“ไม่ต้องห่วง ครั้งนี้ไอ้หมอนั่นทำให้เราเสียหน้าไปมากขนาดนี้ ฉันจะไม่ปล่อยมันไปแน่!”สายตาของจางเหวินเคร่งขรึมลงและเอ่ยว่า “เพียงแต่ยังไม่ใช่ตอนนี้”“ทำไมล่ะที่รัก?”สวี่ถิงรู้สึกไม่เข้าใจเล็กน้อย“เพราะท่านเฮดีสยังอยู่เมืองซูอีกตั้งสองวันถึงจะกลับ ไปจัดการมันตอนนี้ มันเสี่ยงเกินไปนะสิ”จางเหวินเล่าสถานการณ์ให้สวี่ถิงฟัง“อีกตั้งสองวันเลยเหรอ? งั้นสองวันนี้เขาก็อยู่สบายเลยสิ!”สวี่ถิงกัดฟัน สายตาเต็มไปด้วยความเกลียดชังเธอแทบอยากจะให้หลินเซวียนรีบตาย ๆ ไปซะ!“หึ ให้มันได้ใจอีกสักสองวัน พอถึงเวลานั้นมันก็จะได้รู้จักอำนาจของฉันคนนี้!”สายตาของจางเหวินขึงขังบังอาจทำให้เขาเป็นตัวตลกต่อหน้าเพื่อนและคนใหญ่คนโตมากมายขนาดนี้ เขาจะไม่ยอมปล่อยให้ไอ้หมอนั่นได้ตายอย่างหนำใจแน่!“ที่รัก ถึงเวลานั้นต้องพึ่งคุณแล้วนะ”สวี่ถิงแสดงความสนิมชิดเชื้อ“จริงสิ ที่รัก แล้วงานแต่งงานของเราล่ะ?”แก้ไขปัญหาหลินเซวียนจบแล้ว สวี่ถิงก็คิดถึงงานแต่งของเธออีกครั้งสายตาของจางเหวินสั่นไหวเขาไม่สนใจงานแต่งบ้าบอนี้เลยสักนิดแต่ทว่าเพื่อให้สวี่ถิงมั่นใจ จึงเอ่ยอีกว่า “ไม่ต้องห่วง เรื่องงานแต่ง ผมจะหาโ
“ที่รัก เกิดอะไรขึ้นงั้นเหรอ?”สวี่ถิงเห็นสีหน้าที่เปลี่ยนไปของจางเหวิน จึงเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง“เฮ้อ”จางเหวินพ่นลมหายใจออกทางปากแล้วเอ่ยว่า "ตอนนี้ยังไม่รู้สถานการณ์ที่แน่ชัด สวี่ถิงคุณรีบไปแต่งตัวแต่งหน้าซะ แล้วไปหยวนหลงกรุ๊ปกับผม”เขาอยากจะพบหน้าประธานหวังด้วยตนเอง“ได้ค่ะ ที่รัก คุณรอฉันสักเดี๋ยว”สวี่ถิงรีบเดินเข้าไปในห้องน้ำทันที ใช้รองพื้นปกปิดรอยฟกช้ำบนใบหน้าของเธอสักหน่อย......ครึ่งชั่วโมงต่อมาทางเข้าของหยวนหลงกรุ๊ป“ไอ้บ้าเอ๊ย ทำไมถึงเป็นแบบนี้ได้!”จางเหวินที่โดนปฏิเสธไม่ให้เข้าพบ เตะสิงโตหินตรงประตูด้วยเท้าข้างหนึ่งอย่างแรงเขาตั้งใจมาเจรจาต่อหน้าประธานหวังผลคือ ประธานหวังไม่มาพบหน้าเขาด้วยซ้ำ และคนที่ตอบกลับเขายังเป็นเลขาของประธานหวังอีกและความหมายของเลขาก็ชัดเจนมาก สำหรับโครงการก่อสร้างเมืองมีคนอื่นที่ถูกเลือกไว้แล้ว“ที่รัก คุณใจเย็นก่อนนะ”สวี่ถิงปลอบใจอยู่ข้าง ๆ“คุณจะให้ผมใจเย็นยังไง!”จางเหวินกัดฟันด้วยความเคียดแค้น “เห็น ๆ อยู่ว่าตอนที่เจรจาก่อนหน้านี้ได้ตกลงกันแล้ว!”เขาไม่เข้าใจว่าทำไมประธานหวังถึงเปลี่ยนใจกะทันหัน แม้กระทั่งปฏิบัติต่อเ
