สิปรางและเปี๊ยกมองหน้ากันด้วยสีหน้าสงสัยงุนงงเพราะที่ทำงานของพิพิมตอนนี้ก็ไม่ได้ไกลจากบ้านเท่าไหร่ เธอไม่เคยแยกจากลูกเลยสักครั้งและอีกอย่างพิพิมควรจะจดจ่อกับการเรียนมากกว่าการทำงาน
เพราะยังไงการเรียนก็สำคัญที่สุด การออกไปอยู่เองมีทั้งค่าใช้จ่ายและดูเหมือนลูกจะทุ่มเทให้กับงานมากตั้งแต่เกิดเรื่อง
“แต่บ้านเราอยู่แค่นี้เองนะพิมไปกลับเหมือนเดิมก็ได้นี่ลูก อีกอย่างแม่ไม่อยากให้พิมต้องทำงานเพิ่มมากจนเกินไป อีกปีเดียวพิมก็จะจบแล้วมันจะไม่หนักเกินไปเหรอลูก ไหนจะค่าใช้จ่ายอีก”
แววตาของสิปรางบ่งบอกความกังวลและความเป็นห่วงสิ่งที่เธอทำได้ก็มีแต่เบือนหน้าหนีคนเป็นแม่ทำทีเหมือนกับช่วยเตรียมของและบอกเหตุผลออกไปข้างๆ คูๆ เธอไม่อยากโกหกคนเป็นแม่และลุงเปี๊ยกเลย
หากทั้งคู่รู้ความจริงคงจะโกรธเธอแน่แต่ตอนนี้เธอจะเลือกอะไรได้ล่ะ ยังไงเสียมันก็เป็นข้อตกลงที่เธอคุยกับเขาจบไปแล้วอีกอย่างเขาก็เป็นเตัวเลือกเจ้าหนี้ที่ดีที่สุดตอนนี้
“หอพักอยู่ใกล้มหาลัยจ้ะแม่ถ้าเลิกช้าหนูก็ยังมีเวลาพักก่อนจะเข้าเรียน แล้วก็เป็นสวัสดิการของทางร้านแม่ไม่ต้องกังวลเ
ภายในคอนโดตกแต่งอย่างหรูหราแต่ก็ให้ความรู้สึกเงียบเหงาอย่างบอกไม่ถูกเธอคุ้นเคยกับห้องนั่งเล่นและห้องของเจ้าของแต่ไม่เคยได้มีโอกาสดูห้องอื่นๆเลยพิพิมใช้โอกาสนี้เดินสำรวจแต่ละห้องยกเว้นห้องที่เธอคุ้นเคยในที่สุดเธอก็ตัดสินใจเลือกห้องชั้นสองที่ไกลจากห้องของเขามากที่สุด เพราะเธอเองก็ไม่อยากจะไปรบกวนเขาและเผื่อเขาและเพื่อนๆ ของเขาพาสาวมาเธอจะได้ไม่เกะกะพวกเขามากนักกว่าจะเก็บเสื้อผ้าข้าวของเข้าที่เข้าทางก็เป็นช่วงหัวค่ำพอดีท้องเริ่มร้องเพราะนอกจากแซนด์วิชเมื่อบ่ายก็ยังไม่ได้ทานอะไรเพิ่มเลย พิพิมอาบน้ำเพื่อให้ตัวเองสดชื่นขึ้นก่อนจะเดินลงมาด้านล่างเธอจำได้ว่าคุณป้าแม่บ้านเอาของสดมาเติมที่ตู้เย็นเมื่อช่วงเช้า เธอเดินลงบันไดมาอย่างอารมณ์ดีเมื่อกินถึงผลไม้เรียวขาสวยชะงักเมื่อเห็นเจ้าของบ้านกลับมาแล้วเธอไม่คิดว่าเขาจะกลับมาเร็วอย่างนี้สายตาคมหันไปมองคนตัวเล็กที่ฮัมเพลงเดินลงบันไดมาอย่างสบายใจรอยยิ้มจางๆ ปรากฏขึ้นเพียงครู่ก่อนจะเรียกเธอให้มานั่งที่โต๊ะอาหาร พิพิมเดินไปที่ดต๊ะอาหารอย่างเงียบเชียบ“คุณเชนกลับมาเมื่อไหร่คะ หนูไม่ได้ยินเลย&rd
3 ชั่วโมงก่อนหน้าผัวะ!!ตุ๊บ!!“กลับไปบอกนายมิง ว่าอย่ามายุ่งกับคนของกูอีก”ปลายรองเท้าหนังสีดำมันขลับราคาแพงเปรอะเปื้อนไปด้วยเลือดที่กระเซ็นมาโดนไม่ต่างกับหมัดของเขาที่ชุ่มไปด้วยเลือดของร่างที่ถูกมัดไว้บนเก้าอี้เหล็กทั้งสองคนใบหน้าที่บวมปูดจนออกสีช้ำเลือดช้ำหนองจนแทบไม่เหลือเค้าโครงเดิมเลือดจากคิ้วที่แตกไหลอาบตั้งแต่หางคิ้วไหลผ่านดวงตาที่แดงก่ำไปด้วยสีเลือดสดๆ ร่างของชายสองคนสั่นเทิ้มด้วยความกลัวริมฝีปากที่สั่นเทาเสียงความเจ็บปวดเหงื่อที่ไหลปะปนกับเลือดผงกหัวอย่างกลัวตายเสียงที่พยายามเปล่งออกจากลำคอตอนนี้แทบจะไม่สามารถเปล่งเสียงออกมาได้ภายในลำคอแห้งผากด้วยการขาดน้ำและเสียเหงื่ออย่างมาก“เหตุผลที่พวกมิงยังไม่ตายเพราะมีหน้าที่ส่งข้อความ ถ้าข้อความของกูไปไม่ถึงไอเหี้ยนั่นหรือมันยังไม่เข้าใจพวกมิงก็ไม่รอด”มือหนาจิกกลุ่มผมเปียกชื้นขึ้นมาจ้องตาที่บวมและแทบจะปิดอยู่รอมล่อนัยย์ตาคมจ้องมองมันอย่างเหยียดหยามด้วยความโกรธเคืองที่พวกมันบังอาจมาป้วนเปี้ยนวุ่นวายกับคนของเขาทั้งๆ ที่เอาเงินไปแล้ว เขารู้ดีว่าส
เธอสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อความเย็นของหินอ่อนบนเคาน์เตอร์ครัวแผ่กระจายไปทั่วผิวสะโพกเนียนสวยตอนนี้กางเกงขาสั้นตัวเก่งถูกรั้งลงต่ำกว่าที่ควรจะเป็นมือเรียวโอบรอบต้นคอแกร่งอย่างเผลอกายเผลอใจ ใจของเธอเต้นสั่นระริกไม่รู้ว่าเธอกำลังหวั่นไหวกับคนตรงหน้าหรือตกอยู่ในสภาวะจำยอมกันแน่เธอบอกไม่ถูกว่าเธอชอบความรู้สึกตอนนี้รึเปล่าทุกสัมผัสของเขาทำให้เธอรู้สึกอ่อนยวบเมื่ออยู่ในอ้อมแขนของเขา ถึงในใจจะรู้ว่านี่เป็นเพียงการแลกเปลี่ยนของเจ้าหนี้กับลูกหนี้ก็ตามตอนนี้เธออยากตักตวงความรู้สึกนี้อย่างคนโลภมากไปสักพักบรรยากาศชวนเคลิบเคล้มสายตาคมจดจ้องเข้าไปในดวงตาใสอย่างอบอุ่นและอ่อนโยนกว่าทุกครั้งหากแต่การกระทำกลับย้อนแย้งมือหนาแหวกเนื้ออ่อนเผยให้เห็นกลีบสีชมพูอ่อนเรียวนิ้วบดบี้ติ่งเกสรภายใต้นเนินกลีบอูมอย่างเร่งเร้าน้ำหวานใสเริ่มเยิ้มเป็นสายจากร่องรักนิ้วหนายังคงบี้คลึงอย่างเร่าร้อน เธอหลับตาพริ้มรับความสาดเสียวเสียงเต้นของหัวใจดังจนคนด้านบนได้ยินมันอย่างชัดเจน“อ๊ะ อ๊าา"เขายิ้มอย่างพอใจใบหน้าอันหล่อเหลาของเขาจดจ้องไปที่เธออย่างไม่อาจละสายตาเขาอุตส่าห์อดทนอดกลั้นมาหลายวันหลายคืนเพราะมีเรื่องให้จัดการมากมาย แต
“ถอดเสื้อออกให้หน่อย”“คะ? ค่ะ”เธอมองหน้าเขาด้วยความสงสัยที่เขาให้เธอถอดเสื้อเชิ้ตนิ้วเรียวปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตออกทีละเม็ดอย่างใจเย็นแต่ละเม็ดมือของเธอเริ่มสั่นเล็กน้อยด้วยความตื่นเต้น แค่ถอดกระดุมเสื้อแค่นี้ทำไมต้องใจเต้นด้วยวะพิพิมเธอย้ำกับตัวเองแต่หัวใจนี่สิดันเต้นแรงขึ้นเรื่อยๆ ราวกับกำลังจะเห็นของดียังไงยังงั้นอึก!เสียงกลืนน้ำลายแม้จะเป็นเพียงเสียงเบาๆ แต่ภายในห้องที่เงียบสงบที่มีเพียงเธอและเขานั่งอยู่บนตัวกันและกันอย่างแนบแน่นขนาดนี้แน่นอนว่าเขาได้ยินทุกอย่าง กระดุมเม็ดสุดท้ายที่ถูกปลดออกเผยให้เห็นแผงอกแกร่งเปลือยเปล่าซิกแพคแกร่งมือเรียวเผลอลูบด้วยจิตใต้สำนึกในใจ จนคนถูกกระทำหลุดขำออกมา“ฉันน่ากินขนาดนั้นเลยเหรอ”เขาโน้มศรีษะลงมาเสียงกระซิบข้างหูของเธอสติสตังถูกคนตรงหน้ากระชากกลับมาอย่างรวดเร็วเธออยากจะหนีไปจากตรงนี้แต่สิ่งที่อยู่ในตัวเธอใต้หว่างขาทำให้เธอไปไหนไม่ได้ เธออยากรู้ว่าเขากินไวอากร้ามาหรือไงกันถึงได้แข็งได้แข็งดีไม่มีแผ่วขนาดนี้“เธอนี่ก็หื่นใช่เล่นนะพิพิม”“หนูเนี่ยนะหื่น คุณน่ะสิหื่นของของคุณยังคาอยู่ในตัวหนูแบบนี้”“ฉันก็ไม่ได้ติดกาวไว้นี่คงเป็นเธอมากกว่าที่ติดใจ
