แชร์

บทที่ 141

ผู้เขียน: คันธรส สุภาสนันท์
ทางด้านจ้าวหงจง ยังคงพูดคุยกันกับลูกศิษย์สี่ห้าคนอยู่ ทันใดนั้นก็รู้สึกถึงวิกฤตอันตราย หันศีรษะมองไปที่บันได สีหน้าเคร่งขรึม และพูดว่า: “เถ้าแก่หวัง มีคนมาแล้ว”

พูดจบ เขาก็มองไปที่เซียวเป่ย

เด็กคนนี้ สัมผัสได้ว่ามีคนมาได้ก่อนเขาจริงๆ

มีความสามารถจริงๆ หรือว่าโกหก?

เซียวเป่ยยิ้มเบาๆ นัยย์ตาคู่นั้น นิ่งสงบราวกับน้ำมองไปที่ประตูบันไดเพียงที่เดียว

ในทันที ทั้งดาดฟ้า ก็เงียบลง

ทุกคนต่างก็เงยหน้า มองไปที่ประตูบันได

ได้ยินเพียงแค่เสียงคำรามอันโกรธแค้นดังมาจากบันได และยังมีเสียงเตะต่อยตุ๊บตับดังมา แม้กระทั่งเสียงฟันด้วยมีดและขวาน

แต่ว่า เพียงครู่หนึ่ง เสียงเหล่านั้นก็ได้หายไปทั้งหมด

จากนั้น ก็มีร่างของหลายคนฟรึ่บๆ ลอยกระเด็นออกมาจากปากบันได ราวกับว่าดาวตก เสียงดังพลั่กสองสามเสียง กระแทกลงไปบนพื้น และชนกับโต๊ะเก้าอี้จนล้มอย่างแรง หรือไม่ก็ตกลงไปในสระว่ายน้ำ

จากนั้น ในหูของทุกคน ก็ได้ยินเสียงฝีเท้า “ตึ๊บตึ๊บตึ๊บ” เดินขึ้นมาจากปากบันไดทีละขั้นๆ

วินาทีต่อมา ชายวัยกลางคนร่างกำยำ สวมเสื้อต่อสู้สีดำคนหนึ่ง ปรากฏตัวต่อหน้าทุกคน

บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • แค้นรักแพทย์อัจฉริยะ   บทที่ 142

    แล้วแกอยากได้เท่าไหร่ล่ะ? หวังหู่ถามอย่างหน้านิ่วคิ้วขมวดคิ้วโจวหลงยิ้ม เอ่ยปากพูดว่า: “ฉันอยากได้สำนักหู่ทั้งหมด! ต้าฟากรุ๊ปทั้งหมด! นอกจากนี้ แกหวังหู่จะต้องคุกเข่าลง เอาหัวโขกพื้นคำนับขอโทษฉัน ต่อหน้าคนวงการใต้ดินทั้งหมดในเจียงจง! หากแกยอมรับฉันเป็นพ่อบุญธรรม ฉันจะไว้ชีวิตแกก็ได้ ไม่อย่างนั้น คืนนี้ ฉันจะฆ่าแกก่อน จากนั้นค่อยฆ่าคนในครอบครัวของแกทั้งหมด!”“เพี ยะ!”หวังหู่โกรธมาก ตบโต๊ะด้วยความโกรธทันที นัยย์ตาทั้งคู่แดงก่ำและตะโกนว่า: “โจวหลง! แกอย่ารังแกคนอื่นให้มันมากจนเกินไป! ฉันหวังหู่ไม่กลัวแกหรอก! หากต้องลงมือจริงๆ ก็คงจะไม่ได้รับผลประโยชน์อะไรเลย!”ฮ่าๆๆ!โจวหลงหัวเราะสองครั้ง แล้วพูดว่า “จริงเหรอ? ถ้าอย่างนั้นแกก็ลองดูสิ”หวังหู่ขมวดคิ้ว และพูดว่า “ฉันรู้ว่าแกฝากตัวเป็นลูกศิษย์ของต้วนอู๋จี๋ และเป็นนักวิทยายุทธิ์ที่มีความแข็งแกร่งภายในระดับสูงแล้ว”“แต่ว่า แกอย่าคิดว่ามีอาจารย์ที่เก่งกาจ แล้วจะมาใช้อำนาจบาตรใหญ่อยู่ในประเทศได้นะ! อาจารย์ของแก คงไม่กล้าแม้แต่จะย่างกรายเข้ามาในประเทศไปตลอดชีวิตนี้!”“คืนนี้ ฉันหวังหู่ใช่ว่าจะไม่ได้เตรียมตัวเอาไ

