สองเดือนถัดมา หลังงานแต่งถัดมาราวๆ สองเดือนได้แล้ว วันเกิดของออสตินคือวันพรุ่งนี้ ตอนนี้ฉันกำลังคิดอยู่ว่าจะเอาอะไรเป็นของขวัญให้กับออสตินดี เพราะออสตินเคยบอกกับฉันว่าเขาไม่ได้อยากได้อะไรเลย ของขวัญวันเกิดขอแค่มีฉันอยู่ด้วยทุกๆ ปีก็พอแล้ว ส่วนเรื่องงานเลี้ยงออสตินก็ไม่ได้พูดถึงเลย ตอนนี้ฉันไม่รู้เลยว่าจะต้องซื้ออะไรให้ดี เพราะถ้าเอาบัตรไปรูดจ่ายของแพงๆ ออสตินต้องรู้ก่อนแน่ๆ แบบนั้นมันก็จะไม่เซอร์ไพรส์น่ะสิ จะเอาเป็นเนคไทดีไหมนะ เพราะออสตินต้องไปทำงานทุกวัน ชุดที่เขาใส่ก็เป็นชุดสูททั้งนั้นด้วย แบบนั้นเงินเก็บของฉันก็พอจะซื้อได้อยู่เหมือนกัน แล้วก็เค้กก้อนเล็กๆ สักก้อนนึงเพราะออสตินไม่คิดจะจัดงานอยู่แล้ว พอตัดสินใจได้ว่าจะซื้ออะไรให้กับออสตินเป็นของขวัญฉันก็รีบแต่งตัวแล้วออกไปที่ห้างในทันที ตอนนี้ออสตินออกไปทำงานอยู่ยังไม่กลับมาเลย ตู๊ด ตู๊ด~ ( ค้าบคุณภรรยา ) “เสียงหวานเชียวนะ” ( มีอะไรหรือเปล่าครับ คิดถึงผมเหรอ ) “ฉันแค่จะโทรมาบอกว่าตอนนี้อยู่ห้าง ออกมาซื้อของเข้าบ้านน่ะ เผื่อว่านายกลับบ้านไปแล้วไม่เจอฉัน ซื้อของเสร็จแล้วเดี๋ยวก็กลับไม่ต้องเป็นห่วงหรอกนะ” ( ทำไมรีบไปล่ะค
ต่างประเทศ...ครืด ครืด ครืด "ฮัลโหลว่ายังไง" น้ำผึ้งกดรับสายเพราะเบอร์ที่โทรเข้ามาเป็นเบอร์สามีของเธอนั่นเอง ( ถึงหรือยังครับพี่ ) ปลายสายถามเสียงหวาน แต่ก็ดูเอื่อยๆ เหมือนกับคนไม่มีแรง "เพิ่งถึงเลยกำลังจะเข้าไปพักที่โรงแรม"( คิดถึงพี่จังเลยครับ ) "อ้อนเก่งเชียวนะเดี๋ยวฉันก็กลับแล้ว เอาไว้จะซื้อของกลับไปฝากนะ"( ไม่ต้องหรอกครับผมไม่อยากได้อะไรหรอก อยากให้พี่กลับเร็วๆ มากกว่า ) "โอเค งั้นเดี๋ยวจะเที่ยวเผื่อก็แล้วกันนะ" ( ดูแลตัวเองด้วยนะครับพี่อากาศเย็นพี่อย่าลืมใส่เสื้อคลุมหนาๆ นะครับ )"จ้า"( คิดถึงอ่ะ )"อะไรกันฉันมาเที่ยวแค่สามวันเองนะเดี๋ยวก็กลับแล้ว มาเพื่อนแม่ของนายซื้อของแค่นั้นเอง" ( แค่ห่างกับพี่วันเดียวผมก็ใจจะขาดแล้วนะครับ นี่เล่นหายไปสามวันเลย )"โอ๋เด็กน้อยของฉัน อย่างอแงสิกลับไปเดี๋ยวจัดชุดใหญ่ให้เลย"( พี่พูดจริงๆ นะ ) คราวนี้น้ำเสียงของออสตินดูมีน้ำหนักขึ้นมาทันทีเลย เหมือนเขาจะตื่นเต้นกับคำพูดของภรรยามาก "อื้ม พูดจริงๆ แต่ต้องแค่นี้ก่อนนะฉันต้องขนของน่ะ"( ครับ เอาไว้ผมจะโทรหาอีกนะครับพี่ )"โอเค" หลังจากกดวางสายน้ำผึ้งและแม่สามีต่างก็แยกย้ายกันเข้าที่พัก
