Share

บทที่ 29 ศพลูก

last update Last Updated: 2025-04-05 15:47:41

แน่นอนว่าเมื่อเรื่องราวเป็นไปในทิศทางนี้ย่อมจะรอช้าไม่ได้อีก

เสิ่นเหวยอันเสนอให้แยกกันช่วยคน โดยเขาจะไปที่คุกใต้ดิน ส่วนซูอวี้เฉิงให้รีบกลับไปที่เมืองเจียงตานเพราะคาดว่าตอนนี้กองกำลังทหารน่าจะใกล้เดินทางมาถึงแล้ว หากเกิดเหตุฉุกเฉินพวกเขาจะรีบส่งสัญญาณให้นำกองกำลังเข้าบุกประชิด ซูอวี้เฉิงรับคำก่อนจะเร่งจากไปทันที

เซวียนซานหลางพลันหันมาเอ่ยกับมู่หลานเฟิน

"เจ้าไปกับข้า"

มู่หลานเฟินพยักหน้ารับ ด้านเสิ่นเหวยอันนั้นเพียงมองดูคนทั้งสองอยู่ห่างๆ

เมื่อตกลงกันตามนี้แล้ว พวกเขาจึงแยกย้ายกัน เซวียนซานหลางและมู่หลานเฟินลอบเข้ามาในตำหนักของหนานอ๋อง เพื่อหาห้องลับที่เขาเก็บศพบุตรชายเอาไว้ เขาจะต้องเก็บร่างของลูกตนเอาไว้ที่ใดสักแห่งในตำหนักเป็นแน่ แต่จนแล้วจนรอดพวกนางกลับหาไม่พบ

"ซื่อจื่อ ท่านกับข้าต้องแยกกันหา หากยังตัวติดกันเช่นนี้ย่อมล่าช้าไม่ทันการณ์เป็นแน่"

เซวียนซานหลางเมื่อได้ยินเช่นนั้นก็เอ่ยด้วยเสียงขรึม

"ข้าไม่มีทางปล่อยให้เจ้าไปตามลำพัง"

อยู่ๆมู่หลานเฟินก็รู้สึกอบอุ่นในหัวใจ แต่นางกลับไม่ได้แสดงท่าทางดีใจอันใดออกมา เพียงตอบกลับเขาไปด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา

"ท่านไม่ต้องกังวล คนเช่นข้าไม่มีทางตา
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • เมื่อข้าทะลุมิติมาเป็นนางร้ายผู้ประสบภัย   บทที่ 30 เต้าฮวย

    เมื่อสงครามจบลง หนานอ๋องถูกควบคุมตัวไปคุมขังไว้ในคุกของเมืองเจียงตาน หน้าที่สืบสวนและสอบปากคำตกไปเป็นของซูอวี้เฉิง แต่ดูเหมือนว่าตั้งแต่บุตรชายตายจากไป หนานอ๋องก็กลายเป็นคนสติวิปลาสไปเสียแล้ว เขาเอาแต่ร้องไห้คร่ำครวญหาบุตรชาย สุดท้ายก็ตรอมใจตายจากไปในเวลาต่อมาส่วนเด็กๆที่ถูกช่วยออกมาได้ทันเวลาก็ถูกส่งตัวกลับไปให้ครอบครัวเสิ่นเหวยอันสั่งให้คนของตนนำจดหมายลับไปถวายให้ฝ่าบาทอย่างรวดเร็ว แม้เขาจะแจ้งไปในจดหมายว่าพบตัวเซวียนซานหลางแล้ว แต่เขากลับไม่ได้บอกฮ่องเต้เซวียนจงว่าเซวียนซานหลางได้รับพิษ เรื่องนี้อย่าให้ตื่นตระหนกจนเกินไปจะดีกว่า และเซวียนซานหลางเองก็ไม่ต้องการให้เสด็จลุงของเขาทราบเรื่องที่ตนถูกพิษเช่นเดียวกันด้านมู่หลานเฟินนั้นนางอยู่ดูแลเซวียนซานหลางไม่ห่าง โชคดีที่มีเซวียนเจ๋อค่อยช่วยเหลืออีกแรงทำให้ไม่ลำบากเกินไปนัก นางมองดูชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาที่ตอนนี้นอนหลับอยู่บนเตียง ดวงตาทั้งสองมีผ้าสีขาวพันเอาไว้มู๋หลานเฟินนึกเจ็บใจยิ่งนัก หนานอ๋องผู้นั้นนอกจากเจ้าเล่ห์แล้วยังคิดจะลากเซวียนซานหลางให้ตายไปพร้อมกันเหตุใดจึงมีแต่คนอยากเอาชีวิตของเซวียนซานหลางมากมายถึงเพียงนี้"แค่กแค่ก

    Last Updated : 2025-04-05
  • เมื่อข้าทะลุมิติมาเป็นนางร้ายผู้ประสบภัย   บทที่ 31 เจ้าคือใคร

