ตอนที่ 11/1นันนลินทร์ทำงานอยู่ในห้องอาหารของโรงแรมเริ่มคึกคักในช่วงเวลาเช้า หญิงสาวใส่ชุดยูนิฟอร์มพนักงานแต่เดิมเคยใส่พอดีตัว ทว่าช่วงหลังมานี้หล่อนเริ่มไม่มั่นใจในชุดที่สั่งตัดให้พนักงานแต่ละคนโดยเฉพาะแม้หน้าตาจะดูสดใส แต่พอคิดถึงเรื่องนี้แล้วก็เริ่มมีความรู้สึกไม่สบายใจซ่อนอยู่ สายตาของหล่อนมองไปที่โต๊ะที่เต็มไปด้วยแขก เสียงหัวเราะและบทสนทนาอันแสนคึกคักคลอไปกับกลิ่นอาหารหอม ๆ ที่อบอวลอยู่ในอากาศหล่อนยังยืนนิ่งอยู่ตรงหน้าเคาท์เตอร์ระหว่างรอแขกท่านอื่นมาเช็ครายชื่อทานอาหารเช้า วันนี้หล่อนทำหน้าที่เป็นโฮสเตสสาวเอง ขณะนั้นก็มีคนคุ้นหน้าเดินเข้ามาทักทาย“สวัสดีจ้าหนิง เหมือนเราจะไม่ค่อยได้เจอกันเลยนะช่วงนี้ ได้ข่าวว่าลาป่วยบ่อย เป็นยังไงบ้างจ๊ะ? เอ๊ะ... แล้วทำไมวันนี้ดูเหม่อ ๆ ยังไม่ดีขึ้นเลยเหรอ?”เป็นตีตี้ ผู้จัดการแผนกต้อนรับที่เข้ามาทักทายกันแต่เช้า ช่วงนี้ชั้นล่างคงยังไม่วุ่นวายกันเนื่องจากแขกส่วนมากจะอยู่ด้านบนห้องอาหารเสียมากกว่า เจ้ตีตี้ถึงได้มีเวลาขึ้นลิฟต์มาดูความเรียบร้อย“หน้าซีดนะแก มีอะไรไม่สบายใจหรือเปล่า?” เจ้ตีตี้ถามอีกครั้งด้วยความเป็นห่วง“ไม่มีอะไรค่ะ เจ้ตี้ อาจจะเ
ตอนที่ 11/2ความวุ่นวายของตึกธนไทยเกษม ในช่วงบ่ายวันนี้ดูแตกต่างจากหลายวันที่ผ่านมา เนื่องจากมีการเรียกประชุมทีมบอร์ดบริหารกันตั้งแต่เช้ายันบ่าย ธาฎาเห็นข่าวตัวเองตามสื่อต่างๆ บ้างแล้ว ผู้ใหญ่หลายท่านในทีมบริหารคงต้องการอยากจะฟังจากปากของเขามากกว่าสื่อ“โปรเจคฯ โรงแรมทางภาคใต้ผมคิดว่าจะเร่งดำเนินการให้เสร็จทันงานแต่งของคุณธาฎา เพื่อเป็นความสบายใจของพวกเราทุกคน ผมยินดีรับผิดชอบโปรเจคฯ นี้แทนคุณธาฎา” หนึ่งในผู้บริหารผู้ทรงคุณวุฒิกล่าวด้วยสีหน้าสร้างความเชื่อมั่น“ดิฉันก็คิดว่าดีนะคะ ให้ท่านศิระที่เป็นถึงผู้อำนวยการฝ่ายดำเนินงานโดยตรงน่าจะเวิร์คกว่า คุณธาฎาเองก็จะได้มีเวลาเตรียมตัวเป็นว่าที่เจ้าบ่าวด้วย”“ขอบคุณครับคุณศิระ คุณศร แต่ผมคิดว่าตอนนี้ผมยังสามารถรับผิดชอบส่วนนี้ได้อยู่” เขาเข้าใจว่าทุกคนต่างหวังดี ทว่าตรงกันข้ามเขาอยากจะทำตัวให้ยุ่งมากกว่านี้อีก ยังไม่ได้คิดเตรียมตัวเรื่องงานแต่งแม้แต่น้อย“ไม่ได้หรอกนะครับคุณธาฎา เมื่อเช้าคุณหญิงบุษบาต่อสายหาผมโดยตรงเรื่องนี้ ไม่ต้องเกรงใจหรอกครับ ผมเต็มใจรับผิดชอบแทนอยู่แล้ว ขอให้คุณสบายใจเถอะ”ที่แท้ก็เป็นเพราะแม่เขาสั่งมา รายนั้นคงอยากจะจั
