มาดามแพชี่ยกมือทาบอก มือข้างที่กอดหลานรักไว้ กระชับแน่นขึ้น...เมื่อผู้หญิงที่นั่งอยู่ตรงหน้านั้น หาใช่ใครอื่น แม้เธอจะเคยเห็นหล่อนแค่ผ่านๆ เพียงครั้งเดียว มาดามก็แน่ใจนี่แหละคือผู้ให้กำเนิด แองเจลิน่า
‘ทิพยอาภา’
ผู้หญิงที่สามารถให้กำเนิดทายาทดีแลนได้...
“มันเป็นความจำเป็นที่ดิฉันไม่สามารถเลี่ยงได้...ตอนนี้คุณท่านรู้แล้วว่าดิฉันเป็นใคร เธอให้ดิฉันอยู่ จนกว่าแองเจิ้ลครบหนึ่งขวบค่ะ” ทิพยอาภาเล่าให้มาดามแพชี่ฟัง ความหวังที่จะได้เห็นบุตรสาวเจริญเติบโตทีละนิด หมดลงตั้งแต่ถูกจับได้ เวลานี้ช่วงเวลาที่เธอมีความสุข หดสั้นลงทุกที
“แล้วเธอก็ยอม?” เป็นคำถามที่เหมือนจะต่อว่าเธอกลายๆ
หญิงสาวยกมือปาดน้ำตาบนผิวแก้ม เธอยื่นมือสั่นๆ จับปลายเท้าของบุตรสาวไว้ “แล้วดิฉันจะทำอะไรได้ล่ะค่ะ หากหนี...ก็ยังไม่รู้ว่าจะไปรอดหรือเปล่า? มันจะเป็นการทำให้แองเจิ้ลลำบากเสียเปล่าๆ ลูกควรมีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง หาใช่การระหกระเหินไปในที่ต่างๆ ทั้งที่เขามีที่อยู่ที่ปลอดภัยรออยู่แล้ว”
หญิงผู้อาภัพกล่าวด้วยความระทมทุกข์...จะให้เธอหอบห
บทที่10.หยดน้ำตาบนหมอนนุ่มเห้อ...เสียงถอนลมหายใจรอบที่ร้อยในหนึ่งวัน...เมื่อหัวใจหม่นหมอง กลัดหนองจนเกือบขาดใจตาย ความทุกข์ที่เธอแบกรับไว้ ทำให้ไม่สามารถยิ้มได้เหมือนเดิม ไม่มีใครช่วยเธอได้สักคน...มันเหมือนเชือกที่ร้อยรัดพันธนาการเธอไว้ ค่อยๆ ขยับปม มัดแน่นเข้ามาทุกที จนแทบหายใจไม่ออกแต่จะให้ทำยังไงได้ นอกจากก้มหน้าทน...และทน เมื่อหัวใจของเธอผูกพันกับคนที่นี่ ไม่ว่าจะเป็นบุตรสาว หรือ แมทธิววันใดที่เดินออกจากคฤหาสน์ดีแลน...มันนั้นเธอคงเหลือแค่ซากเมื่อหัวใจทั้งดวงทิ้งไว้ที่นี่เสียแล้ว“หน้าเธอเศร้าจังเลยอริส!! ”สวีตตี้เจ้าเดิม หล่อนสนใจใคร่รู้ไปทุกเรื่อง ยิ่งคนใกล้ตัวแล้ว ยิ่งไม่มีทางคลาดสายตา“คิดถึงบ้านละสิ...ใหม่ๆ ฉันก็เป็น แต่เดี๋ยวนี้ชินแล้วล่ะ” หล่อนยังพูดเจื้อยแจ้ว...ไม่ได้สนใจด้วยซ้ำว่าคู่สนทนาจะเป็นอย่างไรแม่ลูกอ่อนสุดอาภัพยกมือปาดน้ำตา รีบสวมรอยเพราะไม่อยากให้คนอื่นล่วงรู้ความในใจของตนเอง“อืม...คิดถึง...” ห