    เช้าวันต่อมามู่หลานเฟินตื่นสายกว่าทุกวัน นางรู้สึกปวดหนึบไปทั้งศีรษะ จำได้ว่าไปดื่มเหล้ากับเสิ่นเหวยอัน จากนั้นก็กลับบ้านแล้วภาพก็ตัดไปทันทีหญิงสาวยกมือนวดหว่างคิ้วก่อนจะลุกมาล้างหน้าล้างตาอาบน้ำและผลัดเปลี่ยนอาภรณ์ เมื่อออกมาจากห้องก็มากินมื้อเช้าที่เซวียนเจ๋อทำเอาไว้ ก่อนจะเอายาไปให้เซวียนซานหลางเหมือนเช่นทุกวันเมื่อมาถึงก็พบว่าท่านหมอกำลังตรวจอาการของเขาอยู่ เมื่อเห็นนางเข้ามาเขาก็ยิ้มให้เล็กน้อย อีกทั้งยังมีท่าทีประหม่าจนมู่หลานเฟินสงสัย แต่นางไม่ได้เอ่ยถามสิ่งใดไป เซวียนเจ๋อบอกว่าจะไปส่งท่านหมอและจะไปเตรียมของว่าง นางพยักหน้าเล็กน้อย ก่อนจะเดินเข้ามาหาเซวียนซานปลาง นางทิ้งกายลงนั่งข้างๆเขา หญิงสาวเว้นระยะห่างพอประมาณก่อนจะตักยาขึ้นมาเป่าเบาๆ“ซื่อจื่อได้เวลาดื่มยาแล้ว"ชายหนุ่มตรงหน้าไม่ตอบ แววตายังคงเลื่อนลอยเช่นเดิม คล้ายกับจับทิศจับทางไม่ถูก มู่หลานเฟินที่เห็นก็รู้สึกสงสารเขาขึ้นมา คนหยิ่งผยองเช่นเซวียนซานหลางกลับต้องมาตกอยู่ในสภาพเช่นนี้เขาจะต้องรู้สึกอึดอัดมากเป็นแน่นางค่อยๆยื่นช้อนไปที่ริมฝีปากของเขา ชายหนุ่มค่อยๆกินมันเหมือนเช่นทุกวัน หลังจากดื่มยาเสร็จแล้วก็นั่งเอนพิงห

    Last Updated : 2025-04-05
  • เมื่อข้าทะลุมิติมาเป็นนางร้ายผู้ประสบภัย   บทที่ 32 เปิดใจ

    มู่หลานเฟินเม้มริมฝีปากแน่น ก่อนจะยกมือน้อยๆทั้งสองไปดันแผงอกของชายหนุ่มจนสามารถหลุดพ้นจากพันธนาการของเขาได้ นางรู้สึกประหม่าเป็นอย่างมากเซวียนซานหลงเองก็ไม่คิดดึงดันที่จะกดนางลงบนเตียงอีก คนทั้งสองนั่งอยู่ข้างกัน พลางมองหน้ากันไปมามู่หลานเฟินเองก็รู้อยู่ในใจมานานแล้ว เซวียนซานหลางเป็นคนฉลาดเขาไม่มีทางไม่สงสัยที่นางเปลี่ยนไป "ว่าอย่างไร เจ้าเป็นผู้ใดกันแน่"เขาเอ่ยถามนางด้วยน้ำเสียงเจือความสงสัย แต่ไหนแต่ไรเซวียนซานหลางไม่เคยเชื่อเรื่องสิงศพคืนชีพหรือเรื่องที่วิญญาณอีกคนมาอยู่ในร่างของอีกคน แต่มู่หลานเฟินในตอนนี้กลับทำให้ความคิดของเขาเปลี่ยนไปนางเปลี่ยนไปราวกับเป็นคนละคน แน่นอนว่าย่อมเป็นไปไม่ได้ที่คนๆหนึ่งจะมีการเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดีขึ้นรวดเร็วเช่นนี้ อีกทั้งภูมิหลังของนางก็ไม่ดี ความสามารถก็ไม่มีสิ่งใดโดดเด่นเลยแม้แต่น้อย แต่ยามนี้กลับมีความสามารถเสียจนน่าทึ่งชายหนุ่มจ้องมองเข้าไปในดวงตาของหญิงสาวตรงหน้าราวกับต้องการมองให้ทะลุปรุโปร่ง มู่หลานเฟินถอนหายใจออกมา ก่อนจะเอ่ย"หากข้าเล่าให้ฟัง ท่านจะเชื่อหรือไม่""เล่ามาเถอะ"มู่หลานเฟินพยักหน้าเล็กน้อย ก่อนจะเริ่มเล่าตั้งแต่ต้น

    Last Updated : 2025-04-05
  • เมื่อข้าทะลุมิติมาเป็นนางร้ายผู้ประสบภัย   บทที่ 33 กินขนม

    อาหารมื้อนี้ผ่านไปด้วยดี ในระหว่างมื้ออาหาร เซวียนซานหลางคีบเนื้อย่างให้นาง นางก็คีบเนื้อปลาให้เขา เซวียนชินอ๋องที่เห็นอย่างนั้นก็ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ส่วนอวี้หลิงไม่เอ่ยอันใด ด้านเซวียนเจ๋อก็มีความสุขเป็นอย่างมากหลังจากกินอิ่มแล้ว มู่หลานเฟินก็ตรงไปที่โรงครัว ก่อนจะมุ่งหน้ามาที่เรือนของเซวียนซานหลางพร้อมกับกล่องอาหารในมือ วันนี้นางทำขนมหวานหลังมื้ออาหารเอาไว้ นั่นก็คือวุ้นน้ำดอกชบา รสชาติหวานล้ำ เหมาะกับอากาศที่ร้อนอบอ้าวเช่นนี้เป็นอย่างมากเซวียนซานหลางกำลังนั่งสะสางงานอยู่ที่โต๊ะอักษร หลังจากที่เขากลับมาก็พบว่ามีงานมากมายรอให้เขาจัดการ อีกทั้งพรุ่งนี้ยังต้องไปเข้าเฝ้าเสด็จลุงที่วังหลวงแต่เช้าอีกด้วย"ซื่อจื่อ คุณหนูมู่มาขอพบท่านขอรับ"เมื่อได้ยินอาต่งองค์รักษ์บอกว่ามู่หลานเฟินมาหา เซวียนซานหลางก็รีบวางงานในมือลงทันที"รีบให้นางเข้ามา"อาต่งพยักหน้ารับคำ ก่อนจะไปแจ้งมู่หลานเฟินที่รออยู่ด้านนอก หญิงสาวพยักหน้าก่อนจะเดินเข้ามาในเรือนด้วยท่าทีประหม่า นี่เป็นครั้งแรกที่นางเข้ามาในเรือนของเซวียนซานหลางภายในเรือนตกแต่งอย่างเรียบง่าย ไม่ได้หรูหราอันใดมากนัก ทำให้นางค่อนข้างแปลกใจเป็นอย่างมา

