สามเดือนผ่านไปความสัมพันธ์ของฉันกับพี่เสือดำเนินไปเรื่อยๆ ครั้งนี้มันดีมากๆ ไม่มีอุปสรรคอะไร ครอบครัวของเราทั้งคู่รับรู้ว่ากำลังคบหากันเป็นแฟน คุณแม่ของพี่เสือพูดแทบทุกครั้งที่ไปกินข้าวด้วยว่า ‘อยากหมั้นกันไว้ก่อนไหมลูก’ ถึงแม้จะบอกไปแล้วว่าขอคบกันเรื่อยๆ ดีกว่า แต่ก็พูดตลอดเลยจริงๆ “ใจ๋แต่งตัวเสร็จหรือยัง” “อือ นี่จ๋ายถ้าพี่เสือรู้ล่ะ ใจ๋รู้สึกสังหรณ์ใจแปลกๆ จังเลยวันนี้” “จะรู้ได้ยังไงพี่เสือไปช่วยดูบริษัทสาขาใหม่ที่จีน” “รู้สึกผิด”“ถ้ารู้สึกผิดมากก็โทรไปขอดีๆ”“ไม่ได้ๆ ถ้าขอใจ๋คงไม่ได้ไปคลับกับทุกคนแน่ๆ” ฉันถอนหายใจออกมาอย่างคิดหนัก การแอบหนีแฟนเที่ยวนี่มันระทึกขวัญดีจัง ก็เพราะพี่เสือนั่นแหละขี้หวงเกินไป สามเดือนที่ผ่านมาไม่ได้ออกไปสังสรรค์กับเพื่อนเลย ตอนเขาเข้าเฝือกก็อ้อนบอกว่าให้ช่วยอยู่ดูแล พอถอดเฝือกแล้วก็อ้างว่าไปคลับมันอันตราย ใจ๋โป้งๆ พี่เสือ ตั้งแต่คบกันไม่ได้ไปเที่ยวไหนเลย “สองพี่น้องขี้หวงเหมือนกันไม่มีผิด” จ๋ายบ่นๆ ก็แหงสิไทเกอร์ก็ใช่ย่อย ขนาดเป็นแค่เพื่อนยังหวงจ๋ายออกนอกหน้า แต่คนนี้เขาชอบสปอยขี้ตามใจ ไม่แปลกหรอกที่ไทเกอร์จะติดหนึบ@คลับแปลกจังวันนี้รู้สึ
คอนโดคนอายุมากกว่าไม่พูดไม่จาแต่ก็น่ารักนะพอมาถึงรีบไปเอาน้ำอุ่นมาให้ดื่ม ถึงจะโกรธแต่ก็ยังดูแล เฮ้อ รักมากจัง ไม่คิดว่าตัวเองจะสมหวังกับคนที่ชอบ เหตุการณ์ตอนนั้นคิดว่าเราสองคนจะแยกย้ายกันไปจริงๆ แล้วซะอีก“เหนื่อยไหมคะ นั่งเครื่องกลับมาคงจะปวดหลังแย่” “พี่นั่งเฟริสคลาส” “อื้อ” ไม่เห็นต้องช็อตกันแรงขนาดนี้เลย คนมีความผิดอย่างฉันมันเอาใจไม่ถูกหรอกนะ “แล้วๆ ธุรกิจเป็นยังไงบ้างคะ” “ที่นู่นอากาศดีไหม”“ไม่เจอเกือบอาทิตย์ใจ๋น่ะคิดถึงพี่เสือม๊ากมาก”ฉันถอนหายใจเบาๆ พลางก้มหน้าลงมือประสานกันแน่น พูดอะไรออกไปอีกฝ่ายก็ไม่ยอมตอบเลย จะร้องแล้วนะ“พี่เสือไม่พูดกับใจ๋เลย” “ทำแบบนี้กี่ครั้งแล้ว” “คะ? ทำอะไร” “แอบหนีเที่ยว”“นี่ครั้งแรกค่ะ” ฉันยกมือขึ้นมาชูสามนิ้วแล้วเอ่ยคำ ปฏิญาณตน “ใจ๋สาบานว่าจะไม่มีครั้งต่อไป” “เชื่อได้แค่ไหน” “เชื่อได้หนึ่งล้านเปอร์เซ็นต์เลย” คนตัวสูงถอนหายใจเบาๆ รู้สึกผิดจัง พี่เสือคงเหนื่อยจากงานแถมยังมาปวดหัวเรื่องฉันอีก ไม่น่าเลย “ไม่ต้องมาทำหน้าตาน่ารัก พี่ไม่ใจอ่อน”เสียงทุ้มเอ่ยเด็ดขาดทำให้ฉันที่กำลังยิ้มหวานหุบยิ้มทันที รอบนี้เหมือนจะโดนโกรธจริงจังเลย “แล
