แจ็คสันวางโทรศัพธ์ลงที่โต๊ะโดยไม่วางสาย “เราเพิ่งเคยเจอกันแค่ครั้งเดียวเองนะครับ แล้วทำไมวันนี้ผมถึงได้รับเกียรติในการมาเยี่ยมเยือนของคุณเหรอครับ? ช่วยบอกผมที” เขาตั้งใจเน้นย้ำไปที่การพบปะกันครั้งก่อนของพวกเขาเมื่อชายทั้งสองไปหาทิฟฟานี่ในเวาลาเดียวกัน ความโกรธแค้นระหว่างพวกเขายังคงสดใหม่อยู่ในความทรงจำของแจ็คสัน เจตต์เข็นอเลฮานโดร ซึ่งนั่งอยู่ในรถเข็นตามปกติ ไปข้างหน้า “คุณมีที่ดินดี ๆ อยู่ในมือ เสนอราคามาเลย ผมต้องการมัน"แจ็คสันหรี่ตาลง "โอ้? เห็นได้ชัดว่าแหล่งข้อมูลของคุณมีประสิทธิภาพอย่างยิ่ง ผมแค่ยังไม่ได้ตัดสินใจเลยว่าจะทำอย่างไรกับที่ดินผืนนั้นดี แต่ผมไม่ได้ลืมมันนะ ท้ายที่สุดมันก็มีค่ามาก แต่ตอนนี้คุณก็มีที่ดินมากมายแล้ว คุณจะซื้อเพิ่มอีกทำไม? คุณตั้งใจจะผูกขาดตลาดในเมืองหลวงเหรอ? แต่โชคร้ายหน่อยที่เพื่อนผมเพิ่งจะโทรมาและผมก็ตกลงว่าจะขายที่ดินนั้นให้เขาไปแล้วด้วย”“ผมจะให้สองเท่าของราคาที่เขาเสนอ คุณจะว่าไง?” อเลฮานโดรตอบทันที แจ็คสันเลิกคิ้วอย่างแปลกใจ ผู้คนมักจะประเมินราคาที่ดินไว้สูง ๆ ทว่านี่เป็นครั้งแรกที่เขาพบกับผู้ซื้อที่ดื้อรั้นขนาดนี้ ต่อให้ราคาที่ดินที่สูงขึ้น
มาร์คหยุดเดิน “เอ่อ ฉันทำให้เธอตื่นเหรอ? งั้นฉันจะไปอาบน้ำข้างล่างนะ”แอเรียนขยี้ตาที่พร่ามัวของเธอ “ไม่เป็นไร อาบน้ำที่นี่แหละ ตอนนี้ฉันง่วงมาก เดี๋ยวฉันก็นอนต่อแล้ว แต่ขอร้อง รีบอาบน้ำและเข้านอนเถอะ อย่าทำให้ตัวเองเหนื่อยเกินไปนักเลย”แม้ว่าเธอจะไม่มีปัญหาอะไร แต่มาร์คก็ยังคงพยายามอาบน้ำให้เบาที่สุดเท่าที่จะทำได้ เมื่อเขาออกมาจากห้องน้ำ เขาก็เข้าไปนอนที่ที่ว่างถัดจากแอเรียนทั้งคู่แยกตัวออกจากสมอร์ผู้น่าสงสารที่มีเพียงหมอนข้างอยู่เป็นเพื่อนเท่านั้นแอเรียนยังไม่ได้หลับลึก ดังนั้นเธอจึงโอบแขนของเธอรอบคอเขาและดึงตัวเองเข้าไปในอ้อมแขนของเขาตามสัญชาตญาณก่อนที่จะเข้าที่ของเธอ “ถ้าคุณยังคงกลับบ้านจากที่ทำงานดึก ๆ แบบนี้อยู่ สมอร์จะลืมหน้าคุณในไม่ช้าก็เร็วนี้นะ” เธอแซว “คุณก็รู้ดีว่าความทรงจำของเด็ก ๆ แย่แค่ไหน เขานอนบนเตียงเดียวกับเรา แต่เขาไม่เคยได้เห็นหน้าคุณเลย... ถ้าเขาลงเอยด้วยการลืมว่าคุณเป็นพ่อของเขา นั่นจะเป็นเรื่องตลกแห่งศตวรรษเลยนะ! หาเวลามาอยู่กับเขาหน่อยได้ไหม?”มาร์คดมผมของเธอสองสามเส้นจนเขาเวียนหัวและมึนงง “อืม เข้าใจแล้ว… พรุ่งนี้ฉันจะไปทำงานสายและกลับบ้านเร็ว ราตรี