ทิพยอาภาส่งตะกร้าใบเล็กในมือให้การ์ดหนุ่มใหญ่โดยที่ไม่ได้พูดอะไร ที่เธอทำคือกัดกระพุ้งแก้ม เพื่อไม่ให้ตัวเองเผลอแสดงความไม่พอใจ...เวลานี้เธอยังไม่พร้อมที่จะหันหลังให้กับคนที่นี่“เอะอะอะไรกัน?”แมทธิวเดินหน้าตึงเขามาสมทบ เขาขึงตาใส่ทิพยอาภาและหล่อนก็รีบก้มหน้าหลบสายตาของเขา“คนของแม่เลี้ยงเราน่ะ...ทำเป็นอวดดี สะเออะ!! อวดรู้ หล่อนไปเก็บของพวกนั้นมาจากข้างรั้ว...คงคิดจะทำดีเสนอหน้า แต่เปล่าเลย เป็นความคิดที่แย่มาก”มาดามเปรยบอกหลานชาย นางหรี่ตาจับพิรุธแมทธิวด้วย...ระหว่างผู้หญิงตรงหน้ากับตัวหลานชาย ยังมีเยื่อใยต่อกันหรือไม่?“อะไรครับคุณย่า?” ชายหนุ่มเดินเข้าไปประคองมาดามจูเลีย เขาขึงตาปรามทิพยอาภา เป็นการข่มขวัญหล่อนไม่ให้หล่อนหือ“ช่างเถอะ...ว่าแต่วันนี้ทำไมไปสาย”นางเหลือบมองนาฬิกาที่ข้อมือ ก่อนจะย้อนถามแมทธิวเสียงเรียบชายหนุ่มสะอึก เขายังไม่ทันคิดหาข้อแก้ตัว วันนี้เขาตั้งใจเบี้ยว เพราะมีความต้องการล้นอก และกำลังหาทางมาระบายออกกับผู้หญิงที่กำลังโดนเฉ่งคนนี้ไง“ไปสา
บทที่11.ค่ำคืนที่เป็นแค่ความฝัน...กลางดึกสงัด ทุกอย่างรอบตัวมืดมิด...แต่ตามทางเดินรอบคฤหาสน์...ยังมีแสงไฟส่องสว่าง ดังนั้น... บุรุษหนุ่มผู้หนึ่งที่ย่องมาอย่างเงียบเชียบ...จากปีกตึกด้านขวาของดีแลน มายังปีกตึกด้านซ้ายของดีแลน จึงต้องเลี่ยงหลบ แสงไฟนั่น เพราะเผื่อจะมีคนตาดีมองเห็น เขาไม่อยากกระโตกกระตากให้คนอื่นรู้...ความลับที่กำลังทำแต่แมทธิวไม่รู้...มีสายตาคู่หนึ่งจับตามองเขา พร้อมกับอมยิ้มเจ้านายหนุ่มปีนี้อายุสามสิบห้าปี เขาเป็นถึงหัวหอกของดีแลนคอมแพล็กซ์...แต่กลับทำตัวเหมือนหนุ่มรุ่นกระทง ไม่ต่างอะไรกับโรมิโอ...ที่กำลังจะปีนหน้าต่างไปหาจูเลียต...แตกต่างกันแค่...ทิพยอาภาไม่ใช่หญิงสูงศักดิ์...หล่อนเป็นแค่ซิลเดอเรลล่า...ที่ถูกซุกอยู่ในครัว ต่ำต้อยเรี่ยดิน...แววตาคมวาว พราวระยับ เมื่อย่องตามแมทธิวมาติดๆ เขารับคำสั่งมาให้ตามดู มาดามจูเลียไม่ได้ให้ขัดขวาง...ดังนั้น แมทธิวจึงผลุบหายเข้าไปในห้องนอนของบุตรสาว...โดยไม่มีใครขัดขวาง หรือบังเอิญผ่านมาเจอ เมื่อเอ็ดมันเคลียร์เส้นทางจนปลอดโปร่ง
เป็นเรื่องน่าอายหากมีบุคคลที่สามล่วงรู้ เขาควานหาตัวทิพยอาภาเป็นบ้าเป็นหลัง แต่เมื่อเจอตัวหล่อน เขากลับไม่คิดกระโตกกระตาก ขอเก็บหล่อนไว้ลับๆ เพื่อดื่มด่ำกับรสเสน่หาที่มีหล่อนผู้เดียวที่มอบให้เขาได้“ค่ะ ทิพจะไม่บอกใคร?”เธอมีเวลาช่วงสั้น ๆ แล้วทำไมเล่าเธอจะไม่กอบโกยช่วงเวลานี้ไว้ คำประกาศิตของมาดามจูเลียยังดังก้องอยู่ในหู วันใดที่แองเจลิน่าครบ1 ปี นั่นคือเวลาสิ้นสุดของเธอ และช่วงเวลานั้นขยับเคลื่อนเข้าใกล้เต็มทน...