เพนต์เฮ้าส์โอนิกซ์ตลอดช่วงเวลา 3 วันของการเริ่มคบหากับโอนิกซ์เป็นไปอย่างราบรื่น ชายหนุ่มดูแลเอาใจใส่เธอดีเหมือนที่ผ่านมา และยังทำตัวสวีทหวานเว่อร์เวลาที่ทั้งคู่อยู่กันตามลำพังบาดแผลที่เข่าของเธอเกือบจะหายสนิทแล้ว แต่เขายังไม่ยอมให้แพรวากลับไปทำงานอยู่ดี เพิ่งจะมีวันนี้ที่ชายหนุ่มทนคำรบเร้าของแฟนสาวไม่ไหว จึงยอมอนุญาตให้เธอออกไปทำงานด้วย แต่ไม่ยอมให้แพรวาลุกเดินไปไหนเกิน 10 ก้าวแทบจะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงหรือต้องปรับตัว แพรวาคุ้นเคยกับการใช้ชีวิตร่วมกับโอนิกซ์อยู่แล้ว ยิ่งสถานะของทั้งคู่ดูมั่นคงขึ้น โลกของเขาและเธอก็กลายเป็นสีชมพู อะไรก็ดีดูหวานชื่นไปเสียหมดแต่มันก็ยังมีเรื่องบางอย่างที่แพรวาปิดบังเอาไว้ รู้ดีว่าหากหลุดปากสารภาพไป ความสัมพันธ์ของเธอและเขาจะไม่มีทางประสานกันได้อีกเลย"ทำอะไรอยู่"น้ำเสียงนุ่มดังขึ้นจากด้านหลัง ทำให้แพรวาหลุดออกจากภวังค์ หันมาส่งยิ้มให้ชายหนุ่มที่ทิ้งกายนั่งซ้อนเธออยู่เบื้องหลังบนเก้าอี้ยาวริมสระว่ายน้ำ ท่อนแขนกำยำโอบกระชับเอวบางให้ขยับเข้าใกล้ พร้อมหอมแก้มเธอฟอดใหญ่อย่างรักใคร่"ก็นั่งดูข่าวในโซเชียลทั่วไปแหละ""ย
แพรวาลุกพรวดขึ้นมานั่งจ้องข้อความจากบุคคลปริศนา สีหน้าเริ่มย่ำแย่ลงจนซีดเผือด รู้ซึ้งดีแก่ใจว่าใครเป็นคนส่งข้อความมาหา หัวใจที่กำลังพองโตหล่นวูบ ดวงตาไหวระริกหวาดกลัวขึ้นมาจับใจดูเหมือนพระเจ้าจะไม่เคยฟังคำขอเธอเลยริมฝีปากบางสั่นเทาเม้มหาเข้ากันแน่น ไม่ต่างจากมือน้อยที่เย็นเฉียบแต่กลับชุ่มเหงื่อกำลังกุมมือถือเอาไว้ด้วยความกระวนกระวาย ไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไรต่อดียังไม่ทันจะได้คิดไตร่ตรองใดๆ ก็มีข้อความส่งเข้ามากดดันเพิ่มเติม ปิดโอกาสให้เธอลังเลPrivate Number‘เดี๋ยวนี้! แล้วอย่ามาหาว่าฉันใจร้าย’น้ำตาเม็ดร้อนหยดลงทันที หัวใจบีบรัดจนจุกหนึบ สาวตัวเล็กเงยหน้ามองกล้องวงจรปิดเล็กที่มุมห้องด้วยความกังวล แม้โอนิกซ์จะบอกว่าจัดการปิดกล้องทั้งหมดแล้ว แต่เธอก็ไม่อาจคลายใจได้ จึงหยิบโทรศัพท์ในมือลงมาด้านล่างและเดินออกไปยังระเบียงกว้าง ที่แน่ใจว่าจุดนี้ไม่มีกล้องติดเอาไว้แน่นอนตัวเลขที่ไม่เคยอยากจะกดถูกนิ้วเรียวจิ้มลงไปช้าๆ พร้อมกดปุ่มโทรออก ได้แต่ภาวนาให้เวลาหยุดเดินเสียตอนนี้เลย(หึ ไงน้องสาว)"อย่ามาเรียกฉันแบบนั้น!" เธอแหวเสียงสูงกลับด้วยความรังเกียจชัดเจน ดวงตาคู่สวยเปลี่ยนเป็นเกร
