เกือบ ๆ สี่เดือนที่ผ่านมา...
ในยามเช้าของต้นสัปดาห์ซึ่งเป็นวันทำงานของใครหลาย ๆ คน เช่นเดียวกันกับม่านทิวาและรณพีร์ สองร่างเปลือยเปล่ายังคงนอนกอดก่ายกันอยู่บนเตียง ไม่มีทีท่าว่าจะตื่นขึ้นมาง่าย ๆ
ใบหน้าสวยหวานกะพริบตาเล็กน้อยเพื่อหลีกหนีแสงสว่างที่สาดส่องผ่านผ้าม่านโปร่งแสงสีเทาเข้ามา ก่อนเอื้อมมือไปคว้าโทรศัพท์มือถือของตนขึ้นมาดูก็ต้องตกใจกับเวลาที่ปรากฏอยู่บนหน้าจอ ร่างเล็กรีบดีดกายออกจากอ้อมแขนแข็งแรงของคนที่นอนกอดทันที คว้าผ้าขนหนูมาพันกายในจังหวะที่จะเดินเข้าห้องน้ำ
"จะรีบตื่นไปไหน" รณพีร์ยกศีรษะขึ้นมาถามคนที่กำลังเร่งรีบเมื่อครู่
"ไปทำงานค่ะ" ร่างเล็กตอบกลับโดยไม่หันมามอง
"เพิ่งเจ็ดโมงครึ่งเอง…จะรีบตื่นทำไม" คนตัวโตยันกายขึ้นนั่งพิงหัวเตียง สองมือรองที่ท้ายทอยถามด้วยท่าทางสบายใจไม่ได้เร่งร้อนใจเหมือนม่านทิวา
"ฉันจะลงไปช่วยป้าเจียมเตรียมอาหารเข้า และฉันก็ไม่อยากไปทำงานสายค่ะ" บอกอย่างเร่งรีบก่อนเดินเข้าห้องน้ำไปจัดการธุระส่วนตัวของตน
รณพีร์ยกยิ้มมุมปากบาง ๆ อย่างเจ้าเล่ห์ ก่อนจะสะบัดผ้าห่มที่คลุมกายออก จากนั้นคว้าผ้าขนหนูสีขาวผืน
“ไม่ใช่ครับ แต่มีเรื่องจะถามนิดหน่อย” ตอบพร้อมกับมองหน้าสวยหวานที่เต็มไปด้วยความสงสัย “บัญชีงบประมาณที่คุณทำอยู่เสร็จหมดหรือยังครับ”“เสร็จเรียบร้อยแล้วค่ะ”“เดือนหน้าคุณม่านไม่ต้องมาทำงานแล้วนะครับ”“ทำไมคะ?” หญิงสาวถามเจ้านายอย่างไม่เข้าใจ ก่อนเหลือบตามองคนที่ยืนอยู่ตรงข้ามอย่างสงสัยว่าน่าจะเป็นตัวต้นเหตุของเรื่องนี้“พอดีสามีคุณทำเรื่องลาออกให้เรียบร้อยแล้วครับ” ม่านทิวาตกใจพอ ๆ กับพนักงานหลายคนที่ได้ยินเรื่องน่าตกใจของเธอในคราวเดียวกันถ้าเดือนหน้าไม่ต้องมาทำงาน เช่นนั้นเธอจะเหลือเวลาทำงานที่บริษัทแห่งนี้เพียงสามวันเท่านั้น…สายตาหวานมองไปรอบ ๆ สายตาพนักงานคนอื่นต่างมองมาที่เธอรณพีร์! นี่เขาเป็นบ้าไปแล้วหรือไงกัน!“ขอบคุณคุณหิรัญมากนะครับที่อนุมัติให้ภรรยาผมลาออกอย่างกะทันหัน” รณพีร์หันไปคุยกับหิรัญโดยไม่สนสายตาขุ่น ๆ ของม่านทิวาเลย“ไม่เป็นไรครับ ผมยินดี” หิรัญตอบรับด้วยน้ำเสียงสุภาพนอบน้อม“ถ้าอย่างนั้นผมขอตัวกลับก่อนนะครับ”ชายหนุ่มผู้เป็นสามีของม่านทิวาขอตัวกลับ เขาเดินผ่านคนตัวเล