@ มหาวิทยาลัย“จอดตรงนี้ก็ได้ค่ะ เดี๋ยวหนูเดินเข้าไปเองค่ะคุณเชนจอดหน้ามหาลัยก็ได้ค่ะ ขอบคุณนะคะที่มาส่ง”“ทำไมกลัวใครมาเห็นรึไง”พูดไม่ทันขาดคำเขาก็เลี้ยวรถเขาไปในมหาวิทยาลัยโดยไม่สนใจคำพูดเธอพิพิมรีบบอกให้เชนจอดรถก่อนถึงคณะเพราะเธอไม่อยากให้เพื่อนๆ หรือคนรู้จักผ่านมาเห็นเธอไม่อยากอธิบายความสัมพันธ์ของเขากับเธอให้คนอื่นรับรู้รถสปอร์ตคันหรูจอดที่ด้านหน้าคณะการโรงแรมคนขับเผยรอยยิ้มอย่างชอบใจนักศึกษาที่อยู่บริเวณนั้นต่างมองมาที่รถเพราะไม่บ่อยนักที่จะมีรถหรูขนาดนี้เข้ามาจอดพิพิมหันมามองค้อนคนมาส่งอีกคนส่งยิ้มยียวนกลับให้เธออย่างไม่สะทกสะท้าน คำพูดเธอคงไม่มีความหมายอะไรงั้นสินะเธอเปิดประตูรถลงอย่าเร่งรีบมืออีกข้างคว้าสมุดในกระเป๋ามาทำทีบังแดดเขินๆ เธอกึ่งวิ่งกึ่งเดินไปยังใต้ตึกของคณะทันที“มาแล้วเหรอพิมฉันถ่ายชีทสรุปมาให้รีบอ่านเลยเดี๋ยวบ่ายนี้มีสอบย่อย”“ขอบใจนะฟ้า”ชีทสรุปที่ยืนมาจากเจ้าของแววตาหวานฉ่ำปลายฟ้าเพื่อนซี้ปึกของพิพิมที่คณะเธอรับชีทมาอย่างดีใจเพราะช่วงนี้เธอแทบไม่ได้เข้าคลาสเลยโชคดีปลายฟ้าเตรียมชีทสรุปมาให้เธอ“ทำหน้าหยั่งกับวิ่งหนีอะไรมางั้นแหละพิม”“หนีอะไรกันเล่า เปล่าสัก
เมื่อได้ในสิ่งที่ต้องการเสี่ยกู้กับลูกน้องก็ออกจากร้านไปพิพิมถอนหายใจด้วยความโล่งใจน้ำสีใสในตาเริ่มซึมคลอจากดวงตาภาพเบื้องหน้าดูเลือนลางด้วยหยาดน้ำตาที่กำลังกลั่นตัวไหลผ่านแก้มนวลเธอหันไปมองเพื่อนรักอย่างปลายฟ้าที่นั่งตัวสั่นอยู่ข้างๆพิพิมจับมือปลายฟ้าที่ยังสั่นอยู่แน่นเธอรู้สึกผิดที่ทำให้เพื่อนรักต้องมาเจอกับเหตุการณ์แบบนี้คำถามเกิดขึ้นในหัวของปลายฟ้ามากมายถึงตอนนี้เธอจะยังตกใจอยู่มากแต่ปลายฟ้าก็คิดว่าพิพิมต้องเจอกับอะไรแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่เธอรวบรวมสติที่ยังหลงเหลืออยู่และถามพิพิม“นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นอ่ะพิม มันเป็นใครพิมบอกเรามาตามตรงได้ไหม”“เราออกจากที่นี่กันก่อนดีไหมฟ้า พิมกลัวมันจะกลับมาอีก”“งั้นพิมไปห้องเราก่อนได้ไหม”พิพิมพยักหน้าเห็นด้วยกับเพื่อนตอนนี้เธออยากออหไปจากที่นี่มากกว่าอะไรทั้งหมดและการกลับไปที่คอนโดเชนตอนนี้ก็ยังไม่ใช่ทางเลือกที่ดีเธอไม่รู้เลยว่าเสี่ยกู้ตามเธอมาถึงที่นี่ได้ยังไงเท่าที่พอจำได้เธอแทบไม่เห็นคนของเชนด้วยซ้ำตั้งแต่ส่งข้อความไปขออนุญาตจากเขาระหว่างทางไปหอของปลายฟ้าทั้งคู่ต่างใช้ความคิดบนรถแท็กซี่มีเพียงเสียงวิทยุที่คนขับเปิดคลอเพื่อรับข่าวสารเธอ
