แชร์

บทที่ 2

ผู้เขียน: คันธรส สุภาสนันท์
“เซียวเป่ย คุณพูดมากก็ไม่มีประโยชน์ รีบเซ็นชื่อเถอะ”

เลขาหญิงดันข้อตกลงให้เซียวเป่ยด้วยความเดือดพล่าน พร้อมตะคอกด้วยสีหน้าเย็นชา “ถึงคุณจะไม่เซ็น ประธานซูอยากหย่ากับคุณ ง่ายแค่นิดเดียว แต่ประธานซูยังคิดถึงความสัมพันธ์เก่าที่มีร่วมกันมา ไม่อยากทำให้วุ่นวายจนดูไม่ดี หวังว่าคุณจะไม่คิดไปเอง และหาเรื่องยุ่งยากใส่ตัว!”

“หาเรื่องยุ่งยากใส่ตัว?”

เซียวเป่ยหัวเราะเยาะ สวยตาจับจ้องไปที่ซูหว่านที่ไม่พูดมาโดยตลอด “ประธานซู นี่ถือเป็นคำเตือนสำหรับผมเหรอ?”

ซูหว่านนิ่งเงียบอยู่ครู่แล้วพูดขึ้นว่า “ฉันแค่อยากคุยกับคุณดีๆ ถ้าคุณไม่เห็นด้วย ฉันก็จะคิดหาวิธีอื่น”

“มันต้องเด็ดขาดขนาดนี้เลยเหรอ?”

สุดท้ายเซียวเป่ยถามขึ้น เพื่ออยากดูว่าเธอยังมีความอาลัยอาวรณ์หลงเหลืออยู่ไหม

แต่น่าเสียดายที่เขาไม่เห็นความอาลัยอาวรณ์ใดบนใบหน้าของเธอเลย

“พวกเราไม่เหมาะสมกันแล้ว เซ็นชื่อเถอะนะ สิ่งที่คุณขอ ฉันจะทำให้พอใจเท่าที่สามารถทำได้ หลังเซ็นเสร็จพวกเรายังเป็นเพื่อนกันได้นะ” ซูหว่านคิดแล้วคิดอีกก่อนกัดริมฝีปากแดงพร้อมพูดขึ้น

ยังเป็นเพื่อนกันได้งั้นเหรอ?

พอได้ยินเช่นนี้ เซียวเป่ยยิ้มออกมาพร้อมกับน้ำตาไหลหล่นจากขอบตาทั้งสองข้าง

ที่แท้การแต่งงานตลอดสามปีเป็นเขาที่คิดเองเออเองอยู่ฝ่ายเดียว

ในสายตาเธอ เขาก็เป็นบันไดให้เธอได้ปีนป่ายแค่นั้น

“ผมเซ็น”

“บ้าน รถยนต์ เงินทอง ผมไม่เอาสักอย่าง ผมยังเลี้ยงตัวเองได้”

หลังเซียวเป่ยนิ่งอยู่ครู่ก็หยิบปากกาขึ้นมาเขียนชื่อตัวเองลงไปแบบลวกๆ

“คิดจะพึ่งร้านเล็กๆ ที่เปิดให้ดูโหงวเฮ้ง ดูฮวงจุ้ย และขายผ้ายันต์นั่นเหรอ?” ซูหว่านพูดพร้อมหัวเราะเยาะอย่างดูถูก

ปีนี้เซียวเป่ยตกต่ำมาก

เขาเปิดร้านเล็กๆ เพื่อสำหรับดูโหงวเฮ้งและดูฮวงจุ้ยให้คนอื่น ยังหลอกขายผ้ายันต์ที่ทำขึ้นเองอีก แถมยังบอกด้วยว่าสามารถปัดเป่าความชั่วร้ายและป้องกันภยันตรายได้

มันชั่งไร้สาระเสียจริง!

และนี่เป็นเหตุผลที่ซูหว่านต้องการหย่ากับเขา

เซียวเป่ยเปลี่ยนไป เขาเปลี่ยนไปเป็นคนที่ดูจะไม่ค่อยมีสติ ดูเหมือนคนทำอะไรไม่สมเหตุสมผล

“มีปัญหาเหรอ?”

เซียวเป่ยพูดด้วยความเย็นชาก่อนลุกขึ้นอย่างรวดเร็วและหันหลังกลับเดินออกจากออฟฟิศไป พอเขาเดินมาถึงหน้าประตู เขาก็หยุดลงแล้วเอ่ยถามด้วยความขมขื่น “ในสายตาของเธอ อะไรสำคัญที่สุด”

ซูหว่านมองแผ่นหลังของเซียวเป่ยแล้วพูดขึ้นด้วยแววตาอันมั่นคงและหนักแน่น “ฉันต้องทำให้ปิงฉิ้นกรุปเป็นที่โดดเด่นในงานประชุมแพทย์แผนจีนที่ตระกูลกู้จะจัดขึ้นที่เมืองจิงตู และขึ้นเป็นบริษัทที่แข็งแกร่งสามอันดับแรกของประเทศให้ได้

เซียวเป่ยยิ้มเยาะและพูดขึ้นพร้อมหัวเราะเยาะตัวเอง “ประธานซู ระหว่างเราไม่อาจเป็นเพื่อนกันได้อีกแล้ว ขอให้สิ่งที่ฝันกลายเป็นจริงนะ”

“นอกจากนี้ ขอให้คุณกับเขา มีความสุข”

พอพูดจบก็ก้าวเดินจากไป

ทุกย่างก้าวหนักแน่นและมั่นคง

ในเวลานี้ แววตาอันอ่อนโยนของเซียวเป่ยถูกแทนที่ความเย็นชา

รอจนกระทั่งแผ่นหลังของเซียวเป่ยหายไปจากสายตาของเธอ ซูหว่านถึงก้มลงเหลือบมองหมายเลขที่บันทึกไว้บนโทรศัพท์ของตนว่า “หรงเสี่ยวหาน” แล้วพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา “เขาเหรอ?”

ต้องอธิบายให้เขาฟังไหมนะ?