เวลาสามทุ่มกว่าของคืนวันเดียวกัน ภายในสถานบันเทิงชื่อดังแห่งหนึ่ง เสียงเพลงจังหวะสนุกสนานผสมผสานเคล้าคลอกับเครื่องดื่มชั้นดีที่ธาริกาจัดมาให้เพื่อน หญิงสาวเลือกโต๊ะที่มีความเป็นส่วนตัวเพราะไม่อยากให้ใครมารบกวน"โต๊ะที่คุณผู้หญิงจองไว้ทางร้านจัดให้เรียบร้อยแล้วครับ" พนักงานชายของร้านบอกด้วยน้ำเสียงสุภาพ"ขอบคุณค่ะ อย่าลืมของที่สั่งไว้นะคะ"ธาริกาย้ำเตือนกับพนักงานแล้วหยิบโทรศัพท์มือถือของตนขึ้นมาถ่ายรูปโต๊ะที่จองไว้ ส่งให้เพื่อนในไลน์กรุปทันทีจะได้ไม่เสียเวลาเดินออกไปรับ ไม่นานนักเสียงข้อความแจ้งเตือนก็ดังขึ้นอัญญ์ : ถึงแล้ว กำลังจะเข้าไปธาริกา : โอเค รีบมาฉันรออยู่อัญญ์ส่งสติกเกอร์ยิ้มแฉ่งแข่งตะวันมาให้ธาริกาธาริกา : แล้วคนอื่นล่ะ? ยัยวีวี่ ยัยปอ ยัยม่านถ้าแกไม่มาฉันจะโกรธจริง ๆ ด้วยม่านทิวาส่งสติกเกอร์การ์ตูนรูปหน้าผู้หญิงหัวเราะชอบใจเป็นการตอบกลับวีรพล : กำลังจะเข้าไปปอแก้ว : กำลังถึงเช่นกันจ้า รอแป๊บน
ธาริกาตอบกลับพร้อมกับทำหน้าล้อเลียนคนที่เพิ่งจะจบการสนทนาเมื่อครู่ด้วยความไม่ชอบใจ ก่อนหันไปหาม่านทิวาและชวนเข้าไปในห้องด้วยกัน เธอไม่ค่อยไว้ใจให้เพื่อนยืนรอหน้าห้องเท่าไร เพราะมีผู้ชายท่าทางไม่น่าไว้ใจเดินวนเวียนอยู่ไม่ห่าง"สวัสดีค่ะคุณนที" น้ำเสียงที่ไม่ค่อยจะพอใจและรู้สึกเจ็บกับสิ่งที่ได้เห็นของเลขานุการสาวนอกเวลางาน…เอ่ยทักเจ้านายทันทีที่มาถึง ทำให้สี่หนุ่มที่นั่งสังสรรค์พร้อมกับสาว ๆ ข้างกายเงยหน้าขึ้นมามองเป็นตาเดียว"สายไปห้านาที" นทีต่อว่าด้วยความเขี้ยว"ฉันก็มีธุระของฉันนี่คะ คุณนทีรีบเซ็นเอกสารเถอะค่ะ ฉันจะได้รีบไป" หญิงสาวย่อตัวลงวางเอกสารให้เจ้านายหนุ่มเซ็นแต่นทีกลับไม่ยอมทำตาม อีกทั้งถามกลับเสียงแข็ง "ไปไหน""ไปไหนไม่สำคัญค่ะ" หญิงสาวตอบเสียงเรียบก่อนหันไปหาม่านทิวาที่สะกิดเรียก"หือ..มีอะไร?""ฉันกลับไปรอที่ห้องนะ" ม่านทิวาบอกกับเพื่อนสาว ทั้ง ๆ ที่สายตาของเธอจ้องมองไปยังร่างสูงของรณพีร์ที่กำลังกอดผู้หญิงแต่งตัวเซ็กซี่ยั่วยวนข้างกายธาริกาพยักหน้าอนุญาตแล้วหันกลับมามองเอกสารสำคัญที่เจ้านายหนุ่มเพิ่งจรดปากกาเซ็นช
ร่างสูงของรณพีร์ยืนเด่นอยู่ที่ริมระเบียงห้องนอน เอวสอบถูกพันหลวม ๆ ด้วยผ้าขนหนูสีขาว กำลังคุยโทรศัพท์กับใครบางคนอยู่ ทว่าสายตาของเขากลับมองร่างเล็กเนื้อตัวหอมหวานและขาวเนียนแทบทุกส่วนที่หลับสบายอยู่บนเตียงนุ่ม อย่างไม่มีทีท่าว่าจะตื่นง่าย ๆ ก่อนหันมาสนทนาอย่างจริงจังกับคนที่อยู่ปลายสาย"อือ! ยังไงจัดการให้ฉันด้วยนะ เรื่องที่สั่งไป""ได้ครับ..."