ย่าอุไรวรรณพาหลานสาวมาไหว้พระจากนั้นก็ไปทานอาหารทะเลร้านประจำที่เวลามาหัวหินต้องแวะทานก่อนที่ทุกคนจะกลับเข้ามาในบ้านในเวลาบ่ายสองโมง
“อานิตกินข้าวกลางวันหรือยังคะ หนูซื้อขนมมาฝากค่ะ”
“อากินแล้วจ้ะ พนักงานของโรงแรมเพิ่งมาเก็บถาดอาหารเมื่อกี้เอง เป็นไงบ้างเที่ยวสนุกไหม”
“สนุกค่ะอานิตแต่คนเยอะและร้อนไปหน่อยดีแล้วค่ะที่อานิตไม่ได้ไปด้วยเพราะมันเดินลำบากมากๆ”
“อาก็คิดว่าอย่างนั้นแหละมาเหนื่อยๆ ไปพักผ่อนกันก่อนดีกว่าไหม แล้วเย็นนี้จะไปเดินตลาดโต้รุ่งไหมล่ะ”
“ตลาดโต้รุ่งเหรอคะ อานิตมันคือตลาดแบบไหนคะ” เมื่อพูดถึงตลาดไอศิกาก็ตื่นเต้นจนลืมเรื่องของที่พนักงานของโรงแรมเอามาคืน
“เป็นตลาดที่จะมีรถขายอาหารฟาสต์ฟูด มีขนมแล้วก็มีสินค้าทำมือมาขายอาว่าไอซ์น่าจะชอบนะ”
“อานิตไปด้วยกันมั้ยคะ”
“อาไม่ชอบเดินเบียดคนเยอะเท่าไหร่ ไอซ์ลองชวนอาพัทธ์กับลูกแก้วไปสิ”
“ไม่เป็นไรค่ะเดี๋ยวหนูชวนลูกแก้วแล้วให้ลุงอ่ำไปส่งก็ได้”
“ถ้าอยากไปจริงๆ อาไปเป็นเพื่อนก็ได้นะ ไปกันตามลำพังสองคนมันอันตราย”
“ย่าก็เห็นด้วยนะ”
“คุณย่าไปกับหนูไหมคะ”
“ย่าแก่แล้วให้เดินแบบวัยรุ่นคงแย่ ไอซ์ไปกับลูกแก้วเถอะลูกแก้วอยากไปไหม” คุณอุไรวรรณหันมาถามลูกแก้วหลานสาวของแม่ครัวประจำบ้าน
“อยากไปค่ะ”
“เดินไหวแน่นะลูกแล้ว” ไอศิกาแกล้งถามเพราะรู้ว่าเด็กอย่างลูกแก้วมีพลังเหลืออีกมากและถ้าลูกแก้วไม่ไปเธอก็คงไม่กล้าไปกับเจตนิพัทธ์ตามลำพัง
“ไหวค่ะพี่ไอซ์ ลูกแก้วขอไปด้วยได้ไหม”
“ได้สิ แต่ตอนนี้พี่ว่าเรานอนพักเก็บแรงกันก่อนดีกว่าไหม แล้วตอนเย็นค่อยมาเจอกันอีกที”
“อานิตคะตลาดนัดเขามีตั้งแต่กี่โมงคะ”
“แม่ค้าก็น่าจะเริ่มเอาของมาวางสักห้าหรือหกโมง ถ้าไอซ์กลัวร้อนก็ไปสักทุ่มหนึ่งก็ได้กินข้าวจากบ้านไปก่อนแล้วค่อยไปหาขนมกินที่นู่น”
“นิตจะไม่ไปด้วยกันจริงๆ เหรอพี่ว่าไปเดินดูสักหน่อยดีไหมมาเที่ยวทั้งทีอยู่แต่ในบ้านแบบนี้จะสนุกอะไร”
“นิตไม่อยากเดินไกลค่ะแค่ได้มาเห็นทะเลได้มาเล่นน้ำทะเลแค่นี้ก็พอแล้วพี่พัทธ์ไปกับลูกแก้วและไอซ์เถอะนะคะ”
“ก็ได้ครับ”
หลังจากรับประทานอาหารค่ำกันแล้วศานิตาก็นั่งคุยกับมารดาอยู่บริเวณห้องรับแขกส่วนเจตนิพัทธ์ก็พาไอศิกาและลูกแก้วไปยังตลาดโต้รุ่งซึ่งอยู่ไม่ไกลจากที่พักเท่าไหร่นัก
ลุงอ่ำส่งทั้งสามคนเสร็จแล้วก็กลับมารอที่บ้านเพราะบริเวณตลาดโต้รุ่งหาที่จอดรถค่อนข้างยากมาก
“มีแต่ของน่ากินทั้งนั้นเลยนะลูกแก้ว”
“ใช่ค่ะพี่ไอซ์”
“เราซื้อแล้วแบ่งกันกินดีไหม”
“ได้ค่ะพี่ไอซ์ เพราะถ้าให้ลูกแก้วซื้อแล้วกินคนเดียวคงกินไม่หมดแน่ๆ”
“พี่ก็ว่าอย่างนั้นแหละถ้าลูกแก้วสนใจร้านไหนสะกิดพี่เลยนะ”
“ได้ค่ะพี่ไอซ์”
เจตนิพัทธ์มองตามหลังหญิงสาวกับเด็กสาวที่เข้ากันเป็นปี่เป็นขรุ่ยแล้วแอบยิ้ม
ตั้งแต่เหตุการณ์ในคืนนั้นเขาก็ยังไม่เคยมีโอกาสได้คุยกับไอศิกาตามลำพังเลยและวันนี้คิดว่าจะมีโอกาสได้คุยกับเธอ แต่เมื่อลูกแก้วมาด้วยโอกาสที่จะคุยกับหญิงสาวก็หมดไป
สายตาที่ชายหนุ่มมองผู้หญิงตรงหน้ามันเปลี่ยนไปทีละนิดภาพจำของเขาในคืนวันนั้นยังคงฝังใจ แม้จะพยายามลืมแค่ไหนแต่มันก็ยากเหลือเกินที่จะลืม
เอาพาไอศิกาและลูกแก้วเดินจนทั่วตลาดก่อนจะโทรตามให้ลุงอ่ำมารับหลังจากผ่านไปสองชั่วโมง
“ปวดขามากๆ เลยค่ะพี่ไอซ์”
“พี่ก็ปวดขาเหมือนกันแต่ก็สนุกมากด้วย”
“แล้วแบบนี้เราจะมีแรงเล่นน้ำกันอีกเหรอคะพี่ไอซ์”
“พี่ว่าคืนนี้คงไม่เล่นแล้วล่ะเอาไว้พรุ่งนี้เช้าเราตื่นมาเล่นกันตอนเช้าก่อนกลับดีไหมล่ะ”
