(ดอกทิวลิป - เป็นดอกไม้แห่งความรู้สึกดีๆ และความสมบูรณ์แบบทั้งในเรื่องความรัก ความสัมพันธ์หรือความเป็นเพื่อน)
“โลกใบนี้สดใสขึ้น เพราะความน่ารักของคุณ”
[PUNDAO’S PART]
- PUNDAO’S APARTMENT-
“เชิญค่า” ไอโกะเปิดประตูห้องของฉันที่อยู่เพียงชั้น 2 ของอพาร์ทเมนท์แห่งนี้ ฉันเดินตามไอโกะเข้าไปภายในห้องก่อนที่มายูจะลากกระเป๋าตามฉันมา ตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ไม่ขาดคิดขึ้นที่สนามบินมายูก็ยังไม่ยอมให้ฉันลากกระเป๋าเองอีกเลย
“ว๊าวววว!!”
“อาจจะเล็กไปหน่อยนะ แถวนี้ไม่มีห้องว่างแล้วน่ะ” มายูเอ่ยบอกกับฉันพร้อมกับลากกระเป๋าของฉันเข้ามาภายในห้องขนาด 107 ตารางฟุต ซึ่งถือว่าเล็กมากที่นี่มี 2 ชั้น มีบันไดขนาดเล็กที่สามารถเลื่อนไปทางซ้าย-ทางขวาได้ เพื่อขึ้นไปด้านบนซึ่งเป็นส่วนของที่นอนนั่นเอง ห้องขนาดเท่านี้เหมาะสำหรับพักอาศัยอยู่เพียงคนเดียวเท่านั้น
อพาร์ทเมนท์นี้ถูกตกแต่งด้วยสไตล์ลอฟท์ เฟอร์นิเจอร์ที่ทางเจ้าของจัดไว้ให้ก็เข้ากับพื้นที่ที่มีอยู่อย่างจำกัด ในขณะที่ยังคงไว้ซึ่งความสะดวกสบายของผู้พักอาศัย
“ดาวอยู่ได้สบายมากเลย ขอบคุณมายูกับไอโกะมากเลยนะ” ฉันเอ่ยบอกกับร่างบางต้องหน้าเสียงอ่อนพร้อมกับโค้งหัวให้กับพวกเธอเล็กน้อยอย่างนอบน้อม
“ดาวชอบฉันก็ดีใจ” ไอโกะหันมาบอกกับฉันพร้อมกับส่งยิ้มหวานมาให้
“มีห้องครัวด้วย”
“ใช่จ้า มีแต่จาน ชาม ช้อน ซ้อม และก็ตะเกียบนะอย่างอื่นฉันให้เขาเอาออกไปหมดแล้ว” มายูลากกระเป๋าของฉันไว้ตรงหน้าตู้ผ้า ก่อนที่เธอจะเดินเข้ามายืนข้างกายของไอโกะพร้อมกับกอดอกมองมาที่ฉันนิ่งๆ ตามนิสัยของเธอ
“ทำไมเหรอ?”
“พันดาวเผื่อเธอจะลืมไปนะ...เธอทำอาหารไม่เป็น และฉันก็ไม่อยากให้เธอเผาอพาร์ทเมนท์นี้ด้วยสงสารเจ้าของที่นี่น่ะ”
“อธิบายซะยาวเชียวไม่มีก็ไม่มีสิ” ฉันเอ่ยบอกกับมายูอย่างงอนๆ ก่อนจะเดินเข้าไปสำรวจยังห้องน้ำที่อยู่ไม่ไกลจากห้องครัวเท่าไหร่นัก
“มายูนี่นะ ชอบแกล้งดาวอยู่เรื่อย” ไอโกะบ่นร่างบางที่ยื่นอยู่ข้างๆ ของเธอเบาๆ พร้อมกับเดินไปนั่งลงยังโซฟาที่อยู่ไม่ไกล
“ฉันพูดเรื่องจริงทั้งนั้น ยัยนี่แค่ถือกิ่งไม้ยังสามารถทำให้ตัวเองเลือดไหลได้ ขืนมีมีดอยู่ใกล้ๆ เลือดคงได้หมดตัวก่อนเรียนจบแน่ๆ”
“มายูฉันได้ยินนะ”
“ฉันก็พูดให้เธอได้ยินนี่แหละ”
“มายู”
“โอเคๆ ไม่ต้องเถียงกันเลยทั้งคู่ เก็บของเลยไหมดาวเราจะได้รู้ว่าดาวขาดอะไรบ้างจะได้ซื้อมาเพิ่มได้ถูก” ไอโกะหันมาบอกฉันกับมายูด้วยน้ำเสียงสดใสปนเหนื่อยใจให้กับฉันทั้งสองคน ก่อนที่เธอจะเดินเข้ามาหาฉันพร้อมกับช่วยเอาเสื้อผ้าของฉันออกจากกระเป๋าพร้อมกับผับมันเข้าไปไว้ในกล่องสำหรับเก็บเสื้อผ้า
