พลอยพัดชาพยักหน้าเพราะเห็นด้วยกับคำพูดของเขา ก่อนจะถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่
“เฮ้อ ตั้งแต่เคยถูกผู้ชายกอดมานะ มีอีตาคนนี้นี่แหละที่พลอยรู้สึกรังเกียจที่สุด”
ธามหูผึ่งขึ้นมาทันที จากนั้นก็ชี้หน้าเธออย่างเอาเรื่อง
“ยั่วโมโหอีกแล้วนะ เดี๋ยวจะโดน”
พลอยพัดชาหัวเราะคิกคัก แล้วถามว่า
“ว่าแต่...พี่จะทำอะไรเขาหรือคะ”
พลอยพัดชาอดอยากรู้ไม่ได้ แต่มั่นใจว่าคนอย่างธามจะไม่มีการส่งนักเลงไปดักซ้อมกวินภพแน่นอน เพราะเขาไม่ชอบทำอะไรที่เป็นการให้ผลแค่ระยะสั้น คนอย่างเขาถ้าคิดลงมือเล่นงานใคร จะต้องเกิดผลเสียกับอีกฝ่ายในระยะยาว
“ก็มันอยากเป็นข่าวนักไม่ใช่หรือ พี่ก็จะจัดให้ไง” ธามหันมายิ้มให้ ก่อนจะจับแก้มของเธอไว้ทั้งสองข้างแล้วดึงเบา ๆ พลางพูดว่า
“คราวนี้ก็ยิ้มได้แล้วนะ ลงไปหาเค้กกินแก้เครียดกันดีกว่าเนอะ”
หญิงสาวยิ้มออกทันที รู้สึกสมองโล่งขึ้นมาในทันใด อีกทั้งยังรู้สึกว่าหัวใจอุ่นวาบอย่างบอกไม่ถูก เพราะตั้งแต่บิดามารดาจากไป ชีวิตของเธอก็มีแต่น้าจินนี่คอยกางปีกปกป้องเสมอมา แต่ในบางครั
“พี่ธามพอแล้ว พลอยหายใจไม่ทัน” หญิงสาวหอบจนตัวโยนราวกับวิ่งมาหลายกิโลเมตร ธามเห็นแล้วสงสารจึงหยุดมือ แต่ก็อดหยิกแก้มของอีกฝ่ายอย่างมันเขี้ยวไม่ได้“คิดจะไปส่องแขกหล่อ ๆ งั้นหรือ เดี๋ยวจะโดนไม่ใช่น้อย”ธามคาดโทษหญิงสาวอย่างไม่จริงจังนักเพราะรู้นิสัยของอีกฝ่ายดีว่าช่างยั่วยวนและยั่วอารมณ์ให้มีน้ำโหอยู่บ่อย ๆ“ก็แขกส่วนใหญ่หล่อจริง ๆ นี่นา แต่ก็สู้หล่อมาดเข้มแบบพี่ไม่ได้หรอกน่า จริงไหม” พลอยพัดชายิ้มประจบ“ก็เพราะปากหวานช่างยั่วอย่างนี้นี่ไง พี่ถึงไปไหนไม่รอด” ชายหนุ่มเชยคางของเธอขึ้นแล้วจุ๊บเบา ๆ“ให้มันจริงเถอะ พลอยกลัวว่าพอหมดช่วงโปร พี่ก็จะกลับไปเป็นเหมือนเดิมน่ะสิ คนนิสัยเสีย”“ไม่เป็นแล้ว สัญญา” เขาชี้สามนิ้วขึ้น เธอจึงยู่หน้าใส่เขา“เชอะ พี่น่ะชอบใจร้ายกับพลอย จะง้อก็ไม่มาง้อดี ๆ กลับส่งขนมมาล่อ แถมยังเป็นคุกกี้ถั่วอีกต่างหาก แค่นี้ก็รู้แล้วว่าพี่เอาใจใส่พลอยมากแค่ไหน”ธามได้ยินอย่างนั้นก็เบิกตากว้างพลางทำหน้างุนงงสงสัย เพราะเขาจำไม่ได้ว่าส่