เค้กในจานถูกแบ่งเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยวางไว้บนส่วนต่างๆ ของร่างกายเปลือยเปล่าของเธอเพียงเพราะเธอเลือกให้เขากินเองเธอไม่ได้คิดเลยว่ามันจะหมายถึงแบบนี้นี่คือการทำโทษที่บ้าที่สุดที่เธอเคยเห็นมาเลย เค้กที่เธอตั้งใจซื้อมาให้เขาลองชิมตอนนี้มันกลับทำให้เธอกลายเป็นส่วนหนึ่งในการกินของหวานที่แปลกที่สุด“อยู่นิ่งๆ เดี๋ยวเค้กหล่น แล้วถ้าหากว่าหล่นขึ้นมาสักชิ้นเธอต้องมานอนที่ห้องฉันทั้งเดือน”“แอร์มันหนาวไปหน่อยน่ะค่ะ”“หึ! เดี๋ยวก็ร้อน”ใครจะไปคิดว่าคนเจ้าเล่ห์อย่างเขาวางตามจุดอ่อนไหวของเธอได้อย่างเหมาะเจาะราวกับวางแผนไว้ล่วงหน้าผิวเนื้อขาวเนียนไร้สิ่งปกปิดกลายเป็นจานชั้นดีเขาวางเค้กชิ้นสุดท้ายไว้บนริมฝีปากของเธอแม้เธออยากจะเปิดปากเถียงให้ตายยังไงก็ทำได้แค่นิ่งเงียบเพราะถ้าเค้กตกขึ้นมาเธอคงต้องไปนอนห้องเดียวกับเขาทั้งเดือนความส่วนตัวที่ตั้งใจเลือกห้องที่ไกลที่สุดตั้งแต่แรกคงเปล่าประโยชน์ปลายลิ้นสากเริ่มเลียริมฝีปากบางที่กำลังสั่นเครือเล็กน้อยด้วยความหนาวของเครื่องปรับอากาศที่เย็นฉ่ำดูเหมือนเค้กชิ้นแรกที่อยู่่บนริมฝีปากบางกำลังจะถูกกินแต่แล้วเขาก็นึกสนุกเลื่อนใบหน้าต่ำลงกินเค้กชิ้นที่อยู่ตรงเนินอ
“หนูกลับมาแล้ว”“พิมม มานั่งนี่สิลูกกินข้าวมารึยัง”“กินแล้วจ้ะ ทำอะไรกันอยู่จ๊ะ”“พอดีเลยแม่กำลังจะเตรียมของไปทำบุญที่วัดพรุ่งนี้ว่าแต่พรุ่งนี้ลูกไปทำงานหรือไปเรียนรึเปล่า”“ไม่มีจ้ะ พิมขอไปด้วยคน”พิพิมนั่งช่วยลุงเปี๊ยกกับแม่เตรียมของแห้งในกระป๋องสังฆทานเพื่อเอาไปถวายพระวันพรุ่งนี้บ้านเธอมักจะชอบเตรียมของเองเพราะนอกจากเลือกของที่จะถวายได้อย่างอิสระมีคุณภาพดีตามที่ต้องการและยังประหยัดงบประมาณที่ต้องการได้อีกด้วยเมื่อช่วยเตรียมของเสร็จแล้วพิพิมขึ้นไปบนห้องเพื่อสำรวจของใช้ที่ยังไม่ได้เอาไปบางส่วนเธอแอบมองไปที่นอกหน้าต่างอย่างเคยไม่เจอลูกน้องของเสี่ยกู้แล้วคงจะหยุดมาแล้วหลังจากที่เธอย้ายไปอยู่ที่คอนโดของเชน แต่คำพูดของเสี่ยกู้ยังทำให้เธอรู้สึกกังวลอยู่ไม่น้อย ตลอดทั้งช่วงเย็นพิพิมลงมาข้างล่างช่วยแม่หน้าร้านแต่ก็ไม่ได้มีอะไรผิดปกติเลย“อ่าวไม้มาพอดี”“สวัสดีครับป้าปราง สวัสดีครับลุงเปี๊ยก ไม่เจอหน้าตั้งหลายวันเลยนะน้องพิม”“พี่ไม้มาทำอะไรคะเนี่ย”“พี่เอาขนมที่จะไปวัดพรุ่งนี้มาส่ง”ขนมไทยหลายอย่างใส่ปิ่นโตมาอย่างดีพิพิมรับปิ่นโตมาอย่างระมัดระวังเธอค่อยๆ เปิดดูทีละชั้นขนมไทยของบ้านพี่ไม้เ