“ดีค่ะพี่ไอซ์ชุดว่ายน้ำพี่ไอซ์ซื้อให้ลูกแก้วใส่ไปแค่ชุดเดียวเองพรุ่งนี้จะได้ใส่อีกชุดแล้วพี่ไอซ์จะใส่ชุดว่ายน้ำเล่นกับลูกแก้วไหม”
“ตอนเช้าแดดไม่แรงเท่าไหร่พี่ก็ว่าจะใส่ชุดว่ายน้ำนะ มาทะเลทั้งทียังไม่ได้ใส่ชุดว่ายน้ำลงทะเลเลย”
“ลูกแกว่าพี่ไอซ์ต้องสวยมากแน่เลยค่ะเวลาใส่ชุดว่ายน้ำ”
“ลูกแก้วของพี่ไอซ์ก็สวยนะ ลูกแกชอบชุดที่พี่ซื้อให้ไหม”
“ชอบค่ะชุดที่พี่ไอซ์ซื้อให้น่ารักทุกชุดเลย”
“ในห้องเก็บของที่บ้านมีชุดตอนที่พี่เด็กๆ อยู่เยอะเลยกลับไปแล้วเราไปดูกันดีไหมเผื่อลูกแก้วจะใส่ได้ แต่มันเป็นของเก่านะลูกแก้วจะเอาไหม”
“เอาค่ะ” เด็กสาวยิ้มเพราะของเก่าสำหรับคนอื่นมันก็คือของใหม่สำหรับเธอ
เมื่อลุงอ่ำจอดรถที่หน้าบ้านลูกแก้วก็รีบวิ่งไปห้องพักของเธอทันทีเพราะอยากจะเอากำไลข้อมือที่ไอศิกาซื้อให้ไปอวดคุณยาย
“ขอบคุณนะคะเอาพัทธ์ที่พาหนูไปเที่ยว”
“ไม่เป็นไรหรอกเราจะขึ้นนอนเลยไหม”
“ก็คงอย่างงั้นค่ะเพราะตอนนี้มันดึกแล้วคุณย่าก็น่าจะรออยู่แล้วอาพัทธ์ล่ะ”
“อาว่าจะนั่งดื่มต่อไอซ์อยากดื่มด้วยกันไหม”
“ไม่ดีกว่าค่ะ หนูอยากพักผ่อน” หญิงสาวรีบปฏิเสธเธอรู้ว่าการนั่งดื่มกับเขามันไม่เหมาะสมเท่าไหร่เพราะตอนนี้ระหว่างเธอกับเขามันเริ่มมีอะไรบางอย่างเปลี่ยนไป
ไอศิกาไม่อยากอยู่ลำพังกับอาเขยคนนี้เพราะยิ่งอยู่ไกลก็ยิ่งรู้สึกหวั่นไหว เขาทำให้เธอร้อนรุ่มเพียงแค่สายตาที่มองมา
เมื่อหลานสาวเดินขึ้นไปชั้นบนแล้วเจตนิพัทธ์ก็เปิดตู้เย็นหยิบเบียร์และมานั่งดื่มคนเดียวอยู่กลางห้องรับแขก
เขาค่อนข้างอึดอัดกับสถานการณ์ที่เป็นอยู่มากเพราะตอนนี้ชายหนุ่มเริ่มรู้สึกตัวแล้วว่าตนเองมองไอศิกาเป็นผู้หญิงคนหนึ่งไม่ใช่มองว่าเธอเป็นหลานสาวเหมือนในอดีต แต่เพราะสถานะอาเขยมันเลยทำให้เจตนิพัทธ์ต้องเก็บความรู้สึกเอาไว้ข้างในเพราะคนอื่นรู้ก็คงถูกมองว่าเป็นเรื่องที่ผิดมหันต์
ชายหนุ่มอยากได้เร่งเวลาให้เร็วขึ้นอยากจะให้ไอศิกากลับไปที่ประเทศอังกฤษแล้วอยากจะให้ภรรยาของตนเองคลอดลูกเพื่อทุกอย่างมันจะได้กลับมาเป็นปกติอีกครั้ง
เขาดื่มเบียร์หมดไปสองกระป๋องจากนั้นก็เดินกลับขึ้นไปบนห้องตอนนี้ศานิตาหลับอยู่บนเตียงนอนชายหนุ่มรีบอาบน้ำเปลี่ยนเป็นชุดนอนจากนั้นก็หยิบหมอนและผ้าห่มมานอนบนโซฟาเหมือนกับคืนแรก
“พี่พัทธ์จะขึ้นมานอนบนเตียงก็ได้นะคะ นอนบนโซฟาแบบนั้นน่าจะไม่สบายตัว”
“ไม่เป็นไรหรอกพี่กลัวจะดิ้นไปโดนท้องของนิต นิตหลับต่อเถอะนะ”พี่ขอโทษที่ทำให้ต้องตื่นกลางดึก”
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะนิตก็ว่าจะตื่นมาเข้าห้องน้ำเหมือนกัน พี่พัทธ์ไปเที่ยวมาสนุกไหม”
“สนุกดีแต่เดินไกลไปหน่อยถ้านิตไปก็คงแย่เหมือนกัน”
“นิตรู้ว่าตลาดโต้รุ่งมันเดินเพลินก็เลยคิดว่าไม่ไปดีกว่า นิตไม่อยากเป็นภาระให้พี่พัทธ์”
“ไม่เคยคิดว่านิตเป็นภาระเลยนะพี่บอกแล้วว่าพี่เต็มใจจะดูแลนิตอย่าคิดมากเลยรีบเข้าห้องน้ำเถอะนะจะได้เข้านอน พรุ่งนี้เช้าจะลงไปเล่นน้ำก่อนกลับไหมพี่ได้ยินว่าไอซ์กับลูกแก้วเขานัดกันไปเล่นน้ำน่ะ”
“ไม่ดีกว่าค่ะนิตขอเป็นคนนั่งดูดีกว่าพี่พัทธ์นะมาทะเลทั้งทีไม่เห็นลงเล่นน้ำเลย”
“พี่อายุป่านนี้แล้วจะให้ไปเล่นน้ำเหมือนเด็กๆ ได้ยังไงกันล่ะ” ชายหนุ่มพูดแล้วหัวเราะจากนั้นก็ดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมและหลังให้กับเตียงนอนก่อนจะหลับลง
ศานิตาเข้าห้องน้ำเสร็จก็เดินกลับมานอนเธอชายหนุ่มที่นอนอยู่บนโซฟาแล้วถอนหายใจ เจตนิพัทธ์เป็นผู้ชายที่ดีมากคนหนึ่ง เขาก็ดีจนเธอรู้สึกผิด แต่บางครั้งความรักมันก็อยู่เหนือเหตุผลทุกอย่าง ถึงแม้รู้ว่าเขาเป็นผู้ชายที่ดีแสนดีแค่ไหนแต่เธอก็ไม่สามารถรักเขาได้ เพราะในหัวใจของเธอไม่เหลือที่ว่างไว้ให้ใครอีกแล้ว