พลอยพัดชาอมยิ้มขณะที่อ่านข่าวเหล่านั้นจากโทรศัพท์มือถือของตน ตอนที่เธอกับจินตวาตีคาดเดาความสัมพันธ์ของกวินภพกับปวีณาเมื่อคราวนั้น เธอยังอดสงสารฝ่ายหญิงไม่ได้ที่ต้องหลบ ๆ ซ่อน ๆ ราวกับคนที่ทำผิดกฎหมาย แต่มาวันนี้ความสงสารไม่มีเหลืออยู่แล้ว หลังจากที่ได้เห็นภาพและคลิปต่าง ๆ ที่ธามนำมาให้ดู เธอจึงรู้ทันทีว่าสองคนนี้ร่วมมือกัน“จริงสิ พี่ธามให้ใครส่งรูปพวกนั้นให้พวกเพจข่าวหรือคะ ไหนจะพวกที่ไปตอบคอมเมนต์ว่าเป็นคนหมู่บ้านเดียวกับสองคนนั้นอีก เขาเป็นจริง ๆ รึเปล่า แล้วไม่กลัวโดนฟ้องหรือไง”ธามยิ้มอ่อนพลางตอบว่า “จะใครเล่า ก็ยายนาฏไง”พลอยพัดชาเบิกตากว้าง “ยายนาฏหรือ อ้าว! แล้วแอคเคาน์พวกนี้ล่ะ”“เป็นแอคเคาน์สำรองของเพื่อน ๆ เขาที่อเมริกาน่ะ ถ้าคิดจะฟ้องก็เชิญตามสบาย” ชายหนุ่มตอบอย่างไม่ยี่หระ ก่อนจะตักกุ้งทอดซอสมะขามใส่ในจานข้าวให้หญิงสาวแล้วพูดว่า“กินข้าวเถอะ อย่าไปสนใจข่าวพวกนั้นเลย รอดูฟีดแบ็กที่ตามมาดีกว่า”“พลอยอยากเห็นหน้านายก้าวจริง ๆ ว่าถ้าเห็นข่าวพวกนี้แล้ว
“แค่รูปไม่กี่รูปก็สะเทือนไปทั้งวงการ”พลอยพัดชายิ้มอ่อนขณะมองรูปเหล่านั้นผ่านหน้าจอคอมพิวเตอร์บนออฟฟิศชั้นสองของร้านพัดชา เจมส์ ธามบอกเธอไว้ว่าเขาจะไม่ปล่อยข้อมูลเด็ดออกมาในตูมเดียว แต่จะค่อย ๆ เผยออกมาทีละอย่างเพื่อไม่ให้ข่าวของกวินภพเงียบหายไป“พี่ธามไปหามาจากไหนน่ะ เก่งชะมัด”เสียงของนลินทราลอยมาตามสาย พลอยพัดชาจึงละสายตาออกมาจากภาพแต่งงานภาพนั้นแล้วมองบรรยากาศขวักไขว่ของถนนด้านนอกแทน“เขาจ้างนักสืบน่ะ เห็นว่าให้สืบเรื่องของนายก้าวไว้ตั้งแต่ตอนที่เขาพยายามเป็นข่าวกับฉันครั้งโน้น เพราะพี่เขาก็รู้สึกเหมือนพวกเรานั่นแหละว่าภาพพวกนั้นมันดูพยายามมากเกินไป ดูเหมือนนายก้าวอยากเป็นข่าวกับฉันมากทั้งที่ตัวเองก็เป็นพระเอกดังอยู่แล้ว เขาบอกว่ามันดูไม่สมเหตุสมผล”“คุณเขาก็ช่างวิเคราะห์ซะจริง แต่ก็ดีแล้วละ ไม่อย่างนั้นแกก็ถูกกระทำอยู่ฝ่ายเดียวแบบนี้ พี่ปลาก็ไม่น่าเชื่อเลยนะว่าจะเป็นคนแบบนั้นไปได้”“ก็คงเป็นคนประเภทเดียวกันนั่นแหละ ไม่อย่างนั้นคงไม่อยู่ด้วยกันมาได้ตั้งสิบกว่าปี ตอนแร
และวิธีเล่นงานคนของอีกฝ่ายก็คือการไม่ป้อนงานให้ และบอกกับสื่อหลายสำนักว่าไม่ต้องทำข่าวเรื่องของเขา เพื่อให้ชื่อของกวินภพหายไปจากหน้าจออย่างเงียบ ๆชายหนุ่มนึกถึงทางเลือกที่ปวีณาบอกเขาไว้ก่อนหน้านี้“ก้าวมีสองข้อให้เลือก หนึ่งคือไม่ยอมรับว่าเป็นเรื่องจริง บอกว่าคนในรูปไม่ใช่ก้าวแต่เป็นพี่ชายหรือน้องชายอะไรก็ว่าไป เพราะก้าวในรูปกับก้าวตอนนี้ก็เหมือนกันแค่บางส่วนเท่านั้น และข้อสองคือยอมรับไปเลยว่าจริง แล้วขอร้องให้พี่จินนี่ช่วยปิดเป็นความลับ และช่วยคิดวิธีหาทางออกให้หน่อย”“แล้วปลาคิดว่าก้าวควรเลือกข้อไหน”ใจเขาอยากเลือกข้อแรก แต่ปวีณากลับให้น้ำหนักกับข้อสองมากกว่า“ปลาคิดว่ายอมรับไปเลยดีกว่า ไหน ๆ เรื่องก็มาถึงขั้นนี้แล้ว ถ้าเราโกหกแล้วมีปัญหาใหม่ตามมาอีก เราก็ต้องหาข้ออ้างโกหกต่อไปไม่จบไม่สิ้น อีกอย่าง ก้าวอย่าลืมนะว่ามีคนเจอปลาตอนไปหาหมอสูติฯ มาแล้วด้วย”“ก้าวกลัวจะโดนพี่จินนี่แบล็กลิสต์เอาน่ะสิ” เขากังวลเรื่องนี้ที่สุด เพราะทุกงานคือเงินทั้งนั้น“พี่จินนี่อาจจะไม่พอใจบ้างก็เป็นเรื
“หรือเธอจะปฏิเสธให้ถึงที่สุดล่ะ บอกว่าคนในภาพไม่ใช่เธอแต่เป็นพี่ชายอะไรก็ว่าไป แล้วให้ยายปลาออกมายืนยันด้วยอีกคน ถ้ามีคนถามหาพี่ชายของเธอคนนั้นก็บอกไปว่าตายแล้ว เธอจึงต้องดูแลพี่สะใภ้อย่างยายปลาแทนพี่ชาย...แบบนี้ก็ได้นะ” ขณะที่พูด จินตวาตีก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดดูข้อความเมื่อมีเสียงเตือนเข้ามากวินภพตาวาวขึ้นมาทันทีเมื่อได้ยินทางออกที่ตรงใจตน“ผมคิดว่าวิธีนี้ดีกว่ายอมรับอีกนะครับพี่”จินตวาตีเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยขณะที่ใช้นิ้วสไลด์หน้าจอโทรศัพท์ของตนไปช้า ๆ จากนั้นก็เหลือบมองชายหนุ่มที่นั่งข้างกายแล้วส่งโทรศัพท์ไปให้เขาดูพลางพูดว่า“พี่ว่าวิธีนี้คงใช้ไม่ได้แล้วละ ยังไงเธอก็ต้องยอมรับ”กวินภพขมวดคิ้วด้วยความสงสัยขณะที่รับโทรศัพท์ของผู้จัดการมาดู ครั้นพอเห็นภาพและคลิปเหล่านั้นเขาก็เบิกตากว้างขึ้นด้วยความตกใจระคนโกรธเกรี้ยว“นี่...นี่ใครเป็นคนทำเรื่องแบบนี้เนี่ย ทำไมต้องตามเล่นงานผมด้วย ผมไม่เข้าใจ”ภาพและคลิปเหล่านี้เป็นลักษณะของการแอบถ่ายกวินภพกับปวีณาในบ้านหลังหนึ่ง ความใกล้ชิดของคนทั้งคู่ไ
“เฮ้ยบ้า ไม่เอาน่าปลา อย่ามาหึงงี่เง่าไร้สาระสิ ก้าวบอกแล้วไงว่าทำเพื่ออนาคตของพวกเรา อีกหน่อยพอลูกเราคลอดออกมา ปลาจะได้มั่นใจไงว่ายังไงเราก็มีเงินส่งเสียเลี้ยงดูเขาให้เรียนสูง ๆ แน่นอน เชื่อใจก้าวนะปลา เราสู้มาด้วยกันขนาดนี้แล้วก้าวจะทิ้งปลาทำไม ไหนจะลูกอีก เรามีลูกด้วยกันแล้วนะ สำหรับก้าวแล้วปลาคือเมียเพียงคนเดียวของก้าว คนอื่นไม่ใช่จำเอาไว้นะปลา”สุดท้ายปวีณาก็ต้องยอมตามใจกวินภพเช่นเคย เพราะเธอรู้ดีว่าสิ่งใดที่ชายหนุ่มตัดสินใจไปแล้ว เป็นเรื่องยากที่เขาจะเปลี่ยนใจ และเธอเองก็ต้องเป็นคนช่วยเขาวางแผนต่าง ๆ ในการจับไฮโซสาวคนนั้นให้อยู่มือ แม้ว่าในใจจะไม่ยินยอมเพียงใดก็ตามปวีณาหันดูนาฬิกาแขวนผนัง ห้าทุ่มกว่าแล้วแต่กวินภพยังไม่โทรศัพท์มาเล่าว่าคุยกับจินตวาตีแล้วเป็นอย่างไรบ้าง ตอนแรกหญิงสาวคิดจะนั่งรออีกสักพักแล้วค่อยขึ้นนอน แต่เพราะเพิ่งฟื้นจากไข้ ความเครียดและอ่อนเพลียที่สะสมมานานจึงทำให้เธอรู้สึกล้าเต็มที จึงตัดสินใจปิดโทรทัศน์เพื่อเตรียมตัวขึ้นไปนอนบนห้องแต่แล้วจู่ ๆ ขณะที่กำลังปิดบ้านให้เรียบร้อยอยู่นั้น หญิงสาวก็สังเกตเห็นแสงไฟจากหน้ารถคันหนึ่งข
เสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้นกลางดึกสงัด ส่งผลให้คนที่นอนหลับอยู่บนเตียงสะดุ้งตื่นด้วยความตกใจ พลอยพัดชาเอื้อมหยิบโทรศัพท์บนโต๊ะข้างเตียงมากดรับสายทันทีเมื่อเห็นว่าผู้ที่โทร. เข้ามาคือนวล แม่บ้านของบ้านใหญ่“ค่ะพี่นวล” พลอยพัดชาลุกขึ้นนั่ง รู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดีอย่างบอกไม่ถูกเพราะไม่บ่อยนักที่แม่บ้านจะโทรศัพท์มาหากลางดึก“ว่าไงนะ! ได้ค่ะพลอยจะรีบไปเดี๋ยวนี้เลย”พลอยพัดชาเด้งตัวจากที่นอนแล้ววิ่งไปหาเสื้อผ้ามาสวมอย่างลวก ๆ จากนั้นก็คว้ากระเป๋าสะพายแล้ววิ่งออกจากห้องทันทีไม่ถึงครึ่งชั่วโมงพลอยพัดชาก็มาถึงโรงพยาบาล หญิงสาวรีบเดินเข้าไปถามกับเคาน์เตอร์ต้อนรับด้านหน้าเพื่อถามว่าแผนกฉุกเฉินไปทางไหน ครั้นพอได้คำตอบแล้วก็กึ่งวิ่งกึ่งเดินไปทางนั้นอย่างไม่รอช้าเมื่อถึงหน้าห้องฉุกเฉิน แม่บ้านทั้งสองคนนั่งรออยู่ด้านนอก แต่ละคนเหมือนผ่านการร้องไห้มาอย่างหนัก พลอยพัดชาจึงรีบเดินเข้าไปหา“พี่นวล พี่แป๋ม” แม้หญิงสาวจะบอกให้ตัวเองใจเย็น กระนั้นเสียงที่พูดออกไปก็ยังสั่นพร่า กระบอกตาร้อนผ่าวและใจหวิว ๆ จนมือสั่นไปห
เพียงแค่นั้น ความอบอุ่นจากในหัวใจก็แผ่ซ่านไปทั่วร่างกายจนทำให้เธอรู้สึกว่านอกจากผู้เป็นน้าอย่างจินตวาตีแล้ว ก็ยังมีเขาอีกคนหนึ่งที่เธอพึ่งพาได้“พลอยอยากไปดูที่สระว่ายน้ำก่อนค่ะ” เธอบอกเขาเบา ๆ พลางชี้ไปยังสระว่ายน้ำที่อยู่ทางฝั่งขวาของตัวบ้านเมื่อทั้งสองคนเดินมาถึง พลอยพัดชาก็ต้องเบิกตากว้างเมื่อเห็นน้ำสีแดงกองใหญ่อยู่บนพื้น ซึ่งหากแม่บ้านไม่บอกเอาไว้ก่อนหน้านี้เธอคงคิดว่าเป็นกองเลือดแน่นอน แต่ธามไม่รู้เรื่องนี้ เมื่อหันไปมองหน้าเขาจึงเห็นชายหนุ่มมีท่าทางอึ้งไป และมีสีหน้าไม่ดีนัก“เป็นไวน์ค่ะไม่ใช่เลือดหรอก พี่นวลบอกว่าขวดไวน์มันหกไหลลงมาบนพื้น แล้วก็มีแก้วไวน์แตกอยู่”พูดถึงตรงนี้หญิงสาวก็ก้มลงมองเศษแก้วที่กระจัดกระจายอยู่บริเวณนั้น เดาว่าตอนที่มีเจ้าหน้าที่จากโรงพยาบาลมารับตัวจินตวาตี คงจะเผลอเตะเศษแก้วไปบ้าง จึงคิดจะหยิบมากองรวมกันไว้คนอื่นจะได้ไม่เผลอเหยียบ แต่ธามรีบเอ่ยปากห้าม“อย่าไปแตะนะพลอย ถ้าน้าจินนี่ถูกทำร้ายจริง พี่ว่าตรงนี้ให้ตำรวจเขาจัดการดีกว่า ให้มันอยู่สภาพเดิมไปอย่างนี้แหละไม่อย่างนั้นหลักฐาน
