“สวัสดีครับคุณชายซือ” ฉินเว่ยถงคู่ค้าของซือมู่อันเอ่ยทักทายเขาขึ้นพร้อมกับยื่นมืออวบอูมไป
“สวัสดีครับคุณฉิน” ซือมู่อันยื่นมือหนาของตนออกไปจับมือเขาเช่นกัน “นี่ฉินเวยเวย ลูกสาวคนเดียวของผมเองครับ เวยเวยสวัสดีคุณชายซือสิลูก” ฉินเว่ยถงรีบแนะนำสาวสวยที่อยู่ข้างกายของตนให้รู้จักกับชายหนุ่มรุ่นลูกตรงหน้าทันที ฉินเวยเวยมองใบหน้าหล่อของซือมู่อันอย่างถูกใจ หล่อสมคำร่ำลือ หล่อจนเธออยากจะได้เขา สักครั้งก็ยังดี สาวสวยคิดในใจก่อนที่จะยื่นมือออกไปจับ “สวัสดีค่ะคุณชายซือ ยินดีที่ได้พบค่ะ” ฉินเวยเวยส่งยิ้มหวานให้กับชายหนุ่มที่ตนเองถูกใจ “สวัสดีครับคุณฉิน ยินดีที่ได้พบเช่นกัน” ซือมู่อันตอบพร้อมกับยื่นมือหนาออกไปจับ เธอบีบมือเขาเล็กน้อยราวกับเป็นการทอดสะพาน หากแต่ซือมูอันนั้นรู้ร้อยเล่ห์มารยาของผู้หญิงเหล่านี้เป็นอย่างดี เขาจึงปล่อยมือและเชิญสองคนพ่อลูกให้นั่ง สองบอดี้การ์ดหันมามองหน้ากันแล้วแสยะยิ้มออกมา ผู้หญิงสวยเปรี้ยวคนนี้ต้องถูกใจเจ้านายของเขาแน่นอน แต่ดูท่าทีของเจ้านายของเขาแล้วท่าทางจะไม่ปลื้มผู้หญิงคนนี้อย่างแน่นอน เสียงพูดคุยและหัวเราะดังมาจากสองหนุ่มต่างวัยและสาวสวยหนึ่งเดียวในโต๊ะ สาวๆรอบๆต่างมองมาที่โต๊ะของทั้งสามอย่างรู้สึกอิจฉา โดยเฉพาะผู้หญิงคนเดียวที่นั่งอยู่ใกล้ๆกับคุณชายซือ มีหรือที่ภาพของหนุ่มหล่อจะไม่ถูกกระจายออกไปให้เป็นข่าว ก็เพราะเขานั้นค่อนข้างฮิตฮอตพอสมควร มันจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะดึงดูดความสนใจจากสาวๆทั่วเมืองได้เป็นอย่างดี “ผมขอตัวกลับก่อนนะครับคุณชายซือ ผมขอฝากลูกสาวคนเดียวของผมไปเปิดหูเปิดตาที่ผับของตระกูลซือด้วยสักคนนะครับ เธอไม่ได้เที่ยวกลางคืนนานแล้ว” ฉินเว่ยถงเอ่ยขอตัว ก่อนที่จะทำตามแผนเพื่อให้บุตรสาวของตนได้เชื่อมความสัมพันธ์กับคุณชายซือ ผู้ชายที่มีอิทธิพลและร่ำรวยเป็นอันดับหนึ่งของเมืองแอล ซือมู่อันมองบนอย่างเบื่อหน่าย ทำไมเขาจะไม่รู้แผนการตื้นๆแบบนี้ แต่ถ้าอยากเสนอเขาก็จะสนองให้ แต่อย่าหวังว่าจะได้ความสัมพันธ์อะไรไปจากเขา โดยเฉพาะความรัก เพราะเขาจะไม่มีวันมอบมันให้กับผู้หญิงคนไหน “ไปกันเลยไหมคะคุณชายซือ” ฉินเวยเวยส่งสายตาหวานหยดให้กับซือมู่อัน สองบอดี้การ์ดต่างรู้กันดีว่าสาวสวยคนนี้ต้องการอะไร ไม่ใช่เธอคนแรกที่ถูกส่งมาเพื่อสานสัมพันธ์กับเจ้านายของเขา แต่คนพวกนั้นคิดผิด เพราะเจ้านายของพวกเขาไม่เคยสนใจผู้หญิงคนไหน และไม่มีวันที่จะมอบหัวใจให้ใครด้วย ก็เจ้านายของพวกเขาน่ะเย็นชาและไร้หัวใจซะขนาดนั้น “ไปครับ” ซือมู่อันตามน้ำ เขาเดินเคียงข้างออกไปกับสาวสวยบุตรสาวของคู่ค้าทางตอนเหนือท่ามกลางสายตาอิจฉาของบรรดาลูกค้าสาวๆที่มองมาที่ฉินเวยเวย ส่วนเจ้าตัวนั้นคล้องแขนล่ำของคุณชายซืออย่างมั่นอกมั่นใจว่าชายหนุ่มสนใจในตัวเธอเช่นกัน ผับแห่งหนึ่งในตอนเหนือของตระกูลซือ สองหนุ่มสาวเดินเคียงข้างกันเข้าไปด้านในผับ ตลอดทางการ์ดต่างยืนตรงเคารพผู้เป็นนายใหญ่ของผับแห่งนี้ แต่สายตาทั้งหมดกลับจับจ้องไปยังสาวสวยเปรี้ยวที่เดินเคียงข้างมากับบอส ซึ่งใครๆต่างก็รู้ว่าคุณชายซือนั้นเย็นชาและไร้หัวใจขนาดไหน