อยากขาดใจตายไปก่อนวันนั้น ไม่อยากเสียคนที่เรารักไป--------------------------------อาอนุพันธ์กับอาระพีมาถึงก่อนเวลานัดบ่ายสองโมง ทั้งสองนั่งรออยู่ที่ห้องรับแขก อาอุมานั่งอยู่คุยเป็นเพื่อนอาระพี วิชพันธ์และกังสดาลเดินเข้าไปที่ห้องหนังสือกับคุณพ่อ อาอนุพันธ์จึงเดินตามเข้าไปเมื่อคุณพ่อพยักหน้าให้“ฉันจะให้หนูเบลช่วยดูตัวเลขบัญชีระหว่างที่ตาวิชผ่าตัด เลยเรียกแกมาเพื่อรับรู้ และต้องให้หนูเบลเรียนรู้ก่อน เริ่มตั้งแต่พรุ่งนี้ตาวิชจะช่วยสอนให้” คุณพ่อสามีเอ่ยขึ้นทำอาอนุพันธ์ตกใจทำหน้าเจื่อน“ทำไมต้องให้เด็กพวกนี้มาวุ่นวายกับผม พี่ไม่ไว้ใจผมหรือเปล่า” “ทำไมล่ะ...พวกเราแก่ขึ้นทุกวัน เกิดแกเป็นอะไรขึ้นมา แล้วใครจะไปรู้เรื่องฮะ” คุณพ่อขึ้นเสียง“เอ่อ...ผมไม่ได้หมายถึงแบบนั้น ผมยังดูแลได้อยู่” อาอนุพันธ์เสียงอ่อนลงมองหน้ากังสดาลเคืองๆ“พรุ่งนี้ผมจะส่งข้อมูลขึ้นเว็บไซด์ในกล่องงานของผม ให้หนูเบลไปโหลดมาเรียนรู้ไป จะถามอะไรก็เขียนไลน์มาถามผมได้ แอดไลน์ผมจากตาวิชล่ะกัน” “มีอีกเรื่องหนึ่ง ตอนนี้อย่าให้ไอ้วีมานอนที่นี่ ฉันไม่อยากให้มันมาวุ่นวาย กินเหล้าเมาแล้วเลอะเทอะ” คุณพ่อสั่งเสียงเข้ม“ครับ ผมไล่
ไออุ่นที่อยู่ในนั้น...จะทำให้ลืมไม่ลง--------------------------------เย็นวันต่อมาวิชพันธ์แจ้งคุณพ่อและอาอุมาว่า จะไปทานข้าวกับเพื่อนสนิท ซึ่งเขาพากังสดาลไปแนะนำให้รู้จักโจเซฟที่ร้านอาหารของน้ามาร์ติน เพราะเขารู้ว่าโจเซฟชอบกินอาหารจีน ทันทีที่ทั้งสองผลักประตูร้านเข้าไป หนุ่มผิวสองสีคล้ายวิชพันธ์ลุกยืนทันที เขาเดินจากโต๊ะด้านในมาหาคนทั้งสอง วิชพันธ์แนะนำกังสดาล ชายหนุ่มสวมกอดเธอหลวมๆ แล้วพูดเสียงในฟิล์มใส่กันสักพัก กังสดาลมองไปเห็นจินนี่สาวจีนที่ทำหน้าที่ต้อนรับลูกค้า กำลังตรงเข้ามาสวมกอดเธอและถามทันที“เบล ยูจะไม่มาทำงานช่วยฉันแล้วหรือ” จินนี่ถามเธอเป็นภาษาอังกฤษ“เอ่อ...อ่า สามีฉันเขาจะต้องผ่าตัดอีกสองวัน” กังสดาลตอบแบบไม่ค่อยเต็มคำ“มาร์ตินรู้หรือยัง” “ยังเลย...ว่าจะบอกตอนนี้ เขาอยู่ที่ห้องทำงานไหม”“คงกำลังมา...” จินนี่คาดเดาเองไม่นานหลังจากที่โจเซฟบอกให้วิชพันธ์พากังสดาลไปห้องรับรองชั้นบน เขาเดินกลับไปที่รถแล้วหอบเอาของขวัญชิ้นโตมามอบให้กังสดาล หญิงสาวยิ้มอย่างเขินๆ“บอกเขาว่า จริงๆ ไม่ต้องก็ได้นะคะ คุณวิช ลำบากเลย” เธอกระซิบกับเขา“โจเซฟ...มันเพื่อนรักผม...เบล” เขายิ้มให้เธออย