เราทั้งสามคนเป็นนักศึกษาปริญญาโทเหมือนกัน แต่อาจจะต่างกันตรงที่เราเรียนกันคนละคณะ จริงๆ แล้วมายูมีหอพักเช่นกันแต่หอพักของเธออยู่ห่างจากฉันไปอีกประมาณ 800 เมตร ส่วนไอโกะเธออาศัยอยู่ที่บ้านกับครอบครัวซึ่งก็อยู่ไม่ไกลจากพวกฉันเท่าไหร่นัก
เหตุผลที่ฉันต้องมาอยู่แถวนี้นั่นก็คงเป็นเพราะฉันพึ่งจะมาอาศัยอยู่ที่นี่พี่ทิวาค่อยข้างจะเป็นกังวลจึงอยากให้ฉันอยู่ใกล้กับมายูให้มากที่สุด อย่างน้อยถ้าเกิดอะไรขึ้นมาก็ยังมีมายูที่สามารถช่วยเหลือฉันได้ นี่ถ้าไม่ติดว่าอพาร์ทเมนท์ของมายูเต็มไปแล้วฉันก็คงได้อยู่ที่เดียวกันเธอแน่นอน
และอีกเหตุผลหนึ่งพวกเรากำลังศึกษาต่อในระดับปริญญาโทของมหาวิทยาลัยโตเกียวซึ่งมีอยู่ 5 วิทยาเขต และวิทยาเขตที่พวกเราอยู่ก็คือฮงโง ซึ่งเป็นหนึ่งในเขตบุงเกียว ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของย่านอูเอโนะ เป็นย่านการศึกษาที่สำคัญตั้งแต่สมัยเมจิ (สมัยเมจิ เป็นศักราชในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นตั้งแต่ตุลาคม ค.ศ.1868 ถึง กรกฎาคม ค.ศ.1912) ย่านที่ฉันอยู่เป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัยโตเกียว มหาวิทยาลัยจุนเทนโด และมหาวิทยาลัยโทโยกาคุเอ็ง จึงทำให้คนที่พักอาศัยอยู่ระแวกนี้ส่วนใหญ่จะเป็นพวกนักศึกษา ทำให้ราคาที่พักบริเวณนี้ถือว่าค่อนข้างถูกกว่าย่านอื่นๆ
“เย้ๆๆ เสร็จแล้ว”
“งั้นก็ไปอาบน้ำเลย จะได้มาพัก” มายูเอ่ยบอกกับฉันเรียบ ฉันคิดว่ามายูนี่จะเหมือนพี่ทิวาเข้าไปทุกวันแล้วนะ ฉันหันไปมองค้อนร่างบางตรงหน้าเล็กน้อย ก่อนจะหอบเสื้อผ้าที่จะนำไปเปลี่ยนเข้าไปในห้องน้ำกับฉันด้วยไว้
เพียะ!!!
“มายูชอบแกล้งดาว”
“ก็น่าแกล้งจริงๆนี่” ฉันหยุดเดินก่อนจะหันกลับไปมองมายู พร้อมกับแลบลิ้นปลิ้นตาหลอกเธอ
“น่ะ! ดูดาวทำดิ”
“ก็พอกันนั่นแหละ”
…
~ครืนนนนนนนน~ ~ครืนนนนนนนน~
“อือออ ดาวโทรศัพท์เธอดังรึป่าว” เสียงมายูเอ่ยบอกกับฉันด้วยน้ำเสียงงัวเงีย ฉันจึงควานหาโทรศัพท์ของตัวเองก่อนจะกดรับทันทีทั้งที่ตาของฉันยังคงหลับอยู่อย่างนั้น
“ค่า”
(นี่พันดาวน้องลืมพี่รึไงบอกว่าถึงแล้วให้โทรหาพี่ด้วย) เสียงพี่ทิวาดังออกมาจากโทรศัพท์เสียงเข้มๆ ของเขาปลุกฉันให้ตื่นจากภวังค์ ก่อนที่ฉันจะพบว่าเราทั้ง 3 นอนหลับกอดกายกันอยู่บนเตียนนอนขนาด 5 ฟุตของฉัน ‘นี่พวกเรานอนคุยจนต่างคนต่างหลับไปเลยเหรอเนี่ย’ ฉันค่อยๆคลายอ้อมกอดออกจากไอโกะที่นอนอยู่ตรงกลางระหว่างฉันกับมายู พร้อมกับมองไปยังชื่อที่โชว์อยู่บนหน้าจออีกครั้ง
(ได้ยินพี่รึป่าวตัวแสบ)
“ค่าได้ยิน หนูหลับอยู่แต่ตอนนี้ตื่นแล้วค่า”
(พี่ก็เป็นห่วง ที่พักเป็นไงบ้างโอเคไหมหนูชอบรึป่าว) ปลายสายเอ่ยถามฉันออกมาด้วยความเป็นห่วง
“โอเคค่ะหนูชอบมาก เดียวหนูส่งรูปที่ถ่ายไว้ให้ดูนะคะ”
(ได้ครับ...ดูแลตัวเองให้ดีพันดาว มีอะไรโทรหาพี่ได้ตลอดเวลาเลยนะเข้าใจไหม)
“เข้าใจค่า”
(ดีมาก)
ติ๊ด! !!
