“แล้วคุณล่ะ? ยังกล้าพูดแบบนี้กับประธานซูอีก ความรู้สึกผิดชอบชั่วดีของคุณมันถูกสุนัขกลืนกินไปจนหมดแล้ว!”เซียวเป่ยตอบกลับไปอย่างเย็นชาว่า: “ถ้าพวกคุณไม่ตัดสินใจมาที่นี่โดยพลการ จะเกิดเรื่องพวกนี้ไหม?”“คุณนี่มัน! งี่เง่าสิ้นดี! คนเนรคุณ!” หลี่เซียวลี่สาปแช่งเขาแล้วหันหลังวิ่งตามซูหว่านเซียวเป่ยมองเงาของซูหว่านที่กำลังเดินจากไป เขาถอนหายใจพร้อมกับพูดขึ้นว่า: “ยัยโง่เอ้ย...พวกเราหย่ากันแล้ว คุณไม่ควรเอาตัวเองมาลงเล่นอะไรแบบนี้ด้วยซ้ำ”คำพูดไร้เยื่อใยที่เซียวเป่ยพูดออกมาเมื่อครู่นี้ ทำเพื่อให้ซูหว่านล้มเลิกความคิดที่จะเข้ามาช่วยเขาแบบนี้ ต่อไปตัวเขาเองก็จะสามารถทำอะไรได้หลาย ๆ อย่าง ไม่ต้องมากังวลอะไรมากแล้ว ซูหว่านจะได้ไม่ต้องตกอยู่ในอันตรายหรือเสี่ยงชีวิตตัวเองเพียงเพราะเธอเป็นอดีตภรรยาของเขาผ่านไปได้ไม่นานหวังหู่ออกมาจากหอหมื่นเซียนและเห็นเซียวเป่ยยืนอยู่หน้าประตู จึงรีบพูดขึ้นว่า: “ปรมาจารย์เซียว ทุกอย่างจัดการเรียบร้อยแล้วครับ”“ขอบคุณมาก” เซียวเป่ยพูดเสร็จแล้วเดินจากไปหวังหู่มองไปที่แผ่นหลังของเซียวเป่ยแล้วเช็ดเหงื่อของเขา พร้อมกับถามจ้าวหงจงที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ว่า: “อาจ
ทางด้านหวังหู่เมื่อได้รับข่าวจากสมาคมจิ่วซานได้ไม่นาน“ขึ้นแข่งขันบนเวทีอย่างนั้นเหรอ?”“ถ้าไม่อยากตายก็ต้องมอบทรัพย์สินและดินแดนให้กับสมาคมจิ่วซาน?”“ไร้เหตุผลสิ้นดี! เอาเปรียบคนอื่นมากเกินไปแล้ว! เจิ้งเทียนเป้าคิดว่าเจียงจงไม่มีใครที่จะสังหารเขาได้หรือไง?”หวังหู่โมโหตบโต๊ะจนน้ำชาที่วางอยู่บนโต๊ะกระเด็นออกมาจ้าวหงจงขมวดคิ้วและพูดขึ้นว่า: “เถ้าแก่หวัง เจิ้งเทียนเป้าทำแบบนี้ก็คงอยากจะสร้างอำนาจในเจียงจง พวกเราจะต้องปฏิบัติการให้รอบคอบ”หวังหู่ขมวดคิ้วและพูดด้วยน้ำเสียงดุดันว่า: “อาจารย์จ้าว มันไม่มีประโยชน์แล้ว นี่ไม่ใช่แค่การสร้างอำนาจ แต่ยังจะฆ่าผมและปรมาจารย์เซียวเพื่อเอาไปบวงสรวงอีกด้วย!”“แผนลอบสังหารในค่ำคืนนี้ ถ้าถึงตอนนั้นขึ้นมาจริง ๆ เจิ้งเทียนเป้าจะต้องฆ่าครอบครัวของผม ได้โปรดอาจารย์จ้าวช่วยภรรยาของผมด้วย”เมื่อจ้าวหงจงได้ฟังเข้าก็เลิกคิ้วแล้วพูดต่อไปว่า: “เถ้าแก่หวัง บางทีเรื่องมันอาจจะพลิกก็ได้ ไม่แน่ คุณเซียวอาจจะเก่งกว่าที่พวกเราคิดไว้จริง ๆ”“ขอให้เป็นแบบนั้นก็แล้วกัน” หวังหู่ถอนหายใจเขามอบความหวังทั้งหมดเอาไว้ที่เซียวเป่ยคืนนี้ จะมีชีวิตรอดหรือจะตาย!……ก