สามวันถัดมา พอกลับจากที่ไปเที่ยวกับแม่ของออสตินแล้วฉันก็มานั่งคิดว่าจะไปเที่ยวที่ไหนกับออสตินดี เพราะตั้งแต่แต่งงานมาออสตินก็ลุยทำงานเป็นประธานบริษัทอย่างเต็มตัว แม้เขาจะมีเวลาให้ฉันแต่เราก็ไม่ได้มีเวลาออกไปเที่ยวกันเลย ฉันอยากให้ออสตินได้พักบ้างก็เท่านั้น แต่ก็ไม่รู้ว่าออสตินจะมีเวลาว่างหรือเปล่าด้วย กะว่าจะลองชวนๆ ดูเผื่อว่าออสตินจะยอมไปด้วย “พี่ค้าบ…กลับมาแล้วเหรอ คิดถึงจังขอกอดหน่อยนะครับ” พอออสตินกลับมาถึงบ้านก็ตรงดิ่งเข้ามาหาฉันในทันที รายนั้นทั้งกอดทั้งหอมฟัดฉันจนไม่ยอมฟังฉันพูดอะไรก่อนเลย “อื้อรู้แล้วว่าคิดถึง แต่ปล่อยก่อนสิ ฉันโดนนายรัดตัวจะแตกแล้วเนี่ย”“อือ…คิดถึงจังเลยครับ”“มาเหนื่อยๆ ไปล้างมือสิเดี๋ยวมากินข้าวกัน ฉันทำอาหารไว้หลายอย่างเลย มีแต่ของที่นายชอบทั้งนั้นด้วย”“ครับพี่” พอออสตินออกมาฉันก็เตรียมอาหารเสร็จพอดีเลยเหมือนกัน “มาเหนื่อยๆ ทำไมพี่ไม่พักก่อนล่ะครับ”“เหนื่อยตรงไหนกัน นั่งเครื่องบินแค่นี้เอง”“ว่าแต่ไปซื้ออะไรกันมาล่ะครับ”“แม่นายเป็นคนซื้อน่ะ ส่วนฉันไม่ได้ซื้ออะไรหรอก ไม่รู้จะซื้ออะไร” ทั้งที่คิดไว้ว่าจะซื้อของกลับมาฝากออสตินบ้างแต่กลับไม่ได้อะไรเลย
ช่วงค่ำในวันเดียวกัน “ไปอาบน้ำสิครับพี่ จะได้สบายตัว” “นายอาบเสร็จแล้วเหรอ?”“เรียบร้อยครับ” ที่ฉันไม่ยอมไปอาบน้ำพร้อมกับออสตินเพราะรู้ว่ามันไม่จบที่อาบน้ำเพียงอย่างเดียวแน่ เพราะถ้าเขาได้เห็นแม้แค่ฉันใส่ชุดชั้นในตรงนั้นก็จะแข็งมีอารมณ์ขึ้นมาแล้ว เป็นเพราะเขาอยู่ในช่วงวัยกำลังคึกด้วยหรือเปล่านะ เพราะต่อให้เราจะมีเรื่องอย่างว่ากันหนักขนาดไหนเขาก็ไม่ได้ดูเหน็ดเหนื่อยเลย ตอนเช้ามาก็ตื่นแล้วไปทำงานได้ตามปกติ ต่างจากฉันที่ปวดตามเนื้อตัวแล้วก็เอาแต่ง่วงนอนอย่างเดียว คงเพราะฉันแก่แล้วสินะถึงได้เป็นแบบนี้ แหงสิฉันแก่กว่าออสตินตั้งหลายปีนี่ ตอนนี้ก็เข้าสามสิบกว่าไปแล้วด้วย ไม่เหนื่อยให้มันรู้ไปสิ ฉันเข้าไปอาบน้ำในห้องน้ำ พอออกมาอีกทีก็เห็นออสตินกำลังขนผ้าห่มกับหมอนออกไปที่นอกระเบียงห้องนอนแล้ว “นายจะนอนข้างนอกเหรอ?”“ข้างนอกตอนกลางคืนอากาศดีนะครับ อีกอย่างท้องฟ้าตอนกลางคืนที่นี่ก็สวยมากด้วย พี่จะได้ไม่ต้องออกมายืนดูให้เมื่อยไงครับ”“มันจะไม่มีอะไรจริงๆ เหรอ หมายถึงจะมีคนมาเห็นหรือเปล่า”“ใครเขาจะมาสนใจล่ะครับพี่ แถวนี้พี่เห็นบ้านคนติดๆ กันด้วยเหรอ ตกดึกคนเขาก็นอนกันหมดแล้วล่ะครับ” “งั้น