“พี่คะขับตามรถคันไปเลยค่ะ” ผู้โดยสารที่นั่งอยู่บนเบาะหลังบอกกับคนขับแท็กซี่วัยกลางคนที่กำลังขับรถเข้ามาจอดบริเวณหน้าบ้านหลังใหญ่“แต่นี่มันถึงบ้านที่น้องบอกแล้วนะคะหรือว่าน้องมาผิดบ้าน” คนขับถามเพราะคิดว่าผู้โดยสารบอกทางมาบ้านของตนเองผิด“หนูไม่ได้มาผิดบ้านหรอกค่ะพี่ แต่หนูอยากตามรถคันนั้นไปมากกว่า ถ้ายังไงพี่ช่วยขับตามให้หนูหน่อยได้ไหมเดี๋ยวหนูให้เงินพิเศษจากค่าแท็กซี่นะคะ” หญิงสาวบอกคนขับรถแท็กซี่ซึ่งเป็นผู้หญิงวัยกลางคนอย่างรวดเร็วคนขับหันมามองหน้าผู้โดยสารและเมื่อเห็นสีหน้าจริงจังก็รีบขับตามรถยนต์คันนั้นไป รถคันหน้าขับด้วยความเร็วปกติ ทำให้รถแท็กซี่ขับตามทางได้อย่างสบายตอนนี้คนอยู่เบาะด้านหลังนั่งแทบไม่ติดเพราะอยากจะรู้ว่าเวลาดึกขนาดนี้แล้วอาเขยของตนเองจะออกบ้านไปไหนนี่ไม่ใช่คืนแรกที่เธอเห็นเขาออกจากบ้านเวลากลางคืน ตั้งแต่เธอกลับมาอยู่ที่เมืองไทยเกือบจะหนึ่งเดือนก็เห็นอาเขยออกจากบ้านเวลาดึกอยู่หลายครั้ง ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องที่ผู้ชายมีครอบครัวและมีภรรยากำลังตั้งครรภ์จะทำแบบนั้นเลยรถคันหน้าขับไปยังคอนโดมิเนียมแห่งหนึ่ง“หนูจะเอายังไงกันต่อ จะให้พี่ขับตามเข้าไปไหม” คนขับแท็กซี่หันม
เจตนิพัทธ์หายไปในโรงแรมประมาณเกือบสองชั่วโมงเมื่อเขาเดินออกมาจากลิฟต์พนักงานหน้าล็อบบี้คนหนึ่งก็เดินตรงมาที่เขา“คุณผู้ชายคะพอดีน้องคนนั้นบอกว่าเป็นหลานสาวของคุณเขามาถามหาคุณและนั่งรออยู่ตรงนั้นค่ะ” เธอชี้ไปยังโซฟาที่ตอนนี้มีหญิงสาวคนหนึ่งนั่งหลับพิงกับพนักอยู่เขาตกใจเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าคนที่นอนรอเขาอยู่นั้นคือไอศิกาหลานสาวของศานิตาภรรยาของเขา ชายหนุ่มไม่รู้ว่าเธอมารอเขาทำไมและที่แปลกใจไปมากกว่านั้นคือเธอรู้ได้ยังไงว่าเขามาที่นี่“เธอบอกไหมครับว่าตามผมมาทำไม” เขาหันไปถามพนักงานเบาๆ เพราะกลัวว่าหญิงสาวจะตื่น“เธอไม่ได้บอกว่าตามมาทำไมแต่เธอพยายามจะตามไปที่ห้องของคุณ แต่เราไม่ได้บอกว่าคุณเช็กอินห้องไหนเธอก็เลยขอนั่งรออยู่ตรงนั้น”“ถ้าอย่างนั้นผมจะกลับไปก่อนอีกสักสิบนาทีคุณค่อยปลุกเธอก็แล้วกันนะครับ แล้วถ้าเธอถามอะไรถึงผมก็ไม่ต้องบอกนี่ครับ” เขาส่งธนบัตรใบละห้าร้อยให้กับพนักงานก่อนจะมองหน้าหลานสาวแล้วรีบเดินออกจากโรงแรมไปเจตนิพัทธ์ไม่รู้ว่าทำไมไอศิกาถึงตามมาที่นี่แต่ถ้าเดาไม่ผิดก็น่าจะเพราะเห็นเขามากับผู้หญิงแน่ๆตั้งแต่หลานสาวคนนี้กลับมาจากอังกฤษเขาก็รู้สึกว่าเธอมักจะมองเขาด้วยสายตาแปล
“ทำไมถึงอยากจะรู้เรื่องนี้ล่ะมีอะไรหรือเปล่า”“เปล่าหรอกค่ะ หนูแค่อยากรู้เฉยๆ คุณย่าลองเล่าให้ฟังหน่อยสิคะว่าเขาพบรักกันยังไง” “ที่ถามย่าแบบนี้ไม่ใช่ว่าตอนนี้ตัวเองแอบมีความรักนะถึงอยากจะรู้เรื่องราวความรักของคนอื่น”“ก็นิดหน่อยค่ะ”“ตอนอยู่ที่อังกฤษหนูมีแฟนไหม”“มีสิคะคุณย่า หลานสาวคุณย่าสวยขนาดนี้จะไม่มีแฟนได้ยังไง” ไอศิกาตอบไปตามจริง เธอมีคนมาจีบอยู่หลายคนทั้งคนไทยด้วยกันและคนต่างชาติ“หลานสาวของย่าสวยมากๆ แล้วแฟนที่หนูพูดถึงเรื่องคบกันถึงขั้นไหนหนูได้ป้องกันหรือเปล่า”“คุณย่าขาถึงหนูจะไปเรียนต่างประเทศมาหลายปีแต่หนูก็เป็นคนไทยนะคะ คุณย่าเคยสอนหนูให้รักนวลสงวนตัวเพราะฉะนั้นคุณย่าวางใจได้เลยว่าหนูไม่มีทางจะไปทำเรื่องแบบนั้นเด็ดขาด”“ย่ารู้นะลูกว่าวัยรุ่นสมัยนี้เขามองเรื่องนั้นเป็นเรื่องธรรมดามากๆ ย่าไม่ห้ามหรอกเพราะรู้ว่าโลกมันเปลี่ยนไปตามยุคตามสมัยย่าขอแค่รู้จักป้องกัน แต่อย่าให้ตัวเองท้องถ้าหากยังไม่พร้อมและยังไม่เจอคนที่ตัวเองคิดจะแต่งงานและใช้ชีวิตอยู่ด้วย” เมื่อพูดถึงตรงนี้คุณอุไรวรรณก็เสียงอ่อนลงเพราะเรื่องนี้มันห้ามกันยาก“หนูไม่มีทางทำให้ย่ากับคุณพ่อผิดหวังหรอกนะคะ หนูสัญญ
