สีหน้าของเจียงฉินเศร้าหมอง คิ้วที่สวยงามก็ขมวดกันเซียวเป่ยพูดทันทีว่า: "ถ้าคุณเว่ยเหล่าไม่ฟื้นภายในห้านาที ผมจะรับผิดชอบเองทั้งหมด!""ดี! คำนี้คุณเป็นคนพูดเองนะ งั้นเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับซูหว่าน" ฉินเฟิงรีบฉวยโอกาสพูด แต่หัวเราะเยาะเย้ยอยู่ในใจเซียวเป่ยพูดอย่างเย็นชาว่า: "ไม่เกี่ยวข้องกับเธอ"ทันใดนั้น ซูหว่านและหลี่เซียวลี่ก็เดินเข้ามา ได้ยินคำนี้ สีหน้าก็เปลี่ยนไปทันทีฉินเฟิงอยากได้ความดีความชอบรีบไปที่ด้านหน้าของซูหว่าน พูดด้วยรอยยิ้มว่า: "ซูหว่าน คุณก็ได้ยินแล้ว เซียวเป่ยรับปากว่าจะรับผิดชอบทั้งหมด หากเกิดอะไรขึ้นกับคุณเว่ยเหล่า ก็จะไม่เกี่ยวข้องกับคุณ คุณวางใจได้""ขอบคุณประธานฉิน" หลี่เซียวลี่กระซิบเบาๆขอเพียงแค่ไม่เกี่ยวข้องกับซูหว่าน และปิงฉิ้นกรุ๊ป ก็จะจัดการได้ง่ายขึ้น ก็ดี ให้เซียวเป่ยคนสารเลวคนนี้รับผิดชอบทั้งหมด!แต่ซูหว่านกลับขมวดคิ้วที่โก่งงาม และพูดอย่างเย็นชาว่า: "เซียวเป่ย ฉันไม่ต้องการให้คุณแกล้งเป็นคนดี หากเกิดอะไรขึ้นกับคุณเว่ยเหล่า ฉันซูหว่านจะรับผิดชอบเองทั้งหมด! ฉันและคุณเซียวเป่ยได้หย่าขาดกันแล้ว ดังนั้น คุณไม่จำเป็นต้องรับผิดชอบแทนฉัน ฉั
ตอนนี้เว่ยหนานเทียนลืมตาขึ้น รู้สึกสบายตัวมากๆ อาการคับหน้าอกก็หายไปแล้ว ร่างกายก็อบอุ่นมาก"ตาไม่เป็นไร" เว่ยหนานเทียนยิ้มเจียงชิงเช็ดน้ำตา ถอนหายใจทางปาก แล้วรีบพูดกับเซียวเป่ยว่า: "ขอบคุณแพทย์เซียนเซียวมาก"เซียวเป่ยยิ้มเบาๆแล้วพูดว่า: "เรื่องเล็กน้อยแค่นี้เอง"ในขณะนี้ แขกทุกคนต่างก็ตะลึงจนอ้าปากค้างคิดไม่ถึงว่า เซียวเป่ยคนนี้จะมีศาสตร์ทางการแพทย์ด้วยท่ามกลางผู้คน ใบหน้าของฉินเฟิงขมขื่นสุดขีด สิ่งที่ตนเพิ่งจะพูดไป ยังคงดังก้องอยู่ในหูนี่ไม่ใช่เป็นการตบหน้าเขาหรอกหรือ?"ขอบคุณแพทย์เซียนเซียวมาก ฉันจะไม่มีวันลืมเลย จากนี้ไป ต้องการอะไร ให้ติดต่อฉันหรือชิงชิงได้เลย"เว่ยหนานเทียนยกมือทำท่าขอบคุณเซียวเป่ยตอบว่า: "คุณเว่ยเหล่ากล่าวเกินไปแล้ว ในฐานะที่คุณสู้อย่างอาจหาญในสนามรบ เพื่อชาติเพื่อประชาชน ยังไงผมก็ต้องยื่นมือเข้าช่วย"เว่ยหนานเทียนพยักหน้า นัยย์ตาเต็มไปด้วยความเมตตากรุณาเซียวเป่ยชายหนุ่มคนนี้ เขารู้สึกชอบใจเป็นอย่างมากด้วยท่าท่างที่อ่อนน้อมถ่อมตน ในอนาคตข้างหน้า จะต้องไปได้ไกลอย่างแน่นอนในเวลาเดียวกัน เจียงชิงก็กระซิบพูดสองสามประโยคกับเว่ยหนันเทียน พอคนข้