ทุกคนต่างก็จ้องมองไปที่ชายร่างใหญ่ผู้นั้น“จักรพรรดิใต้ดินแห่งเจียงจง! ผู้มีอำนาจที่แท้จริง!”“ท่านหู่!”“เขาก็มาด้วย!”ทันทีที่หวังหู่ปรากฏตัวบนเวที ผู้คนทั้งสนามมวยต่างก็ตกใจท่านหู่เป็นผู้ทรงอิทธิพลที่เป็นตำนานที่สุดในบรรดาผู้ทรงอิทธิพลใต้ดินแห่งเจียงจง และเขาเป็นผู้ครอบครองอำนาจครึ่งหนึ่งในเจียงจง!นอกจากนี้ยังมีบริษัทจดทะเบียนหลายแห่ง และบริษัทที่มีอิทธิพลมากที่สุดนั่นก็คือต้าฟากรุ๊ป ซึ่งมีมูลค่าในตลาดมากกว่าหนึ่งพันล้าน!เมื่อเห็นหวังหู่ปรากฏตัวบนเวที ผู้มีอิทธิพลใต้ดินของเจียงจงที่กำลังนั่งอยู่ ถึงแม้ว่าพวกเขาจะไม่พอใจ แต่ก็ยืนขึ้นโค้งคำนับหวังหู่แล้วพูดขึ้นว่า: “ท่านหู่”หวังหู่พยักหน้าเบา ๆ พร้อมกับพาคนกลุ่มหนึ่งและจ้าวหงจงนั่งลงอย่างรวดเร็วคนอื่นต่างก็ไม่รู้ แต่หวังหู่กลับรู้ดีว่าหลังจากคืนนี้ไป เขาอาจจะได้เป็นผู้นำของผู้ที่มีอิทธิพลใต้ดินแห่งเจียงจงที่ไม่มีใครทำอะไรเขาได้ หรือไม่เขาจะต้องตายอยู่ที่นี่และกลายเป็นช่วงเวลาหนึ่งของประวัติศาสตร์ในเจียงจง!แต่ตอนจบของเรื่องทั้งหมดนี้ เขาเดิมพันกันกับเซียวเป่ยหลังจากผ่านไปได้ไม่นาน ผู้มีอิทธิพลแต่ละคนก็เริ่มหมดความอดท
พวกเขามองไปที่หลี่ไห่อีกครั้ง จากนั้นเขาก็หัวเราะพร้อมกับพูดว่า: “ที่ให้ทุกคนมารวมตัวกันในวันนี้ ก็แค่อยากจะบอกกับทุกคนว่า ท่านจิ่วได้ตายไปแล้ว ส่วนสมาคมจิ่วซาน ผมจะเป็นคนดูแลต่อเอง ผมหลี่ไห่ก็คือท่านไห่แห่งเจียงจง!”หลังจากพูดจบ ลูกศิษย์ที่อยู่รายล้อมสมาคมจิ่วซาน ต่างก็ค่อย ๆ ส่งเสียงดังขึ้น:“ท่านไห่!”“ท่านไห่!”“ท่านไห่!”หลี่ไห่ผายมือทั้งสองข้างออกมา มันช่างเป็นช่วงเวลาที่มีความสุขเหลือเกินความรู้สึกนี้ ความรู้สึกที่อยู่เหนือสิ่งใดๆ ความรู้สึกที่มีอำนาจอยู่ในมือ มันสุดยอดจริงๆ!เขาโบกมือ ให้ลูกศิษย์ทุกคนหยุดส่งเสียง ส่วนตัวเขาก็กวาดตามองไปยังผู้ชมด้วยสายตาเยือกเย็นพร้อมกับพูดขึ้นว่า: “ไม่ทราบว่าทุกคนมีข้อคิดเห็นอะไรไหม?”เฟิงจื่อหลิว ราชาเก้านิ้ว อู๋เสวี่ยหลงและคนอื่นๆ ต่างก็ค่อยๆจ้องมองเขาพร้อมทั้งมองหวังหู่ แต่กลับพบว่าเขากำลังหลับตาพักสมองอยู่“ในเมื่อทุกคนไม่มีความคิดเห็นอะไร งั้นผมก็ขอประกาศอีกเรื่องก็แล้วกัน” หลี่ไห่เอามือไขว้หลัง พูดด้วยท่าทางที่โหดเหี้ยม“มีอะไรจะพูดก็พูดออกมา!” เฟิงจื่อหลิวตอบกลับหลี่ไห่กวาดสายตามองไปยังเฟิงจื่อหลิว พร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงเย
เจิ้งเทียนเป้าที่กำลังยืนอยู่บนเวทีตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า: “นายไม่มีสิทธิ์รู้หรอกว่าฉันเป็นใคร? ฉันจะให้โอกาสนายอีกครั้ง มอบดินแดนแล้วยอมแพ้ฉันซะ! ไม่อย่างนั้น นายได้ตายแน่!”ติ๊ง!ภายในใจของเฟิงจื่อหลิวสั่นไหว เขามองไปที่ชายผิวเข้มที่อยู่ข้าง ๆ แล้วพูดขึ้นว่า: “ไท่ข่า! คงต้องอาศัยนายแล้วล่ะ!”ไท่ข่ายืนขึ้น จ้องไปที่เจิ้งเทียนเป้าที่ยืนอยู่บนเวทีด้วยสีหน้าดุเดือดพร้อมกับพูดว่า: “ฉันจะสู้กับนายเอง!”เจิ้งเทียนเป้าหัวเราะออกมาเบาๆ แล้วพูดว่า: “นายไม่ใช่คู่ต่อสู้ของฉันหรอก”“งั้นเหรอ? มาลองกันสักตั้งเดี๋ยวก็รู้!”ไท่ข่าตะโกนออกไปด้วยความโกรธ เหยียบพื้นแล้วกระโดดขึ้นไปยังเวทีมวยทุกย่างก้าวที่เขาเหยียบทำให้พื้นเกิดรอยร้าวไท่ข่ายืนอยู่บนเวทีจ้องไปที่เจิ้งเทียนเป้าที่ยืนอยู่ตรงข้ามเขาด้วยสีหน้าดุเดือด ไม่รู้ว่าทำไมเขารับรู้ได้ถึงความกดดันที่ไม่เคยมีมาก่อนจากร่างกายเจิ้งเทียนเป้า!“เชิญ!” ไท่ข่าพูดพร้อมกำหมัดเจิ้งเทียนเป้ายืนเอามือไขว้หลังและพูดอย่างไม่แยแสไปว่า: “จะฆ่านาย ฉันไม่จำเป็นต้องออกแรงหรอก”“สามหาว!”ไท่ข่าเริ่มโกรธจัดนี่มันเป็นการดูถูกกันชัดๆ!เขาเป็นถึงปรม
“อาจารย์จ้าว...”หวังหู่รู้สึกซาบซึ้งใจจ้าวหงจงยิ้มออกมาเบาๆ พร้อมกับลุกขึ้นเดินไปที่เวทีมวยในช่วงเวลานี้ เขาดูหนุ่มขึ้นหลายสิบปี ทั้งเนื้อทั้งตัวเต็มไปด้วยลมหายใจแห่งความตาย“เถ้าแก่หวัง ก่อนหน้านี้ผมไม่ได้ช่วยคุณ ครั้งนี้ผมจะไปแทนคุณเอง ถือซะว่ายืดเวลาให้กับปรมาจารย์เซียว!” จ้าวหงจงพูดด้วยสีหน้ามุ่งมั่นบนเวทีมวย เจิ้งเทียนเป้าขยิบตาเล็กหน่อย มองไปที่จ้าวหงจงที่กำลังเดินขึ้นมาบนเวที จากนั้นเขาก็หัวเราะพร้อมกับพูดว่า: “ความแข็งแกร่งภายในระดับสูง ถือว่ายังมีพลังอยู่บ้าง แต่น่าเสียดาย ดูเหมือนว่านายจะได้รับบาดเจ็บ”“ไอ้แก่ นายอยากตายหรือไง?”ขณะเดียวกันจ้าวหงจงที่ก้าวขึ้นไปบนเวทีมวย เอามือไขว้หลัง เขาดูมีออร่าเป็นปรมาจารย์แห่งศิลปะการต่อสู้อย่างมากพร้อมกับพูดขึ้นว่า: “ความตายมีอะไรน่ากลัว? พูดตรงๆฉันอยากจะสู้กับนายเต็มทน ดูสิว่าคนที่คนอื่นเรียกว่าปรมาจารย์จากต่างแดนจะแข็งแกร่งแค่ไหน”ทันทีพูดจบ ผู้ชมต่างก็ส่งเสียงฮือฮาขึ้นมา!ว่าไงนะ?ปรมาจารย์?!ผู้ชายที่อยู่บนเวทีนั่นก็คือปรมาจารย์ศิลปะการต่อสู้จริงๆน่ะเหรอ?!ในขณะเดียวกัน ราชาเก้านิ้วโจวเหยากวง อู๋เสวี่ยหลงแล้วก็เฟิงจื่อ
“บุคคลที่เก่งกาจได้ขนาดนี้ ทำไมต้องไปหนีไปต่างประเทศด้วยล่ะ?” มีคนไม่เข้าใจถามต่อโจวเหยากวงระลึกความทรงจำ พูดต่อไปด้วยท่าทางหวาดกลัว: “ต้วนอู๋จี๋เป็นคนที่มีจิตใจโหดเหี้ยมและทำสิ่งชั่วร้ายทุในกรูปแบบ เขาอาศัยความแข็งแกร่งของเขาทำสิ่งที่ผิดในมณฑลเจียง”“สุดท้าย จ้าวคงเฉิงจากกลุ่มมังกรของหน่วยงานรัฐบาลก็ปราบปรามเขา บังคับให้ต้วนอู๋จี๋สาบานด้วยยาพิษว่าเขาจะไม่มีวันกลับเข้ามาสู่ประเทศนี้อีกตลอดชีวิต!”