  • แค้นรักแพทย์อัจฉริยะ   บทที่ 143

    คำพูดที่รุนแรงก็ได้พูดออกไปแล้ว บรรยากาศก็เริ่มครุกรุ่น หากจ้าวหงจงไม่ลงมือก็คงจะไม่เหมาะสมไม่มีทางเลือก จ้าวหงจงจึงจำใจต้องต้องสู้เขาค่อยๆลุกขึ้น เอามือไพล่หลัง ท่าทางราวกับว่าเป็นยอดฝีมือด้านศิลปะการต่อสู้ท่ามกลางสายตาที่ตื่นเต้นของทุกคน จ้าวหงจงก้าวไปข้างหน้าสามก้าว จ้องมองที่โจวหลงด้วยสายตาที่เย็นชาและตะโกนว่า: “โจวหลง! ฉันเห็นว่าแกร่ำเรียนวิทยายุทธ์ด้วยความลำบาก เลยจะให้โอกาสแกหนึ่งครั้ง คุกเข่าลงทำลายวิทยายุทธ์และแขนสองข้างของตนเอง แล้วไสหัวไปจากเจียงจงซะ ไม่อย่างนั้น คืนนี้ฉันจะฆ่าแก!”“ฮ่าๆๆ!”โจวหลงหัวเราะอย่างดูถูกเหยียดหยามสองครั้ง และพูดอย่างเย็นชาว่า: “มวยสิงอี้แห่งเมืองสู่ตี้? มันก็แค่เด็กน้อยเล่นขายของก็เท่านั้น ยังกล้ามาอวดเบ่งต่อหน้าฉันอีกเหรอ? วันนี้ให้ฉันทำลายมวยสิงอี้ของแกซะ!”“บ้าบิ่นมาก! แกนี่ช่างรนหาที่ตายจริงๆ!”จ้าวหงจงโกรธสิ่งที่โจวหลงพูดเป็นอย่างมาก เขากระแทกเท้าขวาลงบนพื้น จนทำให้กระเบื้องปูพื้นแตกกระจุยบนร่างกายก็มีคลื่นพลังงานที่น่าหวาดกลัวระเบิดตูมออกมา!จากนั้น ชุดไทเก๊กสีขาวบนตัวของเขาก็พองขึ้น ราวกับว่ามีเครื่องเป่

  • แค้นรักแพทย์อัจฉริยะ   บทที่ 144

    มีเพียงเซียวเป่ยคนเดียวที่ ขมวดคิ้ว ส่ายหัวอย่างจนใจแล้วอุทานว่า: “มันไม่มีประโยชน์ จ้าวหงจงแพ้แล้ว”ทันทีที่พูดคำเหล่านี้ออกไป ทั้งดาดฟ้าที่ก็เงียบสนิท!ลูกศิษย์ทั้งสามคนของจ้าวหงจง ต่างก็จ้องมองไปที่เซียวเป่ยทันที!“ไอ้หนุ่ม แกพูดอะไรน่ะ?”“อาจารย์ของฉันจะแพ้? นั่นเป็นแกไม่รู้ว่าหมัดซิงอี้ทรงพลังมากแค่ไหน! แม้แต่แผ่นเหล็กก็สามารถทะลุได้!”“หึ! ไอ้เด็กเหลือขอที่พูดเอาใจมวลชน ช่างน่าขันจริงๆ!”เมื่อเผชิญกับความโกรธและความไม่พอใจของคนสองสามคน เซียวเป่ยก็ไม่ได้พูดอะไรอีกอันที่จริงก็เป็นเช่นนี้การต่อสู้เมื่อสักครู่นี้ เห็นได้ชัดว่า จ้าวหงจงใช้พละกำลังทั้งหมดที่มีแล้ว แต่โจวหลงไม่ได้ใช้พละกำลังทั้งหมดตั้งแต่ต้นจนจบ เขาต่อสู้กับจ้าวหงจง ก็แค่เหย้าแหย่สนุกๆเท่านั้นหวังหู่เองก็รีบอธิบายไปว่า: “ปรมาจารย์เซียวครับ คุณไม่รู้อะไร หมัดสิงอี้นี้ มีชื่อเสียงในเมืองสู่ตี้มาก ... “ยังไม่ทันได้พูดจบทางด้านของจ้าวหงจงก็ได้กวัดแกว่งหมัดทั้งสองที่พลุ่งพล่านไปด้วยพลังคลื่นอากาศส่งเสียงคำรามด้วยความโกรธ ราวกับเสือที่กำลังจะลงมาจากภูเขา โจมตีไปที่โจวหลงโดยตรง!ในสายตาของโจวห

  • แค้นรักแพทย์อัจฉริยะ   บทที่ 145

    เมื่อได้ยินดังนี้ โจวหลงก็หันศีรษะ และจ้องมองไปที่เซียวเป่ยที่สงบนิ่งไร้ซึ่งความกลัวที่อยู่ด้านข้างด้วยสายตาที่น่าครั่นคร้าม แล้วถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา: “ไอ้เด็กเวร แกเป็นใครอีกล่ะ? อยากจะออกหน้ารับแทนเขา?”เซียวเป่ยยิ้มอย่างเฉยเมย ใบหน้าเต็มด้วยท่าทีที่สุขุมเยือกเย็น และไม่เห็นโจวหลงอยู่ในสายตาเลยแม้แต่น้อยทางด้านของหวังหู่ รีบวิ่งไปที่ด้านข้างเซียวเป่ยอย่างรีบร้อน ตะโกนว่า: “ปรมาจารย์เซียวครับ ช่วยผมด้วย ช่วยผมด้วย...”ตอนนี้ มีเพียงเซียวเป่ยเท่านั้นที่สามารถช่วยเขาได้นี่เป็นฟางช่วยชีวิตเส้นสุดท้ายของเขาเซียวเป่ยพยักหน้าและกล่าวว่า: “ในเมื่อรับปากเถ้าแก่หวังแล้ว ผมจะต้องยื่นมือเข้าช่วยอย่างแน่นอน”เมื่อได้ยินคำพูดนี้ และได้เห็นท่าทางที่เฉยเมยอวดดีของเซียวเป่ย โจวหลงก็โกรธมาก มองไปที่เซียวเป่ยด้วยสายตาที่ดุร้าย และตะโกนว่า: “ไอ้เด็กเวร แกเป็นใคร?”ตอนที่เขาเพิ่งจะขึ้นมาเมื่อสักครู่นี้ ก็มองเห็นเซียวเป่ยแล้วแต่ว่า เนื่องจากเซียวเป่ยยังเด็กเกินไป โจวหลงจึงไม่ได้เห็นเขาอยู่ในสายตา เพราะคิดว่าเขาเป็นเพียงผู้ช่วยที่อยู่ข้างกายหวังหู่คนหนึ่งก็เท่านั้นตอนนี้ด

