วันถ่ายทำมาถึง มินาริถูกคนดูแลชั่วคราวโทรปลุกตั้งแต่เช้าพร้อมกับบอกว่าส่งคนมารับแล้ว ส่วนเจ้าตัวนั้นไปเตรียมตัวที่กองถ่ายแต่เช้ามืดจึงไม่ได้มาด้วย
นางเอกสาวลุกขึ้นอย่างเกียจคร้าน เธอแต่งตัวด้วยชุดเดรสสั้นสีหวาน แต่งหน้าอ่อน ๆ ปล่อยผมที่หยักเป็นลอนคลื่นให้สยายเต็มแผ่นหลัง เธอไม่คิดแต่งอะไรมาก เพราะอย่างไรก็ต้องไปแต่งอีกอยู่ดี
หน้าโรงแรมมีรถตู้สีดำจอดอยู่ มินาริเดินเข้าไปอย่างคุ้นเคย รถตู้คันนี้เธอใช้โดยสารตลอดเวลาที่อยู่ประเทศไทย คนขับเป็นชายอายุราวห้าสิบปีชื่อลุงเขม
ลุงเขมเป็นชายไทยที่สูงไม่มากเท่าไหร่ ร่างกายกำยำ ผิวสีแทนเข้ม ไว้หนวดรอบริมฝีปากดูน่ากลัว แต่นิสัยใจคอกลับขี้เกรงใจ พูดจาสุภาพผิดกับหน้าตาลิบลับ
"เชิญครับคุณมีนา"
ลุงเขมลงมาเปิดประตูรถให้นางเอกสาว ใบหน้าก้มต่ำไม่กล้าสบตากับคนน่ารักเหมือนกับทุก ๆ ครั้ง
"ขอบคุณค่ะลุงเขม"
เสียงหวานเพราะพริ้งทำเอาคนแก่ใจสั่น เขมปิดประตูลงแล้วรีบไปประจำที่คนขับ รอจนกระทั่งนางเอกสาวนั่งเรียบร้อยจึงออกรถ
ขับออกมาได้ไม่เท่าไหร่รถตู้คันใหญ่ก็จอดนิ่ง สภาพการจราจรตอนเช้าของกรุงเทพฯ เข้าขั้นย่ำแย่ ขยับได้สองเมตรก็ต้องหยุดอีกครั้ง เป็นแบบนี้มากว่าครึ่งชั่วโมงแล้ว
"รถติดจังค่ะ"
"ครับ ที่กรุงเทพฯ ชั่วโมงเร่งด่วนติดแบบนี้เป็นปกติ"
"ที่ญี่ปุ่นคนเดินทางด้วยรถไฟ ชั่วโมงเร่งด่วนรถไฟแน่นมากค่ะ"
"อึดอัดแย่เลยครับ"
"ค่ะ บางทีก็ถูกลวนลาม"
"แย่มากเลยครับ"
"ไม่หรอกค่ะ บางทีมันก็ตื่นเต้นดี"
มินาริพูดพลางสังเกตท่าทางของลุงเขมไปด้วย ชายแก่มีท่าทางตกใจ ดวงตาเบิกกว้างขึ้นเล็กน้อย
"คิก! มีนาล้อเล่นค่ะ"
เสียงหัวเราะใสกังวานทำให้เขมถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่
"คุณมีนา ผมตกใจแทบแย่"
"ขอโทษค่ะ อืม...ตอนนี้มีนาง่วงมากเลยค่ะ อีกนานกว่าจะถึง ของีบก่อนได้ไหมคะ"
"ตามสบายเลยครับ" เขมหยิบผ้าผืนบางส่งให้หญิงสาว "ผ้าห่มครับ"
นางเอกสาวปรับเบาะลงจนเกือบสุด เธอคลี่ผ้าห่มคลุมร่างแล้วทิ้งตัวลงนอน รถคันนี้กว้างขวางสามารถนอนได้สบาย ๆ ที่วางขามีที่เหลือเฟือให้เธอวางของได้เต็มที่
เขมเหลือบมองร่างเล็กผ่านกระจกมองหลัง ดูเหมือนว่ามินาริจะหลับไปแล้ว ดวงตากลมโตปิดสนิท แขนทั้งสองข้างกอดหน้าอกอวบใหญ่ไว้
อึก!
เขมลดมือลงบีบนวดเป้าที่ตุงแน่นขึ้นมา ท่อนเอ็นเหยียดขยายใหญ่เต็มหน้าขา อึดอัดจนอยากดึงมันออกมาชักให้น้ำแตกสักน้ำ แต่ตอนนี้มินาริยังอยู่
ไม่มีใครรู้ว่าสามวันที่ผ่านมาเขมใช้ภาพและกลิ่นของนางเอกสาวช่วยตัวเองจนเสียน้ำไปไม่รู้กี่ครั้ง
เขมคือหนึ่งในแฟนคลับตัวยงของมินาริ เขามีแผ่นหนังทุกเรื่องที่นางเอกสาวเล่น มีหนังสือทุกเล่มที่มินาริเป็นนางแบบ ไม่คิดไม่ฝันว่าวันหนึ่งจะได้มาขับรถให้นางเอกในดวงใจแบบนี้
แค่ได้เห็นหน้าเขมตั้งแล้ว ทั้ง ๆ ที่พยายามไม่สบตาแต่ก็ยังได้กลิ่นหอมชวนให้อยากอยู่ดี
เวลาเก้าโมงกว่าแต่ท้องถนนยังไม่มีทีท่าว่าจะกลับมาเป็นปกติ เขมมองนาฬิกาด้วยความกังวลใจ เขาต้องส่งมินาริถึงกองถ่ายสิบโมงตรง ถ้ายังยอมติดแหง่กอยู่แบบนี้คงไปไม่ทัน
คนขับรถมากประสบการณ์ตัดสินใจเลี้ยวเข้าซอยแคบแทนที่จะไปต่อกับถนนใหญ่ รถตู้คันใหญ่วิ่งคันเดียวเกือบเต็มถนน ทางนี้เป็นทางลัดที่เขมไม่ค่อยได้ใช้เท่าไหร่นอกจากจำเป็นจริง ๆ เพราะมันเปลี่ยว ไร้บ้านคน และน้อยครั้งจะมีรถสวนมา
"อืม"
เสียงครางเบา ๆ เรียกให้เขมมองผ่านกระจกมองหลังอีกครั้ง ภาพที่เห็นทำให้ดวงตาเบิกกว้างแทบถลนออกมา ขาเหยียบเบรกกะทันหันจนผ้าที่คลุมร่างเล็กไว้เคลื่อนออกและร่วงหล่น
"ตายแน่มึงไอ้เขม"
ชายวัยห้าสิบบีบนวดเป้าตัวเองไม่หยุด แทนที่จะขับรถต่อเขมกลับหยุดอยู่แบบนั้น จากมองนางเอกสาวผ่านกระจกก็เปลี่ยนเป็นหันไปมองเต็มตา
"โคตรน่าเอา"
พอไม่มีผ้าห่มร่างกายขาวโพลนของนางเอกสาวก็ไม่มีอะไรป้องกัน ชุดที่เธอใส่สั้นอยู่แล้ว พอทิ้งตัวลงนอนก็ยิ่งสั้นจนเห็นกางเกงในสีขาวและเนื้อนูนน่าบีบ
"อู้ยย"
ความโหนกนูนเตะตาให้ชายแก่ใจสั่น มือนวดคลึงเป้าไม่หยุดจนสุดท้ายทนไม่ไหว ตัดสินใจงัดมันออกมาชักรูดถี่ยิบเสียงดังตั่บ ๆ
"คุณมีนาครับ"
"....."