หลังจากพูดจบ ทุกคนต่างฮือฮากันขึ้นมาอีกครั้ง“จ้าวคงเฉิง? คนที่มาจากเขตทหารเป่ยเหลียงนั่นน่ะเหรอ?” ในขณะนี้ สีหน้าของทุกคนเปลี่ยนไปอย่างมากจ้าวคงเฉิงเป็นบุคคลที่มีพรสวรรค์อันน่าสะพรึงกลัวเชียวล่ะ!เขาได้รับการยอมรับว่าเป็นบุคคลที่มีพรสวรรค์ ไม่มีใครเทียบได้ในแวดวงศิลปะการต่อสู้ของประเทศจีน เมื่ออายุได้ 20 ปี เขาก็สามารถเป็นปรมาจารย์ด้านศิลปะการต่อสู้ได้แล้ว และกลายเป็นปรมาจารย์แวดวงศิลปะการต่อสู้ที่ทำสถิติสูงสุดในประเทศตอนนี้เขาอายุได้ 30 ปี สามารถเป็นปรมาจารย์ระดับมนุษย์เทพได้แล้ว แล้วก็หวังเป็นอย่างมากว่าจะก้าวเข้าไปสู่ระดับสวรรค์ประทาน อีกทั้งยังเป็นเสาหลักของเขตทหารเป่ยเหลียงอีกด
ผู้ชมทุกคนต่างก็เงียบกริบ!สายตาของผู้ชมหันไปมองที่เซียวเป่ยที่กำลังยืนอยู่ประตูทางเข้าเขามีรูปร่างสูงใหญ่ กำลังสะบัดน้ำฝนที่อยู่บนร่ม ดูเหมือนเป็นคนธรรมดา จะดูอย่างไรก็ไม่มีจุดเด่นอะไรเขาคือปรมาจารย์เซียวอย่างนั้นเหรอ?คนอย่างเจิ้งเทียนเป้าเรียกว่าปรมาจารย์ศิลปะการต่อสู้ จะธรรมดาขนาดนี้เลยเหรอ?อีกอย่าง ดูเหมือนว่าเขาจะอายุไม่ถึงสามสิบเลยด้วยซ้ำ?“ไอ้เด็กนี่! นายเป็นใครกัน? ไสหัวออกไปซะ!”มีคนลุกขึ้นและตะโกนด่าออกไปด้วยความโมโหนี่มันเรื่องอะไรกัน?แม้แต่ผู้มีอิทธิพลใต้ดินเจียงจงที่อยู่ในที่นี้ต่างก็ไม่กล้าพูดเสียงดังออกไป แล้วไอ้เด็กนี่มายืนทำอะไรตอนนี้?พูดเอาใจมวลชน?หาเรื่องตาย?เจิ้งเทียนเป้าที่ยืนอยู่บนเวที เรียกได้ว่ามีพลังความกดดันไปทั่วทั้งงาน!บุคคลระดับปรมาจารย์ศิลปะการต่อสู้จะถูกเด็กหนุ่มอย่างเซียวเป่ยมาท้าทายได้อย่างไร?หากเรื่องแค่นี้ทำให้เจิ้งเทียนเป้าไม่พอใจ ผู้มีอิทธิพลที่อยู่ที่นี่ในค่ำคืนนี้คงต้องผิดหวังขึ้นมาแล้วสินะ?ราชาเก้านิ้วโจวเหยากวง อู๋เสวี่ยหลง เฟิงจื่อหลิวที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสและคนอื่นๆต่างก็จ้องมองไปที่เซียวเป่ยด้วยสีหน้าเคร่งขรึม อดไม่ไ
ซูเทียนห้าวตอบว่า: “ฉันรู้แล้ว! พี่สาวของฉันเป็นยังไงบ้าง?”เสียงเย้าแหย่ดังมาจากอีกด้านของโทรศัพท์: “คุณวางใจได้ ไม่ตายหรอก พอคุณควบคุมบริษัทได้สำเร็จ และได้รับเงินสองร้อยห้าสิบล้านบาทมาเมื่อไหร่ พี่สาวของคุณก็จะกลับไปได้แล้ว”“ได้! แต่ฉันขอเตือนพวกแกนะ อย่าแตะต้องพี่สาวของฉัน!”ซูเทียนห้าวกล่าวอย่างเย็นชาชายฉกรรจ์ที่อยู่อีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์ยิ้มแล้วพูดว่า “ไม่ต้องกังวล พวกเราทำงาน เชื่อถือได้แน่นอน”พูดจบ อีกฝ่ายก็วางสายโทรศัพท์ทันทีซูเทียนห้าวถอนหายใจด้วยความโล่งอก แต่กลับไม่ได้ผ่อนคลายเลย“พี่ครับ ผมขอโทษ... แต่ผมจำเป็นต้องทำแบบนี้! ผมอยากจะพิสูจน์ตนเองว่า ผมไม่ใช่เศษสวะ! ผมมีความสามารถ!” ซูเทียนห้าวกล่าวเบาๆ ความเย็นชาแวบขึ้นมาในนัยน์ตา............