“ดาวหิวแล้วอะ” ฉันหันไปมองร่างบางทั้งสองก่อนจะเห็นว่าพวกเธอมองมาที่ฉันอยู่ก่อนแล้ว ฉันจึงเอ่ยบอกกับทั้งคู่อย่างออดอ้อน
“ฉันจองร้านอาหารเอาไว้แล้ว ทานข้าวเสร็จแล้วเราค่อยไปซื้อของกันโอเคไหมดาว”
“โอเคที่สุด ไอโกะน่ารักที่สุด” ฉันขยับเข้าไปกอดเอวบางของไอโกะเอาไว้ก่อนจะเอ่ยบอกกับเธออย่างอ้อนๆ
“ชิ!”
“มายูอิจฉาเหรอ”
“รีบไปไม่หิวไง”
“ฮ่าฮ่าฮ่า” ฉันปีนบันไดตามไอโกะลงไปด้านล่าง พร้อมกับหันไปหัวเราะใส่มายูที่กำลังปีนบันไดตามฉันลงมา
Mimoza
(ดอกมิโมซ่า - ดอกไม้แห่งความอ่อนไหวแต่ไม่อ่อนแอ มิโมซ่าถูกมองว่าเป็นวัชพืชที่ใครๆ ต่างก็มองว่าไร้ค่าหากใครตั้งใจมองให้เห็นคุณค่า ดอกมิโมซ่าจะกลายเป็นดอกไม้ที่สวยงามและน่าจดจำ)
“สำหรับฉันแล้ว...เธอเป็นคนที่แสนพิเศษเสมอเลยนะ”
[PUNDAO’S PART]
-SHIBUYA (ชิบูย่า) -
เรานั่งรถไฟฟ้ามาลงที่สถานีชิบูย่าก่อนจะพากันเดินไปยังทางออกฮาจิโกะ ห้าแยกซิบูย่าเป็นแยกขนาดใหญ่ที่อยู่หน้าสถานีชิบูย่า ที่นี่เป็นอีกจุดแลนด์มาร์คของโตเกียวเป็นหนึ่งในสถานที่ที่นักท่องเที่ยวต่างพากันมาเก็บภาพเพื่อเป็นที่ระลึก
“คนเยอะจริงๆด้วย นี่ขนาดตอนเย็นนะเนี่ย”
“ที่นี่มีคนพลุกพล่านแทบจะตลอดทั้งวันนั้นแหละ” มายูเอ่ยบอกกับฉันพร้อมกับดันหลังฉันกับไอโกะให้เดินไปตามทางเพื่อมุ่งหน้าไปยังร้านอาหารที่ไอโกะได้จองเอาไว้
“ดาวอยากไปถ่ายรูปกับฮาจิโกะ” ฉันหันไปบอกกับร่างบางทั้งสองคนอย่างออดอ้อน
รูปปั้นที่ระลึกของ ‘ฮาจิโกะ (Hachiko)’ น้องเป็นสุนัขพันธุ์อากิ ซึ่งได้ถูกขนานนามว่าเป็นสุนัขยอดกตัญญู นั่นก็เพราะว่าเจ้าฮาจิโกะจะมารอเจ้านายกลับมาจากที่ทำงานทุกวัน แม้ว่าเจ้านายจะเสียชีวิตไปหลายปีแล้วก็ตาม แต่น้องก็ยังคงมาเฝ้ารอเจ้านายทุกวันจนกระทั่งน้องได้เสียชีวิตลง
“ตอนนี้คนเยอะ เราไปทานข้าวกันก่อนดีกว่า” ไอโกะหันมาบอกกับฉันเสียงอ่อน พร้อมกับกอดแขนเรียวของฉันให้เดินไปกับเธอ
“ก็ได้ค่ะ”
“ฉันขออนุญาตหมั่นไส้ได้ปะ” มายูที่เดินตามหลังฉันกับไอโกะมาพูดขึ้นเสียงเรียบ พร้อมกับมองมาที่เราสองคงอย่างเอือมๆ
“ไม่อนุญาตค่ะ” ไอโกะหันกลับไปบอกร่างบางด้านหลังพร้อมกับส่งยิ้มไปให้กับมายู
“ฮ่าฮ่าฮ่า มายูน่าสงสารจัง”
“พันดาว”
“ไอโกะมายูดุดาว” ฉันรีบหันไปร้องหาตัวช่วยทันที
“โอ๋ๆ ไม่ต้องทะเลาะกันถึงแล้วค่ะ” ไอโกะหันมาบอกกับฉันและมายู ก่อนที่เธอจะเดินเข้าไปคุยกับพนักงานของร้านทิ้งให้ฉันยืนเถียงกับมายูอยู่สองคน
“เป็นแฟนกันแล้วใช่ปะ” ฉันกระซิบถามเพื่อนสนิทของตัวเองเบาๆ เพื่อให้เราได้ยินกันแค่สองคน พร้อมกับมองไปที่ร่างบางตรงหน้าอย่างรอคำตอบ
“ดูออกเหรอ” ร่างบางตรงหน้าเอ่ยถามฉันพร้อมกับมองมาที่ฉันอย่างอึ้งๆ
“นี่อย่ามาดูถูกสายตาอันเฉียบคมของพันดาวคนนี้นะ อีกอย่างมองจากนอกโลกยังดูออกเลย...ตอบคำถามดาวก่อนสิ ว่าไง...” ฉันยังคงเซ้าซี้ร่างบางตรงหน้าไม่เลิก
“อืม”