"คุณมีนา หลับลึกจังนะครับ"
เขมจ้องเนินนูนตาไม่กระพริบพร้อม ๆ กับสาวดุ้นใหญ่ช่วยตัวเอง น้ำเหนียวไหลล้นออกมาจากหัวสีแดงคล้ำไม่ขาดสาย
"ซี๊ดดด อยากเสียบดุ้นเข้าไปฉิบหาย นูนขนาดนี้คงจะตอดน่าดู อู้ยย"
เสียงกระเส่าของชายแก่ทำให้คนแกล้งหลับอยากไปด้วย จากทีแรกแค่จะตอบแทนที่เขมดูแลเธออย่างดีเล็ก ๆ น้อยด้วยการโชว์น้องสาวให้เห็นวับแวม ๆ แต่ตอนนี้ชักอยากลองกับคนขับรถแล้วสิ
"อืม"
มินาริแสร้งขยับตัว ขาเรียวยกขึ้นก่ายที่วางแขนเหมือนก่ายหมอนข้าง กระโปรงที่เปิดอยู่แล้วเปิดขึ้นจนเห็นไปถึงไหนต่อไหน เขมน้ำลายสอ อยากลงลิ้นให้นางเอกคนดังดิ้นพล่าน
ร่างกายมักไปก่อนความคิดเสมอ รู้ตัวอีกทีเขมก็ปีนมาด้านหลังแล้วนั่งยอง ๆ ลงตรงหน้าขาเรียวที่แบะออกกว้าง มือหยาบสัมผัสลงบนเป้าอุ่น ๆ ผ่านกางเกงในสีขาวโดยไม่ทันคิดว่าจะทำให้มินาริตื่น
"ขอจับหน่อยนะครับคุณมีนา"
มือหยาบกดลงกับโหนกนูน มืออีกข้างสาวเอ็นเร็วขึ้น ปากส่งเสียงครางซี๊ดซ๊าดไม่ขาดสาย
"ซี๊ดดด อยากยัดเข้าไป อ่าส์"
"....."
"ถ้ายัดเข้าไปคงดูดไม่หยุด โอ้ว แค่คิดก็น้ำจะแตก"
"....."
"โดนของลุงไปรับรองลืมทุกคนแน่คุณมีนา ไม่เคยเจอแบบฝังมุกน่ะสิ"
ฝังมุก!!
มินาริแทบลืมตาโพลงแต่โชคดีที่หยุดตัวเองได้ทัน เธอใจเต้นแรงเมื่อได้ยินคำว่าฝังมุก แน่นอนว่าเธอรู้ว่าฝังมุกคืออะไร แต่ทั้งชีวิตที่ผ่านมาไม่เคยเจอผู้ชายฝังมุกเลยสักครั้ง
เธออยากลอง เพื่อนในวงการเล่าว่าถ้าผู้ชายฝังมุกจะเสียวกว่าปกติหลายเท่า เธออยากรู้เหมือนกันว่ามันจะแค่ไหน
ไม่ได้การ เธอปล่อยลุงเขมไปไม่ได้แล้ว เป็นตายร้ายดียังไงเธอก็ต้องได้ลองดุ้นฝังมุกสักครั้ง
"อือ ดีจัง"
มินาริแกล้งละเมอ เธอครางเสียงหวาน แอ่นโหนกนูนเข้าหามือหยาบให้เขมรู้ว่าเธอเต็มใจ
"ขนาดหลับยังสู้มือ ไหน ขอลุงดูหน่อยว่าสีชมพูเหมือนในหนังไหม"
มินาริรู้สึกได้ว่ากางเกงในถูกดันไปข้าง ๆ ความเย็นจากแอร์เข้ามาประทะเป็นอย่างแรก แล้วเปลี่ยนเป็นลมหายใจอุ่น ๆ ตามมา
"ชมพูจริงด้วย ขนไม่มีสักเส้น"
เขมกลืนน้ำลายดังเอือก ชั่วชีวิตห้าสิบปีไม่เคยเจอโหนกใครสวยเท่านี้มาก่อน อย่างมากก็เห็นในทีวี สู้ของจริงไม่ได้แม้แต่นิดเดียว
"หอมด้วย"
จมูกโด่งสูดกลิ่นฟุดฟิด มินาริขนลุกเกลียว อยากให้เขมทำอะไรสักอย่างที่มากกว่าดมแบบนี้
"อื้อ เสียว"
เธอส่งเสียงครางกระตุ้นอีกครั้ง เขมดูเหมือนว่าจะชะงักไปคล้ายกับกำลังสงสัยว่าเธอตื่นหรือเปล่า แต่เพียงครู่เดียวนิ้วหยาบกร้านก็แตะลงบนติ่งเสียวของเธอ
"อื้อ!"
"แข็งเชียว ขนาดหลับยังมีอารมณ์ หึ ๆ"
เขมบี้ติ่งบวมเต่งเบา ๆ มินาริเด้งเอวขึ้นสู้ เธอแสดงออกว่ามีอารมณ์แต่ไม่ยอมลืมตา ก็แบบนี้มันตื่นเต้นดี
เสียงฟึบฟับดังขึ้นอีกครั้ง มินาริเดาว่าเขมกำลังช่วยตัวเองต่อ นิ้วหยาบขยับเขี่ยไม่หยุด แต่นางเอกสาวรู้สึกว่ามันไม่พอ
ทำไมไม่ใช้ลิ้น!
ช่วงเวลาที่มินาริตัดสินใจจะลืมตาแล้วบอกให้ลุงเขมลงลิ้นให้เธอ เป็นเวลาเดียวกับที่เสียงมือถือของลุงเขมดังขึ้น ชายแก่รีบจัดเสื้อผ้าเธอเข้าที่แล้วกระโดดกลับไปนั่งประจำที่ทันที มินาริได้ยินเสียงคุยโทรศัพท์ เหมือนว่าปลายสายจะเป็นกองถ่ายที่กำลังรอให้นางเอกอย่างเธอไปถึง
"ครับ รถติดมากครับ"
"....."