ทิฟฟานี่ลูบจมูกตัวเอง “เชื่อก็บ้าแล้ว อย่างกับคุณจะมีเวลาว่างขนาดนั้นงั้นแหละ”อเลฮานโดรจิบเบียร์ที่อยู่ต่อหน้าเขา “อย่างที่ผมบอก วันนี้ผมเพิ่งซื้อที่ดินแปลงหนึ่งมาจากแจ็คสัน ดูเหมือนว่าเขาจะค่อนข้างเก็บความแค้นของเขาได้เก่งมากเพราะวิธีที่เขาปฏิบัติกับผมนั้นเหมือนกับที่เขาจะทำต่อคู่ปรับในเรื่องความรักเลย เขาขายที่ดินแปลงนั้นให้ผมในราคาสามเท่าของราคาตลาดด้วย”ทิฟฟานี่จัดโต๊ะด้วยสายตาที่หรี่ลงเล็กน้อย "อ๋อ งั้นเหรอ? ไม่รู้สิ ถ้าคุณคิดว่ามันแพงเกินไปคุณก็สามารถปฏิเสธข้อเสนอของเขาได้นิ หรือว่าคุณมีเงินในกระเป๋ามากเกินไปจนคุณเพียงอยากหาวิธีผลาญมัน?”การเห็นเธอแกล้งทำเป็นไม่สนใจทำให้อเลฮานโดรหัวเราะคิกคัก "ฮิฮิ เห็นได้ชัดว่าคุณใส่ใจเรื่องนี้มาก แล้วทำไมต้องแสร้งทำเป็นอย่างอื่นล่ะ หืม? ไม่เอาน่า คุณไม่จำเป็นต้องแสร้งอะไรเมื่อคุณอยู่กับผมทั้งนั้น เข้าใจไหม? เป็นตัวของตัวเองได้เลย ผมจะไม่โกหก ผมคิดว่ามันแพงมาก แต่ผมต้องการมัน ผมก็เลยต้องตอบตกลง” เขาอธิบายก่อนจะเสริมว่า “อ้อ อีกอย่าง เขากำลังจะมาที่สาขาที่คุณทำงานอยู่ตอนนี้ แค่จะเตือนคุณไว้ก่อน”ทันใดนั้นทิฟฟานี่ก็รู้สึกว่าบาร์บีคิวในปากขอ
เจตต์ยืนอยู่นอกห้องของทิฟฟานี่แทนที่จะเข้าไปข้างใน เขาได้เลือกจุดยื่นข้างประตูตั้งแต่ที่พวกเขาไปถึงที่ห้องของทิฟฟานี่ที่ชั้นบน ทิฟฟานี่คิดว่ามันแปลก แต่เธอก็ยังเข็นรถเข็นของอเลฮานโดรเข้าไปในห้องของเธออยู่ดี เขาเป็นแค่ผู้ชายที่ขาพิการจนไม่สามารถใช้งานได้อีกต่อไป การต้องอยู่กับเขาตามลำพังจะเป็นอันตรายได้แค่ไหนเชียว?ทิฟฟานี่จึงคิดว่าเธอไม่จำเป็นต้องกังวลอะไรมากนักเนื่องจากเธอเพิ่งจะย้ายเข้ามาเมื่อเร็ว ๆ นี้ เธอจึงยังไม่ได้จัดของหลายอย่างให้เข้าที่จนห้องของเธอแอบรกเล็กน้อย “ฉันยังไม่มีเวลาจัดห้องเลย มันก็เลย… เอ่อ อย่างที่เห็นน่ะ” เธอยอมรับอย่างเขินอาย “เอ่อ เดี๋ยวฉันไปชงชาก่อนนะ”ทิฟฟานี่ไปที่โซนเครืองดื่มแล้วเริ่มชงชา แต่เห็นได้ชัดจากท่าทางที่เก้ ๆ กัง ๆ ของเธอว่าเธอไม่ชำนาญในเรื่องนี้เลย หลังจากที่เธอพลาดจนเกือบจะทำน้ำร้อนหกใส่ตัวเอง ทันใดนั้นก็มีมือมาปรากฏขึ้นข้าง ๆ เธอ “ขออนุญาตนะ”ทิฟฟานี่ชะงัก ทำไมเสียงของอเลฮานโดรจึงมาจากเหนือศีรษะของเธอ? เขานั่งรถเข็น ดังนั้นเสียงของเขาควรจะดังมาจากข้างล่างไม่ใช่เหรอ?เธอหันกลับไปข้างหลังแล้วหน้าผากของเธอก็ชนเข้ากับคางของเขาด้วยมือที่ปิดห
