ขณะที่พูด ซ่งจิ่วอี้ก็โบกมือ ส่งสัญญาณให้ลูกน้องคนและหญิงสาวออกไปในห้องส่วนตัวขนาดใหญ่ เหลือเพียงแค่ซ่งจิ่วที่ใบหน้าเต็มไปด้วยความลามก และซูหว่านที่นอนวิงเวียนศีรษะอยู่บนพื้นในขณะนี้ซ่งจิ่วก็ลุกขึ้น เดินไปหาซูหว่านทีละก้าว ปลดเข็มขัดกางเกงของตนเองออก แล้วกล่าวด้วยรอยยิ้มอันลามกว่า: “ประธานซู สาวงามอย่างคุณ ผมรอแทบไม่ไหวแล้วจริงๆ ขอใช้ปากเล็กๆของคุณ ทำให้ผมมีความสุขก่อนแล้วกัน”“คุณ คุณอย่าเข้ามานะ!”เมื่อซูหว่านเห็นดังนี้ ก็ตะโกนด้วยความหวาดกลัว หยิบสเปรย์ป้องกันคนชั่วที่หลี่เซียวลี่ให้มาออกจากกระเป๋า และฉีดใส่ซ่งจิ่วสองครั้ง!“โอ๊ยยยย! ตาของผม…”ซ่งจิ่วรีบเอามือปิดตาทันที และร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดนอกประตู ลูกน้องที่เฝ้าอยู่ ก็ได้ยินเสียงร้องโอ๊ยของซ่งจิ่วดังออกมาจากห้องส่วนตัว“โอ้โห ท่านจิ่วเล่นเร่าร้อนขนาดนี้เลยเหรอ?” ลูกน้องกล่าวด้วยรอยยิ้มที่ลามก“แกไม่รู้อะไร! มีครั้งไหนที่ท่านจิ่วเล่นไม่เร่าร้อนบ้าง? คราวที่แล้วมีหญิงสาวคนหนึ่ง เล่นจนขาดน้ำไปเลย…” ลูกน้องอีกคนหนึ่งกล่าวในขณะนี้ ในห้องส่วนตัว ดวงตาทั้งคู่ของซ่งจิ่วแดงก่ำ และบวมแดง เดินง้างมือไป ตบเพียะเข้าไปที่บ
ทางด้านของเซียวเป่ย ไม่ช้าก็มาถึงหอหมื่นเซียน!ทันทีที่ลงจากรถ เขาแทบรอไม่ไหวที่จะเข้าไปในหอคอย“หยุดนะ! แกเป็นใคร? ใครใช้ให้แกบุกเข้ามา”ทันใดนั้น ชายฉกรรจ์เปลือยท่อนบนที่มีรอยสักคนหนึ่งในห้องโถงชั้นหนึ่ง ตะคอกใส่เซียวเป่ยด้วยความโกรธสีหน้าของเซียวเป่ยเคร่งขรึมลง ก้าวเดินไปข้างหน้า อย่างต่อเนื่อง“ไอ้เวร! รนหาที่ตาย!”ชายฉกรรจ์ที่มีรอยสักคนนั้นโกรธมาก กำหมัดหมายจะต่อยไปที่เซียวเป่ยเซียวเป่ยไม่แม้แต่จะมอง ยกเท้าขึ้นแล้วเตะ เสียงดังปัง แตะไปที่ท้องของชายฉกรรจ์คนนั้นอย่างแรงทันใดนั้น ไขมันบนท้องของชายชายฉกรรจ์ผู้นั้นก็สั่นสะท้าน เสียงดังเอือก คนทั้งคนตัวโค้งงอเหมือนกุ้ง ลอยกระเด็นออกไป กระแทกเข้ากับเสาตะเกียงหลายอันในห้องโถง ล้มลงบนพื้น และไถลห่างออกไปสี่ถึงห้าเมตร จากนั้น ชายฉกรรจ์คนนั้นก็กระอักเลือดออกมาสองสามอึก แล้วสลบไป!ภาพเหตุการณ์นี้ ทำให้คนที่อยู่ในห้องโถงคลุ้มคลั่งกลุ่มชายฉกรรจ์เปลือยท่อนบนสวมกางเกงบ็อกเซอร์ที่มีรอยสัก ก็ตะโกนคำรามพุ่งเข้าหาเซียวเป่ยด้วยความโกรธ!“ไอ้เวร! เด็กเหลือขอคนนี้มาจากไหนกัน ถึงได้กล้ามากำเริบเสิบสานที่หอหมื่นเซียน!”“ลงมือ!ฆ่ามัน!”
