ฉันมองคนที่ยืนสูบบุหรี่อยู่ตรงระเบียง บนตัวมีเพียงผ้าขนหนูที่พันอยู่รอบเอวเพียงผืนเดียว เราเพิ่งจะจบกิจกรรมบนเตียงไปเมื่อไม่กี่นาทีที่แล้ว ใช่! มันเกิดขึ้นอีกครั้งมองคาแลนอยู่นานก่อนจะละสายตามาสำรวจรอบ ๆ ห้อง ความทรงจำเก่า ๆ ผุดขึ้นมาเป็นฉาก ๆ“แอบซื้อคอนโดไม่บอกมิลาเลย โกรธดีไหมคะ”“นี่ห้องนอนของเรา เฮียสั่งทาสีที่หนูชอบด้วยนะ ถูกใจหรือเปล่า”“เฮียไปอาบน้ำก่อนนอนเลยนะ”“วันนี้เฮียเหนื่อย ขอนอนกอดหนูก่อนได้ไหม”“เฮียซื้อให้มิลาจริง ๆ เหรอคะ”“ใช่ครับ หนูชอบไหม”“ชอบแต่ราคามันแพงเกินไป”“สำหรับผู้หญิงของเฮียมันไม่มีคำว่าแพง”“จัดห้องเองทั้งหมดเลยเหรอคะ”“ใช่ครับ หนูมีความสุขไหม”“มีความสุขมาก ๆ สุขสันต์วันครบรอบสี่ปีนะคะ มิลารักเฮียจัง”“เฮียก็รักหนู รักมาก มากกว่าตัวเอง”“แหวนอะไรคะ”“หนูอยากแต่งงานกับเฮียไหม”“อื้อออ เฮียมิลาเขินนะ”“ขอจองไว้ก่อนนะครับ เรียนจบแล้วเฮียจะขอหนูแต่งงาน”“คนบ้า เห็นไหมมิลาร้องไห้แล้วเนี่ย”“เรียนจบแต่งงานกันนะครับเด็กดีของเฮีย สัญญาได้รึเปล่า”“ค่ะ มิลาสัญญาว่าจะเป็นเจ้าสาวของเฮีย”ที่ว่าเรียนจบจะขอแต่งงานเฮียทำตามที่พูดจริง ๆ แต่เป็นมิลาเองที่ผิดคำสัญญา
ก่อนกลับคอนโดฉันต้องแวะซื้อแมวตามที่สัญญากับมินเอาไว้ ตอนนี้ยังไม่กล้าโทรกลับไปหามาลิคเลยหลังจากได้น้องแมวมาแล้วก็รีบกลับเพราะตอนนี้มันค่ำมืดแล้ว โชคดีที่เจ้าของเขาให้กระเป๋ามาด้วยเพาะฉันไม่ได้เตรียมอะไรไปเลย“มินพี่ซื้อแมวมา…” น้ำเสียงขาดหายไปเมื่อเห็นมาลิคนั่งอยู่บนโซฟากลางห้อง เขาจ้องมองมายังใบหน้าของฉันด้วยสายตาที่ไม่พอใจ“เดี๋ยวนี้นึกอยากจะออกไปไหนก็ได้สินะ?”“คะ... คือมิลาแค่ออกไปซื้อแมว”“ออกไปตั้งแต่เมื่อไร”“…” อย่าเงียบสิมิลาพูดออกไปอย่าให้เขาจับพิรุธได้ ไม่อย่างนั้นซวยแน่ ๆ“ฉันถามว่าออกไปตั้งแต่เมื่อไร!!”“ชะ ช่วงเย็นๆ นี่เองค่ะ”“หึ!! ฉันมาตั้งแต่บ่าย ไม่เห็นแม้แต่เงาของเธอเลยนะ”“…” ทำยังไงดี ทำไมไม่คิดให้มากกว่านี้ มาลิคโทรมาหลายสายขนาดนั้นทำไมถึงคิดไม่ได้“ไปไหนมา” เสียงทุ้มเอ่ยถามคำเดิมซ้ำอีกครั้ง ทำให้ฉันสะดุ้งเพราะความกลัว“มิลาไปเดินเล่นแล้วก็ซื้อแมว แค่นั้นจริง ๆ”“ตามฉันมานี่สิ”ร่างสูงลุกขึ้นยืนแล้วเดินเข้าไปในห้องนอนของฉัน ไม่แปลกที่จะไม่เห็นมินเพราะเวลาที่มาลิคมาน้องแทบจะไม่ออกมาเจอเลยฉันวางกระเป๋าแมวลงไว้ ก่อนจะเดินมาเคาะห้องของน้องสาว“มิน พี่ซื้อแมวมาแล้ว