พั่ก! พั่ก! พั่ก!แก่นกายใหญ่กระแทกเข้าออกช่องทางรักอย่างหนักหน่วง ร่างกายของหญิงสาวสั่นสะท้านไปตามแรงกระแทก พร้อมกับเปล่งเสียงร้องครางออกมาไม่ยอมหยุด สายตาของเธอพร่ามัวแทบมองสิ่งตรงหน้าไม่ชัดแล้ว ยิ่งถูกกระแทกแรงขึ้นก็ยิ่งทำให้เธอร้องครางออกมาเสียงดังมากขึ้น ทว่าเธอต้องรีบเอามือปิดปากตัวเองเพราะตอนนี้ไม่ได้อยู่ในห้อง แต่อยู่นอกระเบียงด้านนอกซึ่งเสียงครางที่ดังออกมามันอาจจะทำให้คนได้ยินได้ “อึก..อ๊ะอ๊ะ อึ๊อื้ม…” มือเรียวปิดปากของตัวเองไว้แน่น เพราะหากมือหลุดไปเสียงอาจจะเล็ดลอดออกมาได้ “อืม…มันดีมากเลยนะครับพี่ อึก..ผมจะคลั่งให้ได้อยู่แล้วครับ” ออสตินพูดกระซิบเสียงแผ่วข้างหู ลมหายใจอุ่นๆ ที่ถูกพ่นออกมาพร้อมกับคำพูดเสียงกระเส่ามันทำเอาเธอขนลุกซู่จนเบิกตาโพลง “ละ ลึกไป ออสติน…เฮือก!!” หญิงสาวตาเบิกโพลงเมื่อช่องทางรักมันคับแน่นจนรู้สึกได้ตรงท้องน้อย เขากดท่อนเอ็นเข้ามาลึกมากและปลดปล่อยน้ำกามเข้ามาในท้องของเธอจนรู้สึกอุ่นวาบในทันที ร่างหนาทิ้งตัวลงนอนทับร่างของภรรยาสาวพร้อมกับลมหายใจที่หอบถี่ ในขณะที่เธอเองก็เหนื่อยและหมดแรงไม่ต่างกัน แต่เธอก็รู้ดีว่าเขาคงไม่ยอมหยุดเพียงเท่านี้อย่างแน่
ผ่านมาได้เดือนกว่าๆ “อืม…” ฉันนั่งกุมขมับตัวเองเพราะรู้สึกไม่ค่อยสบายตัวเท่าไหร่ มันรู้สึกมึนๆ จะเวียนหัวก็ไม่เชิง อาการพวกนี้ฉันเป็นมาได้สองสามวันแล้ว แต่ก็คิดว่าเพราะนอนไม่ค่อยหลับด้วยหรือเปล่าเลยเป็นแบบนี้ แต่มันก็เป็นค่อนข้างหนักเพราะมันทำให้ฉันทำงานบ้านอะไรไม่ได้เลยจึงต้องทิ้งงานบ้านทุกอย่างให้แม่บ้านทำทั้งหมด "คุณน้ำผึ้งคะ รับน้ำหวานเย็นๆ สักแก้วไหมคะเผื่อจะดีขึ้น" "อ่า ก็ดีเหมือนกันค่ะ" "ถ้างั้นรอสักครู่นะคะ" ฉันนั่งรออยู่ได้ไม่นานแม่บ้านก็เดินเข้ามาพร้อมกับแก้วน้ำหวาน "ถ้าอาการไม่ดีขึ้นคุณน้ำผึ้งไปหาหมอดีกว่าไหมคะ เดี๋ยวดิฉันโทรหาคุณออสตินให้" "ไม่ต้องๆ ห้ามบอกเรื่องนี้กับออสตินเด็ดขาด" "....." "ฉันไม่อยากให้เขาต้องเป็นห่วง แค่งานที่บริษัทของเขาที่ต้องทำมันก็เยอะมากแล้ว ฉันไม่เป็นอะไรหรอกค่ะคงเพราะนอนดึกตื่นเช้าด้วยก็เลยเพลียๆ""งั้นก็ขึ้นไปนอนพักเถอะค่ะไม่ต้องห่วงงานบ้านหรอก เดี๋ยวดิฉันกับพวกแม่บ้านจะช่วยกันทำให้เสร็จเองค่ะ""ค่ะ ขอบคุณนะคะที่เป็นห่วง" ฉันกลับขึ้นไปนอนบนห้องตามที่แม่บ้านบอกจริงๆ แต่สุดท้ายก็ยังนอนไม่หลับเหมือนเดิม ฉันพยายามข่มตาให้นอนหลับแล้ว แต่ดูเ
ตอนเช้าวันถัดมา “ผมไปก่อนนะครับพี่ เลิกงานแล้วจะรีบกลับมานะครับ”“อื้ม อย่าหักโหมล่ะ พักเที่ยงก็กินข้าวด้วยห้ามอดนะ เข้าใจไหม”“เข้าใจแล้วค้าบ” “ไปเถอะ” ฉันยืนมองออสตินเดินออกไปขึ้นรถ ก่อนจะเดินกลับเข้าไปด้านใน รีบขึ้นไปด้านบนทันทีเพราะฉันมีสิ่งที่ต้องทำ นั่นก็คือตรวจครรภ์ว่าตัวเองกำลังท้องจริงๆ หรือเปล่า ฉันรีบหยิบซองยาที่แอบให้แม่บ้านไปซื้อมาให้เมื่อเช้าเข้าห้องน้ำไป ก่อนจะรีบจัดการตรวจตามที่ตัวเองพอจะรู้ และก็นั่งรอผลตรวจอยู่ห้านาที ในที่สุด…ผลตรวจก็ออกมา ปรากฏว่าฉันกำลังท้องจริงๆ แม้ที่ตรวจครรภ์จะขึ้นสองขีดจางๆ แต่ฉันก็มั่นใจ เพราะอาการที่ฉันกำลังเป็นอยู่มันก็คล้ายกับคนท้องมากจริงๆ ฉันคงต้องรีบไปฝากท้องสินะ เพื่อที่จะได้เอาสมุดตรวจครรภ์มายืนยันความจริงว่าฉันกำลังท้องจริงๆ ไม่ใช่แค่ลมปาก “คุณน้ำผึ้งจะออกไปไหนคะ?”