“แล้วนี่แกจะทำยังไงต่อ จะแคนเซิลไม่ไปแล้ว หรือว่าตกลงไปตามแพลนเดิม”“นั่นดิ เอาไงดีวะนิ้ง อยากไปก็อยากไปนะ เพราะไปเปิดตลาดใหม่ แต่ถ้าไปแล้วงานของน้าจินนี่ทางนี้ล่ะใครจะช่วยดูแล อีกอย่างน้าจินนี่ก็ยังไม่ฟื้น ฉันคงทิ้งเขาไปไหนไม่ได้หรอก”“ถ้าไม่ไปแกจะโดนค่าปรับอะไรรึเปล่าล่ะ” นลินทราถามต่อ“ก็เสียค่าบูธที่จองไว้ให้เขาไปฟรี ๆ นั่นแหละ แล้วก็มีเงินค่าดำเนินการ ค่าประกันสินค้าตอนที่ขนส่งทางเครื่องบินนั่นอีกที่ต้องเสียไปฟรี ๆ เฮ้อ...ช่างมันเถอะ คราวนี้ไม่ได้ไปก็ไว้ไปคราวหน้าก็ได้ ฉันทิ้งน้าจินนี่ไม่ได้จริง ๆ”พลอยพัดชาคุยกับนลินทราอีกไม่นานก็วางสาย จากนั้นหญิงสาวจึงเดินเข้าไปในห้องน้ำเพราะตั้งใจจะนอนแช่น้ำอุ่นสักครู่แล้วค่อยแต่งตัวลงไปเคลียร์งานที่ร้านพัดชา เจมส์หญิงสาวเอนศีรษะพิงขอบอ่างพลางหลับตาลงอย่างผ่อนคลาย เมื่อคืนเธอได้นอนน้อยมาก ทั้งยังต้องตื่นแต่เช้าเพื่อหนีมาที่นี่อีก แต่น่าแปลกที่กลับไม่มีอาการอ่อนล้าหรือง่วงงุนเลยแม้แต่น้อยแต่แล้วจมูกของเธอก็ได้กลิ่นน้ำหอมผู้ชายอันแสนคุ้นเคยอยู่ใกล้ตัว
ตอนนี้เขาให้ปวีณาไปซื้ออาหารมาตุนไว้ และออกไปหาซื้อแว่นกรอบดำกับเสื้อเชิ้ตแขนยาวราคาถูกมาให้เขาใส่ รวมถึงซื้อครีมรองพื้นสีเข้มมาด้วย เพราะเขาต้องเอาไว้ใช้ในการปลอมตัว โชคดีที่ตอนช่วงเช้าของที่นี่จะมีตลาดนัด อีกทั้งยังมีร้านสะดวกซื้อที่เปิดตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมงอยู่ใกล้กับบังกะโลอีกด้วยแต่ถึงอย่างนั้น ลางสังหรณ์ของเขาก็บอกว่าเขาเหลือเวลาหลบหนีอีกไม่นานแล้วเสียงเคาะประตูห้องสองครั้ง กวินภพจึงเดินไปเปิดประตูเพราะรู้ว่าคนที่มาคือปวีณา เขาเห็นหญิงสาวถือข้าวของพะรุงพะรังเข้ามาในห้องจึงรีบเข้าไปช่วยถือ ปวีณาเดินไปนั่งพักอยู่บนเตียงพลางเอามือจับบั้นเอวของตัวเองแล้วบิดตัวเล็กน้อย ชายหนุ่มเห็นอย่างนั้นจึงอดรู้สึกผิดไม่ได้“ปวดหลังละสิ เดี๋ยวก้าวนวดให้ละกัน” พูดจบเขาก็ขึ้นเตียงไปนั่งซ้อนหลังของภรรยาแล้วลงมือนวดเบา ๆ“ก้าวกินข้าวก่อนเถอะ ไม่หิวหรือ ก้าวยังไม่ได้กินอะไรมาตั้งแต่เมื่อคืนแล้วนะ”“ยังไม่หิว” เขาตอบสั้น ๆ หลังจากที่นวดไปพักหนึ่ง จู่ ๆ เขาก็พูดขึ้นว่า“ปลา ถ้าก้าวถูกตำรวจจับแล้วติดคุก ปลาห้ามไปเยี่ยมก
