มาริษาอยู่ในลุคสาวตัวเล็กน่ารัก เธอสวมใส่ชุดเดรสสีฟ้าสั้นลายตาข่าย ปล่อยผมลอนยาวสีดำสลวยกระจายเต็มแผ่นหลัง เธอก้าวขาเดินลงบันไดอย่างระมัดระวัง โดยที่ยังรู้สึกเพลีย ๆ ไม่หาย ไม่รู้สาเหตุใด ทำให้เธอหมดเรี่ยวแรงแบบนี้ แต่เมื่อลูกสาวตัวเล็กของเพื่อนสาวคนสนิทของผู้เป็นสามีอยากพบ เธอจึงไม่ลังเลที่จะออกมาต้อนรับหลานสาว“พี่วิคะ” สาวใช้คนที่ถูกขานเรียกชื่อหยุดฝีเท้าทันที ในมือถือน้ำหวานสีแดงและเค้กช็อกโกแลต เธอโค้งศีรษะทำความเคารพนายหญิงของบ้าน ในจังหวะที่มาริษาเดินมาหยุดตรงหน้าสาวใช้พอดี“กำลังจะยกไปให้น้องมินตราใช่ไหมคะ”“ใช่ค่ะ”“งั้นสายกเข้าไปเองค่ะ” วิโค้งศีรษะรับคำสั่งหลังจากที่นายหญิงรับถาดอาหารว่างไปถือต่อ เธอจึงเดินเลี่ยงกลับไปทางห้องครัว“…” มาริษาเดินถือถาดอาหารว่างเข้ามาในห้องนั่งเล่น เห็นอาหลานกำลังเล่นตุ๊กตากันตรงโซฟาตัวยาว เธอจึงหยุดมองตรงประตูทางเข้า เพราะความอ่อนโยนที่สามีมอบให้หลานสาว และ รอยยิ้มดูดีมีเสน่ห์เป็นธรรมชาติที่เธอไม่เคยเห็นมาก่อน ดึงดูดสายตา จนเผลอยิ้มตามโดยไม่รู้ตัว“นั่นพี่เมษาใช่ไหมคะอาแทน” น้ำเสียงใสไร้เดียงสาของเด็กสาวดึงมาริษาออกจากภวังค์ ทำให้เธอสบตาเข้ากั
หลายวันต่อมา @คฤหาสน์ พีรพัฒน์ “อ้วก! อ้วก! แอ่ก ๆ” เสียงอาเจียนดังก้องห้องน้ำ หญิงสาวตัวเล็กอยู่ในชุดเดรสแขนสั้นสีฟ้าเรียบร้อยโกงคออาเจียนลงอ่างล้างหน้านานกว่าสิบนาที เธอเปิดก๊อกน้ำใช้มือวักน้ำบ้วนปาก แล้วเงยหน้ามองตัวเองในกระจก ใบหน้าแลดูซีดเล็กน้อย“ฉันเป็นอะไรเนี่ย” เข้าวันที่สองที่มาริษามักคลื่นไส้อาเจียนบ่อยครั้ง แต่วันนี้เห็นจะบ่อยและหนักกว่าเมื่อวาน อาหารเช้าที่กินเข้าไปเธออ้วกออกมาจนหมด ส่งผลให้ท้องว่าง อีกทั้งเธอยังรู้สึกมวนท้องไม่หาย“…” มาริษาหลับตาพลางผ่อนลมหายใจออกมาเบา ๆ อย่างปรับลดอารมณ์ให้ผ่อนคลาย แล้วเดินออกจากห้องน้ำแกรก “เอ้า! ยัยสาวันนี้ไม่ไปเรียนเหรอ” มาริษาเปิดประตูออกจากห้องนอนก็เจอกับมนัสรินทร์ที่เพิ่งก้าวขาจากบันไดมาพอดี โดยมีสาวใช้เดินถือกระเป๋าเดินทางตามหลังขึ้นมา“สารู้สึกไม่สบายนิดหน่อย เลยฝากเพื่อนลาอาจารย์ให้แล้วค่ะ ว่าแต่พี่เพิ่งมาถึงเหรอคะ”“ใช่จ้ะ ไปดูงานที่ฝรั่งเศสตั้งครึ่งเดือนแนะ คิดถึงอาหารไทยจะแย่”“งั้นเดี๋ยวเย็นนี้สาทำของโปรดให้นะคะ”“ไม่เป็นไร ๆ เราไม่สบายอยู่หนิ พักผ่อนเถอะ เอ้~ พี่ได้ข่าวว่าช่วงนี้เราไม่สบายบ่อย ได้ไปหาหมอบ้างหรือเปล่า”