ตอนที่ 11/3ในช่วงที่ยังเคลียร์งานอยู่ในห้องตรวจอยู่ แพรไหมยังคงมุ่งมั่นกับงานวิจัยที่ตนเองรับผิดชอบอยู่ในตอนนี้ หล่อนยอมรับว่าบ้างาน แต่ทั้งหมดที่ทำอยู่ก็เพื่อจะได้เคลียร์คิวว่างให้ทันงานแต่ง“ยัยแพร ไม่กลับบ้านกลับช่องเหรอ?” เข็มมนิสเพื่อนสนิทของหล่อนเดินเข้ามาหา หล่อนผละใบหน้าออกมาจากกล้องจุลทรรศน์ที่กำลังส่องอยู่ ก่อนจะโต้ตอบสนทนนากับเพื่อนสนิท“แกล่ะ ทำไมยังไม่กลับอีก” เข็มมนิสถอดเสื้อกาวน์ออกแล้ว ทว่าจนป่านนี้ยังไม่กลับถึงที่พักอีก“ก็เห็นพยาบาลหน้าห้องบอกว่าแกเอาแต่ยุ่งอยู่ในห้องนี้ ก็เลยเดินเข้ามาดูสักหน่อย”ร่างระหงเดินเข้ามาหาเพื่อน เข็มมนิสมองดูผลงานที่แพรไหมกำลังซุ่มทำอยู่ ดูผ่านๆ ตาแล้วก็พอจะทราบว่าเป็นงานวิจัยของท่านอาจารย์ธีรเชษ ซึ่งเป็นผู้กอำนวยการฝ่ายงานวิจัยของทางโรงพยาบาล“ขยันจังนะ แกจะทำไปเพื่ออะไรวะ?”“ก็ฉันรักงานของฉัน ที่ทำอยู่ก็ไม่ใช่ว่าเดือดร้อนอะไร แต่ฉันแค่ชอบทำงานแกก็รู้”“ได้ข่าวว่าจะแต่งงานแล้วนี่ แกยังจะทำตัวให้ยุ่งอีกทำไม?” เข็มมนิสนั่งดูข่าวในทีวีแล้วตั้งแต่งานเลี้ยง หล่อนรู้สึกดีใจที่เพื่อนสนิทกำลังจะเป็นฝั่งเป็นฝาเสียที แต่ในขณะเดียวกันภายในใจของหล่
ตอนที่ 12/1หลังเลิกงานวันนี้เรืองฤทธิ์ไม่พลาดที่จะไปรับนันนลินทร์จากที่ทำงาน เขาใช้เวลาพาหล่อนมาถึงที่หมายไม่นานนักก่อนที่จะเห็นว่ามีใครบางคนยืนรออยู่ที่หน้าคอนโดมิเนี่ยมขณะที่รถยังไม่หยุดการเคลื่อนที่ แต่ก็ยังขับช้าๆ เพื่อหาที่จอด เรืองฤทธิ์เห็นธาฎายืนจ้องรถเขามาแต่ไกล ความที่สงสัยว่าทำไมวันนี้ธาฎาถึงได้เลิกงานเร็วนัก ทั้ง ๆ ที่เขาจำได้ว่าเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้านี้เป็นเขาเองที่ออกมาจากบริษัทก่อนเจ้านายตัวเองเสียอีกกระทั่งรถหยุดแน่นิ่ง ธาฎารีบลงมาจากรถแล้วเดินไปยังฝั่งผู้โดยสาร ก่อนที่เขาจะเปิดประตูรถให้นันนลินทร์ลงมาธาฎาเดินเข้ามาใกล้หลังจากที่นันนลินทร์เหยียบพื้นแล้ว เขาเอื้อมไปรับกระเป๋าสะพายของหล่อนมาถือไว้ ท่ามกลางความแปลกใจของเรืองฤทธิ์“มีอะไรหรือเปล่าครับ?” เรืองฤทธิ์ซิบถามเจ้านาย“นายทำดีมาก กลับไปพักผ่อนเถอะ ขอบใจ”“ครับ?”อะไรของเขา... นั่นคือคำถามเดียวที่อยู่ในหัว แต่ก็พูดอะไรต่อไม่ได้ เมื่อเจ้านายตัดบทมาแล้ว หน้าที่ของเขาจบลงเพียงเท่านี้ ก่อนจะบอกลานันนลินทร์ เดินไปที่รถตัวเองแล้วขับออกไปเลยเมื่อทั้งคู่ขึ้นมาบนเพนท์เฮ้าส์ธาฎาไม่ได้พูดอะไรมาก เขาแค่ถือกระเป๋าของนัน