“จะไปโรงพยาบาลน่ะ บ่ายๆ ถึงจะกลับมานะ ห้ามใครบอกออสตินล่ะว่าฉันไปไหน”“ผลตรวจเป็นยังไงคะ ใช่อย่างที่คิดหรือเปล่า”“…..” แม่บ้านทุกคนต่างยืนมองฉันด้วยสีหน้าที่รอลุ้นคำตอบจากฉัน พวกเขาดูตื่นเต้นกันมากเลยนะเนี่ย “ค่ะ มันขึ้นสองขีด แต่ต้องไปตรวจที่โรงพยาบาลอีกทีน่ะค่ะเพ
ออสติน Talk ตอนเย็นหลังเลิกงาน ผมขับรถกลับมาที่บ้านตามปกติเหมือนอย่างเคย บางวันผมก็ขับรถเอง วันไหนเหนื่อยขี้เกียจขับรถก็จะมีคนขับรถค่อยขับรถไปส่งที่บริษัท แต่วันนี้ผมขับรถกลับมาเอง "พี่ค้าบ..." พอกลับมาถึงสิ่งที่ผมทำอย่างแรกเลยคือการได้อ้อนพี่น้ำผึ้ง ผมชอบเข้าไปกอดเธอหอมแก้มเธอ การได้ทำแบบนี้มันทำให้ผมหายเหนื่อยจากที่ทำงานมาเป็นปลิดทิ้งเลย "วันนี้เหนื่อยไหม""เหนื่อยครับ แต่พอเห็นหน้าพี่แล้วก็หายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้งเลยครับ""อ้อนเก่งนักนะนายเนี่ย" "ผมขอชาร์จแบตหน่อย" "หิวหรือยัง กินข้าวก่อนแล้วค่อยขึ้นไปอาบน้ำก็ได้จะได้พักทีเดียวเลย""ครับ" ทุกๆ อย่างมันไม่ได้มีอะไรพิเศษเลย ผมกลับมาจากที่ทำงานกินข้าวพร้อมกับพี่น้ำผึ้งแล้วก็ขึ้นไปนอนด้วยกัน เราสองคนไม่ได้เที่ยวที่ไหน กลับกันเราใช้ชีวิตดั่งเช่นสามีภรรยาทั่วไปมากกว่า พี่น้ำผึ้งเธอจะคอยทำหน้าที่เป็นแม่บ้าน ทำอาหารไว้รอผมในทุกๆ วัน มันอาจจะไม่ได้พิเศษอะไรในสายตาของคนอื่นแต่ในสายตาของผมการได้เห็นหน้าพี่น้ำผึ้งในทุกๆ วันได้พูดคุยกับเธอได้บอกรักเธอมันเป็นวันที่แสนพิเศษสำหรับผมมากที่สุดเลย เพราะงั้นผมถึงได้คิดว่าทุกๆ วันที่ผมตื่นมาแล้ว
สามปีต่อมาในระยะเวลาสามปีที่ผ่านมาฉันกับออสตินคอยช่วยกันเลี้ยงดูลูกเป็นอย่างดี มันก็มีบ้างที่คนเราจะต้องเหนื่อย และมันก็มีบ้างที่เราจะมีปากเสียงกันแต่สุดท้ายแล้วเราก็เลือกที่จะปรับความเข้าใจกันเพราะมันเป็นไปไม่ได้ที่คนเราจะอยู่ด้วยกันแล้วจะมีความคิดเห็นบางอย่างไม่ตรงกันและมีปากเสียงกันบ้าง แต่พอเราลองถอยกันคนละก้าวและพูดคุยกันอย่างตรงไปตรงมามันก็ทำให้เราสองคนเข้าใจกันปรับความเข้าใจกันมันเลยไม่มีการทะเลาะกันใหญ่โต ตอนนี้ฉันกำลังท้องลูกคนที่สองได้ห้าเดือนแล้วเป็นผู้หญิง ตอนแรกออสตินก็ไม่กล้าที่จะให้ฉันท้องอีกเพราะกลัวว่าฉันจะต้องเจ็บ รายนั้นกลัวฉันเจ็บมากๆ ถึงขั้นมีความคิดที่จะไปทำหมันตัวเองเพื่อที่จะได้ไม่ต้องมีลูกอีกฉันจะได้ไม่ต้องเจ็บอีกทั้งที่ตัวเองคิดเอาไว้ก่อนหน้านั้นแล้วว่าจะมีลูกอีกหลายๆ คนลูกจะได้ไม่เหงา สุดท้ายแล้วฉันก็ต้องปลอบใจและอธิบายให้เขาเข้าใจจนเขาล้มเลิกความคิดที่จะไปทำหมัน และตอนนี้ออสก้ากำลังเข้าเรียนในชั้นเตรียมอนุบาล ออสตินจะขับรถไปส่งทุกๆวันพอเลิกงานก็จะแวะรับลูกชายกลับมาด้วยเพราะงั้นฉันเลยไม่ได้ต้องวุ่นวายตรงนี้ ตอนเช้าตื่นมาออสตินก็จะเป็นคนจัดแจงอาบน้ำแต่งตัว
เวลาต่อมา ตอนนี้ฉันคลอดลูกแล้วและก็กลับมาอยูที่บ้านแล้วด้วย ลูกตัวใหญ่แต่ก็คลอดออกมาเองได้เพราะร่างกายของฉันแข็งแรงพอที่จะคลอดเองได้ ก่อนหน้านั้นออสตินเป็นกังวลอยู่ไม่น้อยเลย เพราะก่อนจะคลอดฉันมีอาการปวดที่เรียกว่าปวดสุดๆ ปวดจนหน้าซีดไปหมด ปวดจนตัวบิดงอ มันเหมือนร่างกายมันจะแตกเป็นเสี่ยงๆ ที่เขาว่ากันว่าการคลอดลูกของผู้หญิงมันเจ็บปวดที่สุดแล้วเพิ่งจะเข้าใจก็วันนี้นี่แหละ “เฮ้อ…”“เจ็บแผลหรือเปล่าครับพี่”“ไม่หรอก ไม่เจ็บแล้ว” ฉันตอบ พอคลอดเสร็จแล้วพักฟื้นอยู่ที่โรงพยาบาลสองวันก็ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงแล้วล่ะ เพราะร่างกายมันฟื้นตัวได้เร็วกกว่า ลูกของฉันเองก็แข็งแรงสมบูรณ์ดีเลยกลับบ้านได้พร้อมกับฉันเลย ตอนนี้ก็ได้แม่บ้านกับออสตินคอยดูแลอยู่ฉันเลยได้มีเวลาพักฟื้นตัวเอง เขาไม่ยอมให้ฉันได้หยิบจับอะไรเลยนอกจากนอนดูพวกเขาช่วยกันเลี้ยงลูกนิ่งๆ “คุณหนูน้อยเลี้ยงง่ายจังเลยค่ะ ไม่ร้องงอแงเลย” “ดีแล้วค่ะที่เลี้ยงง่าย ถ้าแกเลี้ยงยากทุกคนคงต้องเหนื่อยเพิ่มกันแน่ๆ เลยค่ะ” “พี่ครับ..ผมพาขึ้นไปพักไหมครับ”“ไม่เป็นอะไรหรอก ให้ฉันได้นั่งรับลมอยู่ข้างล่างนี่แหละ ตอนเย็นๆ ว่าจะไปเดินเล่นสักหน่อย เหมือนจ
ออสติน Talk "จะเข้ามากอดอะไรขนาดนั้น""....." พอพี่น้ำผึ้งพูดผมก็รีบเงยหน้าขึ้นไปมองทันที ตอนนี้ผมกำลังเอาหูแนบฟังลูกที่กำลังดิ้นอยู่ในท้อง ถึงแม้ตอนที่ผมเข้ามาสัมผัสแกจะไม่ดิ้นเลยก็เถอะ แต่ผมก็จะรออยู่แบบนี้จนกว่าจะได้เห็นว่าลูกดิ้นเป็นแบบไหน พี่น้ำผึ้งบอกเสมอว่าลูกชอบดิ้นตอนกลางคืนจนทำให้พี่แกนอนไม่ค่อยหลับบวกกับท้องที่ใหญ่ขึ้นด้วย ผมมักจะรอดูว่าลูกจะดิ้นตอนไหนแต่ทุกครั้งก็ต้องเผลอหลับไปเพราะเหนื่อยจากการทำงานมาแล้ว "พี่หนักท้องไหม?""