ชั่งเถอะ หย่ากันไปแล้ว จะเข้าใจผิดก็ให้เข้าใจผิดไปเถอะ

“เลขาหลี่ ฉันทำเกินไปหรือเปล่านะ?” ตาของซูหว่านแดงเล็กน้อย แววตาดูซับซ้อน

แม้ว่าได้หย่ากันแล้ว แต่ซูหว่านกลับไม่รู้สึกดีใจเลยสักนิด

“ประธานซู ที่คุณทำไปมันไม่ผิดเลยสักนิดเดียว!เซียวเป่ยไม่คู่ควรกับคุณแล้ว การที่เขาอยู่เคียงข้างคุณมีแต่จะกระทบความก้าวหน้าในอนาคตของคุณ การที่คุณต้องการนำพาปิงฉิ้นกรุปไปสู่ระดับประเทศ จึงไม่สามารถมีความสัมพันธ์ส่วนตัวใดๆ เด็ดขาด” เลขาหลี่พูดพร้อมพยักหน้าอย่างแรง

พอซูหว่านได้ยินเช่นนี้ เธอจึงพูดขึ้นเบาๆ ด้วยรอยยิ้มอันขมขื่น “แต่ฉันกลับรู้สึกเหมือนว่าฉันได้สูญเสียสิ่งหนึ่งที่มีความสำคัญมากสำหรับฉันไป”

“คุณเพิ่งหย่า มันก็เป็นเรื่องปกติ”

เลขาหลี่อธิบาย

ซูหว่านสูดลมหายใจเข้าจนลึก สีหน้าของเธอจะกลับคืนเป็นประธานหญิงผู้สูงส่งและเย็นชาดังเดิมแล้ว ก่อนลุกขึ้นยืนแล้วพูดว่า “ฉันไปส่งเขาสักหน่อย ถือซะว่าเป็นการบอกลาครั้งสุดท้าย”

เมื่อมาถึงประตูทางเข้าของบริษัท ซูหว่านก็มองเห็นเซียวเป่ยยืนอยู่ริมถนนดูเหงาหงอยเศร้าสร้อย

ขณะที่เธอกำลังจะเดินเข้าไปหา ทันใดนั้นก็มีรถเฟอร์รารี่สีแดงคำรามมาแต่ไกล พร้อมดริฟท์จอดตรงหน้าเซียวเป่ยอย่างสวยงาม

ในเวลาต่อมา ประตูรถก็เปิดออก ขาวยาวเรียวสวมด้วยถุงน่องดำก้าวนำลงมาจากรถก่อน

ตามด้วยเรือนร่างสวมกระโปรงสั้นสีดำสุดเซ็กซี่ เด็กสาวผู้เด่นสง่าลงจากรถอย่างเร่งรีบ

เธอคนนี้อายุประมาณยี่สิบต้น ๆ ผิวขาวราวหิมะ ใบหน้าประณีต รูปร่างเพอร์แฟคสุดๆ มีบุคลิกแบบคุณหนูบ้านรวย

“สวยมากเลย.....”

แม้แต่ซูหว่านก็อดตะลึงกับความสวยและเรือนร่างของเด็กสาวคนนี้ไม่ได้

เวลาต่อมา เธอก็เห็นเด็กสาวคนนั้นวิ่งไปอยู่ตรงหน้าเซียวเป่ย พร้อมตะโกนอย่างกระวนกระวายว่า “แพทย์เซียนเซียว ขอร้องล่ะ รีบช่วยคุณปู่ของฉันที ขอแค่คุณสามารถช่วยคุณปู่ของฉันให้ฟื้นได้ ฉันยอมแต่งงานกับคุณค่ะ” !

บทที่เกี่ยวข้อง

  • แค้นรักแพทย์อัจฉริยะ   บทที่ 3

    เมื่อได้ยินคำนี้ ซูหว่านกำลังลงรถอย่างหน้านิ่วคิ้วขมวดผู้หญิงที่ต่อหน้าเธอ สวยมากจริงๆ ไม่ว่ารูปร่างหรือหน้าตาก็ไม่แพ้เธอบวกกับเฟอร์รารีที่แฟชั่นคันนั้น ก็ทําให้ซูหว่านหัวใจสั่นอย่างรุนแรง เซียวเป่ยรู้จักผู้หญิงแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ก็แค่อายุยี่สิบต้นๆ มั้ง อายุยังน้อยกว่าตัวเองสักห้าหกปีเลยความรู้สึกหึงลอยขึ้นในหัวใจของซูหว่านพอดีเลขาฯสาวก็ได้วิ่งลงมาและเห็นฉากตรงหน้าได้ขมวดคิ้ว"ขอถามหน่อยนะ คุณเป็นใคร" เซียวเป่ยขมวดคิ้วและแวบดูสาวตรงหน้ายังเด็กและสวยมากแต่ตนไม่เคยรู้จักเธอแพทย์เซียนเซียว คือประธานเสิ่นแนะนำฉันมา ฉันชื่อกู้โย่เสวี่ย เขาบอกว่า "ท่านมียาลูกกลอนจินอู่อยู่ในมือ และมีแต่ยาลูกกลอนจินอู่ที่อยู่ในมือของท่านเท่านั้นที่จะช่วยคุณปู่ของฉันได้ ตระกูลกู้ของฉันยอมจ่ายเงินห้าสิบล้านเพื่อซื้อยาลูกกลอนจินอู่ในมือของท่าน!"กู้โย่เสวี่ยวิงวอนด้วยน้ำตาเต็มหน้า“เฉิ่นฉางอัน?”เซียวเป่ยพูดเบาๆเสิ่นฉางอันเป็นประธานหอการค้าหาวซู สองปีก่อนเซียวเป่ยเคยรักษาโรคให้เขา ทั้งสองจึงได้รู้จักกัน ปิงฉิ้นกรุ๊ปสามารถพัฒนาได้ถึงระดับปัจจุบัน ก็ขาดความช่วยเหลือของเสิ่นฉางอันไม่ได