  • แค้นรักแพทย์อัจฉริยะ   บทที่ 146

    มีเพียงอาจารย์ของตัวเองเท่านั้นถึงจะสามารถสู้ได้ดังนั้น เขาทำได้เพียงแค่หนีไป“โธ่เว้ย! ไอ้บ้าหวังหู่ หาคนหนุนหลังได้เก่งกาจขนาดนี้เลยเหรอวะ!”“ดูท่าทางจะอยู่เจียงจงต่อไปไม่ได้แล้ว ไปทำอะไรอย่างอื่นที่ต่างประเทศยังจะดีกว่า”โจวหลงทั้งวิ่งทั้งสาปแช่งด่าทออย่างไม่หยุดหย่อนหลังจากนั้นช่วงเวลาที่โจวหลงกำลังวิ่งหนีไป เซียวเป่ยก็ยิ้มอย่างเย็นชาพร้อมกับพูดขึ้นว่า: “คิดจะหนีไปตอนนี้อย่างนั้นเหรอ มันสายไปแล้วล่ะ”หลังจากพูดจบ เซียวเป่ยสะบัดนิ้ว ชี้ไปที่เงาของโจวหลงพร้อมกับตะโกนออกไปว่า: “หยุดเดี๋ยวนี้!”ร่างของโจวหลงแข็งทื่อไปในทันที ไม่ว่าเขาจะพยายามมากแค่ไหน ร่างกายของเขาก็ดูแข็งทื่อและไม่สามารถเคลื่อนไหวได้เมื่อจ้าวหงจงได้เห็นฉากนี้ เขาก็ตะโกนออกมาด้วยเสียงสั่นเครือว่า: “สุดยอด สุดยอดจริง ๆ นี่ก็คือปรมาจารย์ที่แท้จริง!”ใครจะไปคิดว่าชายหนุ่มวัยยี่สิบกว่า ๆ ที่ยืนอยู่ตรงหน้านี้ เขาไม่เพียงแต่เป็นปรมาจารย์ด้านการต่อสู้เท่านั้น แต่เขายังเป็นปรมาจารย์ด้านศาสตร์ลึกลับอีกด้วยเวทมนตร์สกนธ์กายนี้ มันช่างวิเศษจริง ๆ!หวังหู่แสดงปฏิกิริยาตอบกลับในทันที เขาสั่นไปทั้งตัว รีบวิ่งเข้ามา

  • แค้นรักแพทย์อัจฉริยะ   บทที่ 147

    ภายในรายการมีการติดตามอย่างใกล้ชิด มีเสียงวิพากย์วิจารณ์กันอย่างดุเดือดเกี่ยวกับซูหว่าน:​ “เขาเป็นกบในกะลาที่ไม่แสวงหาความก้าวหน้า! เป็นคนโง่ที่มีความเชื่องมงายล้าสมัยค่ะ!”ภายในห้องไลฟ์สดต่างมีเสียงดังซุบซิบกันเกิดขึ้น!ผู้ชมหลายร้อยคนในห้องไลฟ์สดต่างก็พากันอึ้ง จากนั้นก็ซุบซิบกันในขณะเดียวกันก็มีการพูดคุยกันอย่างดุเดือดในห้องไลฟ์สดชาวเน็ตจากทุกช่องทางต่างก็แสดงความคิดเห็นกันอย่างบ้าคลั่งคนส่วนใหญ่ยากที่จะเชื่อผู้หญิงคนหนึ่งจะประเมินอดีตสามีของตัวเองได้ขนาดนี้ตกลงผู้ชายคนนี้ทำเรื่องเลว ๆ อะไรกันแน่ ถึงทำให้ผู้หญิงคนหนึ่งผิดหวังในตัวเขาได้มากมายขนาดนี้?เธอเป็นผู้หญิงที่ประสบความสำเร็จในแวดวงธุรกิจเจียงจงซูหว่านเป็นใครน่ะเหรอ?สตรีชั้นสูงในแวดวงธุรกิจเจียงจง มีทรัพย์สินมูลค่ามากกว่าหนึ่งพันล้าน มักจะปรากฏตัวอยู่บนปกนิตยสารต่างๆเธอเป็นซีอีโอหญิงที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในช่วงสองปีที่ผ่านมาแล้วยังกลายเป็นบุคคลที่ถูกพูดถึงในแวดวงธุรกิจและในบทสนทนาของคนเจียงจงด้วยเช่นกันเพราะว่าซูหว่านเป็นผู้หญิงสวย อายุน้อยและชอบทำบุญอยู่บ่อย ๆ บุคลิกในโลกภายนอกของเธอ จะเป็นคนที่มีค