วันนี้เป็นวันที่คุณหมอนัดศานิตาตรวจครรภ์ไอศิกาก็ขอไปด้วยเพราะหลังจากหาหมอแล้วเธอจะไปเลือกซื้อของใช้กับคุณอาของเธอด้วยโดยมีเจตนิพัทธ์เป็นคนขับรถไปให้ทั้งสามคนนั่งดูรออยู่หน้าห้องตรวจพอคุณหมอเรียกชื่อศานิตาหญิงสาวก็ลุกขึ้นแต่เจตนิพัทธ์ยังนั่งอยู่ที่เดิม“อาพัทธ์ไม่เข้าไปในห้องด้วยเหรอคะ” ไอศิกาที่กำลังจะเดินตามอาของตนเองหันมาถาม“ไม่เป็นไรเข้าไปหลายคนห้องมันเล็กวันนี้ให้ไอซ์เข้าไปกับอานิตก็ได้จะได้รู้ไงว่าคุณหมอเข้าตรวจแบบไหนบ้าง”“แล้วทุกครั้งอาพัทธ์เข้าไปกับอานิตหรือเปล่าคะ”“ทุกครั้งอาก็เข้าไปกับอานิตนั่นแหละ ไอซ์รีบเข้าไปเถอะคุณหมอมีคนไข้อีกหลายคนที่รออยู่นะ” เจตนิพัทธ์เตือนหลานสาว“ค่ะอาพัทธ์” ไอศิกาเดินตามเข้ามาในห้องซึ่งตอนนี้คุณอาของเธอกำลังนั่งคุยอยู่กับคุณหมอเธอยืนมองอยู่ข้างๆ จนกระทั่งถึงเวลาที่พยาบาลพาศานิตาขึ้นไปนอนบนเตียงเพื่อให้คุณหมออัลตราซาวด์ดูความสมบูรณ์ของเด็กในท้อง“เราจะได้ยินเสียงหัวใจเหมือนที่เคยเห็นในทีวีใช่มั้ยคะอานิต” หญิงสาวถามคุณอาด้วยความตื่นเต้น“ใช่จ้ะ เดี๋ยวหมอก็จะเอาเครื่องฟังหัวใจเด็กมาแนบที่หน้าท้อง ตอนนี้น้องน่าจะตัวโตก่อนครั้งล่าสุดที่อาเคยเห็นแล้
หลังเลิกงานวันนี้เจตนิพัทธ์มีนัดคุยงานและรับประทานอาหารเย็นกับลูกค้าจนกระทั่งถึงเวลาสี่ทุ่มแต่เขาบอกภรรยาเอาไว้แล้วว่าคืนนี้อาจจะค้างที่คอนโดเมื่อคุยงานเสร็จชายหนุ่มจึงไปนั่งดื่มที่ผับแห่งหนึ่งซึ่งอยู่ใกล้กับคอนโดที่เขาพักก่อนหน้านี้เขาก็อาศัยอยู่ที่คอนโดคนเดียวและมักจะมาดื่มที่นี่เป็นประจำแต่หลังจากย้ายไปอยู่ที่บ้านของศานิตาก็ออกมาดื่มน้อยมาก แต่ก่อนเขามักจะนัดกับเพื่อนดื่มทุกเย็นวันศุกร์แต่วันนี้มันเป็นวันพุธเจตนิพัทธ์ก็เลยไม่ได้โทรชวนใครออกมาชายหนุ่มนั่งดื่มคนเดียวอยู่บริเวณเคาน์เตอร์บาร์พอดึกคนก็เลยเริ่มจะเยอะขึ้นเพราะคืนนี้เป็นคืนเลดี้ไนท์ ที่นั่งข้างๆ ที่เคยว่างก็มีคนเข้ามานั่งด้วย เมื่อหันไปมองก็ต้องตกใจเพราะคนที่มานั่งนั้นคือไอศิกาหลานสาวของภรรยา“ไอซ์มาเที่ยวเหรอ”“ค่ะอาพัทธ์หนูมาเที่ยว อานิตบอกว่าวันนี้อาพัทธ์ไปคุยงานกับลูกค้าแล้วทำไมถึงมานั่งดื่มตรงนี้ได้ล่ะคะ” ไอศิกาถามคุณอาหนุ่ม เธอไม่คิดเลยว่าการออกมาเที่ยวกับเพื่อนคืนนี้จะเจออาเขยของตนเองมานั่งดื่มเหล้าอยู่ในผับหญิงสาวรู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างมากเพราะเขาบอกภรรยาว่าออกมาคุยงานกับลูกค้าแต่กลับมานั่งดื่มอย่างนี้ทั้งที่ภรรย
เจตนิพัทธ์นั่งดื่มจนกระทั่งถึงตีหนึ่งก็คิดจะกลับแต่เขาเห็นว่าตอนนี้หลานสวมนั่งอยู่กับเพื่อนผู้หญิงก็เลยไม่คิดจะเข้าไปชวนกลับด้วยแต่ก่อนกลับเขาแวะเข้าห้องน้ำขณะกำลังล้างมือก็ได้ยินวัยรุ่นสองคนคุยกัน“มึงว่ายาที่กินไปจะออกฤทธิ์กี่นาที”“นะน่าจะสิบนาทีตอนนี้เพิ่งกินยาอีกสักพักยาก็ออกฤทธิ์ เดี๋ยวมึงจัดการคนชื่อไอซ์ต่อเลยนะกูจะพาแฟนกูออกไปก่อน”“แน่ใจนะมึงว่าจะไม่มีปัญหาตามมาทีหลัง”“เออน่าผู้หญิงโดนยาแบบนั้นยังไงก็ต้องยอมอยู่แล้วแหละ โรงแรมก็อยู่ไม่ไกลมึงพาไปจัดการจากนั้นก็รีบออกมาก่อน