    Last Updated : 2025-04-05
  • เมื่อข้าทะลุมิติมาเป็นนางร้ายผู้ประสบภัย   บทที่ 34 เรื่องราวของราชครูสวี

    ด้านมู่หลานเฟินนั้นก็ถูกเซวียนซานหลางจูงมือเดินมาที่รถม้าท่ามกลางสายตาของผู้คนที่มองมา เขาไม่ได้สนใจสายตาของคนเหล่านั้นเลยแม้แต่น้อยเมื่อเข้ามานั่งในรถม้าแล้ว มู่หลานเฟินก็จ้องมองเซวียนซานหลางอย่างไม่ละสายตา เซวียนซานหลางที่เห็นเช่นนั้นจึงเอ่ยถามนาง"เจ้ามองข้าด้วยเหตุใด"มู๋หลานเฟินยิ้มออกมาเล็กน้อย ก่อนจะโผเข้าไปกอดเขาเอาไว้“ถึงกับจะเผาโรงน้ำชาเพื่อข้า ท่านจะใจกล้าเกินไปแล้ว ซื่อจื่อ ข้าไม่อยากให้ท่านถูกผู้คนมองไม่ดี ข้าไม่อยากให้ท่านลำบากใจแม้เพียงน้อย”เซวียนซานหลางเมื่อได้ยินอย่างนั้นก็ยิ้มออกมา เขาเกยคางตนลงบนศีรษะของหญิงคนรัก และกอดนางเอาไว้“ข้าไม่ลำบากหรอก ไม่ลำบากเลยสักนิด”มู่หลานเฟินรู้สึกอบอุ่นใจยิ่งนัก นางซุกใบหน้าเข้าไปในแผงอกของเขาเหมือนแมวน้อยกำลังคลอเคลียเจ้าของ เซวียนเจ๋อที่ตามเข้ามาเห็นภาพตรงหน้าก็ถึงกับลอบยิ้ม เซวียนซานหลางที่เห็นเช่นนั้นจึงเอ่ยถามน้องชายทันที“เจ้ายิ้มอันใด”เซวียนเจ๋อเดินเข้ามานั่งในรถม้า ก่อนจะเอ่ย“ไม่มีอันใด พวกท่านกอดกันไปเถอะ ข้าจะหลับตาแล้ว”เอ่ยจบเขาก็ทำเป็นแกล้งหลับตาไม่มองคนทั้งสองพลอดรักกันเรื่องราวที่เซวียนซานหลางประกาศว่ามู่หลานเฟ

    Last Updated : 2025-04-05
  • เมื่อข้าทะลุมิติมาเป็นนางร้ายผู้ประสบภัย   บทที่ 35 สมรสพระราชทาน

    อวี้หลิงที่อยู่ในจวนอ๋องเมื่อได้ยินข่าวลือแพร่สะพัดเกี่ยวกับเซวียนซานหลางและมู่หลานเฟินนั้น นางก็ไม่ได้เอ่ยสิ่งใด เพียงรับฟังเงียบๆเท่านั้นไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดนางจึงไม่กระตือลือล้นที่จะทำลายเซวียนซานหลางอีก อาจเพราะเกิดเรื่องครั้งนั้นขึ้นมันจึงทำให้ความคิดของนางเปลี่ยนไป ถึงอย่างนั้นนางก็ยังหวังตำแหน่งชินอ๋องให้บุตรชายอยู่แต่เซวียนเจ๋อกลับทำตัวเหินห่างจากนาง เขาเริ่มสนทนากับนางน้อยลง บางครายังหลบหน้านาง นี่คือสิ่งที่ทำให้อวี้หลิงทุกข์ใจเป็นที่สุดหลายวันต่อมาฮ่องเต้เซวียนจงมีรับสั่งเรียกตัวเซวียนซานหลางเข้าวังหลวง หลังจากประชุมยามเช้าเสร็จเรียบร้อยแล้ว สองลุงหลานก็พากันเดินไปตามทางเดินภายในอุทยานหลวงอย่างไม่รีบไม่ร้อน ฮ่องเต้เซวียนจงมองหลานชายของตนที่ตอนนี้เติบโตเป็นบุรุษรูปงามองอาจ มากความสามารถก็รู้สึกตื้นตันใจขึ้นมาชีวิตของเซวียนซานหลางผ่านอะไรมามากมายนัก บิดาก็ไม่ได้รักใคร่เท่าท่ี่ควร มารดาก็มาด่วนตายจาก กำลังทหารที่อยู่ในมือของเซวียนซานหลางตอนนี้เปรียบเสมือนดาบสองคม อาจทำให้คนระแวงได้ แต่หลานชายคนนี้ไม่เคยมีความทะเยอะทะยานใดเลยแม้แต่น้อยบุรุษที่ดีงามเช่นนี้ควรจะได้แต่งกับสตร