ครู่หนึ่งชายหนุ่มก็กดตัดสายจากลูกน้องคนสนิททันที ก่อนจะค้นหาเบอร์โทรศัพท์มือถือของเจ้านายม่านทิวาเพื่อที่จะลางานให้หญิงสาว เพราะดูจากสถานการณ์แล้วคนตัวเล็กไม่น่าจะตื่นไปทำงานไหว ผลพวงก็มาจากเมื่อคืนที่ทะเลาะกันตั้งแต่กลับจากร้านของจอมพลแล้วจบที่เตียงพลอยทำให้หวนนึกถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมาว่าเขานั้นรุนแรงกับเธอเกินไปหรือไม่ คนตัวสูงเดินมาหยุดอยู่ข้างเตียงฝั่งที่ม่านทิวาหลับอยู่ มองใบหน้าสวยหวานที่กำลังหลับพริ้มราวกับอยู่ในห้วงแห่งความฝันมือหนาค่อย ๆ ไล่ปอยผมที่ปรกใบหน้าทัดเข้ากับใบหูเล็กอย่างเบามือที่สุด…เพราะกลัวว่าจะไปรบกวนการนอนของเธอ บางครั้งรณพีร์ก็เผลออมยิ้มเอ็นดูกับท่าทางปัด
ม่านทิวาออกจากเพนต์เฮาส์สุดหรูหราของรณพีร์ที่มองอย่างผิวเผินแทบจะกลายเป็นบ้านหรูหลังหนึ่งอยู่แล้ว จากนั้นก็แวะเข้าไปยังที่ทำงานของตน แต่ก็ถูกเจ้านายห้ามไว้เพราะสามีของเธอนั้นโทร.มาลาป่วยให้แล้วโดยให้เหตุผลว่า ‘ภรรยาของเขาไม่สบายหนักมาก’ เธอจึงเออออไปตามน้ำ แต่อีกไม่กี่วันเธอก็ไม่ได้มาทำงานที่นี่อีกแล้ว ด้วยความเอาแต่ใจของชายหนุ่มโดยที่ไม่ถามความคิดเห็นของเธอแม้แต่น้อย หญิงสาวลองถามเจ้านายว่าหากเธอจะทำงานที่นี่ต่อขอสมัครงานใหม่จะได้หรือไม่ แต่คำตอบที่ได้กลับมาทำเอาม่านทิวาพูดไม่ออกเพราะว่ารณพีร์มีหุ้นส่วนในบริษัทนี้เช่นกัน หากสมัครเข้าทำงานใหม่หรือรับกลับเข้ามาทำงานคงเกิดปัญหาเป็นแน่ คนตัวเล็กจึงขอตัวไปเก็บข้าวของที่อยู่บนโต๊ะทำงานลงกล่องล่วงหน้าจะได้ไม่เสียเวลาย้อนมาเก็บพรุ่งนี้ข้าวของบนโต๊ะของเธอก็ไม่ได้มีอะไรมากมาย นอกจากอุปกรณ์สำนักงานเล็กน้อยเท่านั้น หลังจากจัดการทุกอย่างเรียบร้อยก็ออกจากออฟฟิศทันที สายตาหวานเหลือบมองนาฬิกาข้อมือเรือนเล็กก็พบว่าเวลานี้จวนจะบ่ายสอง อาหารเช้ายังไม่ตกถึงกระเพาะน้อย ๆ เลย ห้างสรรพสินค้าที่อยู่ไม่ไกลจากที่ทำงานของเธอคือจุดหมาย
"ไม่ค่ะ" เธอตอบเบา ๆ ยังมองหน้าเขาด้วยความประหลาดใจ"ดีเลย" ชายหนุ่มตอบเพียงแค่นั้น ก่อนบอกกับสามคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าด้วยท่าทีสุภาพ "ขอตัวก่อนนะครับ พอดีวันนี้เป็นวันเกิดของภรรยา ผมสั่งของขวัญพิเศษเอาไว้ให้เธอ เราต้องรีบไปรับกันแล้ว" รณพีร์บอกเพียงแค่นั้นก่อนคว้ามือเล็กของม่านทิวาเดินออกมาอย่างรวดเร็ว ทำเอาคนที่ไม่เคยได้อะไรจากรณพีร์แทบกรีดร้องด้วยความอิจฉาริษยา"คุณสองจะไปไหนคะ" ม่านทิวาถามขึ้นเมื่อทั้งเขาและเธอเดินออกห่างจากคนเหล่านั้นมากพอ"ตามมาเถอะน่าไม่ต้องถามมาก"“ฉันไปก็ได้ แต่คุณต้องตอบคำถามฉันก่อน”“อะไร”“ทำไมถึงไม่บอกฉันตรง ๆ ว่าคุณกับวิเคยเป็นแฟนกันมาก่อน โกหกปกปิดทำไม” ม่านทิวารู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก เวลานี้เขาทำให้เธอกลายเป็นผู้หญิงโง่ ๆ คนหนึ่งเลยก็ว่าได้รณพีร์มองหน้าสวยหวานที่กำลังขุ่นมัวเพราะตนพลางถอนหายใจเฮือกใหญ่ ตอบไปด้วยเหตุผลที่คิดว่าดีที่สุดที่จะรักษาม่านทิวาเอาไว้จนกว่าตนจะเป็นฝ่ายชนะ“ก็เพราะว่าฉันไม่ได้สนใจรวิดามากไปกว่าเธอไง เธอเป็นเมียฉันไม่ใช่ผู้หญิงคนนั้น และฉันก็ไม่ได้อาลัยอาวรณ์รว