“คุณหมายความว่ายังไง" เซียวเป่ยสีหน้าเคร่งขรึมฉินเฟิงหัวเราะเยาะสองครั้ง แล้วพูดอย่างเคร่งขรึมว่า: "หมายความว่ายังไง?ทำไมยาลูกกลอนจินอู่นี่ ต้องใช้ศาสตร์การฝังเข็มของแกถึงจะเห็นผล ไม่มีศาสตร์การฝังเข็มของแก ก็จะเป็นยาพิษ?แกคิดว่าใครมันจะไปเชื่อคำพูดนี้?”เพียงประโยคเดียว แขกทุกคนก็เริ่มกระซิบกระซาบกันด้านข้าง ซูหว่านเห็นภาพที่เซียวเป่ยยืนหยัดเพื่อกู้รั่วเซีย ในใจรู้สึกอึดอัดมากเมื่อก่อน ภาพด้านหลังนี้ เป็นของเธอเท่านั้นในขณะนี้ เมื่อเห็นทุกคนเริ่มวิพากษ์วิจารณ์กัน ฉินเฟิงก็รู้สึกมั่นใจขึ้น เขาดึงชุดสูทของเขา แล้วพูดอย่างเย็นชาว่า: "ทำไม ไอ้คนแซ่เซียว แกไม่ควรอธิบายให้ทุกคนฟังเหรอ?"เสียงเหอะๆดังขึ้นเซียวเป่ยพูดด้วยสีหน้าที่เยือกเย็นว่า: "ทำไมฉันต้องอธิบายด้วย?""ฮ่าฮ่า! ฉันว่าแล้วว่าแกจะอธิบายไม่ได้!”ฉินเฟิงหัวเราะสองครั้ง แล้วตะโกนใส่เว่ยหนานเทียน: "คุณเว่ยเหล่า ผมคิดว่าทุกอย่างที่เพิ่งจะเกิดขึ้น ล้วนเป็นสิ่งที่ไอ้เซียวเป่ยนี่ออกแบบเอาไว้แล้ว! จุดประสงค์ก็คือการได้ใกล้ชิดกับคุณ เพื่อให้คุณรู้สึกขอบคุณเขา!"“เพี๊ยะ!”ไม่รอให้เว่ยหนานเทียนเอ่ยปาก เจียงฉิงเด
ภายในห้องโถง ก็เงียบลงทันทีสีหน้าของซูหว่าน ดูย่ำแย่มากเธอคิดไม่ถึงว่า เซียวเป่ยจะเด็ดขาดขนาดนี้แม้ว่าตนจะขอร้องเขา เขาก็จะไม่ยอมอ่อนข้อให้เมื่อก่อน เขาไม่ได้เป็นคนแบบนี้เป็นไปได้ไหมว่า พอหย่าแล้ว จะทำให้ผู้ชายคนหนึ่งเปลี่ยนไปจริงๆ?“เซียวเป่ย คุณต้องตัดไมตรีกันขนาดนี้เลยเหรอ?” ซูหว่านขมวดคิ้วที่โก่งงามเซียวเป่ยหัวเราะสองครั้ง ด้วยสายตาที่เฉียบคม แล้วถามกลับไปว่า:"ประธานซู ผมอยากจะถามคุณว่า หากวันนี้ผมไม่ได้ช่วยคุณเว่ยเหล่า ฉินเฟิงก็ฉวยโอกาสจากสถานการณ์นี้รังแกผม คิดที่จะฆ่าผมให้ตาย คุณจะขอร้องแทนผมไหม?”"ฉัน....." ซูหว่านพูดไม่ออก นัยย์ตาสั่นไหวเสี่ยวเป่ยหัวเราะเยาะตัวเองสองครั้ง แล้วพูดว่า “คุณไม่ต้องตอบ ความลังเลของคุณได้ให้คำตอบกับกับผมแล้ว ดังนั้น ทำไมผมต้องปล่อยเขาไปด้วย?"ซู่หว่านขมวดคิ้วเล็กน้อย และยังอยากที่จะพูดอะไรบางอย่าง เซียวเป่ยเดินตรงไปที่ด้านหน้าฉินเฟิง ทอดมองต่ำ ยกเท้าขึ้น แล้วพูดอย่างเย็นชาว่า: "ประธานฉิน พื้นผิวของรองเท้าสกปรกจริงๆ รบกวนเลียให้สะอาดด้วย"ฉินเฟิงโกรธมาก จนอกแทบจะระเบิด!แต่ในเวลานี้เขาก็ได้แค่โกรธแต่ไม่กล้า
“คุณจะคิดยังไงก็เชิญ ผมไม่มีสิ่งใดให้ละอายใจ!” เซียวเป่ยพูดด้วยความเย็นชาซูหว่านกลายเป็นคนที่ไม่แยกแยะถูกผิดเช่นนี้ไปแล้วช่างทำให้เขาผิดหวังจริงๆ“ เห็นมั๊ย คุณไม่มีอะไรจะพูดแล้ว!” ซูหว่านพูดด้วยความโกรธ หันกลับไป เหยียบรองเท้าส้นสูงเดินต็อกแต็กๆ ตามไปจนถึงด้านหน้าของฉินเฟิงหลีเสี่ยวลี่ก็ถลึงตาใส่เซียวเป่ยอย่างเกลียดชัง