เพทายจูงมือแฟนสาวมาที่รีสอร์ทหรูที่เขาให้ลูกน้องเปิดไว้ ตลอดทางพริมาไม่ได้ขัดขืน เพราะรู้ตัวว่าครั้งนี้เธอผิดเต็ม ๆ ถ้าเธอไม่ใจอ่อนยอมเพื่อน และถ้าเพทายมาไม่ทัน หมับ! เพทายรั้งร่างบางเข้าไปกอด เขาลูบแผ่นหลังบางเบา ๆ เพียงแค่นั้นพริมาก็สะอื้นจนตัวโยน "ฮึก...พี่เพทาย" "ชู่ว ไม่ต้องร้อง พี่อยู่ตรงนี้" เพทายยอมรับว่าเขาโกรธ แต่ความเป็นห่วงแฟนสาวมีมากกว่า แค่คิดว่าถ้าเขามาช้ากว่านี้สักก้าวแล้วพริมาถูกรังแก เขาคงขาดใจ "พรีมขอโทษ ฮึก! ขอโทษ" เพทายไม่ตอบ เขาทำเพียงลูบแผ่นหลังบางอยู่แบบนั้นจนพริมาเริ่มหยุดร้องไห้ เสื้อสูทราคาแพงเปียกชุ่มไปด้วยน้ำตา พริมาดันตัวออกจากอ้อมกอดอบอุ่น ช้อนตาบวมช้ำขึ้นมองแฟนหนุ่ม เพทายทอดสายตาอบอุ่นมองคนรัก เขาส่งยิ้มบาง ๆ ให้พริมา "พี่เพทาย" "ค่ะ" "ลงโทษพรีมนะคะ ทำให้พรีมจดจำว่าอย่าดื้อกับพี่อีก" . . เพทายเดินออกมาจากห้องน้ำ ร่างสูงหยุดยืนที่ปลายเตียง ดวงตาคมกวาดมองเตียงนอนกว้างที่มีร่างเปลือยเปล่าของแฟนสาวนอนอยู่ พริมาขยับตัวเล็กน้อย เธอมองไม่เห็น แต่รู้ว่ามีคนเดินเข้ามาใกล้เตียง "พะ...พี่" เพทายทรุดตัวนั่งที่ปลายเตียง มือหนาจับข้อเท้าเล็ก ๆ ก่อน
พริมาหลับคาอ้อมแขนของแฟนหนุ่มทั้ง ๆ ที่เพทายยังกระแทกกระทั้นเอวไม่หยุด ชายหนุ่มแปลกใจที่ไม่ได้ยินเสียงร้องครวญคราง และเมื่อเห็นว่าแฟนสาวสลบไปแล้วก็รีบถอดถอนแก่นกายออก "พรีม!" "อือ" เพทายลุกเข้าไปห้องน้ำ แล้วกลับมาพร้อมผ้าที่ชุบน้ำอุ่นหนึ่งผืน มือใหญ่บรรจงเช็ดผิวขาวที่เปรอะเปื้อนคราบกามอย่างเบามือ "พรีมคะ" "อือ...พอแล้ว...พรีมไม่ไหว" "โอ๋ ไม่ทำแล้วค่ะคนดี" เพทายตระกองกอดคนรักแนบอก จุมพิตหน้าผากชื้นเหงื่อ แล้วหลับไปพร้อมกับกอดกายบางไว้ไม่ห่าง . . เที่ยงตรง เพทายตื่นขึ้นมาอีกครั้งเพราะไอร้อนระอุข้างกาย เขาลุกขึ้นนั่ง สภาพห้องที่เละเทะทำให้ชายหนุ่มรู้ว่าเมื่อคืนตัวเองเหมือนสัตว์ป่าหิวโหยแค่ไหน "พรีม" "อื้อ" "พรีม...ตัวร้อนนี่!" เพทายรีบกุลีกุจอไปเตรียมน้ำอุ่นมาเช็ดตัว ใส่เสื้อผ้าให้แฟนสาว เก็บห้องเท่าที่จะเก็บได้ แล้วสั่งให้ลูกน้องเอาข้าวเอายามาส่ง เพทายมองใบหน้าซีดขาวของคนรักด้วยความรู้สึกผิด ที่พริมาต้องป่วยแบบนี้คงเป็นเพราะเขาที่พาลงไปในน้ำ ร่วมรักกับเธอหนึ่งรอบแล้วพาขึ้นมาตากแอร์ในห้อง ร่างกายของพริมาบอบบางกว่าเขา ไม่แปลกที่จะป่วยแบบนี้ ข้าวต้มและยาลดไข้มาส่ง เพทายปลุ