  • แค้นรักแพทย์อัจฉริยะ   บทที่ 4

    “ก็เป็นแค่สิ่งที่ทำมั่วๆของเซียวเป่ยเป็นปกติ ไม่สามารถจริงจังได้เลย" ซูหว่านพูดอย่างดูถูก”……ในเวลาเดียวกันในรถ เซียวเป่ยรู้ตัวตนของกู้โย่เสวี่ยแล้วคนตระกูลกู้ในเมืองจิงตูเซียวเป่ยขมวดคิ้วเล็กน้อย ถ้าจําไม่ผิด ตระกูลกู้ในเมืองจิงตูนี้เป็นยักษ์ใหญ่ของเมืองจิงตู เพียงกระทืบเท้าทั้งเมืองจิงตูก็ต้องสั่นสะท้านถ้าซูหว่านอยู่ที่นี่ในขณะนี้ คงจะตกใจจนอ้าปากกว้างไปนานแล้ว และใบหน้าคงเต็มไปด้วยความตกใจตระกูลกู้ในเมืองจิงตูที่เธออยากคบหามาตลอด คาดไม่ถึงว่าจะขอความช่วยเหลือจากเซียวเป่ยที่เพิ่งถูกเธอหย่าและไร้ประโยชน์ไม่นานนัก รถก็จอดอยู่หน้าบ้านแห่งหนึ่งทั้งสองลงจากรถ กู้โย่เสวี่ยก็รีบพาเซียวเป่ยเข้าไปในห้องนอนของห้องโถงด้านในบนเตียงห้องนอน มีชายชราคนหนึ่งที่ป่วยหนัก หน้าซีดและริมฝีปากม่วงนอนอยู่ ระหว่างถอนหายใจ ต้องใช้เวลานานมาก ราวกับแค่ยังแขวนลมหายใจสุดท้ายอยู่ ราวกับเทียนที่เหลือในสายลมในข้างๆ ยังมีชายวัยกลางคนและชายชราอายุประมาณ50กว่าปียืนอยู่ สวมผ้าป่านหยาบๆ กําลังฝังเข็มให้กับชายชรากู้บนเตียง"จุดฝังเข็มที่คุณฝังผิดแล้ว เมื่อเข็มเหล่านี้ฝังลงไป คุณปู่คงจะไม่รอดในคืนนี

  • แค้นรักแพทย์อัจฉริยะ   บทที่ 5

    ภายในห้องนอนกู้หยุนหลงพูดกับแพทย์เซียนซุนด้วยสีหน้าเอาใจว่า "แพทย์เซียนซุนทําให้ท่านหัวเหราะแล้ว ลูกสาวผมไม่ค่อยรู้เรื่อง คงถูกคนอื่นหลอก ผมจะดุเธอให้นะ และยังขอให้ท่านรักษาให้หายโดยเร็วที่สุด""ได้" แพทย์เซียนซุนตอบและลงเข็มอย่างรวดเร็วหลังจากเข็มสุดท้ายเสร็จ ท่านผู้เฒ่าตากู้ที่หมดสติอยู่บนเตียงมาหลายวันในที่สุดก็ตื่นขึ้นมาและค่อยๆ ลืมตาขึ้น"พ่อ ท่านตื่นแล้ว ดีจริงๆ!"กู้หยุนหลงตื่นเต้นมาก และดวงตาเริ่มแดงสำหรับโรคของท่านผู้เฒ่าตา ตระกูลกู้ได้หาหมอที่มีชื่อเสียงมาตลอด ก็ไม่สามารถทําอะไรได้ สุดท้ายจึงพบหาหางซู และใช้ความพยายามอย่างมากในการเชิญแพทย์เซียนซุนคนนี้มารักษาให้"แพทย์เซียนซุน สมกับเป็นแพทย์เซียนหางซู เทคนิคการฟื้นจากความตายเช่นนี้ทําให้ผมได้เปิดหูเปิดตาจริงๆ ต่อไป ท่านก็เป็นแขกผู้มีเกียรติของตระกูลผมแล้ว"กู้หยุนหลงรีบขอบคุณแพทย์เซียนซุนโบกมือและหัวเราะว่า "แค่ทำตามหน้าที่ หัวหน้าตระกูลกู้ไม่ต้องเกรงใจ"แต่ทันใดนั้น ท่านผู้เฒ่าตาที่อยู่บนเตียงก็จ้องมอง ตัวสั่นอย่างรุนแรง ตามมาด้วยเลือดสีดําที่พ่นออกมา เป็นลมอีกครั้ง"คุณพ่อ คุณพ่อ..."กู้หยุนหลงรีบร้อนแล้ว ต

  • แค้นรักแพทย์อัจฉริยะ   บทที่ 6

    พอคําพูดนี้ออกมา ในห้องนั่งเล่นก็เงียบลงเงียบสงบไปเลยกู้โย่เสวี่ย ยืนขึ้นโดยตรง ใบหน้าแดงก่ำ เบิกตากว้างและมองไปที่เซียวเป่ยเขากล้าให้พ่อของเธอคุกเข่าขอร้องเขาหรอ?สีหน้าของกู้หยุนหลงก็ดูไม่หน้ามองขึ้นมาทันทีแต่ก็ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็คุกเข่าลงและขอร้องว่า "ขอให้แพทย์เซียนเซียวช่วยพ่อของผม"เซียวเป่ยวางถ้วยชาลงและพูดอย่างใจเย็นว่า"สมกับที่เป็นหัวหน้าของตระกูลกู้ ยืดได้หดได้ ผมสามารถช่วยได้ ลุกขึ้นเถอะ"พูดจบ เซียวเป่ยก็ลุกขึ้นเดินไปที่ห้องนอนกู้หยุนหลงก็ลุกขึ้นด้วยกู้โย่เสวี่ยรีบเดินไปถามว่า "คุณพ่อ เมื่อกี้ท่าน..."กู้หยุนหลงขัดจังหวะว่า "อย่าพูดมาก ก่อนหน้านั้นเป็นพ่อเองที่ผิด การคุกเข่าครั้งนี้ สมควรแล้วล่ะ"เมื่อพูดจบแล้ว ดวงตาของกู้หยุนหลงก็มีแววตาความรุนแรงที่ลึกมากและพูดว่า "แต่ถ้าเขาทำไม่ได้ การคุกเข่าครั้งนี้ พ่อกลัวว่าเขาจะรับไม่ไหว!"เซียวเป่ยที่อยู่ข้างหน้า เหมือนจะรู้ว่ากู้หยุนหลงพูดอะไร ยิ้มเบาๆ แล้วเดินเข้าไปในห้องนอนแต่ทันใดนั้นเขาก็หันหลังกลับว่า "หัวหน้าของตระกูลกู้ อย่าลืมว่า ถ้ารักษาหายแล้ว ลูกสาวคุณยังต้องแต่งงานกับผมด้วย"กู้หยุนหลงตกตะลึง