ตื่นเช้ามาทุกอย่างก็ไม่มีปัญหา”“แล้วเขาจะไม่ตามเอาเรื่องแน่นะ” ชายวัยรุ่นอีกคนถามอย่างไม่แน่ใจเท่าไหร่“ผู้หญิงที่ไหนมันจะกล้าเอาเรื่องไปบอกคนอื่นว่าตัวเองโดนยาแล้วถูกผู้ชายข่มขืนเรื่องแบบนี้ไม่มีใครเขากล้าเอาเรื่องหรอกอย่าปอดแหกไปหน่อยเลย”“แฟนมึงล่ะเขาจะไม่เอาเรื่องกูใช่มั้ย”“แฟนกูกับผู้หญิงที่ชื่อไอซ์ไม่ได้สนิทกันมากมายหรอกและอีกอย่างผู้หญิงคนนี้ก็ไม่ได้อยู่ที่นี่เธอเรียนอยู่ต่างประเทศเกิดเรื่องแบบนี้ก็คงจะรีบกลับนั่นแหละ กูว่าเรารีบไปเถอะ”คำพูดของวัยรุ่นสองคนทำให้คนที่ล้างมืออยู่รีบเดินตามออกไปเจตนิ
เช้าวันนี้ทุกคนก็มานั่งทุกคนในก็มานั่งรับประทานอาหารกันตามปกติแต่คนที่ขาดไปก็คือไอศิกา“ไอซ์ไปไหนทำไมยังไม่ลงมากินข้าวอีก แป้งขึ้นไปดูสิว่าตื่นหรือยัง ” คุณอดิศรหันบอกเด็กรับใช้“ไม่ต้องหรอกแป้ง”“ทำไมล่ะครับคุณแม่”“ก็เมื่อคืนหนูไอซ์เขาขอออกไปเที่ยวกับเพื่อนและจะค้างที่บ้านเพื่อนเลย”“เพื่อนที่ไหนครับแม่”“ได้ยินว่าชื่อมินนี่นะ เรียนมาด้วยกันตอนม.ต้น ดิศเคยได้ยินชื่อนี้บ้างไหมล่ะ” คุณอุไรวรรณถามลูกชาย“เคยได้ยินอยู่ครับแม่ แต่ไม่แน่ใจว่าบ้านเธออยู่ที่ไหน แล้วไอซ์บอกแม่ไหมว่าจะกลับมากี่โมง”“หนูไอซ์บอกแม่ว่าจะกลับมาไม่เกินเที่ยง ว่าแต่ดิศถามหาลูกสาวแบบนี้มีอะไรหรือเปล่า”“เปล่าครับก็แค่เห็นว่าไม่มากินข้าวพร้อมกัน”“วันศุกร์เสาร์อาทิตย์นี้ทุกคนว่างกันไหม” คุณอุไรวรรณถามสมาชิกภายในครอบครัว“นิตว่างอยู่แล้วค่ะคุณแม่ ว่าแต่คุณแม่มีอะไรหรือเปล่าคะ”“แม้ว่าจะชวนไปเที่ยวหัวหินกันน่ะหนูไอซ์อยากกินอาหารทะเลสดๆ แม่เองก็อยากไปเที่ยวและไหว้พระด้วยก็เลยอยากจะชวนทุกคนไปด้วยกัน”“ผมคงไม่ว่างครับแม่ มีนัดตีกอล์ฟกับเพื่อนไว้แล้ว”“พัทธ์ล่ะ ว่างไหม”“วันศุกร์นี้ใช่ไหมครับคุณท่าน” แม้จะแต่งงานและเป็นลูก
การมาเที่ยวทะเลครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ไอศิกาได้เจอเจตนิพัทธ์หลังจากเหตุการณ์ในคืนวันที่เธอออกไปเที่ยวกับเพื่อน เพราะตลอดหลายวันที่ผ่านมาหญิงสาวพยายามที่จะไม่เจอเขามาตลอด แต่เมื่อเจอหน้ากันแล้วเขาไม่ได้พูดเรื่องคืนนั้นมันเลยทำให้ไอศิการู้สึกสบายใจ เธอไม่อยากให้คนอื่นรู้เรื่องระหว่างเขาและเมื่อทุกครั้งที่ได้อยู่ใกล้กับอาเขยไอศิกาก็รู้สึกใจเต้นแรงกว่าที่เคยความรู้สึกบางอย่างที่มันก่อตัวขึ้นในใจของหญิงสาวซึ่งมันเป็นความรู้สึกที่ผิดมากๆ เนื่องจากเจตนิพัทธ์คืออาเขยของตนเอง“พรุ่งนี้หลังกินอาหารเช้าเสร็จเราจะไปทำบุญไหว้พระกันนะ หนูไอซ์จะไปกับย่าไหม” คุณอุไรวรรณถามหลานสาวหลังจากนั่งทานอาหารทะเลที่หน้าบ้านและกันจนอิ่มและกลับเขามานั่งในห้องรับแขกกันอย่างพร้อมหน้า“ไปสิคะคุณย่าเราไปกันหมดทุกคนเลยไหมคะ”“นิตขอไม่ไปได้ไหมคะคุณแม่ วันนี้เดินทางมาทั้งวันแล้วก็ตอนเย็นยังเล่นน้ำอีกรู้สึกเพลียค่ะ อีกอย่างนิตก็เคยมาไหว้พระที่นี่บ่อยค่ะแล้ว”“ถ้านิตไม่ไปพี่จะอยู่กับนิตที่บ้านนะ”“ไม่เป็นไรหรอกค่ะพี่พัทธ์พี่ไปกับคุณแม่เถอะค่ะจะได้ช่วยดูแลคุณแม่ด้วย นิตอยู่คนเดียวได้”“อยู่คนเดียวได้แน่นะนิตให้แป้งอยู่ด้ว