"ผมมาทางลัด อีกสิบนาทีน่าจะถึงครับ"
"....."
"ครับ ขอโทษด้วยครับ จะรีบไปครับ สวัสดีครับ"
เขมวางสายแล้วถอนหายใจอย่างหงุดหงิด ท่อนเนื้อยังแข็งชี้โด่ไม่ยอมล้มเพราะยังไม่ได้ปล่อยสักน้ำ แต่ทางนั้นก็เร่งมาและเขาไม่มีเวลาให้โอ้เอ้อีก
"เห้อ เซ็ง!"
ในที่สุดรถตู้สีดำก็ขยับตัวอีกครั้ง มินาริพลิกตัวตะแคงข้าง เธอขบฟันด้วยความหงุดหงิดไม่ต่างกัน
.
.
.
.
.
TBC
"ผมดีใจที่ได้ร่วมงานกับนางเอกเก่ง ๆ แบบคุณนะครับ""ขอบคุณค่ะ"มินาริตอบรับด้วยรอยยิ้มเขินอาย นิ้วเกี่ยวเส้นผมขึ้นทัดหูเขิน ๆ แต่ก็ไม่วายทิ้งหางตาให้ชายหนุ่มกล้ามปูถือว่าพระเอกคนนี้ตรงปกทีเดียว หน้าตาหล่อคม ผิวสีน้ำผึ้ง กล้ามใหญ่ ท่าทางเป็นงาน เหลือแค่เรื่องเดียวที่ยังไม่รู้จะใหญ่จริงหรือเปล่าทั้งสองคนนั่งคุยกันเพื่อให้ร่วมงานกันได้ไม่เคอะเขิน บทบาทของวันนี้เป็นบทที่มินาริเจอบ่อยครั้ง 'เด็กสาวไร้เดียงสากับหนุ่มหล่อเซ็กส์จัด' อาจจะเพราะหน้าตาเธอน่ารักจึงได้รับแต่บทสาวน้อยซื่อ ๆ แต่ก็ยอมรับว่ามันคือจุดขายที่ทำให้เธอโด่งดังมาจนถึงทุกวันนี้"สาวบริสุทธิ์เหรอคะ"มินาริอ่านบทแล้วแปลกใจไม่น้อย สาวบริสุทธิ์? ถึงเธอจะเล่นบทสาวน้อยไร้เดียงสาเป็นประจำ แต่ก็ไม่เคยมีบทที่เน้นย้ำขนาดนี้แปลว่าจุดขายของเรื่องนี้คือการแสดงตอนเธอถูกเปิดบริสุทธิ์ สมกับเป็นรสนิยมของชายไทยที่ชอบสาวบริสุทธิ์ ให้ค่ากับพรหมจรรย์ทั้ง ๆ ที่ตัวเองผ่านมาไม่รู้กี่คน"ยากไปไหมครับ""ท้าทายดีค่ะ"มินาริส่งยิ้มให้พระเอกในวันนี้ อีกฝ่ายส่งยิ้มกลับมาพร้อมสายตาเจ้าชู้กรุ้มกริ่มทั้งคู่แยกย้ายกันไปแต่งหน้าแต่งตัว โลเคชั่นวันนี้เป็นบ้
"อ๊ะ! เจ็บ"ใบหน้าน่ารักบิดเบี้ยว มือเล็กพยายามดันสิ่งแปลกปลอมออกจากร่างกาย มินาริส่ายหน้าไปมา น้ำตาคลอเต็มสองตาจวนเจียนจะไหลเต็มแก่"ไม่เอา เจ็บ... พี่เคนหนูเจ็บ"มินาริตีบทแตกกระจาย ถ้าใครไม่รู้จักเธอมาก่อนคงคิดว่าเธอเป็นสาวบริสุทธิ์จริง ๆ ทั้งเนื้อตัวที่สั่นระริก ดวงตากลมที่เต็มไปด้วยน้ำตา และสีหน้าที่ดูเจ็บปวดและหวาดกลัว"ชู่วว พี่ไม่ใส่แล้ว"เคนจูบหน้าผากน้องสาว เขาไม่ดึงดันสอดนิ้วเข้าไปอีก ริมฝีปากไล่จูบตั้งแต่หน้าผากลงมาที่ริมฝีปาก แลกลิ้นกันสักพักก็เลื่อนลงมาที่ซอกคอระหง"อะ...อืม"สาวน้อยแหงนคอขึ้น เธอครางแผ่วรับสัมผัสอ่อนโยนทว่าเสียวซ่านเหลือเกินเคนไล่ริมฝีปากลงมาตามร่างกายงดงาม เขาแวะหยอกล้อหัวนมตั้งชันทั้งสองข้าง กดจูบหนัก ๆ ลงบนหน้าท้องแบนราบหลายครั้ง ก่อนจะเคลื่อนลงมาที่ระหว่างขาขาวผ่อง"ว๊าย! พะ...พี่เคน ทำอะไรคะ""พี่จะทำให้มินาริไม่เจ็บ""มะ...ไม่เอา มันสกปรก""ไม่เห็นสกปรกตรงไหน"เคนบังคับให้ขาเรียวอ้าออก เขามองเนินนูนตรงหน้าอย่างชื่นชม สวยไม่มีที่ติดจริง ๆ"พี่เคน หนูอาย""ไม่เห็นต้องอายเลย มินาริของพี่สวยขนาดนี้"สาวน้อยเมื่อถูกชมมาก ๆ เข้าก็เริ่มไม่เป็นตัวเอง มือ
"เฮ้อ!"เขมมองเจ้าของเสียงถอนหายใจหนัก ๆ ผ่านกระจกมองหลัง ใบหน้าสวยน่ารักดูยุ่งยากไม่สบอารมณ์บ่งบอกว่ากำลังหงุดหงิดกับอะไรบางอย่างอยู่"เหนื่อยหรือครับ"ชายแก่ถามตามประสา เห็นเด็กสาวอายุน้อยกว่าหนึ่งเท่าตัวดูเหนื่อยอ่อนก็เป็นห่วงถ่ายหนังติดต่อกันสามวันแล้ว เขมไม่รู้ว่ากองถ่ายหนังแบบนี้เขาทำงานกันอย่างไร แต่ก็น่าจะเหนื่อยน่าดูขึ้นชื่อว่างาน ไม่มีคำว่าสบายหรอก"แค่มีเรื่องยุ่งยากน่ะค่ะ""ถ้าไม่ใช่ความลับ ระบายให้ลุงฟังก็ได้นะครับ เผื่อจะอารมณ์ดีขึ้น""มันไม่ใช่ความลับหรอกค่ะ แต่..." นางเอกสาวกัดริมฝีปากอย่างชั่งใจ "หนังที่ถ่าย มีนาแทบไม่ได้ถึงจุดสุดยอดเลย"เขมเบิกตากว้าง