ทิฟฟานี่ผลักประตูห้องประชุมเข้าไปอย่างเงียบ ๆ และพยายามอย่างเต็มที่ที่จะไม่ดึงดูดความสนใจมาที่ตัวเอง อย่างไรก็ตาม ความสนใจของแจ็คสันที่พูดอยู่ก็ลอยมาที่ใบหน้าของเธอเกือบจะในทันทีที่เธอก้าวเข้าไป เขามองเธอประมาณสองวินาทีก่อนที่เขาจะละสายตาจากเธออย่างเฉยเมยในหัวของทิฟฟานี่สงสัยเพียงอย่างเดียว ซึ่งก็คือ: แค่นั้นเหรอ? นั่น? คืออะไร?เธอไม่ได้คาดคิดมาก่อนว่าเขาจะมีปฏิกิริยาตอบสนองที่สงบและเยือกเย็นเช่นนี้ เขาปล่อยเธอไปได้แล้วจริง ๆ หรืออะไร?เอมี่รีบเตือนเธอว่า “คุณเลน แม้ว่าคุณจะเป็นผู้ช่วยผู้อำนวยการ แต่คุณมาสายไปยี่สิบนาทีนะ”การแสดงออกที่ผิดธรรมชาติเกิดขึ้นบนสีหน้าของแจ็คสัน เขารู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยเมื่อเห็นทิฟฟานี่เข้ามาในห้อง แต่เขาจำได้ว่าทุกอย่างคงเป็นไปตามข้อตกลงของซัมเมอร์ เขาก็เลยไม่ได้คิดอะไร แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าแม่สุดที่รักของเขาจะแต่งตั้งให้ทิฟฟานี่เป็นผู้ช่วยผู้อำนวยการอีกด้วยเขาควรจะดีใจที่เธอเป็นแค่ “ผู้ช่วย” ใช่ไหม?เขาแกล้งกระแอมก่อนจะพูดแทรก “นั่งก่อนสิครับคุณเลน เราจะได้กลับมาประชุมกันต่อ เราจะคุยกันเรื่องที่คุณมาสายในภายหลัง”ทิฟฟานี่เม้มปากแน่น เธอเลือกที่น
ทิฟฟานี่วางโน๊ตบุ๊คของเธอลงบนโต๊ะก่อนจะบ่นอย่างฉุนเฉียว “แล้วจะให้ฉันนั่งตรงไหนล่ะ?”แจ็คสันตอบโดยไม่มองเธอ “ก็ไปหยิบเก้าอี้มาเองสิ คุณมาเป็น 'ผู้ช่วยผู้อำนวยการ' ด้วยสมองนั้นได้อย่างไรเนี่ย?”การโต้กลับของเขาทำให้ทิฟฟานี่รู้สึกถูกล้อเลียนมากพอจนเธอต้องหัวเราะเยาะและวางมือบนสะโพกของเธอ “คุณรู้ไหมว่าฉันไม่ได้อยากจะเป็นผู้ช่วยสักหน่อย? ฉันมาที่นี่เพราะคิดว่าฉันจะได้เป็นหัวหน้าแผนก! แต่ยังไงก็เถอะ คุณก็รู้อยู่แล้วว่าฉันได้งานนี้เพราะเส้นสายของฉัน แล้วทำไมคุณยังต้องถามอีกล่ะไอน์สไตน์?”บางที อาจจะด้วยความกังวลเกี่ยวกับน้ำเสียงของทิฟฟานี่เล็กน้อย เอมี่จึงแทรกอย่างรวดเร็วโดยแสร้งทำเป็นไอ “เอ่อ คุณเลน? เธอควรไปเอาเก้าอี้แล้วย้ายมานั่งที่โต๊ะฉันก่อน”ทิฟฟานี่กระชากเก้าอี้ไปที่โต๊ะของเอมี่ก่อนจะนั่งลงและจ้องเขม็งไปที่แจ็คสัน “เก็บมือไว้กับตัวเองไม่ได้เลยหรือไง? อย่าแม้แต่คิดที่จะทำให้กระบองเพชรของฉันตายด้วยนิ้วที่เป็นพิษของคุณนะ!”แจ็คสันชักมือออกจากต้นที่เต็มไปด้วยหนามในทันทีและนั่งหลังตรงเพื่อให้ดูจริงจังมากขึ้น “โอ้ ผมจะไม่เสียเวลากังวลว่ามันจะตายหรอก มันเป็นสิ่งเล็กน้อยที่หดื้อรั้น เหม
แอเรียนซาบซึ้งมากแต่เธอยังคงไม่แสดงอาการใด ๆ “อืม ไม่เป็นไร คุณทำให้ฉันเหนื่อยได้มากกว่าที่สมอร์ที่ยังเป็นเด็กทารกจะสามารถทำได้อีก” เธอกล่าวเสียงสูง “กลับมาเร็ว ๆ นะ ถ้าทำได้”น่าเสียดายที่การเลือกคำของแอเรียนทำให้เกิดการตีความผิด สำหรับมาร์คความหมายของมันคือภรรยาของเขาไม่พอใจที่เขาละเลยเธอมาเป็นเวลาครึ่งเดือน ดังนั้น เมื่อเห็นว่าไม่มีใครอยู่ใกล้ ๆ เขาจึงเอนตัวไปข้างหูของเธอและรดมันด้วยลมหายใจของเขา “อืม นั่นอาจเป็นสิ่งที่ฉันจะทำคืนนี้ เราจะให้สมอร์ไปนอนในห้องของเขาเพื่อที่หม่ามี๊และดาด๊าจะได้มีความเป็นส่วนตัวกันบ้าง เธอเตรียมตัวรอได้เลย”ใบหน้าของแอเรียนแดงก่ำราวกับมะเขือเทศ "เดี๋ยวก่อน! ฉะ-ฉันไม่ได้จะสื่ออย่างนั้นซะหน่อย!”