ข้าวฟ่างเดินออกมาจากร้าน ซึ่งฟีลิกซ์ที่นั่งอยู่ตรงนั้นเห็นพอดีก็เลยยิ้มกว้างออกมา วางแก้วกาแฟลงที่โต๊ะ ก่อนจะขยับตัวลุกขึ้น และเดินเข้ามาหาภรรยา"คุณมาทำไมคะ""ก็วันนี้คุณหมอนัดให้ไปอัลตร้าซาวนด์ไม่ใช่หรือไง พี่ก็มารับข้าวฟ่างไปหาหมอด้วยกันไง ก็อยากจะเห็นลูกที่อยู่ในท้องบ้าง""จะสนใจทำไมคะลูกตัวเองก็ไม่ใช่"หญิงสาวสะบัดหน้าใส่ชายหนุ่มด้วยความน้อยใจ ความรู้สึกที่เขาไม่มั่นใจในตัวเธอกับลูกยังคงอยู่ในหัวสลัดยังไงก็ไม่ออก มันเป็นปมในใจที่ยังคงอยู่ และคิดว่าคงต้องใช้เวลานานพอสมควรกับการที่เธอจะไม่รู้สึกกับคำพูดพวกนั้น"ทำไมพูดแบบนี้คะ พี่ขอโทษที่พูดไม่ดี ขอโทษที่พูดไม่คิด""รีบไปเถอะใกล้ถึงเวลาหมอนัดแล้วนี่""สวัสดีครับแม่รพี ผมขอพาน้องไปโรงพยาบาลนะครับ""แต่ว่าหนูนัดกับแม่แล้วค่ะว่าจะไปโรงพยาบาลด้วยกัน คุณไม่ต้องไปส่งก็ได้"เธอเอ่ยออกมาก่อนจะกวักมือเรียกคุณแม่ให้เข้ามา เพื่อที่จะได้ไปโรงพยาบาลด้วยกัน แต่ทว่ารพีไม่อยากให้ลูกสาวทำตัวเย็นชาใส่คนเป็นสามี ถึงแม้ว่าเขาจะพลาดที่เคยพูดไม่ดี คำพูดบางอย่างทำร้ายจิตใจ แต่ตอนนี้เขาก็รู้สึกผิดมากแล้ว และพร้อมที่จะรับผิดชอบทุกอย่าง เพราะฉะนั้นเราควรให้
หลังจากที่คุยกันอยู่ในห้องนานพอสมควร พยาบาลก็พาทั้งสองคนไปยังห้องอัลตร้าซาวนด์ ซึ่งตอนนี้คุณหมอรออยู่แล้ว วันนี้เธออาจจะได้รู้เพศลูก จะได้เตรียมตัวเพราะอีกไม่กี่เดือนเราสองคนก็จะได้เจอลูกแล้ว"พร้อมแล้วนะคะคุณแม่ มานอนลงตรงนี้เลยค่ะเดี๋ยวหมอจะอัลตร้าซาวนด์ให้ดูเด็กน้อย"ข้าวฟ่างทำตามที่คุณหมอสั่งอย่างว่าง่าย โดยที่มีฟีลิกซ์คอยประคองอยู่เคียงข้างไม่ห่าง คุณหมอก็ใช้เจลทาที่ช่วงท้องของเธอ จากนั้นก็ใช้อุปกรณ์บางอย่างหมุนตรงช่วงท้องของเธอ และภาพก็ฉายอยู่บนจอมอนิเตอร์ข้างหน้า"ตรงนี้เป็นศีรษะของน้องนะคะ มีตาสองข้าง มีจมูกโด่งด้วยนะเนี่ย มีปาก มีหูสองข้าง ซ้าย และขวาครบ"ทั้งสองคนมองหน้าจอมอนิเตอร์น้ำตาคลอ ตอนแรกก็ไม่ได้มีความพร้อมในการเลี้ยงเด็กหรอก ตัวเองก็ยังเรียนหนังสือไม่จบเลย แต่ด้วยความที่แต่งงานจดทะเบียนสมรสกับสามี จึงทำให้ทุกคนพอปล่อยผ่านกับเรื่องนี้ได้"แล้วสรุปว่าลูกผมได้เพศอะไรครับ""เดี๋ยวแป๊บนึงนะคะ"คุณหมอค่อย ๆ ตรวจ โดยที่สายตายังมองไปยังหน้าจอมอนิเตอร์ด้วยความตั้งใจ ใช้เวลาอยู่สักพักใหญ่ และดูเหมือนว่าตอนนี้พอมั่นใจมาได้บ้างประมาณ 90 เปอร์เซ็นต์ ว่าเด็กน้อยเป็นเพศอะไร"น้องเ