ย่าอุไรวรรณพาหลานสาวมาไหว้พระจากนั้นก็ไปทานอาหารทะเลร้านประจำที่เวลามาหัวหินต้องแวะทานก่อนที่ทุกคนจะกลับเข้ามาในบ้านในเวลาบ่ายสองโมง“อานิตกินข้าวกลางวันหรือยังคะ หนูซื้อขนมมาฝากค่ะ”“อากินแล้วจ้ะ พนักงานของโรงแรมเพิ่งมาเก็บถาดอาหารเมื่อกี้เอง เป็นไงบ้างเที่ยวสนุกไหม”“สนุกค่ะอานิตแต่คนเยอะและร้อนไปหน่อยดีแล้วค่ะที่อานิตไม่ได้ไปด้วยเพราะมันเดินลำบากมากๆ”“อาก็คิดว่าอย่างนั้นแหละมาเหนื่อยๆ ไปพักผ่อนกันก่อนดีกว่าไหม แล้วเย็นนี้จะไปเดินตลาดโต้รุ่งไหมล่ะ”“ตลาดโต้รุ่งเหรอคะ อานิตมันคือตลาดแบบไหนคะ” เมื่อพูดถึงตลาดไอศิกาก็ตื่นเต้นจนลืมเรื่องของที่พนักงานของโรงแรมเอามาคืน“เป็นตลาดที่จะมีรถขายอาหารฟาสต์ฟูด มีขนมแล้วก็มีสินค้าทำมือมาขายอาว่าไอซ์น่าจะชอบนะ”“อานิตไปด้วยกันมั้ยคะ”“อาไม่ชอบเดินเบียดคนเยอะเท่าไหร่ ไอซ์ลองชวนอาพัทธ์กับลูกแก้วไปสิ”“ไม่เป็นไรค่ะเดี๋ยวหนูชวนลูกแก้วแล้วให้ลุงอ่ำไปส่งก็ได้”“ถ้าอยากไปจริงๆ อาไปเป็นเพื่อนก็ได้นะ ไปกันตามลำพังสองคนมันอันตราย”“ย่าก็เห็นด้วยนะ”“คุณย่าไปกับหนูไหมคะ”“ย่าแก่แล้วให้เดินแบบวัยรุ่นคงแย่ ไอซ์ไปกับลูกแก้วเถอะลูกแก้วอยากไปไหม” คุณอุไรวรรณหันม
หลังจากทุกคนออกไปจากบ้านแล้วศานิตาก็ชะเง้อคอมองไปทางประตูหน้าบ้านเธอกำลังรอใครบางคนที่นัดให้เจอกันที่นี่เมื่อเสียงออดหน้าบ้านดังขึ้นหญิงสาวก็รีบเดินไปเปิดประตูทันที“พี่ชัย นิตคิดถึงพี่ชัยมากๆ เลยค่ะ” เธอดีใจมากที่เห็นหน้าคนรักอีกครั้งหลังจากไม่ได้เจอกันมานานถึงสองเดือน“พี่คิดถึงนิต”“พี่ชัยนิตว่าเราเข้าไปคุยกันในบ้านดีกว่านะคะ เดี๋ยวจะมีคนมาเห็น”“ในบ้านไม่มีใครอยู่จริงๆ ใช่ไหมนิต”“ไม่มีค่ะพี่ชัย ทุกคนออกไปเที่ยวกันหมดแล้ว ตอนนี้นิตอยู่ที่บ้านคนเดียวค่ะ”เมื่อเดินเข้ามาถึงในบ้านชายหนุ่มดึงศานิตาเข้ามากอดโดยที่หญิงสาวก็ตอบกอดด้วยความคิดถึง“พี่ชัยนิตคิดถึงพี่มาก พี่เป็นยังไงบ้าง” ศานิตาพาคนรักมานั่งในห้องรับแขกซึ่งบ้านหลังนี้ชัยเดชก็เคยมาแล้วหลายครั้ง“พี่ก็คิดถึงนิตนะ ตอนนี้พี่เริ่มงานใหม่แล้วล่ะเงินเดือนอาจจะไม่เท่าบริษัทเดิมเท่าไหร่แต่มันก็พอเลี้ยงตัวเองได้ นิตล่ะเป็นยังไงบ้าง”“นิตก็สบายดีค่ะ”“ลูกของเราเป็นผู้หญิงใช่ไหม”“ใช่ค่ะ”“พี่ใช่พี่ว่าลูกต้องสวยเหมือนนิตแน่ แล้วนิตแพ้ท้องมากหรือเปล่า”“นิตแพ้ท้องอยู่ไม่ถึงสองอาทิตย์เองค่ะ นับว่าโชคดีมากเพราะคนอื่นเขาไปท้องกันตั้งสามเดื
การมาเที่ยวทะเลครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ไอศิกาได้เจอเจตนิพัทธ์หลังจากเหตุการณ์ในคืนวันที่เธอออกไปเที่ยวกับเพื่อน เพราะตลอดหลายวันที่ผ่านมาหญิงสาวพยายามที่จะไม่เจอเขามาตลอด แต่เมื่อเจอหน้ากันแล้วเขาไม่ได้พูดเรื่องคืนนั้นมันเลยทำให้ไอศิการู้สึกสบายใจ เธอไม่อยากให้คนอื่นรู้เรื่องระหว่างเขาและเมื่อทุกครั้งที่ได้อยู่ใกล้กับอาเขยไอศิกาก็รู้สึกใจเต้นแรงกว่าที่เคยความรู้สึกบางอย่างที่มันก่อตัวขึ้นในใจของหญิงสาวซึ่งมันเป็นความรู้สึกที่ผิดมากๆ เนื่องจากเจตนิพัทธ์คืออาเขยของตนเอง“พรุ่งนี้หลังกินอาหารเช้าเสร็จเราจะไปทำบุญไหว้พระกันนะ หนูไอซ์จะไปกับย่าไหม” คุณอุไรวรรณถามหลานสาวหลังจากนั่งทานอาหารทะเลที่หน้าบ้านและกันจนอิ่มและกลับเขามานั่งในห้องรับแขกกันอย่างพร้อมหน้า“ไปสิคะคุณย่าเราไปกันหมดทุกคนเลยไหมคะ”“นิตขอไม่ไปได้ไหมคะคุณแม่ วันนี้เดินทางมาทั้งวันแล้วก็ตอนเย็นยังเล่นน้ำอีกรู้สึกเพลียค่ะ อีกอย่างนิตก็เคยมาไหว้พระที่นี่บ่อยค่ะแล้ว”“ถ้านิตไม่ไปพี่จะอยู่กับนิตที่บ้านนะ”“ไม่เป็นไรหรอกค่ะพี่พัทธ์พี่ไปกับคุณแม่เถอะค่ะจะได้ช่วยดูแลคุณแม่ด้วย นิตอยู่คนเดียวได้”“อยู่คนเดียวได้แน่นะนิตให้แป้งอยู่ด้ว