#วันต่อมายอมรับว่าเมื่อคืนฉันคิดอะไรมากมายไปหมด รวมถึงเรื่องที่คิดสั้นด้วย แต่มันก็เป็นแค่ความคิดนั่นแหละใครบ้างจะไม่รักชีวิตของตัวเอง สุดท้ายแล้วมันก็คือสิ่งที่ฉันเลือกทั้งนั้นรอยที่ถูกมาลิคตบเมื่อคืนมันเริ่มช้ำบนใบหน้าทั้งสองข้าง ตอนนี้ฉันเริ่มมีความคิดบางอย่างแล้ว มันอยากจะลองหนีดูสักครั้ง เพราะคงทนทำร้ายคนที่ตัวเองรักต่อไปไม่ไหว ไหนจะต้องหมั้นกับเขา ให้ตายยังดีกว่าออกมาข้างนอกเห็นมินลี่กำลังนั่งเล่นกับเจ้าแมวขาวตัวเล็ก มันขี้อ้อนมาก ๆ เลย คลอเคลียขามินไม่หยุดแถมยังร้องเมี๊ยว ๆ“ตั้งชื่อให้มันหรือยัง” ฉันนั่งลงแล้วเรามือลูบหัวแมวเด็ก“ยังค่ะ มินรอให้พี่มิลามาตั้ง”“ทำไมล่ะ พี่ซื้อมาให้มินนะ”“แต่พี่มิลาเป็นคนซื้อไง มินให้สิทธิ์ในการตั้งชื่อค่ะ”“อือก็ได้”พยักหน้าจากนั้นก็มองเจ้าตัวกลมสีขาวที่กำลังอ้อนเอาหน้ามาถูบนมือของฉัน “ความหวัง พี่อยากให้มันชื่อความหวัง”“ไอ้หวังลูกแม่”“เฮ้อ พี่คิดถูกใช่ไหม”“มินชอบ น้องหวังมานี่มา”แมวเด็กร้องเมี๊ยว ๆ อย่างรู้งาน เหมือนมันจะชอบชื่อนี้นะ ดูฉลาดเกินแมวซะอีก“เจ็บไหมคะ” มินยกมือมาสัมผัสบนใบหน้าของฉันที่ขึ้นสีช้ำ“ไม่หรอก ไม่ต้องห่วง”มินขอโ
จะทำยังไงให้คาแลนยอมออกไปจากห้อง ถ้ามินลี่ออกมาเจอจะเกิดอะไรขึ้น“มันทำร้ายเธอทำไม” เสียงทุ้มต่ำเอ่ยถามพร้อมจ้องมายังรอยช้ำบนใบหน้าอย่างไม่ละสายตา “ตอบฉัน!!”“เพราะคุณไง!! ฉันออกไปเจอคุณเขาก็เลยไม่พอใจ รู้ตัวไหมว่าทำให้คนอื่นเดือดร้อน”“ถ้ามันทำร้ายขนาดนี้แล้วจะทนอยู่ไปเพื่ออะไร”“…”“ฉันไม่เคยทำร้ายเธอเลยสักครั้ง แล้วมันเป็นใคร!! กล้าดียังไง!!”ยิ่งเห็นว่าเขาเป็นห่วงฉันมากขนาดนี้มันยิ่งเจ็บ รู้สึกว่าเราไม่เหมาะสมกันเลย เมื่อไรจะเกลียดได้จริง ๆ สักที สิ่งที่ฉันทำไปมันสมควรให้ถูกเกลียดไม่ใช่เหรอเกลียดฉันสักที!!“ออกไป ถ้ามาลิครู้คนที่เจ็บตัวคือฉัน”“ถ้าไม่อยากเจ็บตัวก็ไปอยู่กับฉัน”“ไม่… ไม่ได้… มิลาไปไม่ได้” หยดน้ำตาไหลอาบแก้มตั้งแต่เมื่อไรกัน ความใจดีของคาแลนมันเหมือนมีดที่ค่อย ๆ ปักลงมากลางอก เจ็บปวดจัง“ทำไม อยากอยู่ให้มันทำร้ายอีกหรือไง”“มิลา… รักเขา”สิ้นเสียงคำตอบคนตรงหน้าก็เงียบไป ทุกอย่างหยุดนิ่งราวกับเวลาถูกหยุดไว้ มีเพียงสายตาที่วูบไหวของคาแลนที่สั่นคลอนมิลาขอโทษที่ต้องบอกแบบนั้น ทั้งที่ความจริงเฮียคือคนที่มิลารัก“อีกสองเดือนเราจะหมั้นกันแล้ว”“หมั้น?”“เดี๋ยวคุณคงได้การ