ซ่งจิ่วสัมผัสน่องอย่างตะกละตะกลาม แล้วสัมผัสขึ้นไปข้างบนซูหว่านดิ้นรนสุดฤทธิ์ ผลักซ่งจิ่วออกไปอย่างอ่อนแรง และตะโกน: “อย่านะ อย่านะ ท่านจิ่วได้โปรด อย่าทำอย่างนี้เลย...”อย่างไรก็ตาม ยิ่งซูหว่านดิ้นรนมากเท่าไร ก็ยิ่งกระตุ้นความใคร่ที่ป่าเถื่อนของซ่งจิ่วมากขึ้นเท่านั้น!“ประธานซู ตะโกนให้มากกว่านี้ ผมชอบท่าทางที่คุณขอร้องผมมากเลย” ซ่งจิ่วกล่าวด้วยยิ้มที่โรคจิต ยื่นมือออกมา และเริ่มสำรวจหน้าอกของซูหว่านเป็นลำดับต่อไปปังปัง!ทันใดนั้น ก็มีเสียงดังมาจากนอกประตูซ่งจิ่วก็สะดุ้งทันที และตะโกนว่า: “ทำเชี่ยอะไรวะ!”วินาทีต่อมา ก็มีเสียงดังปัง ประตูห้องส่วนตัวก็ถูกถีบให้เปิดออก ประตูใหญ่ๆทั้งบานก็ระเบิดจนแตกกระจุยในทันที และล้มลงบนพื้นจากนั้น ร่างหนึ่งที่มีรูปร่างเหมือนอสูร ร่างกายที่เต็มไปด้วยจิตสังหารที่น่าสะพรึงกลัว ก็รีบเข้ามาจากนอกประตู!เกรี้ยวโกรธสุดขีด!โดยเฉพาะตอนที่เห็นสภาพของซูหว่านที่อยู่บนโซฟา จิตสังหารที่อยู่บนตัวของเซียวเป่ย ก็เดือดพล่านทันที!สายตา ราวกับว่าเป็นเสือที่ดุร้าย ที่อยากจะกินคน“ไอ้เวร! แกเป็นใครน่ะ? ใครใช้ให้แกบุกเข้ามา? ไสหัวออกไปซะ!”ซ่งจิ่วตะ
เซียวเป่ยขมวดคิ้ว มองไปที่ปรมาจารย์หลิวที่กำลังเดินเข้ามาใกล้ๆ“ไอ้หนู ถ้าไม่อยากตาย ก็ยอมให้จับโดยที่ไม่ต้องต่อสู้ซะ!” ปรมาจารย์หลิวพูดอย่างเย็นชาเซียวเป่ยเยาะเย้ยอย่างเหยียดหยาม และพูดว่า “ให้ฉันยอมให้จับโดยที่ไม่ต้องต่อสู้ แกคงจะไม่มีคุณสมบัตินั้น”“เด็กที่ยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม ไม่รู้จักประมาณตน รนหาที่ตาย!”เมื่อปรมาจารย์หลิวได้ยินดังนี้ ก็ตะโกนด้วยความโกรธทันที และพูดว่า: “ที่หอหมื่นเซียนนี้ ไม่มีใครกล้าพูดกับปรมาจารย์อย่างฉันแบบนี้ แกเป็นคนแรก และก็จะเป็นคนสุดท้าย!”“ได้ยินมาว่าแม้แต่ศิษย์น้องเล็กของท่านเป้าก็พ่ายแพ้ให้กับแก วันนี้ ปรมาจารย์อย่างฉันจะดวลกับแก ดูสิว่าแกจะแข็งแกร่งแค่ไหน!”“รับมือ!”พูดจบ ปรมาจารย์หลิวก็เคลื่อนไหวอย่างว่องไง ก้าวไปทางเซียวเป่ยทันที ยกฝ่ามือขึ้น คลื่นอากาศก็ระเบิดออกมาจากฝ่ามือ หมายจะตบไปที่หน้าอกของเซียวเป่ย!ฝ่ามือนี้ ยังมีเสียงแหวกอากาศดังหึ่งหึ่งด้วย!โต๊ะเก้าอี้และสิ่งของต่างๆในห้องส่วนตัว ภายใต้คลื่นลมของฝ่ามือนี้ ต่างก็แตกร้าวทั้งหมดอย่างไรก็ตาม เซียวเป่ยก็ยังมีสีหน้าที่ไร้ซึ่งความรู้สึก มองปรมาจารย์หลิวที่กำลังใช้ฝ่ามือตบมาที่ตน