ชายแก่ไม่คิดว่าเรื่องที่มินาริหงุดหงิดคือเรื่องนี้เลยไม่ได้เตรียมใจไว้"ได้ยินแบบนี้แล้วลุงเขมยังอยากให้มีนาระบายอยู่ไหมคะ"เขมนิ่งคิดชั่วอึดใจ ไหน ๆ ก็ ไหน ๆ ถ้าปฏิเสธไปนางเอกคนสวยคงเสียหน้าน่าดู"ครับ""เขาเป็นผู้ชายที่เรื่องบนเตียงห่วยมากค่ะ" มินาริจงใจไม่เอ่ยชื่อเคนตรง ๆ "แรก ๆ ก็ดีค่ะ เล้าโลมดี ดูใส่ใจ แต่พอหลัง ๆ กลับทำแบบขอไปที มีนาไม่เสร็จเลยนอกจากครั้งแรก แต่ต้องทำเป็นมีความสุขเพราะหน้าที่""แย่เลยนะครับ""แย
มินาริส่ายหน้าเบา ๆ ปากพร่ำบอกว่าไม่ตลอดเวลา ร่างกายสั่นระริก ดวงตากลมโตมีน้ำใสคลอเอ่อน่าสงสาร แต่ไม่ได้ทำให้เขมเปลี่ยนใจชายแก่ปรับเบาะนั่งให้กลายเป็นเบาะกึ่งนอน มือหยาบดันร่างเล็กลงเมื่อมินาริพยายามดิ้นหนี เขมใช้ผ้าที่ฉีกขาดกับมือมัดนางเอกสาวไว้ ก่อนจะทรุดกายลงกับพื้นรถระหว่างขาเรียว"ลุงเขม ยะ...อย่าค่ะ"เขมจับขาขาวนวลตั้งชัน แหกออกกว้างจนเห็นเนื้อนูนที่ซ่อนอยู่ใต้กางเกงในเปียกแฉะ"กลิ่นดี"เขมสูดดมกลิ่นสาวอย่างหื่นกระหาย เสียงลมหายใจฟืดฟาดเล่นเอานางเอกที่ผ่านผู้ชายมาไม่น้อยขนลุกเกรียว"แฉะเชียว"เขมถูท้องนิ้วกับใจกลางเนื้อนูน มินาริกระตุกเบา ๆ เม็ดกระสั่นขยายใหญ่ขึ้นเพราะความเสียวซ่าน"อะ...อย่า""บอกว่าอย่าแต่แอ่นตามนิ้วไม่หยุด นี่แหนะ!"เขมขยี้นิ้วกับเม็ดเสียวแรง ๆ ส่งผลให้ร่างเล็กดิ้นพล่าน"อ๊าาา อย่า อ๊าาา""ร้องอีก ร้องดัง ๆ""ไม่ อย่า อ๊าาาา"เขมขยี้นิ้วอย่างชอบใจ ตามองเอวคอดกิ่วที่ร่อนตามนิ้วทั้ง ๆ ที่ปากร้องห้ามไม่หยุด เป้ากางเกงในนางเอกคนสวยเปียกชื้นกว่าตอนแรก เขมละมือออก ชูนิ้วที่เปียกลื่นให้มินาริดู"คุณนางเอก อยากมากเลยเหรอ น้ำเต็มนิ้วผมเชียว""ทุเรศ!""เอ้า น้ำตัวเองน
"ยังไม่ตั้งครรภ์นะครับคุณเนตรดาว" คุณหมอวัยเกือบหกสิบปีพูดประโยคเดิมกับคน ๆ เดิมเป็นครั้งที่ห้าในรอบปี ในฐานะหมอเขาไม่ได้รู้สึกดีที่ใบหน้าสวยสดจืดเจื่อนด้วยความผิดหวัง แต่ความจริงอย่างไรก็คือความจริง "แล้วที่เนตรมีอาการอ่อนเพลีย อาเจียน ประจำเดือนขาดล่ะคะ" "เพราะความเครียดครับ" "....." "คุณเครียดมากเกินไปจนส่งผลให้ฮอร์โมนแปรปรวนและเกิดอาการดังกล่าว หมอแนะนำให้คุณเนตรหยุดคิดเรื่องนี้สักพัก พักผ่อนให้เพียงพอ กินอาหารให้ครบห้าหมู่ ร่างกายจะได้กลับมาแข็งแรงนะครับ" "เนตรสามารถท้องได้จริง ๆ ใช่ไหมคะคุณหมอ" เนตรดาวถามคล้ายกับไม่ได้ยินประโยคยาว ๆ จากคุณหมอ มือบางวางทาบบนหน้าท้องแบนราบ น้ำเสียงของเธอสั่นเครือคล้ายจะร้องไห้ มันตั้งห้าปีแล้วนะ ทำไมเธอยังไม่มีข่าวดีเหมือนคนอื่นเขา เนตรดาวแต่งงานตอนอายุยี่สิบห้า สามีของเธอเป็นเพื่อนร่วมคลาสสมัยเรียนมหาวิทยาลัยที่พัฒนามาเป็นคนรัก เขาคือผู้ชายที่ดีที่สุด ตลอดเวลาที่แต่งงานกันไม่มีวันไหนที่เนตรดาวไม่มีความสุข ยกเว้นเรื่องเดียว "ร่างกายคุณเนตรดาวพร้อมสำหรับการตั้งครรภ์มากครับ" "แล้วทำไม..." ทำไมเธอยังไม่มีทายาทให้สามีเสียที . . "คุณเคร
"ไปไงมาไงถึงมาโผล่หน้าบ้านพี่ได้" ตรัยเอ่ยถามน้องชาย ผู้ชายทั้งสองที่กำลังนั่งประจันหน้ามีใบหน้าเหมือนกันอย่างกับแกะ ต่างที่รูปร่างเพราะตุลย์ตัวสูงใหญ่กว่านิดหน่อย ผิวคล้ำกว่า คงเพราะตุลย์ชอบเล่นกีฬากลางแจ้ง ส่วนตรัยนั้นชอบอยู่ในห้องแอร์ ตรัยและตุลย์เป็นแฝดที่เกิดห่างกันครึ่งชั่วโมง เหตุเพราะตุลย์ไม่ยอมคลอดออกมาง่าย ๆ เล่นเอาทั้งแม่และหมอเครียดจนแทบร้องไห้ตอนเกิดตุลย์ไม่แข็งแรง ตัวเล็ก ลีบ และมีภาวะตัวเหลืองต้องนอนในตู้อบนานหลายวัน ช่วงวัยเด็กตุลย์ขี้โรค ผอมแห้ง