ค่ายมวย นาวา “ไอ้หมาบ้า มันไปกินรังแตนที่ไหนมาวะ ดูท่าเด็ก ๆ มึงจะรับมือไม่ไหวแล้วนะ ไม่ห้ามมันหน่อยเหรอ?” ฟรานซ์ทักท้วงนาวาเจ้าของค่ายมวย เพื่อช่วยยับยั้งแทนคุณ ที่ซัดทั้งหมัดใต้นวมมวยทั้งเท้าหนักใส่นักมวยร่างกายบึกบึนทั้งสามบนเวทีมวยไม่ยั้ง นานเกือบชั่วโมง ทั้งที่จำนวนคนมากกว่า แต่กลับไม่สามารถเอาชนะชายหนุ่มเพียงคนเดียวได้เลย นักมวยแต่ละคนต่างบอบช้ำ เรี่ยวแรงเริ่มถดถอยไปตาม ๆ กัน“พอได้ละไอ้แทน!”แทนคุณอยู่ในสภาพท่อนบนเปลือยเปล่า เหงื่อท่วมตัว ท่อนล่างสวมใส่กางเกงวอร์มสีดำ กำลังง้างหมัดอัดหน้านักมวยอีกคนที่ยังลุกขึ้นยืนไหว แต่กลับต้องหยุดค้างกลางคันครั้นเสียงห้ามปราบของนาวาดังขึ้น ซึ่งสำหรับนักมวยแล้วเหมือนเสียงสวรรค์มาโปรด ต่างพยุงตัวกันลงจากเวทีอย่างรีบร้อน“จะเอานักมวยกูให้ตายเลยเหรอวะ ไอ้สัส!”“แล้วมันตายยังล่ะ”“ตอบได้กวนตีนมากเลยนะไอ้หมาบ้า”แทนคุณทำเมินเฉยต่อประโยคดังกล่าว กระโดดลงจากเวทีมวย ก่อนจะเทน้ำเย็นในขวดที่ถืออยู่ลาดกลางหน้าผากพลางขยับศีรษะไปมา เพื่อให้น้ำไหลไปทั่วใบหน้าคมคายหวังดับร้อน มือหนาขยี้ผมหน้าม้าที่เปียกชุ่มน้ำแรง ๆ เพื่อให้เส้นผมดำขมับคลายตัวออกจากกัน“จะบ
“แก้หมัดให้สาหน่อยค่ะ” มาริษาไม่กล้าหันไปสบตากับแทนคุณ เนื่องจากทั้งร่างเปลือยเปล่า ชุดนอนบนกายถูกเปลื้องทิ้ง เหลือเพียงแพตตี้ตัวจิ๋วสีชมพูลายลูกไม้ห่อหุ้มความเป็นสาวที่เปียกแฉะ เพราะถูกเล้าโลมอย่างหนัก และ บราเชียร์สีเดียวกันกับสีแพตตี้แทนคุณปลดกระดุมเสื้อออกทีละเม็ด โดยไม่ได้ทำตามที่มาริษาขอแต่อย่างใดฟุบ~“…” มาริษาหลับตาพลางกัดปากล่างเบา ๆ เนื้อตัวสั่นเทาด้วยความประหม่า ครั้นเสื้อผ้าของคนที่ยืนอยู่ปลายเท้าหล่นลงพื้นทีละตัว กระทั่งร่างหนากลับขึ้นมาคร่อมร่างของเธออีกครั้ง จึงสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่นเป่าลดลงบนแก้มถี่ ๆ“หันมาแล้วลืมตา ถ้าไม่อยากให้ฉันโมโหอีก”“แก้หมัดให้สาด้วย มันเจ็บ”“จิ๊!” เสียงจิ๊ปากแสดงความรำคาญใจ ก่อนที่มือหนาจะเอื้อมไปปลดเข็มขัดหนังบนข้อมือเล็กมาริษาค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมองพร้อมทั้งหันกลับที่เดิม ปะทะเข้ากับแผงอกกำยำ ทำเอารูม่านตาเบิกกว้าง สายตาซุกซนไม่อยู่นิ่ง ไล่มองไปทั่วผิวขาว หัวใจพลันเต้นระส่ำถี่เร็วจนหายใจแทบไม่ทั่วท้อง“อะ…อื้อ!” คนด้านบนแนบริมฝีปากหยักได้รูปลงมาประกบจูบ โดยไม่ปล่อยให้เธอตั้งตัว ปลายลิ้นสากพยายามสอดใส่เข้าไปฉกชิมเอาความหวานในโพรงปากนุ่ม“…”