เขายิ้ม “โอ้ เธอจะสื่ออย่างนั้นแน่นอน อย่าทำมาเป็นซื่อเลยน่า”แอเรียนมองดูเขารีบเดินออกไปด้วยมุมริมฝีปากที่สั่นเล็กน้อยนี่อาจเป็นความรู้สึกของการมีครอบครัวที่ปกติและมีความสุขใช่ไหม? มีเพียงพวกเขาสามคนที่อาศัยอยู่อย่างสันโดษโดยไม่เคยต้องกลัวว่าคนใดคนหนึ่งจะหายไปจากชีวิตของอีกคนอย่างกะทันหัน ปราศจากความกลัวที่จะถูกทอดทิ้งในทันใด มันคือทั้งหมดที่เธอเคยฝันถึงเมื่
เหตุผลเดียวที่อยู่เบื้องหลังความปรารถนาในการซ่อมแซมคฤหาสน์วินน์ของแอเรียนก็เพราะว่ามันเป็นบ้านที่พ่อของเธอเติบโตมา ดังนั้นเธอจึงไม่สามารถยืนดูมันค่อย ๆ สลายกลายเป็นซากปรักหักพังเมื่อเวลาผ่านไปได้ ทว่าเธอก็ยังคงลังเลเช่นกันเพราะเธอกังวลว่าการที่เธอจะใช้เงินมากขนาดนั้นกับบ้านหลังนี้จะทำให้เธอดูเหมือนจะยังไม่โตเป็นผู้ใหญ่ เงินของครอบครัวเทรมอนต์ไม่ได้งอกจากต้นไม้นี่นาแต่เธอก็ไม่ได้ต้องการที่จะขายมันเช่นกัน จากที่เฮนรี่อธิบายไว้ คฤหาสน์เก่าแห่งนี้อาจมีราคาสูงถึงสองสามร้อยล้าน แอเรียนไม่ได้ต้องการเงินจำนวนมากขนาดนั้นในชีวิตของเธอ แต่หากเธอจะต้องใช้เงินก้อนโตเท่านั้นในการซ่อมแซมและบำรุงรักษาบ้านหลังนี้มันก็ดูเหมือนจะเป็นทางเลือกที่ตื้นคิดไปหน่อย ผู้ประกอบธุรกิจทุกคนจะรู้ทันทีว่ามันเป็นการลงทุนที่ไม่มีผลตอบแทนภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกยังคงอยู่ในใจของแอเรียนตลอดระหว่างทางกลับบ้าน ในท้ายที่สุด เธอก็ตัดสินใจที่จะปรึกษาเรื่องนี้กับมาร์คเมื่อเขากลับมาจากที่ทำงานเพื่อดูว่าเขามีความคิดที่ดีกว่านี้หรือไม่ห่างจากพวกเขาหลายกิโลเมตร แจ็คสัน เวสต์กำลังนั่งอยู่ในห้องทำงานด้วยสายตาที่ผนึกอยู่กับกอง
แน่นอนว่าแอเรียนจะไม่กล้าอุ้มเพลโตอีกเนื่องจากเธอกลัวว่าลูกชายของเธอจะอิจฉาเมื่อแอเรียนบอกให้ทิฟฟานี่ตั้งชื่อเล่นให้เพลโต ทิฟฟานี่ก็ส่ายหัว “ผู้ชายจำเป็นต้องมีชื่อเล่นด้วยเหรอ? ถ้าสมอร์โตไปเป็นหนุ่มหล่อ มันจะไม่ตลกเหรอถ้าเราจะเรียกเขาว่าสมอร์? พวกสาว ๆ ที่ชอบเขาจะต้องหัวเราะจนน้ำตาไหลแน่นอน ชื่อเล่นจะน่ารักแค่ตอนที่ยังเด็กเท่านั้นแหละ”แอเรียนเบะปาก “เธอแค่ขี้เกียจที่จะคิดชื่อ ถูกไหม? เธอเลยอ้างเหตุผลทั้งหมดนี้ ชื่อเล่นเขาก็มีไว้เรียกเฉพาะตอนที่ยังเด็กเท่านั้นแหละ ใครเขาจะเรียกชื่อเล่นกันตอนโตล่ะ?”