คนนี้ก็คงไม่พ้นจะเป็นคู่นอนคืนเดียวของเขาอีกแน่นอน “สวัสดีครับคุณชายซือ” ผู้จัดการร้านเดินออกมาต้อนรับซือมู่อันอย่างยิ้มแย้ม “สวัสดีหลงซีฮ่าว” ชายหนุ่มเอ่ยทักผู้จัดการร้านกลับ หลงซีฮ่าวทำงานให้กับตระกูลซือมาสองชั่วอายุคน ตั้งแต่รุ่นพ่อของเขายังอยู่ “คุณชายซือจะรับอะไรดีครับ” ผู้จัดการร้านเอ่ยถามอย่างนอบน้อม “คุณฉินจะรับอะไรดีครับ” ชายหนุ่มยังมีความเป็นสุภาพบุรุษอยู่บ้างจึงไม่ลืมที่จะเอ่ยถามบุตรสาวของคู่ค้าที่มาเป็นคู่ควงของเขาในคืนนี้ “ดิฉันขอเป็นวอดก้าแล้วกันนะคะ พอดีเป็นคนที่ชอบอะไรแรงๆ” สาวสวยส่งสายตายั่วยวนให้กับชายหนุ่มที่ตนหมายปอง ซือมู่อันเหล่ตามอง ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าสาวสวยข้างกายต้องการจะสื่ออะไร เขากำลังชั่งใจว่าจะเล่นกับเธอดีไหม เพราะเขาได้สั่งบอดี้การ์ดให้จัดผู้หญิงไว้ให้เขาแล้ว สองหนุ่มสาวนั่งดื่มกันไปเพียงไม่นาน สาวสวยข้างกายก็เริ่มออกอาการเมา จะเมาจริงหรือแกล้งเมาอันนี้ซือมู่อันมองแค่แว๊บเดียวเขาก็สามารถรู้ได้ทันที มือบางของสาวสวยเริ่มเลื้อยไปตามร่างหนาของซือมู่อันจนมือหนาของเขาต้องตะครุบเอามือบางมาจับไว้ ก่อนที่จะส่งสายตาให้กับสองบอดี้การ์ด เขามีผู้หญิงสำหรับคืนนี้แล้ว เขาจะพาเธอไปด้วยอีกทำไม พอออกไปจากผับหรูของตระกูลซือ ซือมู่อันก็สั่งให้หนึ่งในบอดี้การ์ดไปส่งสาวสวยที่หวังจะขึ้นเตียงกับเขาในคืนนี้ หากเขายังไม่มีผู้หญิง บางทีเขาอาจจะเลือกเธอสำหรับค่ำคืนนี้ก็ได้“คุณชายซือ.......คุณชายซืออยู่หนายค๊า.............” เสียงหวานดังขึ้นข้างร่างหนาสูงใหญ่ของต้าฉิน บอดี้การ์ดมือขวาของซือมู่อัน เขาเหลือบมองใบหน้าสวยที่มีเครื่องสำอางหนาเตอะเคลือบอยู่ ก่อนที่จะส่ายใบหน้าหล่อไปมา เขาเอือมระอากับสาวๆที่หวังจะขึ้นเตียงกับเจ้านายของเขาจริงๆ เธอคนนี้ไม่ใช่ผู้หญิงคนแรกที่เอาแต่ร่ำร้องเรียกชื่อเจ้านายของเขา ร่างสูงค่อยพยุงร่างบางไปยังรถยนต์คันหรูที่จอดอยู่ที่ผับแห่งนี้ก่อนที่จะพาเธอขึ้นรถและพาขับออกไปจากผับแห่งนี้อย่างรวดเร็ว หน้าที่ของเขาคือส่งหญิงสาวให้ถึงที่พักอย่างปลอดภัยทางด้านซือมู่อันกับจางหลงก็พากันกลับไปที่โรงแรม จางหลงโทรไปตามหญิงสาวที่เขาติดต่อไว้ให้เจ้านายของตนแล้ว เธอเป็นนางแบบหน้าใหม่ของเมืองแอล ค่าตัวของเธอไม่ถือว่าต่ำหรือสูงมากนัก แต่ถ้าหากถูกใจเจ้านายของเขาแล้ว เธอจะได้สมน้ำสมเนื้อแน่นอน ผู้หญิงที่เขาติดต่อมาให้เจ้านายนั้นล้วนแล้วแต่เต็มใจมาด้วยกันทั้งสิ้น นั่นก็เพราะความร่ำรวยและหล่อเหลาของคุณชายเย็นชาผู้นี้ ร่างสูงอาบน้ำเสร็จก็ออกมาจากห้องน้ำ ร่างหนามีเพียงผ้าขนหนูผืนเดียวเท่านั้นที่ห่อหุ้มร่างกายที่สวยงามของเจ้าตัวเอาไว้ ประตูห้องถูกเปิ
