“ไอ้หมอนี่!”จางเหวินกำหมัดแน่น ในดวงตาปรากฏความเย็นยะเยือกขึ้น“คิดไม่ถึง ว่าซือซือจะทำตัวต่ำตมขนาดนี้ได้ ต่ำตมที่ไปคบกับคนต่ำต้อยอย่างหลินเซวียนนั่น!”สวี่ถิงกัดฟัน ปากเอาแต่สาปแช่งหวังซือซือ“พูดได้แค่ว่า รู้หน้าไม่รู้ใจสินะ”จางเหวินเอ่ยเสียงทุ้ม “แต่ผมว่าความเป็นไปได้ที่มากที่สุด ก็คือเพื่อนสนิทของคุณกำลังใช้ประโยชน์จากหลินเซวียนมากกว่า"“ซือซือกำลังใช้ประโยชน์จากหลินเซวียนงั้นเหรอ?”สวี่ถิงชะงักชั่วขณะ“ใช่แล้ว”จางเหวินเอ่ย “อย่าว่าแต่ระหว่างตระกูลหวังกับตระกูลจางของผมเลย ไม่มีอะไรที่จะเอามาเทียบกันได้ด้วยซ้ำ เท่าที่ผมรู้ เร็ว ๆ นี้ตระกูลหวังก็ใกล้จะล้มละลายเพราะมีเหตุบางอย่างเกิดขึ้น”“เป็นไปไม่ได้ที่ประธานหวังจะร่วมทำสัญญากับตระกูลที่มีหนี้สินล้นตัวแบบนี้”“คราวนี้ ประธานหวังตัดสินใจเลือกแบบนี้ คิดว่าต้องเป็นเพราะหลินเซวียนไปร้องขอกับท่านเฮดีสแน่ ๆ”ท่านเฮดีสเป็นประธานผู้อยู่เบื้องหลังเรื่องของโครงการของหยวนหลงกรุ๊ป ขอแค่เขาเอ่ยปากสั่ง“แบบนี้นี่เอง!”คำพูดของจางเหวินทำให้สวี่ถิงมีสติขึ้นมิน่าล่ะ หวังซือซือถึงได้เดินตัวติดกับหลินเซวียนซะขนาดนี้!ที่แท้ก็ใช้ประ
“ที่รัก คุณอย่าตำหนิตัวเองเลยนะ ฉันเชื่อมั่นในความสามารถของคุณ ในไม่ช้าจะผ่านด่านยากนี้ไปได้” สวี่ถิงยังคงถูกปิดบังความจริงทั้งหมด มองจางเหวินที่ตำหนิตัวเองและคอยเอ่ยให้กำลังใจอย่างต่อเนื่อง“ขอบคุณนะสวี่ถิง มีคุณอยู่เคียงข้างผมช่างดีจริง ๆ”จางเหวินยังคงแสดงละครต่อไปได้อย่างน่าประทับใจ“กับฉัน คุณยังพูดแบบนั้นอีกนะ”ภายในใจของสวี่ถิงรู้สึกหวานซึ้งและเหนียมอายอยู่สักพัก“แต่ว่า ไอ้สารเลวหลินเซวียนนั่นมาแย่งโครงการของคุณไป เราจะปล่อยมันไปง่าย ๆ ไม่ได้เด็ดขาด!”สวี่ถิงกัดฟันทันที“เรื่องนั้นมันแน่อยู่แล้ว!”สายตาของจางเหวินเย็นชาไอ้หมอนั่น อย่าว่าแต่ทำให้อับอายขายขี้หน้าในงานแต่งขนาดนี้เลย นึกไม่ถึงว่ายังแย่งโครงการของเขาไปด้วย!ถ้าเขาไม่สั่งสอนไอ้หมอนั่นสักหน่อย เขาก็คงไม่รู้จักประมาณตัวเอง!ถึงยังไงอีกแค่สองวัน ท่านเฮดีสก็จะไปจากเมืองซู!“ที่รัก คุณวางแผนจะจัดการยังไงคะ?”สวี่ถิงเอ่ยถาม“ให้คุณชายพยัคฆ์จัดการเก็บเขา!”จางเหวินเอ่ย มีความโกรธพลุ่งพล่านอยู่ในสายตา เขาต้องการให้ชีวิตที่เหลือของหลินเซวียนไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้!“คุณชายพยัคฆ์เหรอ? ก็คือคุณชายพยัคฆ
