“เมเบล นี่แฟนแกหรอเหมาะสมกันดีนะ” คำพูดของฮ่าน่าเรียกความสนใจจากคุณป๋าได้มากพอสมควร เพราะในตอนนี้คุณป๋ากำลังจ้องหน้าพี่เบสตาเขม็ง“ยังไม่ถึงขั้นเป็นแฟนหรอกก็แค่ดูๆ กันอยู่ พอดีฉันไม่รีบขนาดนั้น ไม่เหมือนใครบางคน” ฉันแสยะยิ้ม ก่อนจะพูดต่อ “บ้านกำลังจะล้มละลาย ก็ต้องรีบหาผู้ชายเกาะเป็นธรรมดา”ฮาน่าถลึงตาใส่ฉันมันมีเมื่อฉันพูดออกไปแบบนั้น แต่มันก็ปิดปากเงียบเพราะมันเถียงไม่ได้ ในเมื่อบ้านของมันล้มละลายจริงๆ สีหน้าของคุณป๋าที่มองฉันมันยากที่จะคาดเดาว่าในตอนนี้คุณป๋าโกรธอยูหรือเปล่า เพราะสั่งห้ามไม่ให้ฉันยุ่งเกี่ยวกับพี่เบสอีก แต่ฉันก็ไม่สนใจอะไรมากหรอก “ไปกันดีกว่าค่ะพี่เบส” พูดจบฉันก็เดินกอดแขนพี่เบสออกมาจากตรงนั้น โดยที่คุณป๋าก็ไม่ได้พูดท้วงอะไร เมื่อเดินออกมาไกลแล้วก็เป็นฉันที่เป็นฝ่ายปล่อยมือออกจากแขนพี่เบสก่อนพี่เบสมองฉันแล้วยิ้มออกมาเล็กน้อย “หิวมั้ยครับ หาอะไรกินก่อนมั้ย” “ค่ะ” ฉันไม่ได้ปฏิเสธ แต่เลือกที่จะกินข้าวกับพี่เบสตามคำชวน เราสองคนเดินเข้ามาในร้านอาหารฝรั่งเศส พี่เบสเป็นคนเลือกเมนู เพราะฉันบอกว่าสั่งอะไรมาก็ได้ตามใจเขา “ไม่ชอบผู้หญิงคนนั้นหรอครับ” เมื่อเด็กเสริฟเด
ฉันพยายามดิ้น สะบัดหน้าหนีเพื่อให้ริมฝีปากหลุดพ้นจากการกระทำของคุณป๋า แต่คุณป๋ากับรวบมือของฉันขึ้นมาขึงตรึงเอาไว้เหนือหัว อีกมือที่ว่างก็เอามาจับหน้าฉันไว้ไม่ให้สะบัดหนีได้ “อื้ม” เสียงทุ้มเข้มของคุณป๋าครางออกมาในลำคออย่างพึงพอใจ เมื่อฉันนิ่งทุกอย่างตกอยู่ในความเงียบ คุณป๋าปล่อยปลายครางของฉันให้เป็นอิสระ ก่อนจะเอามือมากระตุกเชือกของชุดคลุมให้หลุดแล้วแวกมันออก เผยให้เห็นหน้าอกทั้งสองเต้าของฉันชูชันอยู่ตรงหน้าคุณป๋าผละริมฝีปากออกแล้วเลื่อนใบหน้าลงใช้ริมฝีปากงับยอดปะทุมถันแล้วดูดมันเบาๆ “อ๊ะ ~” ฉันหลุดครางออกมาอย่างห้ามตัวเองไม่ได้ คุณป๋าครอบงำหน้าอกทั้งสองเต้าของฉัน ทั้งใช้มือหนาบีบเค้นมันอย่างแรงจนเกิดรอยแดง “อยากได้อะไรพูดมาสิ หื้ม” คุณป๋าเงยหน้าขึ้นมาถาม “ฉันจะพาเธอไปซื้อ” “ปะ ไปซื้อตอนนี้เลยได้มั้ยคะ อ๊า~” ฉันพยายามเลี่ยงเหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้น จึงถามออกไปแบบนั้น คุณป๋าเลื่อนใบหน้าขึ้นมากดจูบลงบนริมฝีปากของฉันหนักๆ อีกครั้ง ก่อนจะปล่อยให้ฉันเป็นอิสระแล้วหยัดตัวลุกขึ้นยืนเต็มความสูง “ลุกขึ้นไปแต่งตัว” “...คะ?” ฉันมองคุณป๋าอย่างงุนงง “อยากได้อะไรฉันจะพาไปซื้อ” คุณป๋าตอ