ทันทีที่ส่งแท่งเอ็นร้อนของตนเข้าไปจนสุดโพรงของนางแบบสาว ซือมู่อันก็เริ่มที่จะขยับสะโพกหนาของตนเข้าออกอย่างแรง และเป็นจังหวัดหนักหน่วง จนคนใต้ร่างร้องครวญครางออกมากับบทรักที่ไม่หอมหวานเลยสักนิด เขากระแทกกระทั้นเข้าออกอย่างไม่ปรานี เสียงครางหวานดังปะปนกับเสียงเนื้อกระทบกันดังไปทั่วห้องนอน “ตับๆๆๆ ..........อ๊าอ๊าอ๊ะอ๊า.............ตับๆๆๆๆๆ.............อื้ออ๊าคุณชายซือขา............อ๊า............” ซือมู่อันฟังเสียงครางของเจ้าหล่อนอย่างพอใจก่อนที่จะพลิกร่างบางให้นอนคว่ำหน้า มือหนาจับไปที่บั้นท้ายงอนของนางแบบสาวให้โก่งโค้งขึ้น ก่อนที่เขาจะสอดแทรกแท่งเอ็นร้อนที่ยังแข็งขึงเข้าไปในช่องทางรักจากด้านหลัง มือหนาสองข้างจับสะโพกทั้งซ้ายและขวาเอาไว้“อืม............ตับๆๆๆๆๆ ........อ๊า..............โอ้ว.............ตับๆๆๆๆ .............” “โอ้ว..........อืม................ตับๆๆๆ .............อา..................................” เสียงครางปนเสียงครางกระเส่าของชายหญิงดังขึ้นไม่ขาดสาย นางแบบสาวหัวสั่นหัวคลอนไปตามแรงกระแทกที่ถูกส่งไปจากทางด้านหลัง มือหนาจับยึดสะโพกกลมกลึงไว้มั่น ก่อนที่จะอัดกร
“ตับๆๆๆ ...............ตับๆๆ ...........ซี๊ดอ๊า...............อืม............อ๊าก.........................”เขากระแทกความเป็นชายเข้าไปหลายอีกหลายครั้งจนร่างหนาเกร็งกระตุกเสียงครางยาวจากร่างหนาดังขึ้นจากปากบางสีกุหลาบ ก่อนที่แก่นกายจะพ่นพิษออกมาเต็มถุงยางอนามัย เขาทำนางแบบสาวถึงจุดสุดยอดไปพร้อมกับเขานับครั้งไม่ถ้วน ทำเอานางแบบคนสวยนอนแผ่อวดร่างกายขาวผ่องไปบนเตียงนอนอย่างหมดเรี่ยวหมดแรง จากนั้นร่างหนาก็ผละออกจากร่างบางของนางแบบสาวก่อนที่จะถอดถุงยางอนามัยทิ้งลงไปในถังขยะที่อยู่ในไม่ไกลเตียงนอนสักเท่าไหร่ ชายหนุ่มเดินจากร่างบางไปอย่างไม่แยแส เขาอาบน้ำชำระล้างคาวโลกีออกจากร่างกายเสร็จก็เดินออกจากห้องน้ำมาโดยที่ตอนนี้สวมกางเกงนอนขายาวแต่ยังคงโชว์ให้เห็นแผงอกอันหนั่นแน่น นางแบบสาวเริ่มขยับตัวก่อนที่จะยันกายลุกขึ้น เธอส่งตาหวานเยิ้มไปให้เขา ตอนนี้เธอรู้สึกว่าเธอชักจะติดใจรสรักของเขาซะแล้วสิ แต่เธอก็ต้องยอมรับในข้อตกลงคือเขาจะไม่กินใครซ้ำ ไม่ว่าจะลีลาเด็ดดวงขนาดไหนก็ไม่เคยมีใครได้กลับขึ้นเตียงกับคุณชายซืออีกเลย ส่วนใครที่ไม่ทำตามข้อตกลงก็มักจะถูกเขาจัดการอย่างขั้นเด็ดขาด จนหมดอนาคตในหน้าที่ก
เวลาผ่านไปไม่นาน ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัยของทั้งสามสาวก็เป็นไปอย่างราบรื่น หลิวถิงถิงนั้นได้รับเงินค่าใช้จ่ายจากผู้มีอุปการคุณมาสองเดือนแล้ว แต่เธอนั้นไม่เคยเจอเขาตัวจริงเลยสักครั้ง เพราะส่วนมากเงินจะถูกโอนมาทาง Banking ออนไลน์ เธอเองก็ไม่ได้คาดหวังที่จะเจอกับเขา เพียงแต่ฟังจากเพื่อนๆ เล่ามาเธอก็อดที่จะอยากเห็นเขาไม่ได้ วันนี้เธอจึงตัดสินใจเข้าไปในอินเทอร์เน็ตเพื่อเสิร์ชดูชื่อของชายหนุ่มที่ขึ้นชื่อว่า สามีแห่งเมืองแอล มือบางเลื่อนดูรูปของผู้อุปการะ ที่มีหลากหลายอิริยาบถ เธอเองก็เป็นผู้หญิงคนหนึ่งที่ชื่นชอบผู้ชายที่หน้าตาดี แต่สำหรับเธอแล้วดีแค่หน้าตาไม่ใช่สิ่งที่เธอต้องการ “ดูอะไรอยู่อะ” เสียงของจ้าวซือซือดังขึ้นจากทางด้านหลังทำให้สาวสวยสะดุ้ง จนจ้าวซือซืออดที่จะมองเธอด้วยแววตาสงสัย “ปะ..เปล๊า....” เสียงสูงดังมาจากปากบาง “แน่ะ เสียงสูงเชียว ถิงถิงเธอโกหกไม่เนียนเลยรู้เปล่า ไหนดูอะไรอยู่ขอฉันดูหน่อย” จ้าวซือซือบอกพร้อมกับยื่นใบหน้าสวยเฉี่ยวเข้ามาใกล้หลิวถิงถิง มือบางรีบคว้ามือของเพื่อนรักเอาไว้ก่อนที่จะร้องกรี๊ดและทำตาโต“กรี๊ด...............ยัยถิงถิงแอบดูรูปผู้ชาย ที่สำคัญเป็นผู