ซ่า~สายน้ำไหลผ่านเรือนร่างสวยงามใต้ฝักบัว ชำระล้างฟองสบู่สีขาว มือบางลูบถูไปตามสัดส่วนทั้งท่อนบนและท่อนล่างอย่างทะนุถนอมหมับ!“อ๊ะ!” มาริษาสะดุ้งตัวพลางส่งเสียงออกมาด้วยความตกใจ เมื่อถูกมือหนาจับสัมผัสเอวคอดกิ่ว ก่อนที่แผ่นหลังเนียนจะแนบชิดกับแผงอกกำยำของคนด้านหลัง ที่ไม่รู้เข้ามาเมื่อไหร่และเปิดประตูได้ยังไง เพราะเธอจำได้ว่าล็อกประตูแล้ว“พะ…พี่แทนเข้ามาได้ยังไงคะ?”“ก็เปิดประตูเข้ามาน่ะสิ” ไม่ว่าเปล่าแทนคุณยื่นมือไปปิดฝักบัว“ตะ…แต่สาล็อกประตูแล้วนะคะ” มือปลาหมึกเริ่มลูบไล้ไปตามส่วนเว้าโค้ง อีกทั้งจมูกคมสันและริมฝีปากหนายังถูไถตามบ่าเล็ก ทำเอามาริษาเสียววาบไปทั่วร่าง อีกทั้งบั้นท้ายงอนงามยังสัมผัสได้ถึงน้องชายของคนด้านหลังกำลังทิ่มแทงอยู่อย่างนั้น“ก็ไม่ใช่เรื่องยากที่ฉันจะเปิดเข้ามาหนิ”“อย่าคะ สาไม่อยากทำแล้ว” เต้าอวบทั้งสองข้างถูกมือหนาเลื่อนขึ้นมาบีบขย้ำทั้งสองข้างอย่างมันมือ ใบหน้าคมคายโน้มเข้ามาคลอเคลียซอกคอขาว“แล้วยังไง คิดว่าฉันสน?”มาริษาระบายลมหายใจออกมาอย่างเหนื่อยหน่ายที่จะพูด เมื่อคืนเธอถูกเขาจัดหนักหลายต่อหลายครั้ง ตนเธอแทบไม่มีแรงก้าวขาลงจากเตียงพรึ่บ!“อ๊ะ!” มาริ
ผับ Moon “เราจะกลับบ้านกันกี่โมงคะ?” มาริษาอยู่ในชุดนักศึกษาพอดีตัว กระโปรงพลีทสั้นประมาณหัวเข่า เธอกล่าวถามด้วยความสงสัย ระหว่างเดินตามหลังแทนคุณเข้าประตูด้านหลังสำหรับเจ้าของผับ เนื่องจากวันนี้เขาไปรับเธอที่มหาลัย และ ตรงดิ่งมาที่ผับทันที“เมื่อไหร่ก็เมื่อนั่นแหละ”“เมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น แล้วมันกี่โมงล่ะคะ ช่วยบอกให้ชัดเจนหน่อยได้ไหมคะ” คำตอบกวนประสาทของเขา ชวนให้หงุดหงิด จะมีสักครั้งไหมที่เขาจะตอบโต้กับเธอดี ๆกึก!สองเท้าเล็กภายใต้รองเท้าผ้าใบสีขาวหยุดอยู่กับที่ตามร่างสูงด้านหน้า ก่อนที่เจ้าของดวงตาดุร้ายจะหันกลับมาจ้องมองอย่างรำคาญ ส่งผลให้หัวใจเธอเต้นถี่เร็วโดยอัตโนมัติ เมื่อได้สบปะทะกับแววตาคู่นั้น“อะ…อะไรคะ?”“ยัยปลาทอง”“บูลลี่กันหนิคะ สาความจำดีนะรู้ไว้ด้วย”“ความจำดีแล้วทำไมถึงยังทำตัวน่ารำคาญไม่เลิก”“…” มาริษาขมวดคิ้วเล็กน้อยสีหน้ามีแววครุ่นคิด เขาคงหมายถึงข้อบังคับต่าง ๆ ที่เขาตั้งขึ้นมา โดยที่เธอไม่เห็นด้วยสักเท่าไหร่ ทว่าเธอกำลังอ้าปากพูด แต่คนปากร้ายกลับเดินหนีไปเสียก่อน“เอาแต่ใจตัวเองชะมัด” มาริษาจิ๊ปากหมั่นไส้ แล้วระบายลมหายใจออกมาเบา ๆ รีบสาวเท้าเดินตามคนตัวสูงไป