"ว่ามาเลยค่ะมีอะไรจะคุยกับหนูคะ""ถ้าพี่พูดอะไรไป ข้าวฟ่างสัญญาได้ไหมว่าจะไม่โกรธ แต่ที่พี่ต้องพูดเพราะแค่อยากให้ข้าวฟ่างเข้าใจสามีของเราบ้าง"หญิงสาวนิ่งเงียบไปด้วยความคิดหนัก เพราะดูจากประโยคคำพูดน่าจะเป็นเรื่องที่ไม่ควรพูด แต่พี่ทรายอยากจะให้เธอเข้าใจในตัวของคุณฟีลิกซ์ จึงต้องเลือกที่จะมาพูด"สัญญากับพี่นะว่าจะไม่โกรธ""ก็ได้ค่ะ ว่าแต่มันเป็นเรื่องอะไรคะ""พี่ไม่รู้หรอกนะว่าฟีลิกซ์พูดอะไรไม่ดีหรือเปล่า ถึงทำให้ข้าวฟ่างโกรธแบบนั้น แต่ว่าเรื่องมันก็มีที่มาที่ไป งั้นเอางี้ดีกว่าพี่ถามได้ไหมว่าข้าวฟ่างโกรธอะไรฟีลิกซ์"ทรายเอ่ยถามข้าวฟ่างไปตามตรง ถ้ามันเป็นอย่างที่เธอคิดจะได้อธิบายให้ตรงจุด ทั้งสองคนจะได้เข้าใจกันสักที"ก็ไม่มีอะไรหรอกค่ะ ตอนนั้นหนูท้องแล้วก็ไปบอกเขาว่าเรากำลังจะมีลูกด้วยกัน แต่ว่า...""เขาบอกว่าเด็กในท้องของข้าวฟ่างไม่ใช่ลูกเขาใช่ไหม""ใช่ค่ะ เขาพูดเหมือนว่าตัวเองเป็นหมัน มีลูกไม่ได้ก็เลยคิดว่าหนูไปนอนกับคนอื่นมา แล้วก็ให้เขารับผิดชอบ แต่ก็ไม่รู้เหมือนกันนะคะว่าเปลี่ยนไปตั้งแต่เมื่อไหร่ ช่วงหลังก็ยอมรับว่าเป็นลูกของตัวเอง แต่ความรู้สึกมันเสียไปแล้วค่ะ ข้าวฟ่างลำบากใจที
หลังจากที่ชำระเงินเสร็จเขาก็พาหญิงสาวเดินทางกลับมาที่บ้าน ซึ่งตอนแรกว่าจะไปส่งเธอที่บ้านของตัวเอง แต่คิดไปคิดมาเขาอยากจะพาคนรักกลับไปที่คฤหาสน์บ้าง หลายเดือนมานี้เธอไม่ยอมย่างกรายเข้าไปเลย"ไปหาคุณพ่อคุณแม่พี่ไหม ท่านคงอยากเห็นใบอัลตร้าซาวนด์ คงอยากจะรู้ว่าหลานเป็นเพศไหน ตัวขนาดไหนแล้ว"เขาก็แค่ลองถามหยั่งเชิงดู ถึงแม้ว่าหญิงสาวจะไม่ไปเขาก็ไม่โกรธหรอกนะ เพราะรู้ว่าความผิดที่ตัวเองทำมันมีมาก แต่ทว่าเขาคิดผิดแล้วก็รู้สึกแปลกใจไม่น้อยเลยเธอยอมทำตามคำร้องขอ"ได้ค่ะ"เธอตอบกลับคำขอของของเขา เรื่องที่ชวนไปยังคฤหาสน์ เล่นเอาตกใจไม่น้อยเลย เพราะโดยปกติจะไม่ยอมกลับไปกับเขาเด็ดขาด เพราะยังมีอารมณ์โมโหโกรธคนเป็นสามีอยู่"ทำไมถึง...""พูดเยอะจะไม่ไปแล้วนะคะ"และเมื่อหญิงสาวพูดแบบนั้นชายหนุ่มก็รีบหุบปากของตัวเองลง จากนั้นก็รีบขับตรงไปยังคฤหาสน์เพราะกลัวว่าภรรยาอาจจะเปลี่ยนใจได้ ใบหน้าจากที่มีคำถามแปรเปลี่ยนเป็นยิ้มออกมาแก้มปริ ใครจะคิดว่าคนรักของเขาจะยินยอมตามใจในที่สุด"ถึงแล้วค่ะ"และเพียงไม่นานเขาก็ขับรถมาจอดยังลานจอดรถของคฤหาสน์สุดหรู เปิดประตูรถเดินลงมาจากนั้นก็เปิดประตูให้ภรรยา ยื่นมือไปตรงห
หลังจากที่คุยกับผู้ใหญ่อยู่สักพัก ฟีลิกซ์ก็อยากให้ภรรยาขึ้นมาพักผ่อน เนื่องจากว่าวันนี้เธอใช้ร่างกายไปเยอะพอสมควร อาจจะต้องได้รับการพักผ่อนสักพัก ช่วงเย็นค่อยลงมาอีกที"นอนพักผ่อนเถอะค่ะ เหนื่อยมาตั้งแต่เช้าแล้วเดี๋ยวเจ้าตัวเล็กไม่ได้พักผ่อนนะ""ก็ดีค่ะง่วงอยู่พอดีเลย ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวหนูขึ้นไปนอนพักก่อนนะคะ เดี๋ยวเย็นนี้จะลงมาคุยด้วยค่ะ""จ้ะลูกรีบไปนอนเถอะ ถ้าหนูอยากกินอะไรก็บอกนะเดี๋ยวแม่จะให้แม่บ้านทำไปให้""เพิ่งกินมาเองค่ะไม่เป็นอะไรหรอก ถ้างั้นหนูขอตัวก่อนนะคะ"หญิงสาวเอ่ยออกมาก่อนจะขยับตัวลุกขึ้น ควงแขนชายคนรักเอาไว้ จากนั้นก็พากันเดินขึ้นไปที่ห้องนอน และเมื่อมาถึงหญิงสาวก็มองสำรวจทั่วห้อง ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ข้าวของทุกอย่างของเธอก็ยังคงอยู่ที่เดิมไม่หายไปไหน"หนูคิดว่าคุณจะทิ้งหมดแล้วซะอีก""จะทิ้งหมดได้ยังไงกันล่ะ พี่รู้ว่าอีกไม่นานเดี๋ยวหนูก็ต้องกลับมา เราอาบน้ำกันดีไหมคะ หนูจะได้สดชื่นขึ้นไง เดี๋ยวพี่อาบน้ำให้""ก็ดีค่ะ รู้สึกเหนียวตัวเหมือนกัน"เธอเอ่ยออกมาก่อนจะเดินไปยังตู้เสื้อผ้า เปิดดูว่าข้างในมีอะไรอยู่ ซึ่งก็เป็นชุดของเธอเกือบครึ่งตู้ เพราะช่วงเวลาที่งอนสามี และไม
หลังจากที่ทั้งสองคนมีความสุขด้วยกันอยู่ในห้องน้ำพอสมควรแล้ว ฟีลิกซ์ก็อาบน้ำให้ภรรยาจนเสร็จสรรพ จากนั้นก็พากันกลับเข้ามายังห้องนอน เปลี่ยนชุดเป็นชุดนอนให้สบายตัว"ใส่แบบนี้ดีกว่าเนาะ จะได้ไม่ต้องมีอะไรมารัดหน้าท้องด้วย""ไม่ใส่ก็ได้นะคะนอนสบายกว่านะ"หญิงสาวยิ้มมุมปากออกมาอย่างเจ้าเล่ห์ แต่ทว่าชายหนุ่มถึงกับกลืนน้ำลายลงคอดังอึก ท่อนเอ็นเริ่มพองโตขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อภรรยาสุดที่รักพูดจายั่วยวนแบบนั้น"เดี๋ยวก็ไม่ได้นอนหรอก หึ...""ไม่เอาค่ะหนูง่วงนอนแล้ว งั้นนอนก่อนนะคะ"เธอยิ้มออกมาก่อนจะขยับตัวล้มลงนอนบนหมอน จากนั้นชายหนุ่มก็หยิบผ้าห่มมาคลุมตัวภรรยาเอาไว้ เอาหมอนข้างมาให้หญิงสาวสวมกอดจะได้นอนสบายขึ้น เนื่องจากว่าช่วงหน้าท้องขยายใหญ่ขึ้นมากแล้ว การที่จะนอนตะแคงโดยที่ไม่มีอะไรค้ำอยู่ อาจจะทำให้อึดอัดเอาได้" นอนแบบนี้สบายขึ้นไหมคะ""สบายแล้วค่ะขอบคุณนะคะ""นอนหลับเถอะค่ะ เดี๋ยวช่วงเย็นพี่จะปลุกลงไปกินข้าวข้างล่างนะ"หญิงสาวยิ้มกว้างออกมาก่อนจะหลับตาลงด้วยใบหน้าที่ดูมีความสุขเป็นพิเศษ เธอมีความสุขในทุกครั้งที่ได้อยู่กับสามี ถ้าตอนนั้นไม่เกิดเรื่องราว ตอนนี้เราก็คงอยู่ด้วยกันไปแบบนี้แหละ แ
และในที่สุดทั้งสองคนก็มีวันนี้ วันที่มีความสุขมากที่สุดก็คือการที่เด็กน้อยได้คลอดออกมาอย่างปลอดภัย ถึงแม้ว่ามันจะเป็นความเจ็บปวดสำหรับคนเป็นแม่ แต่เชื่อเถอะว่ามันคือความเจ็บปวดที่งดงามสำหรับผู้หญิงคนหนึ่ง"ได้ลูกผู้ชายนะคะ แข็งแรงสมบูรณ์ครบ 32 คุณพ่อกับคุณแม่อยากจะลองอุ้มไหมคะ""อุ้มค่ะ..."