หลังจากพูดจบ หลิวอวิ๋นก็ไม่ได้สนใจอะไรมากมาย แล้วจึงวิ่งออกไปที่ห้องรับรองซ่งจิ่วที่ยังคงอยู่ก็อึ้งไปในชั่วขณะปรมาจารย์หลิวจะหนีไปแบบนี้น่ะเหรอ?เฮ้ย!เมื่อสายตามองไปเห็นเซียวเป่ยกำลังก้าวเข้ามาหาตนเอง ซ่งจิ่วก็กระวนกระวายพร้อมกับตะโกนออกไปว่า: “คุณ คุณจะทำอะไร? ผมเป็นถึงซ่งจิ่วแห่งเจียงจงเชียวนะ! ถ้าคุณกล้าแตะต้องตัวผม ลูกน้องของผมไม่ปล่อยคุณไว้แน่! แล้วก็จะไม่ยอมปล่อยคนที่อยู่ข้างกายคุณไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม!”“หนวกหู!”เซียวเป่ยพูดแล้วยกมือขึ้นพร้อมกับถิ่มเข็มเงินไปที่คอและช่องว่างระหว่างคิ้วของซ่งจิ่วจนนับไม่ถ้วน!ทันใดนั้น ดวงตาของซ่งจิ่วเบิกกว้าง ไม่สามารถแม้แต่จะเปล่งเสียงร้องครวญครางออกมา เขาหงายหลังล้มลงไปกับพื้น กลายเป็นร่างไร้ลมหายใจขึ้นมาในชั่วพริบตาเดียวเซียวเป่ยไม่อยากที่จะทำแบบนี้แต่ยังไงก็เถอะ มังกรยังคงมีเกล็ดอยู่วันยังค่ำ เดี๋ยวเขาจะแว้งกลับมาเอาคืนได้!ถึงแม้ว่าซูหว่านจะเป็นแค่อดีตภรรยา แต่ก็ไม่ใช่ใครที่ไหนจะมาแตะต้องตัวเธอได้!ในขณะเดียวกัน หวังหู่และจ้าวหงจงรีบวิ่งเข้ามาพร้อมกับลูกศิษย์หลายร้อยคนเมื่อพวกเขาเห็นเหตุการณ์ในล็อบบี้ชั้นหนึ่งและหน้าบันได
ขณะที่เซียวเป่ยกำลังจะเอ่ยปากพูด ทางฝั่งของหลี่เซียวลี่ก็รีบพูดแทรกขึ้นมาทันทีว่า: “ประธานซูคะ คุณคิดมากไปแล้วล่ะค่ะ เขาจะมาช่วยคุณได้อย่างไร!”“ที่นี่ที่ไหน? หอหมื่นเซียน! ดินแดนของท่านจิ่ว!”“ถ้าให้ฉันพูด เมื่อกี้ตอนที่ท่านหวังหู่เข้าไป เซียวเป่ยก็ถือโอกาสอุ้มคุณออกมา คนที่ช่วยชีวิตคุณจริง ๆ จะต้องเป็นท่านหู่อย่างแน่นอนค่ะ!”“ท่านหู่?”ซูหว่านขมวดคิ้วเล็กน้อย หันไปมองที่เซียวเป่ยที่กำลังยืนอยู่ตรงหน้าเธอ แล้วถามต่อไปอีกว่า: “คุณไม่ได้ช่วยฉันอย่างนั้นเหรอ?”เซียวเป่ยคิดแล้วคิดอีก ไม่อยากให้ซูหว่านเข้าใจอะไรผิด จึงตอบกลับไปว่า: “เลขาหลี่ คุณพูดถูกแล้วล่ะ ไม่ใช่ผมหรอก”“คุณฟังดูสิคะประธานซู ฉันจะบอกแล้วไงว่าไม่ใช่เขาหรอก” หลี่เซียวลี่ขยิบตาเมื่อได้ฟังเช่นนี้ ซูหว่านก็ขมวดคิ้ว รู้สึกผิดหวังเล็กน้อยเธอคิดว่าเซียวเป่ยเป็นคนช่วยชีวิตเธอเอาไว้ถ้าเป็นแบบนั้นขึ้นมาจริง ๆ ภายในใจของเซียวเป่ยยังคงมีเธออยู่แต่ตอนนี้ สงสัยตัวเธอเองที่คิดมากไปเอง“แต่พวกเราไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกันกับท่านหู่ แล้วก็ไม่ได้มีความร่วมมืออะไรกันมากด้วย ทำไมเขาถึงต้องช่วยฉันไว้ด้วยล่ะ?” ซูหว่านถามอย่างสงสัย