มหาวิทยาลัย T.U อินเตอร์12:30 น.“สวัสดีจ้ะทุกคน” เจ้าของรอยยิ้มสดใสอยู่ในชุดนักศึกษาพอดีตัว กระโปรงพลีทสั้นประมาณหัวเข่า เธอเดินถือถุงบราวน์นี่เข้ามาหากลุ่มเพื่อนที่นั่งอยู่ตรงโต๊ะม้าหินอ่อนใต้ต้นไม้ใหญ่ หน้าตึกคณะนิเทศศาสตร์“วันนี้มาเป็นคนสุดท้ายในกลุ่มเลยนะยะ” ชายหนุ่มชุดนักศึกษา แต่จิตใจเป็นหญิงเอ่ยทักเพื่อนสาวเป็นคนแรกท่าทางมีจริตจะก้าน“ทำบราวน์นี่สูตรเฮลตี้อยู่น่ะ เลยมาช้าหน่อย ฉันเตรียมมาให้พวกแกชิมด้วยนะ…อะคนละกล่อง” มาริษาวางถุงคุกกี้บนโต๊ะพลางหย่อนสะโพกนั่งตรงข้ามกับจีน่า“ลาภปากฉันอีกแล้ว ฝีมือแกอร่อยที่สุดเลยเพื่อนรัก”ไม่ว่าจะของคาวหรือของหวาน มาริษาทำได้ดีเยี่ยมไม่แพ้ใคร อร่อยทุกเมนู เธอชอบทำอาหารและขนมเป็นงานอดิเรก มักนำมาให้เพื่อน ๆ ได้ลิ้มลองรสชาติอยู่บ่อยครั้ง เรียกว่าเป็นเซฟประจำกลุ่มเลยก็ว่าได้“ขอบคุณจ้ะ” คนถูกชมยิ้มแก้มปริ เธอมีความสุขและอิ่มเอ็มใจทุกครั้งที่ได้รับคำชม“ขอกินเลยแล้วกัน” แกรมมี่เปิดกล่องคุกกี้ของตัวเองเป็นคนแรก“ฮยอนลองชิมดูสิ สาทำไม่หวานเลย กินแล้วรับรองไม่อ้วนแน่นอน” เจ้าของรอยยิ้มสดใสพยักหน้าหงึก ๆ ขอให้ชายหนุ่มผู้ที่ไม่ชอบขนมหวานลองกินดูสัก
ห้างสรรพสินค้าปึก!“อ๊ะ!” คนตัวสูงเดินนำหยุดกะทันหัน ทำให้เธอที่เดินตามอยู่ด้านหลัง มองนู้นมองนี่ตามประสา ชนเข้ากับแผ่นหลังกว้างอย่างจัง มือบางลูปหน้าผากปอย ๆ “จะหยุดทำไมไม่บอกกันก่อนล่ะคะ”“เรื่องแค่นี้ต้องให้บอก?”“…” มาริษามุ่ยหน้าพลางจิ๊ปากใส่แทนการโต้ตอบ“เดินมาข้าง ๆ นี่ ให้ไอ้ทิมตามอยู่ด้านหลังคนเดียวก็พอ”“ทำไมคะ?”“อย่าถามมาก ทำตามที่สั่งก็พอ”“ค่ะ” มาริษาตอบกลับอย่างจำยอม ใบหน้าน่ารักถูกแต่งเติมด้วยเครื่องสำอางอ่อน ๆ บึ้งตึงเล็กน้อย ก่อนจะก้าวขาเรียวไปยืนข้าง ๆ กับคนพี่“อยากกินอะไร?”“พาสามากินข้าวจริงเหรอคะเนี่ย”“ถามแบบนี้หมายความว่าไง?”“สาคิดว่าพี่แค่พูดไปอย่างนั้น ไม่พามาจริง ๆ อย่างที่พูด”“...” แทนคุณมองมาริษาที่ก้มหน้าพูดเสียงแผ่วราวกับกำลังตัดพ้อนิ่ง“เลิกสงสัย แล้วพูดมาว่าอยากกินอะไร”มาริษาค่อย ๆ เงยหน้าขึ้นสบตากับคนพี่ หัวใจพลันเต้นรัว เมื่อแววตาคู่นั้นเปลี่ยนไปจากเดิมไม่ดุดันอย่างเคย “แน่ใจเหรอคะว่าให้สาเลือก”“อือ”“…” ริมฝีปากจิ้มลิ้มถูกคลี่ออกเป็นรอยยิ้มสดใสทันที เมื่อได้รับคำตอบ“สาอยากกินปิ้งย่างเกาหลีค่ะ”“อือ” แทนคุณเพียงครางเสียงตอบกลับในลำคอ แล้วสาวเท
คฤหาสน์ พีรพัฒน์แกรกหญิงสาวตัวเล็กอยู่ในชุดนอนกางเกงขาสั้นสีขาว นั่งพิงหลังกับหัวเตียง ปลายนิ้วเรียวเลื่อนฟีดดูข่าวสารในแอปพลิเคชั่นบนหน้าจอสี่เหลี่ยม ดึงสายตามองไปยังบานประตูห้องน้ำที่เปิดออกด้วยฝีมือของชายหนุ่ม ที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จ มีเพียงผ้าขนหนูพันรอบเอวสอบอย่างหมิ่นเหม่ ผมเผ้าเปียกชุ่ม ตามร่างกำยำมีหยดน้ำเกาะติด“แต่งตัวเสร็จแล้ว