แมทธิวจูบเร็ว ๆ ที่ริมฝีปากอิ่มเต็ม เขาเคล้นคลึงเนินอกอิ่มหนักมือขึ้น จนหญิงสาวตัวสั่นแสงไฟที่ส่องสว่างมุมห้อง ทอดแสงเรืองรองมายังร่างสูงใหญ่ของแมทธิว แสงสว่างน้อยนิดนั่นแหละ ทำให้เธอเห็นว่า ชายหนุ่มสุดกำยำ กำลังไขว่แขนเพื่อสลัดเสื้อผ้าบนร่างกายของเขาออกไป แผงอกหนาหนั่นที่เธอเคยอิงแอบแนบซบ อยู่ช่วงเวลาหนึ่ง ปรากฏขึ้นต่อหน้าต่อตา...ลาดไหล่แข็งแกร่ง เนินอกที่อุดมไปด้วยมัดกล้าม เสน่หาเรือนกายที่สยบเธอได้อย่างชะงัด!!ผิวแก้มทิพยอาภาผ่าวร้อน เมื่อหวนนึกถึงช่วงเวลาสุดหวามของตัวเองกับแมทธิว“หือ...” ชายหนุ่มเลิกป
แมทธิวเบ้ปาก เขายกมือขึ้นหมายจะจับมืออ้วนป้อมของเด็กน้อยออกไปจากแขนแข็งแรง...เขาไม่ชอบเด็ก!!แต่...อะไรบางอย่างพุ่งปราดจากมือน้อยๆ นั่น วิ่งพล่านเข้าสู่หัวใจ เขาชะงัก จ้องมองนัยน์ตาใสแจ๋ว กับใบหน้ายิ้มแฉ่งนั่นแบบตะลึงงัน“ลองอุ้มแกดูไหมคะ?” เธอกระชับผืนผ้าให้แน่นขึ้น ขยับตัวช้อนอุ้มบุตรสาวมือของเธอจับอยู่ที่ซอกรักแร้ของแองเจลิน่า ยื่นร่างอ้วนกลมของบุตรสาวไว้ต่อหน้าแมทธิว“อย่าเลย...ฉันไม่เคย” ชายหนุ่มโบกมือปฏิเสธ เขาเสหลบตาบุตรสาวที่จ้องมองเหมือนกำลังรอความหวัง“ไม่มีใครทำเป็นตั้งแต่แรกหรอกค่ะ ทุกคนมีครั้งแรกเหมือนกันหมด ไม่ว่าจะเป็นคุณ หรือทิพ”หญิงสาวกล่าวให้กำลังใจ...เธอเองก็ร่วมลุ้น อยากให้แมทธิวทดลอง ‘อุ้ม’ แองเจลิน่าสักครั้งขาอ้วนๆ แกว่งไปมา...มือป้อมๆ ยัดใส่ปาก ดวงตาเริ่มพราวฉ่ำด้วยน้ำใสใส“ก็ได้ส่งมา หากฉันทำหลุดมืออย่ามาว่ากันนะ”ชายหนุ่มตัดใจ เขาตอบกลับเสียงห้วน...มือแข็งแรงยกขึ้นรอท่า พร้อมกับความรู้สึกตื่นเต้นที่ประเดประดังใส่“อย่าดิ้นสิ เดี๋
บทที่12.หัวใจหล่นหาย...เป็นเช้าที่หม่นหมองที่สุดสำหรับทิพยอาภา...เมื่อเวลาของเธอหมดลงคำประกาศิตของมาดามจูเลียก้องอยู่ในหัว เธอเก็บเสื้อผ้าของใช้ใส่กระเป๋าพร้อมกับน้ำตาที่หยดริน...“ทิพต้องไปแล้วค่ะคุณผู้หญิง” แม่ลูกอ่อนสุดอาภัพอุ้มลูกน้อยวัย1ปี ไปส่งถึงมือมาดามแพชี่พร้อมกับเอ่ยลา ข้างตัวเธอมีกระเป๋าเดินทางขนาดย่อม“เธอไม่ห่วงแองเจิ้ลเหรอทิพยอาภา”มารดาเลี้ยงของแมทธิวถามย้ำ นางน้ำตาซึมกับความกดดันที่โอบล้อมอยู่รอบตัวทิพยอาภาช้อนสายตาหม่นตรมขึ้นมองมาดามแพชี่ “ห่วงยิ่งกว่าชีวิตตัวเอง แต่เวลาทิพหมดลงแล้วค่ะ”“ใครล่ะ ใครกำหนดเวลานั่นให้กับเธอ?” สาวใหญ่เค้นเสียงถาม มันแหบสั่นและแห้งแร้งเหลือทน“ฉันเอง...หล่อนมีปัญหาเหรอแม่แพชี่!!” มาดามจูเลียเดินผ่านประตูหน้าเข้ามา นางยืนค้ำศีรษะทิพยอาภา ปรายตาหยันๆ มองผู้หญิงที่อาจจะทำให้ดีแลนเสียหาย“ดิฉันไม่กล้าหรอกค่ะคุณท่าน แต่อยากถามสักนิด... ทิพยอาภาผิดมา