กวินภพโกรธจนแทบคลั่ง ชายหนุ่มเดินมาถึงประตูรั้วหน้าบ้านที่จอดรถไว้ เขายืนนิ่งพลางคิดว่าไหน ๆ ชื่อเสียงของเขาก็ไม่มีเหลือแล้ว ทุกอย่างหายวับไปกับตาเพียงชั่วข้ามคืนเพราะคนเพียงคนเดียว ในเมื่อจินตวาตีต้องการให้เขาจมดิ่งลงใต้น้ำ เขาก็จะลากอีกฝ่ายลงไปด้วยคิดได้ดังนั้นชายหนุ่มจึงเดินกลับไปที่สระว่ายน้ำอีกครั้งอย่างเงียบเชียบ เขาเห็นจินตวาตีกำลังนอนหลับตาอยู่ที่เดิม เขารู้ดีว่าอีกฝ่ายไม่ได้หลับแต่แค่พักสายตาเท่านั้น จึงโพล่งถามออกไปตามตรง“ทุกอย่างที่เกิดขึ้นทั้งหมดในวันนี้เป็นฝีมือพี่ใช่ไหม”จินตวาตีลืมตาขึ้นพลางถอนหายใจแผ่วก่อนตอบว่า“ฉันไม่ได้ทำอะไรทั้งนั้น”“โกหก! พี่ต้องเป็นคนทำแน่ ผมไม่เคยมีเรื่องกับใครที่ไหน คนเดียวที่ผมมีเรื่องด้วยก็คือคุณพลอยหลานของพี่ พี่ไม่ชอบให้ผมไปยุ่งกับเขา พี่ก็เลยจัดการผมโดยไม่ให้ผมได้อยู่ในวงการอีกใช่ไหม”“ถ้าฉันทำจริงฉันก็จะยอมรับ แต่ถ้าไม่ได้ทำฉันก็จะไม่ยอมรับเด็ดขาด และถ้าเธอเชื่อไปแล้วว่าฉันเป็นคนทำ ฉันก็คงไม่มีอะไรจะพูดอีก ออกไปจากบ้านฉันได้แล้ว”พูดจบจิน
หกชั่วโมงก่อนหน้า“แกเคยเป็นเด็กทำงานในโฮสต์คลับใช่ไหม”จินตวาตีพูดขึ้นลอย ๆ เมื่อเห็นปฏิกิริยาตื่นตกใจของอีกฝ่ายก็ยิ่งแน่ใจว่าข่าวที่ได้รับรู้มานั้นน่าจะถูกต้องแล้ว“ไม่จริงนะครับพี่จินนี่ ผมไม่เคยทำงานแบบนั้น”กวินภพปฏิเสธเสียงแข็ง หากแต่สายตากลับหลุกหลิกไม่กล้ามองสบตากับจินตวาตีตรง ๆ“ตามที่ฉันรู้มา แกไม่ได้เป็นเด็กโฮสต์อย่างเดียว แกยังมีคนอุปการะด้วยนี่ และไม่ใช่แค่คนหรือสองคนด้วย มีคนให้ภาพกับคลิปแบบลับเฉพาะกับฉันมา รู้ไหมว่าภาพอะไร...ภาพตอนที่แกติดเบอร์ตองเจ็ดไว้ที่ขอบกางเกงใน กับคลิปที่แกเต้นตามโต๊ะลูกค้าด้วยกางเกงในตัวเดียวแล้วมีสาว ๆ สอดเงินเข้าไปในกางเกงในไงละ”จินตวาตีรู้เรื่องนี้มาจากข้อมูลที่ธามไปสืบมาให้ ดังนั้นเธอจึงลองไปเลียบเคียงถามจากหนุ่มโฮสต์ที่สนิทกัน ตอนแรกฝ่ายนั้นดูเหมือนไม่อยากพูดอะไรมากเพราะเรื่องผ่านไปหลายปีแล้ว และเขาเองก็ไม่เคยเจอกวินภพตัวจริงสักครั้ง เคยแต่ได้ยินคนพูดกันในร้านเท่านั้นว่ากวินภพเคยทำงานที่นี่ ทั้งยังยืนยันเป็นมั่นเป็นเหมาะว่าเรื่องจริง นอกจากนี้ย
ธามปล่อยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจกลุ่มหนึ่งทำการเก็บหลักฐานบริเวณสระว่ายน้ำ ส่วนเขาก็พาตำรวจอีกสองคนไปดูภาพจากกล้องวงจรปิดในห้องทำงานเพื่อใช้คลิปเหล่านี้เป็นหลักฐานในการออกหมายจับกวินภพ“ไม่น่าเชื่อเลยนะครับ เป็นดาราแล้วมาทำเรื่องแบบนี้ได้ น้องสาวผมชอบเขามากเลยนะ” ตำรวจนายหนึ่งดูคลิปนั้นแล้วได้แต่ส่ายหน้าด้วยความเสียดายธามแค่นยิ้มเล็กน้อยพลางคิดในใจว่าตำรวจคนนี้ไม่ผิดที่คิดว่าดารานักแสดงทุกคนจะไม่มีคนไม่ดี เพราะภาพลักษณ์ของคนที่ทำอาชีพนี้เมื่อออกสื่อก็ต้องสร้างให้ตัวเองดูดีเพื่อเป็นแบบอย่างของสังคม