#ถึงที่หมายปลายทาง.. “ลงมา จะนั่งอยู่ทำซากอะไร” เอะอะอะไรก็ดุๆ เป็นอะไรนักหนา “เอะอะก็ด่าๆ ผู้ชายอะไรปากจัดชะมัด (คิดในใจ)” ฉันลงจากรถอย่างว่าง่าย ถึงในใจจะกร่นด่าเขาสารพัดก็ตาม ขืนไม่มำตามที่สั่งแล้วถูกเขาชักปืนขึ้นมายิงจะทำไง คิดผิดมากที่ยอมขึ้นรถมากับเขาด้วย “ที่นี่คือที่ไหน ?” ฉันถามเขา “
ฉันตัดสินใจเดินเข้าไปในลิฟต์ที่ใกล้ที่สุด แล้วกดลิฟต์ลงไปที่ชั้น1 ติ่ง~ ไม่นานลิฟท์ก็ถูกเปิดออก... แต่!! นี่มันไม่ใช่ชั้น1หนิ ฉันอยู่ที่ไหนเนี้ย ภาพที่ฉันเห็นคือผู้คนมากมายเต็มห้องไปหมด มีควันบุหรี่สีขาวขุ่นลอยคลุ้งปกคลุมจางๆ ไปทั่วห้อง แถมกลิ่นในห้องนี้เหม็นอับมาก คนที่ฉันเห็นพวกเขากำลังเล่นการ
ฌ มหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่ง มาถึงก็มานั่งเหงาอยู่คนเดียวเห้อ ฉันนั่งเขี่ยโทรศัพท์เล่นไปจนถึง เวลา 09: 50 น. พวกเพื่อนๆ มาพอดี “หื้ม ทำไมเมื่อวานไม่มาเรียนคะคุณคะนิ้ง แชตไปก็ไม่ตอบ” มะปรางถาม “นั่นสิ เมื่อวานแกหายหัวไปไหนมา” จินถามอีกคน ขี้สงสัยเป็นที่หนึ่งเลยแหละเพื่อนฉันน่ะ “ฉัน ฉันปวดท้อง
“องค์ชาย ขอบคุณมากนะเพคะ ^_^” ฉันโน้มตัวถอนสายบัว เคยเห็นในโทรทัศน์เขาทำแบบนี้ “ไม่ต้องเรียกฉันว่าองค์ชาย เรียกว่าอลัน” พูดจบอลันก็ออกไป เท่ชะมัด “อะ..อ้าว อะไรวะ” ฉันยืนเกาหัวด้วยความงุนงง ขณะที่สายตามมองตามแผ่นหลังกว้างขององค์ชายไปจนสุดสายตา “อย่างเท่อะแก” มะปรางกุมมือขึ้นพลางทำหน้าเพ้อฝัน โร
เสื้อผ้าของฉันค่อยๆ หลุดออกไปจากร่างกายทีละชิ้นๆ จนไม่เหลือเสื้อผ้าติดตัว ส่วนพี่คริสเมื่อจัดการกับเสื้อผ้าตัวเองเสร็จ ก่อนจะพุ่งมาที่ตัวฉัน ริมฝีปากหน้าบดขยี้ริมฝีปากของฉันอย่างลงโทษ รวมทั้งบีบเค้นหน้าอกทั้งสองเต้าอย่างรุนแรงจนทำให้รู้สึกปวดร้าวไปหมด “อื้อ~” ถึงแม้ว่าฉันจะพยายามดิ้น หรือร้องท้ว
“แต่...” ยังไม่ทันที่ฉันจะได้ตอบอะไรพี่คริสก็ขัดขึ้นมาก่อน “ไม่มีแต่ ลงไปได้ละฉันจะไปธุระต่อ” “ค่ะ” ฉันตอบรับคำอย่างจำใจ เมื่อลงจากรถแล้วก็รีบเดินเข้าไปในมหาวิทยาลัย “...คะนิ้ง” ฉันหันไปมองคนที่เรียก “อ้าว อลิน อลัน” “เมื่อกี้เหมือนเราเห็นรถเฮียคริส เฮียคริสมาส่งคะนิ้งหรอ ?” อลินถาม ฉันพยักหน