“เสี่ยวถิง ฉัน......”เห็นความโกรธที่เผยออกมาจากสายตาของสวี่ถิง หวังซือซือจึงอยากจะอธิบาย“หลินเซวียน พวกนายมาทำอะไรกันที่นี่!”ไม่ทันที่หวังซือซือจะได้เอ่ยปากพูด สวี่ถิงก็เอ่ยอย่างแข็งกร้าว“แน่นอนว่าต้องมาเซ็นสัญญา”หลินเซวียนพูดด้วยสีหน้าเย็นชา“เซ็นสัญญาอะไร?”สวี่ถิงชะงักไปครู่หนึ่ง“โครงการก่อสร้างเมือง”หลินเซวียนเอ่ย“อะไรนะ? โครงการก่อสร้างเมือง ประธานหวังยกให้นายจริงงั้นเหรอ?”นาทีนี้ ไม่เพียงแต่สวี่ถิงที่อึ้งไปชั่วขณะ แม้แต่จางเหวินที่อยู่ข้าง ๆ ก็ยังอึ้งอย่างเห็นได้ชัด“ไม่ได้ให้ฉัน ให้ตระกูลหวัง”หลินเซวียนกล่าว“ให้ตระกูลหวังงั้นเหรอ?”ทั้งสองช็อกยิ่งกว่าเดิมและจู่ ๆ ในระหว่างนั้นสวี่ถิงก็นึกถึงเหตุการณ์บางอย่างขึ้นมา ความเดือดดาลในใจก็ปะทุขึ้นมา ชี้นิ้วไปที่หวังซือซือแล้วเอ่ยถามว่า “หวังซือซือ เธอหมายความว่าไง สมคบคิดกับอดีตสามีของฉันเพื่อมาแย่งโครงการของเราไปงั้นเหรอ?”“หา?”หวังซือซืออึ้ง หลังจากได้สติกลับมาก็รีบอธิบายในทันที “ขอโทษนะ ฉันไม่รู้ว่าพวกเธอก็สนใจโครงการนี้เหมือนกัน”“หือ? ไม่รู้งั้นเหรอ? เธอเดินแทบจะแนบร่างกับเขาขนาดนี้ ยังจะมาเล่นละค
“ไอ้หมอนี่!”จางเหวินกำหมัดแน่น ในดวงตาปรากฏความเย็นยะเยือกขึ้น“คิดไม่ถึง ว่าซือซือจะทำตัวต่ำตมขนาดนี้ได้ ต่ำตมที่ไปคบกับคนต่ำต้อยอย่างหลินเซวียนนั่น!”สวี่ถิงกัดฟัน ปากเอาแต่สาปแช่งหวังซือซือ“พูดได้แค่ว่า รู้หน้าไม่รู้ใจสินะ”จางเหวินเอ่ยเสียงทุ้ม “แต่ผมว่าความเป็นไปได้ที่มากที่สุด ก็คือเพื่อนสนิทของคุณกำลังใช้ประโยชน์จากหลินเซวียนมากกว่า"“ซือซือกำลังใช้ประโยชน์จากหลินเซวียนงั้นเหรอ?”สวี่ถิงชะงักชั่วขณะ“ใช่แล้ว”จางเหวินเอ่ย “อย่าว่าแต่ระหว่างตระกูลหวังกับตระกูลจางของผมเลย ไม่มีอะไรที่จะเอามาเทียบกันได้ด้วยซ้ำ เท่าที่ผมรู้ เร็ว ๆ นี้ตระกูลหวังก็ใกล้จะล้มละลายเพราะมีเหตุบางอย่างเกิดขึ้น”“เป็นไปไม่ได้ที่ประธานหวังจะร่วมทำสัญญากับตระกูลที่มีหนี้สินล้นตัวแบบนี้”“คราวนี้ ประธานหวังตัดสินใจเลือกแบบนี้ คิดว่าต้องเป็นเพราะหลินเซวียนไปร้องขอกับท่านเฮดีสแน่ ๆ”ท่านเฮดีสเป็นประธานผู้อยู่เบื้องหลังเรื่องของโครงการของหยวนหลงกรุ๊ป ขอแค่เขาเอ่ยปากสั่ง“แบบนี้นี่เอง!”คำพูดของจางเหวินทำให้สวี่ถิงมีสติขึ้นมิน่าล่ะ หวังซือซือถึงได้เดินตัวติดกับหลินเซวียนซะขนาดนี้!ที่แท้ก็ใช้ประ