“แล้วคุณล่ะ? ยังกล้าพูดแบบนี้กับประธานซูอีก ความรู้สึกผิดชอบชั่วดีของคุณมันถูกสุนัขกลืนกินไปจนหมดแล้ว!”เซียวเป่ยตอบกลับไปอย่างเย็นชาว่า: “ถ้าพวกคุณไม่ตัดสินใจมาที่นี่โดยพลการ จะเกิดเรื่องพวกนี้ไหม?”“คุณนี่มัน! งี่เง่าสิ้นดี! คนเนรคุณ!” หลี่เซียวลี่สาปแช่งเขาแล้วหันหลังวิ่งตามซูหว่านเซียวเป่ยมองเงาของซูหว่านที่กำลังเดินจากไป เขาถอนหายใจพร้อมกับพูดขึ้นว่า: “ยัยโง่เอ้ย...พวกเราหย่ากันแล้ว คุณไม่ควรเอาตัวเองมาลงเล่นอะไรแบบนี้ด้วยซ้ำ”คำพูดไร้เยื่อใยที่เซียวเป่ยพูดออกมาเมื่อครู่นี้ ทำเพื่อให้ซูหว่านล้มเลิกความคิดที่จะเข้ามาช่วยเขาแบบนี้ ต่อไปตัวเขาเองก็จะสามารถทำอะไรได้หลาย ๆ อย่าง ไม่ต้องมากังวลอะไรมากแล้ว ซูหว่านจะได้ไม่ต้องตกอยู่ในอันตรายหรือเสี่ยงชีวิตตัวเองเพียงเพราะเธอเป็นอดีตภรรยาของเขาผ่านไปได้ไม่นานหวังหู่ออกมาจากหอหมื่นเซียนและเห็นเซียวเป่ยยืนอยู่หน้าประตู จึงรีบพูดขึ้นว่า: “ปรมาจารย์เซียว ทุกอย่างจัดการเรียบร้อยแล้วครับ”“ขอบคุณมาก” เซียวเป่ยพูดเสร็จแล้วเดินจากไปหวังหู่มองไปที่แผ่นหลังของเซียวเป่ยแล้วเช็ดเหงื่อของเขา พร้อมกับถามจ้าวหงจงที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ว่า: “อาจ
ทางด้านหวังหู่เมื่อได้รับข่าวจากสมาคมจิ่วซานได้ไม่นาน“ขึ้นแข่งขันบนเวทีอย่างนั้นเหรอ?”“ถ้าไม่อยากตายก็ต้องมอบทรัพย์สินและดินแดนให้กับสมาคมจิ่วซาน?”“ไร้เหตุผลสิ้นดี! เอาเปรียบคนอื่นมากเกินไปแล้ว! เจิ้งเทียนเป้าคิดว่าเจียงจงไม่มีใครที่จะสังหารเขาได้หรือไง?”หวังหู่โมโหตบโต๊ะจนน้ำชาที่วางอยู่บนโต๊ะกระเด็นออกมาจ้าวหงจงขมวดคิ้วและพูดขึ้นว่า: “เถ้าแก่หวัง เจิ้งเทียนเป้าทำแบบนี้ก็คงอยากจะสร้างอำนาจในเจียงจง พวกเราจะต้องปฏิบัติการให้รอบคอบ”หวังหู่ขมวดคิ้วและพูดด้วยน้ำเสียงดุดันว่า: “อาจารย์จ้าว มันไม่มีประโยชน์แล้ว นี่ไม่ใช่แค่การสร้างอำนาจ แต่ยังจะฆ่าผมและปรมาจารย์เซียวเพื่อเอาไปบวงสรวงอีกด้วย!”“แผนลอบสังหารในค่ำคืนนี้ ถ้าถึงตอนนั้นขึ้นมาจริง ๆ เจิ้งเทียนเป้าจะต้องฆ่าครอบครัวของผม ได้โปรดอาจารย์จ้าวช่วยภรรยาของผมด้วย”เมื่อจ้าวหงจงได้ฟังเข้าก็เลิกคิ้วแล้วพูดต่อไปว่า: “เถ้าแก่หวัง บางทีเรื่องมันอาจจะพลิกก็ได้ ไม่แน่ คุณเซียวอาจจะเก่งกว่าที่พวกเราคิดไว้จริง ๆ”“ขอให้เป็นแบบนั้นก็แล้วกัน” หวังหู่ถอนหายใจเขามอบความหวังทั้งหมดเอาไว้ที่เซียวเป่ยคืนนี้ จะมีชีวิตรอดหรือจะตาย!……ก
ซูเทียนห้าวตอบว่า: “ฉันรู้แล้ว! พี่สาวของฉันเป็นยังไงบ้าง?”เสียงเย้าแหย่ดังมาจากอีกด้านของโทรศัพท์: “คุณวางใจได้ ไม่ตายหรอก พอคุณควบคุมบริษัทได้สำเร็จ และได้รับเงินสองร้อยห้าสิบล้านบาทมาเมื่อไหร่ พี่สาวของคุณก็จะกลับไปได้แล้ว”“ได้! แต่ฉันขอเตือนพวกแกนะ อย่าแตะต้องพี่สาวของฉัน!”ซูเทียนห้าวกล่าวอย่างเย็นชาชายฉกรรจ์ที่อยู่อีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์ยิ้มแล้วพูดว่า “ไม่ต้องกังวล พวกเราทำงาน เชื่อถือได้แน่นอน”พูดจบ อีกฝ่ายก็วางสายโทรศัพท์ทันทีซูเทียนห้าวถอนหายใจด้วยความโล่งอก แต่กลับไม่ได้ผ่อนคลายเลย“พี่ครับ ผมขอโทษ... แต่ผมจำเป็นต้องทำแบบนี้! ผมอยากจะพิสูจน์ตนเองว่า ผมไม่ใช่เศษสวะ! ผมมีความสามารถ!” ซูเทียนห้าวกล่าวเบาๆ ความเย็นชาแวบขึ้นมาในนัยน์ตา............