ผ่านไปร่วมเดือนกับเหตุการณ์ที่ฉันเอ่ยปากขอพี่เสือหมั้นในวันครบรอบสี่เดือนของเรา จนมาถึงตอนนี้เจ้าตัวก็ยังแซวไม่หยุด ทุกครั้งที่พูดถึงแทบอยากจะมุดแผ่นดินหนีให้รู้แล้วรู้รอดพี่เสือบอกว่าเขาจะเป็นคนมาคุยเรื่องหมั้นกับทางครอบครัวของฉันด้วยตัวเอง แต่เพราะงานยุ่งมากๆ ก็เลยยังไม่มีเวลามาคุย แต่ฉันก็ไม่ได้เร่งรีบอะไรหรอก วันนี้หลังจากเลิกเรียนฉันให้คนขับรถมาส่งที่บริษัทของพี่เสือ เห็นว่าทำงานจนไม่ได้กินอะไรตั้งแต่เช้าก็เลยซื้อของมาให้ “พี่เสืออยู่ข้างในใช่ไหมคะ” เดินมาถึงโต๊ะเลขาก็รีบถาม แต่ดูเหมือนเธอจะตกใจที่เห็นฉัน “อยู่ อยู่ค่ะ ตะ แต่มีแขก” “ไม่เป็นไรใจ๋จะเข้าไปนั่งเงียบๆ ไม่รบกวนเลย”“คือว่าอย่าเพิ่งเลยนะคะ” ไม่ได้ฟังคำที่เลขาหน้าห้องบอก พูดจบฉันก็เปิดประตูเข้ามาทันที ก่อนจะชะงักเมื่อเห็นว่ามีผู้หญิงกำลังนั่งก้มหน้าที่ตรงกลางระหว่างขาของพี่เสือ มือกำลังใช้ทิชชู่เช็ดคราบบางอย่างที่เลอะกางเกงออกให้ “จะ ใจ๋” พอเห็นฉันพี่เสือก็รีบดันผู้หญิงคนนั้นออกทันทีพร้อมใบหน้าซีดเผือด “พอแล้วครับคุณจิน” ผู้หญิงอายุราวสามสิบกลางๆ ยิ้มหวานให้แฟนของฉันก่อนจะหันมาตั้งคำถามที่ชวนงุนงง “นักศึกษาฝึกงาน
ผู้ใหญ่ทางฝั่งพี่เสือและฉันคุยกันแล้วเรื่องหมั้น บรรยากาศตอนนี้เต็มไปด้วยความสุข เสียงหัวเราะ แต่ๆ ฉันน่ะ อยากแต่งมากกว่านี่สิ คุยกันเรียบร้อยแล้วพี่เสือก็ขออนุญาตพาฉันไปนอนที่คอนโด“เป็นอะไรใครทำให้คนสวยของพี่ไม่พอใจ” พี่เสือถาม “ไม่มีอะไรค่ะใจ๋แค่นอยไปเองพี่เสืออย่าสนใจเลย”“ไม่ให้สนใจได้ยังไง”“ใจ๋แค่คิดว่าเราแต่งกันเลยก็ได้ แต่หมั้นก็ดีแล้ว ฮือออ ใจ๋งี่เง่าอ่ะ ไม่เอาไม่คุยเรื่องนี้แล้ว” พี่เสือยิ้มแล้วคว้ามือดึงตัวฉันให้นั่งลงมาบนตักแกร่ง “ใครกันที่บอกว่าไม่ต้องรีบ แต่วันนี้ดันใจร้อนกว่าพี่อีกนะ” “ใจ๋หวง” แก้มแทบปริแล้วมั้งนั่น คงจะพอใจในคำตอบมากๆ จนเก็บอาการไม่อยู่ ยิ้มจนเหงือกแห้งหมดแล้ว “แฟนพี่ขี้หวงจัง”“ไม่ดีเลย ใจ๋ห้ามตัวเองไม่ได้”“จะห้ามทำไม พี่ขี้หวงกว่าใจ๋อีกนะ” “แต่ช่วงนี้ใจ๋งี่เง่า”“พี่ชอบครับ งี่เง่ามาเลย งี่เง่ากับพี่เยอะๆ” “โรคจิต” พี่เสือยกมือขึ้นมาปัดไรผมที่หล่นลงมาเกะกะใบหน้าออกให้ก่อนจะฝังจมูกบนพวงแก้มของฉันฟอดใหญ่ “พี่มีเวลาพักหนึ่งอาทิตย์ เราจะไปไหนกันดี” “จริงหรอคะ” ดวงตาของฉันเบิกกว้างเป็นประกาย แหงสิเพราะตั้งแต่เรียนจบมาพี่เสือก็เอาแต่ทำงาน ยิ