เลิกเรียน... ฉันแยกย้ายกับเพื่อนมานั่งรอพี่คริสมารับหน้ามหาวิทยาลัยแต่นี่มันจะหกโมงเย็นแล้ว พี่คริสยังไม่โผล่มาเลย ติ๊ง~ แชทเข้า ฉันจึงรีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู Chris : ฉันไม่ว่าง ไอ้คลาสกำลังไปรับให้มันไปส่งบ้าน เขามีไลน์ฉันได้ไงนะ แต่ก็ไม่แปลกหรอกเขาอยากจะได้อะไรเขาก็ต้องได้อยู่แล้วหนิ ฉันถอ
3 ชั่วโมงผ่านไป ในการรอพี่คริสซ้อมแข่งรถ มันน่าเบื่อมาก กริ่ง~ โทรศัพท์ฉันเข้า จินโทรมา ฉัน : ฮัลโหล จิน : อยู่ไหนคะ..เสียงรถดังมาก ฉัน : เอ่อ ฉันออกมาซื้อของ แกมีอะไร จิน : ฉันไปสมัครงานกับอีมะปรางอีมินมาแล้ว ฉันสมัครเผื่อแกด้วย เริ่มงานวันนี้ 2 ทุ่ม โอเครไหม พี่คริสเดินมาพอดี ทำให้ฉันมีท่าท
ทะเล ฉันกับมังกรออกเดินทางมาเที่ยวทะเลกันมาถึงก็ช่วงบ่ายแก่ๆ แล้ว ตอนนี้บรรยากาศมันน่าใส่บิกินี่เดินเล่นริมหาดซะจริงๆ เรามากันที่หาดส่วนตัวมังกรเช่าหาดส่วนตัว หาดที่เขาจับตัวฉันมาขังไว้นั่นแหละ พอมาถึงมังกรก็สั่งให้ลูกน้องเขากลับไปให้หมดทุกคน ที่หาดเหลือเพียงแค่เราสองคนเท่านั้น “จำได้ไหมว่าเธอกับฉันเคยเอากันตรงนั้น” มังกรชี้ไปตรงหาดทรายสีขาวสะอาดมีเก้าอี้ไว้สำหรับนั่งชมวิวทะเลสีฟ้าคราม “อยากระลึกความหลังเหรอคะ ?” ฉันถามแบบยิ้มๆ มังกรไม่ตอบอะไรเขายักคิ้วให้ฉันก่อนจะอุ้มร่างฉันไปเดินไปนั่งบนเก้าอี้ตัวที่เราทั้งคู่เคยมีอะไรกัน “แต่วันนั้นฉันจำได้ว่าฉันใส่บิกินี่นะ” ฉันบอกมังกรที่กำลังลูบไล้ต้นขาอ่อนของฉันไปมา “อย่าหาเรื่องใส่ตัว !!” มังกรบอกเสียงแข็ง “อะไรกัน!! ที่นี่ไม่มีใครอยู่แล้วทำไมถึงยังไม่ให้ฉันใส่บิกินี่อีก” ฉันหันหน้าไปโวยวายเขาแบบไม่สบอารมณ์ทันที “ถ้าอยากใส่ก็ใส่แค่ในห้อง ตรงนี้ไม่ได้!!” “ในห้อง !!!” “เอออ !!” “คุณมันบ้า โอ๊ยยย!!” ฉันร้องเสียงหลงเมื่อถูกมังกรบีบก้นแรงๆ เขามองฉันสายตาดุๆ “ไม่สนแหละยังไงฉันก็จะใส่ !!” “ฉันไม่ให้ใส่ !!”“เอามาห้าล้านสิ ฉันจะเชื่อฟ
1 อาทิตย์ผ่านไป... “บี๋ขาา~ ชุดนี้สวยไหม ^_^” ฉันเดินฉันไปนั่งตักของมังกรที่กำลังเหมือนจะพูดคุยอะไรกับลูกน้องของเขาอยู่ ฉันขอร้องอ้อนวอนมังกรมาตลอดหนึ่งอาทิตย์ที่ผ่านมาให้เขาเรียกฉันว่าบี๋แต่เขาก็ไม่ยอม เลยมีแค่ฉันที่เรียกเขาคนเดียว แต่ฉันไม่ลดละความพยายามหรอก เป็นสามีภรรยากันมันก็ต้องมีมุมมุ้งมิ้งบ้างสิ จริงไหมล่ะ ลูกน้องของมังกรที่นั่งอยู่นับสิบคนหันมามองที่ฉันเป็นตาเดียว