“ซือซือ ตอนนี้ก็เซ็นสัญญาไปแล้ว อารมณ์ผ่อนคลายลงบ้างไหม?”ระหว่างทางเดินไปลานจอดรถขององค์กร หลินเซวียนมองหวังซือซือที่อยู่ข้าง ๆ จึงยิ้มตาหยีเอ่ยถาม“อื้ม”หวังซือซือทำแค่เพียงพยักหน้าเล็กน้อย แต่ใบหน้ากลับดูไม่ค่อยดีใจนัก กลับกันดูจิตตกอย่างเห็นได้ชัด“ยังคิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อกี้นี้อยู่เหรอ?”หลินเซวียนเอ่ยถาม“อื้ม”หวังซือซือพยักหน้าอีกครั้ง น้ำเสียงเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด “ฉันก็ไม่คิดว่าจะมาเจอเสี่ยวถิงที่นี่ ทำให้เธอเข้าใจผิดไม่ว่า แถมยังทำให้คุณติดร่างแหไปด้วย ขอโทษด้วยจริง ๆ”“หลังจากกลับไป ฉันจะอธิบายเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อกี้นี้กับเสี่ยวถิงให้ชัดเจน”“คุณคิดว่าเธอจะฟังไหม?”หลินเซวียนกลับส่ายหัวและพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาเล็กน้อย “คุณลืมที่เธอว่าคุณเมื่อกี้ไปแล้วเหรอ?”สำหรับสวี่ถิงแล้ว เขารู้จักเป็นอย่างดีไม่เพียงแค่เป็นคนเห็นแก่ตัว แต่ยังเอาแต่ใจตัวเองมาก ๆ อีกด้วย สิ่งไหนที่ตัดสินใจไปแล้วไม่แม้แต่จะฟังผู้อื่นอธิบายให้เข้าใจด้วยหวังซือซือไป ก็มีแต่จะถูกปฏิเสธ ทำให้ตนเองน้อยเนื้อต่ำใจไปก็เท่านั้น“ไม่ว่าจะยังไง ลองดูหน่อยแล้วกัน”หวังซือซือสูดหายใจเข้าลึก
ฉันจะบอกให้นะ ฝันไปเถอะ!หวังซือซือ แกนังคนร่าน!สวี่ถิงด่าว่าหวังซือซืออยู่ในใจความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับจางเหวินเกือบจะได้รับผลกระทบจากการพ่ายแพ้โครงการนี้ซะแล้ว!และตัวการที่สร้างหายนะนี่ นึกไม่ถึงว่าจะยังมีหน้ามาอธิบายเหตุผลกับเธออีก เห็นว่าเธอเป็นคนโง่นักเหรอไง?แต่นังร่านนี่ อีกไม่นานก็จะถูกกรรมตามสนองแล้ว!รอให้ถึงวันเกิดก่อนเถอะ คุณชายพยัคฆ์จะรักและทะนุถนอมเธออย่างดีเลย!หวังซือซือไม่มีทางรู้ความคิดที่แท้จริงของสวี่ถิงได้ คิดว่าอีกฝ่ายเข้าใจและก็เชื่อเธอจริง ๆ เลยตอบกลับอย่างดีอกดีใจว่า “ได้เลย เสี่ยวถิง เมื่อถึงเวลานั้นฉันไปแน่ ฉันเตรียมของขวัญวันเกิดไว้ให้เธอพร้อมแล้วด้วย!”“ซือซือ เธอคือเพื่อนที่ดีที่สุดของฉันจริง ๆ!”สวี่ถิงกล่าวอย่างเสแสร้ง“มันแน่อยู่แล้ว!”หวังซือซือก็ตอบกลับอย่างภาคภูมิใจเช่นกัน“ซือซือ ถ้างั้นก็ตกลงตามนี้นะ ฉันขอตัวก่อน ทางนี้ยังมีธุระให้ต้องจัดการอยู่น่ะ”เมื่อบรรลุเป้าหมาย สวี่ถิงเลือกที่จะจบการสนทนา“อื้ม ได้ เธอไปทำงานเถอะ ฉันก็จะไปอาบน้ำเหมือนกัน”หวังซือซือเอ่ยอย่างเบิกบานใจหลังจากที่พูดคุยกันจบหวังซือซือดีใจจนเกือบจะโยนโทรศัพท