ณ ตึกที่สูงที่สุดในเมืองแอล ร่างสูงกำลังยืนตรงอย่างสง่างาม สายตาคมทอดมองลงไปยังท้องถนนด้านล่างผ่านกระจกใสๆ เขากำลังครุ่นคิดบางอย่างที่ใครๆ ก็ไม่อาจเดาได้ แม้แต่บอดี้การ์ดสองคนที่สนิทกับเจ้านายที่สุดก็เช่นกัน ทั้งต้าฉิน และจางหลงนั้นเข้ามายืนอยู่ข้างในห้องได้เกือบยี่สิบนาทีแล้ว แต่คุณชายของพวกเขาก็ยังไม่สั่งการอะไรสักที ซึ่งมันไม่ปกติ สองบอดี้การ์ดหันมามองหน้ากัน ก่อนที่จะเกี่ยงกันดึงสติคุณชายให้กลับมา “แกดิ ต้าฉิน คุณชายชมแกบ่อยๆ” จางหลงเอ่ยขึ้นเบาๆ “แกดิ ทำงานถูกใจคุณชายที่สุด รับรองโดนด่าน้อยสุด” ต้าฉินกระซิบกระซาบ แต่มีหรือที่คนรสสัมผัสและการได้ยินไวอย่างคุณชายซือจะไม่ได้ยินที่สองหนุ่มบอดี้การ์ดเกี่ยงกัน “พอทั้งคู่แหละ ฉันเรียกมาเพราะอยากจะถามว่าเด็กในอุปการะของฉันกำลังทำอะไรอยู่ แล้วที่มหาวิทยาลัยมีปัญหาอะไรหรือเปล่า” คำตอบราบเรียบของซือมู่อันทำให้สองหนุ่มต่างตะลึงกันอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน คุณชายของเขาสนใจอะไรในตัวเด็กสาวคนนั้นกันนะ ถึงขนาดอยากจะรู้ว่าทำอะไรอยู่ หรือมีปัญหาอะไรไหม “อะเอ่อ เดี๋ยวผมจัดการเรื่องนี้ให้ครับ” ต้าฉินเป็นฝ่ายเสนอตัว ถึงแม้จะยังงงๆ กับพฤติกรรมคุณช
ณ บ้านสองชั้นที่เมื่อก่อนนี้เคยอบอุ่น และร่ำรวยไปด้วยสมบัติมากมายจากบรรพบุรุษ แต่ต้องมาจบลงที่ทายาทรุ่นนี้ นั่นก็คือหลิวหยาง ผู้ที่เป็นบิดาของหลิวถิงถิงนั่นเอง เพราะความไม่เอาไหน หลังจากภรรยาเสียชีวิตก็เอาแต่เคล้าสุรานารี จนได้เจอกับหยินเยว่ ซึ่งเป็นภรรยาคนปัจจุบัน แทนที่จะพากันรุ่งเรืองกลับพากันตกต่ำลงไปเรื่อยๆ สมบัติที่เคยมีก็ถูกหยินเยว่เป่าหูให้ขายจนหมด ยังดีที่ยังเหลือบ้านหลังนี้ไว้ซุกหัวนอน ก่อนหน้านี้ยังได้หลิวถิงถิง ที่เป็นฝ่ายหาเงินมาจุนเจือครอบครัว แต่ตอนนี้บุตรสาวนั้นได้ปลีกตัวออกไปอยู่ลำพังในรั้วมหาลัยได้สองเดือนแล้ว ไม่รู้ว่านังลูกทรพีมันเอาเงินที่ไหนไปเรียนต่อ “พี่หยาง ฉันหิวเนี่ย ยัยซือเยว่ก็ไม่มีเงินจะไปโรงเรียนแล้วด้วย เมื่อไหร่นังลูกสาวพี่มันจะกลับบ้านเอาเงินมาให้พี่ซื้ออะไรกินสักที มันหายไปจะเป็นเดือนแล้วนะพี่ เงินที่มันทิ้งไว้ให้ก็ร่อยหรอจนเกือบจะหมดแล้วเนี่ย” หยินเยว่บ่นถึงลูกเลี้ยงตัวดีกับสามีไม่เอาไหน “แล้วนี่ไอ้ตงตงมันหางานทำได้หรือยัง วันวันสร้างแต่หนี้ มีลูกแต่ละคน บัดซบสิ้นดี” หลิวหยางอดที่จะบ่นออกมาไม่ได้ เขาโทษแต่ลูกๆ แต่ไม่เคยโทษตนเองเลยที่เป็นหัวหน้
กริ๊ง...กริ๊ง.......กริ๊ง............ เสียงสมาร์ทโฟนของหัวหน้านักเลงดังขึ้น เขามองเบอร์ที่ไม่คุ้นก่อนที่จะรับสาย“ฮัลโหล มึงเป็นใคร” เสียงกร้าวกรอกไปในสาย“กูเอง จางหลง” สิ้นเสียงเหี้ยมของจางหลง หัวหน้านักเลงคุมบ่อนก็อ่อนเสียงลงทันที “อ้อ..