ตอนที่ 12/2ใบหน้าสวยห่างกันกับคนเมาเพียงแค่คืบ หากไม่มีมือที่แข็งแรงของเขาค้ำยืนเอาไว้ หล่อนคงได้ล้มหัวคะมำลงใส่หน้าเขาเป็นแน่แล้วโชคชะตาก็ดันมาสร้างจังหวะลงตัวให้พวกเขาทั้งคู่ได้อีก ธาฎาไล่มองกรอบหน้าของคนด้านบนที่ยังคร่อมตัวมองเขาเช่นกัน แม้ในเงามืดสลัวจะเห็นเสี้ยวหน้าเพียงแค่นิด แต่กลับทำให้ใจสั่นไหวเขาอยากจะจ้องใบหน้านี้ให้นานจนกว่าจะเบื่อ แต่ทุกครั้งก็เคยแอบถามตนเองอยู่ในใจว่าหากเขาเบื่อหล่อนขึ้นมาจริงๆ วันนั้นเขากับหล่อนจะใช้ชีวิตแบบไหนกันต่อเมื่อนึกย้อนกลับไปถึงสิ่งที่เป็นมา มันยิ่งพาลทำเอาเขาหงุดหงิดใจ หากนันนลินทร์จะไปจากเขาวันไหน หล่อนจะไม่มีทางสบายได้เท่านี้ เชื่อเถอะว่าคนอย่างหล่อนเห็นแก่เงินมากกว่าศักดิ์ศรีของตนเอง ต่อให้เขาจะยื่นเงื่อนไขยอมรับเพียงเลือดเนื้อเชื้อไขของตนเองไปแล้ว พอถึงคราจะจากไปจริงๆ นั้น ทว่าตัวประกันหล่อนยังอยู่ในการปกครองของเขา หล่อนจะไม่มีทางไปไหนทั้งนั้นยิงปืนทีเดียวได้นกสองตัว หล่อนจะยังปรนนิบัติเขาได้อีกนาน“ปล่อยค่ะ” นันนลินทร์พยายามบิดตัวเองออกจากเอื้อมมือของเขามาหนารั้งเอวหล่อนเอาไว้ข้างเดียว ส่วนอีกข้างจับค้ำยันไหล่บางเอาไว้ไม่นิ่งเฉย เขา
ตอนที่ 12/3หลายวันถัดมานันนลินทร์ยังคงใช้ชีวิตอย่างเดิมทุกอย่าง ตอนเช้าหล่อนจะมีสารถีอย่างเรืองฤทธิ์เป็นคนขับรถมาส่ง ส่วนตอนเย็นหล่อนก็จะมายืนรอคอยเขาที่หน้าโรงแรม เป็นแบบนี้มาตลอดเกือบ 2 สัปดาห์ได้ จนกระทั่งเริ่มมีคำพูดหนาหูขึ้นมาเกี่ยวกับเรื่องคนที่คอยมารับมาส่งหล่อนเช้าเย็น“สวัสดีจ้าคนสวย” ประดับดาวและมาลิกาเดินเข้ามาในห้องน้ำหญิง ขณะที่นันนลินทร์กำลังจะเปลี่ยนชุดยูนิฟอร์มเพื่อเตรียมเข้างานนันนลินทร์ทักทายตอบเพื่อนร่วมงานทั้งสอง ขณะที่เริ่มจัดการความเรียบร้อยเสื้อผ้าหน้าผมตนเองไปด้วยในขณะยังส่องกระจกอยู่ หล่อนเหลือบหางตาไปมองอีกสองคนที่ยืนอยู่ด้านข้าง สองคนนั้นยังคงยืนอยู่เหมือนอยากจะพูดอะไรบางอย่าง“มีอะไรหรือเปล่าคะ พี่ดาว พี่แหม่ม” หล่อนอึดอัดเมื่อสายตาความอยากรู้อยากเห็นของผู้หญิงสองคนที่ในโรงแรมนี้มองจนกระทั่งเมื่อหล่อนที่เป็นเจ้าของเรื่องเอ่ยปากทักถามขึ้น มีหรือที่คนอยากรู้จะปฏิเสธโอกาส“นี่... อย่าว่าพี่อย่างงั้นอย่างงี้เลยนะหนิง คือพี่เห็นช่วงนี้มีคนคอยมารับมาส่งหนิงถึงที่ทำงานอ่ะ ไอ้เราก็เป็นห่วง อยากรู้ว่าผู้ชายคนนั้นเขาเป็นใครกัน จริงจังกับน้องพี่แค่ไหน แค่นั้นเองน
ตอนที่ 13/1เสียงอาเจียนของนันนลินทร์ดังอยู่ในห้องเก็บของเล็กๆ จนทำให้ทุกคนที่อยู่ในห้องต่างตกใจไปตามๆ กัน ปานชีวาก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วเมื่อเห็นรุ่นพี่สาวสวยกำลังทรุดลงไปอีกครั้งหลังจากที่อาเจียนเสร็จ หล่อนรีบเข้าไปประคองร่างบางอย่างไม่คิดชีวิตความห่วงใยล้นทะลักจนไม่ทันจะพิจารณาว่าในตอนนี้นันนลินทร์อาจจะไม่ได้ต้องการความช่วยเหลือจากหล่อนเท่าไรนัก“พี่หนิง... ทำใจดีๆ นะคะ” ปานชีวาพูดเสียงสั่น รู้สึกเหมือนโลกทั้งใบกำลังหมุนรอบตัวเอง“เมื่อเช้าได้ทานอาหารไหมคะ หรือช่วงนี้พักผ่อนน้อย” คนที่มาปฐมพยาบาลให้เบื้องต้นสันนิษฐานความเป็นไปได้ของอาการทันทีที่เห็นอาการของนันนลินทร์ ธีรยุทธที่ยืนอยู่ข้างๆ รีบตัดสินใจและสั่งให้รีบนำตัวนันนลินทร์ส่งโรงพยาบาลโดยเร็วที่สุด“หนิง ไปโรงพยาบาลนะ มา เดี๋ยวพี่ช่วยพยุง” ธีรยุทธเข้ามาคลึงที่บ่าอย่างเบามือ ก่อนที่เขาจะประคองหญิงสาวออกไปจากห้องปานชีวารีบช่วยยกตัวของนันนลินทร์ให้อีกข้าง ขณะที่ทีมปฐมพยาบาลกำลังก็กำลังโทรประสานงานกับทางรถโรงพยาบาล นานนับนาทีจนกระทั่งตัวนันนลินทร์มาถึงที่ปลอดภัยด้วยความทุลักทุเลโชคดีที่อย่างน้อยๆ พนักงานโรงแรมทุกคนมีสวัสดิก
ตอนที่ 13/2“แล้วอาการของหนิง... จะต้องรักษายังไงครับ?” ธีรยุทธถามอย่างรวดเร็ว โดยที่ยังไม่สามารถซ่อนความกังวลที่แสดงออกมาผ่านใบหน้าของเขาได้“คุณเป็นสามีของคนไข้ใช่ไหมครับ?”“เปล่าครับ”“การรักษาจะขึ้นอยู่กับขนาดและลักษณะของเนื้องอกครับ สำหรับบางกรณีอาจจะต้องทำการผ่าตัดออก หรือในกรณีที่เล็กและไม่ส่งผลกระทบต่อการทำงานของร่างกาย อาจจะใช้วิธีการดูแลอาการเพียงอย่างเดียวเพื่อไม่ให้เนื้องอกขยายตัว จนกว่าจะหลังคลอด หมอถึงอยากให้พิจารณาเรื่องผ่าตัดครับ” หมออธิบายสั้นๆขณะที่ทุกคนพยายามรับฟังคำตอบจากหมอ และพยายามประเมินสถานการณ์ที่เกิดขึ้น นันนลินทร์ก็ได้แต่กอดท้องตัวเองแน่น เหมือนจะหาแรงใจจากเจ้าตัวน้อยที่อยู่ในท้อง แม้ตอนนี้ร่างกายจะเจ็บปวด และเต็มไปด้วยความกลัว แต่ลูก... ที่หล่อนรักมากที่สุดในโลก ยังคงเป็นแรงขับเคลื่อนที่ทำให้หล่อนต่อสู้กับความกลัวทั้งหมดนี้ได้“พี่หนิง…” ปานชีวาเอ่ยเรียกเสียงเบา เมื่อเห็นรุ่นพี่สาวยังกอดท้องแน่นเหมือนจะทำให้ทุกอย่างดีขึ้น คำถามมากมายในหัวมันส่ออกมาทางแววตาจนนันนลินทร์รู้สึกได้“ใช่... พี่ท้อง ปลา พี่ยุทธ หนิงท้องค่ะ” เสียงแหบพร่าสั่นเครือพยายามเปล่งออกมา
The end6 เดือนต่อมาบรรยากาศที่ต่างจังหวัดแห่งหนึ่งของไทย ที่เขาใหญ่ในช่วงฤดูหนาวเต็มไปด้วยความงดงาม บ้านพักตากอากาศของคุณย่าของธาฎาที่ตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติถูกจัดตกแต่งด้วยดอกไม้สดหลากสีสัน เต็มไปด้วยความอบอุ่นและโรแมนติกสำหรับงานแต่งงานธาฎาในชุดสูทสีขาว เดินตรวจดูความเรียบร้อยของงานด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความพอใจและความสุขทุกอย่างต้องสมบูรณ์แบบสำหรับวันนี้ เพราะวันนี้ไม่ใช่แค่วันแต่งงานของเขา แต่เป็นวันที่เขาได้เริ่มต้นชีวิตใหม่กับผู้หญิงที่เขารักที่สุดนันนลินทร์ยืนอยู่ในห้องแต่งตัว