ตัดภาพมาที่เซียวเป่ยฮั่วเจิ้งซานอยู่ในร้าน พอมองดูเวลา ก็พบว่าผ่านไปหนึ่งชั่วโมงแล้วเห็นได้ชัดว่าเขากังวลมาก จึงถามว่า: “ปรมาจารย์เซียวเป่ย ไป๋อู๋ฉางนั่นจะกลับมาจริงๆเหรอ?”“ถ้าเธอยังไม่อยากตาย เธอก็จะมา ” เซียวเป่ยพูดอย่างสงบนิ่งทันทีที่พูดจบ ที่ประตูร้านขายของชำ ก็มีร่างลับๆล่อๆร่างหนึ่งปรากฏขึ้น ร่างนั้นเดินโซเซเล็
สิ่งที่น่ากลัวยิ่งกว่านั้นก็คือ พิษศพที่อยู่บนมือของชายชราในชุดดำ ในเวลานี้ได้ย้อนกลับ กระจายไปตามแขนของชายชรา และบุกเข้าไปจนถึงหน้าอก!เนื่องจากมีพิษศพอยู่บนร่างกายของเขามากเกินไป ในชั่วพริบตาเดียว ชายชราในชุดดำก็ล้มลงกับพื้น คร่ำครวญไม่สายขาด ผิวหนังทั้งตัวเปลี่ยนไปเป็นสีดำ และเริ่มเปื่อยเน่าทางด้านฝั่งนี้ เมื่อหญิงชราในชุดขาวเห็นเหตุการณ์นี้ ก็ตกใจจนมีสีหน้าที่ซีดเผือด ยังไม่ทันได้ครุ่นคิดอะไร ก็หันหลังกลับและวิ่งหนี!เธอรู้ดีว่า คืนนี้ได้พบกับยอดฝีมือแล้ว“คิดจะหนี มันไม่ง่ายขนาดนั้นหรอก!”เมื่อเซียวเป่ยเห็นหญิงชราในชุดขาวคิดจะวิ่งหนี ก็ยกมือขึ้นแล้วยิงเข็มเงินออกไปอีกสองสามเล่มหญิงชราในชุดขาวตอบสนองกลับแบบมีเงื่อนไข เธอเหวี่ยงไม้อาดูรที่อยู่ในมือ จากนั้นก็เกิดเสียงดังตึกตึกตึก และมีประกายไฟขึ้นมาเล็กน้อยทันทีแม้ว่าเข็มเงินส่วนใหญ่จะถูกสกัดกั้น แต่ก็มีเข็มเงินสองสามเล่มที่เจาะเข้าไปที่หน้าของหญิงชราชุดขาว และมีอีกเข็มหนึ่งในนั้นเจาะไปที่ตาของเธอ ทำให้มีเลือดไหลออกมาทันทีแต่หญิงชราชุดขาวกลับไม่คิดที่จะต่อสู้กลับเลยแม้แต่น้อย หันหลังกลับแล้ววิ่งหนีไป พร้อมกับเสียงดังฟรึ่บ
เซียวเป่ยพยักหน้าเบาๆ และกล่าวว่า “มาเร็วดีนี่”“แกจะตายเอง หรือว่าให้ฉันลงมือ?” ชายชราในชุดดำ ถามด้วยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความดุร้ายในสายตาของเขา จัดการกับเด็กหนุ่มอย่างเซียวเป่ยนั้น เป็นอะไรที่ง่ายมากเดิมคิดว่าจะเป็นยอดฝีมือที่มีความแข็งแกร่งอะไร คิดไม่ถึงว่า จะเป็นเด็กเหลือขอที่อ่อนหัดคนหนึ่งสิ่งนี้ทำให้เฮยไป๋อู๋ฉางที่อยากจะต่อสู้อย่างจริงจัง รู้สึกผิดหวังเป็นอย่างมากเซียวเป่ยยิ้มด้วยสีหน้าที่สงบนิ่งรอยยิ้มนี้ ทำให้เฮยไป๋อู๋ฉางขมวดคิ้วแน่นเด็กคนนี้ กำลังยิ้มเยาะเย้ยอยู่เหรอ?“ดูเหมือนว่า แกจะเลือกให้พวกเราลงมือ” เฮยอู๋ฉางกล่าวด้วยรอยยิ้มที่ชั่วร้าย เผยให้เห็นฟันเหลืองของเขาและในเวลานี้ กู้โย่เสวี่ยที่นั่งคว่ำหน้านอนอยู่บนโต๊ะก็ตื่นขึ้นมา ขยี้ตาอย่างงัวเงีย มองไปที่ร่างของทั้งสองคนที่จู่ๆก็ปรากฏตัวขึ้นในร้าน และถามอย่างงุนงงว่า: “เกิดอะไรขึ้นเหรอ?”