แต่เขาก็จำหล่อนได้ แววตาภักดีของทิพยอาภานั่นไง...เป็นสิ่งเดียวที่ตราตรึงอยู่ในใจ...เขามั่นใจตนเองไม่ใช่คนเหลวไหล...เขากินเลือก...และป้องกันตัวดี...แต่เพราะอะไรไม่รู้...มันอาจจะเป็นเพราะความบริสุทธิ์ไร้เดียงสาของทิพยอาภาก็เป็นได้...เขาไม่เคยคิดถึง ‘คอนดอม’ ไม่คิดถึงสิ่งใด นอกจากครอบครองหล่อนให้ได้...แมทธิวถอนใจเฮือกใหญ่ๆ ระหว่างเขากับทิพยอาภายังไม่แน่ชัดนัก...ความรู้สึกคลุมเครือนั่น...มีเส้นใยบางๆ กั้นอยู่...ชายหนุ่มนิ่งเงียบไป เขาใช้ความคิด และกำลังตรองความรู้สึกของตัวเอง ที่มีกับผู้หญิงคนนั้น เขา รังเกียจ หล่อน หรือ รัก หล่อนกันแน่!!การเดินทางแสนยาวนานในความรู้สึกของคนใจคอไม่ดี...ถึงเวลาสิ้นสุดลง เมื่อมองเห็นประตูรั้วเหล็กยืนตระหง่านอยู่เบื้องหน้า...ประตูหน้าถูกเปิดก่อนที่รถยนต์ของเขาจะเคลื่อนที่ไปถึง มีรถยนต์ของดีแลนคันหนึ่ง วิ่งสวนออกมา...แมทธิวใจหายวูบ!! เขามั่นใจว่าตัวเองสายตาดี ผู้หญิงที่นั่งตอนหลังรถยนต์คันนั้น คือ...คนที่ให้กำเนิดแองเจลิน่า!!“เร็วหน่อย!!” เขาตบเบาะเร่ง ใจคอไม่ดี ร
บทที่13.ยอมแพ้โชคชะตา...แมทธิวยืนนิ่งเขากางแขนออก สายตาวิงวอนมองตรงไปยังผู้หญิงเบื้องหน้า หล่อนคงกำลังชั่งใจ ที่จะไปจากเขา หรือย้อนกลับมาหาเขากันแน่!! เวลานี้แมทธิวกำลังวัดใจกับโชคชะตา เพราะต่อให้ทิพยอาภา เดินหายลับเข้าไปในเกรท เขาก็ไม่มีวันปล่อยเธอไป... ชายหนุ่มสาบานกับใจตัวเอง ต่อให้หล่อนหนีไปซุกอยู่มุมไหนบนโลกใบนี้ก็ตาม เขาจะตามให้เจอ และจะไม่มีวันปล่อยให้หล่อนหลุดมือไป...อีกครั้งแน่!!เขายอมสยบแล้ว ยอมแพ้พรหมลิขิต หัวใจแกร่งกล้าแค่ไหน ก็ยังพ่ายแพ้ความเด็ดเดี่ยวของทิพยอาภาหล่อนเป็นผู้หญิงที่น่าชื่นชม...ไม่เคยปริปากตัดพ้อเขา มีเพียงแววตาเศร้าๆ แค่นั้น ที่ให้แอบมองตอนที่เขาเผลอหัวใจของหล่อนดั่งทองทา งดงามและล้ำค่า มากกว่าสิ่งใดหญิงสาวเม้มปากยืนนิ่ง...ตัดสินใจไม่ถูก ระหว่างหันหลังให้ผู้ชายที่ตัวเองรักกับการโผเข้าหาเขา แต่จะต้องผจญกับความเจ็บปวดแสนสาหัส เมื่อตนเองไม่มีค่าคู่ควรกับเขาสักนิดหากเปรียบแมทธิวเป็นเทพบุตร...ตัวเธอเองก็คงเป็นแค่ขอทานข้างถนนฟ้าสูงลิ่
