตาของฉินเทียนหู่ก็เปลี่ยนไปทันทีทำไมเด็กคนนี้ ถึงได้พูดได้แม่นยำขนาดนี้?แต่ว่า แพทย์ที่อยู่ข้างกายตนบอกว่าตนเองไม่เป็นไร แค่ทำงานหนักจนเกินไป พักผ่อนให้เยอะๆก็พอแล้วดังนั้น ฉินเทียนหู่จึงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง และพูดอย่างเย็นชาว่า: “เอาล่ะ ฉันมีหมอประจำตัวอยู่ข้างกาย ถ้ามีปัญหา ไม่จำเป็นต้องให้พ่อหนุ่มมาเตือนฉั

  • แค้นรักแพทย์อัจฉริยะ   บทที่ 469

    หลิวเซียนเหนียงหันกลับมา จ้องมองเซียวเป่ยด้วยสีหน้าท่าทางที่สงสัยและประหลาดใจแล้วถามว่า “นี่คือยาที่คุณทำเหรอ?”“ใช่” เซียวเป่ยตอบอย่างเรียบง่ายบนใบหน้าที่สวยงามของหลิวเซียนเหนียงเต็มไปด้วยสีหน้าที่ประหลาดใจฉินเทียนหู่ขมวดคิ้วแล้วถามว่า “คุณหลิวเห็นอะไรไหม?มันเป็นของจริงหรือของปลอม?”ผู้มีอิทธิพลคนอื่นๆ ต่างก็พากันเอ่ยปากสอบถามกันเป็นแถว“หลิวเซียนเหนียง คุณพูดมาตามตรงเถอะ”“ตามความคิดของผม ยาอายุวัฒนะบ้าอะไรเนี่ย เป็นของปลอมร้อยเปอร์เซ็นต์!”“ท่านฉิน ท่านสามารถดำเนินการได้เลย”เมื่อได้ยินเสียงเย้าแหย่ของคนที่อยู่รอบข้าง สีหน้าของเซียวเป่ยก็ยังคงเต็มไปด้วยความเฉยเมยสีหน้าของฉินเทียนหู่ก็เคร่งขรึมสุดขีดเช่นกัน เมื่อเห็นว่าหลิวเซียนเหนียงไม่ได้พูดเป็นเวลานาน ตัดสินด้วยตนเองในใจ เขามองไปที่เซียวเป่ยด้วยสีหน้าที่แย่มาก โบกมือแล้วพูดว่า: “ใครก็ได้มานี่ที! จับตัวเด็กคนนี้เอาไว้เดี๋ยวนี้!”ทันทีที่พูดจบ บอดี้การ์ดสองก็กำลังจะลงมือ“เดี๋ยวก่อน”ทันใดนั้น หลิวเซียนเหนียงก็เอ่ยปากพูด“คุณหลิว?” ฉินเทียนหู่รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยหลิวเซียนเหนียงมองไปที่เซียวเป่ยอีกครั้ง ดูเหมือนจ