แล้วก็วิ่งตามออกไปเซียวเป่ยสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ระงับความโกรธไว้ในใจ“แพทย์เซียนเซียว คุณไม่เป็นไรใช่ไหม” กู้โย่เสวี่ยถามอย่างเป็นห่วงเซียวเป่ยส่ายหัวแล้วพูดว่า: “ไม่เป็นไร ออกไปเดินเล่นกับผมหน่อย”“ได้สิ ” กู้โย่เสวี่ยพูดด้วยรอยยิ้มที่ซุกซนจากนั้น พอพูดกับเจียงชิงและคนอื่นๆสักสองสามประโยค เซียวเป่ยก็เดินออกจากห้องโถง แล้วมาที่สวนดอกไม้ของวิลล่าบรรยากาศในห้องโถง ทำให้เขารู้สึกหดหู่ใจมากในขณะเดียวกันพอซูหว่านตามฉินเฟิงทัน ก็ะตะโกนว่า: “ประธานฉิน ขอโทษ ฉันขอโทษคุณแทนเซียวเป่ยด้วย ฉันคิดไม่ถึงเลยว่า วันนี้เขาจะยกตนข่มท่านแบบนั้น”ฉินเฟิงพ่นลมหายใจออกมาทางปาก พูดอย่างเกลียดชังว่า: “ประธานซู เรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับคุณ เป็นเซียวเป่ย!
ซูหว่านไม่มีทางเลือกอื่น เพื่อปิงฉิ้นกรุ๊ป เธอจำเป็นต้องตามหาเซียวเป่ยอีกครั้งทางด้านของเซียวเป่ย กำลังเดินอยู่กับกู้โย่เสวี่ยที่ระเบียงทางเดินวิลล่ากู้โย่เสวี่ยเหมือนเป็นหญิงสาวที่มีไหวพริบปฏิภาณดี เอามือเล็กๆไว้ด้านหลัง เตะเท้า เดินตามหลังเซียวเป่ยไปทีละก้าวๆ“แพทย์เซียนเซียว เมื่อกี้คุณทำแบบนั้นกับภรรยาเก่า ไม่กังวลว่าต่อจากนี้ไปเธอจะเกลียดคุณเหรอ?” กู้โย่เสวี่ยถามอย่างระมัดระวังเซียวเป่ยเอามือสองข้างล้วงกระเป๋า พูดด้วยรอยยิ้มจางๆว่า: “ผมไม่แคร์หรอก เธออยากเกลียดก็ให้เธอเกลียดเลย ระหว่างผมกับเธอ คงไม่มีความรักอะไรแล้ว”กู้โย่เสวี่ยหัวเราฮิฮิ แล้วถามว่า: “เช่นนั้น แพทย์เซียนเซียวเคยคิดที่จะหาภรรยาใหม่บ้างมั้๊ย?”ห๊ะ?เซียวเป่ยตะลึงหาภรรยาใหม่สักคนเหรอ?“มันไม่ง่ายขนาดนั้นหรอก ใครมันจะไปยอมแต่งงานกับเศษสวะที่ทำอะไรไม่สำเร็จเลยอย่างผม?” เซียวเป่ยหัวเราะ รู้สึกว่ากู้โย่เสวี่ยยังคงมีความคิดแบบหญิงสาวตัวน้อยๆ คิดแบบง่ายดายจนเกินไป“ฉันไง ฉันยอม”กู้โย่เสวี่ยพูดอย่างเร่งรีบ กะพริบตาโตๆของเธอ ด้วยสีหน้าที่จริงใจเซียวเป่ยขมวดคิ้วเล็กน้อย ประสานตากับก
เดิมทีกู้โย่เสวี่ยยังคงเขินอายเล็กน้อย แต่เมื่อเธอได้ยินซูหว่านใส่ร้ายป้ายสีเซียวเป่ยเช่นนี้ สีหน้าของเธอก็เปลี่ยนไปทันที เธอยิ้มอย่างเย็นชาแล้วพูดว่า: “จริงเหรอ? ”ฉันคิดว่าแพทย์เซียนเซียวค่อนข้างดีเลย อย่างน้อย เขามีความสามารถมากกว่าฉินเฟิงที่อยู่ข้างกายคุณมาก”ซูหว่านขมวดคิ้ว ระงับความโกรธเอาไว้ในใจ“เซียวเป่ย ฉันอยากจะคุยกับคุณ”หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง ซูหว่านก็เอ่ยปากพูดอีกครั้ง“ระหว่างเราสองคนยังมีอะไรอีกที่ต้องคุยกันอีกเหรอ?” เซียวเป่ยพูดอย่างเฉยเมยซูหว่านขมวดคิ้ว