คุณป๋าก้มลงมากดจูบลงมาบนเนินหน้าอกของฉันหนักๆ ความเจ็บแปล๊บๆ แล่นเข้ามาในร่างกายทำให้รู้ได้ทันทีว่าคุณป๋าได้ทิ้งล่องรอยเอาไว้อีกแล้ว “หนูเป็นอะไรในสายตาของคุณป๋าหรอคะ...” ฉันถามด้วยสีหน้าที่ไร้ความรู้สึก ทำให้คุณป๋าชะงักแล้วเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าของฉัน “เธอเป็นคู่นอนที่ฉันโปรดปรานที่สุดไงเด็กน้อย” มันน่าตลกสิ้นดี ทั้งที่ฉันคือเด็กที่คุณป๋าเก็บมาเลี้ยงในฐานะลูกเลี้ยงคนหนึ่ง แต่ตอนนี้กลับได้เลื่อนชั้นขึ้นมาเป็นคู่นอน ช่างน่าภูมิใจจริงๆ ฉันนอนนิ่งปล่อยให้ทุกอย่างมันค่อยๆ เลยเถิดไป เพราะถ้าฉันขัดไปคุณป๋าก็คงไม่หยุด ในเมื่อชัดเจนว่าในตอนนี้คุณป๋ามองเห็นฉันเป็นคู่นอน ไม่ใช่ลูกเลี้ยงอีกต่อไป เสื้อผ้าของฉันและคุณป๋าหลุดออกจากร่างกายไปจนหมด คุณป๋าค่อยๆ สอดใส่ท่อนเอ็นลำใหญ่เข้ามาในร่องแคบของฉันช้าๆ พร้อมกับเสียงหอบหายใจแรงๆ เมื่อท่อนเอ็นเข้ามาในตัวของฉันทั้งลำแล้ว คุณป๋าก็ก้มลงมาตะโบมดูดดุนหน้าอกทั้งสองเต้าของฉันอย่างหื่นกระหาย เอวสอบเริ่มขยับเข้าออกช้าๆ ทั้งที่ฉันไม่ได้อยากจะมีอารมณ์ร่วม ไม่อยากรู้สึกต้องการ แต่กลับห้ามตัวเองไม่ได้ “อ๊ะ อ๊า~” ฉันเปล่งเสียงครางออกมาเบาๆ เมื่อคุณป๋าเริ่มขย
“ได้! ฉันจะให้ในสิ่งที่เธอต้องการ แต่เธออย่าลืมว่าฉันไม่เคยให้อะไรใครฟรีๆ” คำพูดของคุณป๋าทำให้ฉันรู้สึกหวั่นใจไม่น้อย “....ค่ะ” ฉันตอบตกลงเพราะไม่ว่าจะยังไงอย่างน้อยฉันก็พอจะมีอิสระอยู่บ้าง และตอนมหาวิทยาลัยเปิดเทอมฉันก็ต้องไปอยู่ที่คอนโดยาวๆ นั่นหมายความว่าถึงจะมีข้อแลกเปลี่ยนแต่มันก็คุ้มค่ากับอิสระที่ฉันกำลังจะได้รับ “อีกสองวันหนูขอไปเที่ยวทะเลนะคะ” ที่บอกไปแบบนี้ไม่ใช่ว่าฉันอยากไปเที่ยว ฉันก็แค่ไม่อยากอยู่บ้านก็แค่นั่น เอวากับฟาร์นฉันก็ยังไม่ได้ชวนมันสองคนเลย“ได้สิ! เธออยากไปที่ไหนฉันจะพาไป” “หนูไปกับเพื่อนค่ะ คงไม่ลำบากคุณป๋า” คุณป๋าลุกขึ้นยืนเต็มความสูง “ฉันมีเกาะส่วนตัวอยู่ที่ภูเก็ต เดี๋ยวฉันจะให้ลูกน้องจัดการให้แล้วกัน” ฉันถอนหายใจออกมาพรืดใหญ่ “หนูแค่กับเพื่อนนะคะ ห้ามมีลูกน้องคุณป๋าไปคอยเฝ้า” “ถ้าเธอต้องการแบบนั้น...ก็ได้” คุณป๋าตอบรับความต้องการของฉันอย่างว่าง่าย แต่น้ำเสียงและแววตาของคุณป๋าที่มองฉันอยู่ มันแฝงไปด้วยอะไรบางอย่างที่ฉันไม่อาจจะคาดเดาได้ “หนูอยากพักผ่อนแล้วค่ะ” “ไล่ ?” “แล้วแต่คุณป๋าจะคิดเลยค่ะ” ฉันตอบไปอย่างเบื่อหน่ายก่อนจะเดินไปที่เตียงแล้วขึ้นไป