#วันต่อมา อยากหยิกพี่เสือแรงๆ สักทีที่ทำเมื่อคืนตั้งหลายรอบ ตื่นมาก็ต้องรีบเก็บเสื้อผ้าเพราะวันนี้จะไปเที่ยว ระหว่างทางฉันเอาแต่หลับเพราะเพลียจากิจกรรมรักเมื่อคืน เราเลือกมาเที่ยวเชียงใหม่เพราะเข้าหน้าหนาวแล้วก็เลยเลือกที่จะขึ้นดอย เลขาของพี่เสือเป็นคนจองที่พักให้ถือว่าเลือกได้ดีเลยเพราะมันสวยมากๆ น่าเสียดายที่จองแค่สี่วัน อยากอยู่สักเดือนแต่พี่เสือก็ต้องไปทำงาน ฉันก็ต้องเรียน “เหนื่อยไหมคะ นอนพักก่อนไหม” ฉันถามพี่เสือที่ขนกระเป๋าลงรถช่วยเจ้าของที่พัก “เดี๋ยวค่อยพักตอนนอนทีเดียว พี่ไหว” “อากาศที่นี่เย็นกว่าที่กรุงเทพเยอะเลย” “ชอบไหมครับ” “อื้อใจ๋ชอบ” เหมือนพี่เสือกำลังคิดอะไรอยู่ จู่ๆ เขาก็เดินไปคุยกับเจ้าของที่พัก ไม่รู้ว่าคุยอะไรจากจุดที่ฉันยืนอยู่มันไกลพอสมควร ไม่นานก็เดินกลับมาแถมยังยิ้มระรื่น “อารมณ์ดีอะไรคะ” “ปีหน้าพี่จะสร้างบ้านไว้ที่นี่ เอาไว้เป็นที่พักตากอากาศเวลาเราพาลูกๆ มาเที่ยว” “คะ?” “พี่ไปถามซื้อที่กับเจ้าของที่พักมาแล้ว” “พี่เสือ!!!” ลมแทบจับ มันดีใจแต่เขาตัดสินใจเร็วเกินไปไม่ถามคนที่บ้านก่อนเลย “ก็หนูบอกว่าชอบ” “แบบนี้ถ้าใจ๋บอกว่าอยา
“มันจะอะไรนักหนาวะจ๋าย”“อย่ามาขึ้นเสียงนะไทเกอร์”“ถ้าจะขนาดนี้ก็แก้ผ้าเลยไหม?”“นายพูดไม่รู้เรื่อง”“อย่าทำให้หงุดหงิด”“รู้ตัวไหมว่าน่าเบื่อขนาดไหน”“เบื่อแล้วยังไง? สุดท้ายก็แพ้อยู่ดี”ฉันถอนหายใจออกมาแรง ๆ ก่อนจะกดตัดสายวิดีโอคอลแล้วหยิบชุดตัวที่กำลังเป็นประเด็นให้ถกเถียงกันอยู่เข้าไปเปลี่ยนในห้องน้ำ โดยไม่สนใจว่าเพื่อนขี้หวงอย่างไทเกอร์จะหงุดหงิดขนาดไหน ไม่รู้ไม่สนใจ ยังไงก็จะใส่ชุดนี้วันนี้กลุ่มเรานัดไปดื่มที่คลับ มีใจ๋ฝาแฝดของฉัน ยี่หวา โอดิน และไทเกอร์ นาน ๆ จะรวมตัวกันครบแก๊งปกติโอดินจะไม่ค่อยไปด้วย ส่วนใจ๋ก็ติดพี่เสืออย่างกับอะไร บ้านแทบไม่กลับเลยน่าตีจริง ๆ“ทะเลาะกับใครได้ยินออกไปข้างนอกเลย” ใจ๋เปิดประตูเข้ามาในห้องพร้อมถามฉันที่เพิ่งเปลี่ยนชุดเสร็จ“จะมีใครอีกล่ะ ก็คนเดียวนั่นแหละ” พูดเท่านี้ใจ๋ก็รู้ได้ทันทีว่าคนที่เอ่ยถึงคือใคร“เพื่อนอะไรขี้หวงจัง”“เพื่อนอย่างไทเกอร์นี่ไง”“นั่นสิ ตามหวงจ๋ายตั้งแต่มอปลายแล้ว”“น่าเบื่อ”“เบื่อขนาดไหนก็เห็นตามใจทุกรอบ”มันก็จริงอย่างใจ๋ว่า ฉันตามใจไทเกอร์จนเคยตัว ยิ่งหลังจากกลับมาเรียนต่อที่ไทย เขายิ่งเอาแต่ใจอยากได้อะไรก็ต้องได้ นั
คอนโดคุณน้าซื้อคอนโดเอาไว้ให้ไทเกอร์นานแล้ว แต่รายนี้ชอบอยู่บ้านมากกว่า นาน ๆ ครั้งจะมา ส่วนมากจะนอนแค่เวลาดื่มหนัก ๆ กลับไม่ไหว หรือตอนที่พาฉันมา“ไปเปลี่ยนเสื้อดี ๆ หน่อย” พอเข้ามาในห้องเพื่อนตัวสูงก็ออกคำสั่งทันที แต่ฉันทำเป็นหูทวนลมไม่ได้ยินลอยหน้าลอยตาไม่รู้ไม่ชี้“จ๋ายไปเปลี่ยนเสื้อ” น้ำเสียงทุ้มปนหงุดหงิดออกคำสั่งอีกครั้งทำให้หันมองคนที่จ้องเขม็งก่อนจะจิ๊ปากใส่ไปหนึ่งครั้ง “งี่เง่า กลับมาห้องแล้วทำไมต้องเปลี่ยน”“มันน่าเอา ถ้าไม่ให้ทำก็ไปเปลี่ยนดี ๆ”“หยาบคาย หน้าไม่อาย” พูดไปแบบนั้นเพื่อนตัวสูงก็รีบตอบกลับมาโดยไม่เว้นช่วงทันที“ปากดี”“ไม่เปลี่ยน จะใส่ชุดนี้นอนไม่ต้องมาสั่งด้วย หงุดหงิด!!”