ช่วงเวลาแสนหวานนั่นราวกับช่วงที่ผลไม้สุกงาม หอมหวานและน่ารักประทาน เราผลัดกันลิ้มรสชาติแสนหวานที่หาไม่ได้จากผู้อื่น ครั้งแล้วครั้งเล่าที่เขาโอบกอดเธอเอาไว้ และครั้งแล้วครั้งเล่าที่ริมฝีปากของท่านอีริค หว่านพรมรอบจูบลงไปบนร่างกายของเธอได้อย่างแนบแน่นและแนบเนียน นี่คงเป็นครั้งแรกที่เจเนวีได้สัมผัสถึงการถูกใครสักคนรักและเอาใจใส่ใช่แล้ว..ท่านอีริคดูเหมือนจะชอบเธอมากจริงๆ ให้ตายสิ และ..ปีศาจในร่างกายของเขาก็ถูกปลดปล่อยเป็นที่เรียบร้อยแล้วเช่นกัน ตามที่เราตกลงกันเอาไว้ตั้งแต่ในสวนครั้งที่แล้ว แค่เธอยินยอมนอนกับท่านอีริคสิบครั้งเท่านั้น มาร์โคก็จะยินยอมหนีจากไปจากร่างกายของท่านอีริค และช่วงเวลาที่เราอยู่ด้วยกันนั้น..อย่าว่าแต่สิบครั้งเลย เราพูดกันน้อยกว่าการส่งเสียงร้องครางด้วยซ้ำ“หากสามารถเลือกได้ กระหม่อมอยากให้องค์หญิงอยู่ที่นี่กับกระหม่อมตลอดไป..เราไม่ต้องกลับไปที่คฤหาสน์โรแลนด์แล้วดีไหมพ่ะย่ะค่ะ ท่านหญิงเซียร่าจะต้องพึงพอใจอย่างแน่นอน”เธอจับมือเขาพร้อมกับหัวเราะออกมาเบาๆ เธอชอบที่นี่นะ ชอบจนอยากจะอยู่ที่นี่กับเขาตลอดไปเสียด้วยซ้ำ แต่ทว่าไม่มีใครหลบหนีปัญหาได้ตลอด และ..เธอเหนื่อยแล้วล
เขาแสดงออกไม่เก่งและ..พูดออกมาตามที่ใจรู้สึกไม่เป็น ทว่าในใจของไอแซ็คตอนนี้เขาไม่อยากจะฝืนใจของเจเนวีเลย เขาจับมือเธอเอาไว้ก่อนจะใช้มืออีกข้างเพื่อสวมชุดเดรสกลับเข้าไปให้เธออย่างช้าๆ ..ระหว่างเราไม่มีเสียงพูดคุยอะไรเลยมีแค่เสียงมือของเขาที่กำลังติดกระดุมเสื้อคลุมให้เธอเท่านั้น“มันไม่มีความหมายอะไรกับเจ้าเลยงั้นหรือ ช่วงเวลาที่เราใช้ด้วยกัน..”เขาจะถามเธอให้มันได้อะไรขึ้นมากันนะ ในเมื่อเขาไม่ได้คิดจะรักเธอน่ะเธอช้อนสายตามองหน้าเขา ก่อนจะยกมือขึ้นมากุมใบหน้านั้นเอาไว้“เพราะมันมีความหมายข้าจึงต้องการให้มันชัดเจนมากกว่านั้น..ความสุขของท่านแกรนด์ดยุคคือการยืนอยู่บนความสัมพันธ์ที่มันไม่แน่นอนอย่างนั้นหรือคะ ท่านไม่อยากบอกใครต่อใครหรือว่าเราคือคนรักกัน ว่าข้าคือภรรยาของท่านและท่านคือสามีของข้า..แต่ข้าอยากทำแบบนั้นนะคะ ข้าอยากจะประกาศก้องให้ทุกคนรู้ว่าแกรนด์ดยุคโรแลนด์ที่เหล่าสตรีต่างหมายปองผู้นั้น..คือคนรักของข้า..เพราะแบบนั้นข้าจึงอยากให้ท่านหยุดมันเสีย หากไม่คิดสานต่อหรือว่าไม่คิดจะจริงจังกับข้า การปล่อยข้าไปนั่นมันยากเย็นตรงไหนกันคะ..”คำกล่าวของเธอนั้นเสียบคาอยู่ในส่วนลึกของหัวใจโดยท