"เอม วันนี้กลับคนเดียวได้ปะ เราจะไปดูหนังกับหญิง" "ห้ะ? อ๋อ...อืม" เด็กสาวผมเปียพยักหน้ารับเบา ๆ ใบหน้าน่ารักหม่นหมองลง "โอ๋~" แขนแกร่งของเด็กหนุ่มนักกีฬาวางพาดลงบนไหล่เล็ก "อย่าเพิ่งน้อยใจสิคนสวย เอมก็รู้ว่าเราจีบหญิงมานาน" "เราก็ยังไม่ได้ว่าอะไรนี่" "ไม่ว่า แต่หน้าบึ้งเชียว" ชะเอมหันหน้าหนี หูร้อนผ่าวเพราะถูกจับได้ ใช่ เธอน้อยใจจริง ๆ นั่นแหละ ก็ทิวาเป็นเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวของเธอนี่ "วันเดียว แล้วพรุ่งนี้เราจะพาเอมไปกินไอติม" "ไม่ต้องเอาของกินมาล่อเลย" "โอ๋ ๆ คนสวยของทิวไม่งอนน้า" เด็กหนุ่มบีบแก้มใสเบา ๆ ยื่นหน้าเข้าไปใกล้จนลมหายใจอุ่นรินรดแก้มใส ชะเอมขยับหน้าหนี หัวใจเต้นแรงจนน่ากลัว "จีบกันอีกละสองคนนี้" เสียงใสของหญิงสาวอีกคนดังขึ้น ทิวารีบปล่อยแขนจากเพื่อนสนิท ก่อนจะรีบลุกขึ้นไปหาคนสวยของโรงเรียนที่ตอนนี้มีสถานะเป็นแฟนของเขา หญิง ดาวโรงเรียนที่เพียรจีบมาหลายเดือน เมื่อวันก่อนเธอเพิ่งตกลงคบหากับทิวาอย่างเป็นทางการ ใคร ๆ ก็อิจฉาคู่นี้ นักกีฬาบาสเก็ตบอลเบอร์หนึ่ง และสาวสายเบอร์หนึ่งของโรงเรียน เหมาะสมกับยิ่งกว่าอะไร "หญิง เอมเป็นเพื่อนทิวครับ" "รู้ แต่อดแซวไม
สนามบินประจำชาติในวันนี้คึกคักเหมือนทุกวัน ผู้คนมากมายหลายเชื้อชาติหลั่งไหลเข้ามาและออกไปไม่ขาดสาย บางคนมาที่นี่เพื่อเดินทางกลับบ้านเกิดหลังจากเที่ยวจนเต็มอิ่ม บางคนเพิ่งมาถึงและเตรียมที่จะเที่ยวชมประเทศไทย บางคนมารับญาติพี่น้องหรือคนสนิทที่กลับมาจากต่างประเทศ ชะเอมชะเง้อคอมองหาคนที่บอกว่าจะมารับ ใบหน้าน่ารักที่ดูอ่อนกว่าวัยบึ้งตึง เลทมาจะครึ่งชั่วโมงแล้ว พ่อกับแม่ที่บอกว่าจะมารับก็ยังไม่มา เธอบอกแล้วว่านั่งแท็กซี่กลับเองได้ แต่ทั้งสองกลับห่วงว่าเธอจะเป็นอันตราย ทั้ง ๆ ที่เธออายุยี่สิบหกแล้วแท้ ๆ ไม่น่าเชื่อก็ต้องเชื่อ กว่า 8 ปีแล้วที่ชะเอมจากประเทศบ้านเกิดของตัวเองไป อันที่จริงเธอต้องกลับมาตั้งแต่สี่ปีก่อน แต่เพราะอะไรบางอย่างทำให้เธอตัดสินใจทำงานที่ญี่ปุ่นและเรียนต่อปริญญาโทที่นั่น ดวงตากลมหม่นแสงลงเมื่อนึกถึงสาเหตุนั้น "เอม" "ทำไมมาช้าจังคะ...อ๊ะ" เสียงใสถูกกลืนหายกลับที่เดิม ดวงตากลมเบิกกว้างเมื่อเห็นคนที่ยืนอยู่ข้างหลัง หัวใจที่เคยเป็นปกติเริ่มเต้นแรงจนน่าหงุดหงิด แปดปีแล้วนะ ทำไมหัวใจเธอถึงได้เหมือนเดิมจนน่าโมโหขนาดนี้ "ทิว..." ดวงตากลมหลุบลงตามสัญชาติญาณ เธอมองไปที่นิ