หญิงสาวส่ายหน้าเป็นคำตอบว่าเธอไม่อยากได้ของพวกนี้ ราคามันแพงเกินไปไม่เหมาะกับคนธรรมดาอย่างเธอ"เลือกเถอะน่า ผัวซื้อของขวัญวันเกิดให้เมียมันน่าแปลกตรงไหน""เอ่อ..." ม่านทิวาอ้ำอึ้งทำตัวไม่ถูกพนักงานจึงรีบเชียร์"คุณผู้หญิงชอบเส้นไหนคะ เส้นนี้เส้นเล็ก ๆ ดูเรียบหรู ส่วนเส้นนี้สวยไฮโซดูแพงมากเลยค่ะ แต่ดิฉันว่าเหมาะกับคุณผู้หญิงทั้งสองเส้นเลยค่ะ""เลือก...อยากได้เส้นไหน" รณพีร์สั่งเสียงนุ่มก่อนก้มลงกระซิบข้างใบหูขาวสะอาดของหญิงสาวเบา ๆ ให้ได้ยินเพียงสองคนเท่านั้น "ถ้าไม่เลือกคืนนี้ไม่ต้องนอนนะ"สิ้นประโยคของเขาทำเอาม่านทิวาตาเบิกโพลงก่อนจะชี้นิ้วไปยังเครื่องเพชรเซตแรกอย่างไม่ลังเล เพราะกลัวว่าคืนนี้เธอจะไม่ได้นอนอีกคืน อีกทั้งดูจากน้ำเสียงของเขาแล้วเกรงว่าจะทำอย่างนั้นจริง ๆ เสียด้วย"เอาเส้นนี้แล้วกันค่ะ"ชายหนุ่มยิ้มขบขันในท่าทางลนลานของหญิงสาว หลังจากนั้นจัดการชำระเงินค่าเครื่องประดับหลายแสนบาทให้ม่านทิวาและพากันออกมาจากร้าน“คุณสองคะ” หญิงสาวเรียกชายหนุ่มเบา ๆ ทำให้ขาแกร่งต้องหยุดก้าวเดินและหันมามองหน้าคนตัวเล็ก
ทันทีที่ถึงบ้านในช่วงบ่ายแก่ ๆ คนในบ้านตกใจไม่น้อยที่สองสามีภรรยาที่ดูท่าจะไม่ลงรอยกันกลับบ้านพร้อมกัน มิหนำซ้ำยังเดินจับมือกันเข้ามาภายในบ้านเสียด้วย"กลับบ้านเร็วจังวะไอ้สอง" รณวีร์ทักทายน้องชายที่เดินเข้าบ้านพร้อมกับม่านทิวา"ประชุมเสร็จก็กลับบ้านสิ...แปลกตรงไหนวะ" คนเป็นน้องย้อนตอบกวน ๆ"ถามมาได้ว่าแปลกตรงไหน มึงแปลกทุกตรงอะ แล้วยิ่งตอนนี้มึงยิ่งแปลกหนักเข้าไปใหญ่" คนเป็นพี่ชายตั้งข้อสงสัยกับคนเป็นน้องพลางเหล่มองร่างเล็กของน้องสะใภ้ที่ยืนอยู่ข้าง ๆ"คุณม่าน วันนี้ไม่ไปทำงานหรือคะ" มธุรินเอ่ยถามม่านทิวาด้วยความสงสัยเพราะวันนี้เป็นวันทำงานของหญิงสาวไม่ใช่หรือ"เอ่อ…ค่ะ พอดีม่านตื่นสายไปหน่อยเลยไม่ได้ไปทำงานน่ะค่ะ" หญิงสาวตอบกลับด้วยน้ำเสียงแหย ๆ ไม่กล้าบอกว่าตัวต้นเหตุคือคนที่ยืนอยู่ทางด้านหลังเธอ"ตื่นสายนั่นคือเหตุผลหนึ่งครับ แต่จริง ๆ มันมีหลายเหตุผลที่ทำให้ตื่นสาย"คำตอบของเขาทำเอาม่านทิวาถลึงตาหน้าบึ้งตึงใส่ทันที คนเป็นพี่ชายเห็นแล้วต้องรีบเดินเข้ามากระซิบข้างหูรณพีร์"เบาได้เบานะเว้ย เมียมึงยิ่งตัวเล็ก ๆ อยู่"คน