ถูกรังแกตลอดเวลา ตรัยที่เป็นพี่ชายคอยช่วยน้องทุกครั้ง ทำให้ตุลย์นับถือตรัยมากแม้จะเกิดห่างกันแค่ครึ่งชั่วโมง "มาเซอร์ไพร์ส" "แม่กับพ่อไปฮันนีมูนรอบที่สามสิบเอ็ดที่อิตาลี" "ใช่ครับ โดนเซอร์ไพร์สกลับเลยเพราะพ่อกับแม่ไม่อยู่บ้าน ผมไม่อยากอยู่เหงา ๆ เลยมากวนพี่ชายกับพี่สะใภ้ โอ๊ะ! ขอบคุณครับพี่เนตร" ตุลย์ส่งยิ้มให้พี่สะใภ้คนสวย เนตรดาววางแก้วน้ำเย็น ๆ ลงตรงหน้าน้องสามี ก่อนจะทิ้งตัวนั่งข้างกับตรัย เพราะตุลย์นับถือตรัยมาก ดังนั้นชายหนุ่มจึงนับถือพี่สะใภ้ไม่ต่างกัน แม้ว่าเนตรดาวจะอายุเท่ากับเขา แต่ตุลย์ก็ติดเรียกพี่มาตั้งแต่
มื้อเช้าวันนี้มีแขกร่วมโต๊ะเพิ่มมาหนึ่งคน เนตรดาวเป็นคนเข้าครัวทำข้าวต้มหมูทรงเครื่องเอง ส่วนแม่บ้านที่จ้างเช้าเย็นกลับขึ้นทำความสะอาดห้องนอนแขกให้ตุลย์ ตรัยมีสีหน้าสดชื่นกว่าทุกวัน ชายหนุ่มยิ้มแย้มอย่างอารมณ์ดี พลอยให้ภรรยาอย่างเนตรดาวมีความสุขไปด้วย "วันนี้จะไปเที่ยวไหนหรือเปล่า ไม่ได้กลับไทยตั้งนานประเทศเราเปลี่ยนไปเยอะเลยนะ" "ไปครับ ผมนัดเพื่อนไว้ช่วงบ่าย คงกลับมาดึก ๆ" "งั้นกินข้าวเช้าเสร็จก็ขึ้นไปนอนพัก หน้าตาดูโทรมนะ เมื่อคืนแปลกที่แล้วนอนไม่หลับใช่ไหม" ตุลย์หัวเราะเบา ๆ แล้วพยักหน้ารับ "ครับ หลับ ๆ ตื่น ๆ ทั้งคืนเลย" สองพี่น้องพูดคุยกันตามประสาจนมื้อเช้าจบลง เนตรดาวและตุลย์ลุกขึ้นไปส่งเจ้าบ้านที่เตรียมตัวไปทำงาน ตรัยวางมือบนเอวบางและเดินเคียงข้างกันไปจนถึงหน้าประตูบ้าน "วันนี้ผมคงกลับดึกหน่อยนะ" "มีกินเลี้ยงเหรอคะ" เนตรดาวถามพลางจัดเนคไทให้สามี เมื่อเรียบร้อยก็ส่งยิ้มหวานให้ตรัย "อย่าดื่มเยอะนะคะ" "ครับที่รัก" ตรัยก้มลงมาจูบปากอิ่มเบา ๆ เนตรดาวแก้มแดงขึ้นทันตา สามีเธอแสดงความรักแบบนี้เสมอ แต่ครั้งนี้เราไม่ได้อยู่กันแค่สองคน "อายคุณตุลย์เขานะคะ" เธอต่อว่าไม่จริงจัง
"อะ...อ๊าาาา" เนตรดาวแอ่นเนินสวาทขึ้นรับลิ้นหนาที่แลบเลีย ขนอ่อนลุกชูชันไปทั่วตัว รวมถึงจุดอ่อนไวที่ชูช่อด้วยความซ่านสยิว ตรัยกดลิ้นลงมาหนัก ๆ ขยี้เน้นแรง ๆ โดยเฉพาะส่วนที่แข็งเป็นไตและสั่นระริกเพราะความกระสั่น "ตรัยคะ อ๊า" เธอไม่ได้คิดไปเอง วันนี้สามีร้อนแรงผิดปกติ และเธอก็ยอมรับว่าเธอชอบ ชอบมาก... "อ๊าาา ตรงนั้น" ลิ้นหนาปาดเลียทั่วร่องเสียวอย่างช่ำชอง พอเนตรดาวร้องครางตรงไหนมากกว่าปกติสามีก็จะขยี้เน้นให้ภรรยาครางจนหอบ ต่างจากปกติที่เขามักจะปาดมั่ว ๆ โดนจุดเสียวบ้างไม่โดนบ้าง ใช้ลิ้นสักพักก็ขึ้นคล่อมแล้วสอดท่อนกายเข้ามา ตรัยเป็นคนดี แต่เรื่องบนเตียงเขาทำหน้าที่ได้แย่จริง ๆ "อืม...เสียวจัง" เนตรดาวครางกระเส่า แอ่นเนินสาวเข้าหาลิ้นนุ่มที่ฉกกลับมาอย่างไม่ยอมแพ้ เม็ดสวาทของเธอถูกดูดดึงขบกัดเบา ๆ น้ำหวานที่ไหลอาบถูกดื่มกินจนแห้ง แต่สักพักมันก็ไหลย้อยลงมาตามเดิมและสามีเธอก็เลียกินมันซ้ำ ๆ อย่างคนไม่รู้ยังอิ่ม ดื่มกินน้ำหวานจนพอใจสามีก็เคลื่อนกายขึ้นมาหา ในเงามืดสลัวเนตรดาวเห็นผู้ชายที่รักมากที่สุดจ้องมองเธอด้วยสายตาหื่นกระหาย ตรัยในเวลานี้ไม่เหมือนตรัยเลย แต่ใบหน้านั่นก็ทำให้เธอไม