กลับมานอนเฉย ๆ อยู่บ้านได้ไม่ถึงอาทิตย์ ชะเอมก็ได้รับสายจากคุณป้าแม่ของทิวาว่าทิวาป่วย วานให้เธอเข้าไปดูเพราะคุณป้าและคุณลุงอยู่ต่างประเทศ ชะเอมลังเล เธอเพิ่งรู้ว่าทิวาไม่ได้อยู่ที่บ้าน เขาซื้อคอนโดหรูใกล้บริษัทหลังจากแต่งงานกับหญิงเพื่อเป็นเรือนหอ และเธอไม่อยากไปเหยียบรักรังของเพื่อนกับอดีตภรรยา 'แค่ก...ว่าไงเอม แค่ก ๆ' "ทิว ไปหาหมอหรือยัง" ชะเอมเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงร้อนรน ทีแรกเธอใจแข็ง ตั้งใจจะโทรไปบอกให้ทิวาไปหาหมอ แต่พอได้ยินเสียงแหบแห้งนั่นเธอก็อดกังวลไม่ได้ ทิวาในความทรงจำแทบไม่เคยป่วยเลย เขาเป็นนักกีฬาที่ร่างกายแข็งแรงมาตลอด น้อยครั้งจริง ๆ ถึงจะล้มป่วย แต่ป่วยทีไรก็ป่วยหนักทุกครั้ง แล้วจะไม่ให้ห่วงได้อย่างไร 'เรา...แค่ก...ไปไม่ไหว' "ถ้าช็อกขึ้นมากลางดึกจะทำยังไงล่ะทิว" 'ไม่หรอก แค่นี้ก่อนนะ' เสียงของทิวาโรยแรงเต็มทน หลังจากวางสายชะเอมก็นั่งไม่ติดเก้าอี้ ในใจตีกันวุ่นวายไปหมด เธอไม่อยากไป แต่ก็เป็นห่วง และแล้วสุดท้ายความเป็นห่วงก็ชนะทุกอย่าง ร่างเล็กหยิบฉวยกระเป๋าใบโปรด ร้องบอกพ่อกับแม่ว่าอาจจะกลับดึก ก่อนจะเรียกแท็กซี่ไปที่คอนโดของทิวา ใช้เวลากว่าชั่วโมงครึ่งชะเอม
ชะเอมไม่มองหน้าเพื่อนอีกหลังจากตอบรับสั้น ๆ แต่หูได้ยินเสียงเนื้อผ้าเสียดสีเต็มสองรูหู ทำให้รู้ว่าทิวากำลังถอดเสื้อผ้าของตัวเองออก "เอม" มือบางถูกชักจูงไปสัมผัสบางสิ่งที่ร้อนผ่าวและแข็งตึง "เอม" "อืม" "ทำให้เราหน่อย" ชะเอมเบนสายตากลับมามอง แก้มทั้งสองข้างร้อนจัดเมื่อเห็นสิ่งที่อยู่ในมือ "ทิว" "นะครับ" เสียงออดอ้อนของเพื่อนทำให้ชะเอมใจอ่อนยวบ ร่างเล็กฝืนความอาย มือค่อย ๆ รูดสิ่งนั้นเข้าออกช้า ๆ "อืม" ชะเอมเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าของเพื่อน ทิวาหลับตาสนิทพร้อมส่งเสียงครางออกมา "ซี๊ด...อาห์" ทิวาในตอนนี้ไม่เหมือนทิวาที่ชะเอมรู้จัก ใบหน้าของเขาบิดเบี้ยว ปากบางส่งเสียงครางออกมาไม่ขาดสาย ชะเอมไม่คิดว่าวันหนึ่งจะได้เห็นสีหน้าแบบนี้จากคนที่แอบรัก มือบางขยับเร็วขึ้น เธอเอาอกเอาใจทิวาเท่าที่จะทำได้ แต่จู่ ๆ ชายหนุ่มก็จับมือเธอออกห่างจากแท่งร้อน "ทิว..." "พอก่อน" "เราทำแย่มากเลยเหรอ" "เปล่า" ทิวาดูดกลีบปากอิ่มแรง ๆ โทษฐานที่คิดไปเอง "ดีมาก...ดีมาก ๆ ต่างหาก ดีจนเรากลัวว่าจะแตกก่อน" ชะเอมได้ยินแบบนั้นก็หน้าแดงแปร๊ด หญิงสาวแสร้งมองไปทั่วห้องเพื่อหลบสายตาหื่นกระหายของเพื่อน ทิวาในว
ทิวาตื่นมาพร้อมกับสมองที่โล่งโปร่ง ความหนักอึ้งจากพิษไข้หายไปจนเกือบหมดเพราะได้ยาดี ชายหนุ่มยันกายขึ้นนั่งบนเตียงนุ่มที่ว่างเปล่า "เอม" ไม่มีเสียงตอบรับ ทิวาบิดขี้เกียจอย่างเกียจคร้าน ตาแทบเปิดไม่ขึ้นเพราะจำได้ว่าเพิ่งได้นอนเมื่อไม่ถึงห้าชั่วโมงก่อน น่าแปลกที่ขนาดเขายังเหนื่อยขนาดนี้ แต่ชะเอมกลับลุกจากเตียงได้ "เอม