และพูดว่า “พวกเราไปคุยกันที่ฝั่งนู้นเถอะ มีคนนอกอยู่ตรงนี้ คงจะไม่สะดวก”ในขณะที่พูด ซูหว่านก็เดินไปที่พื้นที่พักผ่อนข้างๆเมื่อพบว่าเซียวเป่ยไม่ได้ตามมา ซูหว่านก็หยุด สีหน้าดูแย่เล็กน้อย“คุณหนูกู้ไม่ใช่คนนอก ถ้ามีอะไรจะพูด ก็ให้ตรงนี้ได้เลย” เซียวเป่ยกล่าวด้วยความเย็นชากู้โย่เสวี่ยที่อยู่ข้างๆพอได้ยินสิ่งนี้ ในใจก็รู้สึกมีความสุขมาก เธอเอามือเล็กๆไว้ด้านหลัง แลบลิ้นไปที่ซูหว่าน เพื่อโอ้อวดสิ่งนี้ทำให้ซูหว่านโกรธมาก!“ต้องเป็นแบบนี้ทำขนาดนี้เลยเหรอ?” ความโกรธของซูหว่านใกล้จะระเบิดออก
เซียวเป่ยเงียบไปจากนั้นไม่นาน เขาก็พูดอย่างช่วยไม่ได้ว่า “ศาสตร์การฝังเข็ม ผมจะไม่ให้คุณ”ปฏิเสธแล้วซูหว่านตกตะลึง เธอคิดไม่ถึงเลยว่า เซียวเป่ยจะปฏิเสธตนเองนี่เพิ่งหย่ากันเพียงไม่กี่วัน เขาก็เปลี่ยนไปเหมือนเป็นคนละคนเลย“เซียวเป่ย ในที่สุดฉันก็มองคุณได้ชัดเจนขึ้น!” ซูหว่านพูดด้วยความโกรธ จ้องมองไปที่เซียวเป่ยอย่างเกลียดชัง หันหลังและกำลังจะจากไปน้ำตาในนัยน์ย์ตา ได้ไหลพรากออกมาแล้วแต่เธอจะร้องไม่ได้ จะให้เซียวเป่ยเห็นความอ่อนแอของตนเองไม่ได้เด็ดขาดแต่เดินไปได้เพียงไม่กี่ก้าว เสียงของเซียวเป่ยก็ดังมาจากด้านหลังของซูหว่าน: “แต่ ผมจะจะโพสต์เศาสตร์การฝังเข็มลงบนอินเทอร์เน็ต”ในขณะที่มองดูแผ่นหลังอันเปล่าเปลี่ยวที่ทำให้คนสงสารของซูหว่านแล้ว เซียวเป่ยก็รู้สึกเจ็บปวดเล็กน้อยในใจ“แพทย์เซียนเซียว ทำไมคุณถึงทำแบบนี้ล่ะ? ทำแบบนี้ไม่ได้เป็นการช่วยเธอหรอกเหรอ?” กู้กู่โย่เสวี่ยถามด้วยความสับสนเล็กน้อยถ้าศาสตร์การฝังเข็มถูกโพสต์ลงบนอินเทอร์เน็ต นั่นก็เป็นการช่วยปิงฉิ้นกรุ๊ปในทางอ้อมไม่ใช่เหรอ?หรือว่า ในใจของเซียวเป่ยยังตัดใจจากอดีตภรรยาไม่ได้?เซียวเป่ยพูดอย่างใจเ
ซูเทียนห้าวตอบว่า: “ฉันรู้แล้ว! พี่สาวของฉันเป็นยังไงบ้าง?”เสียงเย้าแหย่ดังมาจากอีกด้านของโทรศัพท์: “คุณวางใจได้ ไม่ตายหรอก พอคุณควบคุมบริษัทได้สำเร็จ และได้รับเงินสองร้อยห้าสิบล้านบาทมาเมื่อไหร่ พี่สาวของคุณก็จะกลับไปได้แล้ว”“ได้! แต่ฉันขอเตือนพวกแกนะ อย่าแตะต้องพี่สาวของฉัน!”ซูเทียนห้าวกล่าวอย่างเย็นชาชายฉกรรจ์ที่อยู่อีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์ยิ้มแล้วพูดว่า “ไม่ต้องกังวล พวกเราทำงาน เชื่อถือได้แน่นอน”พูดจบ อีกฝ่ายก็วางสายโทรศัพท์ทันทีซูเทียนห้าวถอนหายใจด้วยความโล่งอก แต่กลับไม่ได้ผ่อนคลายเลย“พี่ครับ ผมขอโทษ... แต่ผมจำเป็นต้องทำแบบนี้! ผมอยากจะพิสูจน์ตนเองว่า ผมไม่ใช่เศษสวะ! ผมมีความสามารถ!” ซูเทียนห้าวกล่าวเบาๆ ความเย็นชาแวบขึ้นมาในนัยน์ตา............