หญิงสาวกลับขึ้นบนห้องนอนใหญ่ ไฟทุกดวงถูกปิดหมด แต่คนบนเตียงกลับไม่อาจข่มตาหลับลงได้ ในหัวมีแต่คำพูดกดดันที่อาชาทิ้งไว้ หากเธอเลือกที่จะหักหลังเขา ความเชื่อใจและสายสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็ต้องขาดสะบั้น แต่หากไม่ทำอะไรอาชาก็จะมาเล่นงานโอนิกซ์จนอาจถึงแก่ชีวิตน้ำตาแห่งความเศร้าไหลออกมาไม่ขาดสาย พร้อมกับเสียงสะอื้นราวจะขาดใจดังก้องห้องนอนหรูอีกทางเลือกที่แพรวาหวาดกลัวพอกันก็คือสารภาพเรื่องราวทั้งหมดกับโอนิกซ์ เธออาจจะไม่หักหลังเขาในครั้งนี้ แต่มันก็จะเป็นการเฉลยว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาเธอโกหกเขา และเขาคงไม่มีทางให้อภัยเธอได้แน่ๆ อีกทั้งอาชาก็ยังมีโอกาสเล่นงานโอนิกซ์อีกเธอไม่อยากเป็นต้นเหตุให้เขาต้องมาเจ็บตัวหรือเสี่ยงชีวิต หลังจากนอนครุ่นคิดอยู่นานเธอก็ตัดสินใจได้ ให้เขาเกลียดเธอไปยังดีกว่าเห็นเขาตายกลางอกจุกแปลบเหมือนถูกของแหลมทิ่มแทง เพียงแค่นึกภาพตอนที่โอนิกซ์รู้ความจริง ความรู้สึกผิดก็ถาโถมเข้ามาจนหายใจแทบไม่ออกประตูห้องนอนถูกเปิดเข้ามา ทำให้แพรวารีบกลั้นเสียงร้องไห้ของตน แสร้งหลับตานิ่ง นอนตัวแข็ง ปรับลมหายใจให้สม่ำเสมอ แม้หัวใจดวงน้อยจะเต้นระรัวสัมผัสแผ่วเบาที่เ
"พรุ่งนี้ช่วงเช้าฉันไม่อยู่นะ พวกเพื่อนนัดคุยธุระนิดหน่อย คงกลับมาบ่ายๆ หรืออาจจะเย็น" โอนิกซ์บอกแฟนสาวขณะทั้งสองทานข้าวเที่ยงด้วยกันแพรวานิ่งไปครู่หนึ่ง สมองกำลังครุ่นคิดถึงแผนการที่ตั้งใจไว้ ก่อนจะตอบชายหนุ่มกลับไป"พรุ่งนี้พวกเพื่อนวาเขาชวนวาไปกินข้าวเหมือนกัน""ตอนไหนล่ะ""ก็คงจะบ่ายๆ""เดี๋ยวให้ไอ้ตะวันไปส่ง"โอนิกซ์พยักหน้าตอบกลับ ตอนนี้เธอไม่ได้อยู่ในฐานะของนักโทษแล้ว สามารถไปไหนมาไหนได้ตามใจชอบ แต่เขาก็ยังเป็นห่วงความปลอดภัยของเธออยู่ดี ซึ่งเธอก็มีสีหน้าลำบากใจขึ้นมาอีกครั้ง ริมฝีปากบางเม้มหาเข้ากันพยายามคิดหาข้ออ้างไม่ให้ลูกน้องโอนิกซ์ไปเฝ้า ซึ่งคนนั่งฝั่งตรงข้ามก็สังเกตเห็นท่าทางกระอักกระอ่วนใจนั้น"มีอะไร""วาไปเองก็ได้นะ นิกซ์จะให้ลูกน้องไปเดินตามวาเหรอ""ก็เพื่อความปลอดภัยของเธอต่างหาก" เขาอธิบาย"ไม่เอาไม่ได้เหรอ แบบนี้เพื่อนวาคงนั่งตัวแข็งกันหมดแน่""...""วาไปแค่ห้างเอง ให้ลูกน้องนิกซ์รอในรถแทนได้ไหม เดี๋ยววาทานเสร็จก็เดินไปเจอที่ลานจอดรถ" ร่างเล็กพยายามต่อรอง เพราะอาชาให้เส้นตายเธอถึงแค่วันพรุ่งนี้เท่านั้น หากไม่สามารถสลัดลูกน้องเขาไปได้ ก็