อยู่ไหน" ห้องกว้างยังคงเงียบสนิท ทิวาลุกขึ้นยืน เขาหยิบบ็อกเซอร์มาสวมลวก ๆ ก่อนจะเดินออกไปด้านนอก "เอม..." ชายหนุ่มคิ้วกระตุก เมื่อไม่เห็นคนที่กำลังตามหา ในห้องนอนไม่มี ข้างนอกก็ไม่มี แม้แต่เสื้อผ้าสักตัวก็ไม่เหลือ ชะเอมหนีเขาไปแล้ว "ดื้อ" ทิวาส่ายหน้าให้กับความดื้อด้านของเพื่อนที่ตอนนี้เลื่อนสถานะมาเป็นเมีย "คิดว่าจะปล่อยให้หนีไปได้อีกหรือไง" . . "เมื่อคืนเอมกลับมากี่โมงนะ" ผู้เป็นแม่เอ่ยถามตามประสา แต่ลูกสาวกลับสะดุ้งเพราะมีความผิดติดหลัง "เอม....ไม่ได้ดูนาฬิกาค่ะ" "อืม แล้วทิวเป็นอย่างไรบ้าง ดีขึ้นบ้างไหม" "ตอนเอมกลับมาตัวไม่ร้อนแล้วค่ะ" "ดีแล้ว ถ้าไม่หายคงต้องแบกไปหาหมอให้ได้" หญิงวัยกลางคนหัวเราะเบา ๆ ชวนให้ชะเอมต้องหัวเราะตามอย่างเสียไม่ได้ ในใจเ
ตึง! "อ๊ะ!" ชะเอมร้องประท้วงเพราะถูกดันเข้ากำแพงค่อนข้างแรง เธอไม่ได้เจ็บเพราะใส่เสื้อหนา แต่กลัวว่าห้องข้าง ๆ จะได้ยินเสียงแล้วแจ้งตำรวจเอา "ทิว...อื้อ" ปากอิ่มถูกจูบปิดจนแน่นสนิท ทิวาในเวลานี้เหมือนนักล่า เขากัดกินชะเอมอย่างหิวโหย ชะเอมแทบขาอ่อน รสจูบของทิวาในวันนี้ต่างจากวันนั้น มันร้อนแรงจนอากาศติดลบของฮอกไกโดกลายเป็นอากาศอบอุ่นของเมืองไทย "เอม" "ทิว อย่าเพิ่ง" ชะเอมรีบจับมือปลาหมึกไว้ก่อนที่มันจะเข้ามาวุ่นวายกับหน้าอกของเธอ แก้มใสซับสีเลือดเข้ม ส่ายหน้าไปมาด้วยความขวยเขิน เพราะทิวาจับเธอจูบทั้ง ๆ ที่ยังยืนอยู่หน้าประตู ไปหื่นมาจากไหนกัน "คิดถึงใจจะขาด" "เวอร์" "ไม่เวอร์ เราโคตรคิดถึงเอม อยากกอด อยากจูบ อยากเอาจะแย่" "ลามก! อ๊ะ" ชะเอมรีบคว้าต้นคอของชายหนุ่มไว้ ร่างเล็กลอยละลิ่วไปที่โซฟาขนาดกลาง ทิวาวางชะเอมลงได้ก็รีบดึงทึ้งเสื้อผ้าตัวเองออกไม่เป็นทิศเป็นทาง "เดี๋ยวสิทิว" หญิงสาวร้องห้ามเมื่อทิวาเริ่มมายุ่มย่ามกับเสื้อผ้าของเธอ อยากถอดก็ถอดไปคนเดียวสิ "ไม่ไหวแล้ว" "คุยกันก่อน อื้อ" "ไม่คุยแล้ว เราพูดไปหมดแล้ว" ทิวาจับขาเรียวอ้าออกกว้าง ชะเอมแต่งตัวแบบสาวญี่ปุ่น
เฌอแตมอาศัยจังหวะที่เชนกำลังอึ้ง พลิกตัวคนตัวใหญ่กว่าลงบนเตียง โดยที่เธอคล่อมทับตามไปติด ๆ "แตม?" "ขา" มือบางลูบไล้ไปมาบนแผงอกแกร่ง เธอไม่เคยคิดว่าเชนจะมีหน้าอกที่แน่นตึงขนาดนี้ แม้ไม่ได้มีกล้ามเป็นมัด ๆ แต่ก็พอมีตามประสาผู้ชายเล่นกีฬา เชนชอบกีฬาฟุตบอลมาก เขามักใช้เวลาว่างไปเตะฟุตบอลกับเพื่อน ๆ ประจำ "แตม" เฌอแตมเลิกสนใจเสียงเรียกของเชน สาวน้อยใช้มือลูบไล้ไปทั่วอกกว้าง ดวงตากลมเป็นประกายระยิบระยับเหมือนเจอของเล่นที่ถูกใจ "พี่เชนหุ่นดีจัง" "แตม อึก" เชนกลั้นเสียงครางเมื่อเฌอแตมใช้มือกอบกุมความเป็นชายของเขา เมื่อสาวน้อยเห็นว่าคนเป็นพี่พยายามกลั้นเสียงก็ออกแรงชักรูดถี่ ๆ จนชายหนุ่มอดทนไม่ไหวหลุดเสียงครางออกมา "อะ...