  • แค้นรักแพทย์อัจฉริยะ   บทที่ 7

    "ดูเหมือนว่าคุณยังมีความสามารถอยู่บ้าง คาดไม่ถึงว่าคุณจะรู้จักเข็มเรียกคืนวิญญาณกลัดจิ่วหยาง"เซียวเป่ยหัวเราะอย่างใจเย็น"แพทย์เซียนเซียว ผมก็บังเอิญเคยเห็นบันทึกเกี่ยวกับวิธีแบบนี้ในหนังสือโบราณเล่มหนึ่ง ไม่คิดว่าวันนี้จะโชคดีได้เห็น ยังขอให้หมอเซียวรับผมเป็นลูกศิษย์ด้วย"เซียวเป่ยทําอะไรไม่ถูก ได้แต่รับปากว่า "ท่านและผมในฐานะอาจารย์และลูกศิษย์ ไม่สามารถให้คนนอกรู้ได้ เข้าใจไหม""ได้ ลูกศิษย์เข้าใจ" ซุนจิ่วเหรินยืนอยู่ข้างของเซียวเป่ยและกล่าวด้วยความเคารพมากคราวนี้ กู้หยุนหลงก็ก้าวไปข้างหน้า ยกมือไหว้อย่างเคารพมาก "แพทย์เซียนเซียวขอขอบคุณที่ช่วยพ่อของผมไว้ ตั้งแต่นี้ไป คุณก็เป็นผู้มีพระคุณที่ยิ่งใหญ่ของตระกูลกู้ผมแล้ว ขอแค่ท่านพูดประโยคเดียว สิ่งที่สามารถทำให้แพทย์เซียนเซียวได้ จะไม่ปฏิเสธเด็ดขาด!"" หัวหน้าตระกูลกู้ไม่ต้องเกรงใจ ผมก็แค่ทำตามหน้าที่ในฐานะแพทย์"เซียวเป่ยพูดอย่างจืดชืด เปลี่ยนหัวข้อไปพูดว่า "แต่ผมคงต้องฝากหัวหน้าตระกูลกู้เพื่อช่วยผมทําอะไรสักอย่างจริงๆ ตระกูลกู้เป็นนักธุรกิจ อุตสาหกรรมกระจายอยู่ทั่วประเทศและเกี่ยวข้องกับสมุนไพรด้วย ผมอยากให้หัวหน้าตระกูลกู้ช่ว

  • แค้นรักแพทย์อัจฉริยะ   บทที่ 8

    “เธอ นี่เธอว่าใคร?!” หลี่ เซียวลี่พูดด้วยความโกรธ“ฉันกำลังพูดถึงเธออยู่นะสิ เธอเป็นตัวแทนของปิงฉิ้นกรุ๊ปงั้นหรอ เธอมีสิทธิอะไรเป็นตัวแทน? เพียงเพราะมีหน้าใหญ่หรือเพราะว่าไร้ยางอายล่ะ?”หลี่ เซียวลี่กัดฟันด้วยความโกรธ และระงับอารมณ์โกรธแล้วพูดว่า: "เซียวเป่ย ฉันรู้ว่าคุณยังไม่พอใจกับการหย่าร้าง แต่คุณต้องรู้ไว้ว่า คุณกับประธานซูไม่มีทางเป็นไปได้ การอยู่กับเธอนั้นจะทำให้เธอเสียเวลาเปล่า!”“อีกอย่าง คุณเองทำผิดต่อประธานซู ไม่ใช่เธอทำผิดต่อคุณ! คุณพูดเองก่อนหน้านี้ว่า ยาลูกกลอนจินอู่เป็นสิ่งที่จะมอบให้กับประธานซูในวันครบรอบแต่งงานปีสามปี ทำไมตอนนี้ถึงไม่ยอมรับ? นี่ยังเป็นผู้ชายอยู่ไหม ?“ วันนี้ ฉันจะพูดแค่นี้! นี่คือใบสั่งยายาลูกกลอนจินอู่ ถึงไม่อยากให้ก็ต้องให้! ถึงยังไงฉันกับประธานซูจะขึ้นศาลกับคุณ! ถึงอย่างไรใบสั่งยาถือเป็นสินสมรสใช่มั้ย คำตัดสินของศาลก็ต้องคนละครึ่ง อีกอย่างคุณบอกว่าจะมอบให้ประธานซู พวกเราแค่ดำเนินการ สุดท้ายแล้วใบสั่งยานี้ก็ตกเป็นของประธานซูและปิงฉิ้นกรุ๊ป“ตอนนี้ฉันกำลังเจรจาเรื่องนี้กับคุณเพื่อรักษาหน้าคุณนะไม่อยากทำให้เรื่องนี้มันแย่เกินไป หากคุณรู้เรื่องแล