ตัดภาพมาที่เซียวเป่ยฮั่วเจิ้งซานอยู่ในร้าน พอมองดูเวลา ก็พบว่าผ่านไปหนึ่งชั่วโมงแล้วเห็นได้ชัดว่าเขากังวลมาก จึงถามว่า: “ปรมาจารย์เซียวเป่ย ไป๋อู๋ฉางนั่นจะกลับมาจริงๆเหรอ?”“ถ้าเธอยังไม่อยากตาย เธอก็จะมา ” เซียวเป่ยพูดอย่างสงบนิ่งทันทีที่พูดจบ ที่ประตูร้านขายของชำ ก็มีร่างลับๆล่อๆร่างหนึ่งปรากฏขึ้น ร่างนั้นเดินโซเซเล็
สิ่งที่น่ากลัวยิ่งกว่านั้นก็คือ พิษศพที่อยู่บนมือของชายชราในชุดดำ ในเวลานี้ได้ย้อนกลับ กระจายไปตามแขนของชายชรา และบุกเข้าไปจนถึงหน้าอก!เนื่องจากมีพิษศพอยู่บนร่างกายของเขามากเกินไป ในชั่วพริบตาเดียว ชายชราในชุดดำก็ล้มลงกับพื้น คร่ำครวญไม่สายขาด ผิวหนังทั้งตัวเปลี่ยนไปเป็นสีดำ และเริ่มเปื่อยเน่าทางด้านฝั่งนี้ เมื่อหญิงชราในชุดขาวเห็นเหตุการณ์นี้ ก็ตกใจจนมีสีหน้าที่ซีดเผือด ยังไม่ทันได้ครุ่นคิดอะไร ก็หันหลังกลับและวิ่งหนี!เธอรู้ดีว่า คืนนี้ได้พบกับยอดฝีมือแล้ว“คิดจะหนี มันไม่ง่ายขนาดนั้นหรอก!”เมื่อเซียวเป่ยเห็นหญิงชราในชุดขาวคิดจะวิ่งหนี ก็ยกมือขึ้นแล้วยิงเข็มเงินออกไปอีกสองสามเล่มหญิงชราในชุดขาวตอบสนองกลับแบบมีเงื่อนไข เธอเหวี่ยงไม้อาดูรที่อยู่ในมือ จากนั้นก็เกิดเสียงดังตึกตึกตึก และมีประกายไฟขึ้นมาเล็กน้อยทันทีแม้ว่าเข็มเงินส่วนใหญ่จะถูกสกัดกั้น แต่ก็มีเข็มเงินสองสามเล่มที่เจาะเข้าไปที่หน้าของหญิงชราชุดขาว และมีอีกเข็มหนึ่งในนั้นเจาะไปที่ตาของเธอ ทำให้มีเลือดไหลออกมาทันทีแต่หญิงชราชุดขาวกลับไม่คิดที่จะต่อสู้กลับเลยแม้แต่น้อย หันหลังกลับแล้ววิ่งหนีไป พร้อมกับเสียงดังฟรึ่บ
เซียวเป่ยพยักหน้าเบาๆ และกล่าวว่า “มาเร็วดีนี่”“แกจะตายเอง หรือว่าให้ฉันลงมือ?” ชายชราในชุดดำ ถามด้วยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความดุร้ายในสายตาของเขา จัดการกับเด็กหนุ่มอย่างเซียวเป่ยนั้น เป็นอะไรที่ง่ายมากเดิมคิดว่าจะเป็นยอดฝีมือที่มีความแข็งแกร่งอะไร คิดไม่ถึงว่า จะเป็นเด็กเหลือขอที่อ่อนหัดคนหนึ่งสิ่งนี้ทำให้เฮยไป๋อู๋ฉางที่อยากจะต่อสู้อย่างจริงจัง รู้สึกผิดหวังเป็นอย่างมากเซียวเป่ยยิ้มด้วยสีหน้าที่สงบนิ่งรอยยิ้มนี้ ทำให้เฮยไป๋อู๋ฉางขมวดคิ้วแน่นเด็กคนนี้ กำลังยิ้มเยาะเย้ยอยู่เหรอ?“ดูเหมือนว่า แกจะเลือกให้พวกเราลงมือ” เฮยอู๋ฉางกล่าวด้วยรอยยิ้มที่ชั่วร้าย เผยให้เห็นฟันเหลืองของเขาและในเวลานี้ กู้โย่เสวี่ยที่นั่งคว่ำหน้านอนอยู่บนโต๊ะก็ตื่นขึ้นมา ขยี้ตาอย่างงัวเงีย มองไปที่ร่างของทั้งสองคนที่จู่ๆก็ปรากฏตัวขึ้นในร้าน และถามอย่างงุนงงว่า: “เกิดอะไรขึ้นเหรอ?”ในเวลานี้ เฮยอู๋ฉางก็ลงมือทันที เขาใช้ฝ่ามือ โจมตีเซียวเป่ยผ่านทางอากาศ!ฝ่ามือนี้ ลมที่อยู่ตรงฝ่ามือแฝงไปด้วยหมอกควันสีดำ และมีกลิ่นเหม็นมากระทบมาที่ใบหน้า!กู้โย่เสวี่ยตกใจมากจนร้องเสียงดัง และลืมที่จะหลบหลีกเซียวเป่ย