สวมชุดเจ้าสาวสีขาวเรียบหรูที่มีลูกไม้ประดับอย่างประณีต หล่อนหันมองตัวเองในกระจก มือแตะท้องเบาๆ ราวกับย้ำกับตัวเองว่าทุกอย่างที่ผ่านมาคือเรื่องจริงนางนิรณียืนอยู่ข้างๆ คอยช่วยจัดชายกระโปรงและให้กำลังใจลูกสาว “แม่ภูมิใจในตัวหนิงนะลูก วันนี้ลูกดูสวยที่สุดเลย”นันนลินทร์หันมายิ้ม “ขอบคุณนะคะแม่ ถ้าไม่มีแม่ หนิงคงไม่มีวันนี้”เสียงเคาะประตูดังขึ้น ก่อนที่คุณเยาว์และสุชาฎาจะเดินเข้ามา พร้อมกับหยุดมองหล่อนราวกับตกตะลึงในความงาม พวกเธอเดินเข้ามาใกล้ ยื่นมือออกไปจับมือหล่อนเบาๆ“คุณหนิง…สวยมากเลยค่ะ” นันน
ตอนที่ 32/31 สัปดาห์ถัดมา นางนิรณีมาอยู่ดูแลลูกสาวในช่วงเช้า สัปดาห์ที่ผ่านมาเธอรู้ว่าธาฎาแวะเวียนมาทำคะแนนกับนันนลินทร์ลูกสาวเธอแบบไม่ว่างเว้นเธอเองก็ยอมเปิดทางให้ ถึงได้ไม่ค่อยแวะมาหาลูกสาวที่โรงพยาบาล จนกระทั่งวันนี้มีคำสั่งจากหมอเจ้าของไข้แล้วว่าอาการของนันนลินทร์นั้นดีขึ้นมากแล้ว และสามารถออกจากโรงพยาบาลไปได้ส่วนหลังจากนี้นันนลินทร์อาจจะยังต้องใช้ไม้เท้าเพื่อพยุงตัวไปก่อน จนกว่าอาการจะหายเป็นปกตินางนิรณีนั่งลงข้างเตียง มองสำรวจใบหน้าลูกสาวอย่างพิจารณา “ดูดีขึ้นเยอะเลยนะลูก ดีใจไหมจะได้ออกจากโรงบาลแล้วนะ”คำถามนั้นทำให้นันนลินทร์ชะงัก หล่อนหลุบตาลงมองมือที่วางอยู่บนตัก “ดีใจสิคะแม่”“ดีแล้ว แม่อย่กจะให้หนิงดู ว่าบ้านที่แม่ซื้อไว้ที่นี่นั้นสวยมากแค่ไหน ถ้าหากเราฟ้องศาลชนะ...อัญญามาอยู่ที่นี่กับเรา แม่จะทำห้องสวยๆ ให้อัญญา”นางนิรณีพูดแฝงไปด้วยเลสนัย เธออยากรู้ตอนนี้ในใจของลูกสาวตนเองจะคิดเห็นเช่นไร กับเรื่องที่เคยอยากจะทำ “ธาฎาจะได้รับกรรม เหมือที่หนูเคยบอก” เธอพูดขยี้ให้ลูกสาวได้รู้สึกตัวไปอีก“แม่คะ...คือหนิง”“ว่าไงล่ะลูก? แม่น่ะคุยกับคุณนนท์เขาแล้วนะลูก”คำพูดของผู้เป็นแม่
ตอนที่ 32/2 หล่อนหลุบตามองพื้นอย่างครุ่นคิด ภายในใจมีทั้งความลังเลและความหวังที่แทรกเข้ามาในเสี้ยววินาที“ฉัน...ฉันยังตอบคุณไม่ได้ตอนนี้หรอก” นันนลินทร์พูดเสียงเบา “ทุกอย่างมันต้องใช้เวลา คุณเองก็ทำตัวดีๆ ก็แล้วกัน”ธาฎายิ้มบางๆ ก่อนจะพยักหน้า เขาดีใจไม่ใช่น้อยเมื่อได้ยินอีกฝ่ายพูดแบบนั้น นันนลินทร์พูดราวกับว่าหล่อนกำลังบอกกลายๆ ว่าหล่อนให้โอกาสเขาแล้ว“เมื่อกี้เธอหมายความว่าไง?” ร่างสูงผละจากเปลนอนลูกน้อยเมื่อเห็นว่าลูกหลับสนิทแล้ว เขาเดินเข้ามาใกล้คนป่วยบนเตียง นันนลินทร์แอบถอนหายใจ รู้สึกเหมือนกำลังเดินเข้าสู่เขาวงกตแห่งความรู้สึกอีกครั้ง“ก็ตามที่พูด...คุณเข้าใจยากตรงไหน?” “ไม่...หนิง ฉันฟังไม่ผิดใช่ไหม? เธอให้โอกาสฉันแล้ว” “ให้โอกาสแล้ว แต่ไม่ได้หมายความว่าจะทำยังไงกับฉันเหมือนเดิมก็ได้”“ผมจะไม่ทำให้เธอผิดหวัง...ทั้งเธอและลูก”แม้คำพูดของเขาจะดูมั่นคง แต่นันนลินทร์ยังไม่กล้าปล่อยให้ตัวเองหวังมากเกินไป หล่อนเพียงมองเขาด้วยสายตาที่อ่อนลงเล็กน้อย แล้วค่อยๆ ขยับตัวลุกขึ้นจากเตียง ก่อนจะพยายามคว้าเอาไม้เท้าที่อยู่ไม่ไกลนัก เพื่อหวังจะทาง ทว่าหล่อนกลับคว้ามันไม่ถึง จนทำให้เขาต้อง