สาเป่าผมให้นะคะ” แก้มใสเปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่อทุกครั้งที่เห็นผิวขาว ๆ กล้ามแน่น ๆ ของคนพี่ แม้จะเห็นทุกวันแต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ไม่ชินตาเสียที“อือ” แทนคุณครางเสียงในลำคอตอบกลับเพียงสั้น ๆ เท้าหนักเดินไปยังห้องแต่งตัวพลางใช้ผ้าขนหนูสีขาวขยี้เส้นผมที่เปียกเพื่อซับน้ำให้แห้ง ในขณะที่มาริษายิ้มปริ่มอย่างอิ่มเอ็มใจ เมื่อรู้สึกได้ว่าแทนคุณเย็นชากับเธอน้อยลง พูดคุยกับเธอมากขึ้น ต่างจากเมื่อก่อน พลิกหน้ามือเป็นหลังมือเลยก็ว่าได้ จนบางครั้งเธอแทบตั้งรับไม่ทัน…ฟู่~ฟู่~ฟู่~เครื่องไดร์เป่าผมถูกใช้งานด้วยหญิงสาวตัวเล็ก เธอปรนนิบัติสามีที่นั่งเล่นโทรศัพท์ค่าเวลาอยู่หน้าโต๊ะเครื่องแป้งด้วยสภาพท่อนบนเปลือยเปล่า ท่อนล่างมีเพียงบ๊อกเซอร์ตัวเดี่ยว ปล่อยให้เธอยุ่มย่ามจัดก
“ป้าสายหยดคะ พี่แทนกลับมาแล้วเหรอคะ สาเห็นรถจอดในโรงจอดรถน่ะค่ะ” หลังจากส่งเพื่อน ๆ กลับ เธอก็กลับเข้าบ้าน บังเอิญเจอหัวหน้าแม่บ้านพอดีจึงเอ่ยถามให้แน่ใจ“กลับมาได้สักพักแล้วค่ะ ตอนนี้น่าจะอยู่ข้างบนนะคะ”“วันนี้กลับเช้าจัง”“นั่นสิคะ ปกติกว่าจะกลับบ้านก็ค่ำแล้ว”“ค่ะ งั้นสาขอตัวก่อนนะคะ” มาริษาเอ่ยอย่างสุภาพ แล้วสาวเท้าเดินขึ้นบันไดไปหาคนพี่ แต่เมื่อเข้ามาในห้องนอนก็ไม่พบ…“คงอยู่ในห้องทำงาน” เมื่อคิดได้อย่างนั้นจึงกลับออกจากห้องนอนตรงไปที่ห้องทำงานประจำของคนพี่ที่ชอบขลุกตัวอยู่ในนั้นเป็นส่วนใหญ่ก๊อก ก๊อก ก๊อกแกรก มาริษาเคาะประตูห้องทำงานก็ผลักเข้าไปทันที โดยไม่ต้องรับอนุญาตจากเจ้าของห้อง คนพี่นั่งพิงหลังกับพนักพิงเก้าอี้ ยกขาขึ้นฟาดบนโต๊ะทำงาน ในมือถือโทรศัพท์เครื่องหรู ปรายตามองมาที่เธอแวบหนึ่ง ก่อนจะกลับไปสนใจหน้าจอสี่เหลี่ยมต่อ สีหน้าและท่าทางดูอารมณ์ไม่ดี ทำให้รู้สึกเกร็งและประหม่าไปเล็กน้อย“…” อายเย็นจากเครื่องปรับอากาศกระทบผิวอ่อนจนขนลุกซู่ขึ้นมาโดยอัตโนมัติ ไม่รู้เย็นเยือกจากแอร์ในห้องหรือจากเจ้าของใบหน้าหล่อกันแน่“วันนี้งานเสร็จเร็วเหรอคะ?” เธอสูดหายใจเข้าปอดลึก ๆ ก่อนเ
สามปีต่อมา งานรับปริญญาภายในงานรับปริญญาบัตรพลุกพล่านไปด้วยผู้คนมากมาย ทั้งบัณฑิตจบใหม่ ทั้งรุ่นพี่รุ่นน้องของแต่ละคณะ และ ญาติมิตรที่มาร่วมแสดงความยินดีกับลูกหลาน หรือ คนรู้จัก“สา” มนัสรินทร์ที่เห็นน้องสาวเป็นคนแรก เธอขานเรียกพลางโบกมือ ส่งสัญญาณว่าอยู่ทางนี้มาริษาอยู่ในชุดครุย ใบหน้าน่ารักถูกแต่งเติมด้วยเครื่องสำอางที่ค่อนข้างเข้มจัด สวยหวานราวกับเจ้าหญิง เธอโบกมือตอบรับพี่สาว รีบเร่งฝีเท้าเดินบนรองเท้าคัทชูตรงดิ่งเข้าไปหาบิดามารดาและ เพื่อนสนิทที่มาร่วมแสดงความยินดีในความสำเร็จของเธอ เธอเรียนจบหลังเพื่อน เพราะต้องดรอปเรียน เพื่อดูแลลูกสาวที่ตอนนี้อายุได้สามขวบเศษ“คูณแม่~” เจ้าของแก้มป่องราวกับลูกซาลาเปา ตากลมโต ฉีกยิ้มกว้างสดใส ตะโกนเรียกผู้เป็นแม่ ปล่อยมือจากผู้เป็นน้าสาว วิ่งเตาะแตะเข้าไปหามารดาด้วยความคิดถึง มาริษาย่อตัวลงอ้าแขนรับลูกสาว อุ้มขึ้นแนบอกฟอด~ มาริษาหอมแก้มป่องลูกสาวเจ้าของใบหน้าน่ารักฟอดใหญ่ด้วยความคิดถึงและเอ็นดู ขณะเพื่อน ๆ และคนในครอบครัว ต่างก็เดินเข้ามาสบทบ ยกเว้นเสียแต่พ่อของลูกที่ติดงานด่วนที่ต่างประเทศไม่สามารถมาวันสำคัญของเธอได้“ยินดีด้วยนะสา” จีน่าพ
หนึ่งเดือนต่อมา @คฤหาสน์ พีรพัฒน์ “สบายขึ้นไหม?” บนเตียงขนาดคิงไซซ์แทนคุณกำลังนวดเรียวขาทั้งสองข้างของมาริษาบนตักแกร่งอย่างเบามือ เนื่องจากเธอมีอาการปวดเมื่อยบริเวณขาทั้งสองข้าง เพราะท้องใกล้คลอดขนาดใหญ่มหึมา ครั้นจะนอนหรือนั่งก็ขยับพลิกตัวลำบากไปหมด“ค่ะ~” น้ำเสียงสั่นเครือเอ่ยตอบเบา ๆ ด้วยความปวดขึ้นเรื่อย ๆ บริเวณอุ้งเชิงกราน จนน้ำตาเล็ด ถึงจะปวดไม่มากแต่ก็รู้สึกทรมานพอสมควร“ปวดท้องเหรอ?”“…” มาริษาพยักหน้าหงึก ๆ หยาดน้ำค่อย ๆ ไหลกลิ้งอาบแก้มใส มือบางกุมเข้าหากันแน่นอย่างอดทนกับอาการต่าง ๆ ของคนท้องใกล้คลอดที่ต้องเจอ เพื่อลูกคนแรกของเธอ“ทนอีกหน่อยนะ อีกไม่กี่วันเราจะได้เจอหน้าลูกกันแล้ว” แทนคุณเห็นความเจ็บปวดบนใบหน้ามาริษาก็ถึงกับน้ำตาคลอเบ้าด้วยความสงสาร นิ้วยาวเอื้อมไปเช็ดน้ำตาบนแก้มนุ่มอย่างปลอบประโลม“ให้พี่นวดต่อไหมหรือนอนพัก”“นวดค่ะ สารอให้อาการปวดหายไปอีกสักนิดค่อยนอน”“ครับ งั้นพี่ร้องเพลงให้เอาไหม?” แทนคุณฉีกยิ้มให้กำลังใจมาริษา ในเมื่อไม่สามารถรับเจ็บปวดแทนเธอได้ เขาขอเป็นคนสร้างพลังบวกและคอยอยู่เคียงข้างเธอไม่ไปไหนมาริษากะพริบตาปริบ ๆ สีหน้าไม่อยากเชื่อเท่าไหร่ มือ
หลายอาทิตย์ต่อมา คฤหาสน์ พีรพัฒน์ ดึก~“ฮึ ตัวเล็กถีบหน้าพ่อซะแรงเลยนะลูก” ภายในห้องนั่งเล่นคนที่กำลังเป็นพ่อคนแนบหูฟังเสียงเต้นหัวใจของลูกน้อยในครรภ์ของภรรยาตัวเล็กตรงโซฟาตัวยาว แต่แก้มสากกลับสัมผัสได้ถึงแรงดิ้นลูกน้อยในท้องค่อนข้างแรง ไม่รู้ว่าเป็นการทักทายหรือกลั่นแกล้งพ่อกันแน่ “ดูสิสาลูกเราดิ้นใหญ่เลย”แทนคุณเงยหน้าขึ้นกล่าวกับมาริษาด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น เป็นครั้งแรกที่ลูกในท้องดีดดิ้นอย่างซุกซน จนเห็นการเคลื่อนไหวเป็นคลื่น ๆ ตรงท้องป่องชัดเจน“สงสัยแกอยากออกมาเล่นกับพ่อเขาแล้วมั้งคะ” มาริษายิ้มปริ่มมีความสุขไปกับแทนคุณ แม้ว่าจะรู้สึกเจ็บเล็กน้อยเมื่อลูกในท้องดิ้นแรงเกินไปแต่เธอก็ยอมอดทน