อ่าห์" เฌอแตมขยับตัวขึ้น เธอจับแท่งร้อนตั้งตรงแล้วคล่อมทับ กดสะโพกลงจนส่วนหัวจมหายเข้าไปในช่องทางคับแคบ "อื้อ" "แตม" "แน่นจังเลย อ๊ะ... แน่น" ปากส่งเสียงครวญครางว่าแน่นไม่ขาดสาย แต่สะโพกกลับไม่ยอมหยุดนิ่ง เฌอแตมค่อย ๆ กลืนกินสิ่งใหญ่โตเข้าไปเรื่อย ๆ จนสุด เธอรู้สึกอึดอัดไปทั่วช่องท้องเมื่อสิ่งนั้นเข้ามาพองโตอยู่ในตัว "อ๊าาา ของพี่เชนใหญ่มากเลยค่ะ" "แตม" เชนกั
เชนถอดเสื้อออก ตามด้วยกางเกงและชั้นในสีเข้ม ตลอดเวลามีดวงตากลมแป๋วมองตามอย่างสนใจใคร่รู้ เฌอแตมไล่สายตามองตั้งแต่ใบหน้าหล่อ ลำคอแข็งแกร่ง แผ่นอกหนา กล้ามหน้าท้อง เรื่อยมาจนถึงสัดส่วนความเป็นชายที่เหยียดขยายใหญ่เต็มหน้าขา อึก! สาวน้อยตาโตเหมือนไข่ห่านเมื่อเห็นสิ่งนั้นครั้งแรก นะ...นั่นมัน....หยะ...ใหญ่มากกก เชนจับขาเรียวให้แยกออก เขาแทรกตัวเข้าตรงกลางระหว่างขาทั้งสองข้าง มือประคองท่อนกายจ่อเข้ากับกลีบเนื้อนุ่มที่ยังปิดสนิท "ดะ...เดี๋ยวค่ะ!" "พี่บอกแล้วว่าจะไม่หยุด" "ไม่ใช่ค่ะ" เฌอแตมดิ้นเล็กน้อยก็หลุดอย่างง่ายดาย บ่งบอกว่าเชนไม่ได้ตั้งใจกักขังหรือขืนใจถ้าหากเธอเกิดเปลี่ยนใจขึ้นมาจริง ๆ เขาไม่คิดเอาแต่ใจตัวเองทั้ง ๆ ที่ส่วนนั้นขยายใหญ่จนแทบระเบิดอยู่แล้ว สาวน้อยเอี้ยวตัวไปที่ลิ้นชักข้างเตียง เปิดมันออกและหยิบซองบางอย่างออกมา "แตม!" เชนอ้าปากค้าง เขามองสิ่งที่เฌอแตมถือสลับกับใบหน้าน่ารักที่เห็นกันมาตั้งแต่เด็ก ๆ เหมือนเห็นคนแปลกหน้า "ทำไมถึงมีมัน แตมใช้กับใคร" "คะ?" "แตมมีคนรักแล้วเหรอ ใครกัน ผู้ชายคนนั้นรับผิดชอบแตมหรือเปล่า" "พี่เชน..." "ถ้าไม่รับผิดชอบบอกพี่ พี่จะไปจั
ถ้าคิดว่าเรื่องในวันนั้นจะทำให้ทุกอย่างเปลี่ยนไป ก็ขอบอกไว้ตรงนี้เลยว่าไม่... ไม่เลยสักนิด! พี่เชนยังเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือระมัดระวังตัวเพิ่มขึ้น มีโอกาสได้อยู่ด้วยกันสองต่อสองแต่ไม่มีอะไรขยับ บางทีอาจจะห่างกว่าปกติด้วยซ้ำ "ซื่อหรือบื้อเนี่ย!" เฌอแตมที่นั่งอยู่บนเตียงฟาดมือกับอากาศด้วยความหงุดหงิด อีกสองวันแม่เธอก็กลับมาแล้ว แต่ระหว่างเธอกับพี่เชนกลับไม่มีอะไรคืบหน้าเลย "หรือพี่เชนไม่ได้ชอบผู้หญิง" สาวน้อยตั้งข้อสงสัย เป็นไปได้เหรอที่ผู้ชายแท้ ๆ จะโสดมาทั้งชีวิตจนอายุจะเข้าเลขสามอยู่แล้ว พี่เชนไม่ใช่ว่าไม่หล่อ ตรงกันข้ามพี่เชนหล่อมากด้วย ติดแค่เฉิ่มไปนิด ถือตัวไปหน่อย