เมื่อพวกเธอกำลังคุยกันอยู่ อยู่ ๆ แจ็คสันก็โทรมา “คุณขับรถไปหาแอเรียนกับเพลโตคนเดียวเลยเหรอ? คุณไม่รู้จักฝีมือการขับรถตัวเองเลยเหรอ? ถ้าเกิดอะไรขึ้นจะทำยังไง? คุณน่าจะขอให้คนขับรถของแม่ไปส่งคุณแทน”ทิฟฟานี่หงุดหงิดมาก “นี่คุณคงอยากให้อะไรเกิดขึ้นกับฉันมากสินะ? ฉันมาถึงแล้ว แค่นั้นยังไม่ดีพออีกเหรอ? ฉันแค่ถอยรถไม่เก่งแค่นั้นเอง ถ้าฉันขับเดินหน้าอย่างเดียวจะมีอะไรร้ายแรงเกิดขึ้นได้บ้าง? คุณทำงานของคุณต่อไปเถอะค่ะ”ทิฟฟานี่อาจจะหงุดหงิด แต่จริง ๆ แล้วเธอก็แอบดีใจ อารมณ์ของเธอชัดเจนมากแม้ก
เมื่อเมลานีทานอาหารเสร็จและพวกเขาออกจากบ้าน อเลฮานโดรก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกทันทีที่พวกเขาขึ้นรถเมลานีเห็นดังนั้นจึงถามเขาว่า “โล่งอกใช่ไหมล่ะ? ฉันบอกแล้วว่าไม่ต้องมา แต่คุณไม่ฟังฉันเอง ฉันเองยังเบื่อพ่อแม่ตัวเองเลย”อเลฮานโดรเงียบโดยไม่ตอบอะไร เขาตื่นเช้ามากและยังคงง่วงนอนอยู่ เขาจึงหลับตาลงและพักสายตาเมลานีเริ่มไม่สบายใจ อเลฮานโดรรู้เรื่องที่เธอแอบติดต่อกับทิฟฟานี่หรือเปล่า? เขาน่าจะ… ไม่รู้เรื่องหรอก ถูกไหม? ไม่อย่างนั้นเขาน่าจะโวยวายไปแล้วแทนที่จะนิ่งสงบแบบนี้ เธอเลยคิดว่าเธอน่าจะบอกเขาก่อนที่เขาจะรู้ด้วยตนเองหลังจากที่ลังเลอยู่ชั่วครู่เธอก็พูดว่า “ฉันติดต่อกับทิฟฟานี่อยู่”ร่างกายของอเลฮานโดรแข็งทื่อโดยไม่รู้ตัว “แล้ว?”เธอคิดถูกแล้วจริง ๆ อเลฮานโดรจะมีปฏิกิริยาก็ต่อเมื่อมันเป็นเรื่องของทิฟฟานี่ แต่นอกจากนั้นเขาจะเมินทุกคำพูดของเธอ เมลานีแอบไม่พอใจ แต่ไม่แสดงให้เขาเห็น “คุณไม่โกรธเหรอ?”อเลฮานโดรลืมตาและมองหน้าเธอ “ทำไมผมจะต้องโกรธด้วย? ยังไงคุณก็ไม่ทำอะไรเธออยู่แล้ว”เมลานีพูดไม่ออก เขามั่นใจขนาดนั้นเลยเหรอว่าเธอจะไม่ทำอะไรทิฟฟานี่? เธอคิดมาเสมอว่าเธอไม่รู้จักอเลฮานโด
อเลฮานโดรรู้ตัวดีว่ามันเป็นเพียงความคิดตามสัญชาตญาณผู้ชายของเขาและไม่มีสิ่งอื่นใดหลังจากนั้นไม่นานหนังตาของเมลานีก็เริ่มหนัก อาจจะเป็นเพราะความเงียบสนิทที่เปรียบดั่งเพลงกล่อมนอนอย่างดี บวกกับครรภ์ของเธอที่ทำให้เธอง่วงเหนื่อยง่ายขึ้น ตอนแรกเธอคิดว่าเธอจะไม่สามารถนอนหลับได้เพราะอเลฮานโดรด้วยซ้ำ…ขณะที่เธอกำลังหาพลิกตัวหาท่านอนที่สบายด้วยความงัวเงีย อยู่ ๆ อเลฮานโดรก็พูดขึ้นมาว่า “หยุดขยับไปขยับมาสักที”เมลานีที่กำลังจะผล็อยหลับตื่นทันทีที่ได้ยินเสียงของเขาที่ดังขึ้นอย่างกะทันหัน เธอเริ่มรู้สึกรำคาญและเหวี่ยงใส่เขา “นี่มันบ้านของฉันและเตียงของฉัน ทำไมฉันจะขยับตัวไม่ได้? นี่คุณอย่าหาเรื่องโดยไม่มีเหตุผลได้ไหม?”