พลั่ก!“อ๊ะ!” ร่างบางถูกชายหนุ่มที่สะดุ้งตัวตื่นผลักออกอย่างแรง จนริมฝีปากที่แนบชิดผละออกจากกัน ด้วยแรงที่มากกว่าของชายหนุ่ม ทำให้ร่างบางเซถลาถอยหลัง สะโพกชนเข้ากับโต๊ะทำงานอย่างจัง“ทำบ้าอะไรของเธอ!” แทนคุณผุดตัวลุกขึ้นจากเก้าอี้ทำงานทันควันพลางใช้หลังมือเช็ดคาบน้ำลายบนริมฝีปากลวก ๆ ไม่รู้เลยว่าอดีตแฟนสา วเข้ามาในห้องทำงานตอนไหน เพราะรู้สึกเพลียจึงผล็อยหลับไป“ก็พี่ไม่ตื่น เมลเลยปลุกไงคะ” มนัสรินทร์เหยียดยิ้ม โดยไม่เกรงกลัวต่อสายตาดุดันที่มองมาอย่างรังเกียจ แต่กลับรู้สึกหงุดหงิด และ ยิ่งอยากเอาชนะมากอีกเป็นสิบเท่า“เธอไม่มีสิทธิ์! คนที่มีสิทธิ์…มีแค่น้องสาวเธอคนเดียวเท่านั้น จะทำอะไรก็คิดถึงน้องสาวตัวเองให้มาก ๆ อย่าร่าน! จนลืมผิดชอบชั่วดี” วาจาร้ายกาจที่พ่นออกมาจากปากเจ้าของแววตาดุ ทำเอาหญิงสาวหน้าชาวาบราวกับถูกตบหน้าฉาดใหญ่“ก่อนที่จะสอนคนอื่นสอนตัวเองก่อนเถอะ! ที่พี่วางแผนทั้งหมด เพื่อทำให้เมลเจ็บปวดมันดีมากหรือไง” มนัสรินทร์ใส่อารมณ์ในน้ำเสียงด้วยความโกรธ เพราะที่แทนคุณพูดเหมือนเธอผิดอยู่ฝ่ายเดียว“หึ” แทนคุณเค้นเสียงหัวเราะในลำคออย่างนึก “อย่าลืมสิ เธอเคยบอกว่าเธอรักฉันมาตลอดหนิ
วันต่อมา ผับ Moon “นายมึงล่ะไอ้ทิม?” ฟรานซ์ก้าวเท้าเข้ามาในผับเพื่อนสนิทพร้อมกับนาวาด้วยใบหน้าที่ตึงเครียดไม่ต่างกัน ทันทีที่ทราบเรื่องราวที่เกิดขึ้นก็รีบพากันบึ่งรถมาหาเพื่อนสนิทอย่างไม่รีรอ“นายอยู่ในห้องทำงานครับ ตามหานายหญิงทั้งคืน เพิ่งกลับมาชั่วโมงที่แล้วนี่เองครับ”“แล้วเจอน้องเมษาไหม?” นาวาเป็นคนถาม“ไม่เจอเลยครับ ทั้งบ้านเพื่อน ทั้งที่บ้านนายหญิงเอง”“อย่าบอกนะว่าไร้ร่องรอย?” ฟรานซ์เอ่ยขึ้นอย่างคาดคะเน ซึ่งเป็นจริงดั่งที่ว่า“ครับ”“จะเป็นไปได้ยังไง ผู้หญิงตัวเล็ก ๆ คนเดียว ไม่มีทางรอดพ้นสายตาไอ้แทนไปได้หรอก”“นอกจากว่าจะมีคนที่มีอำนาจกว่าไอ้แทนคอยช่วยอยู่เบื้องหลัง”“ที่มึงพูดก็เป็นไปได้ไอ้วา” ฟรานซ์และนาวาต่างแสดงความคิดเห็น จากนั้นก็พากันไปพบเพื่อนสนิทที่ชั้นสาม พื้นที่ทำงานของเจ้าของผับก๊อก ก๊อก ก๊อก “…” ฟรานซ์เป็นฝ่ายเคาะประตูก่อนจะเปิดเข้าไป พบว่าเจ้าของห้องอยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาว กางเกงสีดำนอนหลับสนิทอยู่ที่โซฟารับแขก“มึงปลุกมันดิ” ฟรานซ์สั่งนาวา“ไอ้แทน ไอ้แทน!” นาวาขานเรียกชื่อพลางเขย่าตัวแทนคุณที่เผลอหลับไปด้วยความเหนื่อย เนื่องจากออกตามหาตัวมาริษาทั้งคืนแทบไม
