“ไอ้สิงห์!!” ผมขบกรามแน่น ไอ้เวรนี่มันกัดไม่ปล่อยจริงๆ “เดี๋ยวกูโทรสั่งให้มือขวากูตามสืบเรื่องนี่ให้ไม่ต้องห่วง อีกสองสามวันวัน จะได้รู้กันว่ามันเป็นแค่อุบัติเหตุหรือฝีมือไอ้เหี้ยสิงห์กันแน่” “อื้ม” เพราะเหตุนี้ไง ผมถึงไม่อยากคบใคร ชีวิตผมมันอันตราย เหมือนผมรู้สึกว่าผมกำลังดึงคะนิ้งมาเสี่ยงกับผม
น้ำตาพี่เค้กไหลออกมาอาบแก้มทั้งสองข้าง “ไม่เลย..ไม่เจ็บแล้ว พี่เค้กอย่าร้องสิ” “ไม่ต้องมาอวดเก่งเลย พี่รู้ว่าเราเจ็บ” พี่เค้กเอามือลูบหัวฉันเบาๆ “หนูไม่อยากให้พี่เค้กคิดมากหนิ ไม่อยากให้พี่เค้กเป็นห่วง” “จะไม่ให้พี่ห่วงได้ไง พี่เหลือแค่เรานะคะนิ้ง ตอนพี่รู้ว่าเราถูกรถชนพี่แทบอยากจะกลับไทยสะตอนนั
พี่คริสเอาแต่จ้องหน้าฉันตาไม่กระพริบ จนฉันเขินแล้วเนี้ย “ยังเจ็บอยู่ไหม..?” ฉันส่ายหัวไปมา จริงไปก็เจ็บอยู่แหละแค่ไม่อยากให้พี่คริสเป็นห่วง “เธอหายดีเมื่อไหร่ อยากไปเที่ยวไหนบอกฉันนะเดี๋ยวฉันจะพาไปทุกที่” “ทำไมใจดีจังคะ?” “หรือเธอไม่อยากไป” แหนะชมไม่ได้เลย “ไปสิ ^_^”แกร็ก(เสียงประตูห้องถูกเปิ
วันต่อมา ช่วงดึกๆ.... ฉันโทรหาพี่คริสทั้งวันพี่คริสรับสายฉันอยู่แค่ครั้งเดียวบอกว่าติดธุระ เสร็จแล้วจะโทรกลับ ฉันก็รอแล้วรออีกรอจนค่ำ แต่พี่คริสก็ไม่มีวี่แววจะโทรมาเลย โทรไปหาก็ไม่รับ ฉันนอนมองประตูห้องทั้งวันหวังว่าคนที่เปิดประตูเข้ามาจะเป็นพี่คริส แต่ก็ผิดหวังตลอด… “หายไปไหนนะ ทำไมไม่เคยบอกกั
เช้า... พี่เค้กกลับบ้านเห็นว่าตอนบ่ายจะมาหาฉันใหม่ เมื่อคืนฉันแทบไม่ได้นอนเลยเกือบทั้งคืน สภาพจิตใจตอนนี้มันแย่มากจริงๆ ภาพพี่คริสกับพี่เค้กและคำพูดทุกคำพูดของพี่คริสยังคงวนเวียนอยู่ในหัวฉัน ฉันเหมือนคนจิตตก เหม่อลอย ฉันไม่สามารถทำอะไรได้เลยนอกจากนอนนิ่งๆ แล้วมองไปที่เพดานห้อง น้ำตายังคงไหลลงมาอา
เสร็จแล้วพี่คริสก็เดินไปนั่งที่โซฟา แล้วกดโทรศัพท์เล่น ส่วนพี่เค้กก็นั่งปลอกผลไม้ เสร็จแล้วพี่เค้กก็เดินเอาผลไม้มาให้ฉัน “กินผลไม้ไหม พี่ปลอกเสร็จแล้ว ^_^” “หนูไม่หิวค่ะ” ฉันหันหน้าหนีพี่เค้กไปทางอื่น ฉันไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไม ฉันไม่อยากให้พี่เค้กอยู่ไทยแล้ว ฉันอยากให้พี่เค้กกลับไปวันนี
หลังจากพี่คริสออกไปก็เหลือแค่ฉันกับพี่เค้กสองคน “พี่เค้ก...”ฉันชั่งใจอยู่สักพักก่อนจะพูด “หื้อ..มีอะไรหรอ ?”ฉันกลั้นหายใจก่อนจะถามคำถามที่คาใจออกไป “พี่เค้กกับพี่คริส ปะ เป็นอะไรกัน…” พี่เค้กชะงักแล้วมองหน้าฉัน “ทำไมถามพี่แบบนี้?” “ระ เรื่องเมื่อคืน...ที่พี่คริสกับพี่เค้กคุยกันหนูได้ยินทั้งหมด
“อย่างี่เง่าได้ไหมวะคะนิ้ง...ฉันไม่ชอบ !!” ฉันเดินเข้าไปหาพี่คริสแล้วก็สวมกอดพี่คริสแน่น “หนูขอโทษ อึก ...” น้ำตาฉันไหลออกมาอีกแล้ว พี่คริสแกะมือที่ฉันกอดพี่คริสออก แล้วก็หันหลังเดินออกจากห้อง ไม่สนใจเลยสักนิดว่าฉันกำลังร้องไห้อยู่ ทั้งๆ ที่เห็นว่าฉันร้อง แต่ไม่เอ่ยปากถามกันเลยสักนิด จู่ๆ พี่คร
ตอนนี้ครามลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของฉันกับพี่คริสอายุได้หนึ่งปีเศษ ครามพูดเป็นคำได้แล้วนะ เช่นหม่ำๆ นม ม๊า ปู่ ย่า ยาย พูดได้แต่ก็ไม่ได้พูดบ่อย ไม่ได้ส่งเสียงออกมาชัดหรอกส่วนใหญ่ก็ใช้ภาษาต่างดาวพูดอ้อแอ้ๆ อยู่ ฮ่าๆ แต่!!! ลูกไม่ยอมเรียก ‘ป๊า’ เลย ซึ่งพี่คริสก็พูดกรอกหูลูกทุกวันตั้งแต่เล็กๆ ว่าให้เรียก
“ได้ลูกชายนะคะ” ผมก้มลงไปจูบหน้าฝากของคะนิ้งแล้วใช้มือลูบหัวเธอเบาๆ “คลอดแล้วคะนิ้ง เธอทำได้แล้ว ได้ลูกผู้ชายด้วย ขอบคุณนะขอบคุณจริงๆ ที่มอบของขวัญล้ำค่าชิ้นนี้ให้ฉัน” “ละ ลูกหน้าเหมือนพี่คริสเลย ไม่เห็นเหมือนหนูเลยสักนิด อึก~” คะนิ้งพอเห็นหน้าลูกเธอก็ร้องไห้ แถมยังบ่นว่าลูกไม่เหมือนตัวเอง ใช่ครั
เวลาผ่านไป ตอนนี้ฉันท้องได้ 6 เดือน อาการแพ้ท้องของฉันหายไปแล้ว ไม่เหม็นขี้หน้าพี่คริสแล้ว ท้องก็เริ่มป่องนูนขึ้นมาแล้วด้วยแถมตอนนี้ฉันยังติดพี่คริสเอามากๆ อีกต่างหาก ทั้งคุณพ่อคุณแม่ของพี่คริสและยายต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าอาการของฉันมันแปลกพิลึกฮ่าๆ ฉันก็ว่าตัวเองแปลกมากเหมือนกันและตอนนี้ฉั