“ที่รัก คุณอย่าตำหนิตัวเองเลยนะ ฉันเชื่อมั่นในความสามารถของคุณ ในไม่ช้าจะผ่านด่านยากนี้ไปได้” สวี่ถิงยังคงถูกปิดบังความจริงทั้งหมด มองจางเหวินที่ตำหนิตัวเองและคอยเอ่ยให้กำลังใจอย่างต่อเนื่อง“ขอบคุณนะสวี่ถิง มีคุณอยู่เคียงข้างผมช่างดีจริง ๆ”จางเหวินยังคงแสดงละครต่อไปได้อย่างน่าประทับใจ“กับฉัน คุณยังพูดแบบนั้นอีกนะ”ภายในใจของสวี่ถิงรู้สึกหวานซึ้งและเหนียมอายอยู่สักพัก“แต่ว่า ไอ้สารเลวหลินเซวียนนั่นมาแย่งโครงการของคุณไป เราจะปล่อยมันไปง่าย ๆ ไม่ได้เด็ดขาด!”สวี่ถิงกัดฟันทันที“เรื่องนั้นมันแน่อยู่แล้ว!”สายตาของจางเหวินเย็นชาไอ้หมอนั่น อย่าว่าแต่ทำให้อับอายขายขี้หน้าในงานแต่งขนาดนี้เลย นึกไม่ถึงว่ายังแย่งโครงการของเขาไปด้วย!ถ้าเขาไม่สั่งสอนไอ้หมอนั่นสักหน่อย เขาก็คงไม่รู้จักประมาณตัวเอง!ถึงยังไงอีกแค่สองวัน ท่านเฮดีสก็จะไปจากเมืองซู!“ที่รัก คุณวางแผนจะจัดการยังไงคะ?”สวี่ถิงเอ่ยถาม“ให้คุณชายพยัคฆ์จัดการเก็บเขา!”จางเหวินเอ่ย มีความโกรธพลุ่งพล่านอยู่ในสายตา เขาต้องการให้ชีวิตที่เหลือของหลินเซวียนไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้!“คุณชายพยัคฆ์เหรอ? ก็คือคุณชายพยัคฆ
“ซือซือ ตอนนี้ก็เซ็นสัญญาไปแล้ว อารมณ์ผ่อนคลายลงบ้างไหม?”ระหว่างทางเดินไปลานจอดรถขององค์กร หลินเซวียนมองหวังซือซือที่อยู่ข้าง ๆ จึงยิ้มตาหยีเอ่ยถาม“อื้ม”หวังซือซือทำแค่เพียงพยักหน้าเล็กน้อย แต่ใบหน้ากลับดูไม่ค่อยดีใจนัก กลับกันดูจิตตกอย่างเห็นได้ชัด“ยังคิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อกี้นี้อยู่เหรอ?”หลินเซวียนเอ่ยถาม“อื้ม”หวังซือซือพยักหน้าอีกครั้ง น้ำเสียงเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด “ฉันก็ไม่คิดว่าจะมาเจอเสี่ยวถิงที่นี่ ทำให้เธอเข้าใจผิดไม่ว่า แถมยังทำให้คุณติดร่างแหไปด้วย ขอโทษด้วยจริง ๆ”“หลังจากกลับไป ฉันจะอธิบายเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อกี้นี้กับเสี่ยวถิงให้ชัดเจน”“คุณคิดว่าเธอจะฟังไหม?”หลินเซวียนกลับส่ายหัวและพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาเล็กน้อย “คุณลืมที่เธอว่าคุณเมื่อกี้ไปแล้วเหรอ?”สำหรับสวี่ถิงแล้ว เขารู้จักเป็นอย่างดีไม่เพียงแค่เป็นคนเห็นแก่ตัว แต่ยังเอาแต่ใจตัวเองมาก ๆ อีกด้วย สิ่งไหนที่ตัดสินใจไปแล้วไม่แม้แต่จะฟังผู้อื่นอธิบายให้เข้าใจด้วยหวังซือซือไป ก็มีแต่จะถูกปฏิเสธ ทำให้ตนเองน้อยเนื้อต่ำใจไปก็เท่านั้น“ไม่ว่าจะยังไง ลองดูหน่อยแล้วกัน”หวังซือซือสูดหายใจเข้าลึก