คฤหาสน์ พีรพัฒน์ ฟุบ~ “…” ร่างหนาทิ้งตัวนั่งบนโซฟาในห้องนั่งเล่นอย่างคนไร้เรี่ยวแรง ท่อนแขนแกร่งทั้งสองข้างพาดขอบโซฟา ใบหน้าคมคายแหงนขึ้นมองเพดาน แล้วหลับตาลงพักสายตา หลายวันมานี้เขาแทบไม่ได้นอน เพราะเอาแต่ออกตามหาภรรยาตัวเล็กที่พาลูกในท้องหนีไป ซึ่งตอนนี้ยังคงไร้ร่องรอย“คนไข้คะ ดิฉันพาหมอมาตรวจอาการของคนที่ถูกเมียทิ้งค่ะ” น้ำเสียงคึกคักเอ่ยขึ้นเสียงดัง ดึงร่างหนาออกจากภวังค์ ลืมตาตื่นขึ้นมาอย่างไม่สบอารมณ์กับประโยคล้อเลียนของเพื่อนสาวคนสนิท ที่เดินเข้ามาพร้อมกับสามี ที่มีฉายาหมอหน้านิ่ง“ถ้าไม่มีธุระอะไรก็กลับไปอีหวาน”“ไม่กลับ” หวานกอดอกเชิดหน้าขึ้นอย่างท้าทายพลางหย่อนสะโพกนั่งบนโซฟาตัวยาวพร้อมกับสามี ไม่เกรงกลัวต่อสายตาดุดันของเพื่อนสนิทที่จ้องมองมา แทนคุณถอนหายใจออกมาหนัก ๆ อย่างรำคาญ“แกได้นอนบ้างไหมเนี่ย หน้าตาหมองคล้ำราวกับคนไม่ได้นอนมาเป็นเดือน?” เมื่อได้มองใบหน้าเพื่อนสนิทชัด ๆ ทำให้เธอตกใจอยู่ไม่น้อย แต่ก็อดขำในใจไม่ได้ เคยเห็นสภาพซอมซ่อของเพื่อนล่าสุดก็เมื่อสิบกว่าปีก่อน ครั้นอกหัก แทนคุณใช้เวลารักษาแผลใจนานหลายปี กว่าจะกลับมาแข็งแรงได้อีกครั้ง“เรื่องนั้นมึงไม่
สองเดือนต่อมา @คฤหาสน์ พีรพัฒน์ แกรก ประตูห้องนอนถูกผลักเข้ามาด้วยฝีมือของชายหนุ่ม เจ้าของห้อง โดยการแต่งกาย ท่อนบนสวมเพียงเสื้อยืดสีขาว ส่วนท่อนล่างใส่เป็นกางเกงยีนตัวโปรด เดินโซซัดโซเซไปที่เตียงนอนขนาดคิงไซซ์ท่าทีเมามายฟุบ~ “…” เตียงนุ่มยุบตัวตามแรงกระแทกของแทนคุณ ที่ทิ้งตัวนอนแผ่หลาบนกลางเตียง มองเพดานแววตาฉ่ำปรือ เพราะฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ที่ดื่มเข้าไปค่อนข้างมาก ทำให้สูญเสียทั้งการทรงตัว ทั้งสติสัมปรัญญะ“เธออยู่ไหนเมษา~” ริมฝีปากหนาขยับพึมพำเสียงเนือย ขณะที่น้ำตาลูกผู้ชายที่ไม่หลั่งออกมาได้ง่าย ๆ ค่อย ๆ ไหลออกจากหัวตา คิดถึงคนที่เคยนอนร่วมเตียงกันทุกคืน แต่เวลานี้กลับไม่มีเธอ พลอยทำให้รู้สึกโดดเดี่ยวและอ้างว้างเหลือทน“…” ตลอดสามเดือนแทนคุณทิ้งงานทุกอย่าง เพื่อใช้เวลาออกตามหามาริษา แต่ไม่ว่าจะใช้วิธีไหนก็หาไม่เจอ ในทุก ๆ คืนแทนคุณจะดื่มให้เมามาย แล้วกลับมานอนที่บ้านทุกวัน“…” แทนคุณพยายามดันตัวลุกขึ้นอย่างยากลำบาก เพื่อเอื้อมมือหยิบกรอบรูปแต่งงานที่ตั้งอยู่บนโต๊ะข้างเตียง ก่อนจะล้มตัวนอนอีกครั้งพลางกอดกรอบรูปภาพแต่งงานแนบอกพร้อมทั้งหลับตาลง ส่งผลให้น้ำตาเอ่อล้น หยดแหมะบนเตียงหย
คฤหาสน์ ธัน “ขออนุญาตครับ” ระหว่างที่ธัน หวาน เทวิน และ มิลิน กำลังสนทนากันตามประสาคนสนิทในห้องนั่งเล่น การ์ดชุดดำเดินเข้ามาโค้งศีรษะทำความเคารพดึงความสนใจจากผู้เป็นนาย “มีอะไร” ธันเป็นฝ่ายเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงปกติ “คุณแทนมาครับ” ชื่อของบุคคลดังกล่าวทำให้หวานและมิลินต่างหันขวับมองหน้ากันทันควันด้วยสีหน้าหวั่นวิตก