“ที่ซนขนาดนี้เพราะอยากให้ถอดให้หรือยังไง?”“หยุดความคิดของนายซะไทเกอร์ อย่าล้ำเส้น”“ล้ำเส้น? หึ!!” เจ้าของเสียงในลำคอเมื่อครู่เดินมาใกล้ ๆ พร้อมโน้มตัวลงมาเอ่ยถาม “ไม่คิดเหมือนกันเหรอ”“คิดอะไรของนาย”“เธอกับฉันล้ำเส้นกันมานานแล้วนะจ๋าย”“…” ฉันกัดริมฝีปากแน่นมองไทเกอร์ที่กำลังยิ้มเจ้าเล่ห์เพราะเถียงไม่ออก ที่พูดมาความจริงทั้งนั้น“เอาจริง? ก็แค่คำว่าเพื่อนแต่เธอน่าจะรู้ดีว่าการกระทำเรามันไ
มหาวิทยาลัยวันนี้มีเรียนบ่ายสามกว่าจะเลิกคงทุ่มเกือบสองทุ่มนู่น ใจ๋ฝาแฝดของฉันไม่ได้มาเรียนเพราะพี่เสือพาไปเที่ยวบนดอย“จ๋าย ริวจิให้มาขอคอนแทกต์”“หือ?” ฉันหันมองยี่หวาที่พูดขึ้นมา เพราะเห็นว่ากำลังสงสัยก็เลยชี้ให้ดูว่าใคร “ไอ้หนุ่มหน้าญี่ปุ่นนั่นไง”“บอกไปว่าไม่ให้ มีผัวแล้ว”แปะ!! ฉันฟาดมือลงบนแผ่นหลังของไทเกอร์จนอีกฝ่ายร้องเสียงดังพร้อมแอ่นตัวไปข้างหน้า สม!! ปากไม่ดีชอบพูดจาหยาบคาย ทีกับใจ๋ไม่เห็นจะเป็นแบบนี้เลย“นี่นายเป็นแค่เพื่อนอย่าหวงจนออกนอกหน้า” ยี่หวาบอก ก่อนจะถามฉันต่อ “สรุปให้ไหม?”“หล่อดีนะ”พูดแล้วสายตาก็มองไปยังหนุ่มน้อยลูกครึ่งญี่ปุ่นที่กำลังยิ้มเขิน เพราะฉันเพิ่งย้ายมาเรียนไม่ถึงปีก็เลยไม่สนิทกับเพื่อน ๆ ในคลาสเท่าไร แต่ทุกคนจะรู้จักดีในฐานะฝาแฝดของใจ๋ ตอนย้ายกลับมาเรียนที่ไทยทั้งมหาวิทยาลัยฮือฮากันใหญ่ ช่างเป็นเรื่องแปลกจริง ๆ“หล่อสู้ฉันไม่ได้ ไม่ต้องให้” เพื่อนปากเสียอย่างไทเกอร์ขัดขึ้นมาอีกครั้ง นิสัยขี้หวงมันแก้ไม่หายเลย ชาตินี้คงไม่มีแฟนหรอกฉันน่ะ ถ้าเขายังคอยกันท่าคนอื่นแบบนี้“เอาให้เลยยี่หวา”“จ๋าย!!”ไม่สนใจเสียงตวาดหงุดหงิดของคนเอาแต่ใจ พอบอกยี่หวาไปแบบน
หลายเดือนต่อมาฉันย้ายมาพักห้องพิเศษวีไอพีที่โรงพยาบาลเพราะใกล้จะถึงกำหนดคลอดแล้ว จริงๆ ไม่ได้มีวันตายตัว แต่หมอบอกว่าไม่น่าเกินสองวันนี้ เราจึงตกลงกันไว้มาอยู่ที่โรงพยาบาลเพื่อรอคลอดเลยน่าจะสะดวกกว่า เพราะวันก่อนฉันปวดท้องมาก ทีแรกคิดว่าจะคลอดแล้วแต่พอมาถึงโรงพยาบาลอยู่ๆ ก็หายปวดซะงั้น ยัยลูกสาวตัวแสบของฉันขี้แกล้งใช่ไหมล่ะ“จ๋ายตอนนี้เป็นไงบ้าง” ม่านกั้นรอบเตียงถูกเปิดออกพร้อมกับไทเกอร์ที่โผล่หน้าเข้ามาถาม“ยังไม่มีอาการอะไรเลยไทเกอร์” ที่ฉันต้องขอให้พยาบาลปิดม่านไว้ก็เพราะกันไม่ให้ไทเกอร์ตื่นตูมมากเกินไป ตั้งแต่เมื่อวานที่มาถึงจนตอนนี้เขาถามฉันทุกๆ ห้านาทีเลยว่าเป็นยังไงบ้าง ก้นนั่งไม่ติดโซฟาด้วยซ้ำ พอจะเข้าใจว่าตื่นเต้นเพราะเขากำลังจะเป็นพ่อคน แต่มันก็ออกจะเกินไปหน่อย“จ๋าย ฉันว่าเราจ้างหมอให้มายืนรอเตรียมคลอดไว้ตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมงเลยดีกว่า เพราะถ้าจะคลอดขึ้นมาจะได้ลงมือทันทีเลย แบบนี้ดีไหม” น้ำเสียงของไทเกอร์ติดๆ ขัดๆ ฟังดูลนลานพูดผิดพูดถูก“ไทเกอร์ใจเย็นๆ ไม่ต้องถึงขั้นนั้นหรอก ถ้าจะคลอดจริงๆ ก็แค่กดปุ่มตามหมอมา” “แต่ว่า..” “ถ้านายดื้อฉันจะกลับบ้านนะ” “อย่านะ ไม่ได้สิ เอาแ
หลังหมั้นได้สามวันฉันกับไทเกอร์นั่งเครื่องไปยังเกาะส่วนตัว ที่ต้องรีบไปเพราะอีกไม่นานมหาวิทยาลัยก็จะเปิดเทอมแล้วคงไม่มีเวลา แถมท้องเริ่มโตขึ้นเรื่อย ๆใช้เวลาเดินทางไม่นานเราสองคนก็มาถึงเกาะส่วนตัว ที่ที่เป็นความทรงจำไม่ดีสักเท่าไรสำหรับฉัน แต่เชื่อว่าครั้งนี้ไทเกอร์สามารถลบเรื่องราวเหล่านั้นออกไปได้อย่างที่เคยให้คำสัญญาเอาไว้เพราะความทรงจำเกิดขึ้นที่นี่มากมาย มองไปทางไหนก็เจอแต่เรื่องราวที่เคยเกิดขึ้นระหว่างเราสองคน“เข้าบ้านกันครับ” ไทเกอร์เดินมาหยุดข้าง ๆ สองมือหิ้วกระเป๋าใบใหญ่ ครั้งนี้เขาอนุญาตให้ฉันใส่บิกินีหรือชุดโชว์หุ่นได้ตามสบาย ไม่ต้องแปลกใจที่ใจดีขนาดนี้เพราะเกาะแห่งนี้ไม่มีใครอยู่เลยนอกจากเราสองคน“เล่นน้ำกันนะ” “หืม?”“ก็นายอนุญาตให้ใส่บิกินีได้ทั้งที” ฉันทำปากมุ่ยมุบมิบเพราะไทเกอร์เอาแต่ขมวดคิ้ว พอตอบไปแล้วเขากลับยิ้มแบบนี้มันแกล้งกันชัด ๆ“แกล้งทำไม”“รู้ไหมเวลาทำปากแบบนี้แล้วน่าจูบขนาดไหน”“ขนาดไหนเหรอคะ” ฉันเขย่งเท้าขึ้นเอาหน้ายื่นไปใกล้ ถึงอย่างนั้นก็ยังสูงไม่เท่าไทเกอร์จนเขาต้องโน้มลงมา แต่พอเขาทำท่าจะจูบก็รีบขยับตัวหนีพร้อมส่งยิ้มหวานให้“เอาคืนแบบนี้?”“ขัดใจเห
ไทเกอร์กับฉันตื่นเช้าด้วยความรู้สึกที่ตื่นเต้น เพราะเราสองคนนับวันจนผ่านมาถึงวันที่เฝ้ารอนั่นคือการไปอัลตราซาวนด์ ครั้งแรกที่เราจะได้เห็นเบบี๋น้อย แต่คนที่ตื่นเต้นมาก ๆ ก็ไม่พ้นคนที่บ้านต่างโทรมาถามกันยกใหญ่ ไทเกอร์รับสายจนแทบไม่ได้พักแล้วพูดคำเดิมซ้ำ ๆ ว่าไม่รู้เพศกำลังจะเข้าห้องไปอัลตราซาวนด์“ตื่นเต้นไหม” ลุงหมอถาม“ตื่นเต้นครับ แต่คนที่บ้านตื่นเต้นกว่า” พอไทเกอร์บอกอย่างนั้นลุงหมอก็หัวเราะเบา ๆ“ธรรมดาหลานคนแรกของตระกูล”ลุงหมอบีบเจลสีใสเนื้อสัมผัสหนืดลงมาบนท้องของฉัน จากนั้นก็เอาเครื่องบางอย่างมาถูวน ๆ ก่อนจะปรากฏภาพในจอตรงหน้าพร้อมเสียงคลื่นหัวใจครั้งแรกที่ได้เห็นทารกตัวน้อยผ่านจอหัวใจของฉันมันก็เต้นรัว รีบเงยหน้ามองไทเกอร์ เขายิ้มให้ฉันพร้อมมือที่บีบแน่น คงตื่นเต้นมากแน่เลยเพราะมือแอบสั่นด้วย“จมูกพุ่งมาเลย” ลุงหมอค่อย ๆ เลื่อนดูไปทีละจุดช้า ๆ พร้อมพูดบอกว่าตรงนั้นคือส่วนไหนของร่างกาย“ปกติแข็งแรงตามอายุครรภ์”“ถึงเวลาดูเพศแล้ว หนูน้อยไหนหันมาให้ลุงดูหน่อยเร็ว”ทั้งฉันและไทเกอร์ต่างเงียบสายตาโฟกัสไปบนจอด้วยความตื่นเต้น ลุงหมอใช้เวลาดูอยู่ไม่นานก็หันมายิ้ม“ผู้หญิงนะ ใช่อย่างที
… ผ่านไปเกือบเดือน ตอนนี้ฉันกำลังนั่งดูแบบชุดที่จะใส่วันหมั้น เราได้ฤกษ์มาแล้วเป็นเดือนหน้า ดูรวบรัดหน่อยต้นเหตุก็เพราะไทเกอร์ขอเลือกวันที่เร็วที่สุดถึงได้หัวหมุนกันอย่างดี โชคดีที่เชิญแค่คนสนิทไม่ใช่งานใหญ่อะไรอย่างที่เคยคุยกันไว้ช่วงนี้ฉันกับไทเกอร์อยู่ที่คอนโดซะมากกว่าที่บ้าน เหตุผลก็เพราะเขาอยากให้เรามีเวลาอยู่ด้วยกันเพิ่มขึ้น ถึงบ้านจะหลังติดกันแต่เข้า ๆ ออก ๆ นอนห้องเดียวกันรู้สึกว่ามันดูไม่ค่อยดี ถึงที่บ้านจะไม่ว่าอะไรก็ตาม เราคุยกันแล้วพ่อกับแม่ก็อนุญาตแต่ช่วงท้องเดือนที่เจ็ดต้องกลับไปอยู่บ้านจะได้มีคนช่วยดู ช่วงนั้นไทเกอร์ก็ต้องเรียนด้วยไม่มีเวลามาคลุกอยู่กับฉันทั้งวันอย่างตอนนี้ “ชุดนี้สวยไหม” ฉันถามคนที่นอนบนตัก ทางร้านส่งแบบมาให้ที่คอนโด หลังจากเลือกแล้วก็จะสั่งคนมาวัดตัว เป็นร้านของเพื่อนสนิทแม่ก็เลยไม่ต้องได้ไปด้วยตัวเอง“ครับ จ๋ายใส่ชุดไหนก็สวย”“หยุดคลั่งรักฉันแล้วลุกขึ้นมาเลือกชุดก่อนดีไหม” ฉันมองค้อนไทเกอร์ เขาไม่เห็นจะเลือกเลยเอาแต่นอนหนุนตักทำปากมุบมิบคุยกับลูกอยู่ได้“หยุดไม่ได้ มีแต่จะคลั่งรักเมียมากขึ้นทุกวัน”แปะ!! พอได้ยินอย่างนั้นก็รีบฟาดมือที่ไหล่เขาทันที
“ทะ... ไทเกอร์พอแล้ว อ๊ะ~” ฉันพยายามใช้มือดันตัวเองออกห่างจากลิ้นสากที่ละเลงเลียเม็ดเสียวอย่างไม่ยอมฟังคำห้าม“อ๊าง~ พอแล้ว อ๊า~”เขามันบ้าเอาแต่ใจตัวเองที่สุด!!!ไม่ว่าจะเอ่ยห้ามสักเท่าไรไทเกอร์ก็ไม่มีท่าทีว่าจะยอมหยุด เขาเร่งจังหวะสัมผัสร้อนแรงขึ้นเรื่อย ๆ จนร่างของฉันสั่นสะท้าน ความร้อนรุ่มร้อนแล่นพล่านไปทั่วร่างกาย สองมือจิกลงบนผ้าปูที่นอน พยายามข่มกลั้นแต่ยิ่งพยายามระงับกลับยิ่งรู้สึกราวกับถูกไฟแผดเผา“หวาน” ใบหน้าหล่อผละออกมาจากกลางลำตัวแล้วพูดพร้อมใช้ลิ้นเลียขอบปาก ฉันที่มองอยู่รู้สึกอายจนไม่รู้จะอายยังไงแล้ว “โรคจิต!!” พอไทเกอร์ลุกขึ้นออกจากเรียวขาก็รีบดึงผ้าห่มมาคลุมท่อนล่างที่เปลือยเปล่าเอาไว้ทันที เขาเห็นอย่างนั้นก็หัวเราะออกมา“มาว่าโรคจิตได้ยังไงจ๋าย เมื่อกี้เธอเพิ่งปลดปล่อยใส่ปากฉันแท้ ๆ”“หยุดพูดเดี๋ยวนี้เลยนะ”“รู้ไหมรสชาติของเธอมันหวานมากเลย”“ทำไมชอบแกล้งกันอยู่เรื่อย”ฉันมุ่ยปากใส่ก่อนจะเบือนหน้าหนีร่างหนาที่กำลังล้มตัวลงนอนข้าง ๆ เขาทำตีมึนตาใสเอาแขนมาวางตรงท้องแล้วลูบไปมาอย่างทุกครั้ง“งอนบ่อย ๆ เดี๋ยวลูกจะขี้งอนตามแม่นะ”“ทฤษฎีไหนของนายอีก” หันกลับมามองคนที่กำลั