เช้าวันนี้ทุกคนก็มานั่งทุกคนในก็มานั่งรับประทานอาหารกันตามปกติแต่คนที่ขาดไปก็คือไอศิกา“ไอซ์ไปไหนทำไมยังไม่ลงมากินข้าวอีก แป้งขึ้นไปดูสิว่าตื่นหรือยัง ” คุณอดิศรหันบอกเด็กรับใช้“ไม่ต้องหรอกแป้ง”“ทำไมล่ะครับคุณแม่”“ก็เมื่อคืนหนูไอซ์เขาขอออกไปเที่ยวกับเพื่อนและจะค้างที่บ้านเพื่อนเลย”“เพื่อนที่ไหนครับแม่”“ได้ยินว่าชื่อมินนี่นะ เรียนมาด้วยกันตอนม.ต้น ดิศเคยได้ยินชื่อนี้บ้างไหมล่ะ” คุณอุไรวรรณถามลูกชาย“เคยได้ยินอยู่ครับแม่ แต่ไม่แน่ใจว่าบ้านเธออยู่ที่ไหน แล้วไอซ์บอกแม่ไหมว่าจะกลับมากี่โมง”“หนูไอซ์บอกแม่ว่าจะกลับมาไม่เกินเที่ยง ว่าแต่ดิศถามหาลูกสาวแบบนี้มีอะไรหรือเปล่า”“เปล่าครับก็แค่เห็นว่าไม่มากินข้าวพร้อมกัน”“วันศุกร์เสาร์อาทิตย์นี้ทุกคนว่างกันไหม” คุณอุไรวรรณถามสมาชิกภายในครอบครัว“นิตว่างอยู่แล้วค่ะคุณแม่ ว่าแต่คุณแม่มีอะไรหรือเปล่าคะ”“แม้ว่าจะชวนไปเที่ยวหัวหินกันน่ะหนูไอซ์อยากกินอาหารทะเลสดๆ แม่เองก็อยากไปเที่ยวและไหว้พระด้วยก็เลยอยากจะชวนทุกคนไปด้วยกัน”“ผมคงไม่ว่างครับแม่ มีนัดตีกอล์ฟกับเพื่อนไว้แล้ว”“พัทธ์ล่ะ ว่างไหม”“วันศุกร์นี้ใช่ไหมครับคุณท่าน” แม้จะแต่งงานและเป็นลูก
เจตนิพัทธ์นั่งดื่มจนกระทั่งถึงตีหนึ่งก็คิดจะกลับแต่เขาเห็นว่าตอนนี้หลานสวมนั่งอยู่กับเพื่อนผู้หญิงก็เลยไม่คิดจะเข้าไปชวนกลับด้วยแต่ก่อนกลับเขาแวะเข้าห้องน้ำขณะกำลังล้างมือก็ได้ยินวัยรุ่นสองคนคุยกัน“มึงว่ายาที่กินไปจะออกฤทธิ์กี่นาที”“นะน่าจะสิบนาทีตอนนี้เพิ่งกินยาอีกสักพักยาก็ออกฤทธิ์ เดี๋ยวมึงจัดการคนชื่อไอซ์ต่อเลยนะกูจะพาแฟนกูออกไปก่อน”“แน่ใจนะมึงว่าจะไม่มีปัญหาตามมาทีหลัง”“เออน่าผู้หญิงโดนยาแบบนั้นยังไงก็ต้องยอมอยู่แล้วแหละ โรงแรมก็อยู่ไม่ไกลมึงพาไปจัดการจากนั้นก็รีบออกมาก่อน ตื่นเช้ามาทุกอย่างก็ไม่มีปัญหา”“แล้วเขาจะไม่ตามเอาเรื่องแน่นะ” ชายวัยรุ่นอีกคนถามอย่างไม่แน่ใจเท่าไหร่“ผู้หญิงที่ไหนมันจะกล้าเอาเรื่องไปบอกคนอื่นว่าตัวเองโดนยาแล้วถูกผู้ชายข่มขืนเรื่องแบบนี้ไม่มีใครเขากล้าเอาเรื่องหรอกอย่าปอดแหกไปหน่อยเลย”“แฟนมึงล่ะเขาจะไม่เอาเรื่องกูใช่มั้ย”“แฟนกูกับผู้หญิงที่ชื่อไอซ์ไม่ได้สนิทกันมากมายหรอกและอีกอย่างผู้หญิงคนนี้ก็ไม่ได้อยู่ที่นี่เธอเรียนอยู่ต่างประเทศเกิดเรื่องแบบนี้ก็คงจะรีบกลับนั่นแหละ กูว่าเรารีบไปเถอะ”คำพูดของวัยรุ่นสองคนทำให้คนที่ล้างมืออยู่รีบเดินตามออกไปเจตนิ
หลังเลิกงานวันนี้เจตนิพัทธ์มีนัดคุยงานและรับประทานอาหารเย็นกับลูกค้าจนกระทั่งถึงเวลาสี่ทุ่มแต่เขาบอกภรรยาเอาไว้แล้วว่าคืนนี้อาจจะค้างที่คอนโดเมื่อคุยงานเสร็จชายหนุ่มจึงไปนั่งดื่มที่ผับแห่งหนึ่งซึ่งอยู่ใกล้กับคอนโดที่เขาพักก่อนหน้านี้เขาก็อาศัยอยู่ที่คอนโดคนเดียวและมักจะมาดื่มที่นี่เป็นประจำแต่หลังจากย้ายไปอยู่ที่บ้านของศานิตาก็ออกมาดื่มน้อยมาก แต่ก่อนเขามักจะนัดกับเพื่อนดื่มทุกเย็นวันศุกร์แต่วันนี้มันเป็นวันพุธเจตนิพัทธ์ก็เลยไม่ได้โทรชวนใครออกมาชายหนุ่มนั่งดื่มคนเดียวอยู่บริเวณเคาน์เตอร์บาร์พอดึกคนก็เลยเริ่มจะเยอะขึ้นเพราะคืนนี้เป็นคืนเลดี้ไนท์ ที่นั่งข้างๆ ที่เคยว่างก็มีคนเข้ามานั่งด้วย เมื่อหันไปมองก็ต้องตกใจเพราะคนที่มานั่งนั้นคือไอศิกาหลานสาวของภรรยา“ไอซ์มาเที่ยวเหรอ”“ค่ะอาพัทธ์หนูมาเที่ยว อานิตบอกว่าวันนี้อาพัทธ์ไปคุยงานกับลูกค้าแล้วทำไมถึงมานั่งดื่มตรงนี้ได้ล่ะคะ” ไอศิกาถามคุณอาหนุ่ม เธอไม่คิดเลยว่าการออกมาเที่ยวกับเพื่อนคืนนี้จะเจออาเขยของตนเองมานั่งดื่มเหล้าอยู่ในผับหญิงสาวรู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างมากเพราะเขาบอกภรรยาว่าออกมาคุยงานกับลูกค้าแต่กลับมานั่งดื่มอย่างนี้ทั้งที่ภรรย