วันว่างของ ‘ดีแลน’ ในยุคนี้ คือการสังสรรค์กันตามประสาคนครอบครัวเดียวกัน มีแต่เสียงหัวเราะ กับรอยยิ้ม พลอยทำให้คนที่อยู่อาศัยลดความอึดอัดไปได้อย่างมากมาย บรรยากาศวันนี้ แตกต่างกับอดีตแบบสิ้นเชิง ไม่มีการแบ่งฝัก แบ่งฝ่าย ทุกคนคือสมาชิกในดีแลน...แบบเสมอภาคกัน…ดังนั้นภาพฉาวๆ ของแมทธิวจึงไม่เคยมี หากเทียบกับภาพหลุดในอดีต จากหนุ่มนักรักที่เป็นดั่งจอมวายร้ายของสาวๆ เขารักจริงทิ้งจริง...พร้อมเปย์ แต่ไม่รับผิดชอบ ทุกคนมีอิสระต่อกัน ไม่มีความผูกพัน มีแต่ความใคร่วันนี้แมทธิวเป็นเทพบุตรของลูกและภรรยา เขาเป็นคนดีที่เป็นตัวอย่างให้บุตรสาวเห็น ซ่อนความร้ายกาจไว้ด้านใน เขาจะงัดความร้ายนั่น ออกมาใช้ในตอนทำงาน กับคู่แข่งที่หวังจะเข้ามาทำลาย กับคนไม่หวังดีที่จ้องจะมาทำร้ายเท่านั้น...เขาซ่อนเขี้ยวเล็บไว้ และพร้อมจะงัดมาใช้หากมีสถานการณ์ฉุกเฉิน!!สาวโสดหลายคนพากันหมดหวัง เซเลปสาวๆ หลายคนเคยเข้ามาทาบ เมื่อข้างตัวแมทธิว เวลาออกงานสังคม...ไร้มาดามเคียงข้าง แต่ผลที่หล่อนได้รับคือหน้าแหกกลับมา...เมื่อชายหนุ่มยิ้มเย็นให้ พร้อมกับคำปฏิเสธชัดๆ โดยไม่คิดจะรักษาหน้าคนที่เ
บทที่18.ครอบครัวแสนรักงานวิวาห์ช็อกวงการเพิ่งจะผ่านไปได้ไม่นาน ภาพหลุดที่ปาปารัสซี่แอบถ่ายได้ ก็ทำร้ายความรู้สึกของสาวโสดอีกหลายแสนคน เมื่อภาพเหล่านั้น คือภาพความสุขของหนุ่มหล่อขวัญใจสาวๆ แมทธิวกับภรรยา แถมลูกน้อยที่กำลังเติบโตอีกหนึ่ง ที่ประจักษ์กับสายตาเลย คือผู้หญิงสวยข้างตัวเขา กำลังอุ้มท้องทายาทดีแลนอีกคนเป็นการทำลายความหวังลมๆ แร้งๆ ของสาวๆ จนไม่หลงเหลือซาก แต่ละนางได้แต่ปลง เพราะคงไม่มีทางแทรกเข้าไปในครอบครัวแสนสุขได้เลยเมื่อชายหนุ่มมีทั้งภรรยาสะสวยที่มีโซ่ทองคล้องใจ เส้นใหญ่เสียเหลือเกินภาพสวีทหวานกลางทะเล บนเรือยอร์ทส่วนตัว กับวันแสนสุขของครอบครัว หากมองดีๆ จะเห็นว่า ครอบครัวดีแลนที่อิหลักอิเหลื่อกันมาหลายสิบปี กลับมากระชับแน่นเหมือนนิมิตใหม่ที่แสนดี เมื่อสมาชิกทุกคนอยู่พร้อมหน้า ไม่ว่าจะเป็นมาดามจูเลีย หัวหอกอาวุโส อาเธอร์บุตรชาย มาดามแพชี่ศรีสะใภ้...และครอบครัวใหม่แกะกล่อง แมทธิว ทิพยอาภา...หลายคนอาจจะมองผ่านๆ เพราะก็แค่ครอบครัวไฮโซ พากันไปเที่ยว แต่สำหรับไทรีส เขามองแ