ก็แหงสิเพราะตอนนี้ฉันกำลังใส่ชุดบิกินี่ตัวจิ๋วสีแดงสดอยู่ ที่ใส่บิกินี่ลงมาก็เพราะพรุ่งนี้ฉันกับมังกรจะไปทะเลกัน ประมาณว่าไปเที่ยวก่อนแต่งงานประมาณนี้ และถึงแม้ว่าจะท้องแต่ก็แซ่บได้นะคะ “ชุดบ้าอะไร แล้วใส่ลงมาแบบนี้ทำห่าอะไรวะ !!” มังกรหัวเสียทันทีที่เห็นชุดบิกินี่สีแดงสดของฉัน แต่เขาก็ไม่ได้ผลักให้ฉันลุกขึ้นจากตักเขาไปไหนนะ แต่กลับกอดฉันเอาไว้แน่นไม่ยอมให้ฉันหันหน้าไปทางลูกน้องของเขาเลย “บี๋ ปล่อยเค้าก่อนมันอึดอัด !!” ฉันพูดพลางใช้มือดันตัวมังกรออกแต่เจ้าตัวเขาก็ไม่ยอมปล่อยให้ฉันเป็นอิสระเลย “มองห่าอะไรกัน ออกไปให้หมด !!” มังกรออกคำสั่งอย่างเกรี้ยวกราดพวกลูกน้องของเขารีบพากันก้มหน้าก้มตาเดินออกไปกันแทบจะไม
หลังจากที่มังกรขอฉันแต่งงานและฉันตอบตกลงแล้วเรียบร้อย เราทั้งคู่ก็ไปที่โรงพยาบาลเพื่อไปตรวจครรภ์และฝากครรภ์ เสร็จแล้วก็แวะที่บ้านมังกรเพื่อคุยกับพ่อแม่เขาเรื่องแต่งงาน ครั้งนี้ทางบ้านของมังกรไม่ห้ามอะไร แถมคุณพ่อคุณแม่เขาน่ารักกับฉันมากๆ ด้วย “ไปดูบ้านกันนะ” “หื้อ บ้านอะไรคะ ?” ฉันขมวดคิ้วเป็นปมอย่างแปลกใจ จู่ๆ มังกรก็พูดบอกว่าจะไปดูบ้านใครบ้างจะไม่งง “บ้านของเราไง ^_^” “คุณจะซื้อบ้านเหรอคะ ?” “ไม่ใช่จะซื้อ แต่ฉันซื้อแล้วต่างหาก” มังกรยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เขาดูมีความสุขมาก ส่วนฉันก็ไม่ต่างอะไรกับเขาหรอก มันจริงอยู่ที่ฉันไม่สามารถลืมเรื่องราวในวันนั้นได้ แต่วันนี้เขาทำให้ฉันมีความสุข ทุกอย่างที่ผ่านมามันคืออดีต เราเริ่มต้นใหม่กันได้ — คฤหาสน์หลังใหญ่ นั่งรถมาไม่นานมังกรก็พาฉันเลี้ยวเข้ามาในรัวของคฤหาสน์หรูหลังใหญ่ นี่เหรอที่เขาเรียกว่าบ้าน นี่มันวังชัดๆ มองดูด้วยตาเปล่าฉันไม่สามารถประเมินราคาคฤหาสน์หลังนี้ได้เลยเพราะมันใหญ่โตมากจริงๆ “ชอบไหม ?” มังกรหันมาถามฉันพร้อมกับเอามือมากอดเอวฉัน ตอนนี้เรากำลังยืนอยู่หน้าคฤหาสน์“ชอบสิคะ ของฟรีใครจะไม่ชอบ ^_^”“ใครบอกว่าฟรี เธอต้องเอาตัวมาขั
วันต่อมา.... “วันศุกร์ วันศุกร์ ตื่นสิวะเธอจะนอนกินบ้านกินเมืองไปถึงไหน” เสียงของมังกรปลุกฉัน มันไม่เหมือนที่ฉันคิดเอาไว้เลยว่าถ้าฉันให้อภัยเขาแล้ว ตื่นมาตอนเช้ามังกรเขาจะจูบลงที่หน้าผากฉันเบาๆ พร้อมกับกระซิบบอกที่ข้างหูของฉันว่า ‘อรุณสวัสดิ์ที่รัก’ บนหัวเตียงจะต้องมีนมร้อนวางไว้ให้ฉันดื่ม