ชีวิตคนเรามีลิขิตอยู่เสมอ ต้องเตรียมรับมือกับมัน เพื่อไม่ให้ใจซึ่งถูกกระทบส่งผลต่อความรู้สึกของผู้คนรอบข้าง--------------------------------กังสดาลมานอนเฝ้าวิชพันธ์ที่ห้องพิเศษของโรงพยาบาลตั้งแต่วันเตรียมตัวก่อนเข้ารับการผ่าตัด หมอลิเดียเป็นผู้ประสานงานและร่วมการผ่าตัดกับดอกเตอร์ปีเตอร์สัน นางมาดูแลให้คำปรึกษาทั้งสามีของกังสดาลและตัวเธอถึงผลลัพธ์ที่จะออกมา ซึ่งไม่ได้การันตีว่าเขาจะสามารถมีลูกได้ทันทีหรือไม่ ขึ้นอยู่กับสเปิร์มของตัวเขาเอง ส่วนเรื่องของขนาดนั้นจะได้รูปลักษณ์ถูกต้องตามสัดส่วนสัมพันธ์กับรูปร่างของเขา ซึ่งภาพสามมิติได้มาขึ้นโชว์ปรากฎอยู่ที่ในไฟล์ซึ่งเขาเคยเปิดให้เธอดูแล้วก่อนการผ่าตัด หลังการผ่าตัดวิชพันธ์สลบไปเกือบหนึ่งวันเต็มๆ คุณพ่อและอาอุมาได้มาเยี่ยมวันรุ่งขึ้นหลังจากเขาฟื้น คุณพ่อโผล่เข้ามาในห้องอย่างเงียบๆ และมองไปที่เตียงเห็นลูกชายท่านยังหลับอยู่ จึงขอให้กังสดาลออกมาพบท่านตรงลอบบี้ของชั้นผ่าตัดพิเศษ“ตาวิชเป็นไงบ้าง...หนูเบล” “ฟื้นแล้วค่ะ...แต่คุณหมออยากให้พักมากกว่านี้ เพราะแผลผ่าตัดจะต้องใช้เวลาอย่างน้อยสามสัปดาห์ค่ะ ส่วนนั้นจะแข็งแรงมากขึ้นถ้าเขาเริ่มออกกำลัง
สาวน้อยเสียงใส ...ใครกัน--------------------------------“Hi Buga…what’s up? เป็นยังไง บูกา” เสียงสาวคนหนึ่งโผล่หน้าเข้ามาทันทีหลังจากเคาะประตูหน้าห้องนอน กังสดาลกำลังเตรียมอุปกรณ์เช็ดตัวให้วิชพันธ์อยู่ในห้องน้ำสาวน้อยเสียงใสพูดภาษาอังกฤษปนไทย ทำให้กังสดาลจับน้ำเสียงได้ว่าเธอผู้นี้ต้องเรียนอยู่ที่นี่มานานพอสมควร สามีในนามของเธอตอบกลับเป็นภาษาอังกฤษแทบไม่มีคำไทยปน จึงรู้ว่าทั้งสองคนน่าจะมีความสัมพันธ์กันสมัยที่วิชพันธ์เรียนอยู่ที่นี่ จะในสถานะอะไรกังสดาลไม่อาจคาดเดาได้ แต่เท่าที่เธอฟังจากน้ำเสียงสาวน้อยคนนี้น่าจะสนิทสนมกับเขาในระดับหนึ่งวิชพันธ์ตะโกนเรียกกังสดาลที่อยู่ในห้องน้ำให้ออกมาต้อนรับสาวผู้มาเยือนถึงห้องนอนผู้นี้“ค่ะ...สักครู่นะ” เธอขานรับ ทันทีที่กังสดาลเดินออกมาพร้อมอ่างน้ำอุ่นใบน้อย เธอเงยหน้าขึ้นมองสบตากับสาวน้อยเสียงใส จึงรู้ว่าเธอน่าจะเป็นคนไทย“สวัสดีค่ะ...คุณเบล” เธอโค้งตัวเล็กน้อยให้เกียรติเธอ“สวัสดีค่ะ...เอ่อ” กังสดาลทักทายขณะเดินไปวางอ่างน้ำอุ่นบนโต๊ะข้างเตียง แล้วค่อยขยับตัวลงนั่งบนเตียงข้างวิชพันธ์“เบล...นี่เกศรา หลานคุณอาอุมา” สามีในนามรีบแนะนำทันทีเมื่อเห็น