พอรับสาย เสียงซักถามด้วยความเกรี้ยวโกรธของซูหว่านก็ดังมาจากอีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์: “เซียวเป่ย คุณหมายความว่ายังไงกันแน่?”เซียวเป่ยชะงักไป รู้สึกสับสนเล็กน้อย จึงขมวดคิ้วแล้วถามว่า: “ประธานซู ผมไม่เข้าใจว่าคุณกำลังพูดถึงอะไรอยู่?”“ยังแกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้อีกเหรอ?เป่ยเสวี่ยมาส์ก คุณจะอธิบายยังไง!” ซูหว่านซักถามด้วยน้ำเสียงเย็นชาเซียวเป่ยขมวดคิ้วเล็กน้อย แล้วพูดว่า “เป่ยเสวี่ยมาส์ก? มีปัญหาอะไรหรือเปล่า?”“เซียวเป่ย! คุณไม่คิดว่าตนเองในตอนนี้ ไร้ยางอายมากเหรอ?” ซูหว่านโกรธมากตอนนี้การที่เซียวเป่ยแสร้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ มันเหมือนกับว่าเขาจงใจโอ้อวด“ผมไร้ยางอาย?”เซียวเป่ยขมวดคิ้ว และรู้สึกโกรธขึ้นมามาแบบไม่มีปี่มีขลุ่ยเลยซูหว่านกล่าวอย่างเย็นชาว่า: “ยังจำสิ่งที่คุณพูดเอาไว้ก่อนหน้านี้ได้ไหม?คุณบอกว่าตนเองจะไม่พึ่งพาใคร เพื่อจะพิสูจน์ให้ฉันเห็น! แล้วตอนนี้ล่ะ? สุดท้ายคุณก็พึ่งพาคุณหนูตระกูลกู้คนนั้น แล้วแอบทำอะไรกับมาส์กหน้านั่น!”“ไม่อย่างนั้น อาศัยแค่ตัวคุณเอง จะมีคุณสมบัติไปถึงอันดับที่สี่ของรายการยอดขายระดับประเทศเหรอ?”หลังจากได้ยินคำพูดเหล่านี้ เซียวเป่ยก็เพิ่งตอบ
“หัวหน้าตระกูลฮั่ว คุณเข้าใจอะไรผิดไปหรือเปล่า? เศษสวะอย่างไอ้เซียวเป่ยเนี่ยนะ ช่วยชีวิตคุณ?”ฉินเฟิงถามด้วยความประหลาดใจทันใดนั้นสีหน้าของฮั่วเจิ้งซานก็เปลี่ยนไปเป็นแย่มากทันที และกล่าวอย่างไม่พอใจว่า: “ประธานฉินใช่ไหม ผมจะเตือนคุณเป็นครั้งสุดท้ายนะ ได้โปรดให้เกียรติปรมาจารย์เซียวด้วย!”พูดจบ ฮั่วเจิ้งซานก็เฉยเมยต่อสีหน้าที่ประหลาดใจของฉินเฟิง และกล่าวกับเซียวเป่ยว่า: “ปรมาจารย์เซียว พวกเราไปกันเถอะ”เซียวเป่ยพยักหน้า เดินตามฮั่วเจิ้งซานไปขึ้นรถแล้วจากไปซูหว่านกับฉินเฟิงยืนอยู่ที่เดิม ด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยงุนงงสงสัย“แม่งเอ๊ย! ทำเป็นวางมาด? ไม่รู้ว่าใช้วิธีการสกปรกอะไรในการหลอกลวงหัวหน้าตระกูลฮั่ว!” ฉินเฟิงบ่นอย่างไม่พอใจสายตาของซูหว่าน มองดูรถที่กำลังจากไปอยู่ตลอดเวลา และรู้สึกอึดอัดอยู่ใจเป็นอย่างมากไม่รู้เป็นเพราะอะไร พอเห็นท่าทีที่ฮั่วเจิ้งซานมีต่อเซียวเป่ย ทำให้ซูหว่านรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมากตนเองเป็นคนผิดอย่างนั้นเหรอ?ตนรู้สึกเกรงใจและชื่มชมฮั่วเจิ้งซาน แต่เขากลับเคารพนบนอบต่อเซียวเป่ยเป็นอย่างมาก“หว่านเอ๋อร์ เป็นอะไรไปเหรอ?”เมื่อฉินเฟิงเห็นซูหว่านจ้องมองรถที