Talk - มิลาไม่เคยรู้มาก่อนว่าภายในห้องมีกล้องติดอยู่ หากคาแลนไม่พูดก็คงไม่เห็น มาลิคเอามาติดไว้ตั้งแต่เมื่อไรกัน เพราะแบบนี้สินะเขาถึงรับรู้การเคลื่อนไหวทุกอย่างของฉัน แล้วเรื่องที่ถามมินลี่ว่าอยากหนีหรือเปล่า เขาจะรู้ไหม“เสียงพี่มิลาทะเลาะกับใครคะ ตอนอาบน้ำมินได้ยิน คิดว่าคงเป็นมาลิคก็เลยไม่กล้าออกมา”“อื้อ มาลิค” ต้องโกหกไปทั้งที่จริงคาแลน หากมินรู้เธอคงพูดเรื่องเดิม ๆ อีก“เขามาโวยวายอะไรอีก ที่ทำหน้าพี่มิลาช้ำขนาดนี้ยังไม่พอใจอีกหรือไง”“เขาแค่มาพูดเรื่องหมั้นน่ะ”“ต้องหมั้นจริง ๆ เหรอคะ”“พี่จะยอมหมั้นถ้าเขาเอายาให้ตามจำนวนที่ขอ”“พี่มิลาจะหนีจริง ๆ ใช่ไหม”“อือ แต่ต้องรอจังหวะ พี่คงอยู่กับเขาต่อไปไม่ได้แล้วจริง ๆ ถ้าฝืนอยู่ต่อคงต้องทำร้ายเขาไปเรื่อยๆ พี่รู้สึกผิด”“มินดีใจจัง เราหนีไปอยู่บ้านที่ต่างจังหวัดกันนะคะ ที่นั่นอยู่ในสวนคงไม่มีใครหาเจอ” บ้านที่มินพูดถึงเป็นของพ่อกับแม่ เราไม่ได้กลับไปที่นั่นนานจนเกือบสิบปีแล้ว ไม่รู้เป็นยังไงบ้าง“แต่มันไกลโรงพยาบาลนะมิน”“อย่าเอาแต่ห่วงมินเลยพี่มิลา แค่เราหนีเขาได้แค่นี้ถ้ามินจะตายก็ช่างเถอะ”“มิน!! พี่ไม่ชอบให้พูดแบบนี้บอกแล้วไง” ฉั
@วันต่อมาสุดท้ายฉันก็ถูกมาลิคบังคับให้มาด้วย ตอนนี้รถหรูจอดอยู่ที่บริษัทของคาแลน มีพนักงานมารอรับเขาคงรู้ก่อนแล้วว่ามาลิคจะมาในวันนี้“คุณคาแลนประชุมอยู่รอประมาณครึ่งชั่วโมงนะคะ” พนักงานพามาลิคกับฉันมาที่ห้องรับรอง“ขยับมานั่งใกล้ ๆ” เสียงทุ้มออกคำสั่งเพราะฉันนั่งห่างเขา “อย่าทำเหมือนรังเกียจว่าที่คู่หมั้นขนาดนั้น”“ก็รู้นี่คะ”“มิลา อย่าคิดว่าอยู่ถิ่นมันแล้วฉันจะไม่กล้าทำอะไร”“…”“อยากให้คาแลนมันมาเห็นฉากตอนเธอกับฉันกำลังมีความสุขกันไหม”“…” เลว เขามันเลวไร้ที่ติจริง ๆ“มันคงขยะแขยงเธอมากแน่ ๆ”“คุณต่างหากที่น่าขยะแขยง”มาลิคคว้ามือมากระชากแขนฉันแล้วดึงให้มานั่งแนบติดกับตัวเอง“อย่าลืมเรื่องยา มิลาขอไปหวังว่าคุณจะทำตามที่รับปาก” ฉันทวงสัญญาเพราะตอนนั่งรถมา เราคุยเรื่องนี้กันแล้ว“ขอเยอะขนาดนั้นเหมือนเธอกำลังคิดจะหนีฉันเลยนะ”“ถ้าไม่ตุกติกวันนี้เขาจะเซ็นยกหุ้นสิบเปอร์เซ็นต์ที่คุณต้องการให้แน่นอน”“เอาสิ ฉันไม่ผิดคำพูดอยู่แล้ว แต่อย่าคิดหนีก็แล้วกันเพราะเธอไม่มีทางหนีพ้น”“…”“ฉันน่ะถูกใจเธอมาก ๆ เลยนะมิลา ถ้าถูกทรยศคงเจ็บไม่น้อย”“… ขอไปเข้าห้องน้ำก่อนนะคะ”“รีบไปรีบมา”มาลิคยอมปล่อ
ฉันเม้มริมฝีปากแน่นหัวใจดวงน้อยเต้นรัว ลอบหันมองท่าทางของมาลิคที่นั่งข้าง ๆ“ลังเลอะไร หรือมึงอยากได้อะไรเพิ่มเสนอมาสิ” คาแลนพูดขึ้นเพราะมาลิคเอาแต่เงียบนี่มันไม่ใช่สิ่งที่อยากให้เขาพูด จะยอมเสียทุกอย่างเพื่อเอาตัวฉันกลับไปทำไม คิดว่าทำแบบนี้แล้วจะดีอย่างนั้นเหรอ กลับกันยิ่งเห็นเขาทุ่มขนาดนี้ฉันยิ่งรู้สึกแย่“แค่ผู้หญิงคนเดียวมึงอยากได้คืนขนาดนั้น?”“แล้วมึงกล้าคืนให้กูไหม”“ลงทุนยอมแลกทุกอย่าง มึงมันโง่คาแลน”“กล้าหรือเปล่า?”