เธอท้องได้เจ็ดเดือนย่างเข้าเดือนที่แปด ท้องจึงโตตามอายุครรภ์ ไปไหนมาไหนก็ค่อนข้างยากลำบากแทนคุณฉีกยิ้มดีใจใหญ่ทาบมือบนท้องป่องตรงจุดที่ลูกในท้องดีดดิ้น “เบา ๆ หน่อยนะครับ เดี๋ยวแม่เจ็บ”“ขออนุญาตค่ะ” ระหว่างนั้นสาวใช้ก็เดินเข้ามาโค้งศีรษะทำความเคารพผู้เป็นนายทั้งสอง ก่อนจะกล่าวรายงานในเวลาต่อมา “คุณหมอธัน คุณหวาน คุณเทวินแล้วก็คุณมิลินมาถึงแล้วค่ะ”“อือ” แทนคุณครางตอบรับสาวใช้ด้วยใบหน้าเรียบเฉย
เช้าวันต่อมา “อื้อ~” หญิงสาวบนเตียงนุ่มส่งเสียงครางในลำคอเบา ๆ อย่างรู้สึกตัวตื่น เมื่อถูกรบกวนการนอนหลับ สัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่างกำลังยุ่มย่ามตรงกลางความเป็นสาว จนรู้สึกเสียววาบไปทั่วทั้งร่าง มือบางขยุ้มผ้าปูเตียงโดยทันที ขณะที่สมองเริ่มกลับมาประมวลอีกครั้งแผล็บ แผล็บ แทนคุณตวัดปลายลิ้นสากเลียกลีบกุหลาบสวยที่ไม่ได้เชยชมมานานหลายเดือนอย่างละเมียดละไม กลืนกินน้ำหวานบนกลางความเป็นสาวราวกับของอร่อย เหลือบตาขึ้นมองมาริษาที่ยังไม่ลืมตา แต่มือบางกลับเอื้อมลงมาผลักศีรษะให้ออกห่างจากความหอมหวาน“ยะ…อย่า~” ใบหน้าน่ารักเหยเกด้วยความเสียวในรอบสี่เดือน จนต้องหนีบเรียวขาเข้าหาคนตรงกลางหว่างขา ผลักไสยังไงก็ไม่เป็นผล คืนดีกันได้ไม่ถึงวันคนพี่ก็ลักหลับเธอเสียแล้ว เป็นคืนแรกที่เธอตื่นสายและรู้สึกว่าได้หลับเต็มอิ่ม หากไม่ถูกปลุกเสียก่อนก็คงนอนเพลินจนไม่รู้ตื่นกี่โมง“น้ำเมียพี่ยังหวานเหมือนเดิมเลยนะ” เจ้าของใบหน้าหล่อเงยขึ้นไปสบตากับร่างเล็กที่ยังงัวเงียด้วยรอยยิ้มร้ายกาจ แววตาหยาดเยิ้มเต็มไปด้วยความหื่นกามอย่างเห็นได้ชัด“คนลามก ออกไปเลยนะ! สาไม่อนุญาตให้พี่ทำอะไรกับร่างกายสาทั้งนั้น” วาจาหยาบโลนทำ
ภายในรถสปอร์ตหรูสีฟ้าตกอยู่ในความเงียบสงัดตั้งแต่ขับออกมาจากโรงพยาบาล xxx มีเพียงเสียงลมหายใจของคนสองคนที่พ่นออกมาเป็นจังหวะ แทนคุณทำหน้าที่ขับรถ หันมองมาริษาที่นั่งเงียบ หันหน้าออกหน้าต่างตลอดทางบ่อยครั้งด้วยความเป็นห่วง “หิวไหม เดี๋ยวพี่จอดเซ่เว่นข้างหน้า ลงไปซื้อของกินมาให้” “ไม่” น้ำเสียงห้วน ๆ ตอบกลับ บ่งบอกว่าคนตัวเล็กกำลังหงุดหงิด แทนคุณพยายามทำความเข้าใจกับอารมณ์ขึ้น ๆ ลง ๆ ของคนท้อง แม้ว่าค่อนข้างยากก็ตาม โดยนิสัยเป็นคนใจร้อนและขี้รำคาญ แต่ครั้งนี้เขาจะยอมทำเพื่อคนน้องและหัวใจตัวเอง “อือ ถ้าหิวหรืออยากเข้าห้องน้ำก็บอกพี่นะ” “…” คำตอบที่ได้กลับมาจากคนมาริษาคือความเงียบ เธอมองวิวนอกหน้าต่างรถ ตามทางส่วนมากเป็นบ้านคน และ ต้นไม้สลับกันไป ในหัวครุ่นคิดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในห้องตรวจ ยามที่นอนบนเตียงเพื่ออันตราซาวดูลูกในครรภ์เป็นวันแรก เธอเห็นหยดน้ำตาคนพี่หยดแหมะลงบนเตียง ขนาดที่หมอกำลังอธิบายอวัยวะต่าง ๆ ของลูกในท้อง เป็นครั้งแรกที่เธอได้เห็นมุมอ่อนไหวของเขา บ้านสวนหวาน “ปลานึ่งมีทั้งโปรตีนทั้งโฟเลท สร้างเนื้อเยื่อให้กับร่าง