เธอไม่ทันรู้ตัวว่าเธอเผลอไปโดนขาของเขาขณะที่เธอพลิกตัวไปมา ทันใดนั้นอเลฮานโดรก็ขึ้นคร่อมเธอโดยที่แขนแต่ละข้างของเขาอยู่ข้างตัวเธอเมลานีตกใจและหันหน้าหนีทันที “คุณจะทำอะไร? ลงไปเลยนะ!”กำปั้นของเธอเล็กมาก มันไม่เพียงแต่ไม่สามารถทำให้อเลฮานโดรเจ็บได้ แต่การกระทำของเธอยังทำให้เขามีอารมณ์มากขึ้นอีกด้วย “ผมบอกให้คุณเลิกขยับไง คุณจะไม่ฟังผมใช่ไหม?”เมลานีไม่กล้าที่จะขยับตัวอีกและ
ในความเป็นจริงแล้วอเลฮานโดรกลับรู้สึกสบายใจโดยไม่รู้เหตุผลเมื่อเข้ามาในห้องของเธอ “คุณสบายดีไหม?”เมลานีตะลึงเล็กน้อย “ฉันบอกคุณแล้วว่าคุณไม่ต้องแสดงหรอก ที่นี่ไม่มีใครสักหน่อย แล้วคุณจะแกล้งทำทำไม? ฉันไม่ฟ้องคุณปู่หรอก เพราะฉะนั้นพรุ่งนี้คุณกลับไปเลยก็ได้ ฉันอยู่ที่นี่แล้วสบายดี”อเลฮานโดรไม่สนใจสิ่งที่เมลานนีพูดและเรียกหาเจตต์ผู้ซึ่งนำทุกอย่างที่อเลฮานโดรได้ซื้อให้เธอเข้ามาให้ โต๊ะเครื่องแป้งของเธอเต็มไปด้วยข้าวของมากมายในไม่ช้าหัวใจของเมลานีเริ่มละลายแต่เธอบังคับให้ตัวเองสงบนิ่งต่อไปเมื่อเธอพูดว่า “ขอบคุณสำหรับน้ำใจของคุณนะคะ แต่ฉันขอไม่รับของพวกนี้ดีกว่า เพราะฉันรู้ว่าคุณไม่ได้ให้มันด้วยความเต็มใจ”เจตต์ไม่ต้องการรู้เห็นเกี่ยวกับการทะเลาะของพวกเขา เขาจึงออกไปจากห้องเมื่อวางของเสร็จแล้วอเลฮานโดรพูดนิ่ง ๆ ว่า “ถ้าคุณไม่อยากได้นก็ทิ้งไปสิ เครื่องสำอางพวกนี้ไม่ได้แพงขนาดนั้น พวกเครื่องประดับก็ราคาแค่สองสามแสนดอลลาร์ เพราะฉะนั้นคุณจะทำอะไรกับพวกมันก็แล้วแต่คุณเลย ในเมื่อคุณไม่อยากเห็นหน้าผม ผมกลับวันพรุ่งนี้ก็ได้ นอนเถอะ ผมจะไปอาบน้ำก่อน”เมื่อเมลานีเห็นเขาเดินเข้าไปในห้องน้ำเธอ
ทิฟฟานี่ตระหนักว่ามีบางอย่างผิดปกติก่อนที่เธอจะพูดจบ เธอเงยหน้าขึ้นและเห็นว่าสีหน้าของแจ็คสันเยือกเย็น แววตาของเขาเปล่งประกายด้วยความตื่นตระหนก เธอไม่เข้าใจว่าเขาเป็นอะไรไป “เป็นอะไรเหรอ? ทำไมมองฉันแบบนั้นล่ะ?”มันเหมือนกับว่าเขาเปลี่ยนเป็นคนละคนไปเลย แม้แต่น้ำเสียงของเขาก็เยือกเย็น “เขาแต่งงานเพื่อความสะดวกแบบนั้น คุณยังจะเชื่อจริง ๆ เหรอว่าเขาจะมีความรู้สึกให้เมลานี ลาร์คจริง ๆ ? คุณคิดไปเองทั้งหมด ผมบอกคุณแล้วว่าห้ามไปเจอเขา ไม่ว่ามันจะเป็นเพียงเรื่องบังเอิญหรือตั้งใจยิ่งห้ามแล้วใหญ่ คราวหน้าก็หลีกเลี่ยงเขาซะนะ!”ท่าทีที่เปลี่ยนไปกะทันหันของเขาทำให้ทิฟฟานี่ตกใจกลัว เธอกลืนน้ำลายและไม่รู้ว่าจะต้องพูดอะไรแจ็คสันรีบอาบน้ำให้เสร็จและออกไปโดยปล่อยเธอไว้คนเดียวในห้องน้ำ เธอรู้สึกว่างเปล่าทันที ทุกอย่างกำลังไปได้ดีจนกระทั่งเธอพูดถึงอเลฮานโดรและทุกอย่างกลายมาเป็นแบบนี้… แจ็คสันหนีไปที่ห้องทำงานของเขาหลังจากที่ออกมาจากห้องน้ำเพื่อแอบดูดบุหรี่อย่างต่อเนื่องโดยที่ทิฟฟานี่ไม่รู้ นิ้วที่เขาถือบุหรี่สั่นไม่หยุด เขากลัวเกินกว่าที่จะคิดถึงปฏิกิริยาของทิฟฟานี่เมื่อเธอต้องรู้ว่าจริง ๆ แล้วอเลฮ