โดยเฉพาะมิลินที่โกหกไม่ค่อยเก่งเอาเสียเลย เธอกลัวถูกเพื่อนจับได้ เรื่องที่ช่วยกันปกปิดที่อยู่มาริษา ตลอดสองเดือนหากเจอกัน เธอพยายามเลี่ยงประเด็นพูดถึงเสมอ “อือ” ธันเพียงส่งเสียงครางในลำคอตอบรับ “อย่ามีพิรุจล่ะยัยลิน” หวานย้ำเตือนกับมิลิน เธอกลัวว่าเพื่อนจะลืมตัวเผยความลับออกมา หากแทนคุณมาด้วยเรื่องของภรรยาที่หายตัวไป “ลินจะพยายามนะ” มิลินส่งยิ้มแหย ๆ ให้เพื่อนสาวอย่างไม่มั่นใจในตัวเอง เธอพยายามประคับประคองสีหน้าให้เป็นปกติที่สุดเท่าที่จะทำได้ขณะภายในห้องนั่งเล่นกับมาเงียบอีกครั้ง ก่อนที่หวานจะเอ่ยขึ้น… “ลมอะไรหอบมาถึงที่นี่ได้คะคุณชาย” แทนคุณเดินเข้ามาในห้องนั่งเล่นด้วยใบหน้าเรียบนิ่ง แต่แววตากลับดูน่ากลัวผิดปกติ
“ไม่เป็นไรนะครับคุณเมษา” น้ำเสียงที่คุ้นเคยทำให้มาริษาดึงสติกลับมาอีกครั้ง เธอทรงตัวด้วยตัวเองโดยมีชายหนุ่มหน้าตาหล่อคมช่วยประคองตัว เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำเอาเธอใจตกไปอยู่ที่ตาตุ่ม “ค่ะ ขอบคุณพี่ไม้มากนะคะที่ช่วย ถ้าไม่ได้พี่ไม้ สาแย่แน่ ๆ เลยค่ะ” ไม้ เป็นผู้จัดการสวน และ ได้รับหน้าที่เพิ่มเติมจากเจ้าของสวน ให้ช่วยแวะเวียนมาดูความเป็นอยู่ของหญิงสาวที่กำลังตั้งครรภ์อ่อน ๆ “ผมเต็มใจครับ ว่าแต่คุณเมษาอยู่บ้านคนเดียวเหรอครับ” “ใช่ค่ะ พี่แมวยังอยู่ในสวน แต่อีกเดี๋ยวก็คงกลับค่ะ” “อ๋อครับ” “ว่าแต่พี่ไม้มีอะไรหรือเปล่าคะ?” “ผมแวะมาดูคุณเมษาน่ะครับ เผื่อมีอะไรให้ผมช่วยได้บ้าง” “ขอบคุณค่ะ”“…” มาริษายกมือขึ้นแตะขมับ เมื่อจู่ ๆ ก็รู้สึกหน้ามืดขึ้นมาจนเกือบจะล้มอีกครั้งพรึ่บ! “คุณเมษา!” ไม้รีบประคองตัวช่วยหญิงสาวทันที แต่ไม่ทันจะได้เอ่ยอะไรต่อจากนั้น ท่อนแขนกลับถูกกระชากจนหลุดออกจากตัวหญิงสาวเสียก่อน ทว่ายังไม่ได้ตั้งตัว…ผลัวะ! “…” ใบหน้าคมเข้มหันไปตามแรงกระแทกของหมัด ๆ จากชายหนุ่มแปลกหน้าที่ไม่เคยรู้จักหรือมีเรื่องกั
สามปีต่อมา งานรับปริญญาภายในงานรับปริญญาบัตรพลุกพล่านไปด้วยผู้คนมากมาย ทั้งบัณฑิตจบใหม่ ทั้งรุ่นพี่รุ่นน้องของแต่ละคณะ และ ญาติมิตรที่มาร่วมแสดงความยินดีกับลูกหลาน หรือ คนรู้จัก“สา” มนัสรินทร์ที่เห็นน้องสาวเป็นคนแรก เธอขานเรียกพลางโบกมือ ส่งสัญญาณว่าอยู่ทางนี้มาริษาอยู่ในชุดครุย ใบหน้าน่ารักถูกแต่งเติมด้วยเครื่องสำอางที่ค่อนข้างเข้มจัด สวยหวานราวกับเจ้าหญิง เธอโบกมือตอบรับพี่สาว รีบเร่งฝีเท้าเดินบนรองเท้าคัทชูตรงดิ่งเข้าไปหาบิดามารดาและ เพื่อนสนิทที่มาร่วมแสดงความยินดีในความสำเร็จของเธอ เธอเรียนจบหลังเพื่อน เพราะต้องดรอปเรียน