@บ้านสวน หวาน ปัง!ประตูรถกระบะถูกปิดเสียงดังด้วยฝีมือของหญิงสาวที่กำลังตั้งครรภ์ เธอเดินสะบัดตูดเข้าบ้านโดยไม่รอชายหนุ่มที่เพิ่งก้าวขาเดินลงจากรถ“เปลี่ยนไปเยอะแฮะ” แทนคุณเหยียดยิ้มมุมปากอย่างเอ็นดู การกระทำน่าหงุดหงิดของมาริษา ไม่ได้ทำให้รู้สึกโกรธเลยสักนิดเดียว กลับมองว่าน่ารักเสียมากกว่า ถึงแม้ไม่ใช่มาริษาคนเดิมที่รู้จักก็ไม่เป็นไร อย่างน้อยเธออยู่ก็ในสายตา เขาต้องทำให้เธอกลับมาเป็นมาริษาคนเดิมให้ได้“…” แทนคุณส่ายหน้าไปมา แล้วสาวเท้าเดินตามหลังมาริษาเข้าบ้าน แต่ไม่ทันได้เดินตามเข้าห้องนอน มาริษากลับปิดประตูใส่หน้าเสียก่อน ใบหน้าหล่อ ๆ แทบถูกประตูกระแทก“ฝากไว้ก่อนเถอะยัยตัวแสบ” นิ้วแกร่งชี้ย้ำ ๆ อย่างคาดโทษคนตัวเล็ก มุมปากกระตุกขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะเดินเลี่ยงไปอีกทาง“ผู้ชายอะไรดื้อด้านเป็นที่สุด!” เจ้าของดวงตาสวยมุ่ยหน้าหงุดหงิดพลางหย่อนสะโพกนั่งบนเตียงนุ่มอย่างเจ็บใจพ่อของลูก แต่ขณะเดียวกันก็รู้สึกแปลกใจกับท่าทีของคนพี่ เขาดูใจเย็น พูดจาดีขึ้นเยอะ หากเป็นเมื่อก่อนพี่ไม้คงเละเป็นโจ๊ก “ทำไมใบหน้าดูซูบลงไปเยอะจัง”“…” ความสงสัยและความเป็นห่วงแทรกเข้ามาแทนที่ความโกรธ ใบหน้าน่ารักมีแ
เวลาต่อมา 20:30 น. ก๊อก ก๊อก ก๊อกเสียงเคาะประตูจากคนด้านนอก ทำให้หญิงสาวตัวเล็กอยู่ในชุดเดรสยาวสีครีมสะดุ้งด้วยความตกใจ เธอกำลังเก็บเอกสารสำคัญเข้าใส่กระเป๋าผ้าอย่างเร่งรีบ“เปิดประตูให้ฉันหน่อยเมษา” เสียงจากคนด้านนอก ทำให้มาริษายิ่งลนลาน จับเอกสารยัดเข้ากระเป๋าอย่างไม่เป็นระเบียบ ขณะที่คนด้านนอกยังขานเรียกชื่อ “เมษา”“ไล่เท่าไหร่ก็ไม่ยอมไป งั้นสาไปเองแล้วกัน” มาริษาหยิบโทรศัพท์ปุ่มกดยี่ห้อธรรมดาขึ้นมาต่อสายหาใครบาง รอสายไม่นานนักปลายสายก็กดรับสาย…“ครับคุณเมษา” “สากำลังไปนะคะ” “ระวังตัวด้วยนะครับคุณเมษา” “ค่ะ” มาริษากดวางสาย เธอรีบเดินจ้ำอ้าวไปเปิดประตูหน้าต่าง ยกเก้าอี้ตรงโต๊ะเครื่องแป้งวางบนพื้นหญ้าข้างหน้าต่าง ทำให้เสียงเบาที่สุด ซึ่งไม่สูงมาก หากเปรียบเทียบ ผู้ชายกระโดดข้ามได้สบาย ๆ“จิ๊!” แทนคุณส่งเสียงในปากอย่างหงุดหงิด ที่เรียกเท่าไหร่คนด้านในก็ไม่ยอมออกมาเปิดสักที ครุ่นคิดครู่หนึ่งก่อนจะหมุนตัวเดินเลี่ยงไปทางอื่น และ กลับมาอีกทีพร้อมกับกุญแจสำรองที่ให้คนงานนำไปปั๊มเอาไว้อีกชุดแกรก“…” มือหนารีบไขกุญแจเปิดประตูห้องนอนของภรรยาตัวเล็กเข้าไปอย่างร้อนใจ แต่ภายในห้องนอนกลับ