    Last Updated : 2025-04-05
  • เมื่อข้าทะลุมิติมาเป็นนางร้ายผู้ประสบภัย   บทที่ 36 ซ้อนแผน

    จวนตระกูลสวียามนี้สวีเมิ่งเหยากำลังนั่งมองราชโองการที่เพิ่งได้รับมาด้วยใบหน้าที่แช่มชื่นเป็นสุขอย่างถึงที่สุด นับว่าสรรค์เข้าข้างนางแล้ว ท้ายที่สุดมู่หลานเฟินสตรีต่ำต้อยนางนั้นก็ไม่อาจจะสู้นางได้แม้เพียงปลายเล็บนางไม่สนใจว่าเซวียนซานหลางจะมีใจชอบพอในตัวนางหรือไม่ ขอเพียงตำแหน่งภรรยาเอกตกเป็นของนาง อย่างไรนางย่อมอยู่เหนือกว่ามู่หลานเฟิน รอให้นางแต่งเข้าไป แม้มู่หลานเฟินจะเป็นภรรยารองที่เขารักใคร่มากเพียงใด นางก็จะหาทางกำจัดนังหญิงสารเลวผู้นี้ออกไปจากจวนอ๋องให้จงได้นางเป็นภรรยาพระราชทาน ต่อให้เขาจะเกลียดชังนางมากเพียงใดก็ไม่อาจฆ่าแกงหรือหย่าขาดกับนางได้เซวียนซานหลางชั่วชีวิตนี้ท่านอย่าคิดว่าจะหนีไปจากข้าได้เลย!ด้านราชครูสวีนั้นก็ไม่ได้เอ่ยสิ่งใด เดิมทีเรื่องนี้เขาไม่อยากจะให้เกิดขึ้น เขาไม่อยากจะร่วมนับญาติกับเซวียนซานหลาง แต่คนผู้นั้นบอกว่ายังต้องการใช้เซวียนซานหลางเป็นเครื่องมือ ตอนนี้ยังไม่สามารถตั้งตนเป็นปรปักษ์กับเจ้าเด็กนั่นได้ รอให้เรื่องที่พวกเขากำลังจะทำสำเร็จลุล่วงเสียก่อน ค่อยหาทางกำจัดทิ้งก็ยังไม่สาย ตอนนี้ต้องใช้ราชโองการฉบับนี้ทำให้เซวียนซานหลางใจไม่สงบสุข ให้เขาว้าวุ

    Last Updated : 2025-04-05
  • เมื่อข้าทะลุมิติมาเป็นนางร้ายผู้ประสบภัย   บทที่ 37 วัดสือฉี

    เซวียนซานหลางเมื่อได้ยินในที่สิ่งที่มู่หลานเฟินเอ่ยขึ้นมาก็ถึงกับตื่นตระหนกไม่น้อย เขาจ้องมองนางอย่างไม่ละสายตา ก่อนจะเอ่ย"เจ้าแน่ใจหรือ"มู่หลานเฟินพยักหน้าพลางเอ่ยตอบ"แน่ใจ ท่านก็รู้ว่าแต่ไหนแต่ไรจมูกของข้าน่ะมักจะได้กลิ่นแปลกประหลาดที่คนอื่นทั่วไปไม่ได้กลิ่น ตอนที่เดินเข้าไปใกล้รูปปั้นเทพธิดาข้าก็ได้กลิ่นแล้ว แต่ที่ท่านและคนที่มากราบไหว้ไม่ได้กลิ่นอาจเป็นเพราะว่าภายในอารามจุดธูปหอมอบอวลไปหมด แต่ข้ากลับได้กลิ่นชัดเจน ให้ตายเถอะ กลิ่นนั้นยังติดจมูกข้าอยู่เลย คิดแล้วก็อยากจะอาเจียนยิ่งนัก"มู่หลานเฟินทำท่าทางย่นจมูก ก่อนจะเปิดผ้าม่านรถม้าเพื่อสูดเอาอากาศบริสุทธิ์ด้านนอก ด้านเซวียนซานหลางมีท่าทีครุ่นคิด กลิ่นศพอย่างนั้นหรือ เหตุใดจึงกลิ่นนี้จึงมาจากรูปปั้นเทพธิดาได้เล่าหรือว่าวัดแห่งนั้นจะซ่อนบางอย่างเอาไว้มู่หลานเฟินเมื่อรู้สึกดีบ้างแล้วก็หันมาเอ่ยกับเขาด้วยสีหน้าจริงจัง"ซานหลาง ท่านคิดเหมือนกับข้าหรือไม่ว่า บางทีวัดแห่งนั้นอาจจะมีปัญหา"เซวียนซานหลางพยักหน้าพลางเอ่ย"เห็นทีข้าคงจะต้องมาที่นี่อย่างลับๆเพื่อตรวจดูเสียแล้ว""นั่นสิ"คนทั้งสองพูดคุยสนทนากันถึงเรื่องนี้อยู่ครู่หนึ่ง