“เป็นองค์หญิงเพคะจักรพรรดินี..เป็นองค์หญิงที่ทรงงดงามและมีเรือนผมสีทองสว่างดุจดังรุ่งอรุณแห่งจักรวรรดิเซอร์เรียลอิล ดวงพระเนตรฉายแววเฉลียวฉลาดและ..มีพระพักตร์ที่น่ารักน่าเอ็นดูยิ่งแล้วเพคะ”เป็นลูกสาวอย่างนั้นสินะ เป็นลูกสาวที่ดูสวยงามราวกับภาพวาดในจิตรกรรมฝาผนัง เป็นเด็กน้อยที่ดูราวกับเทพธิดาลงมาจุติบนโลกมนุษย์ ไม่ว่าจะมองทางใดก็ตามที เด็กน้อยผู้นี้ล้วนแล้วแต่น่ารักและน่าเอ็นดูยิ่งนัก..อาเธอร์จะว่าอย่างไรนะ หากว่าเขามองเห็นลูกสาวของเราถือกำเนิดขึ้นมาแล้ว เขาจะหลงรักและเอ็นดูเด็กคนนี้มากเหมือนกับที่เขารักจีซัสรึเปล่านะ..“ข้าไม่อาจทำใจมองหน้าของนางได้มากาเร็ต ข้ามิอาจโอบอุ้มเด็กน้อยที่ยังมิมีสิ่งใดพิสูจน์ได้ว่านางคือลูกสาวที่เกิดจากเลือดเนื้อของข้า..ฉะนั้นแล้วบุตรขององค์จักรพรรดิอาเธอร์แห่งราชวงศ์เซอร์เรียลอิล มีเพียงแค่องค์รัชทายาทจีซัสเพียงผู้เดียวเท่านั้น..”เรื่องราวมันแย่ลงเพราะต่อให้บุรุษผู้นั้นยินยอมใช้ความตายของเขาเพื่อแลกกับการรักษาเกียรติของเธอ..ก็ยังไม่อาจเปลี่ยนใจให้สามีเชื่อถือว่าเจเนวีคือลูกสาวของเขาเธอสาบานได้ว่าตนเองไม่เคยมีชู้หรือว่าคิดนอกใจสามี เราแต่งงานอยู่ร่วมกั
เมื่อจารีอัลได้ยินคำกล่าวที่แปลกไปของน้องสาว เขาก็ระเบิดหัวเราะออกมาในทันที..“เจ้าคิดว่าพี่จะกลัวคำกล่าวนั้นของเจ้าอย่างนั้นหรือเจนนี่ หากพี่ฟังไม่ผิดไม่ใช่ว่าเมื่อครู่เจ้ากำลังขู่พี่อยู่..”“หากไม่ใช่ความกลัว หม่อมฉันก็คิดแบบอื่นไม่ออกแล้วเพคะ เรื่องที่เสด็จพี่ส่งคนไปตามฆ่าหม่อมฉัน..ทรงเปลืองแรงไปไม่น้อยเลยนี่เพคะเพื่อที่จะกำจัดน้องสาวที่แสนโง่เขลาคนนี้น่ะ ทรงหวาดกลัวอันใดในตัวของหม่อมฉันกันแน่เพคะ ถึงได้ต้องพยายามกำจัดกันมากขนาดนั้น..”สีหน้าของเจเนวีเฉยเมยไร้ความรู้สึกขณะที่แววตาของจารีอัลค่อยแปรเปลี่ยนไปเรื่อยๆ เขาไม่อาจคงความสุขุมเอาไว้ได้อีกต่อไป แววตาของเขาทอประกายสังหารเข้มข้น“เจ้าจะเอาอะไรมาสู้ข้าอย่างนั้นหรือเจนนี่ บุรุษลิ่วล้อที่เคยนอนกับเจ้างั้นหรือ..”ไม่ปฏิเสธด้วยแฮะว่ากลัวเธอน่ะ แสดงว่าเขากลัวเจเนวีจริงๆ ด้วยสินะ แล้วเขากลัวเจเนวีเรื่องไหนกันล่ะ ไม่เห็นเข้าใจสักนิดเลย เธอก็แค่พูดไปมั่วๆ เท่านั้นเอง บอกแล้วไงว่าเรื่องการเมืองการชิงไหวชิงพริบเธอโง่มาก แล้วทำไมมันถึงมีเรื่องจะต้องใช้สมองขนาดนั้นกันนะ..เจเนวีพ่นลมหายใจออกมายาวผ่านทางปลายจมูก เธอลุกขึ้นในทันทีก่อนจะเดินเข
ที่พระราชวังนั้นมีบรรยากาศที่แตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิงกับคฤหาสน์โรแลนด์ อาจจะเพราะว่าส่วนใหญ่ที่ฉันเข้ามาอยู่ในพระราชวังก็แทบไม่ได้ออกไปจากที่นี่เลย เพราะว่าเควสที่เกิดขึ้นมาจะต้องทำที่พระราชวังเท่านั้น..ทว่าเมื่อได้เดินทางไปยังคฤหาสน์โรแลนด์ ฉันก็พบว่าที่นั่นดู..เป็นกันเองและมีอิสระมากกว่าที่นี่ อย่างน้อยก็ในเรื่องของการพูดคุยและ..การแต่งกาย“ข้าไม่ได้ออกไปไหนมีนา..ฉะนั้นแล้วสวมแค่ชุดสบายๆ ให้ข้าก็พอ”มีนาส่งสายตาดุๆ มาให้ฉัน“ได้ที่ไหนกันเพคะ ที่พระราชวังแตกต่างจากที่คฤหาสน์โรแลนด์มากทีเดียว หากองค์จักรพรรดิหรือว่าองค์จักรพรรดินีเสด็จมาเยี่ยมเยือนองค์หญิง พระองค์จะทำเช่นไรเพคะ จะต้องแต่งกายให้งดงามเพื่อเตรียมพร้อมอยู่เสมอ..มาเถิดเพคะ หม่อมฉันจะสวมสร้อยให้”สร้อยที่ว่าคือสร้อยน้ำตานางเงือกสีชมพูที่ส่องแสงแวววาวระยิบระยับ ครั้งหนึ่งฉันเคยชื่นชมตัวเองที่เลือกเข้ามาอยู่ในร่างของตัวละครองค์หญิงเจเนวี ตัวละครนี้นอกจากจะสวยงามแล้วนางยังมีการแต่งกายที่พิถีพิถันมากทีเดียว..แต่ตอนนี้ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมฉันถึงได้รู้สึกไม่มีความสุขในยามที่เครื่องประดับและชุดเดรสสุดแสนจะหรูหราพวกนั้นถูกสวมทับล
สิ่งที่เบรเดนหยิบยื่นให้เจเนวีมันไม่ใช่แค่แส้หนังเพียงเท่านั้น แต่ทว่ามันคือความยินยอมพร้อมใจต่างหาก เขาต้องการแสดงให้เธอเห็นว่าตนเองกำลังสำนึกผิดกับสิ่งที่กระทำไปมากแค่ไหนและ..ต้องการให้เธอเห็นถึงความจริงใจของเขา ด้วยเหตุนั้นเขาจึงยินยอมแลกทุกสิ่งทุกอย่างที่มีเพื่อให้เธอเห็นอกเห็นใจ..อย่างน้อยแค่สักนิดก็พอที่จะทำให้เธอมองเห็นว่าเขา..คือเบรเดนคนเดิมบอกตามตรงว่าเธอชอบนะการยินยอมพร้อมใจอะไรแบบนี้ แต่ทว่ามันดูโหดร้ายมากเกินไปหน่อยที่เธอจะลงไม้ลงมือกับเขา..เจเนวีวางแส้หนังลงบนพื้นหญ้า เธอยกมือขึ้นมากอบกุมใบหน้านั้นของเขาเอาไว้ แล้วเคลื่อนใบหน้าเขาหาเขาแทนการบอกกล่าวถึงสิ่งที่เธอต้องการ เมื่อริมฝีปากของเธอแนบชิดลงไปก็ดูเหมือน..ร่างกายของเบรเดนจะค่อยๆ เริ่มผ่อนคลายมากขึ้นเธอจูบเขา..แทนการทำร้ายอย่างนั้นหรือ? ถึงแม้ว่านี่จะเป็นเรื่องราวแปลกใหม่แต่ในหัวใจของเบรเดนเองก็ชื่นชอบมันมากเต็มทีเปลือกตาปิดลงในขณะที่เราจูบกัน โพรงปากของเธอแทบหลอมละลายด้วยอุณหภูมิจากรสจูบที่เร่าร้อน เขาดูดเม้มปลายลิ้นและริมฝีปากอย่างนุ่มนวล ลิ้นอุ่นเซาะซอนไปตามแนวไรฟัน แรงกระตุ้นดังกล่าวทำให้ร่างกายของเราทั้งคู่เกร
ท่ามกลางความสับสนและวุ่นวายในหัวใจของฉันนั้น..