นับว่าเป็นวันแรกที่ต้องกลายเป็นคนตกงานไปโดยปริยายของม่านทิวา อันที่จริงวันนี้เธอต้องเข้าไปที่ทำงานเพื่อเอาของใช้ส่วนตัวเล็ก ๆ น้อย ๆ กลับมา แต่อย่างที่รู้ว่ารณพีร์ได้เอาของทุกอย่างออกมาให้เธอตั้งแต่เมื่อวานแล้ว มิหนำซ้ำอดีตเจ้านายยังให้ฝ่ายบุคคลโทร.มาแจ้งเธออีกครั้งว่า ‘เหลือเวลาอีกหนึ่งวันไม่ต้องกลับเข้ามาทำงาน เพราะเป็นคำขอจากรณพีร์’ นี่เขาจะยุ่งเรื่องของเธอมากเกินไปแล้วนะเขายุ่งเรื่องของเธอได้ แต่เธอห้ามยุ่งหรือก้าวก่ายเรื่องของเขาอย่างนั้นน่ะหรือ?คนตัวเล็กที่เพิ่งตกงานไม่รู้ว่าจะทำอะไรดีรีบเดินเข้าครัว หมายจะช่วยเหล่าแม่บ้านจัดเตรียมอาหารเช้าให้ทุกคนในบ้านรับประทาน เพราะเวลานี้เธอนั้นพยายามปรับเวลาให้ตื่นเช้าขึ้นถึงแม้ว่าจะนอนดึกมากก็ตาม"คุณมายด์ ป้าเจียม มีอะไรให้ม่านช่วยไหมคะ" เสียงหวานนุ่มละมุนเหมือนทุกครั้งที่เอ่ยทักถาม แต่ทว่าวันนี้มีความอ่อนเพลียแทรกติดปลายเสียงมาด้วย"ไม่มีเลยค่ะคุณม่าน อีกนิดเดียวก็เสร็จเรียบร้อยแล้ว" แม่บ้านใหญ่เอ่ยบอกทั้ง ๆ ที่มือยังคอยคนหม้อต้มยำ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมามองหน้าเจ้านายสาวที่ท่าทางอ่อนเพลียไม่
ทันทีที่ถึงบ้านในช่วงบ่ายแก่ ๆ คนในบ้านตกใจไม่น้อยที่สองสามีภรรยาที่ดูท่าจะไม่ลงรอยกันกลับบ้านพร้อมกัน มิหนำซ้ำยังเดินจับมือกันเข้ามาภายในบ้านเสียด้วย"กลับบ้านเร็วจังวะไอ้สอง" รณวีร์ทักทายน้องชายที่เดินเข้าบ้านพร้อมกับม่านทิวา"ประชุมเสร็จก็กลับบ้านสิ...แปลกตรงไหนวะ" คนเป็นน้องย้อนตอบกวน ๆ"ถามมาได้ว่าแปลกตรงไหน มึงแปลกทุกตรงอะ แล้วยิ่งตอนนี้มึงยิ่งแปลกหนักเข้าไปใหญ่" คนเป็นพี่ชายตั้งข้อสงสัยกับคนเป็นน้องพลางเหล่มองร่างเล็กของน้องสะใภ้ที่ยืนอยู่ข้าง ๆ"คุณม่าน วันนี้ไม่ไปทำงานหรือคะ" มธุรินเอ่ยถามม่านทิวาด้วยความสงสัยเพราะวันนี้เป็นวันทำงานของหญิงสาวไม่ใช่หรือ"เอ่อ…ค่ะ พอดีม่านตื่นสายไปหน่อยเลยไม่ได้ไปทำงานน่ะค่ะ" หญิงสาวตอบกลับด้วยน้ำเสียงแหย ๆ ไม่กล้าบอกว่าตัวต้นเหตุคือคนที่ยืนอยู่ทางด้านหลังเธอ"ตื่นสายนั่นคือเหตุผลหนึ่งครับ แต่จริง ๆ มันมีหลายเหตุผลที่ทำให้ตื่นสาย"คำตอบของเขาทำเอาม่านทิวาถลึงตาหน้าบึ้งตึงใส่ทันที คนเป็นพี่ชายเห็นแล้วต้องรีบเดินเข้ามากระซิบข้างหูรณพีร์"เบาได้เบานะเว้ย เมียมึงยิ่งตัวเล็ก ๆ อยู่"คน