  • แค้นรักแพทย์อัจฉริยะ   บทที่ 148

    เธอไม่เคยบอกว่าจะมีการสัมภาษณ์แบบออฟไลน์หลี่เซียวลี่ทำนิ้วโอเค เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับซูหว่านแล้วยังส่งข้อความถึงเธอ“ประธานซู ไม่ต้องห่วงนะคะ มันเป็นเพียงรายการสัมภาษณ์แบบออฟไลน์ ไม่นานหรอกค่ะ”ซูหว่านขมวดคิ้วแต่เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว เธอก็ทำอะไรไม่ได้แล้วในขณะเดียวกันมีผู้ชมหลายแสนคนต่างก็รออยู่ในห้องไลฟ์สดพวกเขาจ้องมองไปที่ภาพ อยากเห็นแมงดาเกาะผู้หญิงแล้วยังไปพัวพันกับหญิงคนอื่นหลังจากการหย่าร้างกับภรรยาตัวเองว่าจะมีหน้าตาเป็นอย่างไร!หลังจากนั้นไม่กี่นาทีต่อมาก็มีรถยนต์คันหนึ่งขับเข้ามาในภาพและหยุดลงที่หน้าร้านเล็ก ๆหลังจากนั้น มีคนสองสามคนลงจากรถชายคนแรกเป็นชายหนุ่มวัยกลางคนในชุดไทเก๊กสีขาวเดินไปที่ประตูหลัง เปิดประตูก้มหัวพูดด้วยความเคารพว่า: “ปรมาจารย์เซียว ถึงแล้วครับ”หลังจากนั้นเซียวเป่ยก็ลงมาจากรถและมองไปยังกล้องที่อยู่ไม่ไกลสตาฟที่ถือกล้องและไมโครโฟนรีบวิ่งเข้ามาและตะโกนถามออกไปว่า: “ใช่เซียวเป่ยไหมคะ?”ภาพหน้าจอสั่นเล็กน้อยหน้าม้าในห้องไลฟ์สดก็ติดตามกันอย่างใกล้ชิดหลายคนเอานิ้วไปแตะหน้าจอโทรศัพท์มือถือของตนเตรียมตัวจะด่าเขา“ขอโทษค่ะ คุณก็คือเซีย

  • แค้นรักแพทย์อัจฉริยะ   บทที่ 149

    กล้องซูมเข้าไปในร้านที่เซียวเป่ยกำลังเปิดประตูสิ่งที่ปรากฏในกล้องคือภาพของร้านเล็ก ๆยันต์สีเหลือง กระจกฮวงจุ้ย ดาบไม้ท้อ และระฆังแต่ละชนิด นี่มันเป็นบ้านของนักมายากลชัด ๆผู้ชมในห้องไลฟ์สดต่างตกตะลึงไปตาม ๆ กัน“ให้ตายเถอะ! นี่มันยุคไหนแล้ว ยังมีคนเชื่องมงายล้าสมัยอีกเหรอเนี่ย!”“ไม่แปลกเลยที่ซูหว่านทิ้งเขาไป ผู้ชายแบบนี้เชื่อถือไม่ได้!”“ฉันอยากจะเห็นจริง ๆ ว่าเขาหลอกคนอื่นยังไงกัน!”ภายในห้องไลฟ์สดเมื่อพิธีกรเห็นภาพของร้านเล็ก ๆ แล้วก็ตกใจหันกลับมามองซูหว่านอย่างสงสัยและถามต่อไปว่า: “ประธานซูคะ อดีตสามีของคุณเป็นแบบนี้มาตลอดเลยเหรอคะ?”ซูหวานตอบว่า: “ไม่ใช่หรอกค่ะ”“แล้วเขาเริ่มเป็นแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไรคะ?” พิธีกรถามต่อซูหว่านคิดอยู่สักพักหนึ่งแล้วตอบกลับไปว่า: “เมื่อสองปีที่แล้วค่ะ”“ตอนที่พวกเราเพิ่งจะแต่งงานกัน เขายังเป็นผู้ชายที่เก่งและมีเสน่ห์มาก ครั้งหนึ่งเขาเคยได้รับรางวัลเป็นหนึ่งในสิบคนของหนุ่มสาวที่ยอดเยี่ยมในเจียงจงด้วยนะคะ”ทันทีที่พูดจบ พิธีกรก็ทำหน้าตกใจมีเครื่องหมายคำถามมากมายเกิดขึ้นในห้องไลฟ์สด“สิบอันดับคนหนุ่มสาวที่ยอดเยี่ยมในเจียงจงเหรอ? ไม่ใช่ม