โอเค ฉันคงจะเพ้อฝันมากไป ตอนนี้มังกรเขย่าร่างฉันแรงๆ จนหัวฉันสั่นคลอนไปหมดเพื่อปลุกให้ฉันตื่น “อื้อ ตื่นแล้ว” ฉันบอกมังกร พร้อมกับลืมตาขึ้นมองหน้าเขา “ไปฝากครรภ์” “อื้อ” “เป็นอะไร ทำไมทำหน้าแบบนั้น” มังกรขมวดคิ้วเป็นปมถามฉัน เขาไม่รู้ตัวเลยหรือไง รู้แบบนี้ไม่ให้อภัยซะยังดีกว่า“คุณน่ะ ช่วยทำตัวอ่อนโยนกว่านี้มันจะตายหรือไง” “เธอดูหน้าฉันด้วย นี่ฉันซื้อน้ำหอมขวดละล้านเพื่อมาเอาใจเธอแบบนี้อ่อนโยนพอยัง” ฉันพ่นลมหายใจออกมาแรงๆ ฉันผิดเองที่หวังว่ามังกรเขาจะอ่อนโยนมากกว่านี้ “รู้แบบนี้ฉันไม่ให้อภัยคุณหรอก” “ทำไมเธอพูดแมวๆ แบบนี้ล่ะวันศุกร์” มังกรยืนเท้าเอวจ้องหน้าฉันตาเขม็ง “อึก อึก...” ฉันยกมือขึ้นมาปิดปากก่อนจะรีบวิ่งเข้าห้องน้ำไปอ้วก ครั้งนี้ฉันปิดประตูล็อกกลอนไม่ปล่อยให้มังกรเขาเข้ามาลูบห
ฉันเม้มปากแน่น รู้สึกว่าตัวเองกำลังใจอ่อนให้กับลูกอ้อนของมังกร เขากำลังพังกำแพงในใจของฉันได้สำเร็จ ทั้งที่ฉันลืมเรื่องที่เขาทำไม่ได้ก็จริง แต่ฉันก็อยากจะเริ่มต้นใหม่กับเขาดูอีกครั้ง... “คุณ คุณจะไม่ทำร้ายฉันอีกใช่ไหม...”ตึกตัก ตึกตัก! เสียงหัวใจดวงน้อยๆ ของฉันมันเต้นรัวขึ้นมาทันทีที่ฉันเริ่มเปิดใจรับฟังเขา “ฉันจะทำแบบนั้นไปเพื่ออะไรในเมื่อฉันรักเธอมากขนาดนี้” “อย่างคุณเชื่อได้จริงหรือเปล่า” ฉันมองมังกรอย่างชั่งใจ“ให้ฉันพิสูจน์ให้ดูไหม ?” “ยังไง ?” ฉันขมวดคิ้วเข้าหากันเป็นปม แต่มังกรเขายิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ออกมา มือหนาปล่อยมือของฉันออกจากนั้นมังกรก็ยืนขึ้นเต็มตัว เขาถอดเสื้อออกโยนทิ้งไปด้านหลังก่อนจะเลื่อนมือลงไปปลดเข็มขัดกางเกงของตัวเองออกเช่นกัน “จะทำอะไร !!” ฉันพูดเสียงดัง ทั้งที่รู้อยู่เต็มอกยังจะถามเขาอีก “อย่างเธอพูดปากเปล่าคงไม่เชื่อ ก็เลยจะให้ดูการกระทำไง...” “นี่ คุณ ฉะ ฉันท้องอยู่นะ” “จะพิสูจน์ เบาๆ” มังกรกระตุกยิ้มมุมปากก่อนที่เขาจะถอดกางเกงยีนส์ราคาแพงออก “ฉันยังไม่หายโกรธ !!”“งั้นเหรอ หื้มม” ตอนนี้ร่างกายของมังกรเหลือเพียงบ็อกเซอร์แค่ชิ้นเดียว เขาดูจะไม่สะทกสะ