เบรเดนกำลังทำให้หัวใจที่กำลังสั่นไหวและไร้ทางออก ยิ่งรู้สึกสันสนมากขึ้นไปอีก ฉันกอดคอของเขาเอาไว้แน่น ขณะที่ปลายนิ้วของเขากำลังป้วนเปี้ยนอยู่ที่ส่วนล่าง เพราะชุดเดรสที่สวมมันค่อนข้างถอดยากมากเกินไป นั่นทำให้เบรเดนละความพยายามในการถอดมันออกมา เขาเลิกกระโปรงของเธอขึ้นสูงและนำไปกองเอาไว้บนเอว มือข้างหนึ่งของเจเนวีให้ความร่วมมือของเขาเป็นอย่างดีเพราะว่าเธอกำลังจับชายกระโปรงที่ยาวรุ่มร่ามของตัวเองเอาไว้ เรียวขาขาวตั้งชันขึ้นมาในท่าชันเข่าและมือของเขาก็ทำหน้าที่แยกมันออกให้กว้างขึ้นเขาจับประคองบั้นเอวของสตรีที่อยู่เหนืออาณัติ ในขณะที่เธอแหงนใบหน้าไปด้านหลังราวกับกำลังหายใจไม่ออกนิ้วหัวแม่มือของเขากรีดลึกลงไปยังร่องแคบชุ่มน้ำมันเปียกชื้นเล็กน้อยจากการถูกปลุกเร้าและเขาอยากจะก้มหน้าลงไปเพื่อซุกใบหน้าเข้าหา แล้วลิ้มชิมรสจากในแหล่งของน้ำหวาน แต่ทว่าเขาไม่อยากให้เธอต้องเปื้อนไปด้วยเศษดินเห็นไหมว่าเขาเอาใส่ใจเธอมากแค่ไหนกัน..“อา..เบรเดน อื้อ..!”เธอบิดตัวเร่าในขณะที่ปลายนิ้วจมหายเข้าไปในร่างกาย ขณะที่เบรเดนขยับข้อมือเพื่อเคลื่อนปลายนิ้วเข้าออก มืออ
“องค์หญิงเพคะ..วันนี้องค์รัชทายาททรงมีรับสั่งให้องค์หญิงเข้าร่วมรับประทานอาหารมื้อเย็นที่พระราชวังขององค์รัชทายาทนะเพคะ..”เจเนวีพยักหน้าโดยที่เธอยังไม่ลืมตาขึ้นมามองหน้าของมีนาเลยด้วยซ้ำ ร่างกายของเธอมันเหมือนกับถูกรถม้าทับเลยให้ตายสิ..เบรเดนที่แสนอ่อนโยนไปไหนกันนะ ถึงได้เหลือเบรเดนที่แสนเร่าร้อนเอาไว้ให้เธอ..มันน่าตกใจเล็กน้อยตรงที่เขาไม่ได้ยินยอมจบลงแค่ตรงในสวนของพระราชวังร้างเท่านั้น แต่..เขาอุ้มเธอกลับมาที่พระราชวัง หลังจากนั้นเราก็ทำมันต่ออีกหลายรอบ..จนเกือบเช้า นั่นคือสาเหตุว่าทำไมเธอถึงแทบไม่มีแรงลุกขึ้นจากเตียงในวันนี้เลยมีนาส่งยิ้มให้กับองค์หญิงของเธอ ดูจากสีหน้าของเบรเดนแล้วแสดงว่าองค์หญิงและเจ้าเด็กนั่นคืนดีกันแล้วอย่างนั้นสินะ หากเป็นเช่นนั้นก็ดีมากๆ เลยล่ะ เพราะอย่างน้อยที่สุดองค์หญิงจะได้มีข้ารับใช้ที่ทั้งไว้ใจและพึ่งพาได้..“แกรนด์ดยุคแห่งโรแลนด์ก็จะเข้าร่วมรับประทานอาหารในวันนี้ด้วยนะเพคะ และ..ท่านคาดินันอีริคก็ได้รับเชิญเช่นกัน”จากที่ง่วงๆอยู่ เจเนวีผุดลุกขึ้นจากเตียงในทันที นี่พี่ชายของเธอกำลังทำอะไรกัน? เขาถึงได้เรียกตัวของท่านแกรนด์ดยุคและท่านอีริคมาที่นี่พร้อม
เบรเดนกำลังผูกผ้าโพกหัวให้กับเจเนวี และนี่คือปัญหาเพราะว่าเขาทำมันได้ยากเย็นมากยิ่งนัก สาเหตุหลักๆ มันมาจากสายตาของเธอที่กำลังจ้องมองหน้าเขาไม่ละสายตาเลย“อย่ามองกันแบบนั้นสิครับ..”ใบหน้าที่แดงระเรื่อของเขามันน่ารักชะมัดเลย ไม่ว่าเราจะอยู่กันกี่ปีแต่ความเขินอายของเขาก็ทำให้เธออดแกล้งไม่ได้ทุกทีเลย“อันที่จริงท่านเจนนี่รออยู่ที่นี่ก็ได้นะครับ วันนี้แดดแรงยิ่งนัก ข้าจะไปขุดหัวมันมาให้ท่านเอง”“ข้าไม่อยากรออยู่เฉยๆ นี่คะ ให้ข้าไปด้วยเถอะนะ เห็นแบบนี้แต่ข้าก็ขุดหัวมันเก่งมากเลยนะ ไม่เชื่อถามมีนาได้เลย”มีนาลาออกจากการเป็นสาวใช้ของท่านแกรนด์ดัชเชสมาสร้างครอบครัวอยู่ที่ชนบท..และเบรเดนพาเธอมาเยี่ยมมีนาทุกปีเลย“ให้ท่านหญิงได้ทำด้วยเถิดเบรเดน แต่ไหนแต่ไหนท่านล้วนแล้วแต่ชื่นชอบการลงมือทำด้วยตัวเองทั้งนั้น”เบรเดนรู้ดีว่าเขาไม่สามารถขัดใจสตรีผู้นี้ได้หรอก“เช่นนั้นตามข้ามาครับ..ต้องรับปากก่อนนะครับว่าหากท่านทนแดดไม่ไหวหรือมีอาการเวียนหัวท่านจะต้องบอกข้าในทันที”“เห็นแบบนี้ข้าแข็งแรงมากกว่าที่เจ้าคิดนะ ไม่อย่างนั้นในปีแรกที่แต่งงานข้าคงจะตายไปแล้ว..”เธอกระซิบบอกเขาด้วยใบหน้าที่ระบายไปด้วยรอยยิ
เจเนวีกำลังนั่งเท้าคางเพื่อมองดูพิธีอะไรสักอย่างที่แม่หมอกำลังทำกับป้ายหลุมศพของท่านอีเรน ส่วนท่านอีริค..เขากำลังตั้งอกตั้งใจมองดูการทำพิธีของแม่หมอมากทีเดียวหรือว่าเขาจะหันมาเอาดีทางด้านการทำนายและการทำพิธีอะไรพวกนั้นกันนะ“พิธีในปีนี้เสร็จแล้วค่ะ..ปีหน้าเราพบเจอกันใหม่นะคะท่านแกรนด์ดัชเชส”อีริคจ่ายเงินให้กับแม่หมอพวกนั้น ส่วนเจเนวีเธอลุกขึ้นแล้วบิดขี้เกียจเพื่อยืดเส้นยืดสาย“วันนี้รอบๆ วิหารมีงานเทศกาลนะคะท่านแกรนด์ดัชเชส หากว่าท่านไม่รีบกลับลองไปเดินเที่ยวดูได้นะคะ”เจเนวีส่งยิ้มให้กับแม่หมอ“ขอบคุณนะคะ ข้าจะลองไปเดินดูสักหน่อย”งานเทศกาลอย่างนั้นหรือ น่าตื่นเต้นชะมัดเลย“คิดอะไรซนๆ อีกรึเปล่าครับ..ที่รัก”คำว่าที่รักที่ถูกเรียกออกมาจากริมฝีปากของท่านอีริคไม่ว่าจะฟังกี่ครั้งก็ชวนให้หัวใจเต้นแรงทุกครั้งสิน่า..เธอจิ้มปลายนิ้วลงบนกรอบแว่นตาของเขา“แล้วจะตีข้ารึเปล่าคะ หากว่าข้าซนน่ะ”อีริคอมยิ้ม เขากระซิบที่ข้างหูของเจเนวีเบาๆ“ตีแน่ๆ ครับ..รับรองได้เลยว่าท่านจะต้องถูกตีที่ก้นแน่ๆ”ความหวานละมุนโอบล้อมรอบตัวเธอเอาไว้ เพียงแค่เขามองสบตามาก็ทำให้เธอรู้สึกเหมือนกับว่าโลกทั้งใบหยุดหมุน
ในชีวิตของเรานั้นจะมีสักกี่คนที่ทำให้เรารู้สึกอยากจะเป็นคนดี แน่นอนว่าในชีวิตของไอแซ็คเขาไม่เคยรู้สึกเช่นนี้มาก่อน ไม่เคยนึกอยากที่จะเป็นคนดีขึ้นในสายตาของผู้อื่น..จนเขาได้มาพูดคุยและทำความรู้จักกับเจเนวีภายนอกนั้นไม่ต้องอธิบายสิ่งใดเพิ่มเติมเลยเพราะว่าเธองดงามชนิดที่ว่าแทบจะละสายตาออกไปจากใบหน้านั้นไม่ได้เลย เป็นความสวยที่เจิดจรัสราวกับดวงดาวที่ค้างอยู่บนฟ้า แต่ทว่าข่าวลือเกี่ยวกับองค์หญิงผู้นั้นไม่สู้ดีเท่าไหร่นัก นางมีดีแค่ความงามและชอบเริงรักกับบุรุษมากหน้าหลายตา..อีกทั้งจีซัสสั่งให้เขาสังหารนาง..