บทล่าสุด

  • แค้นรักแพทย์อัจฉริยะ   บทที่ 475

    ซูเทียนห้าวตอบว่า: “ฉันรู้แล้ว! พี่สาวของฉันเป็นยังไงบ้าง?”เสียงเย้าแหย่ดังมาจากอีกด้านของโทรศัพท์: “คุณวางใจได้ ไม่ตายหรอก พอคุณควบคุมบริษัทได้สำเร็จ และได้รับเงินสองร้อยห้าสิบล้านบาทมาเมื่อไหร่ พี่สาวของคุณก็จะกลับไปได้แล้ว”“ได้! แต่ฉันขอเตือนพวกแกนะ อย่าแตะต้องพี่สาวของฉัน!”ซูเทียนห้าวกล่าวอย่างเย็นชาชายฉกรรจ์ที่อยู่อีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์ยิ้มแล้วพูดว่า “ไม่ต้องกังวล พวกเราทำงาน เชื่อถือได้แน่นอน”พูดจบ อีกฝ่ายก็วางสายโทรศัพท์ทันทีซูเทียนห้าวถอนหายใจด้วยความโล่งอก แต่กลับไม่ได้ผ่อนคลายเลย“พี่ครับ ผมขอโทษ... แต่ผมจำเป็นต้องทำแบบนี้! ผมอยากจะพิสูจน์ตนเองว่า ผมไม่ใช่เศษสวะ! ผมมีความสามารถ!” ซูเทียนห้าวกล่าวเบาๆ ความเย็นชาแวบขึ้นมาในนัยน์ตา............ตัดภาพมาที่เซียวเป่ยฮั่วเจิ้งซานอยู่ในร้าน พอมองดูเวลา ก็พบว่าผ่านไปหนึ่งชั่วโมงแล้วเห็นได้ชัดว่าเขากังวลมาก จึงถามว่า: “ปรมาจารย์เซียวเป่ย ไป๋อู๋ฉางนั่นจะกลับมาจริงๆเหรอ?”“ถ้าเธอยังไม่อยากตาย เธอก็จะมา ” เซียวเป่ยพูดอย่างสงบนิ่งทันทีที่พูดจบ ที่ประตูร้านขายของชำ ก็มีร่างลับๆล่อๆร่างหนึ่งปรากฏขึ้น ร่างนั้นเดินโซเซเล็

  • แค้นรักแพทย์อัจฉริยะ   บทที่ 474

    สิ่งที่น่ากลัวยิ่งกว่านั้นก็คือ พิษศพที่อยู่บนมือของชายชราในชุดดำ ในเวลานี้ได้ย้อนกลับ กระจายไปตามแขนของชายชรา และบุกเข้าไปจนถึงหน้าอก!เนื่องจากมีพิษศพอยู่บนร่างกายของเขามากเกินไป ในชั่วพริบตาเดียว ชายชราในชุดดำก็ล้มลงกับพื้น คร่ำครวญไม่สายขาด ผิวหนังทั้งตัวเปลี่ยนไปเป็นสีดำ และเริ่มเปื่อยเน่าทางด้านฝั่งนี้ เมื่อหญิงชราในชุดขาวเห็นเหตุการณ์นี้ ก็ตกใจจนมีสีหน้าที่ซีดเผือด ยังไม่ทันได้ครุ่นคิดอะไร ก็หันหลังกลับและวิ่งหนี!เธอรู้ดีว่า คืนนี้ได้พบกับยอดฝีมือแล้ว“คิดจะหนี มันไม่ง่ายขนาดนั้นหรอก!”เมื่อเซียวเป่ยเห็นหญิงชราในชุดขาวคิดจะวิ่งหนี ก็ยกมือขึ้นแล้วยิงเข็มเงินออกไปอีกสองสามเล่มหญิงชราในชุดขาวตอบสนองกลับแบบมีเงื่อนไข เธอเหวี่ยงไม้อาดูรที่อยู่ในมือ จากนั้นก็เกิดเสียงดังตึกตึกตึก และมีประกายไฟขึ้นมาเล็กน้อยทันทีแม้ว่าเข็มเงินส่วนใหญ่จะถูกสกัดกั้น แต่ก็มีเข็มเงินสองสามเล่มที่เจาะเข้าไปที่หน้าของหญิงชราชุดขาว และมีอีกเข็มหนึ่งในนั้นเจาะไปที่ตาของเธอ ทำให้มีเลือดไหลออกมาทันทีแต่หญิงชราชุดขาวกลับไม่คิดที่จะต่อสู้กลับเลยแม้แต่น้อย หันหลังกลับแล้ววิ่งหนีไป พร้อมกับเสียงดังฟรึ่บ