“หึ!! ทำไมต้องให้ในเมื่อมิลาเป็นสมบัติของกู”เหอะ!! สมบัติอย่างนั้นเหรอ คำพูดของมาลิคมันยิ่งทำให้ฉันรู้สึกขยะแขยง“หมาที่มันชอบขโมยของคนอื่นไปจุดจบมันจะเป็นยังไงมึงรู้ไหม”“กูไม่สนใจ”“ฟังหน่อยกูอยากบอก”“…”“หมาตัวนั้นคงคิดว่ามันอยู่เหนือคนอื่น หึ!! ทั้งที่ความจริงมันอยู่ได้แค่ใต้ตีนกูเท่านั้น”“ไอ้คาแลน!!!” มาลิคกำมือแน่นจนฉันเริ่มกลัวว่าทั้งคู่จะสาดกระสุนใส่กัน“หงุดหงิดทำไมกูพูดถึงหมา หรือมึงเป็นหมา?”“…”“ถ้ากูจับมันเข้ากรงได้ กูจะทรมานให้สาสมกับทุกอย่างที่มันเคยพรากไปจากกู”“ปากดีไปเถอะ กูนี่แหละจะโค่นมึงเอง!!”“เกมยังไม่จบอย่าเพิ่งรีบเผยสันดานออกมาสิเพื่
Talk - มิลาตอนนี้ฉันไม่มีกะจิตกะใจจะพูดหรือสนใจอย่างอื่นเลย เพราะเป็นห่วงมินลี่ ในขณะที่ตอนนี้ฉันอยู่ในที่ปลอดภัยแต่มินกำลังตกอยู่ในอันตราย“มิลา”“อย่าเพิ่งถามได้ไหมคะ ถ้ามิลาพร้อมจะบอกเฮียเอง ตอนนี้มิลาเป็นห่วงมิน”“เฮียขอโทษที่ต้องพาหนูหนีมาที่นี่”“ถ้าไม่อยากให้โกรธก็พามิลากลับไป” ฉันไม่ได้อยากจะพูดอะไรที่มันฟังดูใจร้าย แต่คาแลนทำไม่ถูก ไม่เลยถ้าเขาเอามินมาด้วยฉันคงไม่เป็นแบบนี้“ไม่มีทางเฮียไม่ปล่อยให้หนูกลับไปอีกแน่ ๆ”“โทรศัพท์ล่ะคะ มิลาขอโทรศัพท์ติดต่อน้องได้ไหม”“เฮียทิ้งเอาไว้ที่นู่น ถ้าใช้โทรศัพท์พวกมันตามตัวหนูเจอแน่ ๆ”“… แล้วมินจะติดต่อน้องยังไง”“วาริสพี่สาวของมาลิคอยู่ที่นี่ในคุกใต้ดิน มันไม่กล้าทำอะไรมินแน่ ๆ เชื่อเฮีย เพราะถ้าทำพี่สาวมันก็ไม่รอดเหมือนกัน”“มาลิคไม่สนใจใครนอกจากตัวเองหรอกนะคะ ชีวิตคนอื่นมันไม่มีค่าสำหรับเขา”“รู้จักมันดีขนาดนั้น?”“มิลาอยู่กับเขามาหลายปี ตอนถูกส่งให้ไปอยู่ต่างประเทศ…” ฉันรีบเม้มปากแน่นเพราะเหมือนว่าตอนนี้ตัวเองจะพูดเยอะไปแล้ว“อยากกลับไปหามัน?”“มิลาอยากช่วยน้องไม่ใช่กลับไปหาเขา”“แล้วทำไมไม่เชื่อว่าเฮียช่วยได้”“ชวนทะเลาะอยู่ใช่ไหมค
วันเวลาผ่านไปเนิ่นนานจนฉันคลอดลูกคนที่สองให้กับคาแลน รอบนี้ได้ลูกสาวเขาดีใจมากเลยนะ เพราะเจ้าตัวได้คนโตเป็นลูกชายสมใจแล้วเจ้าหญิงตัวน้อยวัยหกเดือนของเรามีชื่อว่าเมลร่า ฉันกับคาแลนชอบชื่อลูกมาก ๆ เพราะมันเหมาะกับหน้าตาน่ารักจิ้มลิ้มอย่างลูกสาวฉันที่สุดเผลอแป๊บเดียวมาคัสในก็ได้เป็นพี่ชายคน แถมยังเห่อน้องมากอีกด้วย ถ้ามีโอกาสหรือมีจังหวะมาคัสก็จะคอยช่วยฉันเลี้ยงน้องตลอด“มามี๊น้องตื่นหรือยังครับ” หมอบอกว่ามาคัสฉลาดรอบรู้ และมีพัฒนาการในด้านต่าง ๆ ที่ดีเยี่ยมฉันปลื้มใจมากที่เห็นลูกเติบโตมาอย่างดี“ยังเลยลูก ไว้รอน้องตื่นแล้วค่อยไปเล่นกับน้องนะ”“ครับ วันนี้มาคัสมีนิทานจะมาเล่าให้น้องฟังด้วย” ได้ยินแบบนั้นคนเป็นแม่อย่างฉันก็อดที่จะอมยิ้มไม่ได้“จริงเหรอครับ มาคัสของมามี๊เก่งที่สุดเลย ขอบคุณนะลูก” ฉันก้มลงกอดลูกชายหัวแก้วหัวแหวนพร้อมกับหอมหัวเบา ๆ หนึ่งที ฉันกับคาแลนมักจะพูดขอบคุณลูกบ่อย ๆ ในเวลาที่เขาทำสิ่งดี ๆ“มาคัสรักน้อง อยากดูแลน้องครับ”“ลงมาได้ยินประโยคนี้ทำเอาปาปี๊ชื่นใจที่สุดเลยลูก” ระหว่างนั้นคาแลนก็เดินลงมาจากชั้นสองพอดี เขากำลังเตรียมตัวไปทำงาน“ปาปี๊~” พอเห็นพ่อเดินลงมามาคั
สามเดือนผ่านไป ฉันกับคาแลนเพิ่งกลับจากโรงพยาบาล วันนี้คุณหมอนัดไปตรวจและอัลตราซาวนด์ดูเพศลูกสภาวะแท้งคุกคามตอนนี้ดีขึ้นแล้ว ด้วยอายุครรภ์ที่มากขึ้นด้วยไม่ต้องเฝ้าระวังอย่างตอนแรก“ทำหน้าขมวดคิ้วตั้งแต่ออกมาจากโรงพยาบาลแล้วนะคะ เป็นอะไรบอกมิลาหน่อย” ฉันถามสามีที่กำลังทำหน้าเครียดตั้งแต่รู้เพศลูก “เฮียไม่อยากให้ลูกเราเป็นผู้หญิงเหรอคะ”ฉันเม้มปากเบา ๆ ไม่ได้อยากคิดแต่ท่าทางของคาแลนทำให้ต้องถามไปอย่างนั้น เขาแปลกไปเมื่อรู้เพศทั้งที่ก่อนหน้าเราตั้งชื่อลูกไว้แล้วทั้งชายและหญิง“ลูกเฮียนะหนู ถามแบบนั้นได้ยังไง”“ก็เฮียทำหน้าเครียด”“เฮียแค่คิดว่าตัวเองต้องหวงลูกมากแน่ ๆ”ระบายยิ้มออกมาบนใบหน้าพร้อมโล่งใจทันทีที่ได้ยินคำตอบนั้น นึกว่าไม่ชอบใจซะอีกที่แท้ก็หวงลูกสาวนี่เอง“คงต้องให้การ์ดเฝ้าตั้งแต่เด็ก ให้เข้าโรงเรียนหญิงล้วนนะหนู”“แบบนี้ถ้ายัยหนูจะมีแฟน…” ยังพูดไม่จบประโยคคนตัวสูงก็รีบขัด “อย่าเพิ่งคิดไปถึงขั้นนั้นสิหนู เฮียใจหาย”“กับมาคัสเฮียไม่เห็นห่วงเลย”“มาคัสเป็นผู้ชาย”“คุณพ่อขี้หวงคิดมากตั้งแต่ลูกยังไม่คลอดออกมาเลยนะคะ” ฉันแซวพร้อมยกนิ้วขึ้นเกลี่ยแก้มอย่างหยอกล้อ คาแลนเอามือมาจับมื
อาทิตย์ผ่านไป ฉันกับคาแลนจดทะเบียนสมรสเรียบร้อยแล้ว ในตอนนี้เราคือสามีภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายตอนนี้คาแลนกำลังนอนหนุนอยู่บนตักของฉันแล้วใช้มือลูบท้องไปมาอย่างนั้นนานหลายนาทีแล้ว“อยากรู้แล้วว่าลูกจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย” ใบหน้าคมคายเงยขึ้นมองฉันแล้วพูดต่อ “ถ้าได้ผู้หญิงเฮียคงหวงมากแน่”ฉันยิ้มกว้างให้กับคำพูดนั้นของคนที่หนุนตักอยู่ ก่อนจะเอามือลูบผมเขาเบา ๆ“หวงได้แต่อย่าไปกำหนดชีวิตของลูกมากเกินไปนะคะ”“เฮียไม่ทำอย่างนั้นแน่นอนหนูสบายใจได้”คาแลนจับมือของฉันไปจูบเบา ๆ ช่วงนี้ชีวิตคู่ของเรามันลงตัวมาก ๆ ไร้อุปสรรคเหมือนอย่างก่อนหน้า ตัดสินใจไม่ผิดจริง ๆ ที่เลือกรักผู้ชายคนนี้ตั้งแต่แรก“อาทิตย์หน้าเฮียว่าง ไปเที่ยวกันนะครับ”“เที่ยวที่ไหนเหรอคะ” ฉันมองคนบนตักที่กำลังยิ้มหวาน“หนูมีที่ไหนที่อยากไปไหม”“ทุกที่ที่มีเฮีย