ชึ่บ... ซิบกางเกงถูกรูดลงด้วยฟันขาวจนสุด ผ้าทั้งสองด้านดีดผึงออกจากกัน เผยให้เห็นชั้นในสีเข้มที่อัดแน่นไปด้วยความต้องการของคนวัยหนุ่ม "ใหญ่จัง" พลอยไพลินส่งเสียงอ้อแอ้ ดวงตาหยาดเยิ้มจ้องมองเป้าตุงแน่น ก่อนจะค่อย ๆ อ้าปากออก "พี่พลอย อืม" ฟันขาวงับขอบกางเกงใน เธอช้อนตาขึ้นมองแฟนเด็ก ระหว่างที่ค่อย ๆ ดึงชั้นในที่ห่อหุ่มความเป็นชายออกช้า ๆ "พี่ อึก!" "อ๊ะ!" ท่อนลำขนาดใหญ่ตีเข้าที่ใบหน้าคุณแม่ลูกหนึ่งเบา ๆ เพียงแค่นั้นความชุ่มฉ่ำบริเวณหัวหยักก็เปียกเยิ้มติดกลีบปากและปลายจมูกรั้น บางส่วนเลอะแก้มเนียนเป็นคราบเหนียว "พี่พลอย ผมไม่ไหว" "เดี๋ยวสิ" พลอยไพลินไม่ยอมให้กฤตลุกขึ้นมา เธอนั่งคล่อมขาแฟนเด็ก ใช้หัวเข่าของกฤตเป็นจุดเร้าอารมณ์ให้ตัวเองไม่ต่างจากผู้หญิงร่านรัก "อ๊าาา ดีจัง" หัวเข่าเสียดสีกับเนื้อนุ่มเป็นจังหวะ ไม่นานกฤตก็รู้สึกได้ถึงความเปียกที่ไหลซึมกางเกงลงมา จากนั้นพลอยไพลินก็เร่งจังหวะขึ้นถี่ ๆ ไม่ถึงนาทีร่างกายก็กระตุกเฮือกพร้อมกับส่งเสียงครางหวานออกมา "อ๊างงง" พลอยไพลินเสร็จสมคาหัวเข่าของกฤต เธอหอบหายใจให้อารมณ์กลับมาคงที่ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นแล้วส่งยิ้มหวานให้แฟนเด็ก "
(พี่พลอยกินข้าวหรือยังครับ) "กินแล้ว กฤตล่ะ" (กินแล้วเหมือนกัน พี่พลอย... ผมต้องไปทำงานอีกแล้วอะ) "เหรอ" พลอยไพลินบังคับไม่ให้น้ำเสียงดูเหงาหงอยเกินไป "งั้นกฤตไปทำงานเถอะ ตั้งใจทำงานนะ" (ครับ รักพี่นะ) "อืม" คำบอกรักทำให้พลอยไพลินใจชื้นขึ้นมาได้บ้าง เธอวางสายจากแฟนหนุ่มแล้วหันกลับมาจัดการงานของตัวเองต่อ แต่สมาธิทั้งหมดกลับแตกกระเจิงเพราะเอาแต่คิดถึงกฤตซ้ำ ๆ สองเดือนกว่าแล้วที่กฤตไปฝึกงานที่ระยอง และมันก็เป็นเวลาสองเดือนกว่าที่เราทั้งคู่ไม่ได้เจอหน้ากันเลย "เฮ้อ..." กฤตนั้นงานยุ่งมาก เพชรเองก็ไม่ต่างกัน ยุ่งถึงขั้นที่ระยองใกล้กับกรุงเทพแค่นี้ยังกลับมาหากันไม่ได้ ยุ่งจนแทบไม่ได้คุยกัน บางวันไม่มีแม้แต่สายเดียวจากกฤตและเพชรเลยด้วยซ้ำ กฤตเป็นลูกชายคนสุดท้องของบริษัทก่อสร้างยักษ์ใหญ่ เขาเลือกไปฝึกงานกับบริษัทอื่นเพื่อลดคำครหาว่าใช้เส้นสาย แต่ขนาดหนีจากบริษัทตัวเองไปแล้วกฤตก็ยังถูกนินทาว่าใช้เส้นพ่อ แม่ และพี่ ๆ ถึงได้สอบสัมภาษณ์ผ่าน ลามมาถึงเพชรว่ากฤตฝากเพชรเข้าไปด้วย ทั้งคู่ก็เลยต้องการลบคำสบประมาทด้วยการสร้างผลงานให้เห็น ดังนั้นจึงไม่แปลกเลยที่เด็กฝึกงานทั้งสองคนจะยุ่งเกินเด็กฝ
"มึง!" นิ้วสั่นระริกชี้หน้าเพื่อนสนิท เพชรพยายามห้ามตัวเองอย่างหนักไม่ให้พุ่งเข้าไปต่อยหน้าหล่อ ๆ ของเพื่อน กล้าดียังไงถึงได้หลอกเขาว่าป่วย แถมใช้แฟนสาวของเขาเป็นเครื่องมือแบบนี้อีก "อะไร ไม่ชอบเหรอ" "มึงมัน...แม่ง!" เพชรจำใจลดมือลง จะว่าไปที่กฤตทำก็ไม่ได้แย่เสียทีเดียว เพชรไม่ค่อยได้ใช้เวลากับแฟนเพราะแฟนเรียนหนักและเรียนคนละมหาวิทยาลัย เมื่อวานพอเธอโทรหา ออดอ้อนไม่กี่คำเขาก็พุ่งไปคอนโดเธอทันที หลังจากนั้นก็จับแฟนกินจนลืมเวลา พอกลับบ้านมาตอนสาย ๆ แทนที่คนเปิดประตูบ้านจะเป็นแม่ แต่กลับเป็นเพื่อนสนิทที่ส่งยิ้มกวนประสาทมาให้ พลาดแล้ว เพชรพลาดไปแล้ว "มึงไม่รักษาคำพูด กูบอกว่าสองอาทิตย์" "กูสั่งให้มึงห่างกับแฟนมึงสองอาทิตย์บ้างไหมล่ะ" "ไอ้กฤต" "ทะเลาะอะไรกันเด็ก ๆ" พลอยไพลินเดินออกมาจากห้องครัวพร้อมคุกกี้หวานน้อยของโปรดของเพชร ในตอนที่เธอจะนั่งลงบนโซฟาเอวก็ถูกแขนแกร่งรวบไปนั่งบนตักหน้าตาเฉย "กฤต!" "ไอ้กฤต! ลามปามนะมึง" "ทำไม นี่เมียกู" ฟอด! "แก้มนี้ก็ของกู" "กฤต!!" "ไอ้!!" เพชรชี้หน้าเพื่อน ทั้งโกรธทั้งหมั่นไส้ อยากลุกไปต่อยหน้ามันซักทีให้หายกวนประสาท ติดที่แม่ของเขาถูกจั