    Last Updated : 2025-04-05

Latest chapter

  • เมื่อข้าทะลุมิติมาเป็นนางร้ายผู้ประสบภัย   ตอนจบ

    แต่ยังไม่ทันที่พวกเขาจะได้เข้าห่ำหั่นกับศัตรูเพื่อปิดจบสงครามฉากนี้นี้ ก็ได้ยินเสียงเกือกเท้าม้าดังกึกก้อง คนทั้งสามหันมาสบตากันอีกครั้ง ในดวงตาฉายแววเคร่งเครียดหรือนี่จะเป็นกำลังเสริมของชนเผ่าทุ่งหญ้า?ยังไม่ทันได้คิดสิ่งใดให้มากความเซวียนซานหลางก็เห็นว่ากองทหารของแคว้นทุ่งหญ้าที่ยืนตระหง่านอยู่เบื้องหน้าแตกแถวออกเป็นวงกว้าง ศีรษะของแม่ทัพเผาทุ่งหญ้าร่วงกระเด็นตกลงบนพื้นดวงตาเบิกโพลงเหมือนไม่อยากจะเชื่อว่าตนจะถูกสังหาร"ฆ่าทิ้งให้หมด!"เซวียนซานหลางมองไปเบื้องหน้า ก่อนที่ดวงตาของเขาจะแดงก่ำตอนนี้มู่หลานเฟิรกำลังควบอยู่บนหลังม้าด้วยท่วงท่าองอาจ มือหนึ่งจับบังเหียน มือหนึ่งถือหอกเอาไว้ในมือ ปลายด้ามหอกอาบย้อมไปด้วยโลหิตสีแดงสด นางสวมชุดเกราะรวบผมขึ้นสูง ดวงตามั่นคงหนักแน่นไม่หวาดหวั่น ทุกทีที่นางควบม้าพาดผ่าน ล้วนมีทหารของชนเผ่าทุ่งหญ้าล้มตายราวกับใบไม้ร่วงเสิ่นเหวยอันและซูอวี้เฉิงเมื่อได้เห็นเช่นนั้นก็ตื่นตระหนกไม่น้อย เดิมทีพวกเขารู้ว่านางมีความสามารถ แต่ไม่คิดว่าจะองอาจเยี่ยงแม่ทัพใหญ่ผู้เจนจัดสงครามในสนามรบเช่นนี้มู่หลานเฟินหันมามองบุรุษทั้งสามคน ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่องอาจ

  • เมื่อข้าทะลุมิติมาเป็นนางร้ายผู้ประสบภัย   บทที่ 46 สงคราม

    เมื่อเรื่องราวคลี่คลายแล้ว ทุกคนจึงเกินทางกลับมาที่เมืองหลวง เมื่อกลับมาถึงก็ได้ทราบข่าวร้ายก่อนหน้านี้เซวียนชินอ๋องติดสุราจนเมามาย ทำให้สุขภาพไม่สู้ดีจนถึงขึ้นล้มป่วยลง อีกทั้งยังได้รับความกระทบกระเทือนจิตใจเนื่องจากรู้ข่าวว่าอวี้หลิงปลิดชีพตนเองตายจากไป แม้ปากจะบอกว่าเกลียดชังนางย่ แต่เมื่อนางตายจากไปจริงๆ เขากลับทำใจไม่ได้ สุดท้ายจึงดื่มเหล้าหนักมากขึ้นเรื่อยๆ จนสุขภาพทรุดหนักลงเรื่อยๆ จวบจนทนไม่ไหวและตรอมใจตายตามอวี้หลิงไปก่อนจากเขาไม่ได้สั่งเสียสิ่งใดกับบุตรชายทั้งสองคน เอาแต่เหม่อลอยเรียกหาอวี้หลิงและอดีตพระชายาซึ่งก็คือมารดาของเซวียนซานหลาง จวบจนวาระสุดท้ายท่านพ่อของพวกเขาสองคนก็คิดถึงแต่ตนเอง ไม่เคยคิดถึงบุตรชายเลยแม้แต่น้อยงานศพของเซวียนชินอ๋องถูกจัดขึ้นอย่างเรียบง่ายเมื่อบิดาตายจากไป ตำแหน่งชินอ๋องย่อมตกเป็นของเซวียนซานหลางโดยชอบธรรม ส่วนเซวียนเจ๋อนั้นเขาไม่อยากจะรับตำแหน่งใดทั้งสิ้น เขาอยากเป็นเพียงคุณชายเจ้าสำราญที่ได้ใช้ชีวิตตามใจของตนด้านวังหลวงเองก็ไม่สู้ดีเท่าใดนัก ฮ่องเต้เซวียนจงอาการไม่สู้ดีขึ้นเรื่อยๆ อีกทั้งยังไม่ม่ีทายาทสืบทอด เหล่าขุนนางต่างหวาดหวั่นใจยิ่งน