ตัดภาพมาที่เซียวเป่ยฮั่วเจิ้งซานอยู่ในร้าน พอมองดูเวลา ก็พบว่าผ่านไปหนึ่งชั่วโมงแล้วเห็นได้ชัดว่าเขากังวลมาก จึงถามว่า: “ปรมาจารย์เซียวเป่ย ไป๋อู๋ฉางนั่นจะกลับมาจริงๆเหรอ?”“ถ้าเธอยังไม่อยากตาย เธอก็จะมา ” เซียวเป่ยพูดอย่างสงบนิ่งทันทีที่พูดจบ ที่ประตูร้านขายของชำ ก็มีร่างลับๆล่อๆร่างหนึ่งปรากฏขึ้น ร่างนั้นเดินโซเซเล็
สิ่งที่น่ากลัวยิ่งกว่านั้นก็คือ พิษศพที่อยู่บนมือของชายชราในชุดดำ ในเวลานี้ได้ย้อนกลับ กระจายไปตามแขนของชายชรา และบุกเข้าไปจนถึงหน้าอก!เนื่องจากมีพิษศพอยู่บนร่างกายของเขามากเกินไป ในชั่วพริบตาเดียว ชายชราในชุดดำก็ล้มลงกับพื้น คร่ำครวญไม่สายขาด ผิวหนังทั้งตัวเปลี่ยนไปเป็นสีดำ และเริ่มเปื่อยเน่าทางด้านฝั่งนี้ เมื่อหญิงชราในชุดขาวเห็นเหตุการณ์นี้ ก็ตกใจจนมีสีหน้าที่ซีดเผือด ยังไม่ทันได้ครุ่นคิดอะไร ก็หันหลังกลับและวิ่งหนี!เธอรู้ดีว่า คืนนี้ได้พบกับยอดฝีมือแล้ว“คิดจะหนี มันไม่ง่ายขนาดนั้นหรอก!”เมื่อเซียวเป่ยเห็นหญิงชราในชุดขาวคิดจะวิ่งหนี ก็ยกมือขึ้นแล้วยิงเข็มเงินออกไปอีกสองสามเล่มหญิงชราในชุดขาวตอบสนองกลับแบบมีเงื่อนไข เธอเหวี่ยงไม้อาดูรที่อยู่ในมือ จากนั้นก็เกิดเสียงดังตึกตึกตึก และมีประกายไฟขึ้นมาเล็กน้อยทันทีแม้ว่าเข็มเงินส่วนใหญ่จะถูกสกัดกั้น แต่ก็มีเข็มเงินสองสามเล่มที่เจาะเข้าไปที่หน้าของหญิงชราชุดขาว และมีอีกเข็มหนึ่งในนั้นเจาะไปที่ตาของเธอ ทำให้มีเลือดไหลออกมาทันทีแต่หญิงชราชุดขาวกลับไม่คิดที่จะต่อสู้กลับเลยแม้แต่น้อย หันหลังกลับแล้ววิ่งหนีไป พร้อมกับเสียงดังฟรึ่บ
เซียวเป่ยพยักหน้าเบาๆ และกล่าวว่า “มาเร็วดีนี่”“แกจะตายเอง หรือว่าให้ฉันลงมือ?” ชายชราในชุดดำ ถามด้วยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความดุร้ายในสายตาของเขา จัดการกับเด็กหนุ่มอย่างเซียวเป่ยนั้น เป็นอะไรที่ง่ายมากเดิมคิดว่าจะเป็นยอดฝีมือที่มีความแข็งแกร่งอะไร คิดไม่ถึงว่า จะเป็นเด็กเหลือขอที่อ่อนหัดคนหนึ่งสิ่งนี้ทำให้เฮยไป๋อู๋ฉางที่อยากจะต่อสู้อย่างจริงจัง รู้สึกผิดหวังเป็นอย่างมากเซียวเป่ยยิ้มด้วยสีหน้าที่สงบนิ่งรอยยิ้มนี้ ทำให้เฮยไป๋อู๋ฉางขมวดคิ้วแน่นเด็กคนนี้ กำลังยิ้มเยาะเย้ยอยู่เหรอ?“ดูเหมือนว่า แกจะเลือกให้พวกเราลงมือ” เฮยอู๋ฉางกล่าวด้วยรอยยิ้มที่ชั่วร้าย เผยให้เห็นฟันเหลืองของเขาและในเวลานี้ กู้โย่เสวี่ยที่นั่งคว่ำหน้านอนอยู่บนโต๊ะก็ตื่นขึ้นมา ขยี้ตาอย่างงัวเงีย มองไปที่ร่างของทั้งสองคนที่จู่ๆก็ปรากฏตัวขึ้นในร้าน และถามอย่างงุนงงว่า: “เกิดอะไรขึ้นเหรอ?”ในเวลานี้ เฮยอู๋ฉางก็ลงมือทันที เขาใช้ฝ่ามือ โจมตีเซียวเป่ยผ่านทางอากาศ!ฝ่ามือนี้ ลมที่อยู่ตรงฝ่ามือแฝงไปด้วยหมอกควันสีดำ และมีกลิ่นเหม็นมากระทบมาที่ใบหน้า!กู้โย่เสวี่ยตกใจมากจนร้องเสียงดัง และลืมที่จะหลบหลีกเซียวเป่ย