ในเวลานี้ เฮยอู๋ฉางก็ลงมือทันที เขาใช้ฝ่ามือ โจมตีเซียวเป่ยผ่านทางอากาศ!ฝ่ามือนี้ ลมที่อยู่ตรงฝ่ามือแฝงไปด้วยหมอกควันสีดำ และมีกลิ่นเหม็นมากระทบมาที่ใบหน้า!กู้โย่เสวี่ยตกใจมากจนร้องเสียงดัง และลืมที่จะหลบหลีกเซียวเป่ย
พอรับสาย เสียงซักถามด้วยความเกรี้ยวโกรธของซูหว่านก็ดังมาจากอีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์: “เซียวเป่ย คุณหมายความว่ายังไงกันแน่?”เซียวเป่ยชะงักไป รู้สึกสับสนเล็กน้อย จึงขมวดคิ้วแล้วถามว่า: “ประธานซู ผมไม่เข้าใจว่าคุณกำลังพูดถึงอะไรอยู่?”“ยังแกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้อีกเหรอ?เป่ยเสวี่ยมาส์ก คุณจะอธิบายยังไง!” ซูหว่านซักถามด้วยน้ำเสียงเย็นชาเซียวเป่ยขมวดคิ้วเล็กน้อย แล้วพูดว่า “เป่ยเสวี่ยมาส์ก? มีปัญหาอะไรหรือเปล่า?”“เซียวเป่ย! คุณไม่คิดว่าตนเองในตอนนี้ ไร้ยางอายมากเหรอ?” ซูหว่านโกรธมากตอนนี้การที่เซียวเป่ยแสร้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ มันเหมือนกับว่าเขาจงใจโอ้อวด“ผมไร้ยางอาย?”เซียวเป่ยขมวดคิ้ว และรู้สึกโกรธขึ้นมามาแบบไม่มีปี่มีขลุ่ยเลยซูหว่านกล่าวอย่างเย็นชาว่า: “ยังจำสิ่งที่คุณพูดเอาไว้ก่อนหน้านี้ได้ไหม?คุณบอกว่าตนเองจะไม่พึ่งพาใคร เพื่อจะพิสูจน์ให้ฉันเห็น! แล้วตอนนี้ล่ะ? สุดท้ายคุณก็พึ่งพาคุณหนูตระกูลกู้คนนั้น แล้วแอบทำอะไรกับมาส์กหน้านั่น!”“ไม่อย่างนั้น อาศัยแค่ตัวคุณเอง จะมีคุณสมบัติไปถึงอันดับที่สี่ของรายการยอดขายระดับประเทศเหรอ?”หลังจากได้ยินคำพูดเหล่านี้ เซียวเป่ยก็เพิ่งตอบ
“หัวหน้าตระกูลฮั่ว คุณเข้าใจอะไรผิดไปหรือเปล่า? เศษสวะอย่างไอ้เซียวเป่ยเนี่ยนะ ช่วยชีวิตคุณ?”ฉินเฟิงถามด้วยความประหลาดใจทันใดนั้นสีหน้าของฮั่วเจิ้งซานก็เปลี่ยนไปเป็นแย่มากทันที และกล่าวอย่างไม่พอใจว่า: “ประธานฉินใช่ไหม ผมจะเตือนคุณเป็นครั้งสุดท้ายนะ ได้โปรดให้เกียรติปรมาจารย์เซียวด้วย!”พูดจบ ฮั่วเจิ้งซานก็เฉยเมยต่อสีหน้าที่ประหลาดใจของฉินเฟิง และกล่าวกับเซียวเป่ยว่า: “ปรมาจารย์เซียว พวกเราไปกันเถอะ”เซียวเป่ยพยักหน้า เดินตามฮั่วเจิ้งซานไปขึ้นรถแล้วจากไปซูหว่านกับฉินเฟิงยืนอยู่ที่เดิม ด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยงุนงงสงสัย“แม่งเอ๊ย! ทำเป็นวางมาด? ไม่รู้ว่าใช้วิธีการสกปรกอะไรในการหลอกลวงหัวหน้าตระกูลฮั่ว!” ฉินเฟิงบ่นอย่างไม่พอใจสายตาของซูหว่าน มองดูรถที่กำลังจากไปอยู่ตลอดเวลา และรู้สึกอึดอัดอยู่ใจเป็นอย่างมากไม่รู้เป็นเพราะอะไร พอเห็นท่าทีที่ฮั่วเจิ้งซานมีต่อเซียวเป่ย ทำให้ซูหว่านรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมากตนเองเป็นคนผิดอย่างนั้นเหรอ?ตนรู้สึกเกรงใจและชื่มชมฮั่วเจิ้งซาน แต่เขากลับเคารพนบนอบต่อเซียวเป่ยเป็นอย่างมาก“หว่านเอ๋อร์ เป็นอะไรไปเหรอ?”เมื่อฉินเฟิงเห็นซูหว่านจ้องมองรถที
“พ่อหนุ่มคิดว่า ยาอายุวัฒนะแค่เม็ดเดียว สามารถพูดคำเหล่านี้ต่อหน้าฉันฉินเทียนหู่ได้อย่างนั้นเหรอ?”ในขณะนี้พอหลิวเซียนเหนียงได้ยินคำพูดของเซียวเป่ย ก็ขมวดคิ้วอันสวยงาม และรู้สึกว่าเซียวเป่ยใจกล้าเกินไปแล้วสีหน้าของเซียวเป่ยไร้ซึ่งความหวาดกลัว แล้วกล่าวว่า: “พักนี้ท่านฉินรู้สึกแน่นหน้าอกตลอดเวลาใช่ไหม ตอนกลางคืนก็นอนไม่หลับเป็นเวลานาน?”ฉินเทียนหู่ขมวดคิ้ว แล้วกล่าวอย่างเย็นชาว่า: “ช่างนี้ฉันนอนไม่หลับ มีปัญหาอะไรไหม?”เซียวเป่ยส่ายหัวแล้วกล่าวว่า: “ท่านฉิน นี่ไม่ใช่อาการนอนไม่หลับ แต่เป็นเพราะพลังงานรั่วไหล และสูญเสียพลังชีวิต ถ้าผมดูไม่ผิด ท่านฉินไม่เพียงแต่นอนไม่หลับเท่านั้น แต่ยังรู้สึกชาที่แขนขาด้วย บางครั้งอาจจะเป็นลมหมดสติไปชั่วขณะ”ทันทีที่พูดคำเหล่านี้ออกมา สายตาของฉินเทียนหู่ก็เปลี่ยนไปทันทีทำไมเด็กคนนี้ ถึงได้พูดได้แม่นยำขนาดนี้?แต่ว่า แพทย์ที่อยู่ข้างกายตนบอกว่าตนเองไม่เป็นไร แค่ทำงานหนักจนเกินไป พักผ่อนให้เยอะๆก็พอแล้วดังนั้น ฉินเทียนหู่จึงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง และพูดอย่างเย็นชาว่า: “เอาล่ะ ฉันมีหมอประจำตัวอยู่ข้างกาย ถ้ามีปัญหา ไม่จำเป็นต้องให้พ่อหนุ่มมาเตือนฉั
หลิวเซียนเหนียงหันกลับมา จ้องมองเซียวเป่ยด้วยสีหน้าท่าทางที่สงสัยและประหลาดใจแล้วถามว่า “นี่คือยาที่คุณทำเหรอ?”“ใช่” เซียวเป่ยตอบอย่างเรียบง่ายบนใบหน้าที่สวยงามของหลิวเซียนเหนียงเต็มไปด้วยสีหน้าที่ประหลาดใจฉินเทียนหู่ขมวดคิ้วแล้วถามว่า “คุณหลิวเห็นอะไรไหม?มันเป็นของจริงหรือของปลอม?”ผู้มีอิทธิพลคนอื่นๆ ต่างก็พากันเอ่ยปากสอบถามกันเป็นแถว“หลิวเซียนเหนียง คุณพูดมาตามตรงเถอะ”“ตามความคิดของผม ยาอายุวัฒนะบ้าอะไรเนี่ย เป็นของปลอมร้อยเปอร์เซ็นต์!”“ท่านฉิน ท่านสามารถดำเนินการได้เลย”เมื่อได้ยินเสียงเย้าแหย่ของคนที่อยู่รอบข้าง สีหน้าของเซียวเป่ยก็ยังคงเต็มไปด้วยความเฉยเมยสีหน้าของฉินเทียนหู่ก็เคร่งขรึมสุดขีดเช่นกัน เมื่อเห็นว่าหลิวเซียนเหนียงไม่ได้พูดเป็นเวลานาน ตัดสินด้วยตนเองในใจ เขามองไปที่เซียวเป่ยด้วยสีหน้าที่แย่มาก โบกมือแล้วพูดว่า: “ใครก็ได้มานี่ที! จับตัวเด็กคนนี้เอาไว้เดี๋ยวนี้!”ทันทีที่พูดจบ บอดี้การ์ดสองก็กำลังจะลงมือ“เดี๋ยวก่อน”ทันใดนั้น หลิวเซียนเหนียงก็เอ่ยปากพูด“คุณหลิว?” ฉินเทียนหู่รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยหลิวเซียนเหนียงมองไปที่เซียวเป่ยอีกครั้ง ดูเหมือนจ
“พ่อหนุ่ม พ่อหนุ่มรู้ไหมว่า คนที่หลอกลวงฉันฉินเทียนหู่จะต้องมีจุดจบอย่างไร!”ฉินเทียนหู่โกรธ!เห็นได้อย่างชัดเจนว่า หลายปีที่ผ่านมานี้ ไม่เคยมีใครกล้าเย้าแหย่ตนเอง ต่อหน้าผู้คนมากมายขนาดนี้ยาอายุวัฒนะ?ยืดอายุขัยได้อีกห้าปี?ยาล้ำค่าเช่นนี้ จะใช้กระดาษหนังสือพิมพ์ห่อได้อย่างไร?เซียวเป่ยกลับยิ้มเบาๆแล้วกล่าวว่า “ตอนที่ออกมาผมรีบมาก ผมหากล่องไม่เจอ ก็เลยใช้กระดาษหนังสือพิมพ์ห่อ”ฉินเทียนหู่ขมวดคิ้วแน่น สีหน้าเคร่งขรึมสุดขีด ราวกับว่าเป็นเสือร้ายที่กำลังจะบ้าคลั่ง!ใครก็ได้มานี่ที! จับตัวไอ้หนุ่มที่มาก่อความวุ่นวายคนนี้ให้ฉันหน่อย!”ฉินเทียนหู่ตะคอกด้วยความโกรธทันใดนั้น บอดี้การ์ดทั้งสองคนที่อยู่ด้านหลังฉินเทียนหู่ก็แสดงตัวออกมา เอามือจับตรงสะเอว และจ้องมองเซียวเป่ยด้วยสายตาที่เย็นชาเซียวเป่ยขมวดคิ้วเล็กน้อย แล้วกล่าวว่า “ท่านฉิน ดูยาอายุวัฒนะของผมก่อนค่อยว่ากัน?”“ยังต้องดูอีกเหรอ?”ฉินเทียนหู่พูดอย่างย็นชาฮั่วเจิ้งซานรีบเกลี้ยกล่อมว่า: “ท่านฉิน ท่านอย่าเพิ่งใจร้อนไปเลย ปรมาจารย์เซียวไม่มีเจตนาอื่น ถ้าคุณยอมที่จะเชื่อผม โปรดให้โอกาสปรมาจารย์สักครั้ง ดูยาอายุวัฒนะนี้หน่อย
ทันทีที่เซียวเป่ยพูดคำเหล่านี้ออกมา ก็ดึงดูดสายตาของทุกคนที่อยู่ตรงนั้นทันที“ยาอายุวัฒนะ?”“ยาอายุวัฒนะอะไร? ไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย”“พ่อหนุ่ม รู้ไหมว่านี่เป็นวาระโอกาสแบบไหน? ถ้ายังกล้าพูดจาเหลวไหลอีก ก็ไสหัวออกไปซะ!”ทุกคนดูไม่เป็นมิตรมาก และพากันตำหนิเซียวเป่ยฮั่วเจิ้งซานก็ตกตะลึง และตื่นตระหนกเล็กน้อย จากนั้นก็รีบลุกขึ้นแล้วอธิบายว่า: “ทุกท่าน ต้องขออภัยด้วย ยาอายุวัฒนะที่ปรมาจารย์เซียวกล่าวถึง... เป็นยาที่เขาเพิ่งจะกลั่นทำด้วยตนเองเมื่อสักครู่นี้”หลังจากพูดประโยคนี้จบ สีหน้าของทุกคนที่อยู่ในห้องส่วนตัวก็เปลี่ยนไป ตอนแรกรู้สึกประหลาดใจ จากนั้นก็รู้สึกสงสัย สุดท้ายพวกเขาก็รู้สึกโกรธ!เพียะ!ซุนฝูลู่วางถ้วยชาลงบนโต๊ะน้ำชาที่อยู่ด้านขวามืออย่างแรง และกล่าวอย่างไม่พอใจว่า: “ท่านหัวหน้าตระกูลฮั่ว ผมให้คุณพาไอ้หนุ่มคนนี้เข้ามา ก็ถือว่าแหกกฎแล้ว ตอนนี้ไอ้หนุ่มคนนี้ยังกล้ามาพูดจาไร้สาระ และจะใช้ยาอายุวัฒนะที่พวกเราไม่เคยได้ยินมาก่อนอะไรนั่นแลกกับหินจิตวิญญาณ แถมยังเป็นของที่เขาทำขึ้นมาด้วยตนเองอีกด้วย”“ปรมาจารย์ฮั่ว คุณคิดว่าพวกเราทุกคนที่อยู่ที่นี่ โง่เขลาเบาปัญญามากหรือยังไง?