เพื่อดูแลลูกสาวที่ตอนนี้อายุได้สามขวบเศษ“คูณแม่~” เจ้าของแก้มป่องราวกับลูกซาลาเปา ตากลมโต ฉีกยิ้มกว้างสดใส ตะโกนเรียกผู้เป็นแม่ ปล่อยมือจากผู้เป็นน้าสาว วิ่งเตาะแตะเข้าไปหามารดาด้วยความคิดถึง มาริษาย่อตัวลงอ้าแขนรับลูกสาว อุ้มขึ้นแนบอกฟอด~ มาริษาหอมแก้มป่องลูกสาวเจ้าของใบหน้าน่ารักฟอดใหญ่ด้วยความคิดถึงและเอ็นดู ขณะเพื่อน ๆ และคนในครอบครัว ต่างก็เดินเข้ามาสบทบ ยกเว้นเสียแต่พ่อของลูกที่ติดงานด่วนที่ต่างประเทศไม่สามารถมาวันสำคัญของเธอได้“ยินดีด้วยนะสา” จีน่าพ
หนึ่งเดือนต่อมา @คฤหาสน์ พีรพัฒน์ “สบายขึ้นไหม?” บนเตียงขนาดคิงไซซ์แทนคุณกำลังนวดเรียวขาทั้งสองข้างของมาริษาบนตักแกร่งอย่างเบามือ เนื่องจากเธอมีอาการปวดเมื่อยบริเวณขาทั้งสองข้าง เพราะท้องใกล้คลอดขนาดใหญ่มหึมา ครั้นจะนอนหรือนั่งก็ขยับพลิกตัวลำบากไปหมด“ค่ะ~” น้ำเสียงสั่นเครือเอ่ยตอบเบา ๆ ด้วยความปวดขึ้นเรื่อย ๆ บริเวณอุ้งเชิงกราน จนน้ำตาเล็ด ถึงจะปวดไม่มากแต่ก็รู้สึกทรมานพอสมควร“ปวดท้องเหรอ?”“…” มาริษาพยักหน้าหงึก ๆ หยาดน้ำค่อย ๆ ไหลกลิ้งอาบแก้มใส มือบางกุมเข้าหากันแน่นอย่างอดทนกับอาการต่าง ๆ ของคนท้องใกล้คลอดที่ต้องเจอ เพื่อลูกคนแรกของเธอ“ทนอีกหน่อยนะ อีกไม่กี่วันเราจะได้เจอหน้าลูกกันแล้ว” แทนคุณเห็นความเจ็บปวดบนใบหน้ามาริษาก็ถึงกับน้ำตาคลอเบ้าด้วยความสงสาร นิ้วยาวเอื้อมไปเช็ดน้ำตาบนแก้มนุ่มอย่างปลอบประโลม“ให้พี่นวดต่อไหมหรือนอนพัก”“นวดค่ะ สารอให้อาการปวดหายไปอีกสักนิดค่อยนอน”“ครับ งั้นพี่ร้องเพลงให้เอาไหม?” แทนคุณฉีกยิ้มให้กำลังใจมาริษา ในเมื่อไม่สามารถรับเจ็บปวดแทนเธอได้ เขาขอเป็นคนสร้างพลังบวกและคอยอยู่เคียงข้างเธอไม่ไปไหนมาริษากะพริบตาปริบ ๆ สีหน้าไม่อยากเชื่อเท่าไหร่ มือ
หลายอาทิตย์ต่อมา คฤหาสน์ พีรพัฒน์ ดึก~“ฮึ ตัวเล็กถีบหน้าพ่อซะแรงเลยนะลูก” ภายในห้องนั่งเล่นคนที่กำลังเป็นพ่อคนแนบหูฟังเสียงเต้นหัวใจของลูกน้อยในครรภ์ของภรรยาตัวเล็กตรงโซฟาตัวยาว แต่แก้มสากกลับสัมผัสได้ถึงแรงดิ้นลูกน้อยในท้องค่อนข้างแรง ไม่รู้ว่าเป็นการทักทายหรือกลั่นแกล้งพ่อกันแน่ “ดูสิสาลูกเราดิ้นใหญ่เลย”แทนคุณเงยหน้าขึ้นกล่าวกับมาริษาด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น เป็นครั้งแรกที่ลูกในท้องดีดดิ้นอย่างซุกซน จนเห็นการเคลื่อนไหวเป็นคลื่น ๆ ตรงท้องป่องชัดเจน“สงสัยแกอยากออกมาเล่นกับพ่อเขาแล้วมั้งคะ” มาริษายิ้มปริ่มมีความสุขไปกับแทนคุณ แม้ว่าจะรู้สึกเจ็บเล็กน้อยเมื่อลูกในท้องดิ้นแรงเกินไปแต่เธอก็ยอมอดทน เธอท้องได้เจ็ดเดือนย่างเข้าเดือนที่แปด ท้องจึงโตตามอายุครรภ์ ไปไหนมาไหนก็ค่อนข้างยากลำบากแทนคุณฉีกยิ้มดีใจใหญ่ทาบมือบนท้องป่องตรงจุดที่ลูกในท้องดีดดิ้น “เบา ๆ หน่อยนะครับ เดี๋ยวแม่เจ็บ”“ขออนุญาตค่ะ” ระหว่างนั้นสาวใช้ก็เดินเข้ามาโค้งศีรษะทำความเคารพผู้เป็นนายทั้งสอง ก่อนจะกล่าวรายงานในเวลาต่อมา “คุณหมอธัน คุณหวาน คุณเทวินแล้วก็คุณมิลินมาถึงแล้วค่ะ”“อือ” แทนคุณครางตอบรับสาวใช้ด้วยใบหน้าเรียบเฉย
เช้าวันต่อมา “อื้อ~” หญิงสาวบนเตียงนุ่มส่งเสียงครางในลำคอเบา ๆ อย่างรู้สึกตัวตื่น เมื่อถูกรบกวนการนอนหลับ สัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่างกำลังยุ่มย่ามตรงกลางความเป็นสาว จนรู้สึกเสียววาบไปทั่วทั้งร่าง มือบางขยุ้มผ้าปูเตียงโดยทันที ขณะที่สมองเริ่มกลับมาประมวลอีกครั้งแผล็บ แผล็บ แทนคุณตวัดปลายลิ้นสากเลียกลีบกุหลาบสวยที่ไม่ได้เชยชมมานานหลายเดือนอย่างละเมียดละไม กลืนกินน้ำหวานบนกลางความเป็นสาวราวกับของอร่อย เหลือบตาขึ้นมองมาริษาที่ยังไม่ลืมตา แต่มือบางกลับเอื้อมลงมาผลักศีรษะให้ออกห่างจากความหอมหวาน“ยะ…อย่า~” ใบหน้าน่ารักเหยเกด้วยความเสียวในรอบสี่เดือน จนต้องหนีบเรียวขาเข้าหาคนตรงกลางหว่างขา ผลักไสยังไงก็ไม่เป็นผล คืนดีกันได้ไม่ถึงวันคนพี่ก็ลักหลับเธอเสียแล้ว เป็นคืนแรกที่เธอตื่นสายและรู้สึกว่าได้หลับเต็มอิ่ม หากไม่ถูกปลุกเสียก่อนก็คงนอนเพลินจนไม่รู้ตื่นกี่โมง“น้ำเมียพี่ยังหวานเหมือนเดิมเลยนะ” เจ้าของใบหน้าหล่อเงยขึ้นไปสบตากับร่างเล็กที่ยังงัวเงียด้วยรอยยิ้มร้ายกาจ แววตาหยาดเยิ้มเต็มไปด้วยความหื่นกามอย่างเห็นได้ชัด“คนลามก ออกไปเลยนะ! สาไม่อนุญาตให้พี่ทำอะไรกับร่างกายสาทั้งนั้น” วาจาหยาบโลนทำ
ภายในรถสปอร์ตหรูสีฟ้าตกอยู่ในความเงียบสงัดตั้งแต่ขับออกมาจากโรงพยาบาล xxx มีเพียงเสียงลมหายใจของคนสองคนที่พ่นออกมาเป็นจังหวะ แทนคุณทำหน้าที่ขับรถ หันมองมาริษาที่นั่งเงียบ หันหน้าออกหน้าต่างตลอดทางบ่อยครั้งด้วยความเป็นห่วง “หิวไหม เดี๋ยวพี่จอดเซ่เว่นข้างหน้า ลงไปซื้อของกินมาให้” “ไม่” น้ำเสียงห้วน ๆ ตอบกลับ บ่งบอกว่าคนตัวเล็กกำลังหงุดหงิด แทนคุณพยายามทำความเข้าใจกับอารมณ์ขึ้น ๆ ลง ๆ ของคนท้อง แม้ว่าค่อนข้างยากก็ตาม โดยนิสัยเป็นคนใจร้อนและขี้รำคาญ แต่ครั้งนี้เขาจะยอมทำเพื่อคนน้องและหัวใจตัวเอง “อือ ถ้าหิวหรืออยากเข้าห้องน้ำก็บอกพี่นะ” “…” คำตอบที่ได้กลับมาจากคนมาริษาคือความเงียบ เธอมองวิวนอกหน้าต่างรถ ตามทางส่วนมากเป็นบ้านคน และ ต้นไม้สลับกันไป ในหัวครุ่นคิดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในห้องตรวจ ยามที่นอนบนเตียงเพื่ออันตราซาวดูลูกในครรภ์เป็นวันแรก เธอเห็นหยดน้ำตาคนพี่หยดแหมะลงบนเตียง ขนาดที่หมอกำลังอธิบายอวัยวะต่าง ๆ ของลูกในท้อง เป็นครั้งแรกที่เธอได้เห็นมุมอ่อนไหวของเขา บ้านสวนหวาน “ปลานึ่งมีทั้งโปรตีนทั้งโฟเลท สร้างเนื้อเยื่อให้กับร่าง
