เขายืนยันบอกคุณลำดวน“เด็กนั่นชื่อออกฉาวโฉ่ แกจะไปสนใจทำไม มีข่าวว่าควงผู้ชายไม่เว้นแต่ละวัน พอผละจากนายธีรคาม ก็มีหนุ่มคนอื่นมาส่งถึงบ้าน แถมไปไหนมาไหนเที่ยวกันจนดึกดื่น จนชาวบ้านแถบนี้มาฟ้องบอกแม่..นี่แกยังจะพิจารณายัยเด็กนั่นอยู่อีกหรือ ตาศรา”คุณลำดวนเอ่ยพูดอย่างอ่อนอกอ่อนใจ ที่บุตรชายค้านเสียงแข็งทำท่าจะไม่เชื่อถือนางผู้เป็นแม่“แม่ผิดหวังกับแกเหลือเกิน จนไม่รู้ว่าจะตัดสินใจกับแกอย่างไรดีแล้ว” เขานิ่ง พยายามให้มารดาใจเย็น “เอาไว้ผมจะลองคุยกับน้องฟางดูสักครั้งก่อนเถอะครับ.. ผมเชื่อมั่นในตัวน้องฟาง”คุณลำดวนสะบัดหน้ากับคำร้องขอของเขา แล้วมองเมินไปทางอื่น โบกมือไล่ให้เขาออกไปก่อน “ถ้าแกจะมาพูดเรื่องนี้กับแม่ ไปทำธุระอย่างอื่นให้เสร็จก่อนเถอะ อาบน้ำอาบท่า หรือจะลงมากินข้าว ยังดีกว่าแกมาพูดกับแม่ถึงเรื่องนี้.. แม่ไม่อยากจะฟัง”นางลำดวนเอ่ยเสียงเด็ดขาดก่อนจะลุกขึ้นสะบัดตัวพรึดเดินจากไป โดยที่เขาได้ตี่มองตามผู้เป็นมารดาอย่างไม่เข้าใจเท่านั้นเมื่อก่อนท่านสนับสนุนเขากับใบฟาง แต่บัดนี้ท่าทีเปลี่ยนแปลงไป เหมือนไม่ได้นึกปลื้มเด็กสาวที่น่ารักอย่างใบฟางเข้าแล้ว.. เขาต้องพิสูจน์
“ได้โปรดเถอะ ผมขอร้อง คุณก็ไม่ได้เสียอะไร..ไม่ใช่หรือ”หล่อนหมั่นไส้เขายิ่งนัก จึงตอบ“ใครว่าฉันไม่เสีย ฉันมีแฟนแล้ว มีคนรักแล้ว ฉันอาจจะใจง่าย ตกหลุมพรางเสน่ห์ ถึงกับขนาดนอนกับเขาแล้วก็ได้.. คุณจะมาหวังอะไรกับฉันอีก”เขากลับยิ้ม ผ่านริมฝีปากนุ่มและสุขุมมากขึ้นเมื่อหล่อนเอ่ยคำนี้ อย่างน้อยก็อธิบายให้หล่อนชัดถ้อยชัดคำว่า “ผมไม่เชื่อหรอก คุณเกลียดธีรคาม ถึงขั้นขยะแขยงอย่างนั้น.. ผมคิดว่าคุณเป็นคนฉลาด ผู้หญิงอย่างคุณย่อมรู้จักปกป้องตัวเอง.. และผมก็เชื่อว่า คุณยังบริสุทธิ์”ใบฟางเงียบกับคำอธิบายพรรณนาของเขา หล่อนกำลังนึกสับสนหัวใจอีกครา“เพราะฉะนั้น ผมยืนยัน มั่นใจว่า ผู้หญิงที่หวงตัวอย่างคุณ ไม่ยอมเสียอะไรให้ผู้ชายคนไหนง่ายๆหรอก”“แล้ว คุณล่ะคะ ฉันเสียอะไรให้คุณไปหรือเปล่า”หล่อนยังอยากที่จะถามคำนั้น ก็เหตุการณ์ในวันนั้นหล่อนไม่รู้ อยู่ในสภาพที่หล่อนไม่รู้สึกตัวแล้วเมื่อได้เห็นใบหน้าที่ส่ายของเขาก็พอจะใจชื้น “ไม่ ไม่หรอก ผมไม่ได้ทำอะไรคุณฟาง..แค่อยากจะยั่วเย้าประชดเล่นสักหน่อย ที่ตอนนั้นผมกำลังอกหักจากเพิร์ล เธอขอเลิกกับผม”ทำให้หล่อนเข้าใจความรู้สึกของเขา“งั้นคุณกับคุณเพิร์