  • แค้นรักแพทย์อัจฉริยะ   บทที่ 9

    ซูหว่านเลิกคิ้ว ถามอย่างมึนงงว่า "เชิญแพทย์ซุนเฉินได้แล้วหรอ"หลี่ เซียวลี่ส่ายหัวพูดว่า "เชิญไม่ได้ แพทย์ซุนเฉินสนใจด้านวิจัยทางการเรียนแพทย์"หลังจากได้ยิน ซูหว่านแตะหน้าผากแล้วถอนหายใจขอให้ซุน จิ่วเหรินเป็นแพทย์กิตติมศักดิ์ของปิงฉิ้นกรุปในแผนเชิงกลยุทธ์ของเครือสำหรับการพัฒนาในอนาคตอย่างหนึ่งขณะนี้แผนการนี้สามารถระงับได้แค่ชั่วคราวเท่านั้น“แต่ว่าประธานซู ฉันได้รับใบสั่งยายาเม็ดโกลเด้นกาแล้ว!” หลี่ เซียวลี่ส่งใบสั่งยาของเซียวเป่ยไปยังโทรศัพท์มือถือของซูหว่านเพื่อโอ้อวดซูหว่านเลิกคิ้วและพูดว่า "ใบสั่งยายาลูกกลอนจินยาเม็ดโกลเด้นกา คืออะไรน่ะ"หลี่ เซียวลี่อธิบายทันทีและยังเปิดบันทึกการอัดเสียงของเธอกับแพทย์ซุนเฉินอีกด้วย“ยาลูกกลอนจินทรงพลังมากขนาดนั้นเลยหรือ แม้แต่แพทย์ซุนเฉินก็ยังเทียบไม่ได้งั้นหรอ”ใบหน้าของซูหว่านเต็มไปด้วยความประหลาดใจหลี่ เซียวลี่พยักหน้าแล้วพูดว่า "ประธานซูเนื่องจากยาเม็ดโกลเด้นกา ตราบใดที่มีการผลิตจำนวนมากและออกสู่ตลาด รวมถึงการบันทึกจากแพทย์ซุนเฉิน แผนกประชาสัมพันธ์ก็เพิ่มความพยายามในการตลาด ทำให้เครือของเราส่องประกายให้แวดวงการแพทย์และเภสัชหางซู

  • แค้นรักแพทย์อัจฉริยะ   บทที่ 10

    "พอได้แล้ว!"จู่ๆ ซูหว่านก็พูดด้วยความโกรธ "เซียวเป่ย ตอนนี้คุณว่ายังไง คุณอยากให้ฉันยอมแพ้งั้นเหรอ"“ใช่แล้ว” เซียวเป่ยตอบกลับอย่างเงียบๆ"แล้วยังไง"ซู่หว่านถามแบบกดดัน"ใครจะเหมือนคุณ นอนอยู่ในร้านเล็กๆของคุณตลอดทั้งวัน เซียวเป่ยคุณทำให้ฉันผิดหวังมากจริงๆ!"“ตอนนี้ปิงฉิ้นกรุ๊ปยังให้คุณไม่พอเหรอ” เซียวเป่ยถามซู่หว่านหายใจเข้าลึกๆ แล้วพูดว่า: "เซียวเป่ย คุณมันเหมือนกบในกะลาจริงๆ! ฉันจะโปรโมทโครงการยายาเม็ดโกลเด้นกาอย่างถึงที่สุด! ยิ่งคุณไม่ให้ฉันทำมากเท่าไร ฉันจะยิ่งประสบความสำเร็จมากขึ้นเท่านั้น! ฉันต้องการเพื่อพิสูจน์ให้คุณเห็นว่าปิงฉิ้นกรุ๊ปไม่ใช่คนเดียวที่สามารถประสบความสำเร็จได้ ฉันซูหว่านก็สามารถทำได้เช่นเดียวกัน!”ความเงียบงันเกิดความเงียบอย่างยาวนานเซียวเป่ยสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วพูดอยากเบื่อหน่าย "สิ่งที่ฉันเตือนก็พูดไปหมดแล้ว หวังว่าถึงเวลาประธานซูจะไม่มาขอความช่วยเหลือจากฉันนะ"“ชีวิตนี้ฉันจะไม่ขอร้องคุณ!” ซูหว่านตะโกนตู๊ด!สายได้ถูกตัดไปเลิกกันแบบไม่สวยซูหว่านโยนโทรศัพท์ลงบนโต๊ะด้วยความโกรธ แล้วเหลือบมองไปยังเมืองที่มีลักษณะคล้ายกรงเหล็กที่อยู่นอกหน้าต่าง

บทล่าสุด

  • แค้นรักแพทย์อัจฉริยะ   บทที่ 475

    ซูเทียนห้าวตอบว่า: “ฉันรู้แล้ว! พี่สาวของฉันเป็นยังไงบ้าง?”เสียงเย้าแหย่ดังมาจากอีกด้านของโทรศัพท์: “คุณวางใจได้ ไม่ตายหรอก พอคุณควบคุมบริษัทได้สำเร็จ และได้รับเงินสองร้อยห้าสิบล้านบาทมาเมื่อไหร่ พี่สาวของคุณก็จะกลับไปได้แล้ว”“ได้! แต่ฉันขอเตือนพวกแกนะ อย่าแตะต้องพี่สาวของฉัน!”ซูเทียนห้าวกล่าวอย่างเย็นชาชายฉกรรจ์ที่อยู่อีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์ยิ้มแล้วพูดว่า “ไม่ต้องกังวล พวกเราทำงาน เชื่อถือได้แน่นอน”พูดจบ อีกฝ่ายก็วางสายโทรศัพท์ทันทีซูเทียนห้าวถอนหายใจด้วยความโล่งอก แต่กลับไม่ได้ผ่อนคลายเลย“พี่ครับ ผมขอโทษ... แต่ผมจำเป็นต้องทำแบบนี้! ผมอยากจะพิสูจน์ตนเองว่า ผมไม่ใช่เศษสวะ! ผมมีความสามารถ!” ซูเทียนห้าวกล่าวเบาๆ ความเย็นชาแวบขึ้นมาในนัยน์ตา............ตัดภาพมาที่เซียวเป่ยฮั่วเจิ้งซานอยู่ในร้าน พอมองดูเวลา ก็พบว่าผ่านไปหนึ่งชั่วโมงแล้วเห็นได้ชัดว่าเขากังวลมาก จึงถามว่า: “ปรมาจารย์เซียวเป่ย ไป๋อู๋ฉางนั่นจะกลับมาจริงๆเหรอ?”“ถ้าเธอยังไม่อยากตาย เธอก็จะมา ” เซียวเป่ยพูดอย่างสงบนิ่งทันทีที่พูดจบ ที่ประตูร้านขายของชำ ก็มีร่างลับๆล่อๆร่างหนึ่งปรากฏขึ้น ร่างนั้นเดินโซเซเล็