  • เมื่อข้าทะลุมิติมาเป็นนางร้ายผู้ประสบภัย   บทที่ 45 จับคนร้าย

    วันคืนก็ผ่านไปเช่นนี้ จนกระทั่งสุขภาพของมู่หลานเฟินดีขึ้นมาก และเซวียนซานหลางก็สะสางธุระแล้วเสร็จและกลับมาเมืองหลวงพอดี นางจึงบอกเรื่องนี้กับเขาและตัดสินใจกลับบ้านเดิมสักครั้งจวนตระกูลอวี้เป็นตระกูลคหบดี พวกเขาเป็นคนเมืองจินหลิงซึ่งอยู่ห่างจากเมืองหลวงไปไม่ไกลเท่าใดนัก นับว่าเป็นครอบครัวที่ร่ำรวยที่สุดในเมืองจินหลิงแล้ว พวกเขาทำการค้าหลายอย่าง หลายปีมานี้กิจการก้าวหน้า เพราะมีน้าสาวและสามีของนางคอยดูแลวันแรกที่มู่หลานเฟินกลับไปถึง ก็พบว่าพวกเขามีท่าทีแปลกประหลาดจริงๆ เหมือนไม่อยากต้อนรับ ราวกับมีบางอย่างปิดบังนางอย่างไรอย่างนั้น แต่่เพราะมู่หลานเฟินต้องการสืบความจริง นางจึงแสร้งทำเป็นมองไม่เห็นท่าทีนั้นของพวกเขาและยังบอกอีกว่าอยากจะพักอยู่ที่นี่สักระยะเพราะมีเรื่องจะมาแจ้งทุกคน นางเดินทางมาครั้งนี้นำสมบัติมาด้วยหลายหีบบอกว่าเป็นของที่นางเก็บสะสมเอาไว้ แต่ตอนนี้ถูกไล่ออกจากจวนอ๋องแล้วไร้หนทางไปจึงต้องกลับมาบ้านเดิม อวี้หลันมองหลานสาวตนเองด้วยแววตาที่่อ่อนโย แต่ภายในใจกลับเย้ยหยัน ตอนนี้อวี้หลิงถูกขับออกจากจวนอ๋องไปอยู่ที่วัด นางเองไม่ได้สนใจพี่สาวเท่ามดนักเดิมทีพวกนางก็เป็นพี่น้อง

  • เมื่อข้าทะลุมิติมาเป็นนางร้ายผู้ประสบภัย   บทที่ 44 น้องสาวบุญธรรม

    เรื่องราวสะเทือนขวัญทั้งหมดที่เกิดขึ้น สร้างคลื่นลมใหญ่หลวงให้กับราชสำนักเป็นอย่างมาก เหล่าราษฎรต่างหวาดหวั่น ต้องใช้เวลาร่วมหลายเดือนกว่าที่คราวจะเงียบหายไปหลังจากเกิดเรื่อง เซวียนชินอ๋องก็กลายเป็นคนเมามาย และวาดใส่คนอื่นไปทั่วทั้งจวน โดยเฉพาะกับมู่หลานเฟิน เขาเอาโทสะทั้งหมดไปลงที่นาง บอกว่านาและป้าของนางคือตัวซวย อีกทั้งยับขับไล่นางออกจากจวนอ๋อง เซวียนซานหลางและเซวียนเจ๋อเองก็ปวดหัวไม่น้อยแต่มู่หลานเฟินกลับไม่ได้โกธร นางเข้าใจเรื่องราวได้อย่างกระจ่างแจ้ง เมื่ออวี้หลิงสิ้นอำนาจแล้ว นางย่อมไม่อาจอยู่ที่จวนอ๋องได้อีก และนางเองก็ไม่อยากจะสร้างปัญหาให้เขาเพิ่ม จึงปรึกษากับเขาว่าจะไปหาซื้อบ้านใหม่อยู่ เปิดร้านขายอาหาร เพราะของมีค่าที่ได้รับพระราชทานมาก่อนหน้านี้ก็ยังมีเหลืออยู่ไม่น้อย แรกเริ่มเซวียนซานหลางไม่เห็นด้วย แต่ม่หลานเฟินกลับเอ่ยโน้มน้าวเขาอย่างใจเย็น เขาจึงยอมตามใจนางเซวียนซานหลางหาบ้านหลังหนึ่งได้ มันตั้งอยู่ในตลาดสามารถทำมาค้าขายได้ เซวียนเจ๋อเป็นห่วงน้องสาวอยากตามมาอยู่ด้วย แต่มู่หลานเฟินบอกว่านางอยู่ได้ชีวิตที่ยากกำบากไม่ใช่ว่านางไม่เคยพานพบ ใช้ชีวิตมาหลายชาติพบเจอความทุ

  • เมื่อข้าทะลุมิติมาเป็นนางร้ายผู้ประสบภัย   บทที่ 43 ยาพิษ

    เซวียนซานหลางและมู่หลานเฟินรีบวิ่งมาที่เรือนของอวี้หลิงอย่างรวดเร็ว เมื่อมาถึงภาพตรงหน้าก็ทำให้พวกเขาถึงกับหน้าซีดเผือดตอนนี้เซวียนเจ๋อกำลังนอนอยู่บนเตียงเขากระอักโลหิตออกมาไม่หยุด ใบหน้าหล่อเหลาซีดเผือดจนน่าหวาดหวั่น ลมหายใจก็รวยรินราวกับจะขาดเสียให้ได้ เซวียนซานหลางที่เห็นสภาพน้องชายตนที่ย่ำแย่ถึงเพียงนี้ก็ตื่นตระหนกรีบสั่งให้คนไปตามหมอหลวงมาอย่างเร่งด่วน มู่หลานเฟินเข้าไปประคองญาติผู้พี่ของตนเอง ดวงตาของนางแดงกล่ำ ก่อนจะเอ่ย"เซวียนเจ๋อ เหตุใดจึงเป็นเช่นนี้ไปได้ ท่านดื่มยาพิษเข้าไปได้อย่างไรกัน"เซวียนเจ๋อเงยหน้ามามองมู่หลานเฟินอย่างอ่อนแรง ก่อนจะยิ้มออกมาเล็กน้อย เขาไม่ตอบอันใด เพียงมองไปที่มารดาของตนด้วยแววตาที่เย็นชาห่างเหินก่อนหน้านี้ท่านแม่ดูผิดปกติเป็นอย่างยิ่ง นางดูเหมือนครุ่นคิดอยู่ตลอดเวลา เขาจึงจับตาดูนางและพบว่านางกำลังวางแผนจะสังหารพี่ใหญ่ของเขาอีกครั้งเซวียนเจ๋อรู้สึกผิดหวังในตัวมารดาเป็นอย่างมาก เดิมทีเขาคิดว่าท่านแม่จะสามารถปล่อยวางความโลภในใจได้แล้ว แต่มันกลับไม่ใช่เลยแม้แต่น้อย ท่านแม่ยังคงมีจิตใจริษยามักใหญ่ใฝ่สูงท่านแม่คิดอาศัยช่วงชุลมุนวางยาพิษพี่ใหญ่ เขาที