แพรวายังคงนอนนิ่งอยู่บนเตียง เฝ้าฟังเสียงการเคลื่อนไหวรอบตัว ชายหนุ่มลุกขึ้นไปอาบน้ำแล้วไม่นานก็ได้ยินเสียงฝีเท้าและเสื้อผ้าเสียดสีกัน หัวใจดวงน้อยเหมือนกำลังถูกบีบรัด ได้แต่สะกดลมหายใจให้สม่ำเสมอ พยายามซุกใบหน้าสวยแดงก่ำซีดเซียวจากการร้องไห้ทั้งคืนไว้กับหมอนจนเวลาผ่านไปอีกครู่ใหญ่ก็รู้สึกถึงสัมผัสแผ่วเบาที่แก้มเนียน พร้อมกลิ่นน้ำหอมประจำตัวชายหนุ่มลอยมาปะทะจมูก"เจอกันตอนเย็นนะครับวา" น้ำเสียงอ่อนโยนดังขึ้นข้างหูเธอเบาๆ ก่อนมาเฟียหนุ่มจะหมุนกายเดินออกจากห้องไป ไม่ได้รับรู้เลยว่าจะเป็นครั้งสุดท้ายที่ได้หอมแก้มเธอเมื่อเสียงประตูปิดลงน้ำตาที่พยายามกลั้นไว้นานก็ทะลักออกมาราวกับเขื่อนแตก แพรวากัดปากตัวเองข่มเสียงสะอื้นเอาไว้ นานจนแน่ใจว่าเขาคงออกไปจากเพนต์เฮ้าส์แล้ว ถึงปล่อยโฮออกมาอย่างไม่อาจหักห้ามใจได้ร่างเล็กหยัดกายขึ้นนั่ง กวาดสายตาพร่าเลือนด้วยม่านน้ำตามองห้องนอนอีกครั้งด้วยหัวใจปวดร้าว เธอฟุบหน้าลงกับเข่าสะอื้นออกมาเสียงดัง เสียใจที่ตัวเองไม่มีโอกาสแม้จะได้เอ่ยคำลาห้องนอนกว้างมีเพียงเสียงร้องไห้และหัวใจที่แตกสลายของแพรวาดังอยู่เกือบชั่วโมง เธอรวบรวมสติครั้ง
ร่างเล็กก้าวลงมาจากแท็กซี่ยืนมองคฤหาสน์หลังใหญ่ที่ไม่คิดอยากจะย่างกายกลับมาอีกด้วยสายตาเจ็บปวดรวดร้าว เธอไม่เคยมีความทรงจำดีๆ หรือนึกอาลัยอาวรณ์มันสักนิด แม้จะเคยอาศัยอยู่ที่นี่ถึง 2 ปีรั้วเหล็กสีดำขนาดใหญ่ตัดกับกำแพงสูงสีขาวตั้งล้อมตัวคฤหาสน์ลักษณะไทยย้อนยุคที่เป็นมรดกตกทอดมาตั้งแต่รุ่นก่อน แต่ยังคงสภาพดีเหมือนใหม่เนื่องจากได้รับการดูแลเป็นอย่างดีมาตลอด ถนนเส้นเล็กถูกปูด้วยหินสีเทาทอดยาวเข้าสู่ตัวบ้านสามชั้นขนาดใหญ่ สองข้างทางเป็นสนามหญ้ากว้างดูร่มรื่น ที่หน้าประตูคฤหาสน์ยังมีน้ำพุขนาดใหญ่สีขาวตั้งเด่นไว้ไม่ต่างจากในภาพยนตร์หัวใจดวงน้อยเต้นระรัว เส้นเลือดที่ขมับซ้ายขวาตึงเครียดขึ้นมา ความทรงจำเลวร้ายย้อนกลับเข้ามาอีกครั้ง เธอยืนสูดหายใจรวบรวมความกล้าอยู่ที่หน้าประตูครู่ใหญ่ ก่อนจะเดินไปติดต่อยามให้ช่วยเปิดประตูรั้วให้เหมือนว่าอาชาจะแจ้งยามเอาไว้แล้วว่าแพรวาจะมา ชายวัยชราจึงไม่ได้ถามอะไรเธอมาก เพียงแค่ทำหน้าที่เปิดประตูรั้วเล็กบานเล็กให้หญิงสาวเท่านั้นคฤหาสน์ใหญ่แทบไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงนับแต่วันที่เธอจากไป ภายนอกดูอบอุ่นหรูหราเหมาะสมกับตำแหน่งในรัฐบาลของผู้เป็นเจ้าของ แต่ใครจะร