เอ่อ พี่จางเองหรอครับ พี่โทรมาหาผมมีธุระอะไรหรือเปล่าครับ” น้ำเสียงนอบน้อมดังขึ้นทันทีที่รู้ว่าอีกฝ่ายเป็นใคร “ไอ้คนตรงหน้ามึงตอนนี้มันเป็นหนี้บ่อนนายมึงเท่าไหร่” จางหลงเอ่ยถามขณะที่สายตายังจับจ้องคนกลุ่มนั้นอยู่โดยไม่ละสายตา เขาโทรรายงานคุณชายซือแล้ว คุณชายซือบอกให้เขาใช้หนี้ให้หลิวตงตง แล้วพามันไปหาคุณชายที่บ้านหลังเล็กที่อยู่นอกเมือง “เอ่อ พี่จางรู้จักไอ้หมอนี่ด้วยหรอครับ” หัวหน้านักเลงเอ่ยถามด้วยความสงสัย คนกระจอกอย่างหลิวตงตงจะไปรู้จักกับมือซ้ายของคุณชายซือผู้มีอิทธิพลอันดับหนึ่งของเมืองแอลได้อย่างไรกัน “เอาเป็นว่าไอ้คนตรงหน้าแกมันเป็นของคุณชายซือ แกรู้เท่านี้พอ” สิ้นเสียงของจางหลงหัวหน้านักเลงก็ไม่ถามต่อ ก่อนที่จะบอกยอดหนี้จำนวน5หมื่นหยวนเท่านั้น จางหลงส่งลูกน้องให้มาพาตัวพี่ชายของหลิวถิงถิงมาขึ้นรถที่จอดรออยู่ โดยเขาไม่ได้เป็นฝ่ายลง
หลังจากที่จัดการพี่ชายของหลิวถิงถิงได้แล้ว ซือมู่อันกับบอดี้การ์ดก็พากันมุ่งหน้ากลับบ้านหรูหรือเรียกว่าคฤหาสน์ก็ไม่ผิด เพราะตั้งอยู่ในอาณาจักรอันกว้างขวางของตระกูลซือ หากเป็นเมื่อก่อนครอบครัวของเขายังมีความสุขดี จนมาสูญเสียบิดาไปจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ ทำให้เขาต้องสืบทอดตระกูลซือมาตั้งแต่อายุ28ปี ชายหนุ่มต้องเป็นทุกอย่างให้กับมารดาและตระกูล“กลับมาแล้วหรือมู่อัน” เสียงจากหญิงสูงวัยดังมาจากห้องรับแขก“ครับ แม่กำลังทำอะไรอยู่ครับ” ซือมู่อันเดินไปโอบกอดมารดาด้วยความรัก หญิงรับใช้มองมาที่เขาด้วยสายตาชื่นชม ถึงจะดูเย็นชา แข็งแกร่ง และดูน่าเกรงขามต่อหน้าคนอื่น แต่สำหรับมารดาแล้ว คุณชายซือก็เหมือนกับเด็กน้อยวัยสิบขวบในตอนนั้นไม่มีผิด “แม่กำลังรอลูกอยู่” ซือหลินซู่เอ่ยขึ้นขณะที่ยังโอบกอดบุตรชายที่รักอยู่ “รอผม แล้วแม่ทานข้าวหรือยังครับ” ซือมู่อันถามมารดาด้วยน้ำเสียงอบอุ่น “ทานแล้วล่ะ แต่แม่มีเรื่องอยากจะคุยกับลูก” คุณนายหลินซู่เอ่ยขึ้นขณะที่ใช้มือเหี่ยวย่นลูบใบหน้าหล่อเหลาของบุตรชาย เขามีใบหน้าหล่อเหลาคล้ายๆกับบิดาไม่ผิดเพี้ยนเท่าใดนัก“แม่มีเรื่องอะไรจะคุยกับผมหรือครับ” ซือมู่อันเอ่ย
วงแขนอบอุ่นผละออกจากร่างระหงของหญิงสาวที่ได้ชื่อว่าเป็นภรรยาทางพฤตินัยที่เขามาตามหาถึงเมืองนี้ เธอก้าวเดินไปตรงหน้าของมู่หลิน ก่อนที่จะออกคำสั่งให้สองบอดี้การ์ดซ้ายขวาของคุณชายซือให้ประคองเธอขึ้นมา เรื่องอะไรที่สองหนุ่มจะไม่ทำตามคำสั่งของว่าที่คุณนายซือ ทั้งต้าฉินและจางหลงเข้าไปประคองร่างอวบอัดของมู่หลินให้ยืนขึ้น สองเท้าเล็กก้าวเข้าไปใกล้ๆก่อนที่จะทำในสิ่งที่ทุกคนในแผนกไม่คาดคิด แม้แต่ไม่ไยดีอันเองก็ไม่คาดคิดว่าเด็กสาวตัวน้อยนั้นจะกล้าตบผู้หญิงที่ดูจัดจ้านกว่า “เพี๊ยะ!!!!! เพี๊ยะ!!!!! เพี๊ยะ!!!!” มือบางฟาดลงบนใบหน้าที่แต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางหนาเตอะอย่างสุดแรงถึงสามทีจึงหยุดมองก่อนที่จะเอ่ยออกมาด้วยความพอใจท่ามกลางสีหน้าตกใจของสองบอดี้การ์ด พนักงานทุกคนที่กำลังมองดูเหตุการณ์หรือแม้กระทั่งซือมู่อันหริอแม้แต่หญิงสาวที่เพิ่งถูกกระทำเอง “เป็นไงคะ เวลาที่เราไม่มีทางสู้แล้วโดนกระทำอะไรแบบนี้ คุณรู้สึกอย่างไรบ้าง อย่าคิดว่าลูกน้องทุกคนที่เขายอมคุณเพราะเขารักหรือเคารพในตัวคุณ แต่เพราะเขากลัวที่จะมีปัญหากับคุณจนทำงานที่นี่ไม่ได้มากกว่า แต่ขอโทษนะคะ เพราะว่าฉันไม่ใช่คนแบบนั้น!!” เสียงหว