ฉันเงียบและรีบเดินหนีมังกรทันทีเพราะรู้สึกว่าตอนนี้หน้าของฉันมันคงจะแดงเถือกจนผิดสังเกต “อ้าวพริ้ง พี่สิงห์ ไปไหนกันมาเมื่อวานไม่เห็นอยู่ที่บ้านเลย ?” ฉันกำลังจะเดินขึ้นไปบนห้องแต่เผอิญเจอกับพริ้งและพี่สิงห์กำลังเดินมาพอดี “ยุ่ง !!” พี่สิงห์พูดขึ้น คิดว่าฉันไม่รู้หรือไง แค่ไม่อยากจะถามอะไรให้มันวุ่นวายเฉยๆ หรอก เพราะฉันก็ไม่ใช่คนดีอะไร “พี่วันศุกร์จะกลับเมื่อไหร่คะ พริ้งอยากกลับแล้ว” พริ้งถามฉัน “เหอะ !!” พี่สิงห์สบถออกมาในลำคอเบาๆ เขาเอาลิ้นดันกระพุ้งแก้มอย่างไม่สบอารมณ์นัก“เดี๋ยวก็กลับแล้วอีกวันสองวัน....” “ไม่กลับ พวกคุณกลับไปกันได้เลยวันศุกร์จะไม่ไปไหนทั้งนั้น” ฉันพ่นลมหายใจออกมาอย่างเบื่อหน่ายเมื่อมังกรพูดขัดคำพูดของฉัน ไม่รู้ว่าเขาเดินมาได้ยินเรื่องที่ฉันกับพริ้งคุยกันตั้งแต่เมื่อไหร่ “เอ๊ะ ทำไมพี่เขาถึงได้ออกจากโรงพยาบาลเร็วนักล่ะคะ วันก่อนยังอาการหนักอยู่เลยนี่นาพริ้งจำได้” พริ้งมองมังกรแววตาเต็มไปด้วยความสงสัย “....” ฉันเงียบไม่รู้จะตอบน้องมันไปว่ายังไงดี “เธอนี่ชอบยุ่งเรื่องคนอื่นจังวะ เป็นเด็กเป็นเล็กจะสงสัยเอาอะไร” พี่สิงห์ดุพริ้งเสียงดัง “พริ้งแค่ถาม ทำไมต้องม
ฉันรีบผลักมังกรออกก่อนจะรีบวิ่งเข้าไปในห้องน้ำ เพื่อไปอ้วก ไม่รู้เป็นอะไร จู่ๆ ก็เหม็นกลิ่นตัวมังกรจนหน้ามืด “อึก อึก อ้วกกก....” ฉันนั่งกอดชักโครกและโก่งคออ้วกจนแทบจะหมดแรง จากที่ร้องไห้เมื่อกี้ฉันหยุดร้องแล้ว “วันศุกร์...” “อึก อ้วก ออกไปฉันเหม็น !!” ฉันดันมังกรให้ออกไป แต่เขากลับไม่ยอม “ฉันแค่จะลูบหลังให้ ทำไมต้องทำท่ารังเกียจขนาดนั้นด้วยวะ !!” “อึก เหม็น อ้วกกก ออกไป!!” ฉันหันไปตวาดมังกรเสียงดังลั่น ครั้งนี้มังกรยอมออกไปแต่โดยดี ฉันถอนหายใจออกมายาวๆ หน้ามืดจะเป็นลมอยู่แล้ว นี่ถ้ามังกรไม่ออกไปนะฉันต้องเป็นลมแน่ๆ หลังจากอ้วกเสร็จฉันก็เดินหน้าซีดเผือดออกมาจากห้องน้ำ ฉันทิ้งร่างกายที่ใกล้จะหมดแรงล้มนอนลงไปบนเตียงโดยไม่สนใจเลยว่ามังกรจะนอนอยู่ด้วย ตอนนี้ฉันไม่สนใจอะไรทั้งนั้น มันเหนื่อย แต่!!! ยังไม่ทันที่ฉันจะหลับตา ฉันก็ต้องรู้สึกผะอืดผะอมอยากจะอ้วกอีกแล้ว มันเหม็นกลิ่นอีตามังกรจริงๆ นะ ยิ่งอยู่ใกล้นี่ขึ้นคอเลย “ออกไปไกลๆ ได้ไหม ไปนอกห้องได้ยิ่งดีฉันบอกว่าเหม็นไม่เข้าใจหรือไง !!” “อะไรวะ ฉันคนนะไม่ใช่ถังขยะ อีกอย่างน้ำหอมฉันขวดละสามแสนเธอจะมาบอกว่ามันเหม็นได้ไง” “ถ้าคุณไม่