“แล้วทำไมทำหน้าแบบนั้นล่ะ” ฉันเอ่ยถามร่างบางตรงหน้าออกไปด้วยความสงสัย เพราะสีหน้าของเธอดูไม่ค่อยดีเอาซะเลยน่ะสิ
“ที่นี่ไม่ค่อยเหมือนที่ไทยน่ะ ที่บ้านของไอโกะเองก็น่าจะยังไม่ยอมรับเรื่องนี้” มายูเอ่ยบอกกับฉันเสียงอ่อนลง
“เอาน่า...ทุกอย่างมันจะดีขึ้นนะ ขอแค่คนสองคนรักกัน จับมือไปด้วยกัน ดาวเชื่อว่าไม่มีใครทำลายความรักของมายูกับไอโกะได้หรอกนะ...เชื่อฉันสิ” ฉันเอ่ยบอกกับร่างบางตรงหน้าด้วยน้ำเสียงสดใสพร้อมกับส่งยิ้มไปให้เธออย่างให้กำลังใจ
“ดาวคิดแบบนั้นจริงน่ะเหรอ” ไอโกะที่เดินกลับมาได้ยินพอดีเอ่ยถามฉันขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ไม่ต่างจากมายูเท่าไหร่นัก
“ใช่ค่ะ...ความรักไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นกับใครก็ได้นะ แต่ตอนนี้มันเกิดขึ้นกับมายูและไอโกะแล้ว ดาวเชื่อว่ามันจะสดใสและงดงาม แต่ถ้าวันไหนที่มันมืดมนไปบ้างก็ขอแค่ทั้งสองคนจับมือกันไว้ยังไงก็ต้องผ่านไปได้...ดาวเชื่อแบบนั้น เชื่อแบบนั้นจริงๆ” ฉันเอ่ยบอกกับทั้งสองตรงหน้าด้วยน้ำเสียงหนักแน่น พร้อมกับส่งยิ้มหวานไปให้กับพวกเธอ
ฉันไม่ใช่คนโลกสวยอะไรหรอกนะ แต่ฉันเชื่อมาตลอดว่าถ้าเมื่อไหร่ที่คนสองคนรักกันมากพอ ต่อให้มีคนอื่นมาทำลายความรักของพวกเขาสักกี่ครั้ง ก็ไม่ทำให้คนสองคนที่รักกันมากปล่อยมือออกจากกันได้หรอก ‘โจทย์ที่มันยากก็เผื่อพิสูจน์ว่าคนสองคนรักกันมากพอรึป่าว พอที่จะพากันผ่านบททดสอบเหล่านั้นไปได้หรือไม่’ ถึงสุดท้ายจะไปต่อด้วยกันไม่ได้ ฉันก็เชื่อว่าทุกคนจะเข้าใจว่าต่างคนต่างทำทุกอย่างอย่างดีที่สุดแล้ว และความรักของคนทั้งคู่ก็เคยเกิดขึ้นมาจริงๆ นี่เนอะ
“ขอบคุณนะดาว ไอโกะโชคดีจริงๆที่มีดาวเป็นเพื่อน” ไอโกะเดินเข้ามากอดฉันไว้ฉันจึงกอดตอบเธอกลับไปเช่นกัน ก่อนที่มายูจะเดินเข้ามากอดเราทั้งสองคนเอาไว้
“ดาวก็โชคดีที่มีมายูกับไอโกะเป็นเพื่อน” ฉันเอ่ยบอกกับทั้งสองคนออกไปเสียงอ่อน สิ่งที่ฉันพูดออกไปเป็นความรู้สึกที่ออกมาจากใจของฉันจริงๆ
“ความรักเป็นสิ่งสวยงามไม่ว่าจะรูปแบบไหน มันก็จะยังงดงามเสมอ”
“พอๆ พวกเราจะมาดราม่ากันหน้าร้านเนื้อย่างไม่ได้ ไปทานข้าวกันเถอะ” มายูพูดขึ้นพร้อมกับดันหลังของฉันและไอโกะให้เดินเข้าไปด้านใน
ร้านอาหารที่ไอโกะจองไว้เป็นร้านปิ้งย่างธรรมดา แต่ต้องจองมาก่อนเท่านั้นไม่รับวอล์คอิน เราเดินตามพี่พนักงานเข้าไปด้านในก่อนจะหยุดที่โต๊ะของเราซึ่งอยู่ติดกับกระจกใสหน้าร้าน ‘กินไปดูคนที่เดินผ่านไปผ่านมาก็น่าจะเพลินดีเหมือนกัน’
“สั่งเลยเรากินได้หมด” ฉันเอ่ยบอกกับไอโกะที่นั่งอยู่ข้างกับมายูซึ่งทั้งคู่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับฉัน
ระหว่างที่รอมายูกับไอโกะสั่งเนื้อฉันจึงมองไปรอบร้าน ก่อนที่จะหันไปสนใจกับผู้คนที่เดินผ่านไปผ่านมาที่อยู่ด้านนอกสายตาของฉันก็ไปสะดุดเข้ากับคนคนหนึ่ง นี่ขนาดมองไกลๆ ความหล่อของเขายังกระแทกตาของฉันได้ขนาดนี้เลยอะ