  • แค้นรักแพทย์อัจฉริยะ   บทที่ 473

    เซียวเป่ยพยักหน้าเบาๆ และกล่าวว่า “มาเร็วดีนี่”“แกจะตายเอง หรือว่าให้ฉันลงมือ?” ชายชราในชุดดำ ถามด้วยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความดุร้ายในสายตาของเขา จัดการกับเด็กหนุ่มอย่างเซียวเป่ยนั้น เป็นอะไรที่ง่ายมากเดิมคิดว่าจะเป็นยอดฝีมือที่มีความแข็งแกร่งอะไร คิดไม่ถึงว่า จะเป็นเด็กเหลือขอที่อ่อนหัดคนหนึ่งสิ่งนี้ทำให้เฮยไป๋อู๋ฉางที่อยากจะต่อสู้อย่างจริงจัง รู้สึกผิดหวังเป็นอย่างมากเซียวเป่ยยิ้มด้วยสีหน้าที่สงบนิ่งรอยยิ้มนี้ ทำให้เฮยไป๋อู๋ฉางขมวดคิ้วแน่นเด็กคนนี้ กำลังยิ้มเยาะเย้ยอยู่เหรอ?“ดูเหมือนว่า แกจะเลือกให้พวกเราลงมือ” เฮยอู๋ฉางกล่าวด้วยรอยยิ้มที่ชั่วร้าย เผยให้เห็นฟันเหลืองของเขาและในเวลานี้ กู้โย่เสวี่ยที่นั่งคว่ำหน้านอนอยู่บนโต๊ะก็ตื่นขึ้นมา ขยี้ตาอย่างงัวเงีย มองไปที่ร่างของทั้งสองคนที่จู่ๆก็ปรากฏตัวขึ้นในร้าน และถามอย่างงุนงงว่า: “เกิดอะไรขึ้นเหรอ?”ในเวลานี้ เฮยอู๋ฉางก็ลงมือทันที เขาใช้ฝ่ามือ โจมตีเซียวเป่ยผ่านทางอากาศ!ฝ่ามือนี้ ลมที่อยู่ตรงฝ่ามือแฝงไปด้วยหมอกควันสีดำ และมีกลิ่นเหม็นมากระทบมาที่ใบหน้า!กู้โย่เสวี่ยตกใจมากจนร้องเสียงดัง และลืมที่จะหลบหลีกเซียวเป่ย

  • แค้นรักแพทย์อัจฉริยะ   บทที่ 472

    พอรับสาย เสียงซักถามด้วยความเกรี้ยวโกรธของซูหว่านก็ดังมาจากอีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์: “เซียวเป่ย คุณหมายความว่ายังไงกันแน่?”เซียวเป่ยชะงักไป รู้สึกสับสนเล็กน้อย จึงขมวดคิ้วแล้วถามว่า: “ประธานซู ผมไม่เข้าใจว่าคุณกำลังพูดถึงอะไรอยู่?”“ยังแกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้อีกเหรอ?เป่ยเสวี่ยมาส์ก คุณจะอธิบายยังไง!” ซูหว่านซักถามด้วยน้ำเสียงเย็นชาเซียวเป่ยขมวดคิ้วเล็กน้อย แล้วพูดว่า “เป่ยเสวี่ยมาส์ก? มีปัญหาอะไรหรือเปล่า?”“เซียวเป่ย! คุณไม่คิดว่าตนเองในตอนนี้ ไร้ยางอายมากเหรอ?” ซูหว่านโกรธมากตอนนี้การที่เซียวเป่ยแสร้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ มันเหมือนกับว่าเขาจงใจโอ้อวด“ผมไร้ยางอาย?”เซียวเป่ยขมวดคิ้ว และรู้สึกโกรธขึ้นมามาแบบไม่มีปี่มีขลุ่ยเลยซูหว่านกล่าวอย่างเย็นชาว่า: “ยังจำสิ่งที่คุณพูดเอาไว้ก่อนหน้านี้ได้ไหม?คุณบอกว่าตนเองจะไม่พึ่งพาใคร เพื่อจะพิสูจน์ให้ฉันเห็น! แล้วตอนนี้ล่ะ? สุดท้ายคุณก็พึ่งพาคุณหนูตระกูลกู้คนนั้น แล้วแอบทำอะไรกับมาส์กหน้านั่น!”“ไม่อย่างนั้น อาศัยแค่ตัวคุณเอง จะมีคุณสมบัติไปถึงอันดับที่สี่ของรายการยอดขายระดับประเทศเหรอ?”หลังจากได้ยินคำพูดเหล่านี้ เซียวเป่ยก็เพิ่งตอบ

  • แค้นรักแพทย์อัจฉริยะ   บทที่ 471

    “หัวหน้าตระกูลฮั่ว คุณเข้าใจอะไรผิดไปหรือเปล่า? เศษสวะอย่างไอ้เซียวเป่ยเนี่ยนะ ช่วยชีวิตคุณ?”ฉินเฟิงถามด้วยความประหลาดใจทันใดนั้นสีหน้าของฮั่วเจิ้งซานก็เปลี่ยนไปเป็นแย่มากทันที และกล่าวอย่างไม่พอใจว่า: “ประธานฉินใช่ไหม ผมจะเตือนคุณเป็นครั้งสุดท้ายนะ ได้โปรดให้เกียรติปรมาจารย์เซียวด้วย!”พูดจบ ฮั่วเจิ้งซานก็เฉยเมยต่อสีหน้าที่ประหลาดใจของฉินเฟิง และกล่าวกับเซียวเป่ยว่า: “ปรมาจารย์เซียว พวกเราไปกันเถอะ”เซียวเป่ยพยักหน้า เดินตามฮั่วเจิ้งซานไปขึ้นรถแล้วจากไปซูหว่านกับฉินเฟิงยืนอยู่ที่เดิม ด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยงุนงงสงสัย“แม่งเอ๊ย! ทำเป็นวางมาด? ไม่รู้ว่าใช้วิธีการสกปรกอะไรในการหลอกลวงหัวหน้าตระกูลฮั่ว!” ฉินเฟิงบ่นอย่างไม่พอใจสายตาของซูหว่าน มองดูรถที่กำลังจากไปอยู่ตลอดเวลา และรู้สึกอึดอัดอยู่ใจเป็นอย่างมากไม่รู้เป็นเพราะอะไร พอเห็นท่าทีที่ฮั่วเจิ้งซานมีต่อเซียวเป่ย ทำให้ซูหว่านรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมากตนเองเป็นคนผิดอย่างนั้นเหรอ?ตนรู้สึกเกรงใจและชื่มชมฮั่วเจิ้งซาน แต่เขากลับเคารพนบนอบต่อเซียวเป่ยเป็นอย่างมาก“หว่านเอ๋อร์ เป็นอะไรไปเหรอ?”เมื่อฉินเฟิงเห็นซูหว่านจ้องมองรถที