มิลามีความสุข”“เฮ้อ เฮียรักหนูจะตายแล้วมิลา”ร่างหนาหยัดตัวขึ้นนั่ง แล้วยกมือมาประคองใบหน้าของฉันพร้อมจ้องด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความอบอุ่น ก่อนจะโน้มลงมาเรื่อย ๆ ระยะห่างระหว่างใบหน้าค่อย ๆ แคบลงจนกระทั่งริมฝีปากกดซับลงมา“อื้อ~”รสจูบที่อบอวลไปด้วยความอ่อนโยนและนุ่มนวล
วันต่อมา ตื่นมาไม่เห็นคาแลนอยู่ในห้องแล้ว มาคัสก็หายไปจากห้องของเขาเหมือนกัน ฉันค่อย ๆ เดินลงจากบันไดอย่างเชื่องช้าลงมาที่ชั้นล่าง ก่อนจะนั่งบนรถเข็นเพราะถ้าคนตัวสูงเห็นฉันเดินคงถูกดุแน่ ๆรถเข็นจะเป็นแบบขับเคลื่อนอัตโนมัติโดยใช้มือบังคับปุ่มบนที่พักแขน ได้ยินเสียงแว่วมาจากทางครัวจึงไปดูภาพที่เห็นคือคาแลนกับลูกชายอยู่ในชุดผ้ากันเปื้อน ทั้งคู่กำลังช่วยกันทำอาหาร มาคัสดูท่าจะชอบช่วยพ่อเขาทำใหญ่เลย ฉันกำลังทอดสายตามองสองพ่อลูกด้วยรอยยิ้ม“มามี๊” อุตส่าห์แอบตรงมุมแล้วแท้ ๆ แต่ลูกชายตัวน้อยหันมาเจอจนได้ คาแลนหันมองตามเสียงเรียกของลูก ก่อนจะถอนหายใจเบา ๆ “หนูลงมายังไงคะ?”น้ำเสียงที่เอ่ยถามอย่างนุ่มนวลนั้นต่างจากแววตาที่กำลังจ้องแบบดุ ทำเอาฉันไม่กล้าตอบร่างหนาที่ใส่ชุดกันเปื้อนเดินมาหยุดตรงหน้าแล้วนั่งลงเอามือมาลูบวนบนท้องของฉันพร้อมกับฟ้องลูก“ดูมี๊สิ ดื้อเดินลงมาเองแบบนี้ปาปี๊ขอดุได้ไหม”“ลูกบอกว่าไม่ได้ค่ะ”“ลูกหรือแม่ครับ?”“เฮียอย่าดุมิลาสิ” ฉันเบ้ปากส่งสายตาออดอ้อนทำให้ คาแลนส่ายหน้าไปมาช้า ๆ ด้วยใบหน้าที่เปื้อนรอยยิ้ม เห็นแบบนั้นก็รู้ว่ารอดแล้ว“คราวหลังไม่เอาแบบนี้นะมิลา เฮียเป็นห
1 เดือนผ่านไปฉันได้ออกจากโรงพยาบาลมาพักรักษาตัวที่บ้าน เราย้ายมาอยู่บ้านหลังที่ซื้อไว้ในตอนนั้นแล้ว เพิ่งตกแต่งเสร็จเมื่ออาทิตย์ก่อนส่วนใหญ่ฉันจะนอนอยู่บนเตียงเวลาจะไปเข้าห้องน้ำหรือเดินไปไหนคาแลนจะช่วยประคอง ถ้าออกไปข้างนอกต้องนั่งรถเข็น เพราะคุณหมอสั่งห้ามเรื่องไม่ควรขยับร่างกายเยอะมาคัสได้แยกไปนอนอีกห้องสมใจคุณพ่อของเขาแล้ว เพราะคาแลนกลัวว่าลูกจะนอนดิ้นมาโดนท้อง แต่ตัวลูกชายไม่งอแงแล้วก็อยากแยกห้องเหมือนกัน แหงสิพ่อเขาจัดห้องเตรียมไว้ถูกใจขนาดนั้น“พรุ่งนี้มีประชุม เฮียคงกลับมาตอนบ่ายนะมิลา”“ไหวเหรอคะ ช่วงนี้เฮียอาการไม่ค่อยดีเลย” มองคนตัวสูงอย่างเป็นห่วง เขาแพ้ท้องแทนฉันหนักมาก เรียกได้ว่าเหม็นอาหารทุกอย่าง กินอะไรเข้าไปก็อ้วกออกหมด กินได้แค่ของเปรี้ยวเห็นแล้วนึกเห็นใจมาก ๆ เพราะเคยผ่านมาก่อนรู้ว่าทรมานขนาดไหน ใบหน้าหล่อตอนนี้ซูบผอมลงไปค่อนข้างเยอะ“ประชุมผู้ถือหุ้นประจำเดือนยังไงก็ต้องไปครับ” คาแลนก้มลงมาจูบหน้าผากของฉันแผ่วเบา ตอนนี้กำลังนั่งดูทีวีอยู่ชั้นล่างของบ้าน“คันเลนจะมาส่งมาคัสกี่โมงคะ”“คงสองทุ่ม กินมื้อเย็นที่บ้านใหญ่ก่อน” วันนี้ลูกชายงอแงอยากไปเล่นกับน้องคีย์และ
ในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาข่าวของคาแลนกับคุณหนูลี่กำลังเป็นที่พูดถึงในวงกว้าง เพราะทั้งคู่ต่างมีหน้าตาทางสังคม คาแลนให้พี่ชายช่วยเรื่องปิดข่าวทั้งหมดให้เร็วที่สุดส่วนฉันก็พยายามไม่ดูข่าวห่างจากมือถือเพราะมันทำให้เครียดไม่เป็นผลดีเท่าไร ยิ่งตอนนี้มีอาการแท้งคุกคาม“ตอนเย็นคัลเลนจะพามาคัสมาที่โรงพยาบาลนะหนู” คนที่กำลังนั่งปลอกผลไม้เอ่ยบอก เราไม่ได้พูดคุยเรื่องนั้นเพราะต่างรู้ดีว่ามันไม่มีอะไร และฉันก็ไม่ได้ถามว่าเขาจะจัดการกับผู้หญิงอย่างลี่เว่ยหลินยังไง“ลูกงอแงไหมคะ” ฉันเป็นห่วงลูกชายตัวน้อยกลัวจะงอแงแต่ถ้าจะให้มาอยู่ที่โรงพยาบาลคงไม่ได้“ที่บ้านใหญ่มีเพื่อนเล่นลูกไม่งอแงเลย”“มาคัสรู้ไหมคะว่ากำลังจะมีน้อง”“ยังครับ ถ้ารู้คงดีใจที่จะมีเพื่อนเล่น”“เฮียไม่เข้าบริษัทเลย ไม่ต้องเฝ้ามิลาตลอดก็ได้” สามวันแล้วที่ฉันนอนติดเตียงที่โรงพยาบาลส่วนคาแลนไม่ได้เข้าบริษัทเลย“เฮียเอางานที่บริษัทมาทำที่นี่ดีกว่าทิ้งให้หนูอยู่คนเดียว” เขาปลอกผลไม้เสร็จพอดีจากนั้นก็ยกจานมานั่งเก้าอี้ข้าง ๆ เตียงแล้วป้อนฉัน“พรุ่งนี้เฮียจะออกไปจัดการปัญหากับเว่ยหลิน”“ค่ะ”“ทางนั้นเรียกร้องให้รับผิดชอบที่ทำลูกสาวเขาเสียห
Talk - คาแลนตอนนี้ผมนั่งอยู่ที่หน้าห้องฉุกเฉิน สองมือกำแน่นก้มหน้าก้มตา ภาพเลือดที่ไหลออกมาจากตรงนั้นยังติดตา เกือบสติหลุดที่เห็นมิลาหมดสติไป“มิลาเป็นอะไร” คัลเลนเพิ่งมาถึงโรงพยาบาลมันรีบเดินมาถาม ผมได้แต่ส่ายหน้าแทนคำตอบพร้อมน้ำตาที่ไหลอาบแก้มตอนนี้ผมกำลังกลัว กลัวทุกอย่าง“จู่ ๆ ทำไมถึงเกิดเรื่องขึ้น”“ลี่เอาเหล้ามาให้กู ใครจะไปคิดว่าเธอใส่ยาลงไปในแก้วนั้น” ผมบอกพร้อมมือที่กำแน่นกว่าเดิมหลังจากโดนยาลี่พยายามยัดเยียดตัวเองให้กับผม โชคดีที่ตอนนั้นยังพอมีสติเอาตัวเองออกมาจากห้องน้ำได้ แต่ตอนทำกับมิลาในรถผมไม่รู้ตัวเลยว่ารุนแรงไปขนาดไหนเลือดถึงได้ไหลออกมาเยอะขนาดนั้น“ผู้หญิงคนนี้แม่งน่ากลัวฉิบหาย!!”“จัดการถอนหุ้นและยุติงานในเครือเว่ยหลินให้หมด ครั้งนี้ต่อให้คุณเฉียงมาอ้อนวอนกูจะไม่ให้อภัย”“อืม เดี๋ยวกูจัดการให้มึงไม่ต้องห่วง ตระกูลนี้ถูกจดลงบัญชีดำแน่ ๆ”“อาการมิลาเป็นยังไงบ้างคะ” เกลลินเอ่ยถามผมด้วยท่าทางเป็นห่วง“เลือด… มีเลือดไหลออกมา” ผมตอบเสียงสั่นสองมือกำแน่นจนเห็นเส้นเลือดปูดขึ้นขณะที่นั่งรอผ่านไปครู่ใหญ่ประตูห้องฉุกเฉินก็ถูกผลักพร้อมหมอที่แทรกตัวออกมายืนด้านหน้า ผมรีบลุก