หญิงสาวส่ายหน้าเป็นคำตอบว่าเธอไม่อยากได้ของพวกนี้ ราคามันแพงเกินไปไม่เหมาะกับคนธรรมดาอย่างเธอ"เลือกเถอะน่า ผัวซื้อของขวัญวันเกิดให้เมียมันน่าแปลกตรงไหน""เอ่อ..." ม่านทิวาอ้ำอึ้งทำตัวไม่ถูกพนักงานจึงรีบเชียร์"คุณผู้หญิงชอบเส้นไหนคะ เส้นนี้เส้นเล็ก ๆ ดูเรียบหรู ส่วนเส้นนี้สวยไฮโซดูแพงมากเลยค่ะ แต่ดิฉันว่าเหมาะกับคุณผู้หญิงทั้งสองเส้นเลยค่ะ""เลือก...อยากได้เส้นไหน" รณพีร์สั่งเสียงนุ่มก่อนก้มลงกระซิบข้างใบหูขาวสะอาดของหญิงสาวเบา ๆ ให้ได้ยินเพียงสองคนเท่านั้น "ถ้าไม่เลือกคืนนี้ไม่ต้องนอนนะ"สิ้นประโยคของเขาทำเอาม่านทิวาตาเบิกโพลงก่อนจะชี้นิ้วไปยังเครื่องเพชรเซตแรกอย่างไม่ลังเล เพราะกลัวว่าคืนนี้เธอจะไม่ได้นอนอีกคืน อีกทั้งดูจากน้ำเสียงของเขาแล้วเกรงว่าจะทำอย่างนั้นจริง ๆ เสียด้วย"เอาเส้นนี้แล้วกันค่ะ"ชายหนุ่มยิ้มขบขันในท่าทางลนลานของหญิงสาว หลังจากนั้นจัดการชำระเงินค่าเครื่องประดับหลายแสนบาทให้ม่านทิวาและพากันออกมาจากร้าน“คุณสองคะ” หญิงสาวเรียกชายหนุ่มเบา ๆ ทำให้ขาแกร่งต้องหยุดก้าวเดินและหันมามองหน้าคนตัวเล็ก
"ไม่ค่ะ" เธอตอบเบา ๆ ยังมองหน้าเขาด้วยความประหลาดใจ"ดีเลย" ชายหนุ่มตอบเพียงแค่นั้น ก่อนบอกกับสามคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าด้วยท่าทีสุภาพ "ขอตัวก่อนนะครับ พอดีวันนี้เป็นวันเกิดของภรรยา ผมสั่งของขวัญพิเศษเอาไว้ให้เธอ เราต้องรีบไปรับกันแล้ว" รณพีร์บอกเพียงแค่นั้นก่อนคว้ามือเล็กของม่านทิวาเดินออกมาอย่างรวดเร็ว ทำเอาคนที่ไม่เคยได้อะไรจากรณพีร์แทบกรีดร้องด้วยความอิจฉาริษยา"คุณสองจะไปไหนคะ" ม่านทิวาถามขึ้นเมื่อทั้งเขาและเธอเดินออกห่างจากคนเหล่านั้นมากพอ"ตามมาเถอะน่าไม่ต้องถามมาก"“ฉันไปก็ได้ แต่คุณต้องตอบคำถามฉันก่อน”“อะไร”“ทำไมถึงไม่บอกฉันตรง ๆ ว่าคุณกับวิเคยเป็นแฟนกันมาก่อน โกหกปกปิดทำไม” ม่านทิวารู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก เวลานี้เขาทำให้เธอกลายเป็นผู้หญิงโง่ ๆ คนหนึ่งเลยก็ว่าได้รณพีร์มองหน้าสวยหวานที่กำลังขุ่นมัวเพราะตนพลางถอนหายใจเฮือกใหญ่ ตอบไปด้วยเหตุผลที่คิดว่าดีที่สุดที่จะรักษาม่านทิวาเอาไว้จนกว่าตนจะเป็นฝ่ายชนะ“ก็เพราะว่าฉันไม่ได้สนใจรวิดามากไปกว่าเธอไง เธอเป็นเมียฉันไม่ใช่ผู้หญิงคนนั้น และฉันก็ไม่ได้อาลัยอาวรณ์รว
ม่านทิวาออกจากเพนต์เฮาส์สุดหรูหราของรณพีร์ที่มองอย่างผิวเผินแทบจะกลายเป็นบ้านหรูหลังหนึ่งอยู่แล้ว จากนั้นก็แวะเข้าไปยังที่ทำงานของตน แต่ก็ถูกเจ้านายห้ามไว้เพราะสามีของเธอนั้นโทร.