รู้สึกเขาจะยิ้มใบหน้าเปล่งใสขึ้นมาได้ จากคำนี้ของหล่อน “เอาเป็นว่า ฉันจะรับพิจารณาคุณอีกครั้งค่ะ เอาเป็นว่า ทำตัวให้ดีๆก็แล้วกันค่ะ คุณปางภู เพราะฉันเองก็ปลื้มคุณไม่น้อย”คำนี้เหมือนน้ำทิพย์หลั่งรินชโลมใจ แค่หล่อนปลื้มเขาบ้างเขาก็รู้สึกดีขึ้นมากๆทีเดียวในหัวใจ คล้ายกับคนที่คว้างหลงทางและเดินมาพบเจอปากถ้ำทางออกเขายิ้มละมุนมากขึ้นที่มุมปากได้รูปมีเสน่ห์ หล่อนชอบริมฝีปากของเขา ชอบมอง สีอมชมพู เหมือนผู้หญิง คราวนี้ยิ้มทั้งดวงตาและหัวใจออกมาทีเดียว ขยับไปอีกก้าวอย่างอาการลืมตัว เลื่อมมือเข้ารวบกอดโอบเอวหล่อน เอ่ยพร่ำสียงละล่ำละลักอย่างดีใจรัวเร็ว “ผมดีใจมากนะฟาง กับคำตอบที่คุณให้ผมมา.. ดีใจมากที่สุดเลย ต่อแต่นี้ไป ผมจะทำตัวทุกอย่างเพื่อคุณ ให้อยู่ในสายตาของคุณตลอด”“ไม่ต้องขนาดนั้นหรอกค่ะ ปางภู ขอแค่คุณเสมอต้นเสมอปลาย ฉันก็ดีใจแล้ว”เสียงหวานนุ่มดังมาจากหล่อน เป็นคำที่บอกกับตัวเองไม่ถูก รู้แต่เพียงว่า หล่อนเหมือนคลายอิสระจากสิ่งพันธนาการทั้งหมดมวลทั้งความไม่เข้าใจ ความเข้าใจผิดที่มีต่อเขา ต่อว่า ปรักปรำ เพราะจะว่าไป สิ่งที่เขาทำลงไปทั้งหมดนั้น เพราะรักหล่อนนั่นเองใบฟางย
หล่อนหันมาทางเขาเอ่ยตอบตรง“ผู้ชายนี่กลัวอย่างเดียวนะคะ กลัวสิ่งสำคัญจะหลุดลอย แต่ผู้หญิงก็กลัวเหมือนกัน กลัวจะไม่ได้ดั่งใจ แล้วเขาไม่แยแส มองผ่านเลยความสำคัญที่มอบให้เขา”“แต่ไม่ใช่คนอย่างผมนะฟาง”เขาเอ่ยท้วงหล่อนยิ้มๆ เอ่ยพูดแบบแกนๆเป็นกลางๆมากกว่า ที่จะเจาะจงว่าใคร หล่อนพูดเท่าที่ความรู้สึกของตัวเองสัมผัสได้ เขาพึมพำอีกครั้ง“ ถึงเป็นเมียขายฝาก แต่ก็ฝากอยู่ในหัวใจผมตลอดนะ ที่ต้องทำอย่างนี้ เพราะผมขอจองไว้ก่อน กลัวสารสูญเสียเกิดขึ้น ไม่อยากให้ความรักหลุดลอยไป”คำสารภาพแผ่วของเขา มุ่งด้วยความจริงจังและอารมณ์มุ่งมั่นแกมเศร้า หล่อนไม่ตำหนิเขาหรอก เพราะไม่มีช่องว่างให้ตำหนิอีกแล้วที่จริงความรักของคนเราเกิดขึ้นมันไม่มีเหตุผลเหมือนกัน อย่างที่หล่อนเกิดขึ้นกับเขาหรือแม้เขาเกิดขึ้นกับหล่อน ใบฟางตอบความจริงจากใจส่วนลึก พรหมลิขิตช่างซัดเหวี่ยง ไร้เหตุผล จู่ๆก็จับหล่อนกับเขาเป็นคู่หน้าตาเฉย สุดที่หล่อนจะต้านทานหรือกั้นกางได้ ถ้าเป็นโองการจากเบื้องสูง หล่อนหนีไม่พ้นกลรักอย่างแน่นอนถ้าท่านต้องการขีดเส้นทางรักของหล่อนให้มาบรรจบกับปางภูนอกเรื่องจากไม่มีเหตุผล ยังมีเรื่องที่ไม่น่าเป็น