กฤตยันตัวขึ้น จับขาเรียวขึ้นพาดบ่าหนึ่งข้าง มันเป็นท่าโปรดของกฤต ส่วนพลอยไพลินนั้นตาโต ตื่นเต้นกับสิ่งที่กฤตทำทุกอย่าง เธอเป็นแม่ลูกหนึ่งที่อ่อนประสบการณ์ ครั้งแรกของเธอไม่มีอะไรน่าจดจำ แต่ครั้งนี้มันต่าง เธออยากเฝ้ามองทุกขั้นตอนที่กฤตทำ อยากจดจำทุกท่วงท่าและลีลาของเด็กคนนี้ "พี่พลอย" "หืม" "ถ้ารอบนี้ผมแตกเร็วห้ามแซวกันนะครับ พี่โคตรแน่นเลย ผมเหมือนจะตาย" พลอยไพลินพยักหน้ารับ กฤตเมื่อได้ท่าก็ค่อย ๆ ดึงท่อนเอ็นออกจากรูสวาทคับแคบ เสียงซี๊ดปากเบา ๆ ดังขึ้นจากเด็กหนุ่มเพราะเนื้อนุ่มดูดตอดเหมือนไม่ต้องการให้เขาออกไปไหน กฤตก้มลงมอง ดวงตาวาววับจ้องมองปากทางที่อ้าขยายอมท่อนเอ็นอวบใหญ่ไว้แทบปริขาด "พี่พลอย" "กฤต อื้อ" แม่ลูกหนึ่งรู้สึกเหมือนถูกดึงวิญญาณออกจากร่าง ทั้งอึดอัด ทั้งเจ็บ แล้วก็เสียวในเวลาเดียวกัน เธออยากให้กฤตขยับทำอะไรให้ความอึดอัดนี้หายไป แต่พอกฤตขยับตัวร่างกายเธอกลับดูดรั้งกฤตเอาไว้อย่างตะกละตะกราม "ผ่อนคลายหน่อยครับ ผมอยากกระแทกพี่จะแย่" "พี่ อ๊ะ พยายามอยู่" กฤตดึงท่อนเอ็นออกไปเกือบสุด มีเพียงแค่หัวหยักบานใหญ่ที่แช่คาในรูฉ่ำน้ำ เขามองภาพสวยงามนั้นอึดใจ ก่อนสะโพกสอบจะ
"พี่พลอย" "หืม?" กฤตกลืนน้ำลายเหนียว ๆ ลงคอ ดวงตาไล่มองเรือนร่างเล็กตามสไตล์หญิงเอเชียแต่ไม่ได้ผอมแห้ง พลอยไพลินมีเนื้อให้บีบจับ แต่ก็มีกล้ามเนื้อน้อย ๆ บ่งบอกว่าเป็นคนรักสุขภาพ หุ่นโค้งเว้าไม่ต่างจากนาฬิกาทราย อกอวบ สะโพกผายและเอวคอด ร่องสิบเอ็ดตรงหน้าท้องเสริมให้เธอดูเซ็กซี่เย้ายวน "พี่พลอยไม่เหมือนคนอายุสามสิบห้า" "ทำไม" "พี่โคตรสวย" กฤตวางมือลงบนหน้าท้องที่มีกล้ามน้อย ๆ "เซ็กซี่โคตร ๆ เลย" "กฤตเอาเปรียบนะ เห็นพี่ทั้งตัวแล้วแต่กฤตยังเสื้อผ้าครบอยู่เลย" "อ่า..." กฤตได้ยินแบบนั้นก็รีบลุกขึ้นถอดเสื้อผ้าออกอย่างรวดเร็ว ทันทีที่ได้เห็นเรือนกายที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามของเด็กหนุ่มพลอยไพลินก็หน้าร้อนผ่าว แต่นั่นไม่เท่ากับตอนที่กางเกงในสีเข้มถูกรูดออก ส่วนกลางลำตัวอวบใหญ่เหยียดตรงและชี้มาที่หน้าเธอ กฤตผิวขาว ตรงนั้นก็เลยขาวสะอาด ส่วนหัวสีแดงระเรื่อ พลอยไพลินเอนหน้าหนี เธอไม่ใช่หญิงบริสุทธิ์แต่ก็ไม่ต่าง เซ็กส์ครั้งเดียวแถมตอนนั้นไม่ได้ทำอะไรนอกจากนอนให้ผู้ชายคนนั้นกระทำย่ำยี มันต่างกับตอนนี้ที่ได้เห็นร่างกายของกฤตทุกสัดส่วน "พี่พลอยครับ" กฤตคร่อมทับลงมาอีกครั้ง ริมฝีปากนุ่มพรมจูบข้า
คุณแม่ลูกหนึ่งเดินเข้าห้องน้ำพร้อมผ้าเช็ดตัวเพื่อชำระคราบเหงื่อไคล บ้านของพลอยไพลินเป็นทาวน์โฮมสองชั้นขนาดเล็กกระทัดรัด สองห้องนอน สองห้องน้ำ ชั้นล่างมีห้องรับแขกที่เป็นห้องนั่งเล่นไปในตัว ห้องครัวและโต๊ะกินข้าว ห้องน้ำหนึ่งห้องสำหรับแขก ส่วนชั้นบนเป็นห้องนอนสองห้อง และห้องน้ำหนึ่งห้อง ดังนั้นพลอยไพลินจึงไม่มีห้องน้ำส่วนตัว แต่เธอก็ไม่เคยเดือดร้อนเพราะอยู่กับลูกชายแค่สองคน ไม่เคยมีปัญหาประเภทแย่งห้องน้ำกันให้ปวดหัว หญิงสาวฮัมเพลงในลำคอเบา ๆ ระหว่างลูบไล้ใยบวบไปทั่วร่างกายอวบอิ่ม พลอยไพลินเป็นแม่ลูกหนึ่งที่มีหุ่นเว้าโค้งน่าอิจฉา ผิวขาวผ่อง หน้าอกหน้าใจอวบใหญ่เกินตัว เอวคอดบาง สะโพกผาย หน้าท้องมีกล้ามเนื้อนิด ๆ เพราะเธอชอบออกกำลังกาย พลอยไพลินตั้งท้องเพชรตั้งแต่อายุสิบสี่ พ่อของเพชรชื่ออะไรเธอไม่อยากจำ จำได้แค่ว่าเขาเป็นรุ่นพี่มอหกที่โรงเรียนเดียวกัน เป็นนักกีฬา ประธานนักเรียน หล่อ และรวย ส่วนพลอยไพลินนั้นเป็นเด็กสาวหน้าตาน่ารัก เรียบร้อย เรียนเก่ง ฐานะกลาง ๆ และไม่เคยออกนอกลู่นอกทาง เด็กสาวที่อายุยังน้อยและไม่มีประสบการณ์มากมายถูกรุ่นพี่คนดังจีบ ตอนนั้นพลอยไพลินเหมือนอยู่ในทุ่งดอกไ