  • เมื่อข้าทะลุมิติมาเป็นนางร้ายผู้ประสบภัย   บทที่ 42 ความจริง

    ด้านมู่หลานเฟินตอนนี้ก็ถูกโซ่ตรวนพันธนาการมือเท้าเอาไว้ นางได้กลิ่นสมุนไพรเข้มข้นสายหนึ่งที่ฉุนจนแทบแสบจมูก มันเป็นกลิ่นเดียวกับที่ได้กลิ่นจากศพในรูปปั้นเทพธิดา อีกทั้งบนโต๊ะยังมียันต์หลายแผ่นวางเอาไว้"สวีเจี๋ย เราต้องรีบทำพิธีแล้ว ไม่อย่างนั้นจะเลยฤกษ์ยามดี หลังจากนางตายก็เอาร่างนางหล่อเป็นรูปปั้นของเทพธิดา มอบนางเป็นเครื่องบูชายัญให้เทพปีศาจ เอาล่ะ ข้าจะเร่งขอพร ท่านก็รีบสังหารนาง จากนั้นก็ผ่าท้องนางและเอายันต์ขอพรยัดใส่เข้าไปพร้อมสมุนไพร""ได้เลย"ราชครูสวีรับคำ ด้านเฉินฮองเฮาก็นั่งลงเบื้องหน้าแท่นบูชาที่ตั้งอยู่ในห้องลับ ก่อนจะเอ่ยขอพรอย่างตั้งใจ"ท่านเทพปีศาจ ข้าได้นำเทพธิดามาสังเวยให้ท่านแล้ว หวังว่าท่านจะพอใจ เมื่อท่านพอใจแล้วก็ได้โปรดอำนวยอวยพระให้เซวียนจิ้น บุตรชายของข้าแข็งแรงโดยเร็ว ให้เขาได้ครองราชย์ยอย่างราบรื่น ไร้กังวลด้วยเถิด"มู่หลานเฟินมองภาพเบื้องหน้าด้วยแววตาที่วูบไหว นางพอจะเข้าใจเรื่องราวได้แล้วราชครูสวีและเฉินฮองเฮาดูเหมือนจะมีความสัมพันธ์พิเศษต่อกัน หรือว่าองค์ชายน้อยผู้นั้นจะ...ยังไม่ทันที่นางจะได้คิดสิ่งใดต่อ ก็พบกับสวีเมิ่งเหยาที่วิ่งเข้ามา ราชครูสวีและเ

  • เมื่อข้าทะลุมิติมาเป็นนางร้ายผู้ประสบภัย   บทที่ 41 แผนคลาดเคลื่อน

    เสียงน้ำสาดกระเซ็นเป็นวงกว้าง เซวียนซานหลางที่ได้ยินก็รีบวิ่งเข้ามาดูทันที เมิื่อเห็นว่ามู่หลานเฟินตกน้ำลงไปพร้อมกับสวีเมิ่งเหยาเขาขมวดคิ้วมุ่น แต่เมื่อเห็นว่านางลอบยักคิ้วให้เขาหนึ่งครั้ง เซวียนซานหลางก็ถึงกับเอ่ยวาจาใดไม่ออกนี่นางกำลังจะทำอันใดกันเซวียนเจ๋อที่เห็นเช่นนั้นจึงรีบร้อนวิ่งมาหาเซวียนซานหลาง"พี่ใหญ่ รีบช่วยหรานหร่านเร็วเข้า"ด้านฮ่องเต้เซวียนจงและเฉินฮองเฮาก็เริ่มร้อนใจแล้ว แม้แต่อวี้หลิงก็ยังนั่งไม่ติดที่สวีเมิ่งเหยาที่ถูกมู่หลานเฟินลากลงน้ำมาด้วยกันเริ่มมีโทสะขึ้นมา นางกัดฟันเอ่ยกับมู่หลานเฟินอย่างไม่พอใจ"นังสารเลว เจ้าคิดจะทำอันใด""เจ้าอยากกล่าวโทษข้า ว่าข้าผลักเจ้าตกน้ำไม่ใช่หรือ""เจ้ารู้ได้เช่นไร""เหอะ สวีเมิ่งเหยา เจ้าคิดว่าตนเองฉลาดมากนักหรือ แผนการเช่นนี้ข้ามองปราดเดียวก็กระจ่างแจ้งแก่ใจแล้ว ในเมื่อเจ้าอยากเล่นข้าก็จะเล่นด้วย พวกเรามาเล่นกันเถอะ"เอ่ยจบนางก็คว้ามือของสวีเมิ่งเหยามากดหัวตนเองให้จมน้ำ พร้อมกับทำท่าทางจะเป็นจะตาย สวีเมิ่งเหยาเลิกลั่กแล้ว มู่หลานเฟินไม่เพียงดำผุดดำว่ายอย่างสนุกสนาน แต่นางยังใช้มืออีกข้างยื่นมาหยิกที่เอวของสวีเมิ่งเหยาอย่างแรง