“โอ้โห!...โคตรหล่อเลยอะ” ฉันร้องออกมาอย่างอึ้งๆ พร้อมกับมองไปที่ร่างสูงตรงหน้าอย่างไม่ยอมละสายตาไปไหน ทำให้มายูและไอโกะที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามหันไปมองตามสายตาของฉัน
“หนุ่มรูปหล่อที่นี่มีให้ดาวได้เชยชมอีกเยอะ จะรีบตื่นเต้นไปทำไมกัน”
“หื้ม?” ฉันหันไปมองไอโกะเล็กน้อย ก่อนจะหันไปมองร่างสูงที่กำลังเดินมาทางเรา ยิ่งเข้ามาใกล้ออร่าของเขาก็ยิ่งชัดเจนมากขึ้นไปอีก ‘นี่เขาเป็นพระเอกที่ออกมาจากมังงะที่ฉันชอบอ่านรึไงนะ’
EPISODE 03 : Delphinium(ดอกเดลฟิเนียม - ดอกไม้แห่งความสบายใจ ความสนุกสนานในโลกที่สดใสในมุมมองของคุณ)“เธอเข้ามาทำให้โลกทั้งใบของฉันมีชีวิตชีวาขึ้นนะรู้ไหม”[PUNDAO’S PART]-SHIBUYA (ชิบูย่า)-“ดาวจะชอบใครก็ได้ในประเทศนี้แต่มีอยู่คนหนึ่งที่ถ้าเจอเขา...ดาวต้องออกให้ห่างที่สุด” ไอโกะพึมพำพร้อมกับมองไปที่ร่างสูงตรงหน้านิ่งๆ ร่างสูงที่มาพร้อมกับชายชุดดำเกือบ 10 คนหยุดเดินก่อนจะเงยหน้ามองขึ้นไปยังตึกฝั่งตรงข้ามนิ่งๆ ก่อนที่ขายาวของเขาจะก้าวเข้าไปด้านใน“...ห๊ะ?...” ฉันเอ่ยถามร่างบางตรงหน้าออกไปด้วยความสงสัย“พี่ชายคนละแม่ของฉันเอง”“หืม”“เคนจิ พี่ชายของไอโกะเองดาวห้ามเข้าใกล้เขาเด็ดขาด เข้าใจไหม” ฉันมองร่างบางตรงหน้าอย่างอึ้งๆ ไม่ใช่ว่าฉันไม่เชื่อเธอหรอกนะ แต่ฉันแค่สงสัยน่ะปกติไอโกะเธอไม่เคยมีท่าทีแบบนี้มาก่อนต้องมีเรื่องอะไรแน่ๆ...“เขาหล่ออะป่าว?” ฉันถามร่างบางตรงหน้าอย่างไม่ได้จริงจังมากนัก เพราะฉันแค่ชอบมองคนหล่อ แต่ไม่ได้มีความคิดอะไรที่เกินเลยไปมากกว่านั้นสักหน่อย“หล่อไม่หล่อไม่รู้ถึงยังไงฉันก็ไม่ยกให้หรอกนะ” ร่างบางตรงหน้าเอ่ยบอกกับฉันพร้อมกับส่งยิ้มหวานมาให้“แงงง...ทำไมอะ พันดาว
EPISODE 04 : Calla Lily(ดอกคาลล่า ลิลลี่ - ดอกไม้ของการเริ่มต้นใหม่และละทิ้งตัวตนเก่า เพื่อมีชีวิตใหม่ และยังเป็นดอกไม้แห่งความสว่างไสวให้กับผู้คนที่ได้รับอีกด้วย)“รู้ตัวไหม...เธอคือคนที่ดึงฉันขึ้นมาจากความมืดมนเลยนะ”[PUNDAO’S PART]“ช่วยด้วย!!!” เสียงร้องขอความช่วยเหลือดังมาแต่ไกล ทำให้ฉันกับร่างสูงตรงหน้าหันไปมองทางต้นเสียงพร้อมกัน ภาพตรงหน้าของพวกเราก็คือชายหนุ่มรุ่นราวคราวเดียวกันกับฉันกำลังโดนพวกนักเลงอีก 5 คนวิ่งไล่ตามมาในมือของพวกเขาถืออาวุธครบมือ ถึงอาวุธของพวกเขาจะเป็นไม้เบสบอลก็เถอะ มันอาจจะดูไม่ใช่อาวุธที่อันตรายแต่ถ้าใช้มันทำร้ายคนอื่นสำหรับฉันไม่ว่าอาวุธชนิดไหนก็อันตรายทั้งนั้น“ชะ ช่วยด้วยครับพวกเขาจะไถเงินผม” ระหว่างที่ชายทั้งสองคุยกันฉันจึงได้จังหวะเก็บขนมของตัวเองเข้าถุงตามเดิม ก่อนที่มือหนาของชายร่างสูงคนเดิมจะดึงแขนเรียวของฉันเข้าหาตัวเขาพร้อมกับดันฉันให้หลบออกไปจากทาง...“อะ อื้อ คนอะไรมือหนักชะมัด” ฉันนั่งลงไปกองอยู่พื้นทันทีตามแรงเหวี่ยงของเขา พร้อมกับยังคงกอดถุงขนมไว้แน่นอย่างหวงแหน ความเจ็บปวดบริเวณข้อเท้าของฉันทำให้ฉันไม่สามารถขยับตัวไปไหนได้ ฉันทำได้เพียงแ
EPISODE 05 : Buttercup(ดอกบัตเตอร์คัพ - ดอกไม้แห่งความสุภาพและให้เกียรติผู้อื่นเสมอ นอกจากนี้บัตเตอร์คัพยังเป็นดอกไม้ที่ใช้แทนคนซื่อบื้อ ไม่ประสีประสาอีกด้วย)“ที่รัก...สิ่งที่เธอเป็นมันทำให้ฉันแพ้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า”[PUNDAO’S PART]วันเปิดภาคเรียน...วันนี้เป็นวันเปิดเทอมแรกหรือเปิดเทอมฤดูใบไม้ผลิ เนื่องจากฉันเรียนต่อในระรับปริญญาโทจะเป็นการศึกษาและทำวิจัย ซึ่งจะเรียนวิชาที่ลึกกว่าในระดับปริญญาตรี เรียกว่า course work (การเรียนการสอนรายวิชา) วิชาดังกล่าวยังแยกเป็นวิชาบรรยาย (kougi) และสัมมนา (seminaa) เรียกย่อๆว่า ‘เซมิ’ในช่วงของปีแรกฉันจะเรียนบรรยาย แต่เมื่อผ่านปีหนึ่งไปแล้วก็จะต้องส่งหัวขอวิทยานิพนธ์ที่แน่นอน และเริ่มต้นทำงานวิทยานิพนธ์และในภาคเรียนสุดท้ายฉันจะต้องส่งวิทยานิพนธ์เพื่อขอจบปริญญาโท เรียกว่า ‘ซูชิรมบุง’ ซึ่งจะมีการสอบในตอนท้ายด้วย หากวิทยานิพนธ์ไม่ผ่านเกณฑ์ฉันก็จะไม่จบหลักสูตร ดูเหมือนจะง่ายแต่ความจริงแล้วมันไม่ง่ายเลยสักนิด ฉันเรียนต่อในระดับปริญญาโทสาขาวิชาการออกแบบอุตสาหกรรม ถึงฉันจะมีความรู้มาบ้างแล้ว แต่ก็คงมีอีกหลายเรื่องที่ฉันยังคงต้องปรับตัว ‘ระดับพันดาวคนนี้ ผ่
EPISODE 01 : Verbena(ดอกเวอร์บีน่า - เป็นดอกไม้แห่งความสุขของคนในบ้าน หรือคนในครอบครัว)“เธอเป็นดั่งความสุขของคนในบ้าน หากต้องการที่พักพิงเธอก็สามารถกลับมาได้เสมอ”[PUNDAO’S PART]-ท่าอากาศยานนานาชาตินาริตะ-~ติ้งงงงง~ ~ติ้งงงงง~ ~ติ้งงงงง~“ขอโทษค่ะ”ทันทีที่ฉันกดเปิดโทรศัพท์เสียงข้อความก็ดังไม่หยุดจนทำให้ผู้หญิงที่ยืนอยู่ข้างๆ ของฉันหันมามองพร้อมกับแสดงสีหน้าไม่พอใจ ฉันจึงหันไปกล่าวคำขอโทษก่อนจะโค้งศีรษะให้เธอเล็กน้อย...มายู : พันดาวมายูรออยู่ที่หน้าประตูทางออกแล้วนะมายู : pictureพันดาว : รับทราบค่า รอดาวแป๊บน้า^^มายู : รอได้ๆพันดาว : ค่า... .................................................................................พันทิวา : ยัยพันดาวเธอถึงรึยังพันทิวา : เจอมายูไหมพันทิวา : เป็นห่วงว่ะ รู้งี้ไปด้วยก็ดีไม่น่าปล่อยให้ไปคนเดียวเลยว่ะพันดาว : ใจเย็นๆ ค่ะพี่ชาย หนูพึ่งลงจากเครื่องบินค่ะพันดาว : อีกอย่างน้องสาวของพี่ทิวาโตเป็นสาวแล้วด้วยไม่ใช่เด็กๆ สักหน่อยพันดาว : มายูมารอหนูแล้วค่ะ พี่ทิวาไม่ต้องเป็นห่วงนะพันทิวา : ไม่ให้ห่วงได้ไง น้องสาวของพี่ทั้งคนนะพันดาว : น้อง