“พ่อหนุ่มคิดว่า ยาอายุวัฒนะแค่เม็ดเดียว สามารถพูดคำเหล่านี้ต่อหน้าฉันฉินเทียนหู่ได้อย่างนั้นเหรอ?”ในขณะนี้พอหลิวเซียนเหนียงได้ยินคำพูดของเซียวเป่ย ก็ขมวดคิ้วอันสวยงาม และรู้สึกว่าเซียวเป่ยใจกล้าเกินไปแล้วสีหน้าของเซียวเป่ยไร้ซึ่งความหวาดกลัว แล้วกล่าวว่า: “พักนี้ท่านฉินรู้สึกแน่นหน้าอกตลอดเวลาใช่ไหม ตอนกลางคืนก็นอนไม่หลับเป็นเวลานาน?”ฉินเทียนหู่ขมวดคิ้ว แล้วกล่าวอย่างเย็นชาว่า: “ช่างนี้ฉันนอนไม่หลับ มีปัญหาอะไรไหม?”เซียวเป่ยส่ายหัวแล้วกล่าวว่า: “ท่านฉิน นี่ไม่ใช่อาการนอนไม่หลับ แต่เป็นเพราะพลังงานรั่วไหล และสูญเสียพลังชีวิต ถ้าผมดูไม่ผิด ท่านฉินไม่เพียงแต่นอนไม่หลับเท่านั้น แต่ยังรู้สึกชาที่แขนขาด้วย บางครั้งอาจจะเป็นลมหมดสติไปชั่วขณะ”ทันทีที่พูดคำเหล่านี้ออกมา สายตาของฉินเทียนหู่ก็เปลี่ยนไปทันทีทำไมเด็กคนนี้ ถึงได้พูดได้แม่นยำขนาดนี้?แต่ว่า แพทย์ที่อยู่ข้างกายตนบอกว่าตนเองไม่เป็นไร แค่ทำงานหนักจนเกินไป พักผ่อนให้เยอะๆก็พอแล้วดังนั้น ฉินเทียนหู่จึงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง และพูดอย่างเย็นชาว่า: “เอาล่ะ ฉันมีหมอประจำตัวอยู่ข้างกาย ถ้ามีปัญหา ไม่จำเป็นต้องให้พ่อหนุ่มมาเตือนฉั
หลิวเซียนเหนียงหันกลับมา จ้องมองเซียวเป่ยด้วยสีหน้าท่าทางที่สงสัยและประหลาดใจแล้วถามว่า “นี่คือยาที่คุณทำเหรอ?”“ใช่” เซียวเป่ยตอบอย่างเรียบง่ายบนใบหน้าที่สวยงามของหลิวเซียนเหนียงเต็มไปด้วยสีหน้าที่ประหลาดใจฉินเทียนหู่ขมวดคิ้วแล้วถามว่า “คุณหลิวเห็นอะไรไหม?มันเป็นของจริงหรือของปลอม?”ผู้มีอิทธิพลคนอื่นๆ ต่างก็พากันเอ่ยปากสอบถามกันเป็นแถว“หลิวเซียนเหนียง คุณพูดมาตามตรงเถอะ”“ตามความคิดของผม ยาอายุวัฒนะบ้าอะไรเนี่ย เป็นของปลอมร้อยเปอร์เซ็นต์!”“ท่านฉิน ท่านสามารถดำเนินการได้เลย”เมื่อได้ยินเสียงเย้าแหย่ของคนที่อยู่รอบข้าง สีหน้าของเซียวเป่ยก็ยังคงเต็มไปด้วยความเฉยเมยสีหน้าของฉินเทียนหู่ก็เคร่งขรึมสุดขีดเช่นกัน เมื่อเห็นว่าหลิวเซียนเหนียงไม่ได้พูดเป็นเวลานาน ตัดสินด้วยตนเองในใจ เขามองไปที่เซียวเป่ยด้วยสีหน้าที่แย่มาก โบกมือแล้วพูดว่า: “ใครก็ได้มานี่ที! จับตัวเด็กคนนี้เอาไว้เดี๋ยวนี้!”ทันทีที่พูดจบ บอดี้การ์ดสองก็กำลังจะลงมือ“เดี๋ยวก่อน”ทันใดนั้น หลิวเซียนเหนียงก็เอ่ยปากพูด“คุณหลิว?” ฉินเทียนหู่รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยหลิวเซียนเหนียงมองไปที่เซียวเป่ยอีกครั้ง ดูเหมือนจ