  • เมื่อข้าทะลุมิติมาเป็นนางร้ายผู้ประสบภัย   บทที่ 40 แกล้ง

    เช้าวันต่อมา มู่หลานเฟินตื่นนอนแต่เช้า นางไปหาอวี้หลิงและเซวียนเจ๋อที่พักอยู่อีกเรือนหนึ่ง เพื่อร่วมกินมื้อเช้า เช้าวันนี้ฮ่องเต้เซวียนจงไม่ได้สั่งให้พวกนางไปร่วมมื้อเช้าด้วย มู่หลานเฟินคิดว่าเป็นเช่นนี้ก็ดีเหมือนกัน เพราะนางก็ไม่อยากจะพบร่วมโต๊ะกับพวกเขาเท่าใดนักระยะนี้อวี้หลิงดูเหมือนจะมีท่าทางแปลกไป นอกจากจะไม่ก่อคลื่นลมใดแล้ว ในแววตายังดูเหมือนมีเรื่องให้ครุ่นคิดอยู่ตลอดเวลา มู่หลานเฟินเองไม่ได้เอ่ยถามสิ่งใดและไม่ได้วางใจเช่นกัน การที่อวี้หลิงไม่ก่อคลื่นลมไม่ได้แปลว่าพวกนางจะวางใจได้หลังจากผ่านพ้นมื้อเช้าไปเพียงไม่นาน ฮ่องเต้เซวียนจงก็มีรีบสั่งให้เซวียนซานหลางไปสนทนาที่ตำหนักใหญ่ มู่หลานเฟินไม่ได้ตามไปด้วย นางไปเดินเล่นที่สวนดอกไม้กับเซวียนเจ๋ออากาศที่นี่ค่อนข้างดีไม่น้อยเลย มองไปทางใดก็เห็นเหล่ามวลผกาออกดอกล้อเล่นลม ป่าไผ่รอบข้างก็เขียวขจีสดชื่น แม้แต่ทะเลสาบเบื้องหน้าก็ยังงดงามราวกับภาพวาด เซวียนเจ๋อที่เดินอยู่ข้างกายมู่หลานเฟิน พลันเอ่ยถามญาติผู้น้องของตนด้วยน้ำเสียงเป็นห่วงเป็นใย"หรานหร่าน หากพี่ใหญ่แต่งงานกับสวีเมิ่งเหยาแล้ว เจ้าจะทำเช่นไร เจ้าจะยอมแต่งเป็นภรรยาของเขาหร

  • เมื่อข้าทะลุมิติมาเป็นนางร้ายผู้ประสบภัย   บทที่ 39 พระราชวังฤดูร้อน

    หลายวันต่อมา มู่หลานเฟินที่เตรียมพร้อมอยู่แล้ว ก็ทำทีเป็นว่าทราบเรื่องที่วัดสือฉีเปิดให้หญิงสาวไปผูกดวงขอความรัก นางจึงเดินทางไปที่วัดแห่งนั้นและเขียนดวงชะตาของตนเองผูกเอาไว้เพราะเข้าสู่ช่วงกลางฤดูร้อนที่อากาศร้อนอบอ้าวแล้ว ฮ่องเต้เซวียนจงจึงมีรับสั่งว่าจะเดินทางไปพักผ่อนที่พระราชวังฤดูร้อนด้านนอกเมืองหลวง ที่นั่นบรรยากาศดีและเย็นสบายกว่าเมืองหลวง อีกทั้งยังตรัสว่าให้เหล่าขุนนางชั้นสูงติดตามไปด้วย เหล่าขุนนางที่มีตำแหน่งสูงต้องติดตามไปด้วย เรื่องนี้ไม่ได้เป็นเรื่องยุ่งยากอันใด เพราะบ้านพักของพวกเขาตั้งอยู่ใกล้ๆกับพระราชวังฤดูร้อนอยู่แล้วแน่นอนว่าคนในจวนชินอ๋องย่อมต้องติดตามไปด้วยเพราะเป็นเครือญาติและเชื้อพระวงศ์ อวี้หลิงพระชายาเอกนั้นได้สั่งให้บ่าวไพร่ตระเตรียมของให้พร้อมสรรพ ก่อนที่นางจะเดินกลับเข้ามาในห้องของตนเองเพื่อพักผ่อนเมื่อนั่งอยู่เพียงลำพังแล้ว อวี้หลิงก็คิดถึงเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้เมื่อสองคืนก่อนนางได้รับจดหมายลับฉบับหนึ่ง เนื้อหาในจดหมายบอกว่า มีเบาะแสที่สามารถชี้ตัวคนร้ายที่สังหารน้องสาวและน้องเขยของนางได้ แต่มีเงื่อนไขข้อหนึ่งนั่นก็คือ นางจะต้องสังหารเซวียนซานหลางเสีย

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status