มาลาป่วยให้แล้วโดยให้เหตุผลว่า ‘ภรรยาของเขาไม่สบายหนักมาก’ เธอจึงเออออไปตามน้ำ แต่อีกไม่กี่วันเธอก็ไม่ได้มาทำงานที่นี่อีกแล้ว ด้วยความเอาแต่ใจของชายหนุ่มโดยที่ไม่ถามความคิดเห็นของเธอแม้แต่น้อย หญิงสาวลองถามเจ้านายว่าหากเธอจะทำงานที่นี่ต่อขอสมัครงานใหม่จะได้หรือไม่ แต่คำตอบที่ได้กลับมาทำเอาม่านทิวาพูดไม่ออกเพราะว่ารณพีร์มีหุ้นส่วนในบริษัทนี้เช่นกัน หากสมัครเข้าทำงานใหม่หรือรับกลับเข้ามาทำงานคงเกิดปัญหาเป็นแน่ คนตัวเล็กจึงขอตัวไปเก็บข้าวของที่อยู่บนโต๊ะทำงานลงกล่องล่วงหน้าจะได้ไม่เสียเวลาย้อนมาเก็บพรุ่งนี้ข้าวของบนโต๊ะของเธอก็ไม่ได้มีอะไรมากมาย นอกจากอุปกรณ์สำนักงานเล็กน้อยเท่านั้น หลังจากจัดการทุกอย่างเรียบร้อยก็ออกจากออฟฟิศทันที สายตาหวานเหลือบมองนาฬิกาข้อมือเรือนเล็กก็พบว่าเวลานี้จวนจะบ่ายสอง อาหารเช้ายังไม่ตกถึงกระเพาะน้อย ๆ เลย ห้างสรรพสินค้าที่อยู่ไม่ไกลจากที่ทำงานของเธอคือจุดหมาย
ร่างสูงของรณพีร์ยืนเด่นอยู่ที่ริมระเบียงห้องนอน เอวสอบถูกพันหลวม ๆ ด้วยผ้าขนหนูสีขาว กำลังคุยโทรศัพท์กับใครบางคนอยู่ ทว่าสายตาของเขากลับมองร่างเล็กเนื้อตัวหอมหวานและขาวเนียนแทบทุกส่วนที่หลับสบายอยู่บนเตียงนุ่ม อย่างไม่มีทีท่าว่าจะตื่นง่าย ๆ ก่อนหันมาสนทนาอย่างจริงจังกับคนที่อยู่ปลายสาย"อือ! ยังไงจัดการให้ฉันด้วยนะ เรื่องที่สั่งไป""ได้ครับ..."ครู่หนึ่งชายหนุ่มก็กดตัดสายจากลูกน้องคนสนิททันที ก่อนจะค้นหาเบอร์โทรศัพท์มือถือของเจ้านายม่านทิวาเพื่อที่จะลางานให้หญิงสาว เพราะดูจากสถานการณ์แล้วคนตัวเล็กไม่น่าจะตื่นไปทำงานไหว ผลพวงก็มาจากเมื่อคืนที่ทะเลาะกันตั้งแต่กลับจากร้านของจอมพลแล้วจบที่เตียงพลอยทำให้หวนนึกถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมาว่าเขานั้นรุนแรงกับเธอเกินไปหรือไม่ คนตัวสูงเดินมาหยุดอยู่ข้างเตียงฝั่งที่ม่านทิวาหลับอยู่ มองใบหน้าสวยหวานที่กำลังหลับพริ้มราวกับอยู่ในห้วงแห่งความฝันมือหนาค่อย ๆ ไล่ปอยผมที่ปรกใบหน้าทัดเข้ากับใบหูเล็กอย่างเบามือที่สุด…เพราะกลัวว่าจะไปรบกวนการนอนของเธอ บางครั้งรณพีร์ก็เผลออมยิ้มเอ็นดูกับท่าทางปัด
ธาริกาตอบกลับพร้อมกับทำหน้าล้อเลียนคนที่เพิ่งจะจบการสนทนาเมื่อครู่ด้วยความไม่ชอบใจ ก่อนหันไปหาม่านทิวาและชวนเข้าไปในห้องด้วยกัน เธอไม่ค่อยไว้ใจให้เพื่อนยืนรอหน้าห้องเท่าไร เพราะมีผู้ชายท่าทางไม่น่าไว้ใจเดินวนเวียนอยู่ไม่ห่าง"สวัสดีค่ะคุณนที" น้ำเสียงที่ไม่ค่อยจะพอใจและรู้สึกเจ็บกับสิ่งที่ได้เห็นของเลขานุการสาวนอกเวลางาน…เอ่ยทักเจ้านายทันทีที่มาถึง ทำให้สี่หนุ่มที่นั่งสังสรรค์พร้อมกับสาว ๆ ข้างกายเงยหน้าขึ้นมามองเป็นตาเดียว"สายไปห้านาที" นทีต่อว่าด้วยความเขี้ยว"ฉันก็มีธุระของฉันนี่คะ คุณนทีรีบเซ็นเอกสารเถอะค่ะ ฉันจะได้รีบไป" หญิงสาวย่อตัวลงวางเอกสารให้เจ้านายหนุ่มเซ็นแต่นทีกลับไม่ยอมทำตาม อีกทั้งถามกลับเสียงแข็ง "ไปไหน""ไปไหนไม่สำคัญค่ะ" หญิงสาวตอบเสียงเรียบก่อนหันไปหาม่านทิวาที่สะกิดเรียก"หือ..