พอรับสาย เสียงซักถามด้วยความเกรี้ยวโกรธของซูหว่านก็ดังมาจากอีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์: “เซียวเป่ย คุณหมายความว่ายังไงกันแน่?”เซียวเป่ยชะงักไป รู้สึกสับสนเล็กน้อย จึงขมวดคิ้วแล้วถามว่า: “ประธานซู ผมไม่เข้าใจว่าคุณกำลังพูดถึงอะไรอยู่?”“ยังแกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้อีกเหรอ?เป่ยเสวี่ยมาส์ก คุณจะอธิบายยังไง!” ซูหว่านซักถามด้วยน้ำเสียงเย็นชาเซียวเป่ยขมวดคิ้วเล็กน้อย แล้วพูดว่า “เป่ยเสวี่ยมาส์ก? มีปัญหาอะไรหรือเปล่า?”“เซียวเป่ย! คุณไม่คิดว่าตนเองในตอนนี้ ไร้ยางอายมากเหรอ?” ซูหว่านโกรธมากตอนนี้การที่เซียวเป่ยแสร้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ มันเหมือนกับว่าเขาจงใจโอ้อวด“ผมไร้ยางอาย?”เซียวเป่ยขมวดคิ้ว และรู้สึกโกรธขึ้นมามาแบบไม่มีปี่มีขลุ่ยเลยซูหว่านกล่าวอย่างเย็นชาว่า: “ยังจำสิ่งที่คุณพูดเอาไว้ก่อนหน้านี้ได้ไหม?คุณบอกว่าตนเองจะไม่พึ่งพาใคร เพื่อจะพิสูจน์ให้ฉันเห็น! แล้วตอนนี้ล่ะ? สุดท้ายคุณก็พึ่งพาคุณหนูตระกูลกู้คนนั้น แล้วแอบทำอะไรกับมาส์กหน้านั่น!”“ไม่อย่างนั้น อาศัยแค่ตัวคุณเอง จะมีคุณสมบัติไปถึงอันดับที่สี่ของรายการยอดขายระดับประเทศเหรอ?”หลังจากได้ยินคำพูดเหล่านี้ เซียวเป่ยก็เพิ่งตอบ
“หัวหน้าตระกูลฮั่ว คุณเข้าใจอะไรผิดไปหรือเปล่า? เศษสวะอย่างไอ้เซียวเป่ยเนี่ยนะ ช่วยชีวิตคุณ?”ฉินเฟิงถามด้วยความประหลาดใจทันใดนั้นสีหน้าของฮั่วเจิ้งซานก็เปลี่ยนไปเป็นแย่มากทันที และกล่าวอย่างไม่พอใจว่า: “ประธานฉินใช่ไหม ผมจะเตือนคุณเป็นครั้งสุดท้ายนะ ได้โปรดให้เกียรติปรมาจารย์เซียวด้วย!”พูดจบ ฮั่วเจิ้งซานก็เฉยเมยต่อสีหน้าที่ประหลาดใจของฉินเฟิง และกล่าวกับเซียวเป่ยว่า: “ปรมาจารย์เซียว พวกเราไปกันเถอะ”เซียวเป่ยพยักหน้า เดินตามฮั่วเจิ้งซานไปขึ้นรถแล้วจากไปซูหว่านกับฉินเฟิงยืนอยู่ที่เดิม ด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยงุนงงสงสัย“แม่งเอ๊ย! ทำเป็นวางมาด? ไม่รู้ว่าใช้วิธีการสกปรกอะไรในการหลอกลวงหัวหน้าตระกูลฮั่ว!” ฉินเฟิงบ่นอย่างไม่พอใจสายตาของซูหว่าน มองดูรถที่กำลังจากไปอยู่ตลอดเวลา และรู้สึกอึดอัดอยู่ใจเป็นอย่างมากไม่รู้เป็นเพราะอะไร พอเห็นท่าทีที่ฮั่วเจิ้งซานมีต่อเซียวเป่ย ทำให้ซูหว่านรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมากตนเองเป็นคนผิดอย่างนั้นเหรอ?ตนรู้สึกเกรงใจและชื่มชมฮั่วเจิ้งซาน แต่เขากลับเคารพนบนอบต่อเซียวเป่ยเป็นอย่างมาก“หว่านเอ๋อร์ เป็นอะไรไปเหรอ?”เมื่อฉินเฟิงเห็นซูหว่านจ้องมองรถที