สองวันต่อมาซิงไห่ KTV ห้องวีไอพีหมายเลข 206งานปาร์ตี้วันเกิดของสวี่ถิงก็จัดขึ้นที่นี่เธอเชิญกลุ่มเพื่อนสนิทที่มีความสัมพันธ์กันดีมาในฐานะที่เธอเป็นเจ้าของวันเกิด วันนี้เธอก็สวมกระโปรงเอวสอบที่เซ็กซี่และแต่งหน้าอย่างละเมียดละไมอีกด้วยบนโต๊ะของห้องวีไอพีมีเค้กก้อนใหญ่มากวางอยู่ ด้านบนมีเทียนปักอยู่เต็มไปหมด รายล้อมไปด้วยขนมขบเคี้ยวและเครื่องดื่มผลไม้ต่าง ๆ“เสี่ยวถิง สุขสันต์วันเกิดนะ!”หวังซือซือเป็นคนแรกที่มอบคำอวยพรและของขวัญวันเกิดที่เธอเตรียมไว้ด้วยความใส่ใจให้กับสวี่ถิง“ซือซือ ขอบใจนะ”สวี่ถิงรับของขวัญมาอย่างดีใจ แต่ส่วนลึกของแววตากลับเปล่งประกายความชั่วร้ายไว้เพียงแค่หวังซือซือมองไม่เห็นมัน เพราะแสงในห้องวีไอพีที่สลัวเกินไปวันนี้เธอแต่งตัวอย่างสวยงาม สวมชุดเดรสสีเหลืองอ่อนทั้งชุด รัดเข็มขัดเผยให้เห็นเอวคอดบาง“ทุกคนมาร้องเพลงแฮปปี้เบิร์ดเดย์ด้วยกันเถอะ!”ในเวลานี้ เพื่อนสนิทคนหนึ่งแนะนำ“ได้!”ทุกคนร้องเพลงแฮปปี้เบิร์ดเดย์ด้วยกันชั่วขณะ ทั้งห้องก็ถูกโอบล้อมไปด้วยเสียงที่สดใสและไพเราะ“เสี่ยวถิง รีบอธิษฐานเร็วเข้า!”หลังจากร้องเพลงแฮปปี้เบิร์ดเดย์เสร็จ ส
ท่ามกลางบรรยากาศแสนครึกครื้นงานเลี้ยงวันเกิดเองก็ดำเนินผ่านมาครึ่งทางแล้ว“เสียวถิง ฉันดื่มอีกไม่ไหวแล้วจริง ๆ”หวังซือซือผลักไวน์ที่สวี่ถิงส่งมา น้ำเสียงน่ารักและไร้เรี่ยวแรงเธอดื่มไวน์ไปสามแก้วแล้ว ดื่มต่ออีกไม่ไหวแล้วจริง ๆตอนนี้เธอรู้สึกว่าตัวเธอมึนไปหมดแล้ว“โอเค งั้นเราก็ไม่ต้องดื่มกันแล้ว”สวี่ถิงวางแก้วไวน์ลง ก่อนจะมองท่าทางแสนน่ารักไร้เรี่ยวแรงของหวังซือซือในตอนนี้ นัยน์ตาประกายความเย็นชาออกมาหลังจากนั้นเธอก็ล้วงโทรศัพท์ออกมา พิมพ์ข้อความสั้น ๆ ข้อความหนึ่งส่งให้เบอร์ที่ไม่รู้จักไม่นานประตูของห้องวีไอพีก็ถูกคนเปิดออกจากภายนอกผู้ชายที่หน้าตาดูโหดเหี้ยม สวมเสื้อกั๊กคนหนึ่งเดินเข้ามาพร้อมทั้งคาบซิการ์ไว้ในปากเบื้องหลังเขา มีน้องชายที่ร่างกายกำยำ และมีแววตาโหดเหี้ยมเช่นเดียวกันสองสามคนซึ่งก็คือคุณชายพยัคฆ์และลูกน้องของเขา!เสียงเพลงในห้องวีไอพีหยุดไปอย่างกะทันหันหญิงสาวทุกคนต่างมองเหล่าแขกไม่ได้รับเชิญที่จู่ ๆ ก็บุกเข้ามาด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความตื่นกลัวดูจากบทบาททางสังคมที่เผยออกมาจากบนตัวพวกเขา ก็รู้ได้ในทันทีว่าคนเหล่านี้ไม่ใช่คนที่จะยั่วยุได้ง่าย ๆ“โอ้โฮ ที่นี่ช่า