  • แค้นรักแพทย์อัจฉริยะ   บทที่ 474

    สิ่งที่น่ากลัวยิ่งกว่านั้นก็คือ พิษศพที่อยู่บนมือของชายชราในชุดดำ ในเวลานี้ได้ย้อนกลับ กระจายไปตามแขนของชายชรา และบุกเข้าไปจนถึงหน้าอก!เนื่องจากมีพิษศพอยู่บนร่างกายของเขามากเกินไป ในชั่วพริบตาเดียว ชายชราในชุดดำก็ล้มลงกับพื้น คร่ำครวญไม่สายขาด ผิวหนังทั้งตัวเปลี่ยนไปเป็นสีดำ และเริ่มเปื่อยเน่าทางด้านฝั่งนี้ เมื่อหญิงชราในชุดขาวเห็นเหตุการณ์นี้ ก็ตกใจจนมีสีหน้าที่ซีดเผือด ยังไม่ทันได้ครุ่นคิดอะไร ก็หันหลังกลับและวิ่งหนี!เธอรู้ดีว่า คืนนี้ได้พบกับยอดฝีมือแล้ว“คิดจะหนี มันไม่ง่ายขนาดนั้นหรอก!”เมื่อเซียวเป่ยเห็นหญิงชราในชุดขาวคิดจะวิ่งหนี ก็ยกมือขึ้นแล้วยิงเข็มเงินออกไปอีกสองสามเล่มหญิงชราในชุดขาวตอบสนองกลับแบบมีเงื่อนไข เธอเหวี่ยงไม้อาดูรที่อยู่ในมือ จากนั้นก็เกิดเสียงดังตึกตึกตึก และมีประกายไฟขึ้นมาเล็กน้อยทันทีแม้ว่าเข็มเงินส่วนใหญ่จะถูกสกัดกั้น แต่ก็มีเข็มเงินสองสามเล่มที่เจาะเข้าไปที่หน้าของหญิงชราชุดขาว และมีอีกเข็มหนึ่งในนั้นเจาะไปที่ตาของเธอ ทำให้มีเลือดไหลออกมาทันทีแต่หญิงชราชุดขาวกลับไม่คิดที่จะต่อสู้กลับเลยแม้แต่น้อย หันหลังกลับแล้ววิ่งหนีไป พร้อมกับเสียงดังฟรึ่บ

  • แค้นรักแพทย์อัจฉริยะ   บทที่ 473

    เซียวเป่ยพยักหน้าเบาๆ และกล่าวว่า “มาเร็วดีนี่”“แกจะตายเอง หรือว่าให้ฉันลงมือ?” ชายชราในชุดดำ ถามด้วยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความดุร้ายในสายตาของเขา จัดการกับเด็กหนุ่มอย่างเซียวเป่ยนั้น เป็นอะไรที่ง่ายมากเดิมคิดว่าจะเป็นยอดฝีมือที่มีความแข็งแกร่งอะไร คิดไม่ถึงว่า จะเป็นเด็กเหลือขอที่อ่อนหัดคนหนึ่งสิ่งนี้ทำให้เฮยไป๋อู๋ฉางที่อยากจะต่อสู้อย่างจริงจัง รู้สึกผิดหวังเป็นอย่างมากเซียวเป่ยยิ้มด้วยสีหน้าที่สงบนิ่งรอยยิ้มนี้ ทำให้เฮยไป๋อู๋ฉางขมวดคิ้วแน่นเด็กคนนี้ กำลังยิ้มเยาะเย้ยอยู่เหรอ?“ดูเหมือนว่า แกจะเลือกให้พวกเราลงมือ” เฮยอู๋ฉางกล่าวด้วยรอยยิ้มที่ชั่วร้าย เผยให้เห็นฟันเหลืองของเขาและในเวลานี้ กู้โย่เสวี่ยที่นั่งคว่ำหน้านอนอยู่บนโต๊ะก็ตื่นขึ้นมา ขยี้ตาอย่างงัวเงีย มองไปที่ร่างของทั้งสองคนที่จู่ๆก็ปรากฏตัวขึ้นในร้าน และถามอย่างงุนงงว่า: “เกิดอะไรขึ้นเหรอ?”ในเวลานี้ เฮยอู๋ฉางก็ลงมือทันที เขาใช้ฝ่ามือ โจมตีเซียวเป่ยผ่านทางอากาศ!ฝ่ามือนี้ ลมที่อยู่ตรงฝ่ามือแฝงไปด้วยหมอกควันสีดำ และมีกลิ่นเหม็นมากระทบมาที่ใบหน้า!กู้โย่เสวี่ยตกใจมากจนร้องเสียงดัง และลืมที่จะหลบหลีกเซียวเป่ย

  • แค้นรักแพทย์อัจฉริยะ   บทที่ 472

    พอรับสาย เสียงซักถามด้วยความเกรี้ยวโกรธของซูหว่านก็ดังมาจากอีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์: “เซียวเป่ย คุณหมายความว่ายังไงกันแน่?”เซียวเป่ยชะงักไป รู้สึกสับสนเล็กน้อย จึงขมวดคิ้วแล้วถามว่า: “ประธานซู ผมไม่เข้าใจว่าคุณกำลังพูดถึงอะไรอยู่?”“ยังแกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้อีกเหรอ?เป่ยเสวี่ยมาส์ก คุณจะอธิบายยังไง!” ซูหว่านซักถามด้วยน้ำเสียงเย็นชาเซียวเป่ยขมวดคิ้วเล็กน้อย แล้วพูดว่า “เป่ยเสวี่ยมาส์ก? มีปัญหาอะไรหรือเปล่า?”“เซียวเป่ย! คุณไม่คิดว่าตนเองในตอนนี้ ไร้ยางอายมากเหรอ?” ซูหว่านโกรธมากตอนนี้การที่เซียวเป่ยแสร้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ มันเหมือนกับว่าเขาจงใจโอ้อวด“ผมไร้ยางอาย?”เซียวเป่ยขมวดคิ้ว และรู้สึกโกรธขึ้นมามาแบบไม่มีปี่มีขลุ่ยเลยซูหว่านกล่าวอย่างเย็นชาว่า: “ยังจำสิ่งที่คุณพูดเอาไว้ก่อนหน้านี้ได้ไหม?คุณบอกว่าตนเองจะไม่พึ่งพาใคร เพื่อจะพิสูจน์ให้ฉันเห็น! แล้วตอนนี้ล่ะ? สุดท้ายคุณก็พึ่งพาคุณหนูตระกูลกู้คนนั้น แล้วแอบทำอะไรกับมาส์กหน้านั่น!”“ไม่อย่างนั้น อาศัยแค่ตัวคุณเอง จะมีคุณสมบัติไปถึงอันดับที่สี่ของรายการยอดขายระดับประเทศเหรอ?”หลังจากได้ยินคำพูดเหล่านี้ เซียวเป่ยก็เพิ่งตอบ