“ผมไม่อยากให้ใครทราบก่อน กลัวไม่เป็นดังหวังอีก คุณแม่เองก็รู้นี่ครับ เรื่องครอบครัว ผมตั้งหวังไว้ค่อนข้างสูงทีเดียว”เพราะถ้าไม่พอใจเขาจะต้องอยู่เป็นโสดอีกต่อไป คุณตรีดารายิ้มให้ด้วยความเอื้อเอ็นดูแก่หญิงสาวคราวลูก “หนู เอ้อ หนูฟางทำงานที่ไหนกันจ้ะ”เขาชิงตอบแทนเพราะยังเห็นหญิงสาวอึกอักเป็นเพราะหล่อนเองก็คาดไม่ถึง จึงไม่ได้เตรียมตัวมาตอบคำถาม แต่ลึกๆนั้นทั้งตื่นเต้นทั้งปลื้ม ความรู้สึกก่อเกิดที่ขั้วหัวใจ ซึ่งยังเต้นสั่นระรัวขณะนี้ “ฟางทำงานเกี่ยวกับโรงแรมครับคุณแม่แถวสุขุมวิท เป็นประชาสัมพันธ์”“แล้วพ่อแม่ของหนูละจ้ะ ทำงานเกี่ยวกับอะไร”“คุณพ่อรับราชการเป็นช่างกรมโยธาธิการของสำนักผังเมืองเขตกรุงเทพ ส่วนคุณแม่เป็นพนักงานบัญชีของบริษัทเอกชนค่ะ”ใบฟางเป็นคนเอ่ยตอบท่านด้วยน้ำเสียงชัดเจนไม่เคอะเขินเหมือนหล่อนมีความมั่นใจ หลังจากที่เอ่ยตอบท่านแล้ว หล่อนรู้สึกสบายใจ ยังดีกว่าปล่อยให้ปางภูต้องพูดแทนหล่อนทุกคำ จะกลายเป็นความรู้สึกที่ไม่ดี ที่มารดาของเขาอาจจะแอบเก็บไปคิดก็ได้ ที่หล่อนทำตัวนิ่งเป็นใบ้เหมือนเย่อหยิ่งท่านยิ้มให้หล่อนอีกครั้ง อย่างพึงพอใจหลังจากที่ลองสอบถามเ
“ขอบคุณที่ยังชมว่าผมเป็นคนกล้าหาญ”ก็คนเราทำอะไรตามใจชอบ เมื่อนึกถึงสิ่งที่อยากปรารถนาและอยากให้มันเกิดขึ้นโดยเร็วเป็นความจริงนี่ ปางภูกลัวที่สุดคือ กลัวหล่อนจะหลุดลอยจากไป กว่าที่เขาจะเข้าใจกับหล่อนนั้น ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ใบฟางดื้อแพ่งและไม่ยอมรับมานานพอสมควร เขาไม่อยากให้วันคืนที่บาดหมาง กร่อยและทำลายจิตใจและความรู้สึกที่มีต่อกันไปอีก มันควรจะจบไปแล้วและเด็ดขาด เริ่มปูพื้นสมานความสัมพันธ์แบบใหม่ที่เป็นคู่รักคู่ใคร่ที่แท้จริงปางภูยอมรับว่า ค่อนข้างเหนื่อยหน่าย และเบื่อการทะเลาะกับหล่อนเช่นกัน ต่างเหมือนกับพริกกับขิงสาดใส่ความเผ็ดร้อนให้กันและกัน เพียงแต่เขาอยากจะเป็นผู้ชายที่ดีที่สุดคนหนึ่งของหล่อนปรับปรุงตัวเองใหม่ ในเมื่อในเวลานี้ค่อนข้างแน่ใจแล้วว่า ในหัวใจทั้งสี่ดวงของสาวเจ้านั้น เอนเอียงแบ่งฝ่ายมาทางเขามากโขทีเดียวที่ทราบเพราะมองจ้องดวงตาแล้วเข้าใจความหมายการที่สาวสวยไม่อิดเอี้อนหรือปฏิเสธออกไป ก็แน่ใจในความรู้สึกแล้วล่ะ ว่าหล่อนเองก็มีความคิดถึงเขาตลอดเวลาผ่านการอนาทรห่วงใยถามไถ่ถึง ไม่ต้องพูดอะไรให้มากความเมื่อภาษารักทักทายไปถึงหัวใจดวงตา เปล่งสื่ออกมาให้
เพราะดูเหมือนมีความสามารถมาก เป็นบ.ก.นิตยสารในเครือพิทยะกรุ๊ป ที่หล่อนปลื้ม ก็อยากจะเห็นหน้าคนทำหนังสือน่ารักที่ประกอบไปด้วยสาระอีกตั้งมากมายให้อ่าน เพราะหล่อนก็ยังซื้อติดบ้าน เป็นขาประจำ และเงินหรือใบเงินน้องสาวของหล่อนอ่านจนติดงอมแงม ขาดไม่ได้ทุกสัปดาห์ ปัจจุบันนิตยสารนี้เปลี่ยนจากรายปักษ์เป็นรายสัปดาห์ เพราะความนิยมและยอดขายพุ่งกระฉูดใบฟางขมวดคิ้ว มีเรื่องหนึ่งที่จะถาม “กับคุณเพิร์ลล่ะคะ ตอนนี้ไปถึงไหน ฉันไม่รู้ว่า เรื่องนี้จะลงเอยยังไงนะคะ ในเมื่อเป็นสามีภรรยากัน”เอ่ยด้วยความรู้สึกเห็นใจ เมื่อครุ่นคิดไปถึงภาพหญิงสาวที่หน้าตาอมทุกข์ ไม่แจ่มใส แม้เธอจะยิ้มแย้มแต่ก็เหมือนฝืนมากกว่า “ไม่รู้เหมือนกันครับ เรื่องนี้เป็นการตัดสินใจของเพิร์ล และอนาคต”เขาไม่อยากเอ่ยถึงสามีของหล่อนเท่าใดนัก นายเมล ซึ่งได้พบเจอหน้ากันแล้ว อุปนิสัยซึ่งภามิญาบอกแก่เขารับไม่ได้ที่เขาตะกละตะกลามในเรื่องกามารมณ์ กับภรรยาคงไม่เป็นไร แต่กับผู้ชายด้วยกันนี่สิ หล่อนถึงขนาดทนไม่ได้ถึงได้เรียกร้องให้ฟ้องหย่ากันทีเดียว และหล่อนติดต่อกับทนายความแล้ว พอดีนายเมล เดินทางมาที่ประเทศไทยพอดี คงจะตัดสินใจกับส
หล่อนจึงรอดูความเป็นสุภาพบุรุษของเขาที่เผยแผ่ออกมาอีกครั้ง เขาจะทำให้หล่อนประทับใจ หรือเซ็งก็คงจะตัดสินใจอีกรอบเพราะสถานการณ์ที่บีบบังคับเช่นนี้ ทำให้เขาต้องหาทางแก้ไขให้ได้ หล่อนก็ช่วยเหลือเขาเหมือนกัน แต่ช่วยในสิ่งที่หล่อนพอทำได้ เพราะถึงอย่างไรเมื่อหล่อนไว้วางใจเขาแล้ว เขาต้องแก้ปัญหาได้ดี สมกับความเป็นผู้นำ ในเมื่อหล่อนจะฝากตัวเองทั้งชีวิตให้กับเขา แน่นอนล่ะใบฟางแอบลุ้นจนใจสั่นตัวโก่ง หล่อนกำลังดูความสามารถและวิจารณญาณผ่านความฉลาดเฉลียวหลักแหลมของเขา“บอกมาให้ทราบซิ ว่ามันเกิดอะไรขึ้น ทำไมเราถึงได้เที่ยว แล้วทำตัวเหมือนเด็กใจแตกอย่างนี้”ใบฟางสะดุ้งนิดหนึ่ง กับคำของมารดา น้ำเสียงของท่านเย็นลึกทีเดียว หมางเมินเฉยชา ส่งแววตาตำหนิหล่อนอย่างรุนแรง เหมือนคนที่มองดูลูกสาวแล้วผิดหวังอย่างมากในการวางตัว ใบฟางอึ้งอย่างมากกับคำของมารดา แม้ว่าจะมีการเตรียมตัวเตรียมใจมาก่อนแล้วก็ตาม คำว่าใจแตกนั้นชัดเจน ปกติมารดาดุหล่อน ก็ไม่เคยดุแรงชนิดที่มองด้วยสายตาเย็นชา เหมือนกับหล่อนไม่ใช่ลูกบิดาของหล่อนก็เช่นกัน สีหน้าของท่านตึง เหมือนคนที่ระงับอารมณ์ไม่อยู่ ใบฟางพยักหน้าริมฝีปากส
ชายหนุ่มเห็นหล่อนตื่นกลัว จึงคว้าตัวรวบเข้ามาอยู่ในอ้อมกอด พร่ำเอ่ยที่ริมกกหูเบาว่า“คุณอย่าคิดอะไรมากเลยน่า ลืมซะ ลืมเสียเถอะ มันผ่านไปแล้ว ฟางจ๋า อย่างไรเสีย ชีวิตก็ถูกจัดการไปตามทางชีวิตของแต่ละคน ..ผมนั้น ถ้าไม่ใช่เพราะรักคุณมากมาย คงไม่กล้ายอมขนาดนี้หรอกนะใบฟาง”หล่อนเข้าใจเขาพูดถูก หล่อนก็ตอบแทนความรักของเขาด้วย“ต่อไปไม่มีแล้วล่ะ เมียขายฝาก สมญาที่ใช้เป็นคำพูดเล่นๆขำๆเพื่อล้อเลียนคุณ มีแต่ตำแหน่งเดียวคือเมียแต่งนายปางภู คุณจะสนใจตำแหน่งนี้ชั่วชีวิตหรือเปล่าล่ะ”คารมของพ่อหนุ่มนักเขียนทำเอาหล่อนต้องยอมรับล่ะ มิน่าถึงร้อยเรียงเขียนหนังสือได้หลากหลายยาวนาน “สนใจสิคะ”หล่อนพยักหน้า “ไม่งั้นฉันคงไม่ตัดสินใจยอมคุณหรอก” เขากลั้วยิ้มดวงตาพราวอีกครั้งกับคำตอบนี้ พึงพอใจเช่นเดิม เพราะขุมสมองมีแต่ความเพริดแพร้วทางปัญญา ชายหนุ่มเห็นหล่อนตื่นกลัว จึงคว้าตัวรวบเข้ามาอยู่ในอ้อมกอด พร่ำเอ่ยที่ริมกกหูเบาว่า“คุณอย่าคิดอะไรมากเลยน่า ลืมซะ ลืมเสียเถอะ มันผ่านไปแล้ว ฟางจ๋า อย่างไรเสีย ชีวิตก็ถูกจัดการไปตามทางชีวิตของแต่ละคน ..ผมนั้น ถ้าไม่ใช่เพราะรักคุณมากมาย คงไม่กล้ายอมขนาดนี้หรอกนะใบ
คารมของนักเขียนหนุ่มผู้เป็นสามีเอ่ยขึ้น หญิงสาวยิ้มพราวระยับที่ดวงตาของหล่อนขึ้นบ้าง หวงนี่อาจจะแปลกว่าหึง หล่อนยิ้ม“นั่นยิ้มอะไร ขำหรือว่าไม่พอใจ”“ไม่ใช่อย่างนั้นหรอกค่ะ ฟางรู้สึกว่า พอได้สามีมาหนึ่งคน เขาก็บ่นเสียเก่ง” เขาหันมาทางสาวสวยผู้เป็นภรรยา ขยับใบหน้ามาใกล้ “นี่มาหาว่าเราบ่น ประเดี๋ยวเหอะ จะจูบให้ตายตาอ้อมกอดเลย”ชายหนุ่มบ่นเสียงไม่จริงจังนัก หมั่นไส้ผู้เป็นภรรยามากกว่า “แนะ ไม่กลัว ใช่ไหม? เดี๋ยวเอาจริงนะ”เขาขู่หล่อน พลอยทำให้ใบฟางต้องหลับตาปี๋ลง ก่อนที่ใบหน้าขาวๆของดวงหน้าคมคายจะโน้นแตะชิดใกล้ริมฝีปากประกบบดขยี้ลงไปแทรกความหวานเจือปนละลายอยู่ในช่องปาก จนสาวสวยรับรู้ถึงสัมผัสที่หวานซ่านลิ้น “นี่เริ่มบทลงโทษแล้ว โทษฐานที่มีเมียขี้บ่น แถมปากเก่งอีกต่างหาก เอ้อ เป็นเมียขายฝากเสียด้วย”หญิงสาวยังข้องใจในคำนี้ ความหมายแบบเขานี่คืออะไร จึงส่งสายตาอึดอัด หงุดหงิดทวงถามเมื่อเขาละถอนจากริมฝีปาก เงยหน้าขึ้นจ้องหล่อน เพราะรู้ว่าหล่อนจะถาม หล่อนไม่ชอบใจสักนิดกับคำทีเขาใช่เรียกหล่อน“อีกแล้ว เมียขายฝาก ฉันไม่รู้ว่าความหมายมันคืออะไรกันแน่ มันเริ่มต้นมาตั้งแต่พี่ธีรคา
“ยังไม่แน่ใจค่ะ เมล ตอนนี้ฉันอยากอยู่เมืองไทยไปก่อน คงทำงานไปสักพัก ถ้าลืมเรื่องราวทุกสิ่งทุกอย่างได้ ฉันก็อาจจะเริ่มต้นชีวิตใหม่ กับใครก็ได้ ที่เขารักจริง และรักความเป็นตัวฉัน รวมทั้งเขาไม่แคร์อดีตต่างๆของฉันด้วย”“ขอให้คุณโชคดีนะฮันนี่”“ขอบคุณคะ เมล คุณก็เช่นกัน รักษาเนื้อรักษาตัวด้วย”หล่อนโบกมือให้เขาเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่เขาและคณะจะเดินจากไปในช่องผู้โดยสารขาออก แล้วหล่อนหันมายิ้มให้กับตัวเอง นี่คืออิสรเสรีที่หล่อนต้องการ จึงถอนใจออกมายาวนานด้วยมีความสุข หล่อนต้องการตัด และเยื่อใยอาวรณ์จากเขา หล่อนจะต้องทำให้ได้ เมลมีดีอยู่หลายสิ่งหลายอย่างเช่นกัน แต่สิ่งที่หล่อนยอมรับไม่ได้คือ เขาจะเอาทั้งผู้หญิงและผู้ชาย