Talk เมเบล “ร้อนมั้ยครับ” พี่เบสเดินมาถามฉันที่กำลังนอนอยู่ริมชายหาดดูพระอาทิตย์ยามเย็น พี่เบสมาถึงสักพักใหญ่ๆ แล้วแหละ เอวากับฟาร์นไม่อยากให้เขามาฉันรู้ดี เพราะสองคนนั้นทำหน้าตึงใส่ฉันเมื่อเห็นพี่เบส แล้วตอนนี้ฉันก็ไม่รู้ว่าเพื่อนทั้งสองคนของฉันหายหัวไปไหนกัน “ไม่ร้อนค่ะ” ฉันตอบโดยไม่ได้หันไปมอง “พี่เบสจะกลับเมื่อไหร่คะ ตอนเย็นเรือไม่มารับนะคะ” “ไม่อยากให้พี่อยู่ด้วยขนาดนั้นเลยหรอครับ ถึงเอาแต่ไล่ให้พี่กลับ” พี่เบสนั่งลงข้างๆ แล้วยื่นเครื่องดื่มมาให้ “เปล่าค่ะ เมเบลคิดว่าพี่เบสคงจะรีบไปทำธุระ” “ธุระเอาไว้ทำพรุ่งนี้ก็ได้ครับ วันนี้พี่อยากอยู่กับน้องเมเบลมากกว่า”“แบบนี้ก็ได้หรอคะ” ฉันหันไปยิ้มให้พี่เบสเล็กน้อย ก่อนจะหันหน้ากลับมาดูพระอาทิตย์ต่อ กริ่ง! ในขณะที่กำลังนั่งดูพระอาทิตย์ตกดิน จู่ๆ เสียงโทรศัพท์ของฉันก็ดังขึ้น ฉันหยิบโทรศัพท์ข้างตัวขึ้นมา ก่อนจะแสยะยิ้มบนใบหน้าเมื่อเห็นเบอร์ที่โชว์ขึ้นมาเป็นเบอร์ของคุณป๋า ( ฮัลโหลค่ะ ) ฉันกรอกเสียงผ่านปลายสาย ( กลับกรุงเทพเดี๋ยวนี้เมเบล เธอกับฉันมีเรื่องต้องคุยกัน ) คุณป๋าออกคำสั่งเสียงแข็ง คล้ายว่ากำลังตวาดฉันอยู่ ( หนูเพิ่งมาถึง
คุณป๋ามาคนเดียวไม่มีลูกน้องตามมาด้วย แม้กระทั่งพี่กล้าก็ไม่ได้มาด้วย พรึบ!! คุณป๋าผลักพี่เบสอย่างแรงจนเขาเซแถลกลับเข้ามาในห้อง ส่วนตัวคุณป๋าเองก็เดินเข้ามาด้านในแล้วไม่ลืมที่จะล็อกห้องไว้ให้เรียบร้อย คุณป๋ามองหน้าฉันด้วยแววตาที่น่ากลัว “เมื่อคืนเธออยู่กับมันทั้งคืน ?” ฉันพยายามคิดหาทางออกเพราะถ้าปล่อยไปแบบนี้ทุกคนได้รู้แน่ๆ ว่าคุณป๋ากับฉันมีความสัมพันธ์ที่น่าอับอายด้วยกัน ถ้าไม่มีใครอยู่ด้วยฉันจะไม่สนเลยที่จะตอบไปว่า ‘ใช่’ เพราะจุดประสงค์ของฉันคือการยั่วโมโหคุณนะ แต่ครั้งนี้ฉันต้องมีสติ ไม่อย่างนั้นเรื่องราวมันจะเลยเถิดไปกันใหญ่ ถ้าจะมีปากเสียงก็ควรให้พี่เบสออกไปก่อนก็ยังดี “เมเบล !!” “พี่เบสไปแต่งตัวเถอะค่ะ” พี่เบสมองหน้าฉันกับคุณป๋าสลับกัน สีหน้าของเขาบ่งบอกว่ากำลังงุนมาก “ผมไม่ได้นอนกับน้องเมเบลนะครับ ผมแค่มาขออาบน้ำ” คำพูดของพี่เบสไม่ได้ทำให้คุณป๋าปักใจเชื่อเลยสักนิด คุณป๋าหยิบปืนขึ้นมา ก่อนจะเล็งไปทางพี่เบส “คุณป๋า !!” ฉันรีบวิ่งไปขวางหน้าพี่เบสเอาไว้ มันเกินไปแล้ว คุณป๋าทำแบบนี้มันเกินไปมากจริงๆ มีปืนอยู่กับตัวก็ไม่ได้หมายความว่าจะยิงใครก็ได้นะ “หลบไป ฉันจะฆ่ามัน!!”