“พ่อหนุ่มคิดว่า ยาอายุวัฒนะแค่เม็ดเดียว สามารถพูดคำเหล่านี้ต่อหน้าฉันฉินเทียนหู่ได้อย่างนั้นเหรอ?”ในขณะนี้พอหลิวเซียนเหนียงได้ยินคำพูดของเซียวเป่ย ก็ขมวดคิ้วอันสวยงาม และรู้สึกว่าเซียวเป่ยใจกล้าเกินไปแล้วสีหน้าของเซียวเป่ยไร้ซึ่งความหวาดกลัว แล้วกล่าวว่า: “พักนี้ท่านฉินรู้สึกแน่นหน้าอกตลอดเวลาใช่ไหม ตอนกลางคืนก็นอนไม่หลับเป็นเวลานาน?”ฉินเทียนหู่ขมวดคิ้ว แล้วกล่าวอย่างเย็นชาว่า: “ช่างนี้ฉันนอนไม่หลับ มีปัญหาอะไรไหม?”เซียวเป่ยส่ายหัวแล้วกล่าวว่า: “ท่านฉิน นี่ไม่ใช่อาการนอนไม่หลับ แต่เป็นเพราะพลังงานรั่วไหล และสูญเสียพลังชีวิต ถ้าผมดูไม่ผิด ท่านฉินไม่เพียงแต่นอนไม่หลับเท่านั้น แต่ยังรู้สึกชาที่แขนขาด้วย บางครั้งอาจจะเป็นลมหมดสติไปชั่วขณะ”ทันทีที่พูดคำเหล่านี้ออกมา สายตาของฉินเทียนหู่ก็เปลี่ยนไปทันทีทำไมเด็กคนนี้ ถึงได้พูดได้แม่นยำขนาดนี้?แต่ว่า แพทย์ที่อยู่ข้างกายตนบอกว่าตนเองไม่เป็นไร แค่ทำงานหนักจนเกินไป พักผ่อนให้เยอะๆก็พอแล้วดังนั้น ฉินเทียนหู่จึงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง และพูดอย่างเย็นชาว่า: “เอาล่ะ ฉันมีหมอประจำตัวอยู่ข้างกาย ถ้ามีปัญหา ไม่จำเป็นต้องให้พ่อหนุ่มมาเตือนฉั
หลิวเซียนเหนียงหันกลับมา จ้องมองเซียวเป่ยด้วยสีหน้าท่าทางที่สงสัยและประหลาดใจแล้วถามว่า “นี่คือยาที่คุณทำเหรอ?”“ใช่” เซียวเป่ยตอบอย่างเรียบง่ายบนใบหน้าที่สวยงามของหลิวเซียนเหนียงเต็มไปด้วยสีหน้าที่ประหลาดใจฉินเทียนหู่ขมวดคิ้วแล้วถามว่า “คุณหลิวเห็นอะไรไหม?มันเป็นของจริงหรือของปลอม?”ผู้มีอิทธิพลคนอื่นๆ ต่างก็พากันเอ่ยปากสอบถามกันเป็นแถว“หลิวเซียนเหนียง คุณพูดมาตามตรงเถอะ”“ตามความคิดของผม ยาอายุวัฒนะบ้าอะไรเนี่ย เป็นของปลอมร้อยเปอร์เซ็นต์!”“ท่านฉิน ท่านสามารถดำเนินการได้เลย”เมื่อได้ยินเสียงเย้าแหย่ของคนที่อยู่รอบข้าง สีหน้าของเซียวเป่ยก็ยังคงเต็มไปด้วยความเฉยเมยสีหน้าของฉินเทียนหู่ก็เคร่งขรึมสุดขีดเช่นกัน เมื่อเห็นว่าหลิวเซียนเหนียงไม่ได้พูดเป็นเวลานาน ตัดสินด้วยตนเองในใจ เขามองไปที่เซียวเป่ยด้วยสีหน้าที่แย่มาก โบกมือแล้วพูดว่า: “ใครก็ได้มานี่ที! จับตัวเด็กคนนี้เอาไว้เดี๋ยวนี้!”ทันทีที่พูดจบ บอดี้การ์ดสองก็กำลังจะลงมือ“เดี๋ยวก่อน”ทันใดนั้น หลิวเซียนเหนียงก็เอ่ยปากพูด“คุณหลิว?” ฉินเทียนหู่รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยหลิวเซียนเหนียงมองไปที่เซียวเป่ยอีกครั้ง ดูเหมือนจ