ขณะที่เขากำลังหาสวิตช์เปิดไฟบนกำแพงเพื่อที่จะเปิดไฟทิฟฟานี่ก็หยุดเขาเอาไว้ “ไม่! ฉันชอบแบบปิดไฟมากกว่า ฉันอายนิดหน่อยน่ะ”เขารู้ดีว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ เธอกลัวว่ารอยแตกของเธอจะทำให้เขาหมดอารมณ์ เขายิ้มและจุ๊บหน้าผากเธอ “ไม่เอาน่า ปกติคุณไม่ขี้อายนี่ ผมไม่ยักรู้ว่าคุณจะอายเป็นด้วยซ้ำ ผมไม่มีวันที่จะหมดอารมณ์กับคุณหรอก คุณได้รอยแตกเหล่านั้นมาเพราะคุณอุ้มท้องลูกของผม พวกมันเป็นรางวัลแห่งเกียรติยศของคุณนะ”ทิฟฟานี่เชื่อคำพูดของเขา เขามีลิ้นที่กะล่อนที่ช่วยให้เขาสามารถถ่ายทอดคำพูดเหล่านั้นอย่างราบรื่นได้จริง ๆแจ็คสันเปิดไฟเมื่อเธอกำลังเหม่อลอยในห้วงความคิดทิฟฟานี่รีบหยิบผ้าห่มมาคลุมตัวเองทันทีที่ไฟสว่างขึ้น “โธ่ อะไรเนี่ย! ฉันไม่อยากเปิดไฟ ขอเวลาฉันปรับตัวหน่อยสิคะ!”เขายิ้มอย่างมีเลศนัยขณะที่เมินคำบ่นของเธอและคว้าแขนเธอเพื่อหยุดเธอจากการดิ้นหนี…เธอลืมหายใจเมื่อเขาจับคางของเธอ สายตาเธอเริ่มพร่ามัวหมอนใบหนึ่งนอนอยู่บนพื้นหน้าเตียงราวกับว่ามันรับความป่าเถื่อนของพวกเขาไม่ได้...หลังจากที่เสร็จภารกิจแล้ว ทิฟฟานี่ก็ขดตัวในอ้อมแขนของแจ็คสันและวาดวงกลมบนแขนของเขาแจ็คสันจับมือของเธ
”หยุดทำไมล่ะคะ?” แอเรียนถาม “เล่นต่อสิ”“เธอก็มาผลักสิ ไม่อย่างนั้นก็มานั่งกับสมอร์” มาร์คชักชวนแอเรียนเคยตกชิงช้าเมื่อตอนที่เธอยังเด็ก เธอจึงหวาดกลัว “ไม่ ๆ ไม่ คุณเล่นกับเขาเลย เดี๋ยวฉันผลักให้ ขาคุณก็ออกจะยาว คุณน่าจะแกว่งตัวเองได้สบาย ไม่เห็นจะต้องพึ่งฉันเลย แล้วคุณจะขอให้ฉันผลักทำไม?”เขาเลิกคิ้วหนึ่งข้างและตอบว่า “เพื่อที่เธอจะได้มีส่วมร่วมด้วยแทนที่จะยืนเหม่อลอยอยู่ยังไงล่ะ…”มีบางอย่างผิดปกติในคำพูดของเขา…แอเรียนยอมแพ้และเดินไปข้างหลังพวกเขา เธอวางมือบนหลังเขาและออกแรงผลักแอริสโตเติลจะส่งเสียงร้องด้วยความดีใจเป็นครั้งคราว ดูเหมือนว่าแอริสโตเติลไม่ได้มีความสุขได้เฉพาะเวลาที่เล่นกับเจนิซ เพียงแต่ว่าเวลาที่แอเรียนเล่นกับเขาเธอมักจะเล่นแบบนิ่ม ๆ และเงียบ ๆ เพราะเขาคือลูกคนแรกของเธอและมันเป็นครั้งแรกที่เธอต้องเล่นกับเด็กทารก เพราะฉะนั้นยังมีอีกหลายอย่างที่เธอยังต้องเรียนรู้อีก...ในขณะเดียวกันที่ไวท์ วอเตอร์ เบย์ วิลล่าหลังจากที่ทานข้าวกันเสร็จแจ็คสันก็กำลังล้างจานในห้องครัวตามปกติ ทิฟฟานี่สามารถจ้องเขาในชุดผ้ากันเปื้อนได้ทั้งวัน เธอไม่ได้ทำอะไรเลยนอกจากยืนพิงกำแพงในห้