น้ำเสียงเหนื่อยหอบของคุณแม่ที่พึ่งเบ่งคลอดโดยใช้แรงจนแทบจะหมดลมหายใจ จ้องมองไปยังเด็กน้อยที่ตอนนี้ถูกพันผ้าอย่างแน่นหนา มองมาทางพ่อกับแม่ตาใสแป๋ว"ดูสิตาใสแป๋วเลย""น้องลืมตาได้เลยค่ะเก่งมาก ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวจะให้คุณพ่อกับคุณแม่อยู่กับน้องสักแป๊บนึงนะคะ แล้วเดี๋ยวพยาบาลจะพาน้องไปตรวจร่างกายก่อน"พูดจบพยาบาลก็อุ้มเด็กน้อยมาวางไว้ให้ข้าวฟ่างตรงหน้าอก หญิงสาวพยายามใช้แรงที่ยังพอเหลืออยู่ โอบอุ้มลูกน้อยเอาไว้ก่อนจะยิ้มออกมา เงยหน้าขึ้นมองสบตากับสามีใบหน้าเอิบอิ่มไปด้วยความสุข"ดูลูกสิคะมองเราตาแป๋วเลย""ไงครับตัวเล็ก รู้จักคุณพ่อหรือเปล่า เราคุยกันตั้งแต่หนูอยู่ในท้องแล้วนะจำเสียงได้ไหม ต่อไปนี้พ่อกับแม่จะเรียกหนูว่า ฟรังค์... ลูกชายสุดที่รักของพ่อแล้วก็ของแม่""ชื่อน่ารักจังเลยค่ะ ดูสิคะไม่งอแงเลยลูก
ข้าวฟ่างกลับขึ้นมาในห้องนอนของตัวเอง อาบน้ำแต่งตัวใหม่ให้เรียบร้อยจากนั้นก็มาเปิดโน๊ตบุ๊ค เพื่อเรียนออนไลน์ในระหว่างที่ลูกชายไม่อยู่ ใกล้จะสอบปลายภาคแล้วจำเป็นจะต้องเรียนรู้หาข้อมูลใส่ตัวให้มากเธอนั่งเรียนไปนานเป็นชั่วโมง ก่อนจะชะงักไปเมื่อได้ยินเสียงประตูห้องถูกเปิดออก แน่นอนว่าสามีน่าจะกลับจากทำงานแล้ว"กลับมาแล้วเหรอคะ"ฟีลิกซ์เห็นภรรยากำลังนั่งอยู่หน้าโน๊ตบุ๊ค ซึ่งคาดเดาว่าน่าจะกำลังเรียนออนไลน์อยู่ ก็เลยไม่อยากจะรบกวนในตอนนี้"เรียนอยู่เหรอคะ เรียนไปก่อนนะเดี๋ยวพี่ไปอาบน้ำแป๊บหนึ่ง ไม่เห็นลูกเลยพ่อกับแม่ก็หาย""ไปเดินห้างค่ะ พ่อกับแม่หนูก็ไปด้วย""อ๋อ... โอเคค่ะงั้นตามสบายนะเดี๋ยวพี่ไปอาบน้ำก่อน"ชายหนุ่มเดินผ่านหญิงสาวก็ไม่ลืมที่จะยื่นมือไปแตะศีรษะของเธอไว้ จากนั้นก็โน้มใบหน้าเข้าไปใกล้ จูบศีรษะของภรรยาอย่างอ่อนโยน ก่อนจะเดินออกไปจากตรงนั้นทันทีข้าวฟ่างเห็นแบบนั้นก็ยิ้มออกมาอย่างมีความสุข ตั้งแต่ที่เราสองคนเข้าใจกันก็ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันไม่เคยมีปัญหาหรือกระทบกระทั่งกันอีก เขาทำตามที่สัญญามาโดยตลอด คำพูดอะไรที่จะกระทบจิตใจเขาจะยั้งเอาไว้ไม่หลุดออกมา ซึ่งมันก็เป็นเรื่องที่ดีทำให้
เวลาผ่านไปนานหลายปี จนตอนนี้ฟีลิกซ์อายุอานามได้สี่สิบกว่าปีแล้ว เชื่อไหมว่าเขากับภรรยาพยายามมีลูกด้วยกันถึงห้าคน สี่คนแรกเป็นผู้ชาย คนสุดท้ายเป็นผู้หญิง จึงทำให้ภรรยาสามารถทำหมันได้เพราะเขาพึงพอใจในจำนวนบุตรเท่านี้แล้ว"คุณพ่อครับ น้องตีกันอีกแล้ว"ฟรังค์ในตอนนี้อายุอานามได้เกือบสิบขวบ กำลังตะโกนเรียกคุณพ่อให้มาดูน้องคนอื่น ซึ่งตอนนี้กำลังแย่งไอแพดกันอยู่"อะไรอีกล่ะไอ้แสบทั้งหลาย จะทะเลาะกันทำไมพ่อไม่เข้าใจเลย พ่อซื้อไอแพดให้คนละหนึ่งเครื่องแล้วไม่ใช่เหรอ""พ่อครับ ฟิวชั่นมันแย่งของฟาร์ไปครับ อยากเล่นก็โหลดมาเองดิ จะมาแย่งของคนอื่นทำไม""ก็ฟิวชั่นอยากเล่นนี่นา พี่ฟาร์ก็โหลดให้ฟิวชั่นสิ"สองพี่น้องที่อายุอานามคลานตามกันมา ก็เริ่มแย่งไอแพดกันอีกครั้ง คนเป็นพ่อต้องเดินไปนั่งแทรกกลางระหว่างทั้งคู่ โหลดเกมในเครื่องให้เพื่อที่จะได้เลิกทะเลาะกันสักที"เดี๋ยวพ่อโหลดให้จะได้ไม่ต้องแย่งกัน"เขาจัดการเคลียร์ปัญหาให้ลูกเพื่อที่จะได้ไม่ต้องทะเลาะกัน ตอนแรกรบเร้าอยากจะมีลูกหลายคน แต่ทว่าตอนนี้ถึงกับกุมขมับ เพราะแต่ละคนซุกซนแทบทั้งนั้น โชคยังดีที่ลูกสาวยังเล็กน่ารักอ่อนโยนและเชื่อฟังคุณแม่ ส่วนไอ้แ
ข้าวฟ่างกลับขึ้นมาในห้องนอนของตัวเอง อาบน้ำแต่งตัวใหม่ให้เรียบร้อยจากนั้นก็มาเปิดโน๊ตบุ๊ค เพื่อเรียนออนไลน์ในระหว่างที่ลูกชายไม่อยู่ ใกล้จะสอบปลายภาคแล้วจำเป็นจะต้องเรียนรู้หาข้อมูลใส่ตัวให้มากเธอนั่งเรียนไปนานเป็นชั่วโมง ก่อนจะชะงักไปเมื่อได้ยินเสียงประตูห้องถูกเปิดออก แน่นอนว่าสามีน่าจะกลับจากทำงานแล้ว"กลับมาแล้วเหรอคะ"ฟีลิกซ์เห็นภรรยากำลังนั่งอยู่หน้าโน๊ตบุ๊ค ซึ่งคาดเดาว่าน่าจะกำลังเรียนออนไลน์อยู่ ก็เลยไม่อยากจะรบกวนในตอนนี้"เรียนอยู่เหรอคะ เรียนไปก่อนนะเดี๋ยวพี่ไปอาบน้ำแป๊บหนึ่ง ไม่เห็นลูกเลยพ่อกับแม่ก็หาย""ไปเดินห้างค่ะ พ่อกับแม่หนูก็ไปด้วย""อ๋อ... โอเคค่ะงั้นตามสบายนะเดี๋ยวพี่ไปอาบน้ำก่อน"ชายหนุ่มเดินผ่านหญิงสาวก็ไม่ลืมที่จะยื่นมือไปแตะศีรษะของเธอไว้ จากนั้นก็โน้มใบหน้าเข้าไปใกล้ จูบศีรษะของภรรยาอย่างอ่อนโยน ก่อนจะเดินออกไปจากตรงนั้นทันทีข้าวฟ่างเห็นแบบนั้นก็ยิ้มออกมาอย่างมีความสุข ตั้งแต่ที่เราสองคนเข้าใจกันก็ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันไม่เคยมีปัญหาหรือกระทบกระทั่งกันอีก เขาทำตามที่สัญญามาโดยตลอด คำพูดอะไรที่จะกระทบจิตใจเขาจะยั้งเอาไว้ไม่หลุดออกมา ซึ่งมันก็เป็นเรื่องที่ดีทำให้
และในที่สุดทั้งสองคนก็มีวันนี้ วันที่มีความสุขมากที่สุดก็คือการที่เด็กน้อยได้คลอดออกมาอย่างปลอดภัย ถึงแม้ว่ามันจะเป็นความเจ็บปวดสำหรับคนเป็นแม่ แต่เชื่อเถอะว่ามันคือความเจ็บปวดที่งดงามสำหรับผู้หญิงคนหนึ่ง"ได้ลูกผู้ชายนะคะ แข็งแรงสมบูรณ์ครบ 32 คุณพ่อกับคุณแม่อยากจะลองอุ้มไหมคะ""อุ้มค่ะ..."น้ำเสียงเหนื่อยหอบของคุณแม่ที่พึ่งเบ่งคลอดโดยใช้แรงจนแทบจะหมดลมหายใจ จ้องมองไปยังเด็กน้อยที่ตอนนี้ถูกพันผ้าอย่างแน่นหนา มองมาทางพ่อกับแม่ตาใสแป๋ว"ดูสิตาใสแป๋วเลย""น้องลืมตาได้เลยค่ะเก่งมาก ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวจะให้คุณพ่อกับคุณแม่อยู่กับน้องสักแป๊บนึงนะคะ แล้วเดี๋ยวพยาบาลจะพาน้องไปตรวจร่างกายก่อน"พูดจบพยาบาลก็อุ้มเด็กน้อยมาวางไว้ให้ข้าวฟ่างตรงหน้าอก หญิงสาวพยายามใช้แรงที่ยังพอเหลืออยู่ โอบอุ้มลูกน้อยเอาไว้ก่อนจะยิ้มออกมา เงยหน้าขึ้นมองสบตากับสามีใบหน้าเอิบอิ่มไปด้วยความสุข"ดูลูกสิคะมองเราตาแป๋วเลย""ไงครับตัวเล็ก รู้จักคุณพ่อหรือเปล่า เราคุยกันตั้งแต่หนูอยู่ในท้องแล้วนะจำเสียงได้ไหม ต่อไปนี้พ่อกับแม่จะเรียกหนูว่า ฟรังค์... ลูกชายสุดที่รักของพ่อแล้วก็ของแม่""ชื่อน่ารักจังเลยค่ะ ดูสิคะไม่งอแงเลยลูก
หลังจากที่ทั้งสองคนมีความสุขด้วยกันอยู่ในห้องน้ำพอสมควรแล้ว ฟีลิกซ์ก็อาบน้ำให้ภรรยาจนเสร็จสรรพ จากนั้นก็พากันกลับเข้ามายังห้องนอน เปลี่ยนชุดเป็นชุดนอนให้สบายตัว"ใส่แบบนี้ดีกว่าเนาะ จะได้ไม่ต้องมีอะไรมารัดหน้าท้องด้วย""ไม่ใส่ก็ได้นะคะนอนสบายกว่านะ"หญิงสาวยิ้มมุมปากออกมาอย่างเจ้าเล่ห์ แต่ทว่าชายหนุ่มถึงกับกลืนน้ำลายลงคอดังอึก ท่อนเอ็นเริ่มพองโตขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อภรรยาสุดที่รักพูดจายั่วยวนแบบนั้น"เดี๋ยวก็ไม่ได้นอนหรอก หึ...""ไม่เอาค่ะหนูง่วงนอนแล้ว งั้นนอนก่อนนะคะ"เธอยิ้มออกมาก่อนจะขยับตัวล้มลงนอนบนหมอน จากนั้นชายหนุ่มก็หยิบผ้าห่มมาคลุมตัวภรรยาเอาไว้ เอาหมอนข้างมาให้หญิงสาวสวมกอดจะได้นอนสบายขึ้น เนื่องจากว่าช่วงหน้าท้องขยายใหญ่ขึ้นมากแล้ว การที่จะนอนตะแคงโดยที่ไม่มีอะไรค้ำอยู่ อาจจะทำให้อึดอัดเอาได้" นอนแบบนี้สบายขึ้นไหมคะ""สบายแล้วค่ะขอบคุณนะคะ""นอนหลับเถอะค่ะ เดี๋ยวช่วงเย็นพี่จะปลุกลงไปกินข้าวข้างล่างนะ"หญิงสาวยิ้มกว้างออกมาก่อนจะหลับตาลงด้วยใบหน้าที่ดูมีความสุขเป็นพิเศษ เธอมีความสุขในทุกครั้งที่ได้อยู่กับสามี ถ้าตอนนั้นไม่เกิดเรื่องราว ตอนนี้เราก็คงอยู่ด้วยกันไปแบบนี้แหละ แ
หลังจากที่คุยกับผู้ใหญ่อยู่สักพัก ฟีลิกซ์ก็อยากให้ภรรยาขึ้นมาพักผ่อน เนื่องจากว่าวันนี้เธอใช้ร่างกายไปเยอะพอสมควร อาจจะต้องได้รับการพักผ่อนสักพัก ช่วงเย็นค่อยลงมาอีกที"นอนพักผ่อนเถอะค่ะ เหนื่อยมาตั้งแต่เช้าแล้วเดี๋ยวเจ้าตัวเล็กไม่ได้พักผ่อนนะ""ก็ดีค่ะง่วงอยู่พอดีเลย ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวหนูขึ้นไปนอนพักก่อนนะคะ เดี๋ยวเย็นนี้จะลงมาคุยด้วยค่ะ""จ้ะลูกรีบไปนอนเถอะ ถ้าหนูอยากกินอะไรก็บอกนะเดี๋ยวแม่จะให้แม่บ้านทำไปให้""เพิ่งกินมาเองค่ะไม่เป็นอะไรหรอก ถ้างั้นหนูขอตัวก่อนนะคะ"หญิงสาวเอ่ยออกมาก่อนจะขยับตัวลุกขึ้น ควงแขนชายคนรักเอาไว้ จากนั้นก็พากันเดินขึ้นไปที่ห้องนอน และเมื่อมาถึงหญิงสาวก็มองสำรวจทั่วห้อง ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ข้าวของทุกอย่างของเธอก็ยังคงอยู่ที่เดิมไม่หายไปไหน"หนูคิดว่าคุณจะทิ้งหมดแล้วซะอีก""จะทิ้งหมดได้ยังไงกันล่ะ พี่รู้ว่าอีกไม่นานเดี๋ยวหนูก็ต้องกลับมา เราอาบน้ำกันดีไหมคะ หนูจะได้สดชื่นขึ้นไง เดี๋ยวพี่อาบน้ำให้""ก็ดีค่ะ รู้สึกเหนียวตัวเหมือนกัน"เธอเอ่ยออกมาก่อนจะเดินไปยังตู้เสื้อผ้า เปิดดูว่าข้างในมีอะไรอยู่ ซึ่งก็เป็นชุดของเธอเกือบครึ่งตู้ เพราะช่วงเวลาที่งอนสามี และไม
หลังจากที่ชำระเงินเสร็จเขาก็พาหญิงสาวเดินทางกลับมาที่บ้าน ซึ่งตอนแรกว่าจะไปส่งเธอที่บ้านของตัวเอง แต่คิดไปคิดมาเขาอยากจะพาคนรักกลับไปที่คฤหาสน์บ้าง หลายเดือนมานี้เธอไม่ยอมย่างกรายเข้าไปเลย"ไปหาคุณพ่อคุณแม่พี่ไหม ท่านคงอยากเห็นใบอัลตร้าซาวนด์ คงอยากจะรู้ว่าหลานเป็นเพศไหน ตัวขนาดไหนแล้ว"เขาก็แค่ลองถามหยั่งเชิงดู ถึงแม้ว่าหญิงสาวจะไม่ไปเขาก็ไม่โกรธหรอกนะ เพราะรู้ว่าความผิดที่ตัวเองทำมันมีมาก แต่ทว่าเขาคิดผิดแล้วก็รู้สึกแปลกใจไม่น้อยเลยเธอยอมทำตามคำร้องขอ"ได้ค่ะ"เธอตอบกลับคำขอของของเขา เรื่องที่ชวนไปยังคฤหาสน์ เล่นเอาตกใจไม่น้อยเลย เพราะโดยปกติจะไม่ยอมกลับไปกับเขาเด็ดขาด เพราะยังมีอารมณ์โมโหโกรธคนเป็นสามีอยู่"ทำไมถึง...""พูดเยอะจะไม่ไปแล้วนะคะ"และเมื่อหญิงสาวพูดแบบนั้นชายหนุ่มก็รีบหุบปากของตัวเองลง จากนั้นก็รีบขับตรงไปยังคฤหาสน์เพราะกลัวว่าภรรยาอาจจะเปลี่ยนใจได้ ใบหน้าจากที่มีคำถามแปรเปลี่ยนเป็นยิ้มออกมาแก้มปริ ใครจะคิดว่าคนรักของเขาจะยินยอมตามใจในที่สุด"ถึงแล้วค่ะ"และเพียงไม่นานเขาก็ขับรถมาจอดยังลานจอดรถของคฤหาสน์สุดหรู เปิดประตูรถเดินลงมาจากนั้นก็เปิดประตูให้ภรรยา ยื่นมือไปตรงห
"ว่ามาเลยค่ะมีอะไรจะคุยกับหนูคะ""ถ้าพี่พูดอะไรไป ข้าวฟ่างสัญญาได้ไหมว่าจะไม่โกรธ แต่ที่พี่ต้องพูดเพราะแค่อยากให้ข้าวฟ่างเข้าใจสามีของเราบ้าง"หญิงสาวนิ่งเงียบไปด้วยความคิดหนัก เพราะดูจากประโยคคำพูดน่าจะเป็นเรื่องที่ไม่ควรพูด แต่พี่ทรายอยากจะให้เธอเข้าใจในตัวของคุณฟีลิกซ์ จึงต้องเลือกที่จะมาพูด"สัญญากับพี่นะว่าจะไม่โกรธ""ก็ได้ค่ะ ว่าแต่มันเป็นเรื่องอะไรคะ""พี่ไม่รู้หรอกนะว่าฟีลิกซ์พูดอะไรไม่ดีหรือเปล่า ถึงทำให้ข้าวฟ่างโกรธแบบนั้น แต่ว่าเรื่องมันก็มีที่มาที่ไป งั้นเอางี้ดีกว่าพี่ถามได้ไหมว่าข้าวฟ่างโกรธอะไรฟีลิกซ์"ทรายเอ่ยถามข้าวฟ่างไปตามตรง ถ้ามันเป็นอย่างที่เธอคิดจะได้อธิบายให้ตรงจุด ทั้งสองคนจะได้เข้าใจกันสักที"ก็ไม่มีอะไรหรอกค่ะ ตอนนั้นหนูท้องแล้วก็ไปบอกเขาว่าเรากำลังจะมีลูกด้วยกัน แต่ว่า...""เขาบอกว่าเด็กในท้องของข้าวฟ่างไม่ใช่ลูกเขาใช่ไหม""ใช่ค่ะ เขาพูดเหมือนว่าตัวเองเป็นหมัน มีลูกไม่ได้ก็เลยคิดว่าหนูไปนอนกับคนอื่นมา แล้วก็ให้เขารับผิดชอบ แต่ก็ไม่รู้เหมือนกันนะคะว่าเปลี่ยนไปตั้งแต่เมื่อไหร่ ช่วงหลังก็ยอมรับว่าเป็นลูกของตัวเอง แต่ความรู้สึกมันเสียไปแล้วค่ะ ข้าวฟ่างลำบากใจที