  • แค้นรักแพทย์อัจฉริยะ   บทที่ 470

    “พ่อหนุ่มคิดว่า ยาอายุวัฒนะแค่เม็ดเดียว สามารถพูดคำเหล่านี้ต่อหน้าฉันฉินเทียนหู่ได้อย่างนั้นเหรอ?”ในขณะนี้พอหลิวเซียนเหนียงได้ยินคำพูดของเซียวเป่ย ก็ขมวดคิ้วอันสวยงาม และรู้สึกว่าเซียวเป่ยใจกล้าเกินไปแล้วสีหน้าของเซียวเป่ยไร้ซึ่งความหวาดกลัว แล้วกล่าวว่า: “พักนี้ท่านฉินรู้สึกแน่นหน้าอกตลอดเวลาใช่ไหม ตอนกลางคืนก็นอนไม่หลับเป็นเวลานาน?”ฉินเทียนหู่ขมวดคิ้ว แล้วกล่าวอย่างเย็นชาว่า: “ช่างนี้ฉันนอนไม่หลับ มีปัญหาอะไรไหม?”เซียวเป่ยส่ายหัวแล้วกล่าวว่า: “ท่านฉิน นี่ไม่ใช่อาการนอนไม่หลับ แต่เป็นเพราะพลังงานรั่วไหล และสูญเสียพลังชีวิต ถ้าผมดูไม่ผิด ท่านฉินไม่เพียงแต่นอนไม่หลับเท่านั้น แต่ยังรู้สึกชาที่แขนขาด้วย บางครั้งอาจจะเป็นลมหมดสติไปชั่วขณะ”ทันทีที่พูดคำเหล่านี้ออกมา สายตาของฉินเทียนหู่ก็เปลี่ยนไปทันทีทำไมเด็กคนนี้ ถึงได้พูดได้แม่นยำขนาดนี้?แต่ว่า แพทย์ที่อยู่ข้างกายตนบอกว่าตนเองไม่เป็นไร แค่ทำงานหนักจนเกินไป พักผ่อนให้เยอะๆก็พอแล้วดังนั้น ฉินเทียนหู่จึงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง และพูดอย่างเย็นชาว่า: “เอาล่ะ ฉันมีหมอประจำตัวอยู่ข้างกาย ถ้ามีปัญหา ไม่จำเป็นต้องให้พ่อหนุ่มมาเตือนฉั

  • แค้นรักแพทย์อัจฉริยะ   บทที่ 469

    หลิวเซียนเหนียงหันกลับมา จ้องมองเซียวเป่ยด้วยสีหน้าท่าทางที่สงสัยและประหลาดใจแล้วถามว่า “นี่คือยาที่คุณทำเหรอ?”“ใช่” เซียวเป่ยตอบอย่างเรียบง่ายบนใบหน้าที่สวยงามของหลิวเซียนเหนียงเต็มไปด้วยสีหน้าที่ประหลาดใจฉินเทียนหู่ขมวดคิ้วแล้วถามว่า “คุณหลิวเห็นอะไรไหม?มันเป็นของจริงหรือของปลอม?”ผู้มีอิทธิพลคนอื่นๆ ต่างก็พากันเอ่ยปากสอบถามกันเป็นแถว“หลิวเซียนเหนียง คุณพูดมาตามตรงเถอะ”“ตามความคิดของผม ยาอายุวัฒนะบ้าอะไรเนี่ย เป็นของปลอมร้อยเปอร์เซ็นต์!”“ท่านฉิน ท่านสามารถดำเนินการได้เลย”เมื่อได้ยินเสียงเย้าแหย่ของคนที่อยู่รอบข้าง สีหน้าของเซียวเป่ยก็ยังคงเต็มไปด้วยความเฉยเมยสีหน้าของฉินเทียนหู่ก็เคร่งขรึมสุดขีดเช่นกัน เมื่อเห็นว่าหลิวเซียนเหนียงไม่ได้พูดเป็นเวลานาน ตัดสินด้วยตนเองในใจ เขามองไปที่เซียวเป่ยด้วยสีหน้าที่แย่มาก โบกมือแล้วพูดว่า: “ใครก็ได้มานี่ที! จับตัวเด็กคนนี้เอาไว้เดี๋ยวนี้!”ทันทีที่พูดจบ บอดี้การ์ดสองก็กำลังจะลงมือ“เดี๋ยวก่อน”ทันใดนั้น หลิวเซียนเหนียงก็เอ่ยปากพูด“คุณหลิว?” ฉินเทียนหู่รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยหลิวเซียนเหนียงมองไปที่เซียวเป่ยอีกครั้ง ดูเหมือนจ