คุณป๋าอุ้มฉันขึ้น แล้ววางฉันลงให้นอนราบไปกับที่นอน เสื้อชั้นในของฉันถูกคุณป๋าปลดและถอดมันออกอย่างง่ายดาย ก่อนที่กางเกงตัวบางที่ฉันสวมใส่จะถูกถอดออกตามไปติดๆ คุณป๋าพิจารณามองเรือนร่างของฉันอยู่นาน และฉันก็ต้องจำใจให้คุณป๋ามองอย่างนั้น เพราะเป็นเพียงทางเลือกเดียวที่จะทำให้คุณป๋าสงบลงได้ นิ้วใหญ่แตะลงมาบนเนินหน้าอกของฉันก่อนจะลากมันวนไปมา สายตาของคุณป๋ายังจับจ้องที่ใบฉันไม่กระพริบ ไม่นานคุณป๋าก็ก้มใบหน้าลงมาขบเม้มเนินหน้าอกทั้งสองเต้า และทำรอยไว้เพิ่มจากรอยเดิมที่ยังไม่หายดี ถึงอยากจะห้ามแต่ก็ทำไม่ได้ คุณป๋างับยอดปะทุมถันแล้วใช้ลิ้นตวัดหยอกล้อ ทำให้ฉันเริ่มมีความรู้สึกเสียวซ่าน พร้อมกับครางออกมาเสียงกระเส่า “อ๊า ~ ซี๊ด” มือหนาค่อยๆ เลื่อนต่ำลงมาเรื่อยๆ จนถึงจุดอ่อนไหวกลางลำตัว คุณป๋าจับขาทั้งสองข้างของฉันให้อ้าออกจากกันเล็กน้อย แล้วใช้นิ้วใหญ่บดขยี้ติ่งเกสรเบาๆ การกระทำนี้ของคุณป๋าทำให้ฉันครางเสียงดังขึ้น และเริ่มดิ้นอย่างคนที่ทรมาน ร่างกายปล่อยน้ำล่อลื้นออกมาชโลมนิ้วใหญ่ของคุณป๋า เพียงแค่โดนปรนเปรอไม่นานร่างกายมันกลับตอบสนองเป็นอย่างดี“อ๊า อย่าทำแรงสิคะ ซี๊ด” ฉันพยายามทำเสียงออดอ
กริ่ง~ เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น แต่ไม่ใช่เสียงเรียกเข้าของโทรศัพท์ฉัน ฉึนจึงมองหา เมื่อเจอกับโทรศัพท์ของคุณป๋าฉันก็หยิบขึ้นมาดู หน้าจอโชว์ชื่อว่า ฮาน่า ฉันมองไปที่ประตูห้องน้ำ ก่อนจะจะกดรับสายอย่างถือวิสาสะ ( อาหิรัญอยู่ไหนคะ ฮาน่ามาหาที่บ้านไม่เจอเลย ) ( หรอคะ...) ( แกเป็นใคร !!) พอฮาน่าได้ยินเสียงของฉันมันก็ตวาดทำทันที คงไม่คิดละสิว่าจะมีผู้หญิงรับสาย( แล้วใครกันนะที่จะมารับโทรศัพท์แทนหิรัญได้ ) ฉันสวมรอยเป็นคนอื่น ฮาน่ามันคงจำเสียงฉันไม่ได้แน่ๆ ( ฉันต้องการจะคุยกับอาหิรัญ ) ( หิรัญอาบน้ำอยู่น่ะ เขาคงจะเหนื่อย...ทำกับฉันไปตั้งหลายรอบแหนะ ) ( อย่างแกก็คงได้ใช้แค่ปาก อย่ามาพูดอวดนักเลย !!)( อุ้ย! แค่ปากอะไรหรอ หิรัญเขาสอดใส่เข้ามาในตัวของฉันเลยต่างหาก ) ฉันหัวเราะเยาะเย้ยเบาๆ แล้วพูดต่อ ( คนที่ใช้แค่ปากเป็นเธอหรือเปล่านะ ) จู่ๆ สายก็ถูกตัดไปเฉยเลย แม่นั่นคงจะหัวเสีนไม่เบาที่ถูกฉันยั่วขนาดนี้ คิดแล้วก็สะใจไม่เบาเลยจริงๆ ฉันเอาโทรศัพท์วางไว้ที่เดิม แล้วออกมาจากห้อง ส่วนคุณป๋ากำลังอาบน้ำอยู่ ฉันจึงรีบหนีออกมา “เมเบล”“อ่ะ!” ฉันตกใจเพราะไม่ทันมองเห็นเอวาที่กำลังเดินมาทางนี้พอดี “