ฉันจะบอกให้นะ ฝันไปเถอะ!หวังซือซือ แกนังคนร่าน!สวี่ถิงด่าว่าหวังซือซืออยู่ในใจความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับจางเหวินเกือบจะได้รับผลกระทบจากการพ่ายแพ้โครงการนี้ซะแล้ว!และตัวการที่สร้างหายนะนี่ นึกไม่ถึงว่าจะยังมีหน้ามาอธิบายเหตุผลกับเธออีก เห็นว่าเธอเป็นคนโง่นักเหรอไง?แต่นังร่านนี่ อีกไม่นานก็จะถูกกรรมตามสนองแล้ว!รอให้ถึงวันเกิดก่อนเถอะ คุณชายพยัคฆ์จะรักและทะนุถนอมเธออย่างดีเลย!หวังซือซือไม่มีทางรู้ความคิดที่แท้จริงของสวี่ถิงได้ คิดว่าอีกฝ่ายเข้าใจและก็เชื่อเธอจริง ๆ เลยตอบกลับอย่างดีอกดีใจว่า “ได้เลย เสี่ยวถิง เมื่อถึงเวลานั้นฉันไปแน่ ฉันเตรียมของขวัญวันเกิดไว้ให้เธอพร้อมแล้วด้วย!”“ซือซือ เธอคือเพื่อนที่ดีที่สุดของฉันจริง ๆ!”สวี่ถิงกล่าวอย่างเสแสร้ง“มันแน่อยู่แล้ว!”หวังซือซือก็ตอบกลับอย่างภาคภูมิใจเช่นกัน“ซือซือ ถ้างั้นก็ตกลงตามนี้นะ ฉันขอตัวก่อน ทางนี้ยังมีธุระให้ต้องจัดการอยู่น่ะ”เมื่อบรรลุเป้าหมาย สวี่ถิงเลือกที่จะจบการสนทนา“อื้ม ได้ เธอไปทำงานเถอะ ฉันก็จะไปอาบน้ำเหมือนกัน”หวังซือซือเอ่ยอย่างเบิกบานใจหลังจากที่พูดคุยกันจบหวังซือซือดีใจจนเกือบจะโยนโทรศัพท
สองวันต่อมาซิงไห่ KTV ห้องวีไอพีหมายเลข 206งานปาร์ตี้วันเกิดของสวี่ถิงก็จัดขึ้นที่นี่เธอเชิญกลุ่มเพื่อนสนิทที่มีความสัมพันธ์กันดีมาในฐานะที่เธอเป็นเจ้าของวันเกิด วันนี้เธอก็สวมกระโปรงเอวสอบที่เซ็กซี่และแต่งหน้าอย่างละเมียดละไมอีกด้วยบนโต๊ะของห้องวีไอพีมีเค้กก้อนใหญ่มากวางอยู่ ด้านบนมีเทียนปักอยู่เต็มไปหมด รายล้อมไปด้วยขนมขบเคี้ยวและเครื่องดื่มผลไม้ต่าง ๆ“เสี่ยวถิง สุขสันต์วันเกิดนะ!”หวังซือซือเป็นคนแรกที่มอบคำอวยพรและของขวัญวันเกิดที่เธอเตรียมไว้ด้วยความใส่ใจให้กับสวี่ถิง“ซือซือ ขอบใจนะ”สวี่ถิงรับของขวัญมาอย่างดีใจ แต่ส่วนลึกของแววตากลับเปล่งประกายความชั่วร้ายไว้เพียงแค่หวังซือซือมองไม่เห็นมัน เพราะแสงในห้องวีไอพีที่สลัวเกินไปวันนี้เธอแต่งตัวอย่างสวยงาม สวมชุดเดรสสีเหลืองอ่อนทั้งชุด รัดเข็มขัดเผยให้เห็นเอวคอดบาง“ทุกคนมาร้องเพลงแฮปปี้เบิร์ดเดย์ด้วยกันเถอะ!”ในเวลานี้ เพื่อนสนิทคนหนึ่งแนะนำ“ได้!”ทุกคนร้องเพลงแฮปปี้เบิร์ดเดย์ด้วยกันชั่วขณะ ทั้งห้องก็ถูกโอบล้อมไปด้วยเสียงที่สดใสและไพเราะ“เสี่ยวถิง รีบอธิษฐานเร็วเข้า!”หลังจากร้องเพลงแฮปปี้เบิร์ดเดย์เสร็จ ส