ทั้งที่ความจริงแล้วบางคนนิสัยใจคออาจไปคนละทางกับภาพลักษณ์ที่แสดงออกมาเลยก็เป็นได้แต่สำหรับเขาแล้วไม่ว่าจะอยู่ในวงการไหนก็มีคนเลวปะปนอยู่ด้วยทั้งนั้น เพียงแต่คนหน้าตาดีมักได้โอกาสและได้ภาษีดีกว่าคนหน้าตาธรรมดา นี่เป็นสิ่งที่มีมาเนิ่นนาน แม้บางคนจะพร่ำพูดอยู่เสมอว่าไม่คบคนที่หน้าตา แต่พอถึงเวลาจริง ๆ สายตาก็มักจะมองไปที่คนหน้าตาดีกว่าก่อนเสมอ“คุณพอจะทราบเหตุจูงใจไหมครับ” ตำรวจนายหนึ่งหันมาถามเขา เขาจึงตีหน้าซื่อ ไม่รู้เรื่องใ
เขาโยนกระเป๋าเป้ที่ใส่เงินปึกใหญ่ไปไว้ด้านหลังซึ่งปวีณานั่งอยู่เพื่อให้เธอเก็บรวบรวมเงินสดเอาไว้ใช้สอยตอนที่ต้องหลบหนี เพราะคงไม่ดีแน่หากบัญชีของเขาต้องถูกอายัด ดังนั้นก่อนหน้านี้เขาจึงโอนเงินทั้งหมดของตนไปใส่ไว้ในบัญชีของปวีณา จากนั้นก็ไล่ถอนเงินสดออกมาเรื่อย ๆ ทุกครั้งที่เจอตู้เอทีเอ็ม“แล้วเราจะไปไหนกันดีละก้าว”หลังจากที่นั่งรถมาด้วยกันร่วมชั่วโมง ในที่สุดปวีณาก็เอ่ยปากพูดอีกครั้งหลังจากที่รับรู้มาว่าก่อนหน้านี้กวินภพไปทำอะไรมา“ตอนนี้เรามีเงินติดตัวเท่าไรแล้ว” กวินภพไม่ตอบแต่กลับถามไปอีกเรื่อง“เกือบห้าแสน”“งั้นเราคงต้องหาห้องเช่าสักห้องอยู่ไปก่อน ไปแถว ๆ ภาคใต้น่าจะดี”“ปลาคิดว่าก้าวจะขับไปทางภาคอีสานซะอีก”“ก็แค่หลอกตำรวจน่ะ เพราะเราถอนเงินจากตู้เอทีเอ็มกันมาตลอดทาง เขาต้องเช็กแน่ว่าเราคงขึ้นไปภาคอีสาน แต่ความจริงเราวกรถกลับลงใต้”ปวีณาลอบถอนหายใจแล้วเอนหลังพิงเบาะรถ กวินภพทำอย่างนั้นกับจินตวาตีย่อมไม่พ้นข้อหาพยายามฆ่า ตอนนี้เธอได้แต่ภาวนาให้จินตวาต
เพียงแค่นั้น ความอบอุ่นจากในหัวใจก็แผ่ซ่านไปทั่วร่างกายจนทำให้เธอรู้สึกว่านอกจากผู้เป็นน้าอย่างจินตวาตีแล้ว ก็ยังมีเขาอีกคนหนึ่งที่เธอพึ่งพาได้“พลอยอยากไปดูที่สระว่ายน้ำก่อนค่ะ” เธอบอกเขาเบา ๆ พลางชี้ไปยังสระว่ายน้ำที่อยู่ทางฝั่งขวาของตัวบ้านเมื่อทั้งสองคนเดินมาถึง พลอยพัดชาก็ต้องเบิกตากว้างเมื่อเห็นน้ำสีแดงกองใหญ่อยู่บนพื้น ซึ่งหากแม่บ้านไม่บอกเอาไว้ก่อนหน้านี้เธอคงคิดว่าเป็นกองเลือดแน่นอน แต่ธามไม่รู้เรื่องนี้ เมื่อหันไปมองหน้าเขาจึงเห็นชายหนุ่มมีท่าทางอึ้งไป และมีสีหน้าไม่ดีนัก“เป็นไวน์ค่ะไม่ใช่เลือดหรอก พี่นวลบอกว่าขวดไวน์มันหกไหลลงมาบนพื้น แล้วก็มีแก้วไวน์แตกอยู่”พูดถึงตรงนี้หญิงสาวก็ก้มลงมองเศษแก้วที่กระจัดกระจายอยู่บริเวณนั้น เดาว่าตอนที่มีเจ้าหน้าที่จากโรงพยาบาลมารับตัวจินตวาตี คงจะเผลอเตะเศษแก้วไปบ้าง จึงคิดจะหยิบมากองรวมกันไว้คนอื่นจะได้ไม่เผลอเหยียบ แต่ธามรีบเอ่ยปากห้าม“อย่าไปแตะนะพลอย ถ้าน้าจินนี่ถูกทำร้ายจริง พี่ว่าตรงนี้ให้ตำรวจเขาจัดการดีกว่า ให้มันอยู่สภาพเดิมไปอย่างนี้แหละไม่อย่างนั้นหลักฐาน
เสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้นกลางดึกสงัด ส่งผลให้คนที่นอนหลับอยู่บนเตียงสะดุ้งตื่นด้วยความตกใจ พลอยพัดชาเอื้อมหยิบโทรศัพท์บนโต๊ะข้างเตียงมากดรับสายทันทีเมื่อเห็นว่าผู้ที่โทร. เข้ามาคือนวล แม่บ้านของบ้านใหญ่“ค่ะพี่นวล” พลอยพัดชาลุกขึ้นนั่ง รู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดีอย่างบอกไม่ถูกเพราะไม่บ่อยนักที่แม่บ้านจะโทรศัพท์มาหากลางดึก“ว่าไงนะ! ได้ค่ะพลอยจะรีบไปเดี๋ยวนี้เลย”พลอยพัดชาเด้งตัวจากที่นอนแล้ววิ่งไปหาเสื้อผ้ามาสวมอย่างลวก ๆ จากนั้นก็คว้ากระเป๋าสะพายแล้ววิ่งออกจากห้องทันทีไม่ถึงครึ่งชั่วโมงพลอยพัดชาก็มาถึงโรงพยาบาล หญิงสาวรีบเดินเข้าไปถามกับเคาน์เตอร์ต้อนรับด้านหน้าเพื่อถามว่าแผนกฉุกเฉินไปทางไหน ครั้นพอได้คำตอบแล้วก็กึ่งวิ่งกึ่งเดินไปทางนั้นอย่างไม่รอช้าเมื่อถึงหน้าห้องฉุกเฉิน แม่บ้านทั้งสองคนนั่งรออยู่ด้านนอก แต่ละคนเหมือนผ่านการร้องไห้มาอย่างหนัก พลอยพัดชาจึงรีบเดินเข้าไปหา“พี่นวล พี่แป๋ม” แม้หญิงสาวจะบอกให้ตัวเองใจเย็น กระนั้นเสียงที่พูดออกไปก็ยังสั่นพร่า กระบอกตาร้อนผ่าวและใจหวิว ๆ จนมือสั่นไปห
“เฮ้ยบ้า ไม่เอาน่าปลา อย่ามาหึงงี่เง่าไร้สาระสิ ก้าวบอกแล้วไงว่าทำเพื่ออนาคตของพวกเรา อีกหน่อยพอลูกเราคลอดออกมา ปลาจะได้มั่นใจไงว่ายังไงเราก็มีเงินส่งเสียเลี้ยงดูเขาให้เรียนสูง ๆ แน่นอน เชื่อใจก้าวนะปลา เราสู้มาด้วยกันขนาดนี้แล้วก้าวจะทิ้งปลาทำไม ไหนจะลูกอีก เรามีลูกด้วยกันแล้วนะ สำหรับก้าวแล้วปลาคือเมียเพียงคนเดียวของก้าว คนอื่นไม่ใช่จำเอาไว้นะปลา”สุดท้ายปวีณาก็ต้องยอมตามใจกวินภพเช่นเคย เพราะเธอรู้ดีว่าสิ่งใดที่ชายหนุ่มตัดสินใจไปแล้ว เป็นเรื่องยากที่เขาจะเปลี่ยนใจ และเธอเองก็ต้องเป็นคนช่วยเขาวางแผนต่าง ๆ ในการจับไฮโซสาวคนนั้นให้อยู่มือ แม้ว่าในใจจะไม่ยินยอมเพียงใดก็ตามปวีณาหันดูนาฬิกาแขวนผนัง ห้าทุ่มกว่าแล้วแต่กวินภพยังไม่โทรศัพท์มาเล่าว่าคุยกับจินตวาตีแล้วเป็นอย่างไรบ้าง ตอนแรกหญิงสาวคิดจะนั่งรออีกสักพักแล้วค่อยขึ้นนอน แต่เพราะเพิ่งฟื้นจากไข้ ความเครียดและอ่อนเพลียที่สะสมมานานจึงทำให้เธอรู้สึกล้าเต็มที จึงตัดสินใจปิดโทรทัศน์เพื่อเตรียมตัวขึ้นไปนอนบนห้องแต่แล้วจู่ ๆ ขณะที่กำลังปิดบ้านให้เรียบร้อยอยู่นั้น หญิงสาวก็สังเกตเห็นแสงไฟจากหน้ารถคันหนึ่งข