เพียะ!เสียงฝ่ามือใสแจ๋ว ดังขึ้นมาในห้องวีไอพีเสียงดังเป็นพิเศษหวังซือซือถูกฝ่ามือนี้ตบจนแทบจะเป็นลมล้มพับไป บนใบหน้าปรากฏรอยนิ้วมือสีแดงก่ำขึ้นมาในทันใด“แม่งเอ้ย นังคนชั้นต่ำ ไม่คิดเลยว่าจะกล้าทำร้ายฉัน!”คุณชายพยัคฆ์ถุยน้ำลายลงบนพื้นอย่างแรงทีหนึ่ง นัยน์ตาเต็มไปด้วยความโหดเหี้ยมอำมหิตผู้หญิงทุกคนต่างกลัวจนตัวสั่น แต่ละคนขดตัวกอดกันกลม กลัวว่าตัวเองจะได้รับภัยพิบัติในใจของสวี่ถิงเต้นระรัว และภาวนาไม่ให้คุณชายพยัคฆ์มาระบายความโกรธกับเธอหลังหวังซือซือผ่านฝ่ามือเมื่อครู่นั่นมาแล้ว ก็รู้สึกตัวขึ้นไม่น้อยเธอเอามือปิดแก้มที่ร้อนฉ่าครึ่งซีกหน้า มองคุณชายพยัคฆ์ที่บนใบหน้าเต็มไปด้วยความโหดเหี้ยมอำมหิตตรงหน้า ดวงตาทั้งสองที่เดิมทีพร่าเลือน ก็ถูกความตกตะลึงเข้ามาแทนที่ไปโดยพลัน“คุณ...คุณชายพยัคฆ์?”น้ำเสียงของเธอ เต็มไปด้วยความสั่นเครือนังแพศยา เธอจำฉันได้แล้วเหรอ?”คุณชายพยัคฆ์จ้องหวังซือซืออย่างชั่วร้าย “เธอรู้ไหม เมื่อกี้เธอเอาขวดเหล้ามาฟาดหัวฉัน! บัญชีนี้ จะคิดยังไง?”“ฮะ?”หวังซือซืออึ้งในตอนนี้เองเหมือนจะจำขึ้นมาได้แล้ว เมื่อครู่เธอรู้สึกเหมือนมีคนมาแต๊ะอั๋งเธอ เธอไม่ได้มีเรี่ยวแ
“ฮัลโหล มีเรื่องอะไร?”เมื่อปลายสายรับโทรศัพท์ น้ำเสียงอันเย็นชาของหลินเซวียนดังขึ้น“ท่าทีอะไรของนายน่ะหลินเซวียน? แต่ตอนนี้ฉันไม่มีเวลามาพูดบ่นกับนายหรอกนะ ฉันจะบอกอะไรนายให้ ซือซือไม่ระวังไปทำร้ายคุณชายพยัคฆ์แก๊งชิงหลงเข้า ตอนนี้กำลังจะถูกคุณชายพยัคฆ์พาตัวไป ถ้านายเป็นสุภาพบุรุษ ก็รีบมาช่วยเร็วเข้า! ที่อยู่ ซิงฮุย ktv ห้องวีไอพีหมายเลข 206!”สวี่ถิงตะคอกเสียงต่ำใส่โทรศัพท์“ซือซือทำร้ายคุณชายพยัคฆ์งั้นเหรอ?”หลินเซวียนขมวดคิ้วเข้าหากัน หลังพูดว่ารอฉัน “สิบนาที” ก็ตัดสายไปบังเอิญเป็นอย่างมาก เขาไม่ทันได้ชาร์จแบต เหลือแบตเตอรี่เพียงแค่ 5% เท่านั้น เพื่อให้เมื่อถึงเวลาจะได้ติดต่อกับสวี่ถิงหรือหวังซือซือได้ จึงปิดโทรศัพท์ไว้ชั่วคราวอีกด้านหนึ่งหลังสวี่ถิงกำลังวางสาย ก็สบตากับคุณชายพยัคฆ์ครู่หนึ่งทั้งสองคนเข้าใจซึ่งกันและกันมุมปากของคุณชายพยัคฆ์กระตุกรอยยิ้มขึ้นมาก็แค่รอไม่กี่นาทีเองไม่ใช่เหรอ โอกาสดีมาถึงมือแล้ว คงไม่ปล่อยให้หลุดมือไปหรอก“ซือซือ หลินเซวียนเจ้าหมอนั่นบอกแล้วว่า ให้รอเขาสิบนาที เขาคงมาช่วยเธอแล้ว”หลังสวี่ถิงวางโทรศัพท์ลง ก็พูดกับหวังซือซือที่อยู่ข้าง ๆ ว่า“เสี่ยว