ก็มีบ้าง ท้องฉันมันโตขึ้นตั้งเยอะ จะบอกไม่หนักเลยก็แปลกสิ" "อืม..." ท้องใหญ่ๆ ของพี่น้ำผึ้งเริ่มมีรอยแตกลาย คุณหมอบอกว่าเป็นเรื่องปกติสำหรับคนท้องบางคนที่พอหน้าท้องขยายแล้วก็จะมีรอยแตกแบบนี้ ผมไม่ได้มองว่ามันน่าเกลียดเลย กลับกันผมรู้สึกสงสารพี่น้ำผึ้งด้วยซ้ำที่ต้องยอมเสียสละร่างกายยอมตัวแตกลายเพื่ออุ้มท้อง ที่เขาว่ากันว่าผู้หญิงมักจะเสียเปรียบผู้ชายมันคงจะจริงสินะเพราะผู้ชายไม่สามารถท้องได้ ไม่สามารถเป็นประจำเดือนได้ "ทำไมนายชอบจูบท้องฉันนักล่ะ""จูบเพราะแสดงความรักกับลูกแล้วก็จูบเพราะผมอยากจูบ" ".....""พี่ครับ...ถ้าคลอดลูกคนนี้แล้ว พี่ไม่อยากม
ออสติน Talk "จะเข้ามากอดอะไรขนาดนั้น""....." พอพี่น้ำผึ้งพูดผมก็รีบเงยหน้าขึ้นไปมองทันที ตอนนี้ผมกำลังเอาหูแนบฟังลูกที่กำลังดิ้นอยู่ในท้อง ถึงแม้ตอนที่ผมเข้ามาสัมผัสแกจะไม่ดิ้นเลยก็เถอะ แต่ผมก็จะรออยู่แบบนี้จนกว่าจะได้เห็นว่าลูกดิ้นเป็นแบบไหน พี่น้ำผึ้งบอกเสมอว่าลูกชอบดิ้นตอนกลางคืนจนทำให้พี่แกนอนไม่ค่อยหลับบวกกับท้องที่ใหญ่ขึ้นด้วย ผมมักจะรอดูว่าลูกจะดิ้นตอนไหนแต่ทุกครั้งก็ต้องเผลอหลับไปเพราะเหนื่อยจากการทำงานมาแล้ว "พี่หนักท้องไหม?""ก็มีบ้าง ท้องฉันมันโตขึ้นตั้งเยอะ จะบอกไม่หนักเลยก็แปลกสิ" "อืม..." ท้องใหญ่ๆ ของพี่น้ำผึ้งเริ่มมีรอยแตกลาย คุณหมอบอกว่าเป็นเรื่องปกติสำหรับคนท้องบางคนที่พอหน้าท้องขยายแล้วก็จะมีรอยแตกแบบนี้ ผมไม่ได้มองว่ามันน่าเกลียดเลย กลับกันผมรู้สึกสงสารพี่น้ำผึ้งด้วยซ้ำที่ต้องยอมเสียสละร่างกายยอมตัวแตกลายเพื่ออุ้มท้อง ที่เขาว่ากันว่าผู้หญิงมักจะเสียเปรียบผู้ชายมันคงจะจริงสินะเพราะผู้ชายไม่สามารถท้องได้ ไม่สามารถเป็นประจำเดือนได้ "ทำไมนายชอบจูบท้องฉันนักล่ะ""จูบเพราะแสดงความรักกับลูกแล้วก็จูบเพราะผมอยากจูบ" ".....""พี่ครับ...ถ้าคลอดลูกคนนี้แล้ว พี่ไม่อยากม
เวลาต่อมา ออสตินคอยดูแลฉันเป็นอย่างดีไม่ว่าจะลุกจะเดินหรือจะทำอะไรเขาจะเป็นคนจัดการให้ทุกครั้ง ออสตินดูแลฉันอยู่เป็นอาทิตย์หลังจากนั้นเขาก็กลับไปทำงานต่อเพราะเขามั่นใจแล้วว่าอาการแพ้ท้องของฉันมันไม่ได้หนักหนาอะไรและที่บ้านก็ยังมีแม่บ้านคอยอยู่เป็นเพื่อนฉันด้วย แต่ออสตินก็ยังจะกลับบ้านเร็วกว่าปกติ บางครั้งก็จะกลับมาในช่วงเที่ยงๆ ไม่ได้กลับไปทำงานต่อ ออสตินทั้งทำงานไปด้วยดูแลฉันไปด้วย จนบางครั้งฉันก็แอบห่วงสุขภาพของเขาเหมือนกัน อาการแพ้ท้องของฉันมันไม่ได้หนักหนาอะไร ฉันไม่ได้อาเจียนจนกินอะไรไม่ได้ จะมีก็แค่รู้สึกเวียนหัวบ้างเป็นบางครั้ง ออสตินสั่งห้ามฉันทำงานทุกอย่างไม่ว่าจะงานเล็กงานน้อย และเขาก็สั่งกำชับกับแม่บ้านเอาไว้อย่างดีเลยด้วย ฉันแอบไม่ได้หรอกเพราะเรื่องนี้แม่บ้านก็เห็นด้วยกับออสตินไม่มีใครเห็นด้วยกับฉันเลย "ผมกลับมาแล้วครับ" "วันนี้กลับเร็วอีกแล้วนะ" "ก็กลับมาดูแลพี่ไงครับ" "นายเองก็พักบ้างสิดูแลแต่ฉัน แต่ตัวนายไม่ได้พักเลยแบบนี้ฉันก็รู้สึกผิดเหมือนกันนะ" "พี่ไม่ต้องรู้สึกผิดเลยครับ ภรรยาของผมกำลังท้องลูกของผมอยู่สามีอย่างผมก็ต้องดูแลภรรยาอย่างเต็มที่สิครับ""แต่นายก็