  • แค้นรักแพทย์อัจฉริยะ   บทที่ 468

    “พ่อหนุ่ม พ่อหนุ่มรู้ไหมว่า คนที่หลอกลวงฉันฉินเทียนหู่จะต้องมีจุดจบอย่างไร!”ฉินเทียนหู่โกรธ!เห็นได้อย่างชัดเจนว่า หลายปีที่ผ่านมานี้ ไม่เคยมีใครกล้าเย้าแหย่ตนเอง ต่อหน้าผู้คนมากมายขนาดนี้ยาอายุวัฒนะ?ยืดอายุขัยได้อีกห้าปี?ยาล้ำค่าเช่นนี้ จะใช้กระดาษหนังสือพิมพ์ห่อได้อย่างไร?เซียวเป่ยกลับยิ้มเบาๆแล้วกล่าวว่า “ตอนที่ออกมาผมรีบมาก ผมหากล่องไม่เจอ ก็เลยใช้กระดาษหนังสือพิมพ์ห่อ”ฉินเทียนหู่ขมวดคิ้วแน่น สีหน้าเคร่งขรึมสุดขีด ราวกับว่าเป็นเสือร้ายที่กำลังจะบ้าคลั่ง!ใครก็ได้มานี่ที! จับตัวไอ้หนุ่มที่มาก่อความวุ่นวายคนนี้ให้ฉันหน่อย!”ฉินเทียนหู่ตะคอกด้วยความโกรธทันใดนั้น บอดี้การ์ดทั้งสองคนที่อยู่ด้านหลังฉินเทียนหู่ก็แสดงตัวออกมา เอามือจับตรงสะเอว และจ้องมองเซียวเป่ยด้วยสายตาที่เย็นชาเซียวเป่ยขมวดคิ้วเล็กน้อย แล้วกล่าวว่า “ท่านฉิน ดูยาอายุวัฒนะของผมก่อนค่อยว่ากัน?”“ยังต้องดูอีกเหรอ?”ฉินเทียนหู่พูดอย่างย็นชาฮั่วเจิ้งซานรีบเกลี้ยกล่อมว่า: “ท่านฉิน ท่านอย่าเพิ่งใจร้อนไปเลย ปรมาจารย์เซียวไม่มีเจตนาอื่น ถ้าคุณยอมที่จะเชื่อผม โปรดให้โอกาสปรมาจารย์สักครั้ง ดูยาอายุวัฒนะนี้หน่อย

  • แค้นรักแพทย์อัจฉริยะ   บทที่ 467

    ทันทีที่เซียวเป่ยพูดคำเหล่านี้ออกมา ก็ดึงดูดสายตาของทุกคนที่อยู่ตรงนั้นทันที“ยาอายุวัฒนะ?”“ยาอายุวัฒนะอะไร? ไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย”“พ่อหนุ่ม รู้ไหมว่านี่เป็นวาระโอกาสแบบไหน? ถ้ายังกล้าพูดจาเหลวไหลอีก ก็ไสหัวออกไปซะ!”ทุกคนดูไม่เป็นมิตรมาก และพากันตำหนิเซียวเป่ยฮั่วเจิ้งซานก็ตกตะลึง และตื่นตระหนกเล็กน้อย จากนั้นก็รีบลุกขึ้นแล้วอธิบายว่า: “ทุกท่าน ต้องขออภัยด้วย ยาอายุวัฒนะที่ปรมาจารย์เซียวกล่าวถึง... เป็นยาที่เขาเพิ่งจะกลั่นทำด้วยตนเองเมื่อสักครู่นี้”หลังจากพูดประโยคนี้จบ สีหน้าของทุกคนที่อยู่ในห้องส่วนตัวก็เปลี่ยนไป ตอนแรกรู้สึกประหลาดใจ จากนั้นก็รู้สึกสงสัย สุดท้ายพวกเขาก็รู้สึกโกรธ!เพียะ!ซุนฝูลู่วางถ้วยชาลงบนโต๊ะน้ำชาที่อยู่ด้านขวามืออย่างแรง และกล่าวอย่างไม่พอใจว่า: “ท่านหัวหน้าตระกูลฮั่ว ผมให้คุณพาไอ้หนุ่มคนนี้เข้ามา ก็ถือว่าแหกกฎแล้ว ตอนนี้ไอ้หนุ่มคนนี้ยังกล้ามาพูดจาไร้สาระ และจะใช้ยาอายุวัฒนะที่พวกเราไม่เคยได้ยินมาก่อนอะไรนั่นแลกกับหินจิตวิญญาณ แถมยังเป็นของที่เขาทำขึ้นมาด้วยตนเองอีกด้วย”“ปรมาจารย์ฮั่ว คุณคิดว่าพวกเราทุกคนที่อยู่ที่นี่ โง่เขลาเบาปัญญามากหรือยังไง?

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status