เช้าวันใหม่ตื่นขึ้นมาก็ได้กลิ่นหอมโชยเข้ามาในห้อง ฉันพยุงตัวเองลุกขึ้นก่อนจะยกแขนบิดขี้เกียจไปมา จากนั้นก็เดินเข้าห้องน้ำล้างหน้าแปรงฟันหลังทำธุระเสร็จฉันเดินมาหาไทเกอร์ที่ครัว เขาอยู่ในชุดกันเปื้อนกำลังยืนทำอาหารอย่างตั้งใจ โดยทำตามวิธีที่เปิดดูจากยูทูบ“วันนี้ทำอะไรให้ฉันกิน”ฉันเดินมาถามใกล้ ๆ ก่อนคนตัวสูงในชุดกันเปื้อนจะหันมาแล้วก้มลงจูบบนหน้าผาก ก่อนจะตอบ“ผัดผักใส่หมูสับ”“เอาใจเก่งจังเลยนะ”“ไม่ได้ทำเพราะเอาใจ ทำเพราะอยากทำ” ไทเกอร์หันกลับไปสนใจกระทะที่กำลังเปิดไฟร้อนผัดหมู ส่วนฉันก็ขยับออกห่างเล็กน้อยเพราะกลัวไปเกะกะเขา“นายได้ทำอะไรพี่ฝนกับเพลงหรือเปล่า” เพราะรู้สึกว่าสองคนนี้เงียบหายไปเลยไม่มาวุ่นวายกับเราสองคนแล้ว ก็เลยถามดู เขาอาจจะทำอย่างที่เคยทำกับแป้งตอนนั้นที่จู่ ๆ ก็หายไปไม่กล้ายุ่งกับไทเกอร์อีก“ทำไมถามแบบนั้น”“ฉันรู้สึกว่าสองคนนั้นเงียบหายไปเลย นายทำอะไรหรือเปล่า”“เธอห้าม แล้วฉันจะกล้าขัดคำสั่งได้ยังไง” เขาตอบโดยไม่หันมามอง เอาแต่ก้มหน้าก้มตาสนใจของที่อยู่ในกระทะ“ถ้าทำฉันก็ไม่ว่าอะไร แค่ไม่อยากให้โกหก”จู่ ๆ ไทเกอร์ก็วางตะหลิวในมือก่อนจะปิดแก๊สแล้วหมุนตัวหันมาป
หนึ่งอาทิตย์ผ่านไปคอนโด วันนี้ไทเกอร์เป็นคนขอพ่อกับแม่ว่าจะพาฉันนอนที่คอนโด พอเขาพูดแม่ก็ไม่เคยห้ามอะไรเลยคิดดูสิว่ารักลูกเขยคนนี้มากขนาดไหน ตั้งแต่เด็กจนโตแม่ชมไทเกอร์นับครั้งไม่ถ้วน“ดูสิท้องเริ่มออกแล้ว” ฉันเลิกเสื้อขึ้นโชว์ให้ไทเกอร์ที่กำลังนั่งอยู่บนโซฟาดู เมื่อกี้ส่องกระจกในห้องน้ำแล้วเห็นว่ามันนูนขึ้นมากกว่าเดิมก็เลยรีบบอกเขาด้วยความตื่นเต้น“รู้แล้ว” “ได้ยังไง นายรู้ก่อนฉันได้ยัง”“ฉันลูบท้องเธอทุกวัน”นั่นสิไม่น่าถามเลย ไทเกอร์น่ะลูบท้องฉันบ่อยมาก ๆ เวลานั่งใกล้กันมือของเขาจะวางตรงท้องอัตโนมัติทันที แต่ฉันนี่สิไม่สังเกตดูตัวเองเลย“มานั่งตักพี่เร็วคนสวย” ไม่พูดเปล่าเขาตบมือลงบนท่อนขาของตัวเองเพื่อเรียกให้ฉันไปนั่ง“ไม่เอา นายชอบลวนลาม”“โธ่จ๋าย แค่จับนิดบีบหน่อยเท่านั้นเอง” คนตัวสูงทำหน้าอ้อนและก็เป็นฉันที่แพ้อีกเช่นเคย มองสายตาที่หวานเยิ้มคู่นั้นก่อนจะเดินมานั่งลงบนตัก“คิดถึงตอนนั้นที่เราชอบดูหนังด้วยกัน แต่แทบไม่รู้เลยว่าเนื้อหาหนังที่ดูเป็นยังไง รู้ตัวไหมว่าขี้อ่อยขนาดไหน” เขาถามแล้วยกมือขึ้นมาบีบแก้มของฉันเบา ๆ ก่อนจะโน้มใบหน้ามาเอาปลายจมูกโด่งลากไล้พร้อมหอมฟอดใหญ่“คิ