อย่างที่เรียกว่า เสือไบ โฮโมเซกช่วล แบบนี้หล่อนไม่ต้องการ ไม่ต้องการเสียน้ำตาทนอยู่กับผู้ชายประเภทนี้ เพราะนั่นหมายความว่า เขาทำให้ชีวิตของหล่อน เหมือนตกนรกทั้งเป็นนึกว่าจะยืดเยื้อ หรือคาราคาซังเสียอีก ขอบคุณที่เขาเลือกให้ของขวัญนี้ให้แก่หล่อน ตามที่หล่อนร้องขอปรารถนามานานต่อไป ชั่วชีวิตนี้ หล่อนจะไม่สนใจ ผู้ชายที่ชื่อเมล นี้อย่างเด็ดขาด ว่าเขาจะเป็นตายร้าย
จะไม่ช๊อคใจไปใหญ่หรือ ที่ตลอดมานั้น อ่านหนังสือของคนกันเองทั้งนั้น คนกันเองที่ขยับเข้ามาเป็นคนในบ้านและเป็นคนในเรือนใจของหล่อนเข้าทุกขณะ“นี่สิของแท้ของชัวร์ นิยายที่ผ่านการรวมเล่มแล้วของผม มีประมาณ เกือบสิบเรื่องด้วยกัน ซ่อนอยู่อีกมุมหนึ่ง โดยเฉพาะ และถ้าอยากจะไปร่วมงานวันสัปดาห์หนังสือแห่งชาติเมษาที่จะถึงเร็วๆนี้ ไปกับผมสิ คุณจะได้รู้ว่าแฟนคลับผมตรึมแค่ไหน ที่เรียกร้องอยากจะให้ผมมา..แล้วก็ต้องแจกลายเซ็นต์ด้วย”เขากลายเป็นคนที่มีชื่อเสียงโด่งดังจริงๆ ไม่น่าเชื่อ ด้วยบุคลิกที่อ่อนโยนและสุภาพปนกับอารมณ์ร้ายเกรี้ยวกราด ไม่นึกว่าเขาจะมีอีกภาคหนึ่ง ของผู้ชายที่เขียนหนังสือขาย เป็นนักเขียนที่ถือว่า ได้รับความนิยมมากคนหนึ่งในปัจจุบัน ในยุคที่นักเขียนไทย ผุดตัวเองขึ้นมาราวกับดอกเห็นกลางฤดูฝน“ไม่เชื่อ คงต้องเชื่อแล้วละคะ นี่ถ้ายัยเงิน น้องสาวของฟางรู้เรื่อง ตายเลยล่ะคงทั้งอึ้งทั้งทึ่ง ไม่งั้นก็เกือบช๊อคไปหลายสิบตลบแน่นอน”“ถึงขนาดนั้นเลยหรือ”“ใช่ค่ะ ถึงขนาดนั้นแน่นอน เพราะน้องสาวของฉัน ติดงานของคุณมาก”เขาเพิ่งทราบ“นี่คุณทำอย่างนี้ทุกวัน หลังขดหลังแข็งมากไหมคะ”เขายิ้มอีกครั้ง“งา
เขาเอ่ยคำนี้ จนหล่อนหน้าแดงไปเลย สีระเรื่ออ่อนที่พวงแก้ม แต่ก็เข้าใจความหมายเมื่อเขาพร้อมที่จะให้สัญญาปากแบบสุภาพบุรุษอีกครั้ง “งั้น ฟางจะยอมไว้เนื้อเชื่อใจอีกสักครั้ง ทั้งที่ไม่อยากจะเชื่อสักเท่าไหร่”“อ้าวทำไมล่ะ กลัวผมจะเปลี่ยนใจ ทำมิดีมิร้ายกับคุณหรือไง นี่ฟังนะจ้ะคนเดียว เรื่องทำมิดีมิร้าย ผมก็คิดเหมือนกัน แต่มันไม่ใช่เวลานี้ แต่ต่อไปล่ะ ผมคงมีเวลาทำมิดีมิร้ายกับคุณอย่างสุดสวาทอย่างว่า ได้นานครั้งล่ะ ตอนที่เราแต่งงานกันเสร็จแล้ว นั่นล่ะ มีเวลาทั้งชีวิตของผมเลย”ฟังคำพูดที่เขาเอ่ย หล่อนก็รู้สึกเบาใจ ปางภูหัวเราะเสียงใส“แล้วฉายาเจ้าพ่อบ่อนหรือเสี่ยที่พี่ธีรคามเรียกใช้ ให้สมญาชื่อคุณล่ะคะ”“นั่นผมลืมแล้ว ผมจะไม่เข้าแล้ว ตัดขาดจากมันตลอดชีวิต ในเมื่อผมไม่ได้อยู่ตัวคนเดียวแล้วนี่ ผมมีคุณ ผมมีครอบครัว มีคนที่เอาใจใส่น่ารักอย่างนี้ ผมจะเตลิดหนีหายไปไหนได้อีกล่ะฟางจ๋า”ในเมื่อเขาจะมีครอบครัวแล้ว นั่นมันคือภาพอดีต เมื่อครั้งที่ยังใช้ชีวิตโสดอิสระได้เต็มที่ และเมื่อพ้นจากวัยนั้นพ้นผ่านแล้ว สิ่งเหล่านี้ก็คิดว่ามันเป็นเกมชั่วครั้งชั่วคราวที่ผ่านทางชีวิตของเขาเขาไม่ได้ติดหนึบติดหน