วันนี้เป็นวันที่คุณหมอนัดศานิตาตรวจครรภ์ไอศิกาก็ขอไปด้วยเพราะหลังจากหาหมอแล้วเธอจะไปเลือกซื้อของใช้กับคุณอาของเธอด้วยโดยมีเจตนิพัทธ์เป็นคนขับรถไปให้ทั้งสามคนนั่งดูรออยู่หน้าห้องตรวจพอคุณหมอเรียกชื่อศานิตาหญิงสาวก็ลุกขึ้นแต่เจตนิพัทธ์ยังนั่งอยู่ที่เดิม“อาพัทธ์ไม่เข้าไปในห้องด้วยเหรอคะ” ไอศิกาที่กำลังจะเดินตามอาของตนเองหันมาถาม“ไม่เป็นไรเข้าไปหลายคนห้องมันเล็กวันนี้ให้ไอซ์เข้าไปกับอานิตก็ได้จะได้รู้ไงว่าคุณหมอเข้าตรวจแบบไหนบ้าง”“แล้วทุกครั้งอาพัทธ์เข้าไปกับอานิตหรือเปล่าคะ”“ทุกครั้งอาก็เข้าไปกับอานิตนั่นแหละ ไอซ์รีบเข้าไปเถอะคุณหมอมีคนไข้อีกหลายคนที่รออยู่นะ” เจตนิพัทธ์เตือนหลานสาว“ค่ะอาพัทธ์” ไอศิกาเดินตามเข้ามาในห้องซึ่งตอนนี้คุณอาของเธอกำลังนั่งคุยอยู่กับคุณหมอเธอยืนมองอยู่ข้างๆ จนกระทั่งถึงเวลาที่พยาบาลพาศานิตาขึ้นไปนอนบนเตียงเพื่อให้คุณหมออัลตราซาวด์ดูความสมบูรณ์ของเด็กในท้อง“เราจะได้ยินเสียงหัวใจเหมือนที่เคยเห็นในทีวีใช่มั้ยคะอานิต” หญิงสาวถามคุณอาด้วยความตื่นเต้น“ใช่จ้ะ เดี๋ยวหมอก็จะเอาเครื่องฟังหัวใจเด็กมาแนบที่หน้าท้อง ตอนนี้น้องน่าจะตัวโตก่อนครั้งล่าสุดที่อาเคยเห็นแล้
“ทำไมถึงอยากจะรู้เรื่องนี้ล่ะมีอะไรหรือเปล่า”“เปล่าหรอกค่ะ หนูแค่อยากรู้เฉยๆ คุณย่าลองเล่าให้ฟังหน่อยสิคะว่าเขาพบรักกันยังไง” “ที่ถามย่าแบบนี้ไม่ใช่ว่าตอนนี้ตัวเองแอบมีความรักนะถึงอยากจะรู้เรื่องราวความรักของคนอื่น”“ก็นิดหน่อยค่ะ”“ตอนอยู่ที่อังกฤษหนูมีแฟนไหม”“มีสิคะคุณย่า หลานสาวคุณย่าสวยขนาดนี้จะไม่มีแฟนได้ยังไง” ไอศิกาตอบไปตามจริง เธอมีคนมาจีบอยู่หลายคนทั้งคนไทยด้วยกันและคนต่างชาติ“หลานสาวของย่าสวยมากๆ แล้วแฟนที่หนูพูดถึงเรื่องคบกันถึงขั้นไหนหนูได้ป้องกันหรือเปล่า”“คุณย่าขาถึงหนูจะไปเรียนต่างประเทศมาหลายปีแต่หนูก็เป็นคนไทยนะคะ คุณย่าเคยสอนหนูให้รักนวลสงวนตัวเพราะฉะนั้นคุณย่าวางใจได้เลยว่าหนูไม่มีทางจะไปทำเรื่องแบบนั้นเด็ดขาด”“ย่ารู้นะลูกว่าวัยรุ่นสมัยนี้เขามองเรื่องนั้นเป็นเรื่องธรรมดามากๆ ย่าไม่ห้ามหรอกเพราะรู้ว่าโลกมันเปลี่ยนไปตามยุคตามสมัยย่าขอแค่รู้จักป้องกัน แต่อย่าให้ตัวเองท้องถ้าหากยังไม่พร้อมและยังไม่เจอคนที่ตัวเองคิดจะแต่งงานและใช้ชีวิตอยู่ด้วย” เมื่อพูดถึงตรงนี้คุณอุไรวรรณก็เสียงอ่อนลงเพราะเรื่องนี้มันห้ามกันยาก“หนูไม่มีทางทำให้ย่ากับคุณพ่อผิดหวังหรอกนะคะ หนูสัญญ
เจตนิพัทธ์หายไปในโรงแรมประมาณเกือบสองชั่วโมงเมื่อเขาเดินออกมาจากลิฟต์พนักงานหน้าล็อบบี้คนหนึ่งก็เดินตรงมาที่เขา“คุณผู้ชายคะพอดีน้องคนนั้นบอกว่าเป็นหลานสาวของคุณเขามาถามหาคุณและนั่งรออยู่ตรงนั้นค่ะ” เธอชี้ไปยังโซฟาที่ตอนนี้มีหญิงสาวคนหนึ่งนั่งหลับพิงกับพนักอยู่เขาตกใจเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าคนที่นอนรอเขาอยู่นั้นคือไอศิกาหลานสาวของศานิตาภรรยาของเขา ชายหนุ่มไม่รู้ว่าเธอมารอเขาทำไมและที่แปลกใจไปมากกว่านั้นคือเธอรู้ได้ยังไงว่าเขามาที่นี่“เธอบอกไหมครับว่าตามผมมาทำไม” เขาหันไปถามพนักงานเบาๆ เพราะกลัวว่าหญิงสาวจะตื่น“เธอไม่ได้บอกว่าตามมาทำไมแต่เธอพยายามจะตามไปที่ห้องของคุณ แต่เราไม่ได้บอกว่าคุณเช็กอินห้องไหนเธอก็เลยขอนั่งรออยู่ตรงนั้น”“ถ้าอย่างนั้นผมจะกลับไปก่อนอีกสักสิบนาทีคุณค่อยปลุกเธอก็แล้วกันนะครับ แล้วถ้าเธอถามอะไรถึงผมก็ไม่ต้องบอกนี่ครับ” เขาส่งธนบัตรใบละห้าร้อยให้กับพนักงานก่อนจะมองหน้าหลานสาวแล้วรีบเดินออกจากโรงแรมไปเจตนิพัทธ์ไม่รู้ว่าทำไมไอศิกาถึงตามมาที่นี่แต่ถ้าเดาไม่ผิดก็น่าจะเพราะเห็นเขามากับผู้หญิงแน่ๆตั้งแต่หลานสาวคนนี้กลับมาจากอังกฤษเขาก็รู้สึกว่าเธอมักจะมองเขาด้วยสายตาแปล