ยังเป็นนางฟ้าในใจตลอด ไม่ว่าจะหนีไปไกลแค่ไหนก็ตาม--------------------------------คุณประพันธ์พ่อสามีในนามของกังสดาลเข้ารับการผ่าตัดเปลี่ยนไต และผู้บริจาคไตข้างหนึ่งเพื่อมาเปลี่ยนให้ท่านคืออาอุมานั่นเอง ซึ่งพอเธอทราบข่าวจึงรู้สึกเห็นใจและเข้าใจในโชคชะตาของวิชพันธ์“คุณอาคะ...หนูยินดีจะฉีกสัญญาค่ะ” สาวน้อยมองจ้องแววตาของอาอุมา ขณะที่คุณพ่อสามีอยู่ในห้องนอน ลียากำลังเข้าไปเช็ดตัวให้ท่าน “อาพยายามพูดให้คุณพ่อสามีหนูเข้าใจ แต่ท่านยังยืนยันคำเดิม” อาอุมาถอนหายใจ“ไม่เป็นไรค่ะ...หนูรู้ตั้งแต่เป็นเจ้าสาวคืนแรกแล้ว” เธอไม่อยากทำร้ายใครทั้งสิ้น หากคุณพ่อสามีตั้งใจเช่นนั้น...ท่านคงมีเหตุผลวิชพันธ์ดูแลร่างกายและปฏิบัติตัวตามที่หมอสั่ง ในเวลาเพียงสองเดือนหลังจากการผ่าตัดเขากลับมาแข็งแรงเหมือนเดิม ดิษยามาเยี่ยมเขาสองครั้งกับวีระพันธ์ สาวเปรี้ยวคนนี้ยอมถอยเมื่อคุณพ่อสามีย้ำว่า วิชพันธ์จะแต่งงานใหม่กับเกศยา ถึงกระนั้นเธอก็ยังไม่วายเข้ามายุ่งกับธุรกิจของเขากับมิสเตอร์ฉี จนคุณพ่อสามีทนไม่ได้ถึงกับสั่งห้ามเด็ดขาด คุณระพีแม่ของเธอมาเยี่ยมสามีของกังสดาลเพียงครั้งเดียวพร้อมอาอนุพันธ์ ทั้งสองทำท่าบึ้งตึง
ขอฝากดาวบนฟ้า...ช่วยดูแลที่รัก--------------------------------หลังจากไปพบหมอลิเดียทั้งคู่กลับมารอฟังผลตรวจจากดอกเตอร์ปีเตอร์สัน วิชพันธ์ซึมเศร้าไปหลายวันหลังจากที่คุยกับคุณพ่อและอาอุมาโดยไม่มีกังสดาลร่วมรับรู้ทุกวันหลังมื้อค่ำเขาชวนกังสดาลออกไปเดินย่อยอาหาร และบอกรักเธอแทบทุกวันกับดวงดาวบนฟากฟ้า “เบล ดูนั่นสิ...” เขาชี้ขึ้นไปบนฟ้าใสไร้เมฆ คืนนี้หิมะไม่ตกแต่ลมแรง“อะไรคะ...เบลไม่เห็นอะไร”“southern cross stars…ผมไม่รู้ภาษาไทยว่าอะไร” เขายกมือถือเปิดเข็มทิศชี้ทำมุมไปทิศตะวันออกเฉียงใต้ และชี้ไปที่กลุ่มดาวสุกสว่างทำมุมตัดกันสี่ดวงใหญ่“ค่ะ...” กังสดาลมองไปที่นิ้วของเขาชี้ไปทางทิศนั้น“ภาษาไทยคือดาวอะไร...” เขาชี้ไปที่มือถือให้เธอเปิดหาข้อมูล“อ๋อ...ดาวกางเขนใต้ค่ะ” เธอบอกเขาและกระโดดดีใจที่เห็นความสวยงามของท้องฟ้าคืนนี้ที่ไร้เมฆบดบัง เห็นกลุ่มดาวบนท้องฟ้าระยิบสวยมาก“ผมจะขอฝากดาวบนฟ้า...ช่วยดูแล my love คนรักของผม” เขาพูดยังไม่ทันจบก็หันมาจับแก้มเธอก้มหน้าลงจูบไล้โลมคลอเคลีย คืนนี้ผู้คนที่อ่าวประปรายเขาจึงถือโอกาสจูบเธออ้อยอิ่งนานจนลืมเวลา ลมแรงมากทำให้ร่างกายเธอหนาวสั่นจนต้องซุกหน้า
ชีวิตไม่ง่ายอย่างที่คิด แต่จะไม่มีวันยอมต่อโชคชะตา--------------------------------หลังจากรู้ผลเรื่องความแข็งแรงของสเปิร์มจากหมอลิเดียที่ดอกเตอร์ปีเตอร์สันฝากมาให้แล้ว วิชพันธ์พากังสดาลไปกินข้าวเย็นฉลองกันที่ร้านอาหารของน้ามาร์ติน“เบล...ไปเชิญมาร์ตินมากินข้าวด้วยกันนะ” เขาปลื้มใจมองแววตาของหญิงสาวอย่างรักใคร่“ค่ะ...” กังสดาลปล่อยสามีเธอไว้ในห้องรับรองชั้นบน ลงมาชั้นล่างเจอจินนี่พอดีตรงเคาน์เตอร์ “จินนี่ ฮ่าวมา” เธอทักสาวน้อยหัวหน้ารีเซฟชันเป็นภาษาจีน“ฮ่าว...เธอเป็นยังไงบ้าง” จินนี่เดินเข้ามากอด “น้ามาร์ติน อยู่ไหม” สาวหน้าใสส่ายหน้า“ไม่เป็นไร รินญามาทำงานไหม” เธอนึกถึงญาติสาวที่มาทำงานแทนเธอ“เวรหยุดของเธอ...ฉันจะบอกมาร์ตินให้ว่าเธอรออยู่กับบูกา” จินนี่ขอตัวยุ่งกับการเช็คข้อมูลอยู่หน้าจอเธอกลับมารอที่ห้องรับรองกับวิชพันธ์ เขากำลังมองเมนูว่าจะสั่งอะไรมาเอาใจเธอ “พรุ่งนี้ผมจะบินกลับแล้ว อยากดื่มไวน์ไหม” เขาถามแล้วส่งสายตารอคำยืนยัน“เบล...ยังไม่อยากดื่มอะไร เชิญคุณวิชก่อนเลยค่ะ”วิชพันธ์สั่งเป็ดย่างอบน้ำผึ้ง ซึ่งเป็น signature ของที่ร้านน้ามาร์ตินและสั่งไวน์แดงปิโนนัวร์ มา pai
ความรักมันคือที่สุด และเขายังรออยู่--------------------------------คุณพ่อสามีสั่งให้ลียาขึ้นมาตามวิชพันธ์ลงไปพบที่ห้องนอนท่าน ก่อนที่เขาจะออกไปสนามบินตอนบ่าย ประมาณครึ่งชั่วโมงเขากลับขึ้นมาที่ห้องนอน เขามองเธออย่างกังวล“คุณพ่อให้คุณลงไปพบ” “ค่ะ...คุณเตรียมตัวเถอะ ใกล้ถึงเวลาแล้ว” กังสดาลลากกระเป๋าเดินทางออกมาวางไว้ที่หน้าห้องนอน เธอเดินไปเคาะห้องถัดไปเพื่อบอกลียาให้ช่วยลากมันลงไปไว้ข้างล่างกังสดาลเดินลงบันไดไปเจออาอุมากำลังเตรียมอาหารมื้อเที่ยงไว้เพื่อเลี้ยงส่งวิชพันธ์ เธอถามว่าจะให้ช่วยอะไรไหม“ไปพบคุณพ่อ แล้วมาช่วยอานะ” อาอุมาหันมาสีหน้าเคร่งเครียด“คุณพ่อ...มีอะไรกับหนูรึคะ” เธอถามก่อนเดินไปเคาะประตูห้องคุณพ่อสามี“เข้าไปหาท่านก่อนค่อยมาคุยกัน” กังสดาลออกมาหลังจากพบท่านแค่ห้านาที ท่านดูไม่สบายใจมากทำใจเธอหดแฟบ เธอเดินเข้ามาในครัวเหมือนคนไร้เรี่ยวแรง“คุณอาคะ...คุณพ่อท่านไม่ให้หนูอยู่ดูแลท่านที่นี่” เสียงสะอื้นของหญิงสาวทำอาอุมาซึ่งกำลังอยู่ตรงหน้าเตาหันมาทันที“ไม่เป็นไร ย้ายไปอยู่กับคุณยายเถอะ หนูเบล...เหลือกี่เดือนจะจบ”“อีกสามเดือน แล้วใครจะดูแลท่านกับคุณอาล่ะคะ” อาอุมาเดิ
ได้ไอเดียใหม่ในธุรกิจ...เทรนที่ใกล้ตัวที่สุด-------------------------------วิชพันธ์ได้ให้สองคนย่าหลานย้ายออกจากบ้านเข้าไปอยู่คอนโดหลังจากที่กลับไปอยู่ได้แค่เพียงหนึ่งสัปดาห์ เขามีภารกิจต้องบินไปร่วมงานแต่งของเดฟกับเกศรา เป็นตัวแทนคุณพ่อควงแขนเจ้าสาวส่งตัวให้เจ้าบ่าว กังสดาลซึ่งอยู่ในช่วงพักฟื้นจากบาดแผลผ่าตัดจึงถูกห้ามไม่ให้เดินทางไปด้วย“ฝากบอกคุณพ่อนะคะ กราบขอโทษที่สร้างเรื่องร้ายๆ ให้ท่านไม่สบายใจ” เธอกราบอกวิชพันธ์แทนคุณพ่อ“ผมกลายเป็นตัวแทนไปทุกที่...” เขากอดเธอจูบที่หน้าผาก“คนดีไงคะ...”