มีอะไร?""ฉันกลับไปรอที่ห้องนะ" ม่านทิวาบอกกับเพื่อนสาว ทั้ง ๆ ที่สายตาของเธอจ้องมองไปยังร่างสูงของรณพีร์ที่กำลังกอดผู้หญิงแต่งตัวเซ็กซี่ยั่วยวนข้างกายธาริกาพยักหน้าอนุญาตแล้วหันกลับมามองเอกสารสำคัญที่เจ้านายหนุ่มเพิ่งจรดปากกาเซ็นช
เวลาสามทุ่มกว่าของคืนวันเดียวกัน ภายในสถานบันเทิงชื่อดังแห่งหนึ่ง เสียงเพลงจังหวะสนุกสนานผสมผสานเคล้าคลอกับเครื่องดื่มชั้นดีที่ธาริกาจัดมาให้เพื่อน หญิงสาวเลือกโต๊ะที่มีความเป็นส่วนตัวเพราะไม่อยากให้ใครมารบกวน"โต๊ะที่คุณผู้หญิงจองไว้ทางร้านจัดให้เรียบร้อยแล้วครับ" พนักงานชายของร้านบอกด้วยน้ำเสียงสุภาพ"ขอบคุณค่ะ อย่าลืมของที่สั่งไว้นะคะ"ธาริกาย้ำเตือนกับพนักงานแล้วหยิบโทรศัพท์มือถือของตนขึ้นมาถ่ายรูปโต๊ะที่จองไว้ ส่งให้เพื่อนในไลน์กรุปทันทีจะได้ไม่เสียเวลาเดินออกไปรับ ไม่นานนักเสียงข้อความแจ้งเตือนก็ดังขึ้นอัญญ์ : ถึงแล้ว กำลังจะเข้าไปธาริกา : โอเค รีบมาฉันรออยู่อัญญ์ส่งสติกเกอร์ยิ้มแฉ่งแข่งตะวันมาให้ธาริกาธาริกา : แล้วคนอื่นล่ะ? ยัยวีวี่ ยัยปอ ยัยม่านถ้าแกไม่มาฉันจะโกรธจริง ๆ ด้วยม่านทิวาส่งสติกเกอร์การ์ตูนรูปหน้าผู้หญิงหัวเราะชอบใจเป็นการตอบกลับวีรพล : กำลังจะเข้าไปปอแก้ว : กำลังถึงเช่นกันจ้า รอแป๊บน
“ไม่ใช่ครับ แต่มีเรื่องจะถามนิดหน่อย” ตอบพร้อมกับมองหน้าสวยหวานที่เต็มไปด้วยความสงสัย “บัญชีงบประมาณที่คุณทำอยู่เสร็จหมดหรือยังครับ”“เสร็จเรียบร้อยแล้วค่ะ”“เดือนหน้าคุณม่านไม่ต้องมาทำงานแล้วนะครับ”“ทำไมคะ?” หญิงสาวถามเจ้านายอย่างไม่เข้าใจ ก่อนเหลือบตามองคนที่ยืนอยู่ตรงข้ามอย่างสงสัยว่าน่าจะเป็นตัวต้นเหตุของเรื่องนี้“พอดีสามีคุณทำเรื่องลาออกให้เรียบร้อยแล้วครับ” ม่านทิวาตกใจพอ ๆ กับพนักงานหลายคนที่ได้ยินเรื่องน่าตกใจของเธอในคราวเดียวกันถ้าเดือนหน้าไม่ต้องมาทำงาน เช่นนั้นเธอจะเหลือเวลาทำงานที่บริษัทแห่งนี้เพียงสามวันเท่านั้น…สายตาหวานมองไปรอบ ๆ สายตาพนักงานคนอื่นต่างมองมาที่เธอรณพีร์! นี่เขาเป็นบ้าไปแล้วหรือไงกัน!“ขอบคุณคุณหิรัญมากนะครับที่อนุมัติให้ภรรยาผมลาออกอย่างกะทันหัน” รณพีร์หันไปคุยกับหิรัญโดยไม่สนสายตาขุ่น ๆ ของม่านทิวาเลย“ไม่เป็นไรครับ ผมยินดี” หิรัญตอบรับด้วยน้ำเสียงสุภาพนอบน้อม“ถ้าอย่างนั้นผมขอตัวกลับก่อนนะครับ”ชายหนุ่มผู้เป็นสามีของม่านทิวาขอตัวกลับ เขาเดินผ่านคนตัวเล