  • แค้นรักแพทย์อัจฉริยะ   บทที่ 471

    “หัวหน้าตระกูลฮั่ว คุณเข้าใจอะไรผิดไปหรือเปล่า? เศษสวะอย่างไอ้เซียวเป่ยเนี่ยนะ ช่วยชีวิตคุณ?”ฉินเฟิงถามด้วยความประหลาดใจทันใดนั้นสีหน้าของฮั่วเจิ้งซานก็เปลี่ยนไปเป็นแย่มากทันที และกล่าวอย่างไม่พอใจว่า: “ประธานฉินใช่ไหม ผมจะเตือนคุณเป็นครั้งสุดท้ายนะ ได้โปรดให้เกียรติปรมาจารย์เซียวด้วย!”พูดจบ ฮั่วเจิ้งซานก็เฉยเมยต่อสีหน้าที่ประหลาดใจของฉินเฟิง และกล่าวกับเซียวเป่ยว่า: “ปรมาจารย์เซียว พวกเราไปกันเถอะ”เซียวเป่ยพยักหน้า เดินตามฮั่วเจิ้งซานไปขึ้นรถแล้วจากไปซูหว่านกับฉินเฟิงยืนอยู่ที่เดิม ด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยงุนงงสงสัย“แม่งเอ๊ย! ทำเป็นวางมาด? ไม่รู้ว่าใช้วิธีการสกปรกอะไรในการหลอกลวงหัวหน้าตระกูลฮั่ว!” ฉินเฟิงบ่นอย่างไม่พอใจสายตาของซูหว่าน มองดูรถที่กำลังจากไปอยู่ตลอดเวลา และรู้สึกอึดอัดอยู่ใจเป็นอย่างมากไม่รู้เป็นเพราะอะไร พอเห็นท่าทีที่ฮั่วเจิ้งซานมีต่อเซียวเป่ย ทำให้ซูหว่านรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมากตนเองเป็นคนผิดอย่างนั้นเหรอ?ตนรู้สึกเกรงใจและชื่มชมฮั่วเจิ้งซาน แต่เขากลับเคารพนบนอบต่อเซียวเป่ยเป็นอย่างมาก“หว่านเอ๋อร์ เป็นอะไรไปเหรอ?”เมื่อฉินเฟิงเห็นซูหว่านจ้องมองรถที

  • แค้นรักแพทย์อัจฉริยะ   บทที่ 470

    “พ่อหนุ่มคิดว่า ยาอายุวัฒนะแค่เม็ดเดียว สามารถพูดคำเหล่านี้ต่อหน้าฉันฉินเทียนหู่ได้อย่างนั้นเหรอ?”ในขณะนี้พอหลิวเซียนเหนียงได้ยินคำพูดของเซียวเป่ย ก็ขมวดคิ้วอันสวยงาม และรู้สึกว่าเซียวเป่ยใจกล้าเกินไปแล้วสีหน้าของเซียวเป่ยไร้ซึ่งความหวาดกลัว แล้วกล่าวว่า: “พักนี้ท่านฉินรู้สึกแน่นหน้าอกตลอดเวลาใช่ไหม ตอนกลางคืนก็นอนไม่หลับเป็นเวลานาน?”ฉินเทียนหู่ขมวดคิ้ว แล้วกล่าวอย่างเย็นชาว่า: “ช่างนี้ฉันนอนไม่หลับ มีปัญหาอะไรไหม?”เซียวเป่ยส่ายหัวแล้วกล่าวว่า: “ท่านฉิน นี่ไม่ใช่อาการนอนไม่หลับ แต่เป็นเพราะพลังงานรั่วไหล และสูญเสียพลังชีวิต ถ้าผมดูไม่ผิด ท่านฉินไม่เพียงแต่นอนไม่หลับเท่านั้น แต่ยังรู้สึกชาที่แขนขาด้วย บางครั้งอาจจะเป็นลมหมดสติไปชั่วขณะ”ทันทีที่พูดคำเหล่านี้ออกมา สายตาของฉินเทียนหู่ก็เปลี่ยนไปทันทีทำไมเด็กคนนี้ ถึงได้พูดได้แม่นยำขนาดนี้?แต่ว่า แพทย์ที่อยู่ข้างกายตนบอกว่าตนเองไม่เป็นไร แค่ทำงานหนักจนเกินไป พักผ่อนให้เยอะๆก็พอแล้วดังนั้น ฉินเทียนหู่จึงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง และพูดอย่างเย็นชาว่า: “เอาล่ะ ฉันมีหมอประจำตัวอยู่ข้างกาย ถ้ามีปัญหา ไม่จำเป็นต้องให้พ่อหนุ่มมาเตือนฉั