แต่ก็ไม่น่าโสดและสดขนาดนี้ถ้าไม่ใช่เพราะชอบเพศเดียวกัน "แบบนี้ต้องพิสูจน์!" เฌอแตมบอกตัวเองอย่างแน่วแน่ ตาจ้องมองประตูห้องน้ำที่ยังปิดสนิท อย่างน้อย ๆ พรุ่งนี้ก็วันหยุดของทั้งเธอและพี่เชน ถ้าหากเกิดอะไรขึ้นจริง ๆ ก็ไม่กระทบกับหน้าที่แน่นอน รวมถึง... สาวน้อยเปิดลิ้นชักหัวเตียงออก ตาเป็นประกายเมื่อเห็นสิ่งที่นอนนิ่งอยู่ในนั้น ถุงยางอนามัย จะด่าว่าเธอแก่แดดก็ได้ แต่พอรู้ว่าพี่เชนจะมานอนด้วยเธอก็จัดการซื้อเครื่อ
สามวันที่เชนหายไป เฌอแตมไม่ได้เจอหน้าพี่ชายข้างบ้านเลย ไม่รู้ว่าเขาไม่ว่าง หรือจงใจหลบหน้ากัน แต่สุดท้ายการรอคอยก็สิ้นสุดลง วันนี้เชนกลับมาสอนปกติ ร่างสูงแต่งตัวสุภาพเหมือนเดิม ใบหน้าหล่อสุภาพยังคงมีรอยยิ้มบางประดับอยู่ "พี่เชน" "ครับ" "นึกว่าจะไม่มาแล้ว" ร่างน้อยเดินเข้าไปคลอเคลีย ยิ้มโชว์ฟันขาวให้พี่เชนรู้ว่าเธอดีใจแค่ไหน ไม่ได้เจอหน้าตั้งสามวัน คิดถึงที่สุดเลย เชนทำแค่เพียงยิ้มรับ ก่อนจะเดินไปสวัสดีแม่ของเฌอแตม "ขอโทษที่หายไปหลายวันครับคุณน้า" "โอ้ยไม่ต้องขอโทษหรอกเชน น้าบอกแล้วว่าไม่ต้องมาสอนเด็กดื้ออย่างแตมก็ได้ งานเชนล้นมือขนาดนั้น" "ไม่เป็นไรครับ ผมเต็มใจ" "เห็นไหมคะ พี่เชนน่ารักกับแตมจะตาย" เด็กสาวเข้ามาควงแขนพี่ชายคนสนิท ซบใบหน้ากับไหล่กว้างเย้ยแม่ตัวเอง "ไปกันค่ะพี่เชน วันนี้แตมสัญญาจะตั้งใจเรียน" เฌอแตมว่าพลางดึงแขนเชนขึ้นไปบนห้อง ร่างสูงแม้ไม่อยากตามแต่ก็ขัดใจน้องไม่ได้ เฌอแตมทำอย่างที่รับปากไว้ เด็กสาวเรียนอย่างตั้งใจ สองชั่วโมงของการติวเข้มผ่านไปอย่างรวดเร็ว "วันนี้พอแค่นี้ก่อนดีกว่า มากไปก็ปวดหัวเปล่า ๆ" "แตมยังไงก็ได้ค่ะ แล้วแต่พี่เชน" เด็กน้อยยิ้มโชว
"มองอะไรหืม" เชนถามขำ ๆ ตั้งเริ่มเรียนจนถึงตอนนี้น้องเอาแต่มองเขาตลอดเวลา เฌอแตมยกแขนขึ้นเท้าคางและมองมาด้วยสายตาหวาน ๆ พอถูกมองนาน ๆ ก็เริ่มรู้สึกเก้อแปลก ๆ "พี่เชนหล่อจังค่ะ" เชนหัวเราะ "หลอกให้คนแก่ดีใจหรือเรา" "ไม่เห็นแก่เลยค่ะ แค่ยี่สิบแปดเอง" "แต่ก็ห่างกับแตมตั้งเก้าปี" "ไม่เป็นไรค่ะ แตมชอบคนแก่ ยิ่งแก่ยิ่งประสบการณ์เยอะดีออก" สาวน้อยพูดพร้อมดวงตาที่เป็นประกาย ส่วนเชนนิ่งค้างไปแล้ว เขารู้สึกเหมือนหน้ามันร้อน ๆ ขึ้นแต่ก็ไม่รู้ว่าทำไม "พี่เชน คำว่ารักภาษาฝรั่งเศสคืออะไรคะ" เฌอแตมเปลี่ยนเรื่อง เธอไม่อยากรุกมากเกินไปจนไก่ตื่น ดูก็รู้ว่าพี่เชนของเธอไม่เป็นประสา วัน ๆ คงเอาแต่เรียนไม่เคยคบใคร เธอเองก็ไม่เคยมีแฟน มีแค่นิยายรักหวานแหววที่ทำให้เฌอแตมรู้ว่าควรเข้าหาเชนยังไง ต้องขอบคุณนิยายพวกนั้นที่ทำหน้าที่เป็นครูชั้นดีให้เธอ "เฌอแตม" "ขา" "เฌอแตม แปลว่ารัก" ครั้งนี้สาวน้อยเป็นฝ่ายหน้าร้อนผ่าวแทน เสียงเจือยแจ้วเงียบไป เฌอแตมรู้ความหมายของชื่อตัวเองดี และที่ถามก็เพราะอยากแหย่เชนเท่านั้น ไม่คิดว่าเชนจะพูดออกมาง่าย ๆ แบบนี้ "เฌอแตมแปลว่ารัก ผมรักคุณ ฉันรักคุณ" "....." "พ