ลืมตาตื่นขึ้นในตอนเช้าก่อนจะคิดถึงเรื่องราวเมื่อคืนจนทำให้ใบหน้าร้อนผ่าว ตอนนี้ฉันกำลังนอนอยู่ในอ้อมกอดของไทเกอร์ ภาพที่เขาจูบลงบนท้องซ้ำ ๆ ยังวนเวียนอยู่ในหัวทำให้ใจเต้นแรงเวลานึกถึงค่อย ๆ ขยับตัวหันมานอนตะแคงมองใบหน้าหล่อของคนที่กำลังหลับอยู่ ดีใจที่เขากลับมาเป็นรอยยิ้มให้อีกครั้งอย่างที่เคยพูดเอาไว้ ไม่ใช่แค่ไทเกอร์ที่อยากขอบคุณ ฉันเองก็อยากขอบคุณเขาเหมือนกันผ่านไปครู่ใหญ่ไทเกอร์ก็ลืมตาขึ้น สิ่งแรกที่เขาทำคือยิ้มแล้วขยับริมฝีปากมาจูบลงบนหน้าผากของฉันแผ่วเบา ก่อนจะเลื่อนมาหอมแก้มสองข้างและปิดท้ายด้วยการกดจูบลงบนริมฝีปาก“ตื่นนานหรือยัง”“ไม่นาน ก่อนที่นายจะตื่นแป๊บเดียวเอง”“ดีใจ ฉันดีใจมากจริง ๆ” พูดจบเขาก็ดึงให้ฉันเข้าไปอยู่ในอ้อมกอดแน่น แล้วกดจูบลงบนหน้าผากซ้ำ ๆ หลายรอบ“รู้แล้วว่าดีใจแต่อย่ากอดแน่นมากหายใจไม่ออกแล้ว” พอบอกอย่างนั้นแขนแกร่งก็ค่อย ๆ ผ่อนแรงแต่ไม่ได้ปล่อยกอด“ขอบคุณครับ ขอบคุณที่ให้อภัยกัน” ฉันไม่ได้ตอบอะไรหวนคิดถึงเมื่อคืนที่ไทเกอร์ร้องไห้ออกมาหลังพูดคำว่าให้อภัย เขาทำให้รู้สึกได้ว่ารักฉันมากและรอคอยคำนี้มาตลอด พอได้ยินก็เหมือนถูกปลดล็อกทุกอย่าง“ขอบคุณนายเหมือน
เมื่อรู้ว่าใกล้จะหยุดตัวเองไม่ได้ ไทเกอร์เป็นฝ่ายผละออก เขาเอาหน้าผากของตัวเองแตะลงมาบนหน้าผากของฉันแล้วค้างไว้อย่างนั้นเป็นเวลานานถึงเวลาสักที ตอนนี้ฉันเองก็พร้อมจะเริ่มต้นใหม่แล้วเหมือนกัน เสียงจากความรู้สึกมันร้องบอกอย่างนั้น ฉันค่อย ๆ ยกมือขึ้นประคองใบหน้าคมคาย ก่อนจะขยับริมฝีปากมาจูบแผ่วเบาบนปากหยัก เป็นจูบที่ไม่รุกล้ำไปกว่าการเอาปากแตะกันแค่นั้น ทบทวนกับตัวเองอีกครั้งถึงการเริ่มต้นใหม่เพื่อย้ำเตือนว่าครั้งนี้ระหว่างเราสองคนจะไม่มีอะไรผิดพลาดอีก“ให้อภัย… ฉันให้อภัยนาย” หลังที่ต่างเงียบไปนาน ฉันเป็นฝ่ายพูดก่อน ราวกับอีกคนหูดับไปชั่วขณะ ไทเกอร์นิ่งไม่ขยับจนฉันต้องค่อย ๆ ผละใบหน้าออกห่างเพื่อมองว่าตอนนี้เขากำลังทำสีหน้าแบบไหน“… ขอบคุณครับ… ขอบคุณที่ให้อภัย” เสียงทุ้มปนสั่นเครือตอบแผ่วเบา หลังเอ่ยคำนั้นน้ำสีใสก็ไหลอาบแก้มเขาใช่แล้วเขาร้องไห้ร่างหนาสั่นโยนจากแรงสะอื้นทำให้ฉันเริ่มทำตัวไม่ถูก เพราะไม่คิดว่าประโยคสั้น ๆ นั้น จะทำให้ไทเกอร์ร้องไห้หนักขนาดนี้“ฉันรอ ฮึก~ รอคำนั้นมาตลอดเลยจ๋าย”“ฮึก~ ขอบคุณ”“ขอบคุณที่กลับมาเริ่มต้นใหม่กับคนเอาแต่ใจ ฮึก~ อย่างฉัน”“หยุดร้องไห้ก่อนไทเ