  • แค้นรักแพทย์อัจฉริยะ   บทที่ 469

    หลิวเซียนเหนียงหันกลับมา จ้องมองเซียวเป่ยด้วยสีหน้าท่าทางที่สงสัยและประหลาดใจแล้วถามว่า “นี่คือยาที่คุณทำเหรอ?”“ใช่” เซียวเป่ยตอบอย่างเรียบง่ายบนใบหน้าที่สวยงามของหลิวเซียนเหนียงเต็มไปด้วยสีหน้าที่ประหลาดใจฉินเทียนหู่ขมวดคิ้วแล้วถามว่า “คุณหลิวเห็นอะไรไหม?มันเป็นของจริงหรือของปลอม?”ผู้มีอิทธิพลคนอื่นๆ ต่างก็พากันเอ่ยปากสอบถามกันเป็นแถว“หลิวเซียนเหนียง คุณพูดมาตามตรงเถอะ”“ตามความคิดของผม ยาอายุวัฒนะบ้าอะไรเนี่ย เป็นของปลอมร้อยเปอร์เซ็นต์!”“ท่านฉิน ท่านสามารถดำเนินการได้เลย”เมื่อได้ยินเสียงเย้าแหย่ของคนที่อยู่รอบข้าง สีหน้าของเซียวเป่ยก็ยังคงเต็มไปด้วยความเฉยเมยสีหน้าของฉินเทียนหู่ก็เคร่งขรึมสุดขีดเช่นกัน เมื่อเห็นว่าหลิวเซียนเหนียงไม่ได้พูดเป็นเวลานาน ตัดสินด้วยตนเองในใจ เขามองไปที่เซียวเป่ยด้วยสีหน้าที่แย่มาก โบกมือแล้วพูดว่า: “ใครก็ได้มานี่ที! จับตัวเด็กคนนี้เอาไว้เดี๋ยวนี้!”ทันทีที่พูดจบ บอดี้การ์ดสองก็กำลังจะลงมือ“เดี๋ยวก่อน”ทันใดนั้น หลิวเซียนเหนียงก็เอ่ยปากพูด“คุณหลิว?” ฉินเทียนหู่รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยหลิวเซียนเหนียงมองไปที่เซียวเป่ยอีกครั้ง ดูเหมือนจ

  • แค้นรักแพทย์อัจฉริยะ   บทที่ 468

    “พ่อหนุ่ม พ่อหนุ่มรู้ไหมว่า คนที่หลอกลวงฉันฉินเทียนหู่จะต้องมีจุดจบอย่างไร!”ฉินเทียนหู่โกรธ!เห็นได้อย่างชัดเจนว่า หลายปีที่ผ่านมานี้ ไม่เคยมีใครกล้าเย้าแหย่ตนเอง ต่อหน้าผู้คนมากมายขนาดนี้ยาอายุวัฒนะ?ยืดอายุขัยได้อีกห้าปี?ยาล้ำค่าเช่นนี้ จะใช้กระดาษหนังสือพิมพ์ห่อได้อย่างไร?เซียวเป่ยกลับยิ้มเบาๆแล้วกล่าวว่า “ตอนที่ออกมาผมรีบมาก ผมหากล่องไม่เจอ ก็เลยใช้กระดาษหนังสือพิมพ์ห่อ”ฉินเทียนหู่ขมวดคิ้วแน่น สีหน้าเคร่งขรึมสุดขีด ราวกับว่าเป็นเสือร้ายที่กำลังจะบ้าคลั่ง!ใครก็ได้มานี่ที! จับตัวไอ้หนุ่มที่มาก่อความวุ่นวายคนนี้ให้ฉันหน่อย!”ฉินเทียนหู่ตะคอกด้วยความโกรธทันใดนั้น บอดี้การ์ดทั้งสองคนที่อยู่ด้านหลังฉินเทียนหู่ก็แสดงตัวออกมา เอามือจับตรงสะเอว และจ้องมองเซียวเป่ยด้วยสายตาที่เย็นชาเซียวเป่ยขมวดคิ้วเล็กน้อย แล้วกล่าวว่า “ท่านฉิน ดูยาอายุวัฒนะของผมก่อนค่อยว่ากัน?”“ยังต้องดูอีกเหรอ?”ฉินเทียนหู่พูดอย่างย็นชาฮั่วเจิ้งซานรีบเกลี้ยกล่อมว่า: “ท่านฉิน ท่านอย่าเพิ่งใจร้อนไปเลย ปรมาจารย์เซียวไม่มีเจตนาอื่น ถ้าคุณยอมที่จะเชื่อผม โปรดให้โอกาสปรมาจารย์สักครั้ง ดูยาอายุวัฒนะนี้หน่อย

  • แค้นรักแพทย์อัจฉริยะ   บทที่ 467

    ทันทีที่เซียวเป่ยพูดคำเหล่านี้ออกมา ก็ดึงดูดสายตาของทุกคนที่อยู่ตรงนั้นทันที“ยาอายุวัฒนะ?”“ยาอายุวัฒนะอะไร? ไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย”“พ่อหนุ่ม รู้ไหมว่านี่เป็นวาระโอกาสแบบไหน? ถ้ายังกล้าพูดจาเหลวไหลอีก ก็ไสหัวออกไปซะ!”ทุกคนดูไม่เป็นมิตรมาก และพากันตำหนิเซียวเป่ยฮั่วเจิ้งซานก็ตกตะลึง และตื่นตระหนกเล็กน้อย จากนั้นก็รีบลุกขึ้นแล้วอธิบายว่า: “ทุกท่าน ต้องขออภัยด้วย ยาอายุวัฒนะที่ปรมาจารย์เซียวกล่าวถึง... เป็นยาที่เขาเพิ่งจะกลั่นทำด้วยตนเองเมื่อสักครู่นี้”หลังจากพูดประโยคนี้จบ สีหน้าของทุกคนที่อยู่ในห้องส่วนตัวก็เปลี่ยนไป ตอนแรกรู้สึกประหลาดใจ จากนั้นก็รู้สึกสงสัย สุดท้ายพวกเขาก็รู้สึกโกรธ!เพียะ!ซุนฝูลู่วางถ้วยชาลงบนโต๊ะน้ำชาที่อยู่ด้านขวามืออย่างแรง และกล่าวอย่างไม่พอใจว่า: “ท่านหัวหน้าตระกูลฮั่ว ผมให้คุณพาไอ้หนุ่มคนนี้เข้ามา ก็ถือว่าแหกกฎแล้ว ตอนนี้ไอ้หนุ่มคนนี้ยังกล้ามาพูดจาไร้สาระ และจะใช้ยาอายุวัฒนะที่พวกเราไม่เคยได้ยินมาก่อนอะไรนั่นแลกกับหินจิตวิญญาณ แถมยังเป็นของที่เขาทำขึ้นมาด้วยตนเองอีกด้วย”“ปรมาจารย์ฮั่ว คุณคิดว่าพวกเราทุกคนที่อยู่ที่นี่ โง่เขลาเบาปัญญามากหรือยังไง?

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status