ลิ้นของฉันตวัดหยอกล้อและพยายามหลบหลีกลิ้นของพี่คริสที่กำลังตามมาตวัดเกี่ยวพันอยู่นานหลายนาที เป็นพี่คริสที่ยอมผละจูบออก พี่คริสขยับตัวทำอะไรสักอย่าง ซึ่งฉันมองไม่เห็นเลยบอกไม่ได้ว่ากำลังทำอะไรอยู่ จากนั้นไม่นานก็รู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างเหยียดตรงมาทางหัวของฉัน มือหนาของพี่คริสจับหัวฉันขึ้นแล้วจัดให้
สายถูกตัดไป ฉันจึงลุกขึ้นไปเปิดประตูห้องไว้แล้วก็เดินกลับมานอนบนเตียงเหมือนเดิม ไม่สิ!! ฉันจะนอนทำไมต้องนั่งสิ อ่า!! คะนิ้งเธอท้องอยู่นะ คิดจะทำเรื่องแบบนั้นหรือไงกัน ฉันส่ายหน้าไปมาเพื่อไล่ความคิดลามกออกไปจากหัวก่อนจะหลับตาลง เสียงฝีเท้าเดินย่ำเข้ามาในห้องตามด้วยเสียงประตูห้องที่ถูกปิดและล็อกเอาไว
( ขอเข้าไปใกล้ๆ กว่านี้ได้ไหม ) ผมเอ่ยขอออกไป ( มะ ไม่ ห้ามเข้ามาใกล้นะ ) ( อยากเห็ยหน้าเมียใกล้ๆ กว่านี้ ไม่ได้หรือไง ไม่เจอหน้ากันตั้งหนึ่งเดือน เธอไม่คิดถึงฉันบ้างหรือไงคะนิ้ง ) ( อื้อก็ได้ๆ แต่อย่าเข้ามาใกล้มากนะ หนูกลัวว่าจะอ้วกอีก ) ผมยิ้มออกมาเมื่อได้ยินคำตอบ จากนั้นก็เดินตรงไปหาคะนิ้ง ผม
ตอนพิเศษ (Talk Chis) ( พี่คริส อึก อ้วก~) ยังไม่ทันจะพูดอะไรผมก็ได้ยินเสียงอ้วกของคะนิ้งผ่านปลายสาย ( ให้เข้าไปหาในห้องไหม ) ผมถามด้วยความเป็นห่วง ( อึก มะ ไม่ต้อง เอาน้ำเปล่าข้าวแล้วก็ขนมมาวางไว้หน้าห้องให้หน่อยแล้วก็ออกไปให้พ้นๆ เลยนะ ห้ามให้หนูเห็นหน้าเด็ดขาด ) ( แม่ง!! เออๆ จะเอาไปวางให้เดี
จูบเนิ่นนาน พี่คริสผละจูบออกแล้วมองหน้าฉัน เหมือนไม่อยากจะถอนจูบออกเลย “ขอโทษเรื่องเมื่อคืน ดีกันนะครับ” “คนอย่างพี่ ดีได้ไม่นานหรอก เป็นบ้ารึไงชอบจับหนูกด !!” “งั้นก็ยอมดีๆสิ ฉัสจะได้ไม่ต้องจับกด” “หื่น !!” “แค่กับเธอคนเดียว” “ปล่อยได้แล้ว หนูจะไปเปลี่ยนชุด !!” “หายโกรธรึยัง ?” “อื้อ หายแล
“แรดนักนะ !!” พี่คริสจ้องฉันตาเขม่ง “แรดอะไร ก็นี้ปาร์ตี้สละโสด พี่กลับเข้าไปในบ้านเลย” “ฉันไม่กลับ ถ้าเธอไม่กลับไปพร้อมกับกัน!!” “ก็เราคุยกันแล้วไงพี่คริสว่าจะไม่ทะเลาะกัน วันนี้อิสระหนึ่งวันไง หนูปล่อยพี่ พี่ก็ต้องปล่อยหนูสิ” “ยกเลิกเว้ย ไม่จงไม่จัดแม่งละ!!” พรึ่บ! “อร้าย !! พี่คริส ไอ้ผัว