แล้วโยนความผิดให้กับแม่เลี้ยงของเขาว่านี่คือการกระทำที่เป็นการทวงคืนอำนาจของอดีตองค์หญิง คราแรกเขาตั้งใจว่าจะทำเช่นนั้นจะสังหารเจเนวีด้วยมือคู่นี้ จัดการนางให้ย่อยยับและสิ้นซาก แต่บังเอิญว่าวันนั้นกลับมีเรื่องราวมากมายเกิดขึ้นกับเราเธอเอายาแปลกๆ ให้เขาทานและนั่นทำให้ส่วนลับของเขาตั้งโด่ขึ้นมาไม่ยอมล้มเป็นระยะเวลาหนึ่งเดือนเต็มๆ นั่นคือเรื่องยุ่งยากมากจริงๆ ในความคิดของไอแซ็ค เขาก่นด่าชื่อของเจเนวีออกมาวันละหลายๆ ครั้งเลยทีเดียวแต่เรื่องราวมันเริ่มเปลี่ยนไปเมื่อเขาและเธอใกล้ชิดกันมากยิ
ชีวิตของฉันเปลี่ยนไปจากเดิมนิดหน่อย..ไม่สิไม่นิดหน่อยเพราะว่ามันเปลี่ยนไปจากเดิมมากทีเดียวข้อแรกหลังจากที่ฉันแต่งงานอย่างเรียบง่ายภายในคฤหาสน์โรแลนด์ที่มีแค่คนรู้จักและคนที่สนิทเท่านั้นที่มาร่วมงาน ท่านอีริคยังคงเป็นคาดินันอยู่เพราะแบบนั้นท่านจึงทำพิธีแต่งงานให้ฉันและท่านไอแซ็คด้วยตัวเองท่านป้ายังคงร้องไห้และก่นด่าท่านไอแซ็คไม่หยุด บ่นว่าท่านไอแซ็คนั้นไม่เหมาะสมกับฉันเลยสักนิดเดียว แต่สิ่งที่ทำให้ท่านยินดีอย่างที่สุดก็หนีไม้พ้นที่ฉันเข้าไปเป็นลูกสะใภ้ของท่านป้า จากหลานเดินทางเข้าสู่การเป็นลูกสะใภ้ ความสัมพันธ์ในครอบครัวของเราก็ยุ่งเหยิงเหมือนสายไฟฟ้าเหมือนกันนะเนี่ยเรื่องภายในระหว่างแม่สามีกับลูกสะใภ้ลืมไปได้เลยจ้าเพราะว่ามันไม่มีเรื่องอะไรแบบนั้นเกิดขึ้นมาแน่ๆ ท่านป้าเลี้ยงเจเนวีมาเองกับมือและรักเจเนวีเป็นที่สุด เพราะแบบนั้นไม่มีทางที่ท่านป้าจะด่าหรือว่าฉันเลย แต่ท่านกลับบ่นท่านไอแซ็คแทน..หลังจากที่ฉันแต่งงานท่านอีริคก็ยื่นเรื่องลาออกจากการเป็นคาดินันต่อวิหาร และเขาได้รับการยินยอมอย่างง่ายดาย นั่นทำให้ตอนนี้ท่านอีริคคือผู้ช่วยของท่านไอแซ็คไปโดยปริยาย เนื่องจากธุรกิจของตระกูลโรแลน
เพราะเรื่องหลังจากนี้ไม่มีอะไรต้องให้คิดเยอะอยู่แล้ว เช่นนั้นหากระหว่างทางฉันแวะเล็กน้อยเพื่อดื่มด่ำบรรยากาศระหว่างทางก็คงจะไม่นับว่าเป็นอะไรหรอกใช่ไหมบนรถม้าสั่นคลอนเล็กน้อยเมื่อเจเนวีลุกขึ้นมานั่งบนตักของอีริค เธอฝังริมฝีปากลงไปบนริมฝีปากของเขาอย่างลืมตัว แน่นอนว่าอีริคเองก็จูบตอบด้วยความเร่าร้อนเช่นเดียวราวกับว่าเขารอคอยจุมพิตนี้มาทั้งชีวิต เขาดูดดึงเรียวลิ้นเล็กๆ นั้นอย่างแรง เราจูบกันเนิ่นนานจนเกิดเสียงดังฉ่ำแฉะไปทั่วรถม้า เธอร้องครางในลำคอเมื่อมือของเขาเลิกกระโปรงของเธอขึ้นมาอีริคในวันนี้ดูร้อนรนอย่างบอกไม่ถูก อาจจะเพราะว่าเราไม่ต้องคำนึงถึงอะไรทั้งนั้น..จากนี้ไปเราแค่คิดถึงความต้องการของตัวเองแค่เท่านั้นก็พอ เรื่องหลังจากนั้นไม่ต้องมาคอยวิตกกังวลใดๆ ทั้งสิ้นเขาใช้นิ้วจับแหวกกางเกงซับในของเธอไปไว้ที่ด้านข้างเพื่อให้นิ้วมือของเขาได้ลูบไล้กับกลีบดอกไม้ที่ฉ่ำแย้มนั้นโดยตรง เจเนวีเธอก็ไม่ยอมแพ้เธอจู่โจมเข้าที่กลางลำตัวของเขาอย่างอุกอาจ ปลายนิ้วกำลังเล่นสนุกอยู่กับความโค้งมนตรงส่วนปลายก่อนที่เธอจะเริ่มรูดรั้งมันขึ้นมาเพื่อปลุกสัญชาตญาณดิบเถื่อนในใจของเขาขึ้นมาเขาจดจ้องดวงตาคู่นั้