“แต่แกต้องอ่าน เพราะแกกำลังทำให้ดีแลนเสียหาย ใช่... ย่ายอมรับแม่นั่น แต่ไม่ได้หมายความว่าจะยอมให้แกเชิดชู หล่อนมีค่าขนาดนั้นเชียวหรือ”แมทธิวยืดตัวนั่งตรงๆ เขาเอื้อมมือจับมือเหี่ยวของมาดามจูเลีย“คุณย่าครับ...ทิพเป็นแค่เด็กกำพร้าผมไม่เถียง แต่เธอก็ไม่ได้สร้างความเสียหายให้กับเรา คนธรรมดาก็มีหัวใจ มันแปลกเหรอครับที่ผมจะ ‘รัก’ เธอ หากทิพไร้ค่า แล้วเรามีค่าแค่ไหนเชียวครับ หนึ่งชีวิต หนึ่งลมหายใจเหมือนกัน แตกต่างกันตรงไหนอะ”ประมุขเฒ่าจนคำตอบ...นางรู้ทุกชีวิตมีค่าเท่ากัน แตกต่างแค่อีโก้ที่แมทธิวย้ำเสมอ“ต่างกันตรงฉันกับแกเป็นดีแลน แต่หล่อนไม่ใช่!!”นางตอบแบบกวนอารมณ์ เมื่อพยายามชี้แนะให้หลานชายเข้าใจความคิดของนาง“งั้นทิพก็ไม่แตกต่าง เมื่อเธอก็เป็นดีแลน เช่นกัน”แมทธิวตอบกวนๆ กลับ เขายิ้มประจบ เมื่อมาดามตวัดตามอง“เอะ!! หมายถึงอะไรแมท แกต้องการบอกอะไรย่า”“ผมก็แค่อยากทำให้ถูกต้อง เพื่อลูก...ผมไปโบสถ์มาครับ และอีกเจ็ดวันจะมีพิธีสาบานตนต่อหน้าพระเจ้า
บทที่17.สาวปริศนาว่าที่มาดาม ดีแลน!!“คนพวกนั้นมาทำอะไรกัน?”ประมุขเฒ่าถามเสียงขุ่น นางมองกลุ่มคนกลุ่มใหญ่ที่ยืนอออยู่หน้าประตูรั้วเหล็กกับกล้องถ่ายรูปจำนวนมาก มีทั้งแบบซูมระยะใกล้ และแบบระยะไกล หลายคนพยายามปีนกำแพง หมายจะส่องให้เห็นถึงด้านในเอ็ดมันส์อมยิ้ม เขามองผ่านกระจก ก่อนจะหมุนตัวมาตอบนายจ้างเสียงแผ่วๆ “นักข่าวนะครับ เป็นธรรมดาที่สื่ออยากรู้จักว่าที่มาดามดีแลนคนใหม่”“จะอยากรู้ไปทำไม แม่นั่นมีอะไรดี!!” นางกระแทกเสียงตอบ เอนตัวพิงพนักเบาะ พ่นลมหายใจแรงๆ“สาวปริศนาที่ไม่ต่างอะไรกับหนูตกถังข้าวสาร...เป็นเรื่องปกติที่ใครๆ ก็อยากรู้จัก เมื่อผู้ชายที่หล่อนกำลังจะได้ครอง เป็นทายาทคนเดียวของดีแลนนะครับ”การ์ดหนุ่มใหญ่อธิบายช้าๆ เขาอมยิ้มกับความพยายามของสื่อ เมื่อหลายคนทำตัวไม่ต่างอะไรกับนักย่องเบาที่ป่ายปีนกำแพงหิน เพื่อจะล้วงข้อมูล“มาดามครับ ‘เธอ’ อยู่ที่นี่ใช่ไหม?”ช่วงจังหวะรถยนต์ชะลอความเร
คุณพระ!!เจ้าหน้าที่รัฐวิ่งฉิวผ่านหน้าหญิงสาวไป และเอ็มม่ากำลังตกใจ จนตัวแข็งค้าง เมื่อคนคนนั้นไม่ใช่ใครเลย...คนเจ็บปางตายที่ถูกนำมาทิ้งไว้ในอาณาเขตของเธอ...คือ แซกหญิงสาวเซแซ่ดๆ เธอเดินสะเปะสะปะ แทรกกลุ่มคนที่ดาหน้าเข้ามาอีก หลังเจ้าหน้าที่รัฐมาถึงเสียงซุบซิบ...