  • แค้นรักแพทย์อัจฉริยะ   บทที่ 468

    “พ่อหนุ่ม พ่อหนุ่มรู้ไหมว่า คนที่หลอกลวงฉันฉินเทียนหู่จะต้องมีจุดจบอย่างไร!”ฉินเทียนหู่โกรธ!เห็นได้อย่างชัดเจนว่า หลายปีที่ผ่านมานี้ ไม่เคยมีใครกล้าเย้าแหย่ตนเอง ต่อหน้าผู้คนมากมายขนาดนี้ยาอายุวัฒนะ?ยืดอายุขัยได้อีกห้าปี?ยาล้ำค่าเช่นนี้ จะใช้กระดาษหนังสือพิมพ์ห่อได้อย่างไร?เซียวเป่ยกลับยิ้มเบาๆแล้วกล่าวว่า “ตอนที่ออกมาผมรีบมาก ผมหากล่องไม่เจอ ก็เลยใช้กระดาษหนังสือพิมพ์ห่อ”ฉินเทียนหู่ขมวดคิ้วแน่น สีหน้าเคร่งขรึมสุดขีด ราวกับว่าเป็นเสือร้ายที่กำลังจะบ้าคลั่ง!ใครก็ได้มานี่ที! จับตัวไอ้หนุ่มที่มาก่อความวุ่นวายคนนี้ให้ฉันหน่อย!”ฉินเทียนหู่ตะคอกด้วยความโกรธทันใดนั้น บอดี้การ์ดทั้งสองคนที่อยู่ด้านหลังฉินเทียนหู่ก็แสดงตัวออกมา เอามือจับตรงสะเอว และจ้องมองเซียวเป่ยด้วยสายตาที่เย็นชาเซียวเป่ยขมวดคิ้วเล็กน้อย แล้วกล่าวว่า “ท่านฉิน ดูยาอายุวัฒนะของผมก่อนค่อยว่ากัน?”“ยังต้องดูอีกเหรอ?”ฉินเทียนหู่พูดอย่างย็นชาฮั่วเจิ้งซานรีบเกลี้ยกล่อมว่า: “ท่านฉิน ท่านอย่าเพิ่งใจร้อนไปเลย ปรมาจารย์เซียวไม่มีเจตนาอื่น ถ้าคุณยอมที่จะเชื่อผม โปรดให้โอกาสปรมาจารย์สักครั้ง ดูยาอายุวัฒนะนี้หน่อย

  • แค้นรักแพทย์อัจฉริยะ   บทที่ 467

    ทันทีที่เซียวเป่ยพูดคำเหล่านี้ออกมา ก็ดึงดูดสายตาของทุกคนที่อยู่ตรงนั้นทันที“ยาอายุวัฒนะ?”“ยาอายุวัฒนะอะไร? ไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย”“พ่อหนุ่ม รู้ไหมว่านี่เป็นวาระโอกาสแบบไหน? ถ้ายังกล้าพูดจาเหลวไหลอีก ก็ไสหัวออกไปซะ!”ทุกคนดูไม่เป็นมิตรมาก และพากันตำหนิเซียวเป่ยฮั่วเจิ้งซานก็ตกตะลึง และตื่นตระหนกเล็กน้อย จากนั้นก็รีบลุกขึ้นแล้วอธิบายว่า: “ทุกท่าน ต้องขออภัยด้วย ยาอายุวัฒนะที่ปรมาจารย์เซียวกล่าวถึง... เป็นยาที่เขาเพิ่งจะกลั่นทำด้วยตนเองเมื่อสักครู่นี้”หลังจากพูดประโยคนี้จบ สีหน้าของทุกคนที่อยู่ในห้องส่วนตัวก็เปลี่ยนไป ตอนแรกรู้สึกประหลาดใจ จากนั้นก็รู้สึกสงสัย สุดท้ายพวกเขาก็รู้สึกโกรธ!เพียะ!ซุนฝูลู่วางถ้วยชาลงบนโต๊ะน้ำชาที่อยู่ด้านขวามืออย่างแรง และกล่าวอย่างไม่พอใจว่า: “ท่านหัวหน้าตระกูลฮั่ว ผมให้คุณพาไอ้หนุ่มคนนี้เข้ามา ก็ถือว่าแหกกฎแล้ว ตอนนี้ไอ้หนุ่มคนนี้ยังกล้ามาพูดจาไร้สาระ และจะใช้ยาอายุวัฒนะที่พวกเราไม่เคยได้ยินมาก่อนอะไรนั่นแลกกับหินจิตวิญญาณ แถมยังเป็นของที่เขาทำขึ้นมาด้วยตนเองอีกด้วย”“ปรมาจารย์ฮั่ว คุณคิดว่าพวกเราทุกคนที่อยู่ที่นี่ โง่เขลาเบาปัญญามากหรือยังไง?

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status