ออสติน Talk ตอนเย็นหลังเลิกงาน ผมขับรถกลับมาที่บ้านตามปกติเหมือนอย่างเคย บางวันผมก็ขับรถเอง วันไหนเหนื่อยขี้เกียจขับรถก็จะมีคนขับรถค่อยขับรถไปส่งที่บริษัท แต่วันนี้ผมขับรถกลับมาเอง "พี่ค้าบ..." พอกลับมาถึงสิ่งที่ผมทำอย่างแรกเลยคือการได้อ้อนพี่น้ำผึ้ง ผมชอบเข้าไปกอดเธอหอมแก้มเธอ การได้ทำแบบนี้มันทำให้ผมหายเหนื่อยจากที่ทำงานมาเป็นปลิดทิ้งเลย "วันนี้เหนื่อยไหม""เหนื่อยครับ แต่พอเห็นหน้าพี่แล้วก็หายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้งเลยครับ""อ้อนเก่งนักนะนายเนี่ย" "ผมขอชาร์จแบตหน่อย" "หิวหรือยัง กินข้าวก่อนแล้วค่อยขึ้นไปอาบน้ำก็ได้จะได้พักทีเดียวเลย""ครับ" ทุกๆ อย่างมันไม่ได้มีอะไรพิเศษเลย ผมกลับมาจากที่ทำงานกินข้าวพร้อมกับพี่น้ำผึ้งแล้วก็ขึ้นไปนอนด้วยกัน เราสองคนไม่ได้เที่ยวที่ไหน กลับกันเราใช้ชีวิตดั่งเช่นสามีภรรยาทั่วไปมากกว่า พี่น้ำผึ้งเธอจะคอยทำหน้าที่เป็นแม่บ้าน ทำอาหารไว้รอผมในทุกๆ วัน มันอาจจะไม่ได้พิเศษอะไรในสายตาของคนอื่นแต่ในสายตาของผมการได้เห็นหน้าพี่น้ำผึ้งในทุกๆ วันได้พูดคุยกับเธอได้บอกรักเธอมันเป็นวันที่แสนพิเศษสำหรับผมมากที่สุดเลย เพราะงั้นผมถึงได้คิดว่าทุกๆ วันที่ผมตื่นมาแล้ว
ตอนเช้าวันถัดมา “ผมไปก่อนนะครับพี่ เลิกงานแล้วจะรีบกลับมานะครับ”“อื้ม อย่าหักโหมล่ะ พักเที่ยงก็กินข้าวด้วยห้ามอดนะ เข้าใจไหม”“เข้าใจแล้วค้าบ” “ไปเถอะ” ฉันยืนมองออสตินเดินออกไปขึ้นรถ ก่อนจะเดินกลับเข้าไปด้านใน รีบขึ้นไปด้านบนทันทีเพราะฉันมีสิ่งที่ต้องทำ นั่นก็คือตรวจครรภ์ว่าตัวเองกำลังท้องจริงๆ หรือเปล่า ฉันรีบหยิบซองยาที่แอบให้แม่บ้านไปซื้อมาให้เมื่อเช้าเข้าห้องน้ำไป ก่อนจะรีบจัดการตรวจตามที่ตัวเองพอจะรู้ และก็นั่งรอผลตรวจอยู่ห้านาที ในที่สุด…ผลตรวจก็ออกมา ปรากฏว่าฉันกำลังท้องจริงๆ แม้ที่ตรวจครรภ์จะขึ้นสองขีดจางๆ แต่ฉันก็มั่นใจ เพราะอาการที่ฉันกำลังเป็นอยู่มันก็คล้ายกับคนท้องมากจริงๆ ฉันคงต้องรีบไปฝากท้องสินะ เพื่อที่จะได้เอาสมุดตรวจครรภ์มายืนยันความจริงว่าฉันกำลังท้องจริงๆ ไม่ใช่แค่ลมปาก “คุณน้ำผึ้งจะออกไปไหนคะ?”“จะไปโรงพยาบาลน่ะ บ่ายๆ ถึงจะกลับมานะ ห้ามใครบอกออสตินล่ะว่าฉันไปไหน”“ผลตรวจเป็นยังไงคะ ใช่อย่างที่คิดหรือเปล่า”“…..” แม่บ้านทุกคนต่างยืนมองฉันด้วยสีหน้าที่รอลุ้นคำตอบจากฉัน พวกเขาดูตื่นเต้นกันมากเลยนะเนี่ย “ค่ะ มันขึ้นสองขีด แต่ต้องไปตรวจที่โรงพยาบาลอีกทีน่ะค่ะเพ