"จะรบกวนพี่เขาหรือเปล่า แค่งานสอนที่โรงเรียนก็น่าจะหนักแล้วนะ แม่ว่าแตมไปเรียนที่สถาบันดีไหม" "แตมไม่อยากเรียนแบบนั้นค่ะ ไม่มีเพื่อน" "แตมโตแล้วนะ อย่าเอาแต่ใจสิ" "แม่คะ" "ไม่เป็นไรครับคุณน้า" เสียงนุ่มทุ้มดังขึ้นขัดสองแม่ลูกที่ยังตกลงกันไม่ได้ เชนระบายยิ้มสุภาพให้คุณน้าที่รู้จักกันมานาน "ผมสอนน้องได้ น้องคนเดียว ไม่เหนื่อยเลยครับ" "น้าเกรงใจ" "ไม่ต้องเกรงใจครับ แตมก็เหมือนน้องแท้ ๆ ของผมคนหนึ่ง" ชายหนุ่มวัยยี่สิบแปดที่แต่งตัวภูมิฐานสมกับอาชีพพ่อพิมพ์ของชาติส่งสายตาอ่อนโยนให้น้องสาวข้างบ้าน เฌอแตมก้มหน้างุด แก้มสองข้างแดงจัด พี่เชนขี้โกง ยิ้มแบบนั้นได้ยังไง! "เห้ออ น้าผิดเองที่เลี้ยงลูกตามใจจนเอาแต่ใจแบบนี้ แต่ถ้าเชนเต็มใจน้าก็ขอบคุณมาก ๆ เลยนะ" . . เฌอแตมเดินออกมาส่งเชนที่รั้วบ้าน บ้านขนาดกลางทั้งสองหลังปลูกติดกันมาตั้งแต่รุ่นคุณยาย ผ่านร้อนผ่านฝนผ่านการบูรณะหลายครั้งจนเป็นบ้านที่น่าอยู่แบบทุกวันนี้ เมื่อประมาณสิบปีก่อนตอนที่เฌอแตมอายุได้เก้าขวบ บ้านทั้งสองหลังตัดสินใจพังรั้วส่วนหนึ่งเพื่อทำเป็นประตูระหว่างสองบ้าน สาเหตุเพราะเฌอแตมติดพี่เชนจนผู้ใหญ่พากันเอ็นดูไม่อยากให
ตึง! "อ๊ะ!" ชะเอมร้องประท้วงเพราะถูกดันเข้ากำแพงค่อนข้างแรง เธอไม่ได้เจ็บเพราะใส่เสื้อหนา แต่กลัวว่าห้องข้าง ๆ จะได้ยินเสียงแล้วแจ้งตำรวจเอา "ทิว...อื้อ" ปากอิ่มถูกจูบปิดจนแน่นสนิท ทิวาในเวลานี้เหมือนนักล่า เขากัดกินชะเอมอย่างหิวโหย ชะเอมแทบขาอ่อน รสจูบของทิวาในวันนี้ต่างจากวันนั้น มันร้อนแรงจนอากาศติดลบของฮอกไกโดกลายเป็นอากาศอบอุ่นของเมืองไทย "เอม" "ทิว อย่าเพิ่ง" ชะเอมรีบจับมือปลาหมึกไว้ก่อนที่มันจะเข้ามาวุ่นวายกับหน้าอกของเธอ แก้มใสซับสีเลือดเข้ม ส่ายหน้าไปมาด้วยความขวยเขิน เพราะทิวาจับเธอจูบทั้ง ๆ ที่ยังยืนอยู่หน้าประตู ไปหื่นมาจากไหนกัน "คิดถึงใจจะขาด" "เวอร์" "ไม่เวอร์ เราโคตรคิดถึงเอม อยากกอด อยากจูบ อยากเอาจะแย่" "ลามก! อ๊ะ" ชะเอมรีบคว้าต้นคอของชายหนุ่มไว้ ร่างเล็กลอยละลิ่วไปที่โซฟาขนาดกลาง ทิวาวางชะเอมลงได้ก็รีบดึงทึ้งเสื้อผ้าตัวเองออกไม่เป็นทิศเป็นทาง "เดี๋ยวสิทิว" หญิงสาวร้องห้ามเมื่อทิวาเริ่มมายุ่มย่ามกับเสื้อผ้าของเธอ อยากถอดก็ถอดไปคนเดียวสิ "ไม่ไหวแล้ว" "คุยกันก่อน อื้อ" "ไม่คุยแล้ว เราพูดไปหมดแล้ว" ทิวาจับขาเรียวอ้าออกกว้าง ชะเอมแต่งตัวแบบสาวญี่ปุ่น