@บ้านสวน หวาน ปัง!ประตูรถกระบะถูกปิดเสียงดังด้วยฝีมือของหญิงสาวที่กำลังตั้งครรภ์ เธอเดินสะบัดตูดเข้าบ้านโดยไม่รอชายหนุ่มที่เพิ่งก้าวขาเดินลงจากรถ“เปลี่ยนไปเยอะแฮะ” แทนคุณเหยียดยิ้มมุมปากอย่างเอ็นดู การกระทำน่าหงุดหงิดของมาริษา ไม่ได้ทำให้รู้สึกโกรธเลยสักนิดเดียว กลับมองว่าน่ารักเสียมากกว่า ถึงแม้ไม่ใช่มาริษาคนเดิมที่รู้จักก็ไม่เป็นไร อย่างน้อยเธออยู่ก็ในสายตา เขาต้องทำให้เธอกลับมาเป็นมาริษาคนเดิมให้ได้“…” แทนคุณส่ายหน้าไปมา แล้วสาวเท้าเดินตามหลังมาริษาเข้าบ้าน แต่ไม่ทันได้เดินตามเข้าห้องนอน มาริษากลับปิดประตูใส่หน้าเสียก่อน ใบหน้าหล่อ ๆ แทบถูกประตูกระแทก“ฝากไว้ก่อนเถอะยัยตัวแสบ” นิ้วแกร่งชี้ย้ำ ๆ อย่างคาดโทษคนตัวเล็ก มุมปากกระตุกขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะเดินเลี่ยงไปอีกทาง“ผู้ชายอะไรดื้อด้านเป็นที่สุด!” เจ้าของดวงตาสวยมุ่ยหน้าหงุดหงิดพลางหย่อนสะโพกนั่งบนเตียงนุ่มอย่างเจ็บใจพ่อของลูก แต่ขณะเดียวกันก็รู้สึกแปลกใจกับท่าทีของคนพี่ เขาดูใจเย็น พูดจาดีขึ้นเยอะ หากเป็นเมื่อก่อนพี่ไม้คงเละเป็นโจ๊ก “ทำไมใบหน้าดูซูบลงไปเยอะจัง”“…” ความสงสัยและความเป็นห่วงแทรกเข้ามาแทนที่ความโกรธ ใบหน้าน่ารักมีแ
เวลาต่อมา 20:30 น. ก๊อก ก๊อก ก๊อกเสียงเคาะประตูจากคนด้านนอก ทำให้หญิงสาวตัวเล็กอยู่ในชุดเดรสยาวสีครีมสะดุ้งด้วยความตกใจ เธอกำลังเก็บเอกสารสำคัญเข้าใส่กระเป๋าผ้าอย่างเร่งรีบ“เปิดประตูให้ฉันหน่อยเมษา” เสียงจากคนด้านนอก ทำให้มาริษายิ่งลนลาน จับเอกสารยัดเข้ากระเป๋าอย่างไม่เป็นระเบียบ ขณะที่คนด้านนอกยังขานเรียกชื่อ “เมษา”“ไล่เท่าไหร่ก็ไม่ยอมไป งั้นสาไปเองแล้วกัน” มาริษาหยิบโทรศัพท์ปุ่มกดยี่ห้อธรรมดาขึ้นมาต่อสายหาใครบาง รอสายไม่นานนักปลายสายก็กดรับสาย…“ครับคุณเมษา” “สากำลังไปนะคะ” “ระวังตัวด้วยนะครับคุณเมษา” “ค่ะ” มาริษากดวางสาย เธอรีบเดินจ้ำอ้าวไปเปิดประตูหน้าต่าง ยกเก้าอี้ตรงโต๊ะเครื่องแป้งวางบนพื้นหญ้าข้างหน้าต่าง ทำให้เสียงเบาที่สุด ซึ่งไม่สูงมาก หากเปรียบเทียบ ผู้ชายกระโดดข้ามได้สบาย ๆ“จิ๊!” แทนคุณส่งเสียงในปากอย่างหงุดหงิด ที่เรียกเท่าไหร่คนด้านในก็ไม่ยอมออกมาเปิดสักที ครุ่นคิดครู่หนึ่งก่อนจะหมุนตัวเดินเลี่ยงไปทางอื่น และ กลับมาอีกทีพร้อมกับกุญแจสำรองที่ให้คนงานนำไปปั๊มเอาไว้อีกชุดแกรก“…” มือหนารีบไขกุญแจเปิดประตูห้องนอนของภรรยาตัวเล็กเข้าไปอย่างร้อนใจ แต่ภายในห้องนอนกลับ