EPISODE 05 : Buttercup(ดอกบัตเตอร์คัพ - ดอกไม้แห่งความสุภาพและให้เกียรติผู้อื่นเสมอ นอกจากนี้บัตเตอร์คัพยังเป็นดอกไม้ที่ใช้แทนคนซื่อบื้อ ไม่ประสีประสาอีกด้วย)“ที่รัก...สิ่งที่เธอเป็นมันทำให้ฉันแพ้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า”[PUNDAO’S PART]วันเปิดภาคเรียน...วันนี้เป็นวันเปิดเทอมแรกหรือเปิดเทอมฤดูใบไม้ผลิ เนื่องจากฉันเรียนต่อในระรับปริญญาโทจะเป็นการศึกษาและทำวิจัย ซึ่งจะเรียนวิชาที่ลึกกว่าในระดับปริญญาตรี เรียกว่า course work (การเรียนการสอนรายวิชา) วิชาดังกล่าวยังแยกเป็นวิชาบรรยาย (kougi) และสัมมนา (seminaa) เรียกย่อๆว่า ‘เซมิ’ในช่วงของปีแรกฉันจะเรียนบรรยาย แต่เมื่อผ่านปีหนึ่งไปแล้วก็จะต้องส่งหัวขอวิทยานิพนธ์ที่แน่นอน และเริ่มต้นทำงานวิทยานิพนธ์และในภาคเรียนสุดท้ายฉันจะต้องส่งวิทยานิพนธ์เพื่อขอจบปริญญาโท เรียกว่า ‘ซูชิรมบุง’ ซึ่งจะมีการสอบในตอนท้ายด้วย หากวิทยานิพนธ์ไม่ผ่านเกณฑ์ฉันก็จะไม่จบหลักสูตร ดูเหมือนจะง่ายแต่ความจริงแล้วมันไม่ง่ายเลยสักนิด ฉันเรียนต่อในระดับปริญญาโทสาขาวิชาการออกแบบอุตสาหกรรม ถึงฉันจะมีความรู้มาบ้างแล้ว แต่ก็คงมีอีกหลายเรื่องที่ฉันยังคงต้องปรับตัว ‘ระดับพันดาวคนนี้ ผ่
EPISODE 04 : Calla Lily(ดอกคาลล่า ลิลลี่ - ดอกไม้ของการเริ่มต้นใหม่และละทิ้งตัวตนเก่า เพื่อมีชีวิตใหม่ และยังเป็นดอกไม้แห่งความสว่างไสวให้กับผู้คนที่ได้รับอีกด้วย)“รู้ตัวไหม...เธอคือคนที่ดึงฉันขึ้นมาจากความมืดมนเลยนะ”[PUNDAO’S PART]“ช่วยด้วย!!!” เสียงร้องขอความช่วยเหลือดังมาแต่ไกล ทำให้ฉันกับร่างสูงตรงหน้าหันไปมองทางต้นเสียงพร้อมกัน ภาพตรงหน้าของพวกเราก็คือชายหนุ่มรุ่นราวคราวเดียวกันกับฉันกำลังโดนพวกนักเลงอีก 5 คนวิ่งไล่ตามมาในมือของพวกเขาถืออาวุธครบมือ ถึงอาวุธของพวกเขาจะเป็นไม้เบสบอลก็เถอะ มันอาจจะดูไม่ใช่อาวุธที่อันตรายแต่ถ้าใช้มันทำร้ายคนอื่นสำหรับฉันไม่ว่าอาวุธชนิดไหนก็อันตรายทั้งนั้น“ชะ ช่วยด้วยครับพวกเขาจะไถเงินผม” ระหว่างที่ชายทั้งสองคุยกันฉันจึงได้จังหวะเก็บขนมของตัวเองเข้าถุงตามเดิม ก่อนที่มือหนาของชายร่างสูงคนเดิมจะดึงแขนเรียวของฉันเข้าหาตัวเขาพร้อมกับดันฉันให้หลบออกไปจากทาง...“อะ อื้อ คนอะไรมือหนักชะมัด” ฉันนั่งลงไปกองอยู่พื้นทันทีตามแรงเหวี่ยงของเขา พร้อมกับยังคงกอดถุงขนมไว้แน่นอย่างหวงแหน ความเจ็บปวดบริเวณข้อเท้าของฉันทำให้ฉันไม่สามารถขยับตัวไปไหนได้ ฉันทำได้เพียงแ
EPISODE 03 : Delphinium(ดอกเดลฟิเนียม - ดอกไม้แห่งความสบายใจ ความสนุกสนานในโลกที่สดใสในมุมมองของคุณ)“เธอเข้ามาทำให้โลกทั้งใบของฉันมีชีวิตชีวาขึ้นนะรู้ไหม”[PUNDAO’S PART]-SHIBUYA (ชิบูย่า)-“ดาวจะชอบใครก็ได้ในประเทศนี้แต่มีอยู่คนหนึ่งที่ถ้าเจอเขา...ดาวต้องออกให้ห่างที่สุด” ไอโกะพึมพำพร้อมกับมองไปที่ร่างสูงตรงหน้านิ่งๆ ร่างสูงที่มาพร้อมกับชายชุดดำเกือบ 10 คนหยุดเดินก่อนจะเงยหน้ามองขึ้นไปยังตึกฝั่งตรงข้ามนิ่งๆ ก่อนที่ขายาวของเขาจะก้าวเข้าไปด้านใน“...ห๊ะ?...” ฉันเอ่ยถามร่างบางตรงหน้าออกไปด้วยความสงสัย“พี่ชายคนละแม่ของฉันเอง”“หืม”“เคนจิ พี่ชายของไอโกะเองดาวห้ามเข้าใกล้เขาเด็ดขาด เข้าใจไหม” ฉันมองร่างบางตรงหน้าอย่างอึ้งๆ ไม่ใช่ว่าฉันไม่เชื่อเธอหรอกนะ แต่ฉันแค่สงสัยน่ะปกติไอโกะเธอไม่เคยมีท่าทีแบบนี้มาก่อนต้องมีเรื่องอะไรแน่ๆ...