อีริคเลิกคิ้วขึ้นด้วยความประหลาดใจเมื่อเขาพบเจอท่านข้าหลวงที่เดินทางมาที่วิหารด้วยความเร่งรีบ“องค์จักรพรรดิทรงมีรับสั่งให้จัดเตรียมจอกศักดิ์สิทธิ์และให้คาดินันระดับสูงไปทำพิธีหลั่งเลือดด้วย..เก็บเรื่องนี้เอาไว้เป็นความลับแล้วเร่งรีบตามมาเถิด”อีริครีบเดินเข้าไปหาท่านคาดินันลำดับที่หนึ่ง“ให้ข้าช่วยนะครับ ท่านคาดินันไปเตรียมตัวเถิด ส่วนข้าจะไปจัดเตรียมของให้เอง”จะมีเรื่องใดอีกเล่าที่ต้องใช้วิธีการหลั่งเลือดใส่จอกศักดิ์สิทธิ์ หากมิใช่การเทียบเคียงสายเลือด พิธีนี่คือพิธีที่มีตั้งแต่แรกเริ่มก่อตั้งจักรวรรดิ เพราะองค์จักรพรรดิองค์แรกมีความสัมพันธ์กับสตรีมากมาย นั่นทำให้มีผู้คนจำนวนไม่น้อยที่มาแอบอ้างว่าตนเองคือองค์หญิงและองค์ชาย เรื่องนี้ทำให้เมืองหลวงปั่นป่วนมากทีเดียว ท่านคาดินันระดับสูงในช่วงเวลานั้นจึงเดินทางเพื่อตามหาจอกศักดิ์สิทธิ์ในตำนานเพื่อหาข้อพิสูจน์ว่าผู้ใดที่กันแน่ที่มีสายเลือดขององค์จักรพรรดิจริงๆหากเป็นสายเลือดเดียวกัน เลือดที่หลั่งรินลงในจอกศักดิ์จะหลอมรวมเป็นหนึ่ง แต่ทว่าหากมิใช่สายเลือดเดียวกัน เลือดจะแยกตัวและไม่ทำให้น้ำในจอกเปลี่ยนเป็นสีแดง..หากอีริคคาดเดาไม่ผิด นี่
“ต้องคุยให้รู้เรื่องและเผยให้เห็นถึงความจริงใจนะคะ ข้ารู้ว่าท่านไอแซ็คทำได้และ..ข้ารู้ว่าทุกคำที่ท่านกล่าวออกมากับท่านป้ามันจะเป็นความจริงที่ออกมาจากหัวใจของท่าน..”ก่อนจากลากัน เจเนวีเน้นย้ำกับเขาอีกครั้ง..ไม่ใช่ว่าเธอไม่เชื่อใจเขาแต่ว่าเธออยากให้เขา..แสดงความจริงใจออกมาให้มากที่สุด เพราะปกติแล้วเขาไม่ได้แสดงออกทางสีหน้ามากมายเท่าไหร่นักเขายืนอยู่ด้านหน้าคฤหาสน์โรแลนด์เพื่อรอคอยต้อนรับท่านแม่เซียร่าที่กำลังเดินทางกลับมา ใช้เวลาไม่นานขบวนรถม้าของท่านแม่ก็เคลื่อนตัวเข้ามาภายในคฤหาสน์ แน่นอนว่าการที่เขามายืนรอต้อนรับท่านแม่เช่นนี้มันอาจจะดูแปลกตามากทีเดียว“ลมอันใด หอบเอาแกรนด์ดยุคมายืนรอข้าถึงด้านหน้าคฤหาสน์อย่างนั้นหรือ?”เขาเขียนจดหมายไปถามไถ่หมายกำหนดการเดินทางเพียงแค่ผิวเผินเท่านั้นว่าจะเดินทางกลับเมื่อไหร่และจะถึงเวลาไหน ไอแซ็คคิดว่ากับเรื่องสำคัญเขาไม่ควรเขียนผ่านทางจดหมายแต่ควรจะพูดคุยต่อหน้ามากกว่า“เราเข้าไปคุยกันที่ด้านในเถอะครับ..ข้ามีเรื่องมากมายจะพูดคุยกับท่านแม่อยู่พอดี”ดวงตาของหญิงชราอ่อนลงเล็กน้อย เธอเองก็รู้สึกเหนื่อยกับการทำสงครามในคฤหาสน์โรแลนด์แห่งนี้แล้วเหมือนกัน