ตอนที่ 32/1เวลาผ่านไปจนถึงเที่ยงวัน ธาฎาป้อนอาหารลูกอีกครั้งจนอิ่ม โชคดีจริงๆ ที่เตรียมทั้งของใช้และอาหารมาพร้อมทุกอย่าง อัญญาจึงไม่งอแง คุณพ่อมือใหม่จัดการประกอบเปลนอนแบบพกพาสำหรับเด็กขึ้นภายในห้องพักผู้ป่วย เขามุ่งมั่นทำมันด้วยความจริงจัง ขณะเดียวกันที่เจ้าของเปลนอนตัวจริงก็เริ่มตาเยิ้มลงมาก เป็นสัญญาณว่าอัญญานั้นง่วงเต็มที่แล้ว การกระทำของธาฎานั้นอยู่ในสายตาของคนที่กำลังกล่อมลูกนอนบนตัก หล่อนไม่คาดคิดว่าจะมาถึงจุดนี้ได้ จุดที่พ่อของลูกมีความใส่ใจและทำทุกอย่างให้ลูกได้มากมาย ทั้งที่หน้าที่แบบนี้ส่วนมากจะเป็นแม่ของลูกทำซะส่วนใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นครอบครัวไหนก็ตามแต่ สายตาคู่สวยมองเขาด้วยความรู้สึกหลากหลาย หล่อนยังจำภาพในอดีตของผู้ชายคนนี้ได้ดี ภาพของเขาที่เย็นชา ดื้อรั้น และไม่เคยแยแสต่อคำขอร้องใดๆ ของหล่อน แต่ตอนนี้เขาเปลี่ยนไปมากจนขนลุก“คุณทำเองเป็นหมดเลยเหรอ?” หล่อนถามขึ้นในขณะที่ลูบหัวลูกสาวเบาๆ ที่หลับคาตักธาฎาที่กำลังจัดหมอนในเปลให้เรียบร้อย หยุดมือชั่วครู่ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองแม่ของลูก“ฉันเคยเสียหลักครั้งหนึ่งตอนที่เธอจากไป วันๆ ไม่ยอมไปทำงาน กินแค่เหล้า เสเพไปวันๆ เพียงแค่อย
ตอนที่ 31/3เช้าวันถัดมา แสงแดดอ่อนยามเช้าสาดส่องผ่านหน้าต่างของโรงพยาบาล ธาฎาก้าวลงจากรถพร้อมลูกสาวตัวน้อยในอ้อมแขน เขาสะพายเป้เล็ก ๆ ที่บรรจุของใช้ของอัญญาไว้เต็มแน่น หลังจากวันนี้อนุญาตให้เรืองฤทธิ์ สุชาฎา และคุณเยาว์ได้ออกไปใช้ชีวิต เที่ยวชมเมืองทะเลทรายแห่งนี้เขาใช้เวลาไม่นานนักก็เดินเข้าไปยังตึกพักฟื้นผู้ป่วยทันที อัญญาในชุดกระโปรงสีชมพูอ่อนยิ้มแย้มแจ่มใส มือเล็ก ๆ จับไหล่ของพ่อแน่น สายตาซุกซนของเธอชำเลืองมองรอบข้างด้วยความตื่นเต้น ธาฎาหันไปมองลูกสาว ยิ้มบาง ๆ ออกมา ถึงแม้ในใจเขาจะเต็มไปด้วยความกังวลเมื่อมาถึงหน้าห้องพักของนันนลินทร์ เขาหยุดยืนชั่วครู่ สูดหายใจลึกเพื่อเรียกความมั่นใจ ก่อนจะผลักประตูเข้าไปอย่างเบามือนันนลินทร์ที่เพิ่งตื่นและกำลังพยายามลุกขึ้นนั่งบนเตียงหันไปมองอย่างตกใจเมื่อเห็นเขา“คุณมาทำไมอีก...” หล่อนถามเสียงแผ่ว แต่แฝงไปด้วยความไม่พอใจเขาไม่ได้ตอบในทันที แต่วางอัญญาลงบนเตียงข้าง ๆ หล่อนลูกสาวตัวน้อยแม้จะไม่เจอหน้าแม่มานาน แต่กลับมีความรู้สึกถึงสายใยผูกพันธ์ซึ่งกันและกันอย่างเหนือความคาดหมายอัญญาโผเข้ากอดนันนลินทร์ หลังจากที่พ่อของเขาปล่อยลงใส่เตียง ใบ