ได้เวลาบ่ายคล้อยเชนออกมาตามนัดที่ได้นัดกับเบลไว้ที่ร้านอาหารญี่ปุ่นเบลรอเข้าอยู่ในห้องส่วนตัวเชนสั่งให้ริวออกไปรอเขาด้านนอก“มาแล้วเหรอคะเชนเบลสั่งของโปรดเชนไว้เต็มเลย”“เบลมานานแล้วเหรอ”“สักพักนี้เองค่ะแต่เบลสั่งอาหารล่วงหน้าไว้”เชนมองดูอาหารเต็มโต๊ะส่วนใหญ่เป็นของโปรดของเขาตามที่เธอว่าจริงๆ เขาเดินไปนั่งฝั่งตรงข้ามกับเธอและเริ่มกินอาหาร เขาดูออกว่าเบลดูกระตือรือร้นกับมื้ออาหารนี้เป็นอย่างมากเมื่อทานอาหารไปได้กว่าครึ่งเขาตัดสินใจจะพูดกับเธอ“เบลเชนมีเรื่องต้องคุยกับเบล”เบลเงียบและวางตะเกียบลงก่อนจะมองหน้าคนรักเก่าด้วยรอยยิ้มเปื้อนน้ำตา ไม่ใช่ว่าตลอดเวลาเธอไม่รู้เรื่องของเชนเพราะเธอเองก็ต้องการจะรู้ข่าวคราวของเชนตลอดเวลาว่าเขาทำอะไรบ้าง“เรื่องของเรามันจบไปแล้วเบล”“แค่กินแล้วจ่ายไปไม่ได้เหรอคะเชนที่ผ่านมาคุณทำแบบนั้นตลอดนี่”“เชนขอโทษนะเบลแต่เชนกลับไปไม่ได้แล้ว”“ถึงแม้ว่าเบลจะไม่เหลือใครเหรอคะเชนจะทิ้งเบลไปอีกคนเหรอ”“ทำไมตอนนั้นเบลไม่เลือกเชนล่ะ ทำไมถึงหายไปเฉยๆ”“…”เขามองเข้าไปนัยย์ตาของเธอคำถามที่ติดอยู่ในใจของเขามาตลอดตั้งแต่เลิกกันคำถามที่ทำให้เขาครุ่นคิดคืนแล้วคืนเล่ามาวัน
พิพิมลืมตาตื่นขึ้นมารู้สึกแขนถึงหนักที่กำลังกอดเธออยู่เนื้อตัวของเขาและเธอเปลือยเปล่าเขากระชับกอดเธออย่างแนบแน่นกลิ่นของแอลกอฮอล์โชยออกมาจากคนข้างตัวเธอทำได้เพียงนอนนิ่งๆ เพื่อไม่ให้อีกคนตื่นจากการพักผ่อนไม่นานนักอีกคนก็ลืมตาจ้องมองเธอด้วยสายตาเรียบนิ่ง“วันนี้ฉันจะไปเจอเบล”มือหนายังคงโอบกอดร่างบางในขณะที่บอกเธอไปตามตรงร่างบางอึ้งกับสิ่งที่ได้ยินถึงในใจเธอจะไม่อยากให้เขาไปเจอกับเบลอีกเลยแม้แต่น้อยแต่เธอจะพูดอะไรได้ มือหนาจับคนตัวเล็กมานอนบนตัวราวกับอ่านความคิดของเธอได้“ทำไมทำหน้าอย่างนั้นล่ะอย่าบอกนะว่าเธอหึงฉัน”“หนูพูดได้จริงเหรอคะ”“มันไม่มีอะไรที่เธอคิดหรอกพิพิมแล้วต่อไปหึงก็บอกว่าหึงสิเธอมีสิทธิ์ในตัวฉันเต็มที่ไม่รู้เหรอ”พิพิมเบือนหน้าหนีสายตาคมที่กำลังหยอกเย้าเธออย่างคาดคั้นใบหน้าแดงระเรื่อเธอเองไม่เคยรู้เลยว่ามีสิทธิ์ในตัวเขาอย่างนั้นเธอเจียมตัวเองมาตลอดสิ่งที่ได้ยินทำให้ใจดวงน้อยๆ ของเธอผลิบาน“ใช่ค่ะหนูหึงแล้วก็หวงคุณมากหนูไม่อยากให้คุณไปเจอกับแฟนเก่าแต่ถ้าจำเป็นต้องไปก็ไปเถอะค่ะหนูเชื่อใจคุณ”มือเรียวเล็กกุมมือหนาเธอก้มหน้ามองมือเขาเธอไม่กล้าสบตาเขาตรงๆ เพราะความขัดเขินร่
“ยะ หยุดก่อนค่ะ”มือเรียวเล็กดันอกแกร่งออกจากตัวเธออย่างแรงทีเห็นรอยแดงบนตัวเธอเขายังหายไปเป็นเดือนๆ แล้วนี่จะให้เธอยอมใช้ผู้ชายคนเดียวกับคนอื่นเนี่ยนะเมื่อคืนเขาเข้าไปในห้องกับผู้หญิงคนนั้นเธอเองก็เห็นเต็มสองตาดูจากที่มาด้วยกันก็คงจะอยู่ด้วยกันทั้งคืนถ้าเธอยอมเขาเธอคงได้รับสถานะเมียเก็บจริงๆ ก็วันนี้แหละ“เธอจะมาเล่นตัวอะไรตอนนี้”“เมื่อคืนคุณกับ...”