ดังอืออึง!! แต่กลับไม่เข้าโสตประสาทของเอ็มม่าเลย เวลานี้หญิงสาวที่หยิ่งทะนง กำลังซวนเซ ภัยร้ายคืบคลานเข้ามาประชิดตัว จนแทบมองไม่เห็นทางหนีและมันเป็นสัญญาณบอกเธอเป็นในๆเรื่องที่เธอส่งให้แซกไปทำ...เหลวไม่เป็นท่าอีกครั้ง!!เรื่องช็อกวงการมายา...สะเทือนไปทั้งสังคมไฮโซ...กับข่าวฉาวของเอ็มม่า สจ๊วต...หลายข่าวกระหน่ำใส่เธอจนแทบจะต้องปิดกิจการหนี...ไม่ว่าจะสารพัดครีมที่หล่อนเป็นผู้ทำขึ้นมาจำหน่าย มีการตรวจพบสารปอร์ทปนเปื้อน แถมเบื้องหลังสถานความงามสวยหรู...คือความโสมมที่แอบแฝงอยู่ในสังคมไฮโซ... มีการค้ากามอยู่เบื้องหลัง และผู้ชายหลายคนที่เข้าไปใช้บริการต้องพากันสะดุ้ง!! เพราะแต่ละคนมีหน้ามีตา มีตำแหน่งในรัฐบาลค้ำคอ...พวกเขาจึงกลัวที่จะถูกแฉ และพลอยติดร่างแหไปด้วย
บทที่16.ทัณฑ์ยมทูต...“มันอยู่ไหน!” แมทธิวตะโกนเสียงแหลม ล้วงมัจจุราชสีเงินวาววับออกมาจากซอกเอว พลางขึ้นไกเสียงดัง ‘กริ๊ก’“นายครับ! ใจเย็นๆ ก่อนครับ” จาคอปเงยหน้าขึ้น เขารีบปรามเจ้านายเสียงอ่อนๆ“นั่นสิ...มันอยู่ไหน?” มาดามจูเลียเดินมายืนขนาบข้างหลานชาย นางเหลือบมองปืนในมือของอีกแมทธิวด้วยสายตาว่างเปล่าการ์ดหนุ่มกลืนน้ำลายลงคอฝืดๆ“จาคอป... มันอยู่ไหน!” แมทธิวเอ่ยถามอีกครั้ง พร้อมกับมองไปรอบๆ“ยะ อยู่ในโกดังครับ” การ์ดหนุ่มรู้สึกเสียวสันหลังวูบ กับความอำมหิตที่พวยพุ่งออกมาจากเจ้านายทั้งสองคน ไม่ว่าจะแมทธิว หรือมาดามผู้เฒ่า...ท่าทีเกรี้ยวกราดของหลานชายยังไม่เท่า ความสงบนิ่งของประมุขเฒ่าดีแลน นั่นหมายถึง...หากศัตรูที่รออยู่...ตอบคำถามไม่ถูกใจ มันคงตายแบบศพไม่สวย“นำกูไปจาคอป...กูอยากรู้แล้วล่ะ...ใครบงการมัน” แมทธิวยิ้มเหี้ยม เขาอยากรู้แล้วสิ...ว่าใครหน้าไหนที่กล้าลองดีกับดีแลน&ldq
เหมือนจะเป็นการเสียหน้า...ลูกสะใภ้หัวแข็งที่แม่สามีไม่โปรดรีบล้วงโทรศัพท์โทร. ออกทันควัน“คุณน้องคะ ที่สั่งใกล้เสร็จหรือยัง...คุณพี่อยากเซอร์ไพรส์หลานอายุใกล้ขวบแล้วล่ะ”ไม่ใช่มาดามจูเลียที่คิดการใหญ่เป็น นางคิดล่วงหน้าไว้นานแล้ว...ดังนั้น เครื่องเพชรที่นางสั่งน่าจะเสร็จก่อนประมุขเฒ่าเหมือนโดนลูบคม นางกำมือแน่น จ้องหน้าศรีสะใภ้ ด้วยแววตาขุ่นจัด“ไม่ต้องแล้วเอ็ดมันส์ ในเซฟฉัน น่าจะพอมีเพชรชุดเล็กๆ ไว้ให้แองเจิ้ลใส่เล่นแก้เหงา”เป็นการข่มกันในเชิง ระหว่างแม่ผัว กับลูกสะใภ้ โดยมีเด็กน้อยตาดำๆ เป็นคนกลาง โดยที่เจ้าตัวไม่รู้เรื่องรู้ราว แค่ไม่ถึงครึ่งชั่วโมง มีทั้งสร้อย ทั้งแหวนมากองตรงหน้า และคาดว่าในอนาคต แองเจลิน่าคงถูก สปอยจากสองผู้เฒ่า...ไม่น้อย...“แปะๆ”เด็กน้อยนั่งจุ่มปุก ตบมือเปาะแปะ มีมารดาคอยกำราบด้วยสายตา แต่ก็เหมือนเดิม...เด็กอายุไม่ถึงหนึ่งปี จะรู้อะไร...สาวใหญ่สองคนสะบัดหน้าใส่กัน แต่ไม่มีใครยอมถอยหลัง คอยพะนอแองเจลิน่า จนทิพยอาภาเหนื่อยใจแทน