สายลมเย็นในช่วงปลายฤดูร้อนกำลังพัดผ่านร่างกายของเธอไป เจเนวียืนอยู่ที่ด้านหน้าพระราชวัง รถม้าของท่านแม่กำลังเคลื่อนตัวออกไปไกลมากขึ้นเรื่อยๆจนสุดสายตา..บางทีคนเราก็แค่ต้องการความกล้าหาญสักหน่อยเพื่อที่จะลุกขึ้นมาต่อสู้กับความกลัวของตัวเอง“ท่านแม่ใจร้ายไปหน่อยที่ไม่บอกว่าท่านจะออกเดินทางวันนี้”จารีอัลเดินเข้ามายืนข้างๆ เจเนวี“วิวที่ด้านหน้าพระราชวังเป็นแบบนี้เองนะเพคะ มันช่างสวยงามและ..เหงานิดหน่อย โชคดีที่ข้ากำลังจะเดินทางออกไปจากที่นี่แล้ว ไม่อย่างนั้นหากต้องทนดูวิวเหงาๆ เช่นนี้ต่อไป ข้าคงจะขาดใจตายแน่ๆ”จารีอัลมองหน้าน้องสาวที่กำลังหัวเราะออกมาทั้งๆ ที่ในใจของนางไม่ได้นึกขำเลย“ไปเจอเสด็จพ่อหน่อยสิ..พระองค์ทรงอาการไม่ดีเลย”“อ่า..ให้ข้าไปมิใช่ว่าอาการของพระองค์จะทรุดหนักมากกว่าเดิมอีกอย่างนั้นหรือเพคะ พระองค์ทรงไม่ชอบหน้าข้าอยู่แล้วนี่”จารีอัลส่ายหน้าเบาๆ“ไม่ได้เป็นเช่นนั้นหรอก..บางทีในยามนี้พระองค์อาจจะกำลังต้องการเจอเจ้ามากที่สุดก็ได้ ไหนๆ เจ้าก็จะออกจากพระราชวังอยู่แล้วนี่..ไปล่ำลาพระองค์อย่างเป็นทางการเถิด”ที่เสด็จพี่กล่าวมาก็ถูกต้อง..เธอกำลังจะออกเดินทางจากพระราชวังแล้วใ
มากาเร็ตปรายสายตาไปมองหน้าของไอแซ็คด้วยแววตาที่สั่นไหว..นางไม่อยากตัดสินคนเพียงภายนอก เพราะแบบนั้นนางจะไม่ตีตราว่าไอแซ็คคือคนไม่ดีเหมือนกับพ่อของเขา“มีนา..นำทะเบียนสมรสมาสิ ข้าจะเป็นพยานให้การแต่งงานในครั้งนี้เอง”แน่นอนว่าเมื่ออดีตองค์จักรพรรดินีกล่าวออกมาเช่นนั้น ทั้งเจเนวีและไอแซ็คต่างมองหน้ากันไปมา เจเนวีไม่คิดว่าเสด็จแม่จะยินยอมให้เราแต่งงานกันง่ายดายถึงเพียงนั้น“ลังเลอันใดอยู่..เจ้าทั้งสองยังไม่อยากแต่งงานกันหรืออย่างไร”“ตะ..แต่งครับ ข้าจะแต่งงานกับเจนนี่อย่างแน่นอน”มากาเร็ตจุดยิ้มที่มุมปากด้วยความพึงพอใจ“เช่นนั้นก็ลงนามสิแกรนด์ดยุค ข้าจะส่งทะเบียนสมรสนี้ไปที่วิหารเพื่อประกาศเรื่องการแต่งงานของเจ้าทั้งสองเอง”อีริคมองหน้าขององค์หญิงเจเนวี รอยยิ้มของเขามันค่อยๆ แย้มบานออกมาด้วยความยินดี“ให้เป็นหน้าที่ของกระหม่อมเองพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมจะต้องเดินทางกลับไปที่วิหารอยู่แล้ว รับรองได้เลยว่ากระหม่อมจะเป็นผู้รับรองใบทะเบียนสมรสนี้ด้วยตัวเอง”เขาคือคาดินันคนหนึ่ง เขามีสิทธิ์อย่างชอบธรรมในการลงนามเพื่อรับรองใบทะเบียนสมรสของชนชั้นสูงมากาเร็ตพยักหน้า“หวังอย่างยิ่งว่าเจ้าคงจะไม่น้อยใจใช