ริมฝีบางหนาประกบจูบหนักๆ ลงบนริมฝีปากบางรสสัมผัสหวานหอมอย่างที่เขาต้องการทำให้เขารุกล้ำเข้าไปมากกว่าเดิมซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนอีกคนแทบหายใจไม่ออก“คืนนั้นมันไม่มีอะไรเกิดขึ้นทั้งนั้นฉันไปนอนบนห้องเธอ”เมื่อได้ยินแบบนั้นมือเรียวโอบกอดคอของอีกคนดึงมาจูบอย่างดูดดื่มเธอรู้สึกโล่งใจที่ได้ยินแบบนั้นที่จริงแล้วเธอเองก็คิดถึงเขามากเช่นกันเธออยากบอกเขาว่าเธอคิดถึงเขามากแค่ไหน“ต่างกับเธอนะที่กล้าทำเรื่องแบบนั้นลับหลังฉัน”“ถ้าหนูบอกความจริงคุณจะเชื่อหนูเหรอคะ”“ก็ลองพูดมา”เมื่อคนตัวเล็กยอมเปิดปากพูดความจริงเขาก็จะลองฟังดูว่าจริงๆ แล้วเธอกล้านอกใจเขาจริงๆ หรือเปล่า มือหนาโอบกอดร่างบางอย่างถนุถนอมเขาคิดถึงสัมผัสของเธอมาตลอดถึงเขาไม่อยากจะเชื่อว่าเธอหัก
@ผับเสี่ยกู้“มันไม่กลับไปที่คอนโดเป็นเดือนแล้วครับเสี่ย”“แสดงว่าเป็นไปตามแผนของกู”“แต่ว่า”“แต่เหี้ยไรรีบๆ พูด”“เมื่อกี้คนของเราบอกว่าไอเชนกลับไปคอนโดมันครับแต่ว่าไปกับคุณเบลครับแล้วเด็กนั่นไอริวไปส่งที่หอเพื่อนครับ”“อย่าบอกนะมันคบชู้กันตกต่ำถึงขั้นเป็นชู้เมียชาวบ้านแล้วเหรอวะ ฮ่าๆ”“ดูเหมือนคุณเบลจะหย่าแล้วนะครับเสี่ย”“งั้นอีเด็กนี่ก็ไม่มีประโยชน์แล้วสิ น่าเสียดายสวยออกขนาดนั้นแถมยังไม่ปากโป้ง”“ให้ตามต่อไหมครับเสี่ย”“ไม่ต้อง”“ตื่นได้แล้วพิมจะเข้าคลาสสายแล้ว”เสียงปลุกของปลายฟ้าที่ดูเร่งรีบปลุกให้เธอตื่นพิพิมรับผ้าขนหนูที่เพื่อนโยนใส่มือด้วยสัญชาตญาณถึงแม้ว่าจะเพิ่งตื่นก็ตามเมื่อเธอหยีตาดูเวลาบนฝาผนังในห้องบอกเวลาอีกยี่สิบนาทีสิบเอ็ดโมง เป็นเวลาที่คลาสกำลังจะเริ่มเธอรีบกระวีกระวาดลงจากเตียงวิ่งเข้าห้องน้ำต่อจากปลายฟ้าทันทีไม่ถึงห้านาทีทั้งปลายฟ้าและพิพิมก็พร้อมออกจากห้องวิ่งไปมหาวิทยาลัยที่อยู่ไม่ไกลนักชนิดที่เรียกว่าใส่เกียร์หมาเสียงหายใจกระหืดหระหอบของทั้งคู่มาหยุดอยู่หน้าประตูห้องเรียนก่อนจะเข้าไปด้วยความโล่งใจ“เกือบไม่ทันแล้วเชียวดีนะที่อาจารย์มาสาย”ทั้งคู่เข้าคลาสแบบเ
ในใจของเธอตอนนี้มันเต้นระส่ำความรู้สึกจุกอกอย่างบอกไม่ถูกทำเอาเธอถอยหลังชนเข้ากับตู้เหล้าด้านหลังเล็กน้อย ดาด้าที่หันมาเห็นก็สั่งให้เธอออกไปจากบาร์ก่อนใจจริงเธออยากจะอยู่ฟังต่ออีกสักนิดว่าผู้หญิงคนนั้นตามหาคุณเชนทำไมหรือจะเป็นคนสำคัญของคุณเชนท่าทางของดาด้าที่พูดคุยกับอีกฝ่ายดูราวกับว่าเคยสนิทกันมาก่อนจากสรรพนามที่เธอใช้เรียกดาด้าพูดคุยกันได้ไม่กี่ประโยคผู้หญิงคนนั้นก็กลับไปสีหน้าของดาด้าดูขุ่นมัวและอารมณ์ไม่ดีเหลังจากดาด้าเดินออกจากบาร์ไปพิพิมก็กลับเข้ามายืนที่บาร์ตามเดิม@หนึ่งสัปดาห์ก่อนหน้าระหว่างที่เชนกำลังเลื่อนดูข่าวของวงการธุรกิจข่าวด่วนจากการเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุของของสองสามีภรรยาที่สะเทือนวงการธุรกิจอสังหาใหญ่ขึ้นมาแทรกพ่อแม่ของเบลเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ระหว่างเดินทางกลับจากบ้านพักตากอากาศตามมาด้วยข่าวการหย่าร้างของเบลและเจ้าสัวแบบสายฟ้าแลบเชนดูมือถือที่มีข้อความจากพิพิมเขาแค่ยังไม่พร้อมจะคุยกับเธอตอนนี้เขาตัดสินใจส่งข้อคววามหาคนรักเก่าอย่างเบลเพื่อแสดงความเสียใจเรื่องพ่อแม่ของเธอ ถึงแม้ว่าตอนที่คบกันพวกท่านจะกีดกันทั้งคู่อยู่บ้างแต่อย่างไรเสียก็ถือว่าเป็นคนเคยร
แรงเหวี่ยงอย่างแรงทำให้ร่างบางล้มลงบนเตียงโดยมีอีกคนกำลังคร่อมอยู่บนตัวเธอชายเสื้อกล้ามสีขาวกำลังจะถูกเลิ่กขึ้นแต่มือเรียวดึงชายเสื้อไว้ยิ่งทำให้ความสงสัยที่เขามีมันพลุ่งพล่านจนอารมณ์เสียเข้าไปใหญ่เขาได้แต่ขอให้สิ่งที่เขาคิดมันผิด มือหนาล็อกมือของเธอขึ้นเหนือศีรษะออกแรงดึงเสื้อกล้ามออกจนขาดวิ่นรอยแดงบนเนินอกสองสามรอยปรากฏขึ้นต่อหน้าเขามันทำให้เขาจุกอกกับสิ่งที่เห็นเธอได้ทำลายความเชื่อใจของเขาลงในพริบตา“คะ คุณเชนฟังหนูก่อนนะคะ”พิพิมคว้าชายเสื้อของเขาแต่กลับถูกอีกคนที่ตอนนี้อารมณ์เสียจนหูดับเขาไม่อยากจะมองหน้าอีกฝ่ายเสียด้วยซ้ำมือแกร่งสะบัดมือสวยออกอย่างแรงจนเธอเสียหลักล้มลงบนเตียงอีกครั้งร่างหนาดึงโคมไฟจากโต๊ะข้างเตียงสายไฟหลุดออกจากหัวปลั๊กตวัดไปโดนคนบนเตียงแรงร่างหนาปาโคมไฟทั้งอันลงกับพื้นห้องเพื่อระบายอารมณ์โกรธ ตอนนี้บอกได้เลยว่าเขาโกรธจนเลือดขึ้นหน้าเศษแก้วจากโคมไฟคริสตัลที่เคยอยู่ข้างหัวเตียงกระจัดกระจายอยู่เต็มพื้นห้องนอนของเหลวสีแดงไหลจากมือหนาหยดลงบนพื้นห้องเศษแก้วบางชิ้นที่เข้าไปฝังอยู่ใต้ผิวเนื้อของเขาและบางส่วนกระเด็นไปโดนคนบนเตียงแต่แปลกที่เขากลับรู้สึกเจ็บแปร๊บที่ใจไ
“หนูกลับมาแล้ว”“พิมม มานั่งนี่สิลูกกินข้าวมารึยัง”“กินแล้วจ้ะ ทำอะไรกันอยู่จ๊ะ”“พอดีเลยแม่กำลังจะเตรียมของไปทำบุญที่วัดพรุ่งนี้ว่าแต่พรุ่งนี้ลูกไปทำงานหรือไปเรียนรึเปล่า”“ไม่มีจ้ะ พิมขอไปด้วยคน”พิพิมนั่งช่วยลุงเปี๊ยกกับแม่เตรียมของแห้งในกระป๋องสังฆทานเพื่อเอาไปถวายพระวันพรุ่งนี้บ้านเธอมักจะชอบเตรียมของเองเพราะนอกจากเลือกของที่จะถวายได้อย่างอิสระมีคุณภาพดีตามที่ต้องการและยังประหยัดงบประมาณที่ต้องการได้อีกด้วยเมื่อช่วยเตรียมของเสร็จแล้วพิพิมขึ้นไปบนห้องเพื่อสำรวจของใช้ที่ยังไม่ได้เอาไปบางส่วนเธอแอบมองไปที่นอกหน้าต่างอย่างเคยไม่เจอลูกน้องของเสี่ยกู้แล้วคงจะหยุดมาแล้วหลังจากที่เธอย้ายไปอยู่ที่คอนโดของเชน แต่คำพูดของเสี่ยกู้ยังทำให้เธอรู้สึกกังวลอยู่ไม่น้อย ตลอดทั้งช่วงเย็นพิพิมลงมาข้างล่างช่วยแม่หน้าร้านแต่ก็ไม่ได้มีอะไรผิดปกติเลย“อ่าวไม้มาพอดี”“สวัสดีครับป้าปราง สวัสดีครับลุงเปี๊ยก ไม่เจอหน้าตั้งหลายวันเลยนะน้องพิม”“พี่ไม้มาทำอะไรคะเนี่ย”“พี่เอาขนมที่จะไปวัดพรุ่งนี้มาส่ง”ขนมไทยหลายอย่างใส่ปิ่นโตมาอย่างดีพิพิมรับปิ่นโตมาอย่างระมัดระวังเธอค่อยๆ เปิดดูทีละชั้นขนมไทยของบ้านพี่ไม้เ