“พ่อหนุ่ม พ่อหนุ่มรู้ไหมว่า คนที่หลอกลวงฉันฉินเทียนหู่จะต้องมีจุดจบอย่างไร!”ฉินเทียนหู่โกรธ!เห็นได้อย่างชัดเจนว่า หลายปีที่ผ่านมานี้ ไม่เคยมีใครกล้าเย้าแหย่ตนเอง ต่อหน้าผู้คนมากมายขนาดนี้ยาอายุวัฒนะ?ยืดอายุขัยได้อีกห้าปี?ยาล้ำค่าเช่นนี้ จะใช้กระดาษหนังสือพิมพ์ห่อได้อย่างไร?เซียวเป่ยกลับยิ้มเบาๆแล้วกล่าวว่า “ตอนที่ออกมาผมรีบมาก ผมหากล่องไม่เจอ ก็เลยใช้กระดาษหนังสือพิมพ์ห่อ”ฉินเทียนหู่ขมวดคิ้วแน่น สีหน้าเคร่งขรึมสุดขีด ราวกับว่าเป็นเสือร้ายที่กำลังจะบ้าคลั่ง!ใครก็ได้มานี่ที! จับตัวไอ้หนุ่มที่มาก่อความวุ่นวายคนนี้ให้ฉันหน่อย!”ฉินเทียนหู่ตะคอกด้วยความโกรธทันใดนั้น บอดี้การ์ดทั้งสองคนที่อยู่ด้านหลังฉินเทียนหู่ก็แสดงตัวออกมา เอามือจับตรงสะเอว และจ้องมองเซียวเป่ยด้วยสายตาที่เย็นชาเซียวเป่ยขมวดคิ้วเล็กน้อย แล้วกล่าวว่า “ท่านฉิน ดูยาอายุวัฒนะของผมก่อนค่อยว่ากัน?”“ยังต้องดูอีกเหรอ?”ฉินเทียนหู่พูดอย่างย็นชาฮั่วเจิ้งซานรีบเกลี้ยกล่อมว่า: “ท่านฉิน ท่านอย่าเพิ่งใจร้อนไปเลย ปรมาจารย์เซียวไม่มีเจตนาอื่น ถ้าคุณยอมที่จะเชื่อผม โปรดให้โอกาสปรมาจารย์สักครั้ง ดูยาอายุวัฒนะนี้หน่อย
ทันทีที่เซียวเป่ยพูดคำเหล่านี้ออกมา ก็ดึงดูดสายตาของทุกคนที่อยู่ตรงนั้นทันที“ยาอายุวัฒนะ?”“ยาอายุวัฒนะอะไร? ไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย”“พ่อหนุ่ม รู้ไหมว่านี่เป็นวาระโอกาสแบบไหน? ถ้ายังกล้าพูดจาเหลวไหลอีก ก็ไสหัวออกไปซะ!”ทุกคนดูไม่เป็นมิตรมาก และพากันตำหนิเซียวเป่ยฮั่วเจิ้งซานก็ตกตะลึง และตื่นตระหนกเล็กน้อย จากนั้นก็รีบลุกขึ้นแล้วอธิบายว่า: “ทุกท่าน ต้องขออภัยด้วย ยาอายุวัฒนะที่ปรมาจารย์เซียวกล่าวถึง... เป็นยาที่เขาเพิ่งจะกลั่นทำด้วยตนเองเมื่อสักครู่นี้”หลังจากพูดประโยคนี้จบ สีหน้าของทุกคนที่อยู่ในห้องส่วนตัวก็เปลี่ยนไป ตอนแรกรู้สึกประหลาดใจ จากนั้นก็รู้สึกสงสัย สุดท้ายพวกเขาก็รู้สึกโกรธ!เพียะ!ซุนฝูลู่วางถ้วยชาลงบนโต๊ะน้ำชาที่อยู่ด้านขวามืออย่างแรง และกล่าวอย่างไม่พอใจว่า: “ท่านหัวหน้าตระกูลฮั่ว ผมให้คุณพาไอ้หนุ่มคนนี้เข้ามา ก็ถือว่าแหกกฎแล้ว ตอนนี้ไอ้หนุ่มคนนี้ยังกล้ามาพูดจาไร้สาระ และจะใช้ยาอายุวัฒนะที่พวกเราไม่เคยได้ยินมาก่อนอะไรนั่นแลกกับหินจิตวิญญาณ แถมยังเป็นของที่เขาทำขึ้นมาด้วยตนเองอีกด้วย”“ปรมาจารย์ฮั่ว คุณคิดว่าพวกเราทุกคนที่อยู่ที่นี่ โง่เขลาเบาปัญญามากหรือยังไง?