หญิงสาวกรีดร้องเสียงแผ่วๆ ประจุไฟฟ้าในร่างกายแตกกระจัดกระจาย เธอขยับโยกจนเหงื่อโทรมกาย และกระโจนไปถึงฝั่งฝันก่อนแมทธิวจนได้ ชายหนุ่มรีบจับพลิกลำตัวอ่อนบางลงด้านล่าง เขาสาวบั้นเอวถี่ๆ กระทุ้งความแกร่งร้อนใส่ทิพยอาภาจนเรือนกายหล่อนสั่นสะเทือน พร้อมกับรีบปลดปล่อยเมล็ดพันธุ์ชีวิต สาดใส่กลีบดอกไม้ชุ่มน้ำจนเจิ่งนอง...“แอะ ๆ” เสียงแปลกๆ ทำให้เด็กน้อยที่เล่นคนเดียวส่งเสียงเรียกทิพยอาภาผลักอกสามี เธอโผเผไปหาบุตรสาว พร้อมกับรีบชะโงกหน้าไปให้แองเจลิน่าเห็น ก่อนที่บุตรสาวจะแผลงฤทธิ์เด็กน้อยยิ้มแฉ่งเมื่อเห็นคนคุ้นเคยในม่านตา...แมทธิวเดินมาทรุดใกล้ๆ เขาโอบทิพยอาภาไว้ ก่อนจะชะโงกหน้ากดจูบที่หน้าผากของบุตรสาว มือของชายหนุ่มลูบไล้อยู่ที่ข้างเอว...เมื่ออารมณ์หวามๆ ยังลอยเรี่ยอยู่รอบตัว“ไงคนสวย...อยากมีน้องมั้ย?”เขาเอ่ยปากถามลูก แต่กลับจ้องหน้าคนเป็นแม่“แอะๆ” เด็กหญิงโบกมือให้ว่อน ปากสีสดยิ้มย่อง ฉีกยิ้มจนเห็นฟันหมดทั้งปาก“หือ...ไม่เจอแค่ไม่กี่ชั่วโมง...ฟัน ‘ลูก’ ขึ้นอีกซี่แล้วนี่นาทิพ
บทที่15.ภัยร้ายรุกคืบ!!วอชิงตันดี.ซี. อเมริกา...“เป็นไงบ้างไท...แกสบายดีมั้ย?”ทิพยอาภายิ้มกว้าง เมื่อเพื่อรักต่อสายมาหาในเช้าวันหนึ่ง“ฉันสิต้องถามแก...แกเป็นไงบ้างทิพ ไอ้เวรนั่นมันกดขี่แกอีกหรือเปล่า?” ไทรีสถามกลับเสียงเคร่ง เขายังไม่ได้ตอบคำถามทิพยอาภา“ก็เรื่อยๆ นะ...ฉันสบายดี แกไม่ต้องเป็นห่วงไปหรอก” หญิงสาวเก็บความไม่สบายใจไว้ในอก...แมทธิวไม่ได้บีบบังคับอะไรเธอ เขาและเธอปรับความเข้าใจกันใหม่ สิ่งเดียวที่ชายหนุ่มทำเป็นกิจวัตร คือความปรารถนามากล้นที่โยนใส่และทิพยอาภาปฏิเสธไม่ได้ด้วยสิ เธอเองก็ชอบที่จะได้อยู่ในอ้อมแขนของเขา...สิ่งเดียวที่หนักอกเธออยู่ตอนนี้ ก็คือมาดามจูเลีย...ท่านยังไม่ยอมรับเธอ แต่ทิพยอาภาก็ไม่เคยต้องการอะไรมากไปกว่านี้ ขอแค่ได้อุ้มชู ‘ลูก’ ไม่ต้องจำพรากกันเหมือนที่กลัว“แม่ผัวแกไม่เท่าไร พ่อผัวก็ด้วย...ที่น่ากลัวก็คงยังเป็นยายแก่นั่น”ไทรีสจีบปากพูด...ดีแลนแบ่งเป็นสองฝ่าย...ฝ่ายหนึ่งอ้าแข