หญิงสาวยิ้มให้พยักหน้าและเพิ่งเข้าใจ “คุณคงไม่โกรธผมนะ ที่ตอนนั้นทำอะไรก็คิดจะปิดบังคุณ”เสียงนุ่มทุ้มดังอีก เป็นกังวาน แต่ก็รู้สึกชุ่มชโลมในหัวใจของหล่อนอย่างประหลาด“เคยคิดจะโกรธเหมือนกันคะ แต่ก็ดีที่คุณเพิ่งอธิบายออกมา ฉันเลยนึกโกรธคุณไม่ลงแล้ว”เขาหันมายิ้มอ่อนๆสบตาของหล่อน“ก็ต้องบอก เพราะเราก็เหมือนคนคนเดียวกันแล้ว จากนี้มีอะไรก็ต้องร่วมรับผิดชอบกัน”หล่อนนิ่งฟังคำพูด ชอบฟังคำพูดที่มีหลักการในการวางแผน และให้กำลังใจ สร้างความปลาบปลื้ม แก่ใจของหล่อนอีกครั้งโดยไม่รู้ตัวยอมรับว่าหล่อนเริ่มจะหลงรักผู้ชายคนนี้เสียแล้ว ไม่รักก็คงไม่ได้หรอก ลึกแต่ไม่ลับในความรู้สึกของหล่อน ขอเก็บเอาไว้รู้เพียงคนเดียว จึงหันทางเขาอีกครั้งยิ้มและสบตาให้ หล่อนนึกถึงเรื่องอื่นได้ อย่างเพิร์ล หรือภามิญาที่ไม่รู้ว่า ทั้งคู่คืบหน้าไปมากแค่ไหน จวบกับมีเรื่องราวอื่นที่เป็นเรื่องสะเทือนใจ ประดังเข้ามาระลอกแล้วระลอกเล่าไม่ขาด จากสึนามิ ฝนก็ท่วมถล่มทางภาคใต้ แผ่นดินไหวทางประเทศพม่าหรือเมียนมาร์กับทางภาคเหนือของไทย วิบากกรรมของประเทศและชาวโลกถูกซัดมาอย่างไม่หยุดหย่อน คงต้องพึ่งพาความดีงาม ศีลธรรม บุญกุศลท
แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์ร้ายแรงระส่ำขวัญเช่นนี้ เรื่องทั้งหมดจึงถูกพับแปลนงานอย่างน่าเสียดาย ไว้รอเหตุการณ์ทุกอย่างสงบอีกครั้ง เขาถึงจะเดินทางกลับบ้านเกิดเมืองนอน คงต้องเป็นหลังจากที่งานแต่งของเพื่อนรักที่เมืองไทยเสร็จสิ้น“ขอบใจนายมากที่เป็นห่วง ฉันเป็นตัวแทนของประเทศที่รับความหวังดีนี้จากนาย”“ไม่เป็นไร ฉันเป็นคนไทย เมืองที่ได้ชื่อว่าใจบุญ และสยามเมืองยิ้ม ที่ไหนเกิดความทุกข์เดือดร้อนสาหัส พวกเราทนดูดายไม่ได้หรอก ยิ่งญี่ปุ่นก็ให้ความพึ่งพิงพึ่งพาช่วยเหลือประเทศไทยเรามาก่อน ไม่ว่าทางด้านอุตสาหกรรม เทคโนโลยีต่างๆ สายสัมพันธ์เรายาวนาน เราจึงเห็นใจกันและกัน ถือว่าประเทศไทยตอบแทนน้ำใจประเทศญี่ปุ่น มันเป็นการกตัญญูรู้คุณที่สองประเทศมีไว้ให้กัน”คนฟังรู้สึกตื่นตันใจ และนึกในใจเขาเองก็ถือว่าโชคดีที่มีเพื่อนสนิทเป็นคนไทยอย่างปางภู“ทำใจให้ดีเถอะนะ เข้มแข็งเอาไว้ คิดเสียว่า เบื้องหลังฝันร้าย จะกลายเป็นดี ในอนาคต”โทชินาดะพยักหน้ารับกับเพื่อน ใบฟางรับรู้เรื่องนี้ด้วยเช่นเดียวกับคนไทยทั่วประเทศ เพราะหล่อนติดตามข่าวสารความเคลื่อนไหวที่เกิดอย่างรุนแรงของประเทศเพื่อนบ้าน เมื่อนึกถึงเพ