ตอนที่ 31/2 น้ำตาของนันนลินทร์ไหลออกมาอย่างไม่สามารถห้ามได้ แม้จะพยายามซ่อนเร้นความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นในใจ แต่ในที่สุดทุกอย่างก็แตกออกมาเป็นน้ำตาอย่างไม่รู้ตัว “คุณกลับไปเถอะ...” นันนลินทร์พูดเสียงสั่น พยายามสะกดอารมณ์ให้ตัวเองสงบลง แต่ก็ยากเกินไป หล่อนมองดูสภาพตนเองในตอนนี้ ช่างน่าสมเพชเหลิอเกิน ไม่อยากให้อัญญาจะต้องมาเห็นสภาพแม่ตัวเองเป็นแบบนี้เลย “ทำไม?” “ก็ฉันบอกให้กลับก็คือกลับไง! พูดไม่รู้เรื่องเหรอ!?” หล่อนพูดทั้งน้ำตา พลางมองไปมาเพื่อขอความช่วยเหลือจากพยาบาลหรือใครสักคนที่อยู่แถวนี้ “ฉันไม่ได้ตั้งใจมาทำให้เธอรู้สึกแย่นะ ฉันพาลูกมาให้กำลังใจเธอ ขอแค่ฉันกับลูกได้...” “ฮึกกก! กลับไป! อย่าพาลูกมาลำบากที่นี่” “ไม่...หนิง คือฉัน” “คุณพยาบาลคะ! ช่วยด้วยค่ะ!” เสียงเรียกของนันนลินทร์ดึงความสนใจจากพยาบาลที่อยู่ใกล้เคียงและรีบเดินเข้ามาด้วยท่าทางเป็นห่วง “มีอะไรให้ช่วยคะ คุณหนิง?” พยาบาลสาวต่างชาติถามด้วยน้ำเสียงสุภาพ แต่แววตาแสดงความกังวลกับกลุ่มคนไทยตรงหน้าที่กำลังยืนคุยอยู่กับคนไข้ แม้ว่าจะฟังภาษาไทยไม่ออก ทว่าตามความรู้สึกของพยาบาลแล้ว พวกเขาน่าจะพูดยางอย่างให้กระทบกระเท
ตอนที่ 31/1เมื่อเครื่องบินลงจอดถึงปลายทาง ธาฎาก็รีบออกจากสนามบินพร้อมกับลูกน้อยและผู้ติดตาม เขาเอื้อมมือไปรับเจ้าตัวน้อยมาจากอ้อมกอดของพี่เลี้ยง ก่อนจะพากันเดินเข้ายังตัวสนามบินหลังจากที่มาถึงโรงพยาบาล ธาฎาก้าวออกจากรถด้วยท่าทางที่สงบ แม้ในใจจะเต็มไปด้วยความวิตกกังวล เขามองไปที่ตัวอาคารที่คุ้นเคย ซึ่งยังคงดูสงบเงียบเหมือนครั้งก่อนที่เขาเคยมาเยือน ตอนนี้เขาต้องเผชิญหน้ากับความจริงที่ซับซ้อน และเขาต้องการความเข้าใจจากนันนลินทร์มากมี่สุดสุชาฎาหันมามองเขาก่อนจะกล่าวด้วยเสียงเบา “ว่านตื่นเต้นจังเลยค่ะ เราจะได้เจอคุณหนิงแล้ว” เมื่อเข้าไปถึงแผนกกายภาพบำบัด ธาฎาก็พบนันนลินทร์กำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้วิลแชร์ ขณะที่ข้างกายยังมีนักกายภาพบำบัดคอยช่วยเหลืออยู่ไม่ห่างใบหน้าของเธอยังดูซีดเซียวและอ่อนล้า แต่ ที่เขากำลังอุ้มลูกเดินเข้าไปใกล้ เหมือนหล่อนจะรู้ตัว ก่อนจะชะเง้อชายตามาหาเขานันนลินทร์เงยหน้าขึ้นมองธาฎา ดวงตาของหล่อน ดูเปล่งประกายขึ้นมา เมื่อมองเห็นเจ้าตัวน้อย ที่ธาดากำลังอุ้มอยู่“คุณหนิง//คุณหนิง...” เสียงของสุชาดาและคุณเยาว์เอ่ยขึ้นพร้อมกันขณะที่เดินมาตามหลังธาฎา พวกเธอมองเห็นนันนลินทร