ทิวาตื่นมาพร้อมกับสมองที่โล่งโปร่ง ความหนักอึ้งจากพิษไข้หายไปจนเกือบหมดเพราะได้ยาดี ชายหนุ่มยันกายขึ้นนั่งบนเตียงนุ่มที่ว่างเปล่า "เอม" ไม่มีเสียงตอบรับ ทิวาบิดขี้เกียจอย่างเกียจคร้าน ตาแทบเปิดไม่ขึ้นเพราะจำได้ว่าเพิ่งได้นอนเมื่อไม่ถึงห้าชั่วโมงก่อน น่าแปลกที่ขนาดเขายังเหนื่อยขนาดนี้ แต่ชะเอมกลับลุกจากเตียงได้ "เอม อยู่ไหน" ห้องกว้างยังคงเงียบสนิท ทิวาลุกขึ้นยืน เขาหยิบบ็อกเซอร์มาสวมลวก ๆ ก่อนจะเดินออกไปด้านนอก "เอม..." ชายหนุ่มคิ้วกระตุก เมื่อไม่เห็นคนที่กำลังตามหา ในห้องนอนไม่มี ข้างนอกก็ไม่มี แม้แต่เสื้อผ้าสักตัวก็ไม่เหลือ ชะเอมหนีเขาไปแล้ว "ดื้อ" ทิวาส่ายหน้าให้กับความดื้อด้านของเพื่อนที่ตอนนี้เลื่อนสถานะมาเป็นเมีย "คิดว่าจะปล่อยให้หนีไปได้อีกหรือไง" . . "เมื่อคืนเอมกลับมากี่โมงนะ" ผู้เป็นแม่เอ่ยถามตามประสา แต่ลูกสาวกลับสะดุ้งเพราะมีความผิดติดหลัง "เอม....ไม่ได้ดูนาฬิกาค่ะ" "อืม แล้วทิวเป็นอย่างไรบ้าง ดีขึ้นบ้างไหม" "ตอนเอมกลับมาตัวไม่ร้อนแล้วค่ะ" "ดีแล้ว ถ้าไม่หายคงต้องแบกไปหาหมอให้ได้" หญิงวัยกลางคนหัวเราะเบา ๆ ชวนให้ชะเอมต้องหัวเราะตามอย่างเสียไม่ได้ ในใจเ
ชะเอมไม่มองหน้าเพื่อนอีกหลังจากตอบรับสั้น ๆ แต่หูได้ยินเสียงเนื้อผ้าเสียดสีเต็มสองรูหู ทำให้รู้ว่าทิวากำลังถอดเสื้อผ้าของตัวเองออก "เอม" มือบางถูกชักจูงไปสัมผัสบางสิ่งที่ร้อนผ่าวและแข็งตึง "เอม" "อืม" "ทำให้เราหน่อย" ชะเอมเบนสายตากลับมามอง แก้มทั้งสองข้างร้อนจัดเมื่อเห็นสิ่งที่อยู่ในมือ "ทิว" "นะครับ" เสียงออดอ้อนของเพื่อนทำให้ชะเอมใจอ่อนยวบ ร่างเล็กฝืนความอาย มือค่อย ๆ รูดสิ่งนั้นเข้าออกช้า ๆ "อืม" ชะเอมเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าของเพื่อน ทิวาหลับตาสนิทพร้อมส่งเสียงครางออกมา "ซี๊ด...อาห์" ทิวาในตอนนี้ไม่เหมือนทิวาที่ชะเอมรู้จัก ใบหน้าของเขาบิดเบี้ยว ปากบางส่งเสียงครางออกมาไม่ขาดสาย ชะเอมไม่คิดว่าวันหนึ่งจะได้เห็นสีหน้าแบบนี้จากคนที่แอบรัก มือบางขยับเร็วขึ้น เธอเอาอกเอาใจทิวาเท่าที่จะทำได้ แต่จู่ ๆ ชายหนุ่มก็จับมือเธอออกห่างจากแท่งร้อน "ทิว..." "พอก่อน" "เราทำแย่มากเลยเหรอ" "เปล่า" ทิวาดูดกลีบปากอิ่มแรง ๆ โทษฐานที่คิดไปเอง "ดีมาก...ดีมาก ๆ ต่างหาก ดีจนเรากลัวว่าจะแตกก่อน" ชะเอมได้ยินแบบนั้นก็หน้าแดงแปร๊ด หญิงสาวแสร้งมองไปทั่วห้องเพื่อหลบสายตาหื่นกระหายของเพื่อน ทิวาในว