คุณป๋ายืนกอดอกทำหน้ายักษ์ไม่รับมุกที่ฉันส่งไปให้ ใจคอจะตีฉันด้วยไม้เรียวนี่จริงๆ หรือไง“เลือกได้หรือยัง” คุณป๋าถามเสียงเข้ม สมองของฉันคิดอะไรไม่ได้นอกจากเรื่องอย่างว่า ฉันค่อยๆ ลุกขึ้นจากเตียงเดินมาหยุดตรงหน้าของคุณป๋า“เลือกได้แล้วค่ะ” “เลือกอันไหนก็หยิบขึ้นมา”ฉันวางมือลงบนแผงอกแกร่ง แล้วค่อยๆ เลื่อนมือลงช้าๆ ลูบไล้ซิกแพ๊คแน่นๆ กำยำของคุณป๋าลงมาคลำตรงเป้ากางเกง“หนูเลือกอันนี้ค่ะ ^_^” “เมเบล!!” คุณป๋าดุฉันอีกแล้ว คอยดูเถอะจะทำให้ครางลั่นห้องเลย “ก็เลือกแล้วนี่คะ เอามันมาฟาดหนูสิ” ฉันปล่อยมือออกจากเป้ากางเกงของคุณป๋า ก่อนจะปลดเปลื้องเสื้อผ้าของตัวเองออกจนหมด แล้วเดินไปนั่งลงบนเตียงอย่างเชื้อเชิญให้คุณป๋าอดใจไม่ไหว คุณป๋ามองเรือนร่างที่เปลือยเปล่าของฉันตาไม่กระพริบ พร้อมกับขบกรามแน่นเพื่อระงับอารมณ์กามของตัวเอง “นิ่งอยู่ทำไมล่ะคะ ไม่อยากตีหนูแล้วหรอ”“จะดื้อไปถึงไหนห๊ะ!!”“หนูเปล่าดื้อสักหน่อย” คุณป๋าเดินตรงมาหาฉัน ก่อนจะกดร่างของฉันให้นอนราบไปกับที่นอนแล้วขึ้นมาคร่อม “ชอบแบบนี้ ?” “ใครบ้างอยากโดนตีล่ะคะ” ฉันยกมือขึ้นคล้องคอของคุณป๋าเอาไว้ “อยากโดนคุณป๋าปู้ยี่ปู้ยำมากกว่า ^
3 ปีผ่านไปไวเหมือนโกหก ฉันแต่งงานกับคุณป๋าแล้ว แต่งแบบงงๆ ในตอนนั้นที่คุณป๋าคุกเข่าขอฉันแต่งงาน หลังจากนั้นสองอาทิตย์เราทั้งคู่ก็จูงมือกันเข้าหอ จดทะเบียนสมรสเป็นสามีภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายที่ผ่านมสฉันไม่สามารถปฏิเสธได้ว่าคุณป๋าดูแลฉันดีมาก และซื่อสัตย์กับฉันอย่างที่เคยสัญญาเอาไว้ว่าจะไม่ทำให้ฉันเสียใจ แต่!!! หนึ่งเรื่องที่ฉันไม่ชอบเลยคาอเรื่องห้าม ห้ามใส่สั้น ห้ามมองผู้ชาย ห้ามไปเที่ยวคลับ ในตอนนี้ฉันแทบจะเก็บกดตายอยู่แล้ว “เมเบลดื่มดิวะ แมลงวันลงไปวางไข่ในแก้วแล้วมั้งนั่น” ฟาร์นบอกพร้อมกับโยกตัวไปมาตามเสียงเพลง ในตอนนี้ฉันอยู่ที่คลับกับฟาร์นและเอวา ไม่ต้องแปลกใจว่าฉันมาโผล่ที่นี่ได้ยังไง ก็เพราะว่าคุณป๋าไปธุระที่ต่างประเทศน่ะสิ ไปหนึ่งอาทิตย์ แน่นอนว่าฉันที่เก็บกดมานานสามปีต้องไม่พลาดโอกาสทองแบบนี้แน่ ฉันออกมาดื่มกับเพื่อนทุกวันหลังจากที่คุณป๋าบินไปต่างประเทศ คิดดูสิว่าเก็บกดมากขนาดไหน แล้วฉันก็กำชับพวกลูกน้องของคุณป๋าเอาไว้แล้วทุกคนว่าห้ามปริปากฟ้องเรื่องที่ฉันมาเที่ยว ไม่อย่างนั้นจะไล่ออกให้หมด แน่นอนว่าทุกคนเชื่อฟัง เพราะในตอนนี้ฉันก็เปรียบเสหมือนคุณหญิงของบ้านฉันยกแก้วข
ในตอนนี้ฉันกำลังนั่งทำแผลให้กับคุณป๋าอยู่ คิดแล้วก็ขำ ใครจะไปคิดว่าคุณป๋าจะมีมุมที่อ่อนแอแบบนี้ ความรักมักทำให้คนอ่อนแอเสมอ “ห้ามโดนน้ำนะคะเดี๋ยวแผลจะอักเสบ” “เป็นหมอหรือไง” คุณป๋าทำหน้ามุ่ยใส่ฉัน “เป็นเมียคุณหิรัญค่ะ ^_^” พอฉันพูดแบบนั้นคุณป๋าก็หน้าแดงขึ้นมาเฉียบพลัน ก่อนที่จะคว้ามือมาดึงตัวฉันไปสวมกอด เสียงหัวใจของคุณป๋ามันกำลังเต้นรัว ทำให้ฉันอดที่จะยิ้มออกมาไม่ได้ ในตอนนี้บรรยากาศภายในห้องเงียบสนิท มีเพียงเสียงหัวใจของฉันกับคุณป๋าที่มันกำลังเต้นรัวแข่งกัน “คุณป๋าเคยคิดจะแต่งงานบ้างมั้ยคะ…” ไม่รู้เหมือนกันว่าอะไรดลใจให้ฉันเอ่ยถามคำนี้ออกไป “ทำไมจะไม่เคย แต่พอมาคิดๆ ดูแล้วงานแต่งงานมันก็ไม่ได้สำคัญไปมากกว่าที่วันนี้เธออยู่กับฉัน” พูดจบคุณป๋าก็ผละกอดออก มือหนาช้อนปลายคางของฉันให้เงยขึ้นมองตัวเอง “ถามแบบนี้แปลว่าเธออยากแต่งงาน ?”“มะ ไม่หรอกค่ะ หนูยังไงก็ได้ตามใจคุณป๋า เพราะสถานะของเราด้วย คงยากที่คนอื่นจะยอมรับ” ฉันยื่นริมฝีปากไปหอมแก้มคุณป๋า “แค่ตอนนี้คุณป๋ารักและซื่อสัตย์กับหนู หนูก็ดีใจมากกว่าการได้ใส่ชุดเจ้าสาวอีกค่ะ” “พรุ่งนี้จะมีงานจัดเลี้ยงของบริษัท ไปกับฉันนะ ในฐานะเ
ถึงจะคิดว่าคุณป๋าไม่ได้อยู่หน้าประตูแล้วแต่ฉันก็ยังโวยวาย เอาแต่ทุบประตูห้องอยู่แบบนั้นเผื่อคุณป๋าจะเห็นใจกลับมาเปิดให้ “อื้อ หนูทุบประตูจนมือแดงหมดแล้วนะคะ” ฉันแสร้งทำเป็นพูด ถ้าคุณป๋าแอบฟังอยู่คงจะเห็นใจ นี่ฉันเป็นเมียเชียวนะ จะใจดำขนาดนั้นหรือไง แต่!!! ไร้สัญญาณใดๆ จากด้านนอก เงียบกริบไม่ได้ยินเสียงอะไรทั้งนั้น “คุณป๋าหนูปวดฉี่ ฉี่จะลาดแล้ว” ปังๆๆๆๆ พูดจบฉันก็ทุบประตูห้องรัวๆ “คุณป๋าหนูพูดจริงๆ นะ เปิดประตูให้หน่อย หนูจะไม่ทำแล้ว ไม่ดื้อแล้ว” ไม่ว่าจะตะเบ็งเสียงออกไปเท่าไหร่ก็ไร้วี่แววจากนั้นด้านนอก ถ้าคุณป๋าคิดจะขังฉันไว้ในห้องนี้ถึงเช้าจริงๆ ฉันจะหักเงินจากวันละสามร้อยให้เหลือวันละร้อยห้าสิบเลยคอยดูเถอะ!!ฉันนั่งลงที่พื้นอย่างหมดแรง ทั้งแหกปากตะโกนทั้งทุบประตูห้องผ่านไปครึ่งชั่วโมงทุกอย่างยังคงเงียบ ฉันก้มหน้าลงดูมือของตัวเองทั้งสองข้างที่แดงเถือกจากกับเคาะประตูรัวๆ ติดกันเป็นเวลานาน“ไม่คิดเลยว่าคุณป๋าจะใจดำได้มากขนาดนี้” ฉันพัดพ้อออกมาเพราะความโกรธ ใช่! ฉันเองที่ผิดไปยั่วโมโหคุณป๋าทำให้ฟิวขาด แต่ใครจะไปคิดล่ะว่าคุณป๋าจะมาขังไว้แบบนี้ ที่คิดไว้มันคนละแบบกันเลย ป่านนี้ไม
น้ำเสียงอำมหิตของคุณป๋าทำให้ขนทั้งตัวของฉันมันลุกซู่ คืนนี้คงจะเจอศึกหนักอีกแล้วสินะ ไหนๆ ก็จะเจอศึกหนักแล้วขอแกล้งหน่อยแล้วกัน อยากเห็นจังว่าเวลาคนแก่หึงมากๆ จะเป็นยังไง ไม่ใช่ว่าไม่เคยเห็นหรอกเพราะปกติคุณป๋าก็ขี้หึง แต่ครั้งนี้อยากทำให้หึงสุดๆ ไปเลย แล้วก็ไปจบที่เตียง คืนนี้ฉันคงต้องร้องขอชีวิตกับคุณป๋าอีกแน่ๆ “นี่เอวาไปเข้าห้องน้ำกัน ^_^” เอวามองฉันอย่างแปลกใจที่จู่ๆ ฉันก็ชวนไปห้องน้ำ คุณป๋าที่ได้ยินฉันพูดจึงกระตุกแขนเบาๆ แล้วพูดเสียงเข้ม “ถ้าอยากไปเข้าห้องน้ำ ฉันจะพาไป” “ไม่เอาค่ะ หนูอยากไปกับเอวามากกว่า” ฉันรีบปฏิเสธ ขืนให้ไปด้วยก็ไม่สนุกสิ ฉันตั้งท่าจะลุกขึ้นอีกครั้งแต่คุณป๋าไม่ยอมปล่อยมือที่รั้งเอวของฉันอยู่ ฉันจึงหันไปทำหน้าดุใส่ “ปล่อยนะคะ” คุณป๋าพ่นลมหายใจออกมาแรงๆ ดูก็รู้ว่าไม่อยากให้ฉันลุกขึ้นจากตักของตัวเอง แต่ถึงอย่างนั้นก็ยอมปล่อยมือออก ฉันจับมือเอวาให้ลุกขึ้น ก่อนจะจูงมือพาเดินเข้ามาในบ้าน “เดี๋ยว! ห้องน้ำอยู่ทางนั้นแกจะไปไหนเมเบล” เอวาชี้ไปทางห้องน้ำชั้นล่างของบ้าน“ใครบอกว่าฉันอยากจะมาเข้าห้องน้ำจริงๆ ล่ะ”“หื้อ อะไรของแกเนี่ยเมเบล” “ตามมาเถอะน่า ถามเยอะจริ
เลิกเรียน ฉันนัดกับเพื่อนและพี่กินให้มาที่บ้านของฉันตอนหนึ่งทุ่ม พอขึ้นมาบนรถฉันก็รีบบอกคุณป๋าไว้ก่อนว่าวันนี้เพื่อนจะมาที่บ้าน “วันนี้หนูนัดเอวากับฟาร์นให้มาปาร์ตี้ที่บ้านนะคะ” ฉันบอกแต่บอกไม่หมด เพราะไม่ได้บอกว่าพี่ดินจะมาที่บ้านด้วยเหมือนกัน“ปาร์ตี้ ?” คุณป๋ามองหน้าฉันแล้วขมวดคิ้วเป็นปม “ก็ใช่ไงคะ ขอไปคลับคุณป๋าก็ไม่อนุญาต หนูเลยชวนเพื่อนมาดื่มที่บ้าน”“ทำไมถึงไม่ถามฉันก่อน ?” “ทำไมล่ะคะ หนูไม่มีสิทธิ์จะทำอะไรตามใจตัวเองเลยหรือไง ต้องขออนุญาตทุกครั้งเลยใช่มั้ยคะ” คุณป๋าถอนหายใจออกมาเบาๆ “มันไม่ใช่แบบนั้น ฉันก็แค่อยากให้เธอบอกก่อน”“นี่ไง หนูก็บอกคุณป๋าอยู่นี่ไงล่ะคะ” ทั้งฉันและคุณป๋าต่างก็ทำเงียบใส่กัน อยากจะงอนก็งอนไปเถอะวันนี้ฉันไม่ง้อหรอก ไม่ยอมให้ฉันไปเที่ยวดีนัก อีกอย่างฉันก็แค่ชวนเพื่อนมาดื่มที่บ้านเอง นี่แหละ ฉันกับคุณป๋ามักจะงอนกันเพราะเรื่องไม่เป็นเรื่องประจำ พอมาถึงบ้านคุณป๋าก็เหมือนจะอารมณ์ดีขึ้น เดินมาเปิดประตูรถให้ แต่ยังฟอร์มอยู่ “ฝากบอกให้พี่กล้าจัดเตรียมของที่สระว่ายน้ำด้วยนะคะ เดี๋ยวหนูจะขึ้นไปอาบน้ำ” ฉันออกคำสั่ง “ห้ามใส่บิกินี่” คุณป๋าชี้หน้าฉันออกคำสั
ฉันนั่งหน้าบึ้งภายในรถโดยมีคุณป๋าเป็นคนมาส่งที่มหาวิทยาลัย จะให้หน้าบึ้งได้ไงล่ะ ก็เพราะคุณป๋าน่ะสิ หยิบกระโปรงตัวที่ยาวคลุมตาตุ่มมาให้ใส่ คิดแล้วก็ไม่น้าเก็บกระโปรงตัวนี้เอาไว้เลย คอยดูเถอะกลับบ้านไปฉันจะเผามันทิ้งซะ!!“ทำหน้าให้มันดีๆ หน่อย” คุณป๋าหันหน้ามาบอกในขณะที่กำลังขับรถอยู่ “ไม่ต้องมาพูดกับหนูเลย!!” “แค่ให้ใส่กระโปรงยาวแค่นี้ ต้องโกรธฉันมากขนาดนั้นเลยหรือไง”“ยาวแค่นี้ พูดมาได้ไงว่ายาวแค่นี้ อีกนิดเดียวก็จะลากดินอยู่แล้วนะคะ” “มันก็ดูเหมาะกับเธอดี” คุณป๋าทำหน้ากวน เหอะ! เหมาะอะไรล่ะ “มีผัวแล้วจะใส่สั้นๆ ไปอ่อยใคร!!” เอ้า! จู่ๆ คุณป๋าก็ทำเสียงดุใส่ฉันเฉยเลย แถมยังทำหน้าบึ้งอีกด้วย “อื้อ กระโปรงยาวแบบนี้ก็สวยไปอีกแบบนะคะ ใส่สบายด้วย ^_^” ต้องเป็นฉันที่เป็นฝ่ายยอมอ่อนข้อให้ เพราะไม่อยากจะทะเลาะกันให้ยืดยาว “อยู่เป็น” คุณป๋าพึมพำออกมาเบาๆ ทำให้ฉันจิ๊ปากใส่ แต่ก็แอบๆ ทำเพราะเดี๋ยวจะงอนอีก ยิ่งช่วงนี้คนแกยิ่งชอบอารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ อยู่ด้วย #มหาวิทยาลัย“หื้อ! เอวาเธอช่วยฉันดูทีว่าไม่ได้ตาฟาดไปใช่มั้ย วันนี้เมลมันใส่กระโปรงแทบจะลากดินเลยว่ะ” พอมาถึงฟาร์นมันก็พูดล้อฉันขึ้นมาทันท