ผ่านมาได้เดือนกว่าๆ “อืม…” ฉันนั่งกุมขมับตัวเองเพราะรู้สึกไม่ค่อยสบายตัวเท่าไหร่ มันรู้สึกมึนๆ จะเวียนหัวก็ไม่เชิง อาการพวกนี้ฉันเป็นมาได้สองสามวันแล้ว แต่ก็คิดว่าเพราะนอนไม่ค่อยหลับด้วยหรือเปล่าเลยเป็นแบบนี้ แต่มันก็เป็นค่อนข้างหนักเพราะมันทำให้ฉันทำงานบ้านอะไรไม่ได้เลยจึงต้องทิ้งงานบ้านทุกอย่างให้แม่บ้านทำทั้งหมด "คุณน้ำผึ้งคะ รับน้ำหวานเย็นๆ สักแก้วไหมคะเผื่อจะดีขึ้น" "อ่า ก็ดีเหมือนกันค่ะ" "ถ้างั้นรอสักครู่นะคะ" ฉันนั่งรออยู่ได้ไม่นานแม่บ้านก็เดินเข้ามาพร้อมกับแก้วน้ำหวาน "ถ้าอาการไม่ดีขึ้นคุณน้ำผึ้งไปหาหมอดีกว่าไหมคะ เดี๋ยวดิฉันโทรหาคุณออสตินให้" "ไม่ต้องๆ ห้ามบอกเรื่องนี้กับออสตินเด็ดขาด" "....." "ฉันไม่อยากให้เขาต้องเป็นห่วง แค่งานที่บริษัทของเขาที่ต้องทำมันก็เยอะมากแล้ว ฉันไม่เป็นอะไรหรอกค่ะคงเพราะนอนดึกตื่นเช้าด้วยก็เลยเพลียๆ""งั้นก็ขึ้นไปนอนพักเถอะค่ะไม่ต้องห่วงงานบ้านหรอก เดี๋ยวดิฉันกับพวกแม่บ้านจะช่วยกันทำให้เสร็จเองค่ะ""ค่ะ ขอบคุณนะคะที่เป็นห่วง" ฉันกลับขึ้นไปนอนบนห้องตามที่แม่บ้านบอกจริงๆ แต่สุดท้ายก็ยังนอนไม่หลับเหมือนเดิม ฉันพยายามข่มตาให้นอนหลับแล้ว แต่ดูเ
พั่ก! พั่ก! พั่ก!แก่นกายใหญ่กระแทกเข้าออกช่องทางรักอย่างหนักหน่วง ร่างกายของหญิงสาวสั่นสะท้านไปตามแรงกระแทก พร้อมกับเปล่งเสียงร้องครางออกมาไม่ยอมหยุด สายตาของเธอพร่ามัวแทบมองสิ่งตรงหน้าไม่ชัดแล้ว ยิ่งถูกกระแทกแรงขึ้นก็ยิ่งทำให้เธอร้องครางออกมาเสียงดังมากขึ้น ทว่าเธอต้องรีบเอามือปิดปากตัวเองเพราะตอนนี้ไม่ได้อยู่ในห้อง แต่อยู่นอกระเบียงด้านนอกซึ่งเสียงครางที่ดังออกมามันอาจจะทำให้คนได้ยินได้ “อึก..อ๊ะอ๊ะ อึ๊อื้ม…” มือเรียวปิดปากของตัวเองไว้แน่น เพราะหากมือหลุดไปเสียงอาจจะเล็ดลอดออกมาได้ “อืม…มันดีมากเลยนะครับพี่ อึก..ผมจะคลั่งให้ได้อยู่แล้วครับ” ออสตินพูดกระซิบเสียงแผ่วข้างหู ลมหายใจอุ่นๆ ที่ถูกพ่นออกมาพร้อมกับคำพูดเสียงกระเส่ามันทำเอาเธอขนลุกซู่จนเบิกตาโพลง “ละ ลึกไป ออสติน…เฮือก!!” หญิงสาวตาเบิกโพลงเมื่อช่องทางรักมันคับแน่นจนรู้สึกได้ตรงท้องน้อย เขากดท่อนเอ็นเข้ามาลึกมากและปลดปล่อยน้ำกามเข้ามาในท้องของเธอจนรู้สึกอุ่นวาบในทันที ร่างหนาทิ้งตัวลงนอนทับร่างของภรรยาสาวพร้อมกับลมหายใจที่หอบถี่ ในขณะที่เธอเองก็เหนื่อยและหมดแรงไม่ต่างกัน แต่เธอก็รู้ดีว่าเขาคงไม่ยอมหยุดเพียงเท่านี้อย่างแน่