ตอนที่ 30/3 เสียงเครื่องบินส่วนตัวที่แตะพื้นรันเวย์นำธาฎา ชายหนุ่มไฮโซนักธุรกิจหมื่นล้านกลับประเทศไทยอย่างเร่งด่วน สีหน้าของเขาเคร่งขรึมขณะก้าวลงจากเครื่อง เรืองฤทธิ์ยืนรออยู่ด้านล่าง ขณะที่เขาก้มหน้ามองนาฬิกาบนข้อมือ“รถพร้อมแล้วครับ” เรืองฤทธิ์รายงานธาฎาเพียงพยักหน้า สายตาเหยียดตรงไปยังเป้าหมายในใจ ก่อนที่เขาจะถามน้ำเสียงเย็นเยียบ“ถ้าไม่ติดว่าคู่ค้าอยากจะเซ็นสัญฐาเลยนะ จ้างให้ฉันก็ไม่กลับมาง่ายๆ หรอก”“ใจเย็นๆ ก่อนครับนาย คุณนันนลินทน์เธอคงไม่หายไปไหนหรอกครับ กลับไทยมาก็ดีนะครับผมว่า ป่านนี้คุณหนูอัญญาคงเหงาแย่แล้ว” “จริงสินะ ลูกสาวของฉันคงจะคิดถึงฉันมากแน่เลย” หลังเสร็จสิ้นธุระสำคัญในบริษัท ธาฎากลับมาที่บ้านทันทีเพื่อพบลูกสาว เสียงเล็ก ๆ ดังออกมาจากห้องนั่งเล่น อัญญากำลังคลานไปมาตามพรม เล่นของเล่นชิ้นเล็ก ๆ ที่พี่เลี้ยงคอยดูแลร่างสูงเดินเข้าไปหาลูกสาว มือหนาเอื้อมช้อนร่างเล็กขึ้นมาเบา ๆ “อัญญา...”เด็กน้อยช้อนสายตามองพ่อ ก่อนจะยิ้มแฉ่งอย่างไร้เดียงสา พร้อมเอื้อมมือแตะใบหน้าของเขา“ป๊ะๆ...” อัญญาออกเสียงได้ไม่ชัด แต่เพียงคำเดียวก็ทำให้หัวใจของธาฎาพองโต“ป๊าคิดถึงลูกที่สุดเลยรู
ตอนที่ 30/2เรืองฤทธิ์นั่งมองหลักฐาน ที่หมอนพดลนำมาให้ สายตาของเขาเต็มไปด้วยความเคร่งเครียดและความสงสัยที่เพิ่มขึ้นทุกขณะ“นี่คือหลักฐานที่ยืนยันได้ว่าแพรไหมเคยติดต่อผมก่อนการผ่าตัดคุณนันนลินทร์”หมอนพดลพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา แต่มั่นคง“เธอขอให้ผมทำสิ่งที่ขัดต่อจรรยาบรรณของแพทย์ โดยแลกกับเงินจำนวนมหาศาลและตำแหน่งที่สูงขึ้นในโรงพยาบาล ทั้งสองขู่เข็ญเรื่องจะปล่อยคลิปหลุดของลูกสาวผมด้วย”“แล้วทำไมคุณถึงไม่ทำ?” เรืองฤทธิ์ถาม น้ำเสียงแฝงความกังวล“เพราะผมยังมีจิตสำนึกอยู่ และโชคดีที่ผมมีหลานชายของคน ตอนแรกผมก็ไม่รู้หรอกครับ ว่าเขารู้จักกับคุณนันนลินทร์ แต่พอเขาโทรมาถาม เรื่องอาการ ป่วยต่างๆ ของคุณนันนลินทร์ ผมก็เลยตัดสินใจ ปรึกษาหลานชายของผม เพราะเห็นว่ายังไงเราสองคนก็ลงเรือเดียวกันแล้ว”หมอนพดลถอนหายใจยาวก่อนเล่าต่อ“นนทวัฒน์คือคนที่ช่วยผมวางแผนตลบหลังหมอแพร พวกเราจัดฉากว่าการผ่าตัดนั้นล้มเหลว และนันนลินทร์เสียชีวิตระหว่างการรักษา ทั้งที่จริง ๆ แล้วผมกับนนทวัฒน์ช่วยกันพาหล่อนออกจากโรงพยาบาลไปยังที่ปลอดภัย”เรืองฤทธิ์พยายามเก็บสีหน้าตัวเองเมื่อได้ยินความจริงอันน่าตกตะลึง ใจเขาเต็มไปด้วยคำถ