ริมฝีปากบางถูกบดขยี้อีกครั้ง มิลาพยายามดันตัวเองออกเพราะเจ็บกับสัมผัสดูดดึงของคนตัวสูงที่ขาดสติ เมื่อถูกขัดใจเธอก็ถูกคนตัวโตใช้สายตาคมจ้องเขม็งยาปลุกเซ็กส์ทำให้คาแลนไม่ใช่ผู้ชายอ่อนโยนอีกต่อไป อารมณ์ของเขาเต็มไปด้วยความรุนแรงอยากจะฉีกเสื้อผ้าของว่าที่ภรรยาคนสวยออกเป็นชิ้น ๆมือหนาเปิดประตูรถยนต์ก่อนจะจับร่างบางยัดเข้าไปข้างในตรงเบาะหลัง“เฮียมีสติหน่อยได้ไหมคะ”เสียงหวานพยายามเตือนสติแต่ไม่ได้ผล เมื่อประตูรถปิดลงร่างหนาก็นั่งลงข้าง ๆ เร่งปลดหัวเข็มขัดและตะขอกางเกง เห็นแบบนั้นทำให้มิลากลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่คว้ามือกำเส้นผมนุ่นแล้วกดลงมาตรงเป้ากางเกง ใช้แท่งเนื้อร้อนถูเบา ๆ บนกลีบปากกระจับ“ช่วยทำให้มันสงบลงหน่อย” เสียงทุ้มกระเส่ามองใบหน้าสวยที่กำลังหวาดกลัวจากกระกระทำที่รุนแรงมิลาค่อย ๆ ลดตัวนั่งลงด้านล่างแทรกตรงกลางท่อนขาแกร่ง และใช้ปากของตัวเองตามคำสั่งของคนที่โดนยา เธอรู้ว่าเขากำลังทรมานและเต็มใจช่วย“หนู ซี๊ด~”ริมฝีปากบางดูดดุนแท่งเนื้อขนาดใหญ่คับปากจนเปื้อนน้ำลายสีใส ยิ่งเอาเข้าไปลึกจนสุดลำคอก็ยิ่งถูกใจอีกคน“เธอทำอะไรเฮียบ้าง” ใบหน้าหวานเงยขึ้นมาถามพร้อมใช้มือชักรูดแก่นกายใหญ่ไ
งานเลี้ยงตระกูลเว่ยหลิน ฉันอยู่ในชุดราตรีลายลูกไม้สีครีมเดินเข้ามาในงานคู่กับคาแลนที่อยู่ในชุดสูทสีขาวน้ำเงินงานจัดขึ้นยิ่งใหญ่สมเกียรติมีแขกมากหน้าหลายตาเดินหลั่งไหลเข้ามาภายในงานรวมทั้งนักข่าวที่รัวแสงแฟลชถ่ายภาพราวกับคนที่มาร่วมงานนี้เป็นดาราชื่อดังยิ่งตอนคาแลนเดินคู่กับฉันมีเสียงฮือฮาของคนที่ได้พบเห็นดังขึ้น ส่วนหนึ่งมาจากเหตุการณ์ที่เขาหายไปเหมือนคนที่ตายแล้ว ไม่มีใครคิดว่าจะกลับมา คนที่ได้เจอตัวเป็น ๆ ถึงกับยกมือขึ้นป้องปากทำตาโตอย่างเหลือเชื่อ“เป็นเกียรติมากเลยค่ะที่พี่คาแลนกับว่าที่ภรรยามาร่วมงานในวันนี้” คุณหนูลี่เดินมาต้อนรับเราสองคน ก่อนจะพาเดินมายังโต๊ะที่จัดเตรียมเอาไว้ให้เป็นโต๊ะที่อยู่ติดหน้าเวที คุณคัลแลนและภรรยาก็มางานนี้เหมือนกัน รวมถึงคุณพ่อของเขาด้วยแต่ท่านนั่งแยกอีกโต๊ะร่วมกับตระกูลเว่ยหลินที่อยู่ใกล้ ๆ กันนั่งรอที่โต๊ะไม่นานคัลเลนและภรรยาก็มาถึง เราไม่ได้พาลูกมาด้วยเพราะเป็นงานใหญ่ไม่เหมาะที่จะพาเด็ก ๆ มา“คุณเกลลินสวยมากเลยค่ะ” ฉันเอ่ยชมคุณเกลที่อยู่ในชุดราตรีสีขาว เธอสวยมาก ๆ ตอนเดินตีคู่มากับคัลเลนยิ่งเห็นว่าทั้งสองเหมาะสมกันมากจริง ๆ“คุณมิลาก็สวยมาก ๆ เ