หมับ!“อย่าเพิ่งไป” แทนคุณก้าวขายาวเข้าไปสวมกอดมาริษาที่กำลังจะเดินหนีจากด้านหลังแน่น พลางเกยปลายคางคมสันบนไหล่มน มาริษาดีดดิ้นพยายามแกะท่อนแขนแกร่งออกจากลำตัว แต่ก็ยากเหลือเกิน“ปล่อยนะ!”“ไม่ปล่อยจนกว่าเธอจะยอมฟังฉันอธิบาย”“ไม่จำเป็นค่ะ! สาไม่อยากฟังอะไรจากพี่อีกแล้ว”“งั้นฉันก็ไม่ปล่อย”“พี่แทน!” มาริษาเอี้ยวหน้ามองค้อนแทนคุณอย่างเอือมระอากับนิสัยเอาแต่ใจ ที่ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหนก็ไม่เคยเปลี่ยน แต่แทนคุณกลับตีหน้ามึนคลี่ยิ้มให้มาริษาอย่างไม่หวั่นเกรงกับแววตาดุของเธอ มองว่าน่ารักเสียมากกว่า“ปล่อยสาเดี๋ยวนี้” มาริษาพูดเน้นเสียงอย่างเป็นการขู่ ราวกับลูกแมวกำลังขู่เจ้าของฝ่อ ๆ แต่ไม่ได้ทำให้แทนคุณกลัวเลยแม้แต่นิดเดียว“ฉันไม่ปล่อยเธอหลุดมือไปอีกแล้ว”ตึก! ตึก!หัวใจมาริษาเต้นถี่รัวไม่เป็นจังหวะเช่นเดียวกับหัวใจของแทนคุณที่เต้นแรงไม่ต่างกัน จนไม่รู้ว่าหัวใจใครเต้นแรงกว่ากัน เธอสัมผัสได้ถึงความคิดถึงปนความเศร้าจากน้ำเสียงอันแผ่วเบาของเขาชัดเจนกว่าทุกครั้งจนน่าประหลาดใจ“ฉันมีเรื่องอยากบอกกับเธอเยอะแยะไปหมดเลยนะเมษา” เมื่อเห็นร่างเล็กในอ้อมแขนนิ่งเงียบแทนคุณจึงพูดต่อตามความรู้สึกข
วันต่อมา “อือ~” หญิงสาวบนเตียงนุ่มส่งเสียงครางในลำคอเบา ๆ เมื่อรู้สึกตัวตื่นจากห้วงนิทราในช่วงเวลาเดิมเจ็ดโมงเช้า เธอลูบหน้าตัวเองหนึ่งครั้งเพื่อให้รู้สึกสดชื่นมากขึ้น ก่อนจะค่อย ๆ ปรือตาขึ้นมองปรับโฟกัสสายตา มือบางปิดปากหาววอด ๆ อย่างง่วงนอน ก่อนจะดันตัวลุกขึ้นนั่งพิงหลังกับหัวเตียง มองไปที่นาฬิกาแขวนผนัง พบว่าเข็มสั้นชี้เลขเจ็ด เข็มยาวชี้เลขหก เป็นเวลาเจ็ดโมงครึ่ง “จะมาอีกไหมนะ” มาริษาทำสีหน้าครุ่นคิดถึงพ่อของลูก เมื่อรู้สึกคันบริเวณดวงตาจึงใช้นิ้วเรียวถูเปลือกตาเบา ๆ ให้หายคัน ก่อนที่สมองจะประมวลผลเรื่องที่คิดสำเร็จ “คนดื้อรั้นอย่างพี่แทน ต้องมาอีกแน่ ๆ”เธอยอมรับเลยว่ากลัวใจตัวเองเป็นที่สุด กลัวใจอ่อนให้เขา… “แม่จะทำยังไงกับพ่อของลูกดีจ้ะลูกจ๋า” มือบางลูบหน้าท้องที่นูนป่องไปมาเบา ๆ อย่างคิดไม่ตก สักพักถึงได้ก้าวขาเดินลงจากเตียง เดินไปทำกิจวัตรประจำในห้องน้ำอย่างเคย “…” มาริษากลับออกมาจากห้องนอนด้วยชุดเดรสยาวสีครีมแขนสั้นผ้าลินิน ผมยาวสีดำสลวยถูกปล่อยแผ่กระจายเต็มแผ่นหลัง ใบหน้าน่ารักสวยเป็นธรรมชาติไร้ซึ่งเครื่องสำอาง มีเพียงสกิลแคร์ทาทั่วใบหน้า