หลังจากที่คุยกันอยู่ในห้องนานพอสมควร พยาบาลก็พาทั้งสองคนไปยังห้องอัลตร้าซาวนด์ ซึ่งตอนนี้คุณหมอรออยู่แล้ว วันนี้เธออาจจะได้รู้เพศลูก จะได้เตรียมตัวเพราะอีกไม่กี่เดือนเราสองคนก็จะได้เจอลูกแล้ว"พร้อมแล้วนะคะคุณแม่ มานอนลงตรงนี้เลยค่ะเดี๋ยวหมอจะอัลตร้าซาวนด์ให้ดูเด็กน้อย"ข้าวฟ่างทำตามที่คุณหมอสั่งอย่างว่าง่าย โดยที่มีฟีลิกซ์คอยประคองอยู่เคียงข้างไม่ห่าง คุณหมอก็ใช้เจลทาที่ช่วงท้องของเธอ จากนั้นก็ใช้อุปกรณ์บางอย่างหมุนตรงช่วงท้องของเธอ และภาพก็ฉายอยู่บนจอมอนิเตอร์ข้างหน้า"ตรงนี้เป็นศีรษะของน้องนะคะ มีตาสองข้าง มีจมูกโด่งด้วยนะเนี่ย มีปาก มีหูสองข้าง ซ้าย และขวาครบ"ทั้งสองคนมองหน้าจอมอนิเตอร์น้ำตาคลอ ตอนแรกก็ไม่ได้มีความพร้อมในการเลี้ยงเด็กหรอก ตัวเองก็ยังเรียนหนังสือไม่จบเลย แต่ด้วยความที่แต่งงานจดทะเบียนสมรสกับสามี จึงทำให้ทุกคนพอปล่อยผ่านกับเรื่องนี้ได้"แล้วสรุปว่าลูกผมได้เพศอะไรครับ""เดี๋ยวแป๊บนึงนะคะ"คุณหมอค่อย ๆ ตรวจ โดยที่สายตายังมองไปยังหน้าจอมอนิเตอร์ด้วยความตั้งใจ ใช้เวลาอยู่สักพักใหญ่ และดูเหมือนว่าตอนนี้พอมั่นใจมาได้บ้างประมาณ 90 เปอร์เซ็นต์ ว่าเด็กน้อยเป็นเพศอะไร"น้องเ
ข้าวฟ่างเดินออกมาจากร้าน ซึ่งฟีลิกซ์ที่นั่งอยู่ตรงนั้นเห็นพอดีก็เลยยิ้มกว้างออกมา วางแก้วกาแฟลงที่โต๊ะ ก่อนจะขยับตัวลุกขึ้น และเดินเข้ามาหาภรรยา"คุณมาทำไมคะ""ก็วันนี้คุณหมอนัดให้ไปอัลตร้าซาวนด์ไม่ใช่หรือไง พี่ก็มารับข้าวฟ่างไปหาหมอด้วยกันไง ก็อยากจะเห็นลูกที่อยู่ในท้องบ้าง""จะสนใจทำไมคะลูกตัวเองก็ไม่ใช่"หญิงสาวสะบัดหน้าใส่ชายหนุ่มด้วยความน้อยใจ ความรู้สึกที่เขาไม่มั่นใจในตัวเธอกับลูกยังคงอยู่ในหัวสลัดยังไงก็ไม่ออก มันเป็นปมในใจที่ยังคงอยู่ และคิดว่าคงต้องใช้เวลานานพอสมควรกับการที่เธอจะไม่รู้สึกกับคำพูดพวกนั้น"ทำไมพูดแบบนี้คะ พี่ขอโทษที่พูดไม่ดี ขอโทษที่พูดไม่คิด""รีบไปเถอะใกล้ถึงเวลาหมอนัดแล้วนี่""สวัสดีครับแม่รพี ผมขอพาน้องไปโรงพยาบาลนะครับ""แต่ว่าหนูนัดกับแม่แล้วค่ะว่าจะไปโรงพยาบาลด้วยกัน คุณไม่ต้องไปส่งก็ได้"เธอเอ่ยออกมาก่อนจะกวักมือเรียกคุณแม่ให้เข้ามา เพื่อที่จะได้ไปโรงพยาบาลด้วยกัน แต่ทว่ารพีไม่อยากให้ลูกสาวทำตัวเย็นชาใส่คนเป็นสามี ถึงแม้ว่าเขาจะพลาดที่เคยพูดไม่ดี คำพูดบางอย่างทำร้ายจิตใจ แต่ตอนนี้เขาก็รู้สึกผิดมากแล้ว และพร้อมที่จะรับผิดชอบทุกอย่าง เพราะฉะนั้นเราควรให้