"กรี๊ดดดดด"เธอกรีดร้องออกมาสุดเสียงเมื่ออาชาพุ่งเข้าประชิดตัว จึงแทงมีดในมือตัวเองออกไป แต่คนตัวสูงก็รู้ทันและเบี่ยงตัวหลบไปได้ก่อนพร้อมคว้าข้อมือเล็กของหญิงสาวไว้แน่น กระชากเธอเข้าหาตัว"วันนี้ไม่รอดแน่ กูจะทบต้นทบดอกให้คุ้มกับที่รอมาหลายปีเลย" เขากระแทกเสียงด้วยความสะใจ ยิ่งได้มองใบหน้าสวยเย้ายวนกำลังตื่นกลัวสุดขีดก็ยิ่งอารมณ์ดีข้อมือบางถูกรวบเอาไว้เหนือศีรษะพร้อมออกแรงกดมันแนบชิดประตูหนา เริ่มจู่โจมที่ริมฝีปากเธอเป็นอันดับแรก หมายจะลงโทษปากจัดๆ ของเธอให้เงียบเสียง แต่แพรวาก็ไม่ยอมง่ายๆ ออกแรงทั้งดิ้นทั้งถีบพร้อมเบี่ยงหน้าหลบอารมณ์ตัณหาราคะและความหงุดหงิดเพิ่มสูง มือหนาอีกข้างที่ว่างบีบคางเล็กเต็มแรงจนเธอหน้าเบ้ บังคับให้ใบหน้าสวยอยู่นิ่งและบดริมฝีปากใส่หญิงสาวอย่างโหดร้ายทารุณน้ำตาร้อนไหลอาบแก้ม หัวใจเต้นระรัว ความขยะแขยงแล่นพล่านไปทั่วร่าง ยิ่งรังเกียจขึ้นไปอีกเมื่ออาชาใช้ลิ้นสากลามเลียไปตามกลีบปากที่เม้มแน่นอย่างหื่นกระหาย"พยศเยอะๆ แพรวา ตอนที่กูขย่มจนมึงหมดแรง มันจะยิ่งทำให้กูสะใจกว่าเดิม" ถ้อยคำหยาบคายจาบจ้วงทำแพรวาหวาดผวาตัวสั่น หนทางรอดยิ่งดูริบหรี่ลง แต่เธอก
โอนิกซ์เสร็จจากธุระกับกลุ่มเพื่อนและกลับมายังเพนต์เฮ้าส์ในช่วงเกือบ 4 โมงเย็น ถึงแม้จะไร้วี่แววของหญิงสาวเขาก็ไม่ได้รู้สึกเอะใจ เพราะวันนี้เธอออกไปทานข้าวกับสมัยเพื่อนมหาวิทยาลัยชายหนุ่มนั่งอ่านหนังสืออยู่ในห้องนั่งเล่น สายตาคมเหลือบมองนาฬิกาข้อมือเป็นระยะ สลับกับมองแสงอาทิตย์ด้านนอกที่เริ่มคล้อยลงต่ำ ใกล้ 6 โมงเย็นแล้ว แต่แพรวาก็ยังไม่กลับมาเสียที ความคิดถึงทำให้เขาเป็นฝ่ายหยิบมือถือขึ้นมาโทรหาหญิงสาวคิ้วเข้มขมวดเข้าหากัน เริ่มรู้สึกถึงความผิดปกติ เมื่อไม่สามารถติดต่ออีกฝ่ายได้ เหมือนว่ามือถือเธอจะถูกปิด ทำให้เขาโทรถามลูกน้องที่เป็นคนไปส่งหญิงสาวที่ห้าง"มึงอยู่ไหน"(พวกผมยังรอคุณแพรวาอยู่ที่ห้างครับ) ตะวันตอบกลับ"แล้วแพรวาอยู่ไหน"(เธอเดินเข้าห้างไปตั้งแต่ช่วงบ่าย 2 โมง แล้วครับ นายบอกไม่ให้พวกผมตามเฝ้า ผมเลยทำได้แค่รออยู่ในรถ""..."(คุณแพรวาบอกว่าเสร็จธุระแล้วจะเดินกลับมาที่จุดนัดเอง...เกิดอะไรขึ้นหรือเปล่าครับ)"พวกมึงลองเดินหาแพรวาในห้างดู ตอนนี้กูติดต่อเธอไม่ได้"(ได้ครับนาย)หัวใจแกร่งวูบโหวงแปลกๆ แม้นี่จะยังไม่ค่ำมาก แต่การที่ไม่สามารถติดต่อ
เพนต์เฮ้าส์โอนิกซ์โอนิกซ์ส่งยิ้มพลางยื่นนิ้วมือไปหาลูกน้อยในอ้อมแขน ซึ่งอัศวินก็หัวเราะร่าพยายามยื่นมือมาคว้ากำนิ้วบิดาเอาไว้ เขาพยายามบีบๆ คลายๆ อยู่หลายครั้ง และมักจะส่งเสียงโต้ตอบบ้างเวลาผู้เป็นพ่อพูดคุยด้วยแม้จะยังไม่รู้ความก็ตามไม่แปลกใจเลยทำไมเพื่อนเขาถึงอยากพาลูกชายตัวเล็กของตนกลับบ้านไปด้วย อัศวินเลี้ยงง่ายและอารมณ์ดี บางครั้งเขาก็มักจะเพลินกับการหยอกล้อกับลูกจนลืมเวลาไป"เล่นพอยังคะตัวเล็ก