หมับ!“อย่าเพิ่งไป” แทนคุณก้าวขายาวเข้าไปสวมกอดมาริษาที่กำลังจะเดินหนีจากด้านหลังแน่น พลางเกยปลายคางคมสันบนไหล่มน มาริษาดีดดิ้นพยายามแกะท่อนแขนแกร่งออกจากลำตัว แต่ก็ยากเหลือเกิน“ปล่อยนะ!”“ไม่ปล่อยจนกว่าเธอจะยอมฟังฉันอธิบาย”“ไม่จำเป็นค่ะ! สาไม่อยากฟังอะไรจากพี่อีกแล้ว”“งั้นฉันก็ไม่ปล่อย”“พี่แทน!” มาริษาเอี้ยวหน้ามองค้อนแทนคุณอย่างเอือมระอากับนิสัยเอาแต่ใจ ที่ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหนก็ไม่เคยเปลี่ยน แต่แทนคุณกลับตีหน้ามึนคลี่ยิ้มให้มาริษาอย่างไม่หวั่นเกรงกับแววตาดุของเธอ มองว่าน่ารักเสียมากกว่า“ปล่อยสาเดี๋ยวนี้” มาริษาพูดเน้นเสียงอย่างเป็นการขู่ ราวกับลูกแมวกำลังขู่เจ้าของฝ่อ ๆ แต่ไม่ได้ทำให้แทนคุณกลัวเลยแม้แต่นิดเดียว“ฉันไม่ปล่อยเธอหลุดมือไปอีกแล้ว”ตึก! ตึก!หัวใจมาริษาเต้นถี่รัวไม่เป็นจังหวะเช่นเดียวกับหัวใจของแทนคุณที่เต้นแรงไม่ต่างกัน จนไม่รู้ว่าหัวใจใครเต้นแรงกว่ากัน เธอสัมผัสได้ถึงความคิดถึงปนความเศร้าจากน้ำเสียงอันแผ่วเบาของเขาชัดเจนกว่าทุกครั้งจนน่าประหลาดใจ“ฉันมีเรื่องอยากบอกกับเธอเยอะแยะไปหมดเลยนะเมษา” เมื่อเห็นร่างเล็กในอ้อมแขนนิ่งเงียบแทนคุณจึงพูดต่อตามความรู้สึกข
วันต่อมา “อือ~” หญิงสาวบนเตียงนุ่มส่งเสียงครางในลำคอเบา ๆ เมื่อรู้สึกตัวตื่นจากห้วงนิทราในช่วงเวลาเดิมเจ็ดโมงเช้า เธอลูบหน้าตัวเองหนึ่งครั้งเพื่อให้รู้สึกสดชื่นมากขึ้น ก่อนจะค่อย ๆ ปรือตาขึ้นมองปรับโฟกัสสายตา มือบางปิดปากหาววอด ๆ อย่างง่วงนอน ก่อนจะดันตัวลุกขึ้นนั่งพิงหลังกับหัวเตียง มองไปที่นาฬิกาแขวนผนัง พบว่าเข็มสั้นชี้เลขเจ็ด เข็มยาวชี้เลขหก เป็นเวลาเจ็ดโมงครึ่ง “จะมาอีกไหมนะ” มาริษาทำสีหน้าครุ่นคิดถึงพ่อของลูก เมื่อรู้สึกคันบริเวณดวงตาจึงใช้นิ้วเรียวถูเปลือกตาเบา ๆ ให้หายคัน ก่อนที่สมองจะประมวลผลเรื่องที่คิดสำเร็จ “คนดื้อรั้นอย่างพี่แทน ต้องมาอีกแน่ ๆ”เธอยอมรับเลยว่ากลัวใจตัวเองเป็นที่สุด กลัวใจอ่อนให้เขา… “แม่จะทำยังไงกับพ่อของลูกดีจ้ะลูกจ๋า” มือบางลูบหน้าท้องที่นูนป่องไปมาเบา ๆ อย่างคิดไม่ตก สักพักถึงได้ก้าวขาเดินลงจากเตียง เดินไปทำกิจวัตรประจำในห้องน้ำอย่างเคย “…” มาริษากลับออกมาจากห้องนอนด้วยชุดเดรสยาวสีครีมแขนสั้นผ้าลินิน ผมยาวสีดำสลวยถูกปล่อยแผ่กระจายเต็มแผ่นหลัง ใบหน้าน่ารักสวยเป็นธรรมชาติไร้ซึ่งเครื่องสำอาง มีเพียงสกิลแคร์ทาทั่วใบหน้า