ฉันกลับมาที่บ้านโดยมีลูกน้องของมังกรเป็นคนขับรถมาส่งถึงบ้านแถมยังเดินตามติดฉันเข้าไปในบ้านอย่างกับเงา เพราะมังกรสั่งให้ตามฉัน“ตามมาทำไม ฉันถึงบ้านแล้วกลับไปสิ” ฉันหยุดเดินก่อนจะหันหลังไปบอกลูกน้องของมังกร “นายสั่งว่าให้ตาม....”“ถ้าฉันเข้าห้องน้ำก็ต้องตามด้วยงั้นสินะ !!” ฉันสวนกลับทันควัน “เอ่อ....”“รอที่หน้าบ้านฉันไม่หนีไปไหนหรอก” พูดจบฉันก็เดินเข้าบ้าน ส่วนลูกน้องของมังกรยังดีที่ยังเชื่อฟังไม่เดินตามฉันมาในบ้าน ฉันไม่น่าไปหลงกลคนอย่างเขาเลย ผู้ชายอะไรหลอกกันอยู่ได้ เห็นความรู้สึกของฉันเป็นของเล่นหรือไงกัน “วะ วันศุกร์จะมาทำไมไม่โทรมาบอกพี่ก่อน” พี่ไม้พอเห็นฉันกลับมาบ้านก็มีท่าทางแปลกๆ ทั้งที่เห็นน้องสาวมาน่าจะดีใจ แต่กลับทำหน้าตกใจอย่างกับเห็นฉันเป็นผีอย่างไงอย่างงั้น “จะมาบ้านตัวเองต้องโทรรายงานด้วยหรือไง พี่ไม้โกหกวันศุกร์แบบนี้ได้ยังไง ทำไมต้องช่วยคนแบบนั้นพี่ไม้ก็รู้ว่า....” เสียงของฉันกลืนหายเขาไปในลำคอทันทีเมื่อเห็นผู้หญิงที่เดินมาหยุดด้านหลังของพี่ไม้ มันคงไม่ใช่เรื่องแปลกและเรื่องใหญ่ถ้าพี่ชายของฉันจะพาผู้หญิงเข้ามาในบ้าน แต่ผู้หญิงคนนั่นคือ.....ภรรยาเก่าของมังกร“
มังกรเบิกตากว้างก่อนจะก้มมองที่ขาของตัวเอง เหมือนว่าเขาลืมตัว“อ่ะ เอ่อ คือฉัน แบบว่ามัน มันไม่ใช่แบบนั้น...” เขาพูดโดยที่ไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมาสบตากับฉันเลย “ไม่ใช่แบบนั้นงั้นเหรอ แล้วที่คุณเดินลงมาจากเตียงมันคืออะไร เพิ่งเดินได้งั้นสิ !!”“วันศุกร์ฉันมีเหตุผล ถ้าฉันไม่....”เพียะ!! ไม่รอฟังเขาพูดจบ ฉันฟาดฝ่ามือใส่หน้าของมังกรเต็มแรงจนหน้าเขาหันไปตามแรงตบของฉัน เขาเอาความรู้สึกของฉันมาล้อเล่นแบบนี้ได้ยังไง ฉันเป็นห่วงเขามากขนาดไหน มันคงเป็นเรื่องสนุกสำหรับเขาสินะ “อย่ามายุ่งกับฉันอีก !!” พรึบ!! ฉันผลักแผงอกแกร่งของมังกรออกจากตัว เหมือนเขากำลังเหม่อเลยทำให้มือที่จับแขนฉันอยู่หลุดออกไปตามแรงผลักของฉันด้วย “เธอนั่นแหละอย่ายุ่งกับมัน ถ้าเธอออกไปกับมันฉันจะสั่งให้ลูกน้องเก็บมันทันที ถ้าไม่เชื่อเธอก็ลองท้าทายฉันดูสิวันศุกร์”“มังกร คุณไม่มีสิทธิ์มา อื้อ...” จู่ๆ มังกรก็ยกมือขึ้นมาประคองใบหน้าของฉันเอาไว้ ก่อนที่เขาจะโน้มใบหน้าลงมาประกบริมฝีปากจูบฉันโดยที่ฉันยังไม่ทันได้ตั้งตัว “อื้อ อื้ออออ” ฉันใช้มือทุบไปที่กลางแผงอกแกร่งของมังกรรัวๆ แต่เขาดูไม่สะทกสะท้านอะไรเลยสักนิด เขามาจูบฉันโช