หม่ามี๊พาไปอาบน้ำดีกว่า""คิก คิก คิก"อัศวินหัวเราะคิกคักขณะดวงตากลมโตบ้องแบ๊วมองมารดาและยิ้มจนตาหยี"กวนปะป๊านานแล้วนะคะ ไปกัน"โอนิกซ์ส่งยิ้มอ่อนโยนให้ภรรยา ประคองทารกให้หญิงสาวรับไปอุ้มต่อ สายตาอบอุ่นสื่อความหมายสบมองกัน แม้ไม่มีคำพูดใดๆ ออกมา แต่ทั้งคู่ก็มีความสุขมากในทุกช่วงเวลาแพรวาอุ้มอัศวินเข้าไปอาบน้ำในห้องน้ำ ส่วนโอนิกซ์ก็หยิบโน้ตบุ๊กมานั่งเคลียร์งานที่คั่งค้างต่ออีกนิดหน่อยมุมปากหยักยกยิ้มเมื่อได้ยินเสียงหัวเราะดังแววออกมาจากห้องน้ำ จนอดใจไม่ไหวต้องวางโน้ตบุ๊กบนตักลงแล้วเดินไปดูสองแม่ลูกแทนแพรวานำอ่างอาบน้ำสำหรับเด็กมาตั้งไว้บนเคาน์เตอร์อ่างล้างหน
3 เดือนต่อมาบริษัท JRV LOGISTICSประธานหนุ่มเจ้าของบริษัทโลจิสติกส์ขนาดใหญ่ ก้มอ่านเอกสารร่างสัญญาฉบับใหม่ มือขวาควงปากกา มือซ้ายก็ประคองร่างของลูกชายตัวเล็กโยกกล่อมให้หลับภายในห้องทำงานเต็มไปด้วยอุปกรณ์เลี้ยงเด็ก ทั้งเปลที่นอน และคอกกั้นบุนวมอย่างดี พร้อมตุ๊กตาของเล่นขนาดต่างๆ จนไม่เหลือคราบห้องของประธานบริษัทแม้แต่น้อยแพรวาเปิดประตูเข้ามา หลังจากคลอดลูกน้อยรูปร่างเธอก็กลับสู่สภาพเดิมอย่างรวดเร็ว แทบจะดูไม่ออกว่าเคยผ่านการตั้งครรภ์มาก่อนใบหน้าสวยดูเปล่งประกายความงามชัดเจน ผิวขาวเนียนตัดกับเส้นผมสีดำสนิทยาวจรดแผ่นหลัง เธอสวมชุดเสื้อสูทสีครีมคู่กับกระโปรงเอวสูงสีเดียวกัน ราศีภรรยาประธานบริษัทจับทุกระเบียบนิ้วมุมปากที่ทาทับด้วยลิปสติกสีนู้ดยกยิ้มขึ้น จรดฝีเท้าเงียบเชียบไม่ให้รบกวนการนอนหลับของลูกน้อยโอนิกซ์เงยหน้าขึ้นจากกองเอกสาร สายตาใต้กรอบแว่นดูอ่อนโยนเมื่อมองผู้มาใหม่ วางปากกาในมือลง"นี่เอกสารประชุมอาทิตย์หน้าค่ะ""เหนื่อยไหมครับ""นิกซ์ต่างหาก วินดื้อไหมเอ่ย""เล่นเสร็จ เพิ่งหลับไปเมื่อกี้"สายตาอ่อนโยนมองใบหน้าหลับใหลของลูกชายที่ถอดแบบมาจากเขาแทบจะพิมพ์เดียวกัน ยก
2 เดือนต่อมาโรงพยาบาลแพรวานั่งๆ นอนๆ อยู่แต่บนเตียงคนไข้ โอนิกซ์ย้ายเธอมาที่โรงพยาบาลได้สองวันแล้วเพื่อรอวันคลอด ตอนนี้แพรวายังไม่ค่อยรู้สึกตื่นเต้นเท่าไร ต่างจากคนเป็นสามีที่ดูตื่นตัวพร้อมทุกสถานการณ์ เขาจัดเตรียมอุปกรณ์สำหรับทารกแรกเกิดไว้พร้อมสรรพ รวมถึงจัดการออกแบบตกแต่งห้องนอนรับแขกเก่าที่แพรวาเคยนอนเป็นห้องเด็กอ่อน แม้ลูกยังต้องนอนห้องเดียวกับพวกเขาอีกหลายปีก็ตามท้องเธอโตเสียแทบเดินไม่ไหว จะลุกจะนั่งต้องมีโอนิกซ์คอยช่วยพยุงวันนี้ก็เป็นอีกวันที่ห้องพักของเธอครึกครื้น"พี่วาเอาแอปเปิลไหม คลีปอกให้" คลีโอและลีโอหอบกระเช้าผลไม้มาเยี่ยมว่าที่คุณแม่ตั้งแต่เช้า"ได้จ้ะ ขอบคุณนะ""ค่า เดี๋ยวคลีไปล้างก่อน"คลีโอเดินไปยังส่วนครัวของห้องพักซึ่งไม่ต่างจากโรงแรมดีๆ มีอุปกรณ์ช่วยอำนวยความสะดวกครบครัน แถมยังมีแยกโซนสำหรับคนไข้และญาติเวลามาเยี่ยมไว้ด้วย ห้องรับแขกก็กว้างขวาง แบ่งเป็นสัดส่วนจึงไม่รบกวนการพักผ่อนของคนไข้"ปอกเป็นเหรอไง เอามีดมานี่ พี่ทำเอง" ลีโอที่แทบทนดูไม่ไหว ดึงมีดคมออกจากมือแฟนสาว และดันตัวเธอไปข้างๆ ก่อนจะจัดการแอปเปิลสีแดงด้วยตัวเองชายหนุ่มจัดการป
ย่านใจกลางเมืองเหล่ามาเฟียสี่คน ยืนหน้าเครียดมองประตูร้านขนมหวานด้วยความไม่แน่ใจ ก่อนจะหันกลับมามองเพื่อนที่เป็นคนเสนอความคิด"เอาจริงดิ พาพวกกูมาคุยงานในร้านขนมเนี่ยนะ" ลีออนเอ่ยขึ้นมาอย่างอดไม่ได้"แล้วยังไง""ดูหน้าแต่ละคนก่อน แล้วค่อยถามว่ายังไง""มึงก็รู้กูห่างเมียนานไม่ได้ มันปวดหัวอยากจะอ้วก ถ้าอยากคุยงานก็คุยที่นี่" โอนิกซ์ตอบกลับเสียงเรียบ ก่อนจะจูงมือภรรยาสาวที่ท้องโตเข้าไปในร้านเป็นคนแรก"แน่ใจเหรอวะ" ลีออนหันมาขอความเห็นจากเพื่อนที่เหลือ ซึ่งวิคเตอร์ก็ทำได้เพียงถอนหายใจ ส่วนไคโรและลีโอก็ส่ายหน้าไม่ได้ตอบคำถาม และพาแฟนตัวเองเข้าไปในร้านด้วยเช่นกัน"เชี่ย พวกกูสองคนมาทำห่าอะไรเนี่ย นึกว่านัดเดทคู่""กูยอมให้มึงควงได้วันหนึ่ง แต่ถ้าเริ่มลวนลามกูเมื่อไร กูถีบมึงแน่""ถุย! กูเนี่ยนะ จะลวนลามมึง พูดจาน่าถูกกระสุนฝังหัวจริงๆ""หึ"วิคเตอร์ทำเพียงแค่แค่นหัวเราะ และเดินตามคนอื่นเข้าไปในร้าน สุดท้ายเพื่อนผู้เรื่องมากก็หมดข้อโต้แย้ง ยืนกระฟัดกระเฟียดอยู่ครู่หนึ่งก็ยอมตามเข้ามาโอนิกซ์แยกโต๊ะระหว่างกลุ่มสาวๆ ในนั่งริมหน้าต่างร้าน ส่วนกลุ่มเขาแยกมาอีกโต๊ะก่อ
คฤหาสน์ตระกูลโอนิกซ์แพรวาคลี่ยิ้มละลายใจ ขณะผลักร่างสูงของผู้เป็นสามีลงบนเตียงกว้างในห้องนอนของเขา โอนิกซ์หอบหายใจเข้าออกหนักหน่วงด้วยความตื่นเต้น เฝ้ามองหญิงสาวค่อยๆ คลานขึ้นมาคร่อมร่างด้วยท่าทางยั่วเย้าชวนคลั่งคอเสื้อเว้าลงมา จนสามารถมองเห็นเนื้อนุ่มคู่สวยใต้ชุดเดรสน้ำเงิน ความกระสันทำช่วงล่างปวดหนึบ ดุนดันเป้ากางเกงขึ้นเป็นลำคนตัวเล็กยกยิ้มอย่างคนมีอำนาจเหนือกว่า มือน้อยลูบไล้ลำกายแข็งขืนผ่านกางเกง เฝ้ามองคนข้างใต้พยายามบดเบียดช่วงล่างเข้าหามือเธอ"จะให้รางวัลอะไรนิกซ์ครับ" เขาถามเสียงกระเส่า ความรู้สึกตื่นตัววูบหวิวทรมานเหมือนตนกำลังโดนทำโทษมากกว่า"รอดูสิคะ ใจร้อนจัง""อ่า เมียขี้ยั่วจัง"มือซุกซนเริ่มทำการปลดตะขอกางเกงพร้อมดึงมันลง โอนิกซ์ก็ยกสะโพกช่วยให้เธอจัดการกับกางเกงเกะกะโดยง่าย ท่อนเอ็นร้อนแข็งแทบชี้หน้า แต่ก็ยังมี บ็อกเซอร์อีกตัวปกปิดเอาไว้แพรวานั่งคุกเข่าอยู่กลางหว่างขา ใช้มือสัมผัสความใหญ่โตผ่านเนื้อผ้าอย่างยั่วยวนใจเย็น แต่คนที่นอนหอบหายใจกลับจะเป็นฝ่ายทนไม่ไหวเสียเอง รูดชั้นในลง โยนทิ้งออกไปในที่สุดท่อนเอ็นใหญ่ขนาดเท่าข้อมือหญิงสาวปรากฏสู่สาย