หลังจากนั้นไม่นาน อเลฮานโดรและเจตต์ก็เดินออกมาจากห้างสรรพสินค้าและขึ้นรถไปอเลฮานโดรจ้องกองสินค้าสำหรับผู้หญิงข้าง ๆ เขา ระหว่างคิ้วของเขาแอบมีร่องรอยของความไม่พอใจเจตต์มองเขาผ่านกระจกมองหลัง “ท่านครับ อย่าปล่อยให้เรื่องอื่นเบี่ยงเบนความตั้งใจของท่านเลยครับ ท่านตัดสินใจที่จะไปเยี่ยมนายหญิงที่อายาเช่แล้ว” เขาเตือนเบา ๆ “ดอน สมิธจะไม่มีวันมอบสมบัติของตระกูลสมิธให้ท่านถ้าท่านลงมือในตอนนี้”อเลฮานโดรมองออกไปนอกหน้าต่างและตอบอย่างใจเย็นว่า “รู้แล้ว”เขาคงจะไม่ได้ออกมาซื้อของในวันนี้หากดอน สมิธไม่ได้กดดันเขา เขายังต้องเหนื่อยซื้อของมากมายให้เมลานีอีกด้วย เขาไม่ได้คาดคิดว่าจะเจอแอเรียนและทิฟฟานี่ที่นี่เหมือนกัน ดูจากสีหน้าของแอเรียนแล้ว มาร์คคงจะบอกเธอทุกอย่างแล้วเขาได้ต้นไม้นั้นมาจากคนอื่นอีกที มันเป็นสายพันธุ์ที่หายากจากนาฟาเอธ เขาต้องลำบากอย่างมากเพื่อที่จะนำมันกลับเข้ามาในประเทศ และไม่มีใครรู้เลยว่ามันจะออกดอกเมื่อไหร่ ถ้ามันได้รับการดูแลอย่างพิถีพิถัน มันคงจะออกดอกในไม่ช้า ตอนแรกเขาตั้งใจว่าเขาจะเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของเขากับทิฟฟานี่เมื่อต้นไม้นั้นออกดอก แต่น่าเสียดายที่การเปลี่ย
หลังจากที่คุยกันนานพอสมควร ในที่สุดทิฟฟานี่ก็จำได้ว่าเธอมาที่นี่เพื่อซื้อเครื่องสำอางกับแอเรียน เธอหันไปหาแอเรียนและพบกับสีหน้าที่แปลกไปบนใบหน้าของแอเรียน “แอริ เป็นอะไรเหรอ?” เธอถามด้วยความสงสัย “ทำไมดึงหน้าแบบนั้นล่ะ? เธอโอเครึเปล่า?”แอเรียนหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนที่จะตอบว่า “ไม่ ฉันรู้สึกเหนื่อย ๆ นิดหน่อย ฉันไม่อยากช้อปปิ้งแล้ว ไปกันเถอะ”ทิฟฟานี่เอื้อมมือไปจับหน้าผากของแอเรียน “เพราะโรคเลือดจางของเธอรึเปล่า? เธอดูซูบ ๆ นะ ไว้ฉันจะบอกให้มาร์คขุนเธอให้อ้วน แต่ไหน ๆ เราก็มาถึงที่นี่แล้ว ทำไมไม่ซื้อของของเธอเลยล่ะ? เหลือแค่ต้องจ่ายเงินเอง ไม่นานขนาดนั้นหรอก ไปนั่งก่อนไหม? เดี๋ยวฉันจ่ายให้”อเลฮานโดรหันมามองแอเรียน แววตาของเขาแฝงไปด้วยการยั่ยยุ ทั้งคู่ต่างตระหนักถึงสถานการณ์ในตอนนี้ดีแอเรียนกลบเกลื่อนความโกรธของเธอและหาม้านั่ง เธอหวังเพียงว่าทิฟฟานี่จะเร่งรีบซื้อเครื่องสำอางเพื่อที่พวกเธอจะได้รีบออกไปจากที่นี่ ทุก ๆ วินาทีที่อยู่กับอเลฮานโดรถือเป็นความเสี่ยง“ทิฟฟานี่ ต้นไม้ที่ผมให้คุณออกดอกหรือยังครับ?” อเลฮานโดรจงใจถามถึงต้นไม้ในกระถาง ทิฟฟานี่ยื่นบัตรเครดิตของเธอให้พนักงานคิดเง