ขณะที่หญิงสาวคู่กรณีกำลังตกตะลึงกับภาพที่เห็นอยู่นั้น ทุกคนที่มองดูเหตุการณ์อยู่ก็อดที่จะตกอกตกใจในสิ่งที่หุ้นส่วนคนสำคัญของท่านประธานกำลังกระทำต่อหญิงสาวรุ่นน้องที่เป็นพนักงานใหม่ไม่ได้ ร่างบางระหงของหลิวถิงถิงแทบจะลอยไปแนบอกหนั่นแน่นของหุ้นส่วนหนุ่มที่เป็นที่หมายตาของสาวๆ ในห้างสรรพสินค้าแห่งนี้ ดวงตากลมโตเบิกค้างอย่างตกใจเช่นกันที่เห็นเขา ตอนที่เห็นสองบอดี้การ์ดเข้ามาช่วยเธอ หญิงสาวก็ว่าช๊อไม่ไยดีแล้ว พอแขนเรียวถูกเขาดึงให้เข้าไปในอ้อมกอดที่อบอุ่นหญิงสาวก็อดที่จะน้ำตารื้นไม่ได้ ด้วยเพราะความคิดถึงที่ต้องจากเขามาเพราะความจำใจ “เป็นอะไรหรือเปล่าหือ ดูสิหน้าแดงเลย” เสียงนุ่มทุ้มไม่เย็นชาเลยสักนิดเอ่ยถามหญิงสาวออกมาพร้อมกับแววตาที่แสดงถึงความเป็นห่วง นิ้วเรียวนั้นลูบไล้ลงบนแก้มนวลที่บวมแดงขึ้นมาเล็กน้อย หลิวถิงถิงน้ำตาไหลออกมาด้วยอารมณ์ของคนที่กำลังมีครรภ์ “แล้วนี่ทำไมต้องถึงขั้นลงไม้ลงมือกันด้วย น้องเขาทำอะไรผิดหรือเปล่า” เสียงที่เอ่ยออกไปกับบุคคลอื่นเปลี่ยนเป็นเย็นชาทันที วงแขนกว้างยังคงโอบกอดร่างบางของหญิงสาวเอาไว้ไม่ยอมปล่อยทั้งๆ ที่เธอพยายามดันตัวเองออกมาให้หลุดพ้นจากวงแขนอันอ
พนักงานสาวๆ ต่างมองไปที่หุ้นส่วนของท่านประธานเป็นตาเดียวกัน และดูออกได้ไม่ยากว่าสาวๆ คิดอะไรกับเขา ก็เขานั้นทั้งสูง ทั้งหล่อล่ำ หุ่นราวกับเทพบุตรกรีก มู่หลินก็เป็นหนึ่งในนั้นที่แอบหวังในตัวของหุ้นส่วนท่านประธานคนนี้อยู่ไม่น้อย สายตายั่วยวนทอดสะพานไปให้คนข้างหน้าอย่างปิดไม่มิด หากแต่คนบนเวทีนั้นไม่ได้สนใจกับสายตาของสาวๆ เท่าไหร่นัก ดวงตาคมยังคงมองไปรอบๆ ก่อนที่จะกระซิบถามน้องชายต่างเมือง “ถิงถิงไปไหน วันนี้เธอมาทำงานไม่ใช่เหรอ” เสียงเย็นชากระซิบที่ข้างหูของฟางถง “ก็ใช่นะพี่มู่อัน ผมว่าเธอคงไม่ได้มาเข้าประชุมด้วย พี่จะไปดูที่ห้องทำงานไหมล่ะ” ฟางถงกระซิบถามเขากลับเช่นกัน ซือมู่อันจึงพยักหน้าให้เป็นการตอบตกลง “ครับ วันนี้ก็ขอให้ทุกคนทำงานกันอย่างมีความสุข และสนุกกับงานที่ทำด้วยนะครับ แยกย้ายกลับไปทำงานได้ครับ” เสียงเข้มของฟางถงเอ่ยขึ้นก่อนที่สองหนุ่มร่างสูงใหญ่ไล่เลี่ยกันจะพากันเดินออกจากห้องประชุมไป เสียงพูดคุยกรี๊ดกร๊าดราวกับผึ้งแตกรัง โดยเฉพาะกับสาวๆ ที่จับกลุ่มพูดคุยกันขณะที่เดินกลับไปทำงานที่แผนก หลิวถิงถิงยังคงไม่ได้สนใจอะไรหรือรู้สึกตื่นเต้นกับสิ่งที่พวกรุ่นพี่ได้ไปพบเจอก
เช้าวันใหม่ที่แสนสดใสของใครหลายๆ คน แต่ไม่ใช่สำหรับเธอ หลิวถิงถิงตื่นมาอาเจียนตั้งแต่เช้ามืดจนลี่หลินพลอยต้องตื่นนอนแต่เช้าไปด้วย ร่างบางก้มๆ เงยอยู่ที่หน้าคอห่านจนเพื่อนอีกคนต้องเดินเข้ามาถามพร้อมกับลูบหลังให้ “เป็นไงบ้างถิงถิง ไปทำงานไหวไหมเนี่ย” “อืม ไหว เมื่อวานน่าจะทานอาหารเยอะไปหน่อยจนอาหารไม่ย่อย เช้ามาเลยอาเจียนเยอะแบบนี้ ขอโทษนะลี่หลินที่ทำให้เธอต้องตื่นแต่เช้าเลย ทั้งๆ ที่เป็นวันหยุดพักผ่อนของเธอแท้ๆ” หลิวถิงถิงเอ่ยขึ้นอย่างรู้สึกผิด “ไม่เป็นไรหรอก เวลานอนเรามีทั้งวัน ว่าแต่เธอเถอะไปทำงานไหวแน่นะ ถ้าไม่ไหวจะได้โทรไปลาที่ฝ่ายบุคคลให้” ลี่หลินตอบก่อนที่จะเอ่ยถามเพื่อนสาวเพื่อความแน่ใจอีกครั้ง “เป็นไร เราไหวจ้ะ ขอบใจนะ” หลิวถิงถิงลุกขึ้นก่อนที่จะเตรียมตัวอาบน้ำ ลี่หลินจึงเดินออกมาและมองกลับไปด้วยสายตาสงสัย ‘สรุปหลิวถิงถิงไม่เคยมีแฟนมาก่อนแน่เหรอ แต่อาการของเธอเหมือนท้องเลยอะ’ ลี่หลินคิดในใจ แต่ก็ไม่กล้าที่จะคาดคั้นอะไรกับเพื่อนมากเพราะเรื่องบางเรื่องถ้าเพื่อนไม่อยากบอกนั่นแสดงว่าเธอไม่อยากให้รู้ หลังจากที่อาบน้ำแต่งตัวและทานอาหารเช้าเสร็จหลิวถิงถิงก็ไปขึ้นรถเมล์ที่หน
“ไม่ต้องทำหน้าตกใจ มันคือเรื่องจริง ฉันจะมารับเธอกลับเมืองแอล แม่ของฉันอยากเจอเธอ” ซือมู่อันบอกน้องชายที่ทำหน้าประหลาดใจ เขาได้ปรึกษากับมารดาเรื่องของเธอแล้ว มารดาบอกเขาว่าเขารักเธอ ให้เขาลองถามหัวใจตัวเองดู แต่ปากเจ้ากรรมมันดันพูดออกมาไม่ได้ เขาเลยอยากมาเจรจากับเธอเพื่อที่จะให้สถานะที่ไม่เคยให้ใครกับเธอ ยิ่งมารู้ความจริงที่ว่าเธอกำลังตั้งท้องลูกของเขา เขายิ่งมั่นใจ ไม่ว่ายังไงเขาก็จะตามเมียและลูกกลับไปเมืองแอลกับเขาให้ได้ “แล้วนี่พี่เคยบอกกับเธอหรือยังว่าพี่รู้สึกยังไงกับเธอ ผู้หญิงน่ะ ไม่ได้ต้องการอะไรไปมากกว่าคนที่รักเธอจากหัวใจบอกคำว่ารักให้เธอได้ยินหรอกนะพี่มู่อัน ผมอยากให้พี่บอกความในใจกับเธอ เชื่อผมเถอะ สิ่งที่พี่คิดว่ายากจะง่ายภายในพริบตาเลยล่ะ” ฟางถงเอ่ยถามก่อนที่จะแนะนำตามประสบการณ์ของตนกับฉินเวยเวย ที่ตอนแรกเธอคิดแค่ว่าเขารักสนุกกับเธอ ไม่ได้จริงจังอะไร จนวันที่เขาสารภาพออกมา มันทำให้เธอกล้าเปิดหัวใจและรักเขากลับเช่นกัน “ยังไม่เคยบอก นายก็รู้ว่าฉันมันเย็นชาไร้หัวใจ ฉันเคยรักใครซะที่ไหนกัน” เสียง
ทันทีที่รถตู้คันหรูจอดลงบริเวณที่จอดรถวีไอพีของห้างสรรพสินค้าชื่อดัง ร่างหนาสูงโปร่งก็แทบจะปลิวลงจากรถทันที ขายาวๆ ก้าวตรงไปขึ้นลิฟต์เพื่อตรงไปห้องทำงานของท่านประธานทันทีโดยมีสายตาจากสาวๆ ในบริษัทที่มองมาที่เขาอย่างตื่นเต้น แต่คนตัวสูงก็ไม่ได้สนใจสายตาของคนรอบข้างไม่ บอดี้การ์ดทั้งสองผู้ที่คอยทำหน้าที่ดูแลความปลอดภัยของคุณชายก็แทบจะเดินแกมวิ่งตามเจ้านายมือหนาเปิดประตูเข้าไปโดยไม่ได้เคาะ เลขาที่อยู่หน้าห้องที่กำลังจะเอ่ยปากบอกอะไรบางอย่างแก่ผู้มาใหม่ยังไม่ทันได้อ้าปากห้ามเลยด้วยซ้ำ“เห้ย!!! อะไรกันเนี่ยพี่มู่อัน เข้ามาไม่เคาะประตูก่อนเล่า” เสียงทุ้มสบถออกมามือหนาพรางรีบดึงเสื้อเกาะอกของแฟนสาวขึ้นไปอยู่ในสภาพเดิม ใบหน้าหวานของฉินเวยเวยแดงก่ำด้วยความอายพร้อมกับซบลงบนหน้าอกหนั่นแน่นของแฟนหนุ่ม ดีที่เธอหันหลังออกไปทางประตู ผู้มาใหม่อย่างคุณชายซือเลยไม่ทันเห็นอกอวบของตน ฟางถงมองคนมาใหม่อย่างงุนงง ปกติพี่ชายต่างเมืองคนนี้ของเขามักจะมีมารยาทเสมอ วันนี้มาแปลกที่ไม่โทรมาบอกก่อนและยังไม่ให้เลขาหน้าห้องรายงานเขาก่อนที่จะเข้ามาอีก “ขอโทษๆ ขอโท