หลังมื้ออาหารจบลง งานประมูลสินค้าเพื่อร่วมบริจาคเงินให้แก่เด็กด้อยโอกาสจึงเริ่มขึ้น แขกที่มาร่วมงานทยอยเดินไปยังโซนหน้าเวทีโอนิกซ์โอบเอวภรรยาคนสวยไว้ตลอดทาง ระมัดระวังทุกย่างก้าวจนเธอนั่งลงข้างไปรยาเรียบร้อย เขาจึงนั่งขนาบข้าง ไม่นานไฟในห้องจัดเลี้ยงก็ถูกหรี่ลง พร้อมเสียงพิธีกรดำเนินงานดังขึ้น"สวัสดีครับ ขอต้อนรับทุกท่านเข้าสู่งานประมูลเพื่อการกุศลครั้งที่ 4 รายได้จากการประมูลทั้งหมด หลักหักค่าใช้จ่ายแล้วจะนำไปช่วยเหลือเด็กด้อยโอกาสยังพื้นที่ห่างไกล ของที่นำมาร่วมประมูลในวันนี้มีมูลค่ารวมกันเกือบ 50 ล้านบาทเลยทีเดียว ขอให้ทุกท่านสนุกไปกับงานในครั้งนี้นะครับ"แขกที่มาร่วมงานต่างปรบมือเสียงดัง ตื่นเต้นที่จะได้ชมของล้ำค่ามากมาย และยังได้โอกาสอวดบารมีและเงินในบัญชีให้คนอื่นรับรู้ด้วย"ของชิ้นแรก เปิดกันมาด้วยแจกันเครื่องลายครามจากราชวงศ์ชิง ของประเทศจีนโบราณ พร้อมใบรับประกัน ขอเปิดการประมูลที่ หนึ่งล้านบาทครับ"เมื่อพิธีกรให้สัญญา ผู้ร่วมงานก็ชูป้ายขานราคากันอย่างสนุกสนาน แพรวาตกใจกับราคาที่สูงลิ่วของของแต่ละอย่าง ความคิดที่อยากจะร่วมงานเพื่อช่วยเหลือเด็กน้อยต้องถูกหยุดไว้ชั่วคร
ครืด ครืด ครืดโอนิกซ์ล้วงโทรศัพท์ในกระเป๋าขึ้นมา ก็ต้องขมวดคิ้ว เมื่อเห็นชื่อมารดาปรากฏที่หน้าจอ ก่อนจะต้องกดรับสายอย่างไม่มีทางเลือก(ลูก วันนี้อย่าลืมมางานเลี้ยงการกุศลที่โรงแรม คาเรน ฮิลล์ นะ)"ผมบอกตอนไหนว่าจะไปครับ"(ไม่ต้องบอก เพราะแม่ไม่ให้ทางเลือกจ๊ะ)"วาเขาเหนื่อย แม่ยังจะให้ลูกสะใภ้ไปเดินร่อนในงานอีกเหรอครับ"(หนูวาโอเค เธอรับปากแม่เมื่อวานเรียบร้อยจ้า แต่งตัวมาหล่อๆ สวยๆ แล้วเจอกัน 1 ทุ่ม รักลูกจ้า)"เดี๋ยว! แม่ครับ"โอนิกซ์ร้องเรียกมารดาเสียงดัง แต่คุณหญิงไปรยาก็ไม่อยู่รอฟังคำบ่นจากปากลูกชาย กดวางสายไปเสียก่อน โอนิกซ์จึงทำได้เพียงถอนหายใจ"วาไปรับปากแม่เหรอ ว่าจะไปงานเลี้ยงอะไรนั่น""ค่ะ คุณแม่โทรหาเมื่อวาน อยากให้เราสองคนไปร่วมงานด้วย""เฮ้อออ~ วาน่าจะปฏิเสธไป งานพวกนี้น่าเบื่อจะตาย ทำวาเหนื่อยเปล่าๆ""ไม่เป็นไรหรอกค่ะ คุณแม่บอกเป็นงานประมูลเพื่อนำเงินช่วยเหลือไปมอบให้เด็กด้อยโอกาส เรื่องเล็กน้อยแค่นี้ถ้าวาช่วยได้ก็อยากจะช่วย" หญิงสาวอธิบายเพิ่มทำให้ผู้เป็นสามีหมดทางแย้งดูเหมือนมารดาจะจับทางถูก เข้าหาแพรวาก่อนเพื่อมัดมือชกให้เขาเข้าร่วมงานไปด้วย"เอาเถอะ