เค้กในจานถูกแบ่งเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยวางไว้บนส่วนต่างๆ ของร่างกายเปลือยเปล่าของเธอเพียงเพราะเธอเลือกให้เขากินเองเธอไม่ได้คิดเลยว่ามันจะหมายถึงแบบนี้นี่คือการทำโทษที่บ้าที่สุดที่เธอเคยเห็นมาเลย เค้กที่เธอตั้งใจซื้อมาให้เขาลองชิมตอนนี้มันกลับทำให้เธอกลายเป็นส่วนหนึ่งในการกินของหวานที่แปลกที่สุด“อยู่นิ่งๆ เดี๋ยวเค้กหล่น แล้วถ้าหากว่าหล่นขึ้นมาสักชิ้นเธอต้องมานอนที่ห้องฉันทั้งเดือน”“แอร์มันหนาวไปหน่อยน่ะค่ะ”“หึ! เดี๋ยวก็ร้อน”ใครจะไปคิดว่าคนเจ้าเล่ห์อย่างเขาวางตามจุดอ่อนไหวของเธอได้อย่างเหมาะเจาะราวกับวางแผนไว้ล่วงหน้าผิวเนื้อขาวเนียนไร้สิ่งปกปิดกลายเป็นจานชั้นดีเขาวางเค้กชิ้นสุดท้ายไว้บนริมฝีปากของเธอแม้เธออยากจะเปิดปากเถียงให้ตายยังไงก็ทำได้แค่นิ่งเงียบเพราะถ้าเค้กตกขึ้นมาเธอคงต้องไปนอนห้องเดียวกับเขาทั้งเดือนความส่วนตัวที่ตั้งใจเลือกห้องที่ไกลที่สุดตั้งแต่แรกคงเปล่าประโยชน์ปลายลิ้นสากเริ่มเลียริมฝีปากบางที่กำลังสั่นเครือเล็กน้อยด้วยความหนาวของเครื่องปรับอากาศที่เย็นฉ่ำดูเหมือนเค้กชิ้นแรกที่อยู่่บนริมฝีปากบางกำลังจะถูกกินแต่แล้วเขาก็นึกสนุกเลื่อนใบหน้าต่ำลงกินเค้กชิ้นที่อยู่ตรงเนินอ
เมื่อได้ในสิ่งที่ต้องการเสี่ยกู้กับลูกน้องก็ออกจากร้านไปพิพิมถอนหายใจด้วยความโล่งใจน้ำสีใสในตาเริ่มซึมคลอจากดวงตาภาพเบื้องหน้าดูเลือนลางด้วยหยาดน้ำตาที่กำลังกลั่นตัวไหลผ่านแก้มนวลเธอหันไปมองเพื่อนรักอย่างปลายฟ้าที่นั่งตัวสั่นอยู่ข้างๆพิพิมจับมือปลายฟ้าที่ยังสั่นอยู่แน่นเธอรู้สึกผิดที่ทำให้เพื่อนรักต้องมาเจอกับเหตุการณ์แบบนี้คำถามเกิดขึ้นในหัวของปลายฟ้ามากมายถึงตอนนี้เธอจะยังตกใจอยู่มากแต่ปลายฟ้าก็คิดว่าพิพิมต้องเจอกับอะไรแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่เธอรวบรวมสติที่ยังหลงเหลืออยู่และถามพิพิม“นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นอ่ะพิม มันเป็นใครพิมบอกเรามาตามตรงได้ไหม”“เราออกจากที่นี่กันก่อนดีไหมฟ้า พิมกลัวมันจะกลับมาอีก”“งั้นพิมไปห้องเราก่อนได้ไหม”พิพิมพยักหน้าเห็นด้วยกับเพื่อนตอนนี้เธออยากออหไปจากที่นี่มากกว่าอะไรทั้งหมดและการกลับไปที่คอนโดเชนตอนนี้ก็ยังไม่ใช่ทางเลือกที่ดีเธอไม่รู้เลยว่าเสี่ยกู้ตามเธอมาถึงที่นี่ได้ยังไงเท่าที่พอจำได้เธอแทบไม่เห็นคนของเชนด้วยซ้ำตั้งแต่ส่งข้อความไปขออนุญาตจากเขาระหว่างทางไปหอของปลายฟ้าทั้งคู่ต่างใช้ความคิดบนรถแท็กซี่มีเพียงเสียงวิทยุที่คนขับเปิดคลอเพื่อรับข่าวสารเธอ