“เขาหล่ออะป่าว?” ฉันถามร่างบางตรงหน้าอย่างไม่ได้จริงจังมากนัก เพราะฉันแค่ชอบมองคนหล่อ แต่ไม่ได้มีความคิดอะไรที่เกินเลยไปมากกว่านั้นสักหน่อย“หล่อไม่หล่อไม่รู้ถึงยังไงฉันก็ไม่ยกให้หรอกนะ” ร่างบางตรงหน้าเอ่ยบอกกับฉันพร้อมกับส่งยิ้มหวานมาให้“แงงง...ทำไมอะ พันดาว
EPISODE 02 : Tulip(ดอกทิวลิป - เป็นดอกไม้แห่งความรู้สึกดีๆ และความสมบูรณ์แบบทั้งในเรื่องความรัก ความสัมพันธ์หรือความเป็นเพื่อน)“โลกใบนี้สดใสขึ้น เพราะความน่ารักของคุณ”[PUNDAO’S PART]- PUNDAO’S APARTMENT-“เชิญค่า” ไอโกะเปิดประตูห้องของฉันที่อยู่เพียงชั้น 2 ของอพาร์ทเมนท์แห่งนี้ ฉันเดินตามไอโกะเข้าไปภายในห้องก่อนที่มายูจะลากกระเป๋าตามฉันมา ตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ไม่ขาดคิดขึ้นที่สนามบินมายูก็ยังไม่ยอมให้ฉันลากกระเป๋าเองอีกเลย“ว๊าวววว!!”“อาจจะเล็กไปหน่อยนะ แถวนี้ไม่มีห้องว่างแล้วน่ะ” มายูเอ่ยบอกกับฉันพร้อมกับลากกระเป๋าของฉันเข้ามาภายในห้องขนาด 107 ตารางฟุต ซึ่งถือว่าเล็กมากที่นี่มี 2 ชั้น มีบันไดขนาดเล็กที่สามารถเลื่อนไปทางซ้าย-ทางขวาได้ เพื่อขึ้นไปด้านบนซึ่งเป็นส่วนของที่นอนนั่นเอง ห้องขนาดเท่านี้เหมาะสำหรับพักอาศัยอยู่เพียงคนเดียวเท่านั้นอพาร์ทเมนท์นี้ถูกตกแต่งด้วยสไตล์ลอฟท์ เฟอร์นิเจอร์ที่ทางเจ้าของจัดไว้ให้ก็เข้ากับพื้นที่ที่มีอยู่อย่างจำกัด ในขณะที่ยังคงไว้ซึ่งความสะดวกสบายของผู้พักอาศัย“ดาวอยู่ได้สบายมากเลย ขอบคุณมายูกับไอโกะมากเลยนะ” ฉันเอ่ยบอกกับร่างบางต้องหน้าเสียงอ่อนพร้อม
EPISODE 01 : Verbena(ดอกเวอร์บีน่า - เป็นดอกไม้แห่งความสุขของคนในบ้าน หรือคนในครอบครัว)“เธอเป็นดั่งความสุขของคนในบ้าน หากต้องการที่พักพิงเธอก็สามารถกลับมาได้เสมอ”[PUNDAO’S PART]-ท่าอากาศยานนานาชาตินาริตะ-~ติ้งงงงง~ ~ติ้งงงงง~ ~ติ้งงงงง~“ขอโทษค่ะ”ทันทีที่ฉันกดเปิดโทรศัพท์เสียงข้อความก็ดังไม่หยุดจนทำให้ผู้หญิงที่ยืนอยู่ข้างๆ ของฉันหันมามองพร้อมกับแสดงสีหน้าไม่พอใจ ฉันจึงหันไปกล่าวคำขอโทษก่อนจะโค้งศีรษะให้เธอเล็กน้อย...มายู : พันดาวมายูรออยู่ที่หน้าประตูทางออกแล้วนะมายู : pictureพันดาว : รับทราบค่า รอดาวแป๊บน้า^^มายู : รอได้ๆพันดาว : ค่า... .................................................................................พันทิวา : ยัยพันดาวเธอถึงรึยังพันทิวา : เจอมายูไหมพันทิวา : เป็นห่วงว่ะ รู้งี้ไปด้วยก็ดีไม่น่าปล่อยให้ไปคนเดียวเลยว่ะพันดาว : ใจเย็นๆ ค่ะพี่ชาย หนูพึ่งลงจากเครื่องบินค่ะพันดาว : อีกอย่างน้องสาวของพี่ทิวาโตเป็นสาวแล้วด้วยไม่ใช่เด็กๆ สักหน่อยพันดาว : มายูมารอหนูแล้วค่ะ พี่ทิวาไม่ต้องเป็นห่วงนะพันทิวา : ไม่ให้ห่วงได้ไง น้องสาวของพี่ทั้งคนนะพันดาว : น้อง