หลายวันต่อมาบริษัท JRV LOGISTICSภาพประธานหนุ่มแสนหล่อเหลาโอบประคองเอวบางของสาวสวยผมดำประบ่าเดินเคียงคู่กันเข้ามาในบริษัท สร้างความแตกตื่นให้กับเหล่าพนักงานเป็นอย่างมาก ทุกคนต่างพยายามแย่งกันชะโงกดูใบหน้าหญิงสาวผู้โชคดีว่าเธอคือใครโอนิกซ์ไม่ได้เข้าบริษัทมาหลายเดือน แต่เมื่อกลับมาอีกทีก็พกสาวสวยมาด้วย จึงเป็นที่สนใจใคร่รู้ของพนักงานทุกคน"ใครอ่าแก สวยจังเลย""แฟนประธานหรือเปล่า ใช่คนเดียวกับที่มีคนเคยไปเจอไหม""ฉันว่าฉันคุ้นๆ หน้าผู้หญิงนะ เหมือนเคยเห็นที่ไหน ใช่ดารา นางแบบหรือเปล่า""แกดูที่เขามองกันสิ ขนาดยืนอยู่ตรงนี้ยังเห็นประกายความรักเลย""เฮอะ จะอยู่ได้นานแค่ไหน คนก่อนก็โผล่มาแป๊บเดียว ก็หายไปแล้ว""ยัยนี่! ประธานเราไม่ค่อยวุ่นวายกับผู้หญิงก็รู้กันอยู่ ฉันว่าคนนี้จริงจัง"เสียงซุบซิบแสดงความเห็นของกลุ่มพนักงานดังขึ้น หลังจากทั้งคู่ผ่านบริเวณนั้นไปแล้ว แม้จะอยากรู้ใจแทบขาด ว่าหญิงสาวคนนั้นคือใคร แต่ก็ไม่มีใครกล้าเข้าไปถาม ได้แต่คาดเดากันไปต่างๆ นานาทั้งสองขึ้นลิฟต์ตรงไปยังชั้นบนสุดของตึกสำนักงานหรู เพียงออหญิงสาววัยกลางคนลุกขึ้นจากโต๊ะด้วยท่าทีลุกลี้ลุกลนเมื่อเห็นสองหนุ
ทันทีที่ประตูลิฟต์ปิดลง ริมฝีปากนุ่มทั้งสองก็พุ่งเข้ามาหากัน ชายหนุ่มรวบร่างเล็กเข้ามาในอ้อมกอด บดจูบร้อนแรงใส่เธอไม่หยุดหย่อน แพรวาก็ไม่น้อยหน้า ท่อนแขนเล็กโอบลำคอหนา เผยอริมฝีปากตอบกลับอย่างเร่าร้อนดุเดือดฝ่ามือร้อนไล่ตามแผ่นหลังลงไปบีบขยำสะโพกกลมกลึงของเธอหนักหน่วง พร้อมบดเบียดแก่นกายร้อนผ่าวที่แข็งดุนกางเกงออกมาเป็นลำชิดกายสาวเรียวลิ้นเปียกชื้นกระหวัดเกี่ยวพันสลับบดจูบดูดเม้ม ส่งผลให้น้ำลายสีใสไหลเลอะมุมปาก แต่อารมณ์ปรารถนาที่พุ่งสูงทำให้สองหนุ่มสาวที่ตกอยู่ในห้วงตัณหาไม่ได้ใส่ใจมันสักนิดติ๊ง~เสียงลิฟต์ดังขึ้นเมื่อถึงชั้นเป้าหมาย แต่ก็ไม่ได้ทำให้ทั้งคู่ยอมแยกจากกัน โอนิกซ์ดึงคนตัวเล็กออกมาโดยที่ริมฝีปากทั้งคู่ไม่ละห่างกันแม้เพียงเสี้ยววิมือน้อยสอดเข้าไปขยุ้มกลุ่มเส้นผมดกหนา แทรกลิ้นเข้าไปโพรงปากคนตัวสูง ดูดดุนปลายลิ้นสาก พลางลากมืออีกข้างสัมผัสกล้ามหน้าอกแกร่งใต้เสื้อเชิ้ตสีเข้มโอนิกซ์เหลือบตามองหมายเลขห้อง โชคดีที่ทั้งชั้นมีเพียงไม่กี่ห้องจึงไม่มีลูกค้าอื่นสัญจรเดินผ่านไปมาขัดจังหวะคนทั้งคู่คีย์การ์ดสีขาวในกระเป๋าเสื้อถูกล้วงออกมา แตะเข้าที่แผงวงจรประตูก็ได