“พ่อหนุ่ม พ่อหนุ่มรู้ไหมว่า คนที่หลอกลวงฉันฉินเทียนหู่จะต้องมีจุดจบอย่างไร!”ฉินเทียนหู่โกรธ!เห็นได้อย่างชัดเจนว่า หลายปีที่ผ่านมานี้ ไม่เคยมีใครกล้าเย้าแหย่ตนเอง ต่อหน้าผู้คนมากมายขนาดนี้ยาอายุวัฒนะ?ยืดอายุขัยได้อีกห้าปี?ยาล้ำค่าเช่นนี้ จะใช้กระดาษหนังสือพิมพ์ห่อได้อย่างไร?เซียวเป่ยกลับยิ้มเบาๆแล้วกล่าวว่า “ตอนที่ออกมาผมรีบมาก ผมหากล่องไม่เจอ ก็เลยใช้กระดาษหนังสือพิมพ์ห่อ”ฉินเทียนหู่ขมวดคิ้วแน่น สีหน้าเคร่งขรึมสุดขีด ราวกับว่าเป็นเสือร้ายที่กำลังจะบ้าคลั่ง!ใครก็ได้มานี่ที! จับตัวไอ้หนุ่มที่มาก่อความวุ่นวายคนนี้ให้ฉันหน่อย!”ฉินเทียนหู่ตะคอกด้วยความโกรธทันใดนั้น บอดี้การ์ดทั้งสองคนที่อยู่ด้านหลังฉินเทียนหู่ก็แสดงตัวออกมา เอามือจับตรงสะเอว และจ้องมองเซียวเป่ยด้วยสายตาที่เย็นชาเซียวเป่ยขมวดคิ้วเล็กน้อย แล้วกล่าวว่า “ท่านฉิน ดูยาอายุวัฒนะของผมก่อนค่อยว่ากัน?”“ยังต้องดูอีกเหรอ?”ฉินเทียนหู่พูดอย่างย็นชาฮั่วเจิ้งซานรีบเกลี้ยกล่อมว่า: “ท่านฉิน ท่านอย่าเพิ่งใจร้อนไปเลย ปรมาจารย์เซียวไม่มีเจตนาอื่น ถ้าคุณยอมที่จะเชื่อผม โปรดให้โอกาสปรมาจารย์สักครั้ง ดูยาอายุวัฒนะนี้หน่อย
ทันทีที่เซียวเป่ยพูดคำเหล่านี้ออกมา ก็ดึงดูดสายตาของทุกคนที่อยู่ตรงนั้นทันที“ยาอายุวัฒนะ?”“ยาอายุวัฒนะอะไร? ไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย”“พ่อหนุ่ม รู้ไหมว่านี่เป็นวาระโอกาสแบบไหน? ถ้ายังกล้าพูดจาเหลวไหลอีก ก็ไสหัวออกไปซะ!”ทุกคนดูไม่เป็นมิตรมาก และพากันตำหนิเซียวเป่ยฮั่วเจิ้งซานก็ตกตะลึง และตื่นตระหนกเล็กน้อย จากนั้นก็รีบลุกขึ้นแล้วอธิบายว่า: “ทุกท่าน ต้องขออภัยด้วย ยาอายุวัฒนะที่ปรมาจารย์เซียวกล่าวถึง... เป็นยาที่เขาเพิ่งจะกลั่นทำด้วยตนเองเมื่อสักครู่นี้”หลังจากพูดประโยคนี้จบ สีหน้าของทุกคนที่อยู่ในห้องส่วนตัวก็เปลี่ยนไป ตอนแรกรู้สึกประหลาดใจ จากนั้นก็รู้สึกสงสัย สุดท้ายพวกเขาก็รู้สึกโกรธ!เพียะ!ซุนฝูลู่วางถ้วยชาลงบนโต๊ะน้ำชาที่อยู่ด้านขวามืออย่างแรง และกล่าวอย่างไม่พอใจว่า: “ท่านหัวหน้าตระกูลฮั่ว ผมให้คุณพาไอ้หนุ่มคนนี้เข้ามา ก็ถือว่าแหกกฎแล้ว ตอนนี้ไอ้หนุ่มคนนี้ยังกล้ามาพูดจาไร้สาระ และจะใช้ยาอายุวัฒนะที่พวกเราไม่เคยได้ยินมาก่อนอะไรนั่นแลกกับหินจิตวิญญาณ แถมยังเป็นของที่เขาทำขึ้นมาด้วยตนเองอีกด้วย”“ปรมาจารย์ฮั่ว คุณคิดว่าพวกเราทุกคนที่อยู่ที่นี่ โง่เขลาเบาปัญญามากหรือยังไง?