"แม่ครับ วันนี้ไอ้กฤตจะมานอนบ้านนะ" เสียงตะโกนดังแว่วมาจากหน้าบ้าน พลอยไพลินล้างมือเช็ดกับผ้าสะอาดจนแห้งแล้วเดินออกไปหาลูกชายที่กำลังก้าวออกจากบ้านพอดี "เพชร มาให้แม่หอมหน่อย" "ไม่เอาครับ เพชรโตแล้ว อีกแค่ปีเดียวก็เรียนจบแล้วแต่แม่ยังไม่เลิกหอมเพชรอีก" "ก็แม่รักเพชรนี่" "เพชรก็รักแม่ แต่เพชรอายคนอื่น เพื่อนล้อว่าเพชรเป็นลูกแหง่" พลอยไพลินหน้างอ ลูกชายเห็นแบบนั้นก็เดินมากอดเอวคอดบางที่แทบไม่อยากจะเชื่อว่าผู้ชายตัวโตขนาดนี้เคยนอนอยู่ในนั้นตั้งเก้าเดือน "แค่กอดเพชรไม่ว่า แต่หอมแก้มเพชรไม่อยากให้ทำแล้ว" คุณแม่เลี้ยงเดี่ยวพยักหน้าเข้าใจ เพชรอายุยี่สิบเอ็ดปีแล้ว สูงกว่าเธอตั้งยี่สิบเซน เจ้าตัวคงอายที่ถูกแม่หอมแก้มเป็นเด็ก ๆ "เพชรกลัวว่าคนจะเข้าใจผิดว่าแม่เป็นแฟนเพชร" "ใครคิดแบบนั้น" "เยอะแยะ เวลาไปไหนมาไหนไม่มีใครคิดว่าเราเป็นแม่ลูกหรอก ก็แม่เพชรหน้าเด็กขนาดนี้ ลำพังตัวเพชรไม่เท่าไหร่ แต่เพชรกลัวคนเอาแม่ไปนินทา" พลอยไพลินลูบหัวทุย พอได้ฟังเหตุผลของลูกก็พอจะเข้าใจได้ว่าทำไมลูกชายถึงไม่ยอมให้หอมเหมือนเมื่อก่อน "ลูกแม่โตเป็นหนุ่มแล้วสินะ" . . พลอยไพลินปีนี้มีอายุสามสิบห้าปีเต็ม
"ขอโทษด้วยนะคะที่เมื่อตอนกลางวันปล่อยให้คุณรอเก้อ" ทอปัดหน้าเสีย ยิ่งเห็นว่าแพททริคส่งยิ้มไม่ถือสามาให้เธอยิ่งรู้สึกผิด เมื่อกลางวันเธอกลับมาไม่ทัน เหตุผลก็ไม่ใช่เพราะใครเลย "ไม่เป็นไรครับ คุณขอโทษผมหลายครั้งแล้วนะ แถมยังชดเชยด้วยดินเนอร์บรรยากาศดี ๆ แบบนี้อีก" "แต่ฉันก็ยังรู้สึกผิดอยู่ดี" "เขาบอกว่าไม่เป็นไรก็ไม่เป็นไรสิ" เสียงของบุคคลที่สามเอ่ยขัดขึ้นโดยไม่สนมารยาท "มิสเตอร์แพททริค แม่ครัวของเราฝีมือดีมาก ผมอยากให้คุณลองทานปลาเนื้ออ่อนผัดฉ่าดู ไม่เผ็ด คุณทานได้" ราเมศพูดเองเออเองพลางตักเนื้อปลาขาว ๆ ราดด้วยน้ำสีส้มสดใสไปใส่ในจานของว่าที่คู่ค้า ฉีกยิ้มให้แล้วพยักเพยิดให้แพททริคกินมันเข้าไป ทอปัดมองทั้งสองคนด้วยท่าทางหนักใจ ตัวแพททริคไม่เท่าไหร่ แต่ราเมศนี่สิ ไม่รู้วันนี้ผีอะไรเข้าสิงถึงได้ทำตัวแปลก ๆ ตั้งแต่ตั้งใจมีอะไรกับเธอจนเลยเวลาอาหารเที่ยง ไม่ว่าทอปัดจะร้อง(คราง)ห้ามเท่าไหร่ก็ไม่ฟัง จับเธอเปลี่ยนท่าไปหลายท่าจนน้ำตกที่เคยใสขุ่นมัวถึงยอมพาเธอกลับบ้าน แต่นั่นก็เลยเวลาอาหารเที่ยงมาชั่วโมงกว่าแล้ว ทอปัดรีบติดต่อหาแพททริค นักธุรกิจตาน้ำข้าวไม่ได้ต่อว่าอะไร เขาบอกว่าเข้าใจและ
ไร่ราเมศเข้าสู่ฤดูเก็บเกี่ยวผลผลิต ช่วงนี้เจ้าของไร่จึงยุ่งเป็นพิเศษ เขาต้องตื่นไปไร่แต่เช้ามืด และกลับบ้านหลังจากตะวันตกดินไปแล้ว ส่วนทอปัดเองก็งานหนัก หลังจากผ่านฝึกงานมาได้เธอก็ได้ทำงานในส่วนของการส่งออกสินค้า หลายครั้งเธอต้องเข้าเมืองไปติดต่องาน หรือไม่ก็ต้องต้อนรับลูกค้าที่เข้ามาชมไร่ก่อนตัดสินใจลงทุน ทอปัดนั้นจบภาษามา เธอพูดได้ทั้งอังกฤษและจีน ลูกค้าส่วนใหญ่ที่เจอก็เป็นชาวต่างชาติ พวกเขาค่อนข้างเฟรนลี่ไม่ถือตัว พูดคุยหยอกล้อกับทอปัดเป็นประจำ "วันนี้คุณสวย" แพททริค หนุ่มตาน้ำข้าวชาวอังกฤษวัยสามสิบกลาง ๆ คือลูกค้าที่ทอปัดต้องดูแลตลอดทั้งอาทิตย์นี้ เขามาพักที่ไร่ในบ้านสำหรับแขก ชมไร่ ขี่ม้า และทำกิจกรรมทุกอย่างในไร่อย่างสนุกสนาน ผ่านมาสามวันเขาเริ่มสนิทกับทอปัด พูดคุยหยอกล้อตามนิสัยหนุ่มเจ้าชู้ ทอปัดไม่ถือสาเพราะผลเรื่องการลงทุนกำลังไปในทางที่ดี ถ้ามีแพททริคมาช่วยลงทุนไร่ราเมศคงขยายไปได้ไกลกว่านี้ รวมถึงจะได้กลุ่มลูกค้าจากอังกฤษด้วย "ขอบคุณค่ะ คุณเองก็หล่อนะคะ" ทอปัดยกนิ้วโป้งให้ แพททริคหัวเราะจนตาปิด รู้สึกรักประเทศไทยมากกว่าเดิม ประเทศไทยมีทั้งที่เที่ยวสวย อาหารอร่อย และคน