“ว่าไง เธอมีแฟนมาก่อนหรือเปล่า ถ้าไม่มีก็คงจะเครียดแหละ แต่เท่าที่สังเกตตั้งแต่เธออยู่กับฉันมาเกือบสองอาทิตย์ ฉันเห็นเธอกินเก่งมากเลยนะ ดูเหมือนเธอจะหิวตลอด แล้วก็ชอบกินพวกของเปรี้ยวๆ บ่อยๆ ด้วย จนฉันอดที่จะคิดไปไม่ได้ว่าเธอกำลังจะมีน้อง” ด้วยความช่างสังเกตแต่เพราะยังไม่สนิทเลยไม่กล้าที่จะเอ่ยถามออกมา แต่ตอนนี้ทั้งเธอและเพื่อนใหม่เริ่มที่จะสนิทกันแล้วจึงไม่ยากที่จะถามด้วยความเป็นห่วง “ฉัน...ไม่เคยมีแฟนหรอก” เธอตอบเพื่อนใหม่ตามความจริง แต่เลือกที่จะปิดบังว่าเธอเคยนอนกับใครมา “ถ้าอย่างนั้นก็คงจะเป็นเพราะเครียดกับพักผ่อนน้อยแหละ วันนี้เธอไม่ได้ไปทำงานใช่ไหม ถ้าอย่างนั้นก็พักผ่อนต่อเถอะ ฉันจะไปทำงานก่อนล่ะ พรุ่งนี้ได้ข่าวว่าพี่ชายท่านประธานมาจากต่างเมืองด้วยนะ หล่อระเบิดเลยแหละจะบอกให้ พรุ่งนี้อย่าป่วยล่ะ เดี๋ยวจะพลาดอาหารตาเอาคิกๆ” ลี่หลินเอ่ยออกมาพรางโล่งใจที่เพื่อนสาวคนสวยของเธอไม่ใช่ว่าที่คุณแม่ เพราะเพิ่งจะเข้ามาทำงานได้ไม่ถึงเดือนเลยแถมยังเพิ่งเรียนจบอีกด้วย คงลำบากไม่น้อยถ้าฐานะไม่ดีแล้วต้องมาดูแลเด็กน้อยที่กำลังจะเกิดมา
และแล้ววันรับปริญญาของนักศึกษามหาวิทยาลัยแอลรุ่นของหลิวถิงถิงก็มาถึง สามสาวนั้นรวบผมขึ้นพร้อมกับแต่งหน้าจางๆ มองแล้วดูสวยงามทุกคนจนหนุ่มๆ อดที่จะเหลียวหลังมองตามไม่ได้ ส่วนสาวๆ ที่หมั่นไส้ในทีก็มองมาด้วยความอิจฉาแก๊งนางฟ้าหัวใจเย็นชาที่ไม่เคยมีข่าวว่าคบกับผู้ชายคนไหนเลยตลอดสี่ปีที่ผ่านมา และวันนี้คนที่ไม่คาดคิดว่าจะมาก็มา “สวัสดีสาวๆ สบายดีกันนะ พี่ขอแสดงความยินดีด้วยที่เรียนจบกันเสียที” เสียงทุ้มดังมาจากหนุ่มรูปหล่อร่างสูงโปร่งในชุดสูทสีขาวดำ “อ้าว สวัสดีค่ะพี่เจียอี พวกเราสบายดีค่ะ ขอบคุณมากๆ นะคะที่มา ว่าแต่ไม่เจอกันนานเลย พี่เจียอีสบายดีนะคะ” เป็นหลิวถิงถิงที่เอ่ยทักขึ้นตามแบบของคนที่มีอัธยาศัยและจิตใจดีก่อนที่จะมองไปยังเพื่อนสาวคนสนิท“พี่ทำงานอยู่ที่ไหนคะตอนนี้” เสียงหวานของเฉินเหม่ยหานเอ่ยถามขึ้นบ้าง“ก็บริษัทอสังหาริมทรัพย์ย่านกลางเมืองนั่นแหละ พอดีตอนนี้พี่ได้เป็นหัวหน้าวิศวกรที่นั่นแล้วล่ะ” หลินเจียอีตอบออกมาอย่างภูมิใจก่อนที่จะมองไปท่ใบหน้าสวยเฉี่ยวของหญิงสาวที่เขาตกหลุมรักเธอมานานหลายปีจนป่
มื้ออาหารฉลองเรียนจบผ่านไปอย่างสนุกสนาน กลุ่มของฟางอี้หลงกลับไปก่อนกลุ่มของหลิวถิงถิง สามสาวลองดื่มเบียร์ยี่ห้อหนึ่งที่ผลิตขึ้นจากผลไม้ จ้าวซือซือดูจะชำนาญและดื่มเก่งที่สุด ส่วนคนที่คออ่อนที่สุดน่าจะเป็นเฉินเหม่ยหาน เพราะเธอเริ่มพูดคุยด้วยน้ำเสียงอ้อแอ้ตั้งแต่หมดไปกระป๋องที่สามแล้ว สามสาวจึงพากันกลับหอพัก หากแต่หลิวถิงถิงนั้นมีคนของคุณชายซือมารอรับอยู่ที่หน้าร้าน เธอจึงบอกให้เพื่อนทั้งสองกลับไปก่อนเพราะเธอคงจะต้องไปคุยกับเขาให้เข้าใจว่าเธอกำลังจะไปทำงานที่เมืองอื่นหลังจากเรียนจบ รถตู้คันหรูติดฟิล์มสีดำเคลื่อนเข้าไปจอดที่คอนโดหรู สถานที่ประจำที่เธอมาบ่อยๆ ตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมา หญิงสาวมองไปรอบๆ ราวกับต้องการที่จะจดจำเอาไว้เป็นครั้งสุดท้าย จางหลงที่เดินมาส่งเธอก็มองอาการคนสำคัญของคุณชายด้วยความแปลกใจ เพราะปกติเวลาที่เธอมา เธอไม่เคยที่จะอ้อยอิ่งหรือสำรวจสถานที่นานเหมือนวันนี้ แต่เขาก็ไม่ได้เอ่ยถามอะไรออกไป “สวัสดีค่ะคุณชายซือ” เสียงหวานเอ่ยทักทายชายหนุ่มรูปงามที่กำลังนั่งจิบไวน์รอเธออยู่อย่างใจเย็น “มานั่งนี่สิ” เขาใช้มือหนาตบลงบนที่นั่งข้างกาย ขาเรียวพาร่างระหงเยื้องย่างเข้าไปหาชา