เวลาล่วงเลยมาจนถึงวันที่มหาวิทยาลัยของฉันเปิดภาคเทอม…วันนี้คุณป๋าจะต้องไปส่งฉันที่มหาวิทยาลัยด้วยตัวเองและไปรับ นี้ไม่ใช่กฏที่ตัวฉันตั้งขึ้น แต่เป็นกฏของคุณป๋าเองต่างหาก แถมยังสั่งห้ามไม่ให้ฉันมองผู้ชายคนไหนอีกด้วย “ขอยกเว้นพี่ดินสักคนไม่ได้หรอคะ” ฉันอ้อนคุณป๋าในขณะที่กำลังแต่งตัวอยู่ พี่ดินคือพี่ชายที่แสนดีคนหนึ่ง เขาเคยช่วยฉันในหลายเรื่อง จะให้ฉันทำเมินใส่เขาคงไม่ได้“ไม่ได้!!” คุณป๋าตอบเสียงแข็ง“หัดมีเหตุผลบ้างสิคะ” “จะใส่ใจมันทำไมนักหนา!!” อีกแล้ว พูดถึงพี่ดินทีไรก็ทักจะมีปากเสียงกันตลอด ล่าสุดฉันขอไปกินข้าวกับพี่ดิน อย่กจะเลี้ยงขอบคุณเขาก็ถูกห้ามแล้วก็มีปากเสียงกันใหญ่โต “เขาเป็นคนดีนะคะ”คุณป๋าเงียบทำเมินไม่สนใจคำพูดของฉัน ก็ได้ถ้าอยากจะเมินใส่กันแบบนี้ ฉันเอื้อมมือหยิบกระโปรงนักศึกษาตัวที่สั้นที่สุดในตู้เสื้อผ้าออกมา แล้สสวมใส่มัน หลังจากที่ใส่กระโปรงแล้วก็หันกลับมามองคุณป๋า เห็นว่าตอนนี้คุณป๋ากำลังจ้องหน้าฉันตาเขม็งอยู่ “ไปส่งหนูได้แล้วค่ะ จะสายแล้ว”“ไม่คิดบ้างหรือไงว่ากระโปรงที่ใส่อยู่มันจะขัดหูขัดตาฉันขนาดไหน” คุณป๋าตวัดสายตาจ้องเขม็งมองกระโปรงของฉัน“หนูก็ใส่แบบนี้
เฮือก!! ใจมันกระตุกวูบทันทีเมื่อได้ยินคำพูดที่รู้ทันแผนการของคุณป๋า ใบหน้าของฉันซีดเผือดพร้อมกับมีเหงื่อเม็ดเล็กๆ ผุดขึ้นมา ฉันหลับตาลงแล้วนับหนึ่งถึงสามในใจ ก่อนจะลุกขึ้นจากตักแกร่งแล้ววิ่งหนี แต่!! ทำได้เพียงแค่ลุกขึ้น ร่างของฉันก็ถูกคุณป๋าคว้าจับที่เอวเอาไว้ออกแรงดึงให้กลับมานั่งลงบนตักของตัวเองเหมือนเดิม บ้าที่สุด!! “คิดจะหนี มันง่ายไปหรือเปล่า” ฉันค่อยๆ หันหน้ามองคุณป๋าที่กำลังทำหน้ายักษ์ใส่ ก่อนจะตัดสินใจถาม “พะ พี่กล้าบอกหรอคะ” คุณป๋าส่ายหน้าไปมาแทนคำตอบ ได้ไง! ถ้าพี่กล้าไม่บอกแล้วคุณป๋าจะรู้ได้ยังไง “ฉันแอบฟังเธอคุยกับมัน” เฮือก!! ให้ตายเถอะ สรุปคือฉันพลาดที่ไม่ได้สังเกตอะไรให้ดีๆ ก่อนใช่มั้ย “ส่วนยานั่นที่เธอคิดว่าเป็นยานอนหลับ มันเป็นแค่ยาบำรุง” มือหนาจับปลายคางของฉันให้เงยขึ้น “ฉันเป็นคนสั่งให้ไอ้กล้าเปลี่ยน”“……” ฉันค่อยๆ เม้มปากเข้าหากันแน่น ไม่รอดแน่ ถึงจะชอบเวลาที่มีอะไรกับคุณป๋า แต่ฉันไม่ค่อยชอบเลยเวลาที่ต้องถูกลงโทษ เพราะนั่นหมายความว่านอกจากคืนนี้จะไม่ได้ไปคลับแล้ว ฉันยังจะไม่ได้นอนอีกทั้งคืน คุณป๋ากดจูบหนักๆ ลงมาบนริมฝีปากของฉันเพื่อเป็นการลงโทษ ริมฝีปากมั