แต่ที่น่าแปลกใจคือ ศราณัฐกลับพูดเรื่องนี้ไม่ออก เหมือนปากของเขาถูกอุดเอาไว้นิ่งเช่นกัน ไม่รู้เป็นเพราะอะไร หรืออาจเพราะว่า เขากับหล่อนนั้น ห่างหายจากกันไปนาน แทบไม่ได้รับการติดต่อจนกระทั่งได้กลับมาพบกันอีกครั้งแต่เขามีความรู้สึกว่า ใบฟางห่างเหินเมินเฉยต่อเขาเป็นอย่างมาก เอ หรือจะเป็นเช่นที่มารดาเอ่ยกล่าวว่าเปรยๆบอกเขาไว้ว่า ใบฟางมีแฟนแล้วที่มาเทียวรับเทียวส่งหล่อนบ่อย เรื่องนี้เป็นการยืนยันด้วยสายตาของมารดา ทีแรกเขาก็ไม่ได้เชื่อหรอก แต่มาเห็นสายตาและปฏิกิริยาของใบฟางที่มีต่อเขาแล้ว ชายหนุ่มต้องแอบบอกกับตัวเอง เขาคงมิแคล้วต้องซดน้ำใบบัวบกแทนข้าวมื้อนี้เสียแล้วและนี่คือความอึดอัด เมื่อถึงที่หมายใบฟางขอลง เขาเองก็จอดให้หล่อนลงอย่างง่ายดาย พร้อมกับยิ้มให้ และโบกมือเมื่อหล่อนเอ่ย “ฟางขอบใจพี่ศรามากนะคะ รบกวนเท่านี้ล่ะ ขอให้โชคดีค่ะ”ชายหนุ่มโทร.หาโทชินาดะแต่เช้าหลุดประโยคออกมา “โทชิ ฉันจะแต่งงานกับใบฟาง”ทำเอาเพื่อนอึ้งกับคำนี้ เงียบไปครู่จึงย้อนกลับไปถามทวน “นายว่าอะไรนะป้าง จะแต่งงานแล้วหรือ”“ใช่ ว่าที่เจ้าสาวของฉัน ใบฟางไงล่ะ คนที่เราได้พบเจอเป็นครั้งแรกพร้อมกับ
คุณสนมนาถเงยหน้าขึ้นสบตาสามีอย่างเข้าใจ ท่านเอ่ยอีกครั้งเบือนหน้าหันกลับมาเสียงเคร่ง“แล้วต่อไปจะเอาอย่างไร”“ผมจะจัดการสู่ขอน้องฟางให้ถูกต้องตามประเพณีครับ ส่วนฤกษ์ คุณแม่ของผมท่านกำลังหาอยู่ถึงเรื่องนี้.งมา แล้วคุยกันถึงเรื่องนี้.ง เอ้อ ฟางจะแต่งงานกับ คุณปางภูค่ะ"ตอบล่ะเงมาอย่างไร เพราะช่วงเวลาที่ผ่านมานั้น หล่อนอึ้งตลอด แต่อย่างทีบอกลึกนั้นในใจภูมิใจอย่างมาก ที่คำสารภาพของเขาแบบลุมอเลือกอย่างน้องชายแกเอก่อนนะครับ.. น่าจะไม่เกินสิ้นเดือนนี้ครับ”ปางภูชี้แจงเสียงนุ่มคมชัดฉะฉานและทุ้มเรียบ คุณสนมนาถยื่นผ้าเช็ดหน้าให้บุตรสาว ยิ้มชื่นมื่นนั้นบ่งบอกว่าลูกสาวรับรู้และเห็นดีเห็นงามด้วย“ในเมื่อจะมาเอ่ยขอลูกสาว ฉันก็ไม่ได้ว่าอะไร ก็เห็นดีเห็นงามด้วย ประเพณีของไทยเราสุภาพบุรุษไม่ควรทำอะไรลับๆล่อๆ กินในที่ลับแล้วมาไขในที่แจ้งสาว ฉันก็ไม่ได้ว่าอะไร ก้่ได้ว่าอะไร ก้เห็นดีเห็นงามด้วยน้าให้บุตรสาวมื่อเงยหน้าขึ้นมองชายหนุ่มและลูกสาวสลับกัน ถ้าทำถูกต้องตามประเพณีทางนี้ก็ยอมรับ.. เพราะลูกสาวของฉัน เห็นว่าเขาคงจะเข้าข้างเธอ และเห็นดีเห็นงามด้วยอย่างมาก เอาล่ะ เมื่อเข้าใจกันแล้ว ฉันก็ยอม