“ฝากบอกมาร์ตินไหม...” เขาจ้องตาเธอหัวเราะหึหึ“ค่ะ...ขอบคุณที่รักเบล และดีกับเบลมาตลอด” วิชพันธ์บินมาทำหน้าที่ส่งตัวเกศราในฐานะพี่ชายให้กับเจ้าบ่าวออสเตรเลียนหน้าตาหมดจดสุดหล่อ ญาติฝ่ายชายมากันครบมองมายังพี่ชายของเจ้าสาวด้วยความปลาบปลื้ม ญาติฝ่ายหญิงมีวิชพันธ์ อาอุมา และครอบครัวของคุณแม่ คือคุณยายมาเรียและน้ามาร์ติน “เดฟ...ฝากดูแลเกศให้ดีนะ” วิชพันธ์พูดขณะส่งตัวบ่าวสาวที่กำลังขึ้นรถ Rolls-Royce เป็น wedding car ติดสติกเกอร์ just married เพื่อไปฮันนีมูน“คุณพ่อจะให้เดฟกับเกศไปดูแลกิจการที่เมื
ทายาทของตระกูลที่ปกปิดนานกว่า 20 ปี ก็เผยตัวตน-------------------------------วีระพันธ์บินกลับมาเมื่อรู้ข่าวจากวิชพันธ์ ชายหนุ่มซึ่งเคยทำตัวไม่เอาไหนมาก่อนกลายเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงในการจัดการพิธีต่างๆ ในงานศพของพ่อตัวเอง อาบุษบาร้องไห้จนตาบวม ส่วนย่าศรีนวลร้องไห้คร่ำครวญสาปแช่งย่าลำดวนและกังดาล ทั้งโยนความผิดของเรื่องร้ายทั้งหมดว่าต้นเหตุมาจากย่าหลานคู่นี้ย่าลำดวนขออยู่โรงพยาบาลเฝ้ากังสดาลจนกว่าหลานสาวจะหาย ย่าไม่อาจกลับไปบ้านของวิชพันธ์ได้ และไม่อยากสู้หน้าครอบครัวของเขาให้เรื่องบานปลายใหญ่โตเข้าไปอีก“ย่าครับ...เบลออกจากโรงพยาบาล ผมขอไปอยู่บ้านย่านะครับ” เขากอดย่าแน่นเพื่อให้กำลังใจว่าเขาอยู่ข้างคนทั้งคู่“จะสะดวกคุณหรือเปล่า...” น้ำเสียงย่าลังเล“ไม่เป็นไรครับ...คุณพ่อบอกผมแล้วว่า จะส่งผู้รับเหมาให้มาตกแต่งซ่อมบ้าน ผมจะประสานเองครับ” เขายิ้มให้ย่าและลูบฝ่ามือท่าน“แล้วจะยังไงกัน ยัยเบลไม่ยอมลูกเดียว” ย่ารู้สึกกังวลกับหลานสาวหัวดื้อ“ผมเล่าเรื่องทั้งหมดแล้ว ท่านบอกว่าให้เบลกลับไปเรียนให้จบ” เขาตัดสินใจว่าหลังจากเสร็จงานศพของอาอนุพันธ์ เขาจะขอถอนตัวไม่รับตำแหน่งในธุรกิจทั้งหมดของคุณพ
ความคิดอยากหนีไปให้พ้นปัญหา แต่กลับกลายมาเจอปัญหาใหม่-------------------------------กังสดาลตัดสินใจแอบหนีวิชพันธ์ออกจากโรงแรมช่วงที่เขาบอกว่านัดไปพบกับเดฟในโรงแรมที่มาร่วมการประชุม เธอแกล้งทำเป็นคลื่นไส้เวียนหัวซึ่งเป็นอาการของคนเริ่มตั้งท้อง เขาเขียนไลน์บอกว่าอยากให้เธอพักไม่ต้องเดินทาง จะรีบกลับมาดินเนอร์ช่วงค่ำหนึ่งทุ่มครึ่งกับเดฟที่ห้องอาหารชั้นล่างของโรงแรม และให้เธอเตรียมตัวหนึ่งทุ่มตรงซึ่งเขาน่าจะกลับมาถึงพอดี หญิงสาวจัดการซื้อตั๋วบินตรงกลับมายังกรุงเทพซึ่งโชคดีได้ไฟลต์ช่วงก่อนเที่ยง เธอออกจากสนามบินสุวรรณภูมิตรงไปหาย่าที่บ้านของเขาประมาณบ่ายสองโมงเศษ ย่าออกมาดูหน้าประตูว่าใครลงจากแท็กซี่ เห็นหลานสาวกำลังมองมาอย่างแสนดีใจ เธอเดินเข้าไปกอดเอวซบหน้ากับไหล่ย่าร้องไห้เบาๆ“เฮ้ย...แม่คนเก่ง นี่ทำไมไม่บอกย่าเลย หนีมาล่ะสิ” ย่ามองจ้องหน้าเธออ่านสถานการณ์ออกทันที“ค่ะ...” เสียงของกังสดาลสะอื้นยกใหญ่“มา...เข้ามา นี่ไม่มีกระเป๋าอะไรเลยรึ” ย่ามองหากระเป๋าเดินทาง “หนู...ถูกเขาบังคับให้บินไปสิงคโปร์ เสื้อผ้าเขาคงไปหาซื้ออยู่ หนูได้โอกาสเลยบินหนีมา” เธอยังสะอื้นตอบย่า“ไม่เป็นไร...ดีแล
โชคชะตามักเล่นตลก แม้จะท้าทายยังไงก็ตาม -------------------------------การต่อรองของเธอดูไร้เหตุผลในสายตากร้าวดุดันของเขา สีหน้าท่าทางเหมือนเสือบาดเจ็บพร้อมจะกัดสู้ได้ทุกเมื่อ เธอสงสารเขาจับใจ แต่ด้วยความดีงามของเขามีอยู่มากพอให้เธอรู้สึกยอมรับแต่ยังมีข้อแม้“หากต้องหนีกันไปอย่างนี้ เราอยู่สู้ไม่ดีกว่าหรือคะ” “ไม่ได้!!...ต้องให้ท่านรู้ว่าผมไม่ยอม จะตัดผมทิ้งจากครอบครัวเลยก็ได้ ผมจะพาคุณไปเริ่มต้น ดีกว่าฟังคำสั่งตามใจท่านตลอดไป ชีวิตเป็นของผม...เบล” เขาส่ายหน้าอย่างไม่เห็นด้วย “เราอยู่สู้ด้วยกันได้นี่คะ...คุณพ่อท่านไม่ได้ใจร้ายหรอก” เธอยังเถียง “เราต้องการเวลาคลายเครียด ถ้าต้องสู้หน้าท่าน face to face จะไม่ดี...เบล จะไม่ดีต่อสุขภาพของท่านด้วย เชื่อผม!!!” “คลายปมใช่ไหม เบลเข้าใจค่ะ” “แล้วเราจะไปเจอใครที่สิงคโปร์คะ” เธอจ้องตาเขาอย่างสงสัย “ไปถึงแล้วจะรู้...ไม่ต้องถาม เขารอเราอยู่” “ไปเถอะ จะไม่ทันเที่ยวบินบ่ายนี้” เขาเร่งเธอคุณบุญส่งรีบขับรถพาทั้งคู่มาที่สนามบิน วิชพันธ์จองเที่ยวบินให้เธอตั้งแต่เมื่อคืน เขาแอบถ่ายรูปพาสปอร์ตของเธอเก็บไว้ในมือถือของเขา “โห...แอบลักข้อมู
หากไม่ต่อรองกับโชคชะตา ก็จะถูกลิขิตอย่างไม่เป็นธรรม-------------------------------วิชพันธ์ขอร้องให้กังสดาลอยู่ที่โรงแรมกับเขา เธอเกรงว่าคุณพ่อสามีเกิดรู้ขึ้นมา ทั้งเธอและวิชพันธ์คงไม่รอดพ้นบาปที่ทำให้ท่านลำบากใจ คำสัญญาที่รับปากกับท่านไปแล้วถือว่าไร้ความหมาย ท่านจะไม่มีทางไว้ใจพวกเขาอีกต่อไป“คุณย่าบอกว่าท่านจะจัดการทางนั้นให้เรา ท่านไม่ได้บอกรายละเอียด แค่บอกให้เบลอย่าคิดมาก” เขากอดเธอขณะพูดถึงย่า“ท่านบอกให้ผมรีบมีลูก จะได้เป็นข้อต่อรองกับคุณพ่อ” “เบล ขอถามนะคะ” เธอผลักอกสามีออก ขณะถามเขาอย่างจริงจัง“ผมตอบได้เท่าที่รู้”“ทำไมคุณพ่อไม่ค้านแต่แรก ตอนคุณพาย่าและเบลมาพบท่าน” “เวลาในพินัยกรรมระบุให้ผมต้องแต่งงานภายในปีนี้ หากเลยกำหนดนี้ไปแล้วท่านจะต้องสละทุกตำแหน่งให้คุณอา”“เบลยังไม่ get อยู่ดีค่ะ” “แค่เรื่องแต่งงานทำไมต้องซีเรียสขนาดนั้น” เธอส่ายหน้า“ผมไม่ใช่ลูกแท้ๆ ของคุณพ่อ ดังนั้นพินัยกรรมถูกระบุโดยคุณย่าก่อนคุณปู่เสีย ให้ผมถือหุ้นได้แค่ 25 เปอร์เซ็นต์ คุณพ่อถือหุ้นกับคุณอาคนละ 25 เปอร์เซ็นต์ ท่านจึงพยายามหาทางให้ผมแต่งงานเพื่อจะได้ take ส่วนนี้ขึ้นมาอีก 25 เปอร์เซ็นต์ แล้วทุ
ความลับนั้น...เป็นเรื่องลึกลับดำมืด ที่ไม่มีใครอยากขุดคุ้ย แต่เมื่อถึงเวลาเหมาะสม มันจะเปิดเผยออกมาจนได้-------------------------------สัปดาห์ต่อมากังสดาลได้เช่าเรือปิกนิกของโจเซฟเพื่อนสนิทของวิชพันธ์ เพื่อพารินญาไปเลี้ยงข้าวเที่ยงและท่องเที่ยวไปรอบอ่าวให้จิตใจสบายยิ่งขึ้น “เฮ้ย...เบล คุณวิชบอกเราว่า จะบินมาเร็วๆ นี้ แต่ไม่ได้บอกว่าวันไหน”“เหรอ...มาทำไม” เธอทำหน้าสงสัย“คงอยากมาพบเธอมั้ง” “ฮะ!!!...คงไม่ได้ล่ะ คุณพ่อห้ามพบเรา” เธอร้องเสียงหลง“เขาบอกว่า คุณพ่อจะไปเมลเบิร์น เขาเลยคงอยากมาเจอเธอน่ะ” “เฮ้อออ!!!...” หญิงสาวรู้สึกหนักใจมาก เธอไม่อยากทำให้คุณพ่อสามีโกรธ เพราะท่านเมตตาเธอมากมายจนไม่รู้จะตอบแทนท่านอย่างไร“อย่าหาว่าเราเสือกเลย...ทำไมคุณพ่อเพิ่งจะมาให้แยกกัน ไม่เข้าใจจริงๆ” รินญาจ้องตาเธอเพื่อจับพิรุธ“ริน...เราไม่รู้อะไรเลย คุณวิชน่าจะรู้เรื่องทั้งหมดดี แต่ไม่เล่าให้เราฟัง” เธอจ้องตาของญาติสาวกลับไป“ถ้าอย่างนั้น...เธอต้องเจอเขาล่ะ” “ไม่ได้...คุณพ่อห้ามเราด้วย ท่านรู้เข้าเกิดโกรธและไล่เราออกจากคอนโด จะทำยังไง” เธอทำหน้าเศร้าจนรินญาต้องขยับเข้ามากอดตัวเธอไว้แน่น“เออน่า.
ในชีวิตคนเรานั้น ยากที่จะหาความสุขไร้ซึ่งความขมขื่นเจอปน...คงไม่มี--------------------------------คุณพ่อสามีสั่งห้ามกังสดาลติดต่อกับวิชพันธ์ตั้งแต่ย้ายออกไปอยู่ที่คอนโดของอาจารย์แอน เธอนั่งเหม่อใจลอยมองภาพของคุณแม่สามีที่แขวนอยู่บนผนังในห้องนอน ก่อนนอนเธอสวดมนต์และนั่งภาวนาเพื่อส่งจิตถึงท่าน‘อาจารย์แอนคะ หนูขอกราบดวงวิญญาณของอาจารย์ ไม่ว่าจะสถิต ณ หนใดในปรโลก ขอช่วยวิชพันธ์ลูกชายกำพร้าที่ท่านได้ชุบเลี้ยงอุปถัมภ์ด้วยนะคะ เขาคงหาทางออกไม่ได้กับปัญหานี้ หนูช่วยอะไรเขาไม่ได้เลยค่ะ’เธอหลับไปพร้อมฝันเลือนรางได้ยินเสียงอาจารย์แอนบอกว่าไม่เป็นไร เธอตามหาต้นเสียงร้องเรียกไปยังทิศทางใดก็ไม่เห็นท่าน เสียงสะอื้นเบาๆ ของเธอสะท้อนออกมาจากห้วงสำนึกในความฝันกังสดาลตกใจตื่นแต่เช้ามืดและเดินออกไปสูดลมเย็นที่ระเบียงมองเห็นดาวระยิบบนท้องฟ้าเหนือท้องทะเลเบื้องหน้า เธอหวนคิดถึงคืนที่เขาและเธอเดินกันไปถึงริมอ่าว เขาชี้ขึ้นบนท้องฟ้าให้เธอมองหาดาวกางเขนใต้ วิชพันธ์เป็นผู้ชายสมัยใหม่ที่ไม่น่าเชื่อว่าจะพูดถึงตำแหน่ดวงดาวของผืนฟ้ายามราตรีได้อย่างสวยงาม เขาเล่าว่าสมัยก่อนมีตำนานมากมายของชนเผ่าอะบอริจิน ชื่อข
ความลับที่ยังบอกกับใจไม่ได้ว่า เป็นความรักแท้จริงหรือแค่เพียงเงินตรา--------------------------------กังสดาลใจจดจ่อถึงวันเสาร์ซึ่งน้ามาร์ตินนัดจะมารับเธอที่บ้านคุณพ่อสามี เธอกระวนกระวายใจกว่าจะถึงวันนั้น เลยตัดสินใจบอกคุณพ่อสามีในช่วงมื้อเช้าวันศุกร์“คุณพ่อคะ...หนูขออนุญาตค่ะ”“มีปัญหาอะไร...หนูเบล” คุณพ่อสามีมองหน้าหญิงสาวอย่างลำบากใจ“คือหนูขอไม่ไปอยู่บ้านน้ามาร์ตินค่ะ”“อ้าว...จะไปอยู่ไหน รินญารึ” น้ำเสียงท่านดูกังวล“ค่ะ...หนูจะให้รินมารับค่ะ” เธอพยายามจะทำให้ทุกคนสบายใจ“งั้น...อุมา โทรให้ผมทีนะ หลังกินข้าวอยากคุยกับมาร์ตินอีกเรื่องหนึ่ง” ท่านทำให้กังสดาลสงสัยขึ้นมาทันที“บ่ายๆ ลงมาคุยกับพ่อที่ห้อง” กังสดาลรับรู้เหตุผลว่าทำไมน้ามาร์ตินต้องเข้ามาทำหน้าที่ดูแลเธอ เพราะคุณพ่อสามีให้สัญญากับเขาก่อนหน้านั้นตอนที่อาจารย์แอนยังมีชีวิตอยู่ว่า ท่านจะทำตามที่น้ามาร์ตินขอร้องไม่ว่าเรื่องอะไรก็ตาม เพราะเขาเป็นคนนำพาวิชพันธ์เข้ามาสู่ครอบครัวท่าน ซึ่งเป็นสัญญาใจที่ท่านต้องทำให้เพื่อทดแทนความดีของเขา “คุณพ่อค่ะ หนูขอโต้แย้ง เพราะหนูไม่ได้รับรู้ข้อผูกพันนี้มาก่อนนะคะ” คำพูดของเธอทำคุณพ่อสามี
ความรักมันคือที่สุด และเขายังรออยู่--------------------------------คุณพ่อสามีสั่งให้ลียาขึ้นมาตามวิชพันธ์ลงไปพบที่ห้องนอนท่าน ก่อนที่เขาจะออกไปสนามบินตอนบ่าย ประมาณครึ่งชั่วโมงเขากลับขึ้นมาที่ห้องนอน เขามองเธออย่างกังวล“คุณพ่อให้คุณลงไปพบ” “ค่ะ...คุณเตรียมตัวเถอะ ใกล้ถึงเวลาแล้ว” กังสดาลลากกระเป๋าเดินทางออกมาวางไว้ที่หน้าห้องนอน เธอเดินไปเคาะห้องถัดไปเพื่อบอกลียาให้ช่วยลากมันลงไปไว้ข้างล่างกังสดาลเดินลงบันไดไปเจออาอุมากำลังเตรียมอาหารมื้อเที่ยงไว้เพื่อเลี้ยงส่งวิชพันธ์ เธอถามว่าจะให้ช่วยอะไรไหม“ไปพบคุณพ่อ แล้วมาช่วยอานะ” อาอุมาหันมาสีหน้าเคร่งเครียด“คุณพ่อ...มีอะไรกับหนูรึคะ” เธอถามก่อนเดินไปเคาะประตูห้องคุณพ่อสามี“เข้าไปหาท่านก่อนค่อยมาคุยกัน” กังสดาลออกมาหลังจากพบท่านแค่ห้านาที ท่านดูไม่สบายใจมากทำใจเธอหดแฟบ เธอเดินเข้ามาในครัวเหมือนคนไร้เรี่ยวแรง“คุณอาคะ...คุณพ่อท่านไม่ให้หนูอยู่ดูแลท่านที่นี่” เสียงสะอื้นของหญิงสาวทำอาอุมาซึ่งกำลังอยู่ตรงหน้าเตาหันมาทันที“ไม่เป็นไร ย้ายไปอยู่กับคุณยายเถอะ หนูเบล